เพลง ตาสีกำสรวล (ภาค ๒)
ประพันธ์โดย ไพบูลย์ บุตรขัน
ขับร้องโดย คำรณ สัมปุณณานนท์
ยุคสมัยนี้ เป็นยุคที่เหลือทนจนเหลือกลั้น แทบทุกคนเขาต้องอดเหมือน ๆ กัน
เพราะเงินหนึ่งบาทนั้น ไม่สำคัญเหมือนไร้ค่า
เดงนาง เดงนาง กางโกง ผมจะเปิดโปงเรื่องสมัยคุณย่า
ฟังกันเล่นเป็นข้อคิดดี ฟังกันเล่นเป็นข้อคิดดี เงินพระคลังไม่มีเพิ่มภาษีเข้ามา เป๊กพ่อ
เอ่อ เอ๊อ เอ้อ เอ่อ เออ...เอิง เอย ผมเป็นตาสีตาสา อยู่บ้านนาน้ำตก
ที่เมืองนครนายก มาเสียภาษีค่านา หัวอกตรมขมไหม้ พูดอะไรก็ไม่ออก
ลูกผมอยู่บางกอก มันเล่าบอกมันว่า สมัยนี้เงินเฟ้อ เหมือนน้ำเอ่อล้นฝั่ง
หนึ่งสตังค์เดี๋ยวนี้มันก็ไม่มีคุณค่า เงินเดือนเพียงห้าร้อยบาท มันน่าประหลาดไหมท่าน
ไม่ขอรับประกัน ต้องซมซานกู้มา ไม่ถึงเดือนก็หน้าดำ เอาโรงจำนำเป็นที่พึ่ง
ดอกเบี้ยบาทละสลึง ยังชักค่าฝากรักษา ไอ้ของกินก็แพง เอ้อ เออ เอิง เอิง เอย
จะต้มแกงก็ไม่ไหว ต้องล่ออาหารแบบไทย ๆ คือทอดไข่นกกระทา
ใคร่ขอวิงวอน เสนอสุนทรณ์ข้อสนทนา เพิ่มภาษีเข้ามา จนชาวประชาบ่าลู่แล้วท่าน
ภาษีกะปิ ภาษีน้ำปลา ภาษีน้ำตาล อีกหน่อยไม่ช้าไม่นาน ภาษีเล่นงานกระทั่งหายใจ
ต้องติดแสตมป์เอาไว้ที่รูจมูกเรา หายใจออกเข้า ภาษีเล่นเราไม่รู้เท่าไหร่ ไม่ใช่ประชด
ไม่ใช่ประชัน ไม่ใช่ว่าใคร เรายอมเสียด้วยเต็มใจ ขอเพียงชาติไทยเราวัฒนา
ข้าราชการ ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน อย่าได้คิดว่าตนอยู่เหนือหัวคนเพราะใส่ชฎา
ตาสาตาสี ยายมายายมี อย่างผมเข้ามาเพื่อเสียภาษีค่านา อย่าใช้วาจาเป็นเจ้านาย...
http://saisampan.net/index.php?topic=8238.15;wap2