ตุ้ม ๆ ๆ ๆ ตีกล้องร้องฎีกา มายังคณะลูกขุน
ด้วยบัดนี้ออกขุนหนุ่มสยาม ขอร้องเรียนฎีกา ด้วยคำใบ้ชักพาตามสาส์นดังนี้
"หัตถสกวุปมบุปปารจ์ = อันดวงสุมปทุมมาลย์"
"สาจุผัถผัถปาหึกหรหร = วายุพัดพัดมาอึงอลอล"
ด้วยแก้กลอักษรสลับร่างให้วุ่นวายไซร้ ข้าจักได้แปลตามบทรจนา หาได้กระทำการแปลผิดเพี้ยนสาส์นดังที่ได้กล่าวอ้างได้
ครั้นมาหักหาญหักคะแนนด้วยไซร้ จึ่งได้ขอร้องเรียนยื่นฎีกา ขอให้โปรดพิจารณาชำระความ ขอความเป็นธรรมแก่ลูกนกลูกกา ลูกเสือ ลูกจระเข้ ตัวน้อย ๆ ตาดำ ๆ ด้วยเทอญฯ
ส่งทางอินทร์เนตร เมื่อ ๙ นาฬิกา ๙ บาทกับสองสลึง เศษเฟื้องไม่คิดจ้า แรม ๑ ค่ำเดือน ๘ ปีกระต่ายน้อย จุลศักราช ๑๓๗๓
^ ฎีกาออกขุนหนุ่มสยาม ลักษณะเหมือนฎีกาคุณดีดี
รู้ว่าโจทย์ผิดบกพร่องยังไม่แก้ให้ถูกต้อง
หักจากคะแนนดิบก่อนหารนั้นนับว่าใจดีปรานีแล้ว (หักหาร)
หรืออยากให้หารก่อนแล้วหัก (หารหัก)
ส่วนโอดครวญว่า แก้กลอักษรนั้นยากสารพัดจะพรรณนา
ลูกขุนได้ฟังแล้ว ไม่แลเห็นหนทางให้เมตตาเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
นอกจากรู้สึกสะใจในอารมณ์เป็นพ้นประมาณ (หัวเราะหึหึในลำคอ)
และที่ว่า "ขอความเป็นธรรมแก่ลูกนกลูกกา
ลูกเสือ ลูกจระเข้ ตัวน้อย ๆ ตาดำ ๆ "
ตกลงจะเป็นตัวอะไรกันแน่ มาจากป่าหิมพานต์หรือไร
ในเมื่อไม่สามารถระบุหรือจำแนกประเภทชนิดได้ชัดเจน
ก็ควรยกฎีกาเสียจากสารบบคำร้อง
อ้อ
คาดว่าคดีนี้คงหลุด ด้วยลืมติดฤชาอากรศาล
แถมมีพฤติกรรมดูหมิ่นคณะลูกขุนเยี่ยงนี้
เห็นควร คาดโทษผู้ยื่นคำร้องไว้ ๑ ครั้ง หากมีกรณีนี้เกิดอีก
เราจะปรานีโดยการหัก ๑๐ คะแนน เป็นสินน้ำใจ