แฟ้มประวัติของกัปตันเบรังเยร์ไส้ในหายไป เหลือแต่ปก มีบันทึกสั้นๆไว้ว่ามัวหมองเนื่องจากร่วมมือกับชนชาติศัตรู ครั้งนั้นเราจึงไม่สามารถสืบเสาะว่าหลังปลดประจำการแล้วนายเบรังเยร์กลับไปตายที่บ้านเกิดหรืออย่างไร ที่ไหน ความหวังว่าจะได้พบกับลูกหลานของเขาเพื่อขอสัมภาษณ์อะไรบ้างจึงหมดไป พลเรือตรีมารี ดานิเอล เรจีส์ เบเรงเช่ ถูกเขี่ยทิ้งออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์อย่างเงียบเชียบ ไร้ร่องรอย ในเน็ทมีบันทัดเดียวดังที่ท่านอาจารย์ใหญ่เขียนไว้ทำนองว่า ไปติดคุกญี่ปุ่นอยู่พักหนึ่งช่วงปลายสงครามก่อนถูกปลดประจำการ
ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าความจริงเป็นอย่างไร
อินทรเนตรช่วยคนในยุคนี้ได้มาก เพราะสามารถกวาดสายตาให้มองเข้าไปเห็นประวัติของเบรังเยร์ได้ จากประวัติทางการ มีอยู่ 2 เว็บไซต์ด้วยกัน
ผลออกมาว่า
1 มีนาคม 1945 เบรังเยร์ถูกจับเป็นเชลยของกองทัพญี่ปุ่นตั้งแต่ 9 มีนาคม 1945 จนกระทั่งถึง 2 กันยายน 1945 จึงเป็นอิสระ
25 กันยายน 1945 พ้นจากราชการ (Released, it is placed on leave of activity in September 1945. )
28 mars 1946 ปลดเป็นทหารกองหนุน (หมายถึงปลดประจำการ)
เว็บไซต์บอกว่า
03 avril 1937 Capitaine de vaisseau
14 avril 1939 LA MOTTE-PICQUET - Commandant,jusqu'au 01/05/41
26 mars 1941 Contre-Amiral
01 mai MARINE INDOCHINE - Commandant,jusqu'au 01/03/45
29 juillet 1943 Vice-Amiral
01 mars 1945 En captivité,jusqu'au 02/09/45
25 septembre En congé d'activité
28 mars 1946 Placé dans la section de réserve
เหรียญตราต่างๆก็ได้มาเต็มหน้าอก
LÉGION D'HONNEUR - Commandeur - 26 janvier 1941
LÉGION D'HONNEUR - Officier - 01 juillet 1931
LÉGION D'HONNEUR - Chevalier - 15 octobre 1919
CROIX DE GUERRE 1939-1945 Avec 1 palme
MÉRITE MARITIME - Chevalier
MÉDAILLES COMMÉMORATIVES DIVERSES ET ASSIMILÉES Médaille interalliée de la Victoire
MÉDAILLES COMMÉMORATIVES DIVERSES ET ASSIMILÉES Médaille commémorative de la Grande Guerre
น่าสังเกตว่าเครื่องราชย์สุดท้ายที่ได้คือในปี 1941 เมื่อพ้นประจำการแล้ว ไม่ได้ความดีความชอบอีก แต่ในประวัติไม่ได้บอกว่าเขาถูกขึ้นศาลทหาร
ถ้าหากว่าบันทึกนั้นถูกต้องก็หมายความว่าเมื่อถูกจับเป็นเชลยศึก สันนิษฐานว่าเบรังเยร์อาจกระทำการบางอย่างที่เป็นประโยชน์กับญี่ปุ่น เช่นสารภาพ จึงกลายมาเป็นหลักฐานมัดตัวทีหลังเมื่อเสร็จสงครามแล้ว แต่คงไม่ได้ร้ายแรงถึงถูกถอดยศ หรือติดคุก แต่ว่ามีหลักฐานในเรื่องนี้ จึงถูกปลดจากประจำการ