ผมขอข้ามพระประวัติในด้านการศึกษาของพระองค์ท่านไปเลย เพราะได้เคยเขียนไว้แล้ว ขออนุญาตลงระโยงไว้อีกทีหนึ่งสำหรับผู้ที่บังเอิญผ่านเข้ามาครั้งแรก
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/07/K8075368/K8075368.htmlและ
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/08/K8264362/K8264362.htmlแล้วต้องไม่พลาดอ่านเรื่องนี้ด้วย
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6360.0ผมขอเริ่มตรงที่ว่า เมื่อ(เจ้า)พระยาภาสกรวงศ์ ราชเลขาธิการได้รับพระราชบัญชาจากพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นอัครราชทูตพิเศษนำเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือกไปถวายสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียและเจ้าชายแห่งเวลส์ และยังมีภารกิจอันสำคัญยิ่ง คือไปอธิบายรัฐบาลอังกฤษถึงปัญหาที่นายน๊อกซ์ กงสุลใหญ่สร้างขึ้นในสยามในคดีความของพระปรีชากลการลูกเขย ด้วยการนำไปพัวพันกับการเมืองระหว่างประเทศ ถึงขนาดสั่งการให้เรือรบจากสิงคโปร์เข้าไปจอดลอยลำอยู่ในกรุงเทพเพื่อข่มขู่พระเจ้าอยู่หัวให้ปล่อยตัวพระปรีชา คณะราชทูตชุดนี้ หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ได้มีโอกาสปฏิบัติราชการแทนล่ามประจำคณะในตำแหน่งเลขานุการเอก เพราะตัวจริงเกิดป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ความในตอนนี้หาอ่านได้จากระโยงนี้ครับ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6242.0ม.ล.มานิจท่านเขียนว่า เมื่อเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ รัฐมนตรีต่างประเทศได้ไปลอนดอนเพื่อลงนามในข้อตกลงในปัญหาเกี่ยวกับเชียงใหม่ หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ในฐานะที่รู้ภาษาอังกฤษดี ได้ทรงถูกเรียกไปใช้ในฐานะเลขานุการเอกและล่ามประจำคณะราชทูต และได้ร่วมเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียและเจ้าชายแห่งเวลส์ที่พระราชวังวินเซอร์เป็นครั้งแรก ในโอกาสที่ท่านราชทูตได้นำเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือกไปทูลเกล้าถวายทั้งสองพระองค์
หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ได้กลับกรุงเทพครั้งแรก และได้ทำงานเป็นผู้ช่วยพระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ) ซึ่งขณะนั้นทรงเป็นราชเลขานุการในพระองค์