สบายดีค่ะ
ในช่วงชีวิตที่ต้องระเหเร่ร่อน ในรัชกาลที่ ๓ สุนทรภู่ได้เติมสีสันให้ชีวิตด้วยสาวๆอีกหลายคน ในนิราศวัดเจ้าฟ้า ซึ่งอ้างชื่อว่าเณรพัดเป็นคนแต่ง ซึ่งอาจจะทำให้สะดวกที่จะพรรณนาเรื่องผู้หญิงบ้าง อกหักบ้าง โดยไม่น่าเกลียดเท่ากับเปิดเผยว่าท่านเขียนขณะอยู่ในเพศบรรพชิต
สาวงามหนึ่งในนั้น ชื่อแม่อิน
“…ถึงเกาะเรียงเคียงคลองเป็นสองแยก ป่าละแวกวังราชประพาสสินธุ์
ได้นางห้ามงามพร้อมชื่อ หม่อมอิน จึงตั้งถิ่นที่เพราะเสนาะนาม
หวังถวิลอินน้องละอองเอี่ยม แสนเสงี่ยมงามพร้อมเหมือนหม่อมห้าม
จะหายศอุตส่าห์พยายาม คงจะงามพักตร์พร้อมเหมือนหม่อมอิน…”
ชื่อแม่อินขวัญใจของกวี ไปพ้องกับชื่อหม่อมอิน ที่ตำนานบอกว่าเป็นสาวชาวบ้านอาศัยอยู่ตรงเกาะที่เรียกว่าบางปะอินในปัจจุบัน ย้อนหลังไปสมัยสมเด็จพระนเรศวร พระเอกาทศรถพระราชอนุชา ในวันหนึ่งเสด็จประพาสทางเรือมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงแถวนั้นเรือล่ม ทรงว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งได้ในละแวกบ้านที่แม่อินอาศัยอยู่ ความงามของแม่อินเป็นที่ต้องพระทัย จึงได้นางมาเป็นบาทบริจาริกา
ชื่อบางนั้นก็เลยเรียกว่าบางนางอิน ต่อมาเพี้ยนเป็นบางปะอิน
“…ตลาดแก้วแล้วแต่ล้วนสวนสล้าง เป็นชื่ออ้างออกนามตามวิสัย
แม้นขาย แก้ว แววฟ้าที่อาลัย จะซื่อใส่บนสำลีประชีรอง
ประดับเรือนเหมือนหนึ่งเพชรสำเร็จแล้ว ถนอมแก้วกลอยใจมิให้หมอง
ไม่เหมือนนึกตรึกตราน้ำตานอง เห็นแต่น้องหนูแนบแอบอุรา”