หลายประเทศในยุโรปยังทยอยระงับการใช้วัคซีน COVID-19 ของแอสตราเซเนกา จนกว่าสำนักงานยายุโรปจะสรุปผลการวิเคราะห์ผลข้างเคียงในกรณีที่พบผู้มีภาวะลิ่มเลือดอุตตันหลังฉีดวัคซีน
วันนี้ (๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี ประกาศระงับใช้งานวัคซีน COVID-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา เป็นการชั่วคราว ตามคำแนะนำของสถาบันที่กำกับดูแลด้านวัคซีนและศึกษาด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทางสาธารณสุข หลังจากเกิดกรณีที่มีผู้มีภาวะหลอดเลือดในสมองอุดตันหลังได้รับวัคซีนดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี ระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการป้องกันความเสี่ยงเอาไว้ก่อน แม้ว่าสำนักงานยายุโรปจะระบุว่าไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นสาเหตุของอาการดังกล่าวก็ตาม
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเยอรมนีประกาศระงับการใช้วัคซีนตัวนี้ เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ออกมาประกาศระงับใช้งานในฝรั่งเศสเช่นกัน จนกว่าการตรวจสอบโดยสำนักงานยายุโรปจะเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าอาจจะทราบผลในช่วงบ่ายวันนี้ ตามเวลาในยุโรป
สเปน เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เพิ่งจะประกาศระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาไปอย่างน้อย ๒ สัปดาห์ ตามรอยเดนมาร์ก นอร์เวย์ และอีกหลายประเทศที่ระงับการใช้งานไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านชาวอังกฤษที่รอรับวัคซีน COVID-19 ในกรุงลอนดอน ส่วนมากยังระบุว่ามีความเชื่อมั่นในวัคซีน แม้ว่าหลายประเทศในยุโรปจะระงับการใช้งานไปแล้วก็ตาม โดยยึดตามคำรับรองขององค์การอนามัยโลก ที่ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนดังกล่าวก่อผลข้างเคียงร้ายแรงตามที่เป็นข่าว
ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผลการทดสอบวัคซีนของแอสตราเซเนกากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ คาดว่าจะพิจารณาอนุมัติวัคซีนตัวนี้เพื่อการใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินได้ภายในเวลาประมาณ ๑ เดือน เพื่อเพิ่มจำนวนวัคซีนในคลังสำหรับเร่งฉีดให้ชาวอเมริกันทั่วประเทศ
ข่าวจาก
ไทยพีบีเอสส่วนในประเทศไทย ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเข็มแรกไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเวลา ๐๘.๔๓ น. หวังว่าคงปลอดภัยไร้ผลข้างเคียง