เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 11:47



กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 11:47

ทีฆายุกา โหตุ มหาราชินี

เมื่อชีวิตชาวชนบทไม่สดชื่น
พระจะรื่นเริงหทัยกระไรได้
ทรงสอดส่องทุกข์สุขทุกแห่งไป
ชนถิ่นใดยากจนเยี่ยมยลพลัน

ชาวอีสานส่วนมากมักยากไร้
อาชีพทำนาไร่ไม่คงมั่น
หญิงทอผ้า เลี้ยงไหมไปวันวัน
ทรงส่งเสริมอาชีพนั้นให้บันลือ

บัดนี้ไหม มัดหมี่ ไทยในชนบท
ได้ปรากฏตระการตาพาเลื่องชื่อ
จึงทรงใช้และชวนไทยให้ร่วมมือ
ได้ผลคือเกิดพลังความหวังเอย

ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค
ประพันธ์  


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 12:18

ขออัญเชิญบางตอนในพระราชดำรัส ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญเพื่อประชาชน
มาลงไว้ ณ โอกาสนี้

ข้าพเจ้าได้เป็นพระราชินีตั้งแต่อายุ ๑๗ ปีเศษ จนบัดนี้อายุ ๗๒ ปีแล้ว วันเวลาผ่านไปถึง ๕๔ ปี ที่ข้าพเจ้าได้ถวายรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ออกไปช่วยประชาชน แต่ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่าย ข้าพเจ้ามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ท่ามกลางประชาชน เพราะข้าพเจ้ารู้สึกว่าคนไทยเรานี่น่ารัก เมื่อข้าพเจ้าเห็นคนที่อายุน้อยกว่ามารอพบ ข้าพเจ้าก็เกิดความเอ็นดู ส่วนผู้ที่อายุมากกว่าก็ให้ความเมตตาแก่ข้าพเจ้า ดังนั้น เราจึงอยู่ด้วยกันด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันเสมอมา และพยายามจะถ่ายทอดน้ำใจไปสู่กันและกัน


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 12:21

แรกทีเดียวที่จะตั้งต้นศิลปาชีพเมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๑๓ เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดนครพนม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และข้าพเจ้าได้ไปเยี่ยมราษฎร และพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ไม่ทรงอิ่มพระทัยเลย รับสั่งว่าประชาชนเขายากจน แล้วยังมาประสบภัยพิบัติอีก ทรงรู้สึกว่าต้องช่วยให้เขามีโอกาสในชีวิต ช่วยให้เขามีทางทำมาหากิน ต้องพยายามหาต้นตอความทุกข์ยากของเขา

เพราะส่วนใหญ่เขาเป็นชาวนา เขาผลิตข้าวให้แก่ประเทศทั้งประเทศ อีกทั้งข้าวก็ยังเป็นสินค้าหลักของชาติไทยเรา ข้าพเจ้าก็พยายามคิดว่าจะทำอย่างไรดี ก็ได้เห็นชาวบ้านที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ โดยเฉพาะผู้หญิงใส่ผ้าซิ่นสวยงาม แม้จะดูเก่าคร่ำคร่า แต่ฝีมือที่ทอ แบบที่ทอละเอียดงดงามมาก เป็นศิลปะที่งดงามของพื้นบ้าน ข้าพเจ้าจึงมีความคิดขึ้นมาว่า ทำไมเราไม่ขอให้เขาทอผ้ามัดหมี่ลายต่างๆ ที่เขาใส่ ทำไมไม่ใช้ความงดงามของผ้ามัดหมี่ ที่ชาวบ้านใส่มานั่งเฝ้าอยู่กับพื้นให้เป็นประโยชน์

ข้าพเจ้าบอกเขาว่า ผ้าที่เขาใส่นี้สวยมาก ทอให้พระราชินีได้ไหม ชาวบ้านก็บอกว่าพระราชินีจะเอาไปทำอะไร เพราะว่าผ้าแบบนี้ที่คนเขาจะนุ่งจะห่มก็มีแต่คนยากจนเท่านั้น คนใช้ที่กรุงเทพฯ นั่นแหละเขาใส่กัน พระราชินีจะใส่ไปทำไม ข้าพเจ้าก็ตอบไปว่า ถ้าทอให้พระราชินีจะใส่ตลอด เขาก็ได้ตกลง มีการเข้าชื่อกันว่าใครบ้างจะรับอาสาทอผ้าไหมมัดหมี่ถวาย แบบที่เขาใส่กันลายแปลกๆ ข้าพเจ้าได้ให้เงินล่วงหน้าไว้กับคนที่จะทอให้ข้าพเจ้าทุกคน

สังเกตเห็นว่าแววตาเขาทั้งหลายมีความหวังว่าเขามีงานทำ เป็นงานที่เขาคุ้นเคย และถนัด บางคนก็ทอผ้าฝ้ายใช้ แต่ทอผ้าไหมไว้สำหรับใส่ไปทำบุญที่วัด ต่อมาเขาก็ทอให้ข้าพเจ้าเสมอ ข้าพเจ้าก็นำมาตัดเสื้อใส่ จากนั้นก็มีผู้อาสาทอผ้ามากขึ้น จึงได้โอกาสตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพขึ้น และชาวบ้านก็เริ่มทอผ้าส่งเข้ามามากมาย


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 12:33

สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เรียนรู้ก็คือ ความรักของเขาที่มีต่อพระมหากษัตริย์ เขาจะเดินมาเป็นวันๆ ค้างแรมมาหลายคืน เพราะอยากมาเห็นหน้า อยากมาเฝ้าฯ พระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และข้าพเจ้าใส่ติดตัวอยู่ก็จะมาจากราษฎรนี่เอง ราษฎรจะถอดจากตัวถวาย เพื่อจะได้คุ้มครองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และข้าพเจ้า ความโลภเค็มปี๋จะไม่มีในจิตใจประชาชนเลย จะมีแต่ความใสสะอาด บริสุทธิ์  


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 12:35

พระภาวนาวิสุทธิเถร หรือท่านอาจารย์แบน แห่งวัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร เมื่อข้าพเจ้าได้พาทั้งคณะ ไปกราบท่านที่วัดดอยธรรมเจดีย์ ท่านก็จะเทศน์ให้พวกเราฟังหลายบท ในที่สุดก่อนที่ท่านจะจบ ท่านก็ย้ำ เพื่อให้พวกเราทุกคนคิด ระลึกถึง พระคุณของแผ่นดินเกิด คนเราถ้าสำนึกถึงพระคุณของแผ่นดินเกิด ความคิดที่จะทำชั่วช้าก็คงหมดไป


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 21:16

ท่านพ่อไม่เคยสอนให้มีความเกลียดชังในจิตใจของเด็กเลย จะสอนให้นึกถึงคำของพระพุทธองค์ ที่ทรงสอนให้มีเมตตาจิตต่อทุกๆ คน
เมื่อข้าพเจ้าโตขึ้นมา พ่อก็จะชี้ว่าให้ดูซิ ดูเมืองไทยเราซิ ดูกรุงเทพฯ นี่ซิวัดพุทธ สุเหร่าอิสลาม โบสถ์คริสต์ อยู่ด้วยกันได้อย่างสันติ ไม่มีการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติไทยเรา แต่ใครจะนับถือศาสนาใดก็ได้ เพราะพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกของทุกศาสนา


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 21:19

ข้าพเจ้าปลาบปลื้มเหลือเกิน ที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง
รวมทั้งเหล่าศิลปาชีพทั้งหลาย
ที่ได้สามารถตอบแทนพระคุณของแผ่นดินได้

ฝีมือของศิลปาชีพครั้งหลัง ที่ข้าพเจ้าได้ชมนี้ เป็นหนึ่งในโลกจริงๆ
ที่ข้าพเจ้าได้ดูตลอดมาในโลก สมควรที่คนไทยจะภาคภูมิใจ


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 21:24

ฉันจะทำอย่างไร  เดินทำยิ้มๆ แล้วก็โบกมือให้เขา  ฉันทำไม่ได้
เมื่อบางคนเดินเข้ามาหาด้วยน้ำตาอาบหน้า ทุกข์แสนทุกข์
ฉันจะทำอย่างไร


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 21:28

การช่วยเหลืออะไรก็ไม่ดี เท่าที่ทำให้ประชาชนมีงานทำมีความหวัง สามารถรักษาเกียรติยศของตัวเองได้
หมายความว่าความภาคภูมิใจในตัวเอง ที่เขาสามารถหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวด้วยความรู้ความสามารถของเขาเอง
ที่ฝรั่งเขาเคยชมข้าพเจ้าว่า ยูเนี่ยเป็นคนให้ dignity แก่ประชาชนชาวไทย แปลว่าทำให้เขาสามารถยืนขึ้นได้และช่วยเหลือตนเองได้


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 11 ส.ค. 05, 23:02
 Greeting and presenting the greatest honor to Her Majesty the Queen.

"Long live the Queen"

Your Majesty
Andreas


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 05, 08:16

เพราะเหตุใดเราจึงควรรักษาป่า ไม่ใช่เพียงเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเท่านั้น แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือแหล่งน้ำ และพวกเราควรจะรู้คุณของแผ่นดิน"
       "ถ้าเราสามารถร่วมกันจัดระบบได้ดี คนกับป่าก็คงจะอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่ต้องทำลายซึ่งกันและกัน และแผ่นดินที่เสื่อมโทรมผืนนี้ก็จะกลับคืนมาเป็นประโยชน์มหาศาลแก่พวกเรา"


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 05, 08:18

วันของพระบรมราชวงศ์จักรีวงศ์ เช่น วันจักรี หรือวันปิยะมหาราช พ่อกับแม่ก็จะเชิญพระบรมรูป มาตั้งจัดโต๊ะบูชา เก็บดอกไม้ที่ปลูกที่บ้านมาบูชา
แล้วรวบรวมลูกหลาน ให้มาหมอบกราบรำลึกถึงพระมหากรุณา
แม้บ้านที่อยู่ที่เทเวศร์ ก็ได้รับพระราชทานมาทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นพ่อก็บอกว่า เราก็ตั้งจิตอธิษฐานกันว่า เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ได้เกิดเป็นคนไทย เกิดในพระบวรพุทธศาสนา
และพ่อข้าพเจ้ามักจะชี้ให้ดูวัดวาอาราม และโบสถ์ของหลายศาสนาที่อยู่ร่วมกันโดยสันติ


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 05, 08:24

ข้าพเจ้านั้นภูมิใจเสมอมาว่า คนไทยมีสายเลือดของช่างฝีมืออยู่ทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ชาวนาหรืออาชีพใด
อยู่สารทิศใด
คนไทยมีความละเอียดอ่อนและฉับไวต่อการรับศิลปะทุกชนิด
ขอเพียงแต่ให้เขาได้มีโอกาสและฝึกฝน  เขาก็จะแสดงความสามารถออกมาให้เห็นได้


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 05, 08:33

การฝึกอบรมให้เด็กมีความรู้และความประพฤติดี  
รู้ถึงคุณค่าของการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม
เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 05, 08:45

จำเรียงถ้อยคุณธรรมความผิด-ถูก
ร้องเป็นเพลงกล่อมลูกทุกเช้าค่ำ
ให้ลูกรู้ว่าโลกนี้มีขาว-ดำ
ควรจะทำสิ่งใดให้โลกดี

คำขวัญสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
พระราชทาน
เนื่องในวันแม่แห่งชาติ พุทธศักราช 2535


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: ครูไผ่ ที่ 12 ส.ค. 05, 12:15
 ขอนุญาต link กระทู้นี้ไปที่ http://cur.labschools.net  
ขอบพระคุณค่ะ


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 05, 12:59

ด้วยความยินดีอย่างยิ่งค่ะ คุณครูไผ่
ขออัญเชิญพระราชดำรัสอีกตอนหนึ่งมาลงนะคะ
***********************************
ตอนอายุสิบเจ็ด ที่ได้มาเป็นพระราชินี  ยังไม่มีความรู้อะไรเลย  ก็ได้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดูแลสั่งสอนมาตลอด
ว่าสิ่งใดควรทำ  ไม่ควรทำบ้าง
ทรงสอนให้ข้าพเจ้ารู้จักกว่าการจะเป็นพระราชินีของไทย   จะต้องวางตนอย่างไรบ้าง และมีหน้าที่อย่างไรบ้าง
ข้อสำคัญรับสั่งว่า  ต้องเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของราษฎร  ให้เขามีความสนิทสนม
พอที่ราษฎรออกปากเล่าความทุกข์ของเขาให้ฟังได้
และพระองค์ท่านก็ปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง  ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักการทำตนใกล้ชิดกับราษฎร

เช่นเวลามีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรซึ่งเป็นชั่วโมงๆทีเดียว  
ทรงคุยกับราษฎรนี่ก็ไม่โปรดทรงยืน
ทรงถือขนบธรรมเนียมไทยที่จะไม่ยืนค้ำผู้เฒ่าผู้แก่ จะประทับลงรับสั่งกับราษฎรเสมอมา
แม้จะเป็นตอนเที่ยงแดดร้อนเปรี้ยงก็ตาม
ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นพระจริยาวัตรนี้มาตั้งแต่ต้นรัชกาลแล้ว


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 05, 13:18

ฉันไม่รู้สึกหวาดกลัวเลย  ฉันมีหน้าที่ต้องอยู่เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งทรงกล้าหาญมากและไม่ทรงหวั่นเกรง
เมื่อต้องเสด็จพระราชดำเนินไปยังแหล่งที่มีอันตราย  ฉันจะต้องไปด้วย
เราอาจจะหลบเลี่ยงไม่ไปผจญภัยอันตรายก็ได้
ซึ่งก็จะไม่มีใครมาตำหนิ
แต่ก็ไม่มีความหมายสำหรับชีวิตที่ต้องหลบซ่อนให้พ้นภัยจากโลกภายนอก
เพราะว่าการมีชีวิตแบบนี้ไม่ผิดอะไรกับคนตายที่ยังหายใจได้
จึงเป็นสิ่งที่ดีกว่าที่จะออกไปเผชิญกับภัยอันตรายทั้งหลาย


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 05, 13:21

ข้าพเจ้าถึงได้มานั่งพูดวันนี้ ขอร้องขอให้ท่านช่วยเพื่อนไทยด้วยกัน
ซึ่งเป็นคนสุจริต ทำมาหากิน แต่เดี๋ยวนี้ทำมาหากินไม่ได้ ตายลูกเดียว
จะให้เขาอพยพออกจากแผ่นดินที่ปู่ย่าตายายหามาก็ได้
แต่ข้าพเจ้ามองไม่เห็นว่า จะอพยพคนไทย จำนวน 3 แสนไปอยู่ที่ไหน
และให้เขาทำกินอย่างไร ก็เป็นเรื่องใหญ่
ปล่อยให้เขาถูกฆ่าตายก็เป็นเรื่องที่แย่

เพราะฉะนั้นท่านเองก็เป็นผู้ที่มีสติปัญญาเป็นเจ้าของแผ่นดินไทย
เป็นผู้ที่ควรตอบแทนแผ่นดิน ต้องช่วยกันคิดว่าจะช่วยชีวิตคนไทย 3 แสนคนทางภาคใต้ให้เขามีทางที่จะทำมาหากิน มีชีวิตอยู่
ขอให้เขามีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่
อยากจะพูดกับพวกสิทธิมนุษยชนว่า คนพวกนี้ไม่ได้ทำบาปทำกรรม  ขอให้มีสิทธิมีชีวิตอยู่ ทำมาหากินในที่ของเขา


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 05, 09:25

ที่พูดกันว่าฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาลนั้น ความจริงเป็นฝีมือมนุษย์นั่นเอง
เพราะฉะนั้นถ้าเราให้สภาพธรรมชาติกลับคืนมาเหมือนเดิม
มีแม่น้ำลำธาร มีน้ำจืด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่อชีวิตมนุษย์และการพัฒนาประเทศชาติ
พวกเราต้องเข้าใจและช่วยกันรักษาป่า เพื่อที่เราจะได้มีอนาคตและความหวังร่วมกัน


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 05, 09:39

ความเจริญทางวัตถุจำต้องควบคู่ไปกับความเจริญทางจิตใจ  
จึงจะทำให้ชีวิตมนุษย์สมบูรณ์และมีค่า  
บุคคลแม้จะเป็นผู้ที่ขาดความมั่นคงทางวัตถุ  
แต่ร่ำรวยยิ่งในด้านคุณธรรม  
มีความรักและห่วงใยในเพื่อนมนุษย์  
จึงนับว่าเป็นผู้ที่พระพุทธศาสนายกย่องแล้วว่าเจริญแท้


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 05, 15:06

หมู่บ้านที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียน จำนวนมากอยู่ห่างไกล  เส้นทางทุรกันดาร
บางครั้งก็เมื่อเสด็จด้วยรถยนต์พระที่นั่งไม่ได้ ก็ต้องทรงใช้ยานพาหนะเท่าที่จะพาไปเยี่ยมราษฎรได้
เสด็จไปกลางฝุ่นและความร้อน เป็นระยะทางยาวนับสิบกิโลเมตร
อย่างในภาพนี้

แม้แต่รถยนต์พระที่นั่งเข้าถึงได้   ก็เป็นเส้นทางลำบากไม่น้อยกว่ากัน
อย่างที่บ้านถ้ำติ้ว อ.ส่องดาว จ.สกลนคร  เมื่อพ.ศ. 2525
บริเวณเชิงเขาภูผาเหล็ก  ติดต่อกับอ่างเก็บน้ำคำจวง  ในสภาพป่าเสื่อมโทรม
พื้นที่ไม่ผิดทะเลทรายเวิ้งว้าง ทั้งร้อนและแห้งแล้งเต็มไปด้วยฝุ่น
ชาวบ้านผู้หนึ่งยังจดจำเหตุการณ์เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปถึง
เขาเล่าอย่างตื้นตันว่า
" ท่านเสด็จมา  ลุยฝุ่นมาครับ  เห็นแต่ฝุ่น  
พอรถจอดมองไม่เห็นอะไรเลย
รถจอด ผมก็วิ่งเข้าไปกราบเท้าท่าน  น้ำตาผมออก  พูดอะไรก็ไม่ออก
หนังหัวผมลุกไปหมด  ผมสงสารท่านลุยดงลุยป่า"


กระทู้: ทรงพระเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 27 ก.ย. 05, 17:46
 ทีฆายุกา โหตุ มหาราชินี