naitang
|
ความคิดเห็นที่ 915 เมื่อ 08 มิ.ย. 18, 19:32
|
|
Viennese Schnitzel
เป็นอาหารชื่อดัง ที่มีลักษณะดังภาพครับ จะที่ร้านใหนก็ดูจะมีรสไม่ต่างกันไปมากนัก เพราะมีสูตรและมาตรฐานของการทำ แต่ก็มีร้านที่คนนิยมจะเลือกเข้าไปกิน ซึ่งก็คือขนาดของหมูทอดควรจะต้องมีขนาดใหญ่แผ่ไปเต็มจานหรือล้นจาน และเนื้อหมูได้มีการทุบจนกล้ามเนื้อแตกยุ่ย นิ่มและบางเสมอกันทั้งแผ่น หมูชุบแป้งทอดของญี่ปุ่น ทงคัดซึ (tonkatsu) ก็ดังไปทั่ว หมูทอดกระเทียมพริกไทยของเราแบบมีรากผักชีโขลกพอแหลกรวมลงไปด้วย กับพริกไทยขาว แล้วทอดด้วยน้ำมันหมู ทอดให้สุกกำลังดีออกไปทาง medium ก็น่าจะดังได้แล้วนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 916 เมื่อ 08 มิ.ย. 18, 19:44
|
|
สลัดไข่ คิดแบบฝรั่งก็จะเป็นดังภาพ แต่หากคิดแบบไทยก็ดูจะเป็นในลักษณะการเอาไข่ต้มมาหั่นเป็นแผ่นๆ (หรือเป็นแว่นๆ ? ชักงงครับ) หรือจะผ่าสี่หรือแปดก็ได้ แล้ววางลงบนกองผักที่จัดไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 917 เมื่อ 08 มิ.ย. 18, 19:57
|
|
สลัดไข่ต้ม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 918 เมื่อ 08 มิ.ย. 18, 20:23
|
|
มีอาหารพื้นๆของไทยที่ถูกนำไปเรียกว่าเป็นสลัดอยู่บ้าง ที่เป็นที่เข้าใจกันในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ papaya salad และ beef salad ครับ ก็คือ ส้มตำ กับ ยำเนื้อ ซึ่งก็พอจะกล้อมแกล้มไปได้ แต่อย่าง banana pancake นี่ซิน่าทึ่ง เท่าที่รู้จักว่ามันคืออะไรเมื่อนานมาแล้วก็คือ กล้วยน้ำว้าราดนมข้นหวาน สุดยอดจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 919 เมื่อ 08 มิ.ย. 18, 20:45
|
|
กล้วยน้ำว้าราดนมข้นหวาน ไม่เคยกินค่ะ แต่ตอนเด็กๆจำได้ว่า ของหวานอย่างหนึ่งคือกล้วยหอมราดครีม ครีมที่ว่านี้ทำด้วยอะไรแบบไหนจำไม่ได้ แต่จำได้ว่าเป็นครีมข้นรสหอมหวาน ครีมต้องแช่เย็นก่อนจนเย็นเฉียบ เอามาราดบนกล้วยหอมสดๆ ไม่ต้องทอด อร่อยจนคิดถึงอยู่จนทุกวันนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 920 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 18:49
|
|
กล้วยน้ำว้าตัดเป็นแผ่นราดนมข้นหวานนี้ เท่าที่เคยได้ยิน เขาว่ามันแรกเกิดขึ้นที่เกาะสมุย สมัยที่นักท่องเที่ยวฝรั่งเริ่มค้นพบว่าเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์และงดงามยิ่ง และได้แห่กันไปเที่ยวพักกันในกระต๊อบเล็กๆชายทะเล เคยลิ้มลองอยู่ครั้งหนึ่ง ก็เป็นของกินยามเช้าที่มีประโยชน์ในการช่วยฟื้นฟูความกระชุ่มกระชวยให้เกิดขึ้นหลังจากคืนที่หนักมา
สำหรับกล้วยหอมราดครีมเย็นๆตามที่อาจารย์กล่าวถึงนั้น ทำให้ผมนึกถึงร้านขายของกินเล่น (Snack Bar) ของโรงหนังเฉลิมไทย ที่ขายพวกไอซ์ครีมและเครื่องดื่มเย็นๆทั้งหลาย ยุคนั้นไอซ์ครีม Banana split ดูจะเป็นของกินยอดนิยมอย่างหนึ่ง ปอกกล้วยหอมแล้วผ่าครึ่งวางลงบนจานเปล แล้วตักไอซ์ครีมก้อนหนึ่งหรือสามก้อนหลากรสวางลงบนกล้วยหอมนั้น อีกสองสามเมนูที่นิยมสั่งกัน ก็ดูจะเป็นพวกไอซ์ครีมซันเด และพวกไอซ์ครีมโฟลต (Ice creme float)
สำหรับร้านของโรงหนังคิงส์ ควีนส์ และแกรนด์ ที่วังบูรพานั้น นึกภาพไม่ออกครับ ส่วนของโรงหนังเฉลิมกรุงนั้นจะเป็นภาพของโต๊ะกาแฟกลมๆที่วางด้วยหินอ่อนเต็มไปหมด แล้วก็มีร้านอาหารอิสลาม/อินเดียอยู่ริมถนนฝั่งตรงกันข้าม ข้าวหมก แกงบุ่มไบ่ แกงดาลกับโรตี ....พวกนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 921 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 19:09
|
|
จำร้านไอศกรีมที่โรงหนังเฉลิมไทยได้ค่ะ ส่วนที่วังบูรพา นึกไม่ออก จำได้แต่ว่าสมัยนั้นมีไอศกรีมเยลลี่ ตักวานิลลา หรือสตรอเบอรี่ก้อนกลมๆใส่ในถ้วยไอศกรีมแบบมีเชิง มีเยลลี่กดจากพิมพ์ใส่มาอีก ๑ ลูก ร้านไอศกรีมที่วังบูรพาไม่แน่ใจว่าอยู่เป็นส่วนหนึ่งของโรงหนัง หรือว่าอยู่ในบริเวณย่านนั้นกันแน่ เพราะแถวนั้นมีร้านอาหารหลายร้าน เป็นร้านห้องเดียว ขายก๋วยเตี๋ยวบะหมี่ ข้าวหน้าต่างๆก็มีเช่นข้าวมันไก่ ของหวานคือไอศกรีม มีขายแน่ๆ
ส่วนอาหารที่เรียกว่าอาหารแขก ไม่รู้หรอกว่าของอินเดียหรือมาเลย์ หรืออะไร จำได้แต่ว่าชอบกินข้าวหมกไก่มาก เขามีอาจาดให้กินควบไปด้วยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 922 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 19:11
|
|
อีกอย่างที่อร่อยมากคือเนื้อสะเต๊ะ แต่ว่าอดกินมาหลายสิบปีแล้ว นับแต่เลิกกินเนื้อวัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 923 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 19:15
|
|
มาถึงทางสามแพร่ง ว่าจะไปทางปลาช่อนก่อนดี หรือจะไปทางอาหารแขกก่อนดี หรือจะไปทางของหวานดี
ไปทางปลาช่อนก่อนนะครับ
เมื่อพูดถึงปลาช่อน -
หากเป็นชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ๆมีปลาช่อนชุกชุม ก็คงจะนึกถึงปลาช่อนแดดเดียว ปลาช่อนตากแห้ง หากเป็นปลาตัวเล็กก็คงจะนึกถึงปลาร้า ต้มยำ และย่างกิน
หากเป็นพ่อค้าแม่ขายก็คงจะนึกไปถึงการทำเป็นห่อหมกปลาช่อน (แยกเป็นห่อหมกหัวปลาช่อน พุงปลาช่อน เนื้อปลาช่อนเป็นชิ้นๆ เนื้อปลาช่อนแบบโขลกรวมเข้าไปกับน้ำพริก) ปลาช่อนย่างเกลือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 924 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 19:28
|
|
จะขอเบรคเรื่องความอร่อยของปลาช่อนไว้ก่อนนะครับ ไปทางอาหารแขกก่อนตามอาจารย์ก็แล้วกัน ก่อนอื่นต้องขออภัยเป็นอย่างสูงที่เขียนคำว่า ไอศครีม เป็น ไอซ์ครีม กำลังเข้าสู่สัยสมองสับสน แล้วก็อาจจะกำลังก้าวไปอย่างเร็วเข้าสู่วัยสมองเสื่อมอย่างจริงจัง หลงๆลืมๆมากขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 925 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 20:33
|
|
คุณตั้งสมองยังไม่เสื่อมหรอกค่ะ คุณสะกดไอศกรีมตามเสียงเรียก ถูกแล้ว เอารูปปลาช่อนอร่อยๆมาโชว์ ให้น้ำลายหก ก่อนจะตามไปดูอาหารแขกค่ะ
ห่อหมกปลาช่อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 926 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 20:33
|
|
ปลาช่อนย่างเกลือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 927 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 20:34
|
|
ปลาช่อนแดดเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 928 เมื่อ 09 มิ.ย. 18, 20:37
|
|
โรตีแกงเขียวหวานเนื้อ เป็นของอร่อยที่อดกินมานานแล้วเช่นกัน ต้องเปลี่ยนเป็นแกงเขียวหวานไก่แทน สมัยยังเด็ก แกงน้ำข้นที่ปรุงด้วยเนื้อวัว อร่อยที่สุด ไม่ว่าแกงเผ็ดเนื้อหรือแกงเขียวหวานเนื้อ เป็นของขึ้นหน้าขึ้นตาบนโต๊ะอาหารมื้อเย็น เดี๋ยวนี้ ตามร้านต่างๆก็แทบไม่มี ยิ่งร้านที่ขายอาหารถาด มีแต่แกงเขียวหวานไก่ แม้แต่แกงเผ็ดก็ต้องหลีกทางให้แกงเขียวหวาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 929 เมื่อ 10 มิ.ย. 18, 18:23
|
|
แกงเขียวหวานเนื้อเป็นแกงที่อร่อยมาก แต่จะทำให้อร่อยนั้นยาก ยากแรกก็คือต้องเลือกเนื้อเป็น ต้องไม่เหนียวเมื่อทำสุกแล้ว และต้องเป็นเนื้อติดมัน วิธีการหั่นเนื้อก็จะต้องไม่บางจนเกินไปหรือหนามากเกินไป และสวยจนเกินไป เนื้อที่แกงได้อร่อยนั้นจะเป็นลักษณะของการหั่นแบบอิสระ คือขึ้นอยู่กับเส้นกล้ามเนื้อและมัน ใช้มีดอีโต้คมๆหั่นขวางเส้นกล้ามเนื้อและพยายามทำให้ทุกชิ้นติดมัน
เดี๋ยวนี้เนื้อวัวในตลาดสดราคาประมาณ 300 +/- บาท แม่ค้าก็เลยไม่กล้าเอามาทำขายเป็นกับข้าวในราคาต่อตักที่ราคาสูงกว่าปกติ จะตักที่อุดมไปด้วยเนื้อก็จะไม่มีกำไร จะตักที่อุดมไปด้วยมะเขือจะถูกต่อว่า (เดี๋ยวนี้ผมจะให้ตักมะเขือเยอะๆ ผมว่าอร่อยกว่าเนื้อไก่ เนื้อหมู) ในราคาของเนื้อวัวขนาดนี้ ผมเห็นว่าเมื่อยากจะกินแล้ว และใหนๆก็จะเป็นแกงเขียวหวานที่มีราคาสูงแล้ว ก็เลือกเอาเนื้อโคขุนมาทำเสียเลย เนื้อโคขุนของไทยมีขายอยู่หลายเจ้า ที่เราพอจะคุ้นเคยชื่อกันก็เช่น เนื้อโพนยางคำ
แอบนึกถึง เอามาทุบด้วยฆ้อนทุบเนื้อ ย่างไฟแบบเนื้อน้ำตก หั่นเป็นชิ้นขนาดนิ้วก้อย หั่นหัวหอมใหญ่เป็นแว่น จัดลงจาน จิ้มกับซอสมะเขือเทศ ทานเป็นของแกล้มกับน้ำ carbonate รสหวานหรือรสขมต่างๆ เป็นอาหารว่างกึ่งหนักก่อนมื้ออาหารเย็น มีโอกาสที่เป็นไปได้เมื่อใดก็จะสั่งทุกครั้งครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|