หลายคนคงทราบแล้วนะครับว่า
รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมปีนี้เป็นของ Sir V.S. Naipaul
ซึ่งเป็นชาวอังกฤษ-ตรินิแดด ครับ
href='
http://www.nobel.se/literature/laureates/2001/index.html'
target='_blank'>
http://www.nobel.se/literature/laureates/2001/index.html/>
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อตอนที่ประกาศว่าท่าน Sir V.S. Naipau ได้รางวัลนั้น
มีหลายฝ่ายวิจารณ์อย่างมาก โดยเฉพาะจากชาวมุสลิม เพราะท่าน
เขียนหนังสือวิจารณ์ศาสนาอิสลาม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นด้านลบเสียมาก
/>
นั่งดูทีวี เห็นมีผู้เชียวชาญที่เป็นผู้นำชาวมุสลิมในอังกฤษ
ออกมาวิจารณ์ท่าน Sir Naipau ว่าดูจะเห็นแต่ส่วนเสียของอิสลาม
ขนาดเปรียบเทียบกับคำกล่าวของนักบุญในอดีตของอิสลามว่า
/>
ป็นเหมือนคนจำพวกหนึ่ง ที่เมื่อเอานกแก้วมาให้เขาดู
เขาก็จะนั่งดูอย่างพิจารณา
แต่ถ้าหากมีคนถามว่านกแก้วมีลักษณะอย่างไร
เขาก็จะบอกแต่ความน่าเกลียจของเท้านกแก้ว ...
ทำนองว่าที่
Sir V.S. Naipaul เขียนมาไม่เคยพูดถึงด้านดีเลย มีแต่ด้านเสียอย่างเดียว
...
เท่าที่จำได้ จุดที่่ Sir Naipau วิจารณ์มากก็คือ
เขาเขียนว่า วัฒนธรรมของศาสนาอิสลาม ทำให้อารยธรรมท้องถิ่นของชาวอาหรับ
รวมทั้งท้องถิ่นอื่นๆสูญหายไป ...
ผมอ่านแล้วก็เลยสงสัยว่า
เป็นเฉพาะวัฒนธรรมของอิสลามหรือ อารยธรรมที่แฝงมาจากศาสนาอื่น เช่น คริสต์ พุทธ
หรือ พราหมณ์ ไม่กลืนอารยธรรมท้องถิ่นหรืออย่างไร
/>
เท่าที่ผมจำได้ ในประวัติศาสตร์ของไทยก็เคยมีหลายตัวอย่าง
ที่ความคิดทางศาสนามาทำให้วัฒนธรรม หรือ การเมืองเปลี่ยนไป
เช่นเมื่อก่อนคนไทยสมัยสุโขทัย เพราะมหากษัตริย์ปกครอง เสมือนพ่อปกครองลูก
แต่พอเรารับอิทธิพลของพราหมณ์เข้ามา ก็เปลี่ยนทัศนคติ จากพ่อปกครองลูก
เป็นเสมือนสมมุติเทพ...
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง
ก็คงไม่ใช่แต่อิสลามที่ทำให้วัฒนธรรมท้องถิ่นสาบสูญไป วัฒนธรรมอื่นก็เหมือนกัน
ผมก็เห็นว่าสมัยโรมัน วัฒนธรรมท้องถิ่นของอังกฤษก็เปลี่ยนเหมือนกัน
เลยงง...ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีการเมืองแอบแฝงหรือเปล่า?