พ.ศ. 2303 ท่านทองด้วงอายุ 24 น่าจะมีภรรยาแล้วนะคะ ท่านสินก็เช่นกัน
ตามกฎหมายอยุธยา ผู้ชายมีภรรยาได้หลายคน life instinct คงจะไม่ต้องผลักดันให้ไปถึงสำนักผีเสื้อราตรี
คนเราถ้ามีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ที่เลือกหามาได้ตามใจชอบ ก็คงไม่ดิ้นรนไปใช้ของสาธารณะ
กลับไปท่องราตรีศรีอโยธยาอีกรอบ, เคยผ่านหูเสียงผกก.บอกว่า ตั้งใจเขียนบทแสดงความเป็นมนุษย์
ของตัวละคร(ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์)
อ่านที่คุณหมอ SILA บอกไว้ข้างบนเลยนึกอะไรขึ้นมาได้อีกข้อหนึ่งค่ะ
หลักปฏิบัติของการเขียนเรื่อง มีอยู่ข้อหนึ่ง คือ เหตุการณ์หรือฉาก หรือพฤติกรรมอะไรก็ตามของตัวละครเอก จะต้องนำเสนอเฉพาะส่วนที่มีผลต่อการดำเนินเรื่อง หรือสำคัญต่อชีวิตของพวกเขาเท่านั้น ไม่ใช่ว่าอยากหยิบเหตุการณ์อะไรมาเสนอ ก็ทำได้ตามใจชอบ เพราะถ้าทำตามใจชอบแบบนั้น นักเขียนจะคุมการดำเนินเรื่องให้ต่อเนื่องกันไม่ได้
ทั้งนี้ เป็นความแตกต่างระหว่างมนุษย์จริงกับตัวละคร
ในชีวิตจริง กิจวัตรของมนุษย์แต่ละคนเป็นสิ่งที่เว้นไม่ได้ ไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ ก็ต้องทำ เช่นกิจวัตรประจำวัน อาบน้ำ แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ กินอาหาร ฯลฯ อะไรพวกนี้ มันเป็นสิ่งที่ข้ามไปไม่ได้
แต่ในนิยาย หรือละครก็ตาม ตัวละครเว้นสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะมันไม่สำคัญกับการดำเนินเรื่อง ไม่จำเป็นที่นักเขียนจะต้องเขียนฉากบรรยายว่าคุณชายกลางตื่นขึ้นมาแล้วไปอาบน้ำแปรงฟัน ก่อนออกจากบ้านทรายทองไปหาพจมาน หรือว่ามีฉากรพินทร์ ไพรวัลย์ต้องผลัดผ้านุ่งผ้าขาวม้า ซักเสื้อกางเกงอยู่ริมลำธาร เพื่อแสดงความสมจริงของการเดินป่า
ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดคำถามว่า สามสหายไปเที่ยวสำนักโคมแดง มันมีผลอะไรกับการดำเนินเรื่อง ในเมื่อตัวละครเอกเหล่านี้ถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อแสดงวีรกรรม ตามที่ประกาศไว้ว่าเป็นจุดมุ่งหมายของละคร
ในเมื่ออ้างว่าแสดงความเป็นมนุษย์ปุถุชน พฤติกรรมด้านนี้สะท้อนความกล้าหาญอดทนของมนุษย์ในการต่อสู้เพื่อกอบกู้บ้านเมืองขึ้นมาบ้างไหม หรือว่าทำให้เรามองท่านสิน ท่านทองด้วง ท่านบุนนาคด้วยความนับถืออย่างใดขึ้นมาบ้าง