จากปี1871ถึง1891นั้น ภารกิจหลักของเขาคือ รับผิดชอบการสำรวจชายฝั่งทะเล แม่น้ำต่างๆ เส้นทางปักเสาโทรเลขและทางรถไฟเพื่อทำแผนที่ แต่กัปตันลอฟตัสก็ถูกเรียกให้ไปรับงานแถมเสมอๆ อีกครั้งหนึ่งที่สำคัญก็คือ เขาได้รับมอบหมายให้ไปกำกับการก่อสร้างค่ายสังเกตการณ์เฝ้าดูสุริยคราส และให้การรับรองรวมทั้งช่วยเหลือแขกเมืองจากอังกฤษที่จะเดินทางมาร่วมด้วย
สุริยคราสครั้งนี้ไม่ใช่คราวที่หว้ากอซึ่งพระจันทร์บังพระอาทิตย์เต็มดวง แต่เป็นสุริยคราสสมัยรัชกาลที5 ที่กำลังจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์” ซึ่งจะเห็นได้ชัดที่สุดก็ที่พระราชอาณาจักรนี้
ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯได้มีพระราชสาส์นถึงราชสมาคมดาราศาสตร์ (Royal Astronomical Society) เพื่อเชิญนักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษมาสยาม เพื่อสังเกตปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2418 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้กัปตันลอฟตัสนำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ไปสร้างค่ายทำหอสังเกตการณ์ฝ่ายไทยล่วงหน้านานนับเดือน และคอยให้ความช่วยเหลืออนุเคราะห์คณะนักสำรวจจากอังกฤษที่จะเดินทางมาสมทบด้วย กัปตันลอฟตัสได้เลือกจุดที่บริเวณชายฝั่งทะเลใกล้กับปากคลองขนาดเล็ก ใกล้แหลมเจ้าลาย ในชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดที่เงียบสงบ กัปตันลอฟตัสเองได้ตั้งเครื่องไม้เครื่องมือของหลวงเตรียมไว้ และเมื่อเกิดอุบัติการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ก็ทำการบันทึกได้ครบทุกนาทีตั้งแต่ต้นจนจบ ในขณะที่คณะของนักดาราศาสตร์อังกฤษนำโดยอาร์เธอร์ ชุสเตอร์ (Arthur Schuster) และนอร์แมน ลอคเยอร์ (Norman Lockyer) ซึ่งเดินทางมาถึงล่าช้ากว่ากำหนดมาก โดยมาถึงสยามก่อนวันดังกล่าวเพียงหกวัน จนเตรียมการอะไรไม่ทันแม้กระทั่งจะติดตั้งกล้องให้เข้าที่เข้าทางอย่างสมบูรณ์ แต่กลับก็มีเรื่องและภาพไปทำเสนอรายงานใน Illustrated London News ฉบับวันที่19 กรกฎาคม 1875 อย่างแจ่มแจ๋ว
ไม่ทราบว่าท่านเนาวรัตน์ แปลมาจากที่ไหนครับ เพราะว่า ....ไม่มีปรากฎการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ในวันดังกล่าว ( 6 เมษ 1875 )
แท้ที่จริงแล้ววันดังกล่าว .......เกิดสุริยุปราคา เต็มดวง เห็นที่เมืองไทย เวลาประมาณ บ่านสองโมงครึ่งเศษ แม้ในกทม.ก็มองเห็นครับ