|
กระทู้: ศิลปะที่คลี่คลายเป็นยุคๆมา เริ่มกระทู้โดย: prasit ที่ 14 พ.ค. 10, 20:05 จากทวารวดี ขอมโบราณ สุโขทัย ล้านนา อยุธยาตอนต้น อยุธยาตอนปลาย จนมาต้นรันตนโกสินทร์ คนยุคนั้นเวลาสร้างสถาปัฏยกรรม
ไม่ว่าจะเป็นปรางค์ เจดีย์ ภาพจิตรกรรมต่างๆ เขามีแบบแปลนหรือเปล่าน่า ทำไมมันลงตัวทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการวางจระนำ วางทรงระฆัง หรือแม้การเติมแต่งลวดลายต่างๆ วัสดุต่างๆที่หามาทำ ทำไมเขามีความเป็นศิลปินที่สุดยอดจริงๆ กว่าจะสร้างได้แต่ละสิ่ง แบบแผนวางกัน อย่างไง ทึ่งจริงๆ แล้วอยู่มาได้จนทุกวันนี้ ไม่นับรวมที่ถูกทำลาย ล้วนเป็นสิ่งมีคุณค่า แล้วจะมีใครดูแลสิ่งเหล่านี้นอกจากกรมศิลป์ แล้วต่อไป ก็คงเลือนหายไปเรื่อยๆ หากไม่ส่งเสริมให้ลูกหลานได้เรียนรู้ ผมจำได้สมัยผมเรียนครูแต่ละคนที่สอนไม่มีสิ่งจูงใจให้ผมได้สนใจเลย ล่วงเลยมา จนผมได้ดูหนังสุริโยไท ผมถึงได้เริ่มค้นหาและเรียนรู้ด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ แต่ก็เหมือนไม่มีครูเป็นตัวตน จะมีก็หนังสือและสือต่างๆ จากนั้นก็ลอง ไปดูโบราณวัตถุที่อยุธยาเอง แต่ติดที่มีงานและครอบครัวทำให้เวลาไม่ลงตัวสักที ผมว่าใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่แค่วัดมหาธาตุอยุธยายังศึกษาไมทั่วเลย ไม่แน่นะครับ คนที่อยู่กันที่ศาลาแดงตอนนี้ หากสักคนได้ศึกษาสิ่งเหล่านี้แล้วรู้สึกถึงคนรุ่นว่ากว่าจะสร้างบ้านแปลงเมืองมาได้มันแสนลำบากแค่ใหน นี้คุณพี่เล่นกันไม่กี่วันทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ว่าจะไม่เข้ามาเรื่องนี้แล้วนะ กระทู้: ศิลปะที่คลี่คลายเป็นยุคๆมา เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 14 พ.ค. 10, 22:26 เริ่มมาแรงซะผมแทบไม่กล้าจะตอบเลย ....แต่ตอนนี้ก็รุนแรงจริงๆ ใครๆก็หวั่นๆไปกันหมด
สงคราม การเมือง อำนาจ ใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการสร้างรากฐานการแพร่กระจาย และในขณะเดียวกันก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ตอนที่ทำลายเพื่อลบล้างกัน แต่ในขณะเดียวกัน ศิลปะก็แสดงออกแนวคิดหลายๆอย่างออกมา พื้นฐานความเชื่อ ศรัทธา วัฒนธรรม เกิดเป็นรูปลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับจิตใจ เป็นเครื่องมือสั่งสอนมนุษย์ให้เข้าใจโลก และหยุดมองรอบๆ ในเมื่อได้ชื่อว่ามืดมนก็น่าเชื่อได้ว่ามีแสงสว่าง ผมเอาไว้ใช้ปลอบใจตัวเองน่ะครับ... เหอะๆ :D จำประโยคนี้ได้จากแฮรี่พอตเอร์ครับ Happiness can be found even in the darkest of time ... if one only remembers to ...... turn on the light .......... กระทู้: ศิลปะที่คลี่คลายเป็นยุคๆมา เริ่มกระทู้โดย: yutthana ที่ 15 พ.ค. 10, 11:50 ช่างสมัยโบราณท่านเก่ง ก่อนที่จะสร้างสถาปัตยกรรมใดๆน่าจะมีการออกแบบแปลน ผังระบบต่างๆ คติความเชื่อ ทิศทาง และมีการสร้างโมเดล หรือโบราณเรียกว่ากระสวนก่อนที่จะขยายเป็นแบบจริง อย่างกระสวนของพระปรางค์วัดราชบูรณะถือว่าเป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นขั้นตอนการสร้างงานสถาปัตยกรรมในไทย คงต้องหันกลับมาศึกษาวิทยาการ ความรู้เหล่านี้ก่อนที่จะถูกทำลายไป
" คนที่บอกว่าศิลปะไทยประเพณีตายแล้ว ต้องสร้างสรรค์ใหม่จึงจะเป็นศิลปะไทยที่ดี ผมจะบอกว่าศิลปะไทยยังไม่ตายยังอยู่รอผู้ที่จะศึกษาหาความรู้อยู่เงียบๆ อาจจะอยู่บนฝาฝนังของวัด หล่นอยู่ตามพื้นดิน รอคอยอยู่บนหอไตรที่ปิดตาย หรือถูกกองทิ้งไว้ตามขอบหรือมุมกำแพงวัด รอให้คนที่สนใจหาความรู้อยู่เสมอครับ ส่วนคนที่บอกว่าศิลปไทยตายแล้วไม่มีอะไรให้ศึกษาแล้วผมว่าคนพูดนั่นเเหละตายแล้ว เพราะไม่มีปัญญาความรู้ในการศึกษางานศิลปะไทยจึงแนะนำให้สร้างสรรค์ใหม่ " กระทู้: ศิลปะที่คลี่คลายเป็นยุคๆมา เริ่มกระทู้โดย: ธีร์ ที่ 02 มิ.ย. 10, 16:51 แหมอุตส่าห์ดีใจหาเจอเวปที่ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ดีนะที่ท่านเจ้าของกระทู้ท่านเลี้ยวออกมาก่อน เจอแต่เวปเครียดๆทั้งนั้นเลยครับ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็อาจจะมี ศอฉ. ;D กันในนี้อีกเป็นแน่ :-X
รูปที่คุณ yutthana เอามาลงพอจะทราบไหมครับว่า เป็นแบบจำลองหรือว่าเป็นศาลพระภูมิในยุคเก่าครับ สวยดีจัง กระทู้: ศิลปะที่คลี่คลายเป็นยุคๆมา เริ่มกระทู้โดย: yutthana ที่ 02 มิ.ย. 10, 21:13 เป็นกระสวนหรือโมเดลจำลองครับใช้สำหรับเป็นแบบจำลองก่อนสร้างเป็นสถาปัยกรรมจริงครับ อย่าไปบอกใครว่าเป็นศาลพระภูมินะครับเดี๋ยวจะมีคนว่าเอา
|