ไม่ได้เกี่ยวกับฟุตบอลโลก และการตกรอบของทีมชาติสเปน ด้วยการแพ้พลิกล็อกต่อทีมชาติเกาหลีใต้ (หรือมีใครล็อกเอาไว้ก็ไม่ทราบ) ... อุๆๆๆ
แต่อยากชวนคุยเรื่องเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นสเปนช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ครับเกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้ายที่ชื่อว่าETA(เอ็ดต้า) ที่ลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในสเปน จนนักท่องเที่ยวต่างชาติพากันหนีกลับประเทศตัวเองหมด ... ระหว่างรอผู้เชี่ยวชาญเช่นคุณนกข. มาช่วยวิเคราะห์ ผมโม้ให้ฟังก่อนก็แล้วกันครับ หุๆๆๆ
ประเทศสเปนนั้นประกอบด้วยหลายกลุ่ม กลุ่มที่มีปัญหามากในขณะนี้คือ ชนกลุ่มน้อยที่เรียกตัวเองว่า บาร์ก หรือ Basques ซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ระหว่างตอนเหนือของสเปนกับตอนใต้ของฝรั่งเศสมาเนินนานตั้งแต่ก่อนสมัยโรมันเลยทีเดียว
จะเป็นผู้อาศัยดังเดิม หรืออพยบมาจากถิ่นอื่นนั้นไม่เป็นที่ทราบได้ ... พวกBasquesนี้มีภาษาเป็นของตัวเองครับ เรียกว่าภาษาEuskera พวกเขารักษาเอกลักษณ์ของเผ่าตนเองมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน สู้กับไวกิ้ง โรมัน มุสลิม ... นอกจากนี้ยังเป็นนักเดินเรือที่เก่งกาจ ว่ากันว่านักเดินเรือชาวBasquesค้นพบทวีปอเมริกาก่อนโคลัมบัสเป็นร้อยปี และก็ชาวบาร์กอีกนี่แหละที่เป็นลูกเรือส่วนใหญ่ของโคลัมบัสซึ่งได้เดินทางไปค้นพบทวีปอเมริกา
เนื่องจากพวกBasquesเป็นคนกลุ่มน้อยอยู่คั่นระหว่างสองมหาอำนาจสเปนกับฝรั่งเศส เลยไม่มีโอกาสได้แจ้งเกิด
สมัยสงครามกลางเมืองในสเปนราวๆปี 1936-1939 นายพลฟรังโก้ซึ่งเป็นฝ่ายพรรคชาตินิยม พยายามที่จะรวบรวมสเปน สั่งห้ามพวกBasquesพูดภาษาEuskera นอกจากนี้แล้วยังถล่มเมืองของชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ไปหลายเมือง จนขนาดจิตรกรเอกอย่างปิกัสโซ่ยังวาดรูปแสดงความโหดร้ายเอาไว้
นายพลฟรังโก้นั้นปกครองด้วยลัทธิชาตินิยม ไม่ต้องการให้มีการแบ่งแยกทางศาสนาและภาษา ซึ่งนโยบายเผด็จการของแก ทำให้พวกบาร์กเจ็บช้ำมาตลอด ราวๆปี 1959 จึงได้มีขบวนการ เอ็ดตาเกิดขึ้น
ชื่อ เอ็ดตา (ETA) ย่อมาจาก Euzkadi Ta Askatasuna ซึ่งหมายความว่า Basque Fatherland and Freedom ขบวนการนี้ได้ก่อการวุ่นวาย เพื่อต้องการแบ่งแยกดินแดน คล้ายๆกับไออาร์เอในไอร์แลนด์เหนือ
นายพลฟรังโก้นั้นปกครองสเปนด้วยระบบเผด็จการร่วม 40 ปีเลยทีเดียว มาเสียชีวิตเอาเมื่อปีค.ศ. 1975 หลังจากนั้นสเปนจึงเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยโดยมีกษัตริย์ฮวน คาร์รอส เป็นองค์พระประมุข แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาชนกลุ่มน้อยได้อยู่ดี