เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33596
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 255 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 14:16
|
|
ยกคลิปมาให้ดูตอนที่ 8 ทั้ง 6 คลิป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33596
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 256 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 14:38
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33596
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 257 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 14:54
|
|
ฤๅหม่อมท่านจะสื่อกับเราว่า "เพียงความเชื่อมั่น ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง" สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทุมพร ทรงสนทนากับพระยาพิชัยชาญฤทธิ์ " ท่านอาจารย์เชื่อมั้ย ว่าการศึกครั้งนี้ ชั้นไม่หนักใจหรือกังวลอะไรเลย กลับเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถรักษาพระนครให้อยู่รอดปลอดภัย
โชคดีที่การศึกครั้งนี้ พระเจ้าอลองพญาพระมหากษัตริย์ผู้นำทัพฝ่ายอังวะสวรรคตในสนามรบ สงครามจึงสงบลง มิฉะนั้นเพียงความเชื่อมั่นอาจช่วยอะไรไม่ได้
ท่านออกญาเพ็ญชมพูมิได้เฉลียวใจเลยฤๅ ว่าพระเจ้าอุทุมพรอาจมีญาณพิเศษ มองเห็นสคริปต์ ว่าศึกอลองพญาครั้งนี้ อยุธยาไม่ต้องจัดทัพอะไรเลยก็ได้ (ยกเว้นทัพนายก่าย) เพราะยังไงอลองพญาก็จะถูกปืนจากกำแพงเมืองบาดเจ็บไปสวรรคตกลางทางอยู่แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 258 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 16:05
|
|
เพราะยังไงอลองพญาก็จะถูกปืนจากกำแพงเมืองบาดเจ็บไปสวรรคตกลางทางอยู่แล้ว สาเหตุแห่งการสวรรคตของพระเจ้าอลองพญามีกล่าวกันอยู่ ๒ ทาง ทางหนึ่งคือทรงถูกสะเก็ดปืนใหญ่ระเบิด (ไม่ใช่ถูกยิงจากปืนบนกำแพงเมือง) อีกทางหนึ่งคือทรงประชวรด้วยโรคบิด คุณศรีสรรเพชญ์ให้ความเห็นไว้ในพันทิปว่า ความเป็นไปได้ที่พระเจ้าอลองพญาจะประชวรสวรรคตครับ
ทั้งนี้เพราะพงศาวดารไทยฉบับเก่า ๆ อย่างฉบับพันจันทนุมาศเจิมและฉบับบริติชมิวเซียมที่ชำระสมัยรัชกาลที่ ๑ จะระบุไว้ตรงกันว่าพระเจ้าอลองพญา "ประชวร" จึงเสด็จกลับแล้วสวรรคตกลางทาง สอดคล้องกับพงศาวดารพม่า ไม่มีการกล่าวถึงปืนใหญ่ระเบิดแต่ประการใดครับ
เรื่องพระเจ้าอลองพญาสวรรคตเพราะปืนใหญ่ระเบิด ปรากฏครั้งแรกสังคีติยวงศ์ของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพนซึ่งเขียนในสมัย รัชกาลที่ ๑ ซึ่งในตอนแรกก็ระบุตรงกับพงศาวดารพม่าว่าพระเจ้าอลองพญาประชวรเป็นโรคบิดจนสิ้นพระชนม์ ดังที่กล่าวว่า
"พระเจ้ามังลองนั้นประชวรเป็นโรคท้องร่วง ไม่นานเท่าไหร่ก็สวรรคต"
แต่ในสังคีติยวงศ์ก็เขียนต่อไปว่า "อีกนัยหนึ่งชนบางเหล่ากล่าวว่า ชาวพระนครทั้งหลายพร้อมด้วยสุรโยธา มาที่สนามรบ ยิงปืนใหญ่ไป พระเจ้ามังลองต้องปืนใหญ่นั้นแล้ว กลับมาสู่ค่ายนั้นก็สวรรคตในเวลาราตรีนั้น"
จึงเป็นไปได้ว่าเรื่องปืนใหญ่ระเบิดนี้อาจจะเป็นข่าวสารเล่ากันมาอีกกลุ่มหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามในเอกสารทางการสมัยรัชกาลที่ ๑ ยังเชื่อว่าพระเจ้าอลองพญาสวรรคตด้วยเหตุประชวรเหมือนอย่างพงศาวดารพม่าครับพระราชพงศาวดารกรุงสยามฉบับบริติชมิวเซียม ชำระก่อน พ.ศ.๒๓๕๐ จนกระทั่งในพระราชพงศาวดารฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ซึ่งชำระโดยสมเด็จพระพนรัตน์กับสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระชรมานุชิตชิโนรสผู้เป็นศิษย์ชำระ (เข้าใจว่าไม่ได้ชำระพร้อมกัน แต่น่าจะชำระต่อกันมา น่าจะชำระเสร็จในสมัยรัชกาลที่ ๓) ได้แก้ไขข้อความในพงศาวดารว่า ได้ข่าวว่าพระเจ้าอลองพญาสวรรคตด้วยปืนใหญ่แทน ตามที่สังคีติยวงศ์ระบุไว้ครับ
"ครั้น ณ วันขึ้นสองค่ำ เดือนหก ปีมะโรง โทศกนั้น กองทับพม่าเลืกกลับไปทางเหนือตามแนวแม่น้ำใหญ่ แลได้ข่าวว่าพระเจ้าอะลองพะราญีมังลองให้จุดปืนใหญ่ยิงปราสาท ปืนแตกต้องพระกายกลับไปค่ายบางกุ่มประชวนหนัก จึ่งเร่งเลีกทับกลับไปโดยเรว ให้แมงละแมงข่องคุมพล ๑๐๐๐๐ อยู่รั้งหลัง แลทับหลวงนั้นยกรีบไปถึงตำบลตะเมะกะโลกนอกด่านเมืองตาก เปนระหว่างแดนต่อแดน พระเจ้าอะลองพะราญีก็ดับสูญชีวงคต ณะ ที่นั้น แต่ได้เสวยราชสมบัดิ์อยู่แปดปี"
อย่างไรก็ตามพงศาวดารไทยก็ใช้คำว่า "ได้ข่าว" ไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าสวรรคตเพราะปืนใหญ่จริงครับ ซึ่งถ้าดูตามอายุของหลักฐานแล้วน่าเชื่อว่าจริง ๆ สวรรคตเพราะประชวรมากกว่าครับhttps://pantip.com/topic/35829074
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Naris
|
ความคิดเห็นที่ 259 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 16:36
|
|
อย่างนี้ก็ต้องรอชมสิครับว่า ในละครพระเจ้าอลองพญาจะสิ้นพระชนม์ด้วยสาเหตุใด
ซึ่งหากเขียนบทไปในทางโรคบิด นอกจากจะเป็นข้อมูลที่มีผู้รับรู้น้อยแล้ว ยังไม่เท่ห์อีกด้วยครับ ผมคาดว่า บทละครยังคงออกมาทางปืนใหญ่ระเบิดมากกว่าแหละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Koratian
|
ความคิดเห็นที่ 260 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 18:44
|
|
ฟันธงว่าหลังจากไปยืนชมวิวที่ค่ายภูเขาทอง อลองพญาจะถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บเลือดไหล เลิกทัพกลับบ้าน ตามสคริปท์เป๊ะๆ
ตามที่ฝรั่งว่าไว้ มังลอง มังลอก มังระ ต่างก็ตายด้วยวัณโรคครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 261 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 09:59
|
|
หม่อมท่านเลือกพล็อตของคุณเทาชมพู อลองพญาก็จะถูกปืนจากกำแพงเมืองบาดเจ็บไปสวรรคตกลางทาง นาทีที่ ๗.๐๐ - ๘.๔๕ แต่ให้สงสัย ลูกปืนใหญ่ไฉนจึงมีแสงดั่งลูกไฟสว่างไสวพุ่งไปในอากาศ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 262 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 10:08
|
|
แต่ให้สงสัย ลูกปืนใหญ่ไฉนจึงมีแสงดั่งลูกไฟสว่างไสวพุ่งไปในอากาศ คุณเพ็ญฯ นี่แหละ อภิสิทธิ์ที่ว่า ทำให้ได้ภาพงามสะพรึงจากแสงไฟของลูกธนูและลูกปืนใหญ่ในสงคราม ก่อนหน้าที่พระเจ้าอุทุมพรจะทรงจุดชนวนยิงปืนใหญ่ เจ้าพระยาพิชัยบอกคุณทองด้วงว่า "คุณทองด้วง ถวายพระเพลิง"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 263 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 10:10
|
|
ฟังแล้วสะดุด,นึกถึง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 264 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 10:27
|
|
อภิสิทธิ์ อีกอย่างที่ใช้ในหนังสงครามย้อยยุคทั้งหลายคือ การระเบิดตูมตามของกระสุนปืนใหญ่
ย้อนไปถึงละครในตำนาน สงครามเก้าทัพ ผกก.วรยุทธ พิชัยศรฑัต ซึ่งได้ค้นคว้าการสงครามกล่าวไว้ ในนิตยสารสารคดีว่า กระสุนปืนใหญ่ในสมัยนั้น ใช้แรงกระแทกทำลาย,ไม่มีการระเบิด แต่เพื่อความตื่นตาตื่นใจ ของผู้ชมจึงจัดการระเบิดให้
ในกระทู้พันทิป คุณ Zodiac 28 ให้ข้อมูลว่า
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 265 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 10:44
|
|
คิดเหมือนคุณศิลา ลูกปืนใหญ่ของเจ้าคุณพิชัยคงไม่มีประสิทธิภาพจะไป "ถวายพระเพลิง" พระเจ้าอลองพญาได้ กระสุนปืนใหญ่สมัยก่อน มันระเบิดได้ด้วยเหรอครับ https://pantip.com/topic/33315466
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33596
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 266 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 11:03
|
|
หม่อมท่านเลือกพล็อตของคุณเทาชมพู เห็นมั้ย พระเจ้าอุทุมพรนั่งทางในมองเห็นสคริปต์ในอนาคต 250 ปี จริงด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33596
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 267 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 11:06
|
|
วันนี้ไม่ว่าง ยังไม่ได้ดูคลิปโดยละเอียดค่ะ ใครช่วยเล่าให้หน่อยได้ไหมคะ ว่าแม่บุษบากับเจ้าทองหยิบเป็นวิญญาณในอดีตที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด หรือว่าอยู่ข้ามกาลเวลาเพราะเจ้าคุณพ่อปิดบ้าน ผนึกเอาไว้ด้วยอาคม ไม่ให้ลูกสาวแก่ ไม่ให้ตาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 268 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 11:44
|
|
ยังไม่มีการเฉลยว่าคนในเรือนในมิตินั้นเป็น สัมภเวสี ชนิดไหน
(สัมภเวสี - สัตว์โลกที่ยังแสวงหาที่เกิด คือยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในภพน้อยใหญ่อยู่ เมื่อยัง ไม่สำเร็จพระอรหันต์ตราบใด ก็ยังเป็นสัมภเวสีอยู่ตราบนั้น
สัตว์ - ผู้ข้อง
เพราะเหตุที่มี ความพอใจ ความกำหนัดความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในรูปแล เป็นผู้ข้องในรูป เป็นผู้เกี่ยวข้องในรูปนั้น ฉะนั้นจึงเรียกว่า สัตว์. เพราะเหตุที่มีความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในเวทนา ... ในสัญญา ... ในสังขาร ... ในวิญญาณ เป็นผู้ข้องในวิญญาณ เป็นผู้เกี่ยวข้องในวิญญาณนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์.)
แต่มีซีนที่คุณทองหยิบสามารถพบสนทนากับภิกษุ(รูปนั้น - ที่ตอนเป็นหนุ่มพยายามหาทางเข้าไปเรือน) ซึ่งมรณภาพไปแล้วได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Naris
|
ความคิดเห็นที่ 269 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 11:59
|
|
ผมลอลุ้นมาตั้งนานว่า ในตอนศึกอลองพญาจะต้องมีฉากการรบหลัก ที่สวยงานวิจิตรตามสไตล์หม่อมท่านให้ชมแน่นอน อาจได้เห็นฉากการใช้อาวุธเท่ห์ๆ และกองทัพที่มีเครื่องประกอบงดงามเข้ารบกัน ในฉากการเจรจาพาที ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นนักรบของพระมหากษัตริย์ทั้งสองฝ่าย (เพราะละครโปรโมทไว้ว่า คราวนี้ จะนำเสนอให้พม่ามิใช่ผู้ร้าย) อะไรทำนองนั้น
ปรากฎว่า การรบจบใน 2 เบรค ถ้านับเวลาตามเนื้อเรื่องก็เป็นเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น เพราะเมื่อคืนวันจันทร์ มีฉากที่พระเจ้าเอกทัศน์ เจ้าฟ้าสุทัศน์ และพระพิมาน ขึ้นไปส่องกล้องดูดาวบนหอดูดาว ในตอนกลางคืน พระเจ้าเอกทัศน์เล็งกล้องไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เจ้าฟ้าสุทัศน์ดู เจ้าฟ้าฯ บอกว่า ยังไม่เห็นอะไร พระเจ้าเอกทัศน์จึงบอกว่า แสดงว่ายังมาไม่ถึง เมื่อคืนวันอังคาร ถึงได้มีฉากที่นำเสนอว่า พระเจ้าอลองพญามาถึงชานกรุงแล้ว ตั้งค่ายเสร็จแล้วอีกต่างหาก พระองค์เสด็จขึ้นไปชมความงดงามของเมืองศรีอโยธยา มังฆ้องนรทา กราบบังคมทูลว่า ได้ฤกษ์สงครามแล้ว พระเจ้าอลองพญาก็บอกว่า ขอชมต่ออีกเดี๋ยว ซึ่ง อีกเดี๋ยวของท่านนี้ ชมยาวถึงกลางคืนเลยครับ (ฮ่า) น่าจะทรงถูกพระทัยมากๆเลย
ฝ่ายอโยธยา ไม่มีการจัดทัพออกไปรับศึกนอกกำแพงเลย วางกำลังรักษาป้อมประตูชัยไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ยังไม่ทำอะไร รอสัญญาณจากพระเจ้าเอกทัศน์ก่อน (ระหว่างรอ ตัวละครทั้ง 3 ยังคงคุยเรื่องการเที่ยวซ่องคณิกา การสงเคราะห์แม่ผีเสื้อราตรีกันอยู่เลยครับ) ซึ่งสัญญาณนี้ จะมาจากการยิงธนูมาจากบนหอดูดาว เอาหละสิครับ เมื่อเขียนบทว่า สัญญาณคือธนู ก็เกิดปัญหาหละสิครับว่า คนที่กำแพงเมือง จะรู้ได้อย่างไรว่า มีลูกธนูถูกยิงขึ้นมาจากหอดูดาวแล้ว (ทำไมไม่เขียนบทให้ทรงเป่าสังข์ หรือยิงปืนหละครับ) ผลก็คือ ทรงยิงธนูไฟ ออกมาจากหอดูดาว เอิ้ม.... ลูกธนูติดไฟนะขอรับ ยิงออกไปแล้วลูกธนูนี้มันจะไปตกที่ไหนหละพระพุทธเจ้าข้า เห็นทีไฟไหมกรุง จะมิใช่เพราะกองทัพพม่ารามัญเป็นแน่ (ฮ่า)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|