กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: Gabriel ที่ 25 เม.ย. 06, 00:55
ขอนอกเรื่องนิดนึง อยากถามผู้รู้ครับว่า มีใครรู้จักผ้าไหมที่ชื่อว่า ผ้าไหมอัตลัด กันบ้างมั้ยครับ หน้าตามันเป็นแบบไหน และ หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง รู้แต่เพียงคร่าวๆว่าเป็นผ้าไหมทอดิ้นทอง
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 เม.ย. 06, 09:20
http://rirs3.royin.go.th/riThdict/เว็บพจนานุกรมของราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์คำว่า อัตลัด ลงไปจะเจอความหมาย อัตลัดเป็นผ้าเทศ หมายถึงว่าเป็นผ้าต่างประเทศ แถวอินเดียหรือไม่ก็เปอร์เชีย ถ้าจะซื้อลองไปแถวพาหุรัดอาจจะมี แต่เขาเรียกว่าอัตลัดหรือเปล่าไม่ทราบได้ค่ะ ต้องไปอธิบายความหมายให้เจ้าของร้านผ้าฟัง อาจจะเจอ
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 26 เม.ย. 06, 19:40
อันนี้สงสัยต้องถามคุณติบอแล้วล่ะครับ รอฟังคำตอบอยู่เหมือนกันครับ
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 27 เม.ย. 06, 06:51
อ่า.... อธิบายยากนะครับ
ถ้าวันนี้ไม่จบ ขอติดไว้ก่อนล่ะครับ หนังสือในมือจะอ้างอิงก็ไม่ทราบว่าเก็บไว้กล่องไหน ลังไหนด้วยครับ เล่มที่น่าจะใช้ได้มากที่สุดเล่มหนึ่งก็โดนเพื่อนรัก(หักเหลี่ยมโหด) ยืมไปแล้วไม่ได้เอามาคืนเสียแล้ว
ขอคว้าสิบเบี้ยใกล้มือมาตอบก่อนนะครับ จาก ผ้า พัฒนาการทางอุตสาหกรรมและสังคม ของ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นะครับ
ใครสนใจเปิดอ่านได้ที่หน้า 61 คอลัมทางซ้ายมือครับ
ผ้าอัตลัด เป็นผ้าทอด้วยไหมกับแล่งเงินหรือแล่งทอง อาจเป็นคำที่มาจากภาษามลายู ซึ่งแปลว่าแพรต่วน
แขนเสื้อในภาพอายุประมาณ 150- 250 ปีได้ ตัวเสื้อตัดด้วยผ้าอัตลัดสีแดงครับ
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 27 เม.ย. 06, 06:53
ภาพหลุดครับ แหะๆ
ผมลืมแก้ภาพให้เล็กลง |
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 27 พ.ค. 06, 22:00
ต้องขอโทษคุณ Gabriel และคุณนทีสีทันดรด้วย ที่ผมไม่ได้มาอธิบายต่อ พอดีวันนี้หานักเล่าคนใหม่มาช่วยเล่าได้แล้วครับ
ปล. แปะโป้งไว้แล้วหายไปนานขนาดนี้ คนมาเล่าใหม่นี่ผมยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่าเล่าได้เด็ดจริงๆครับ
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: มัธย์ ที่ 28 พ.ค. 06, 00:22
แหมคุณติบอคะ พอดิฉันรับปากจะสมัครสมาชิกก็หาภาระก้อนโตมารอเชียว เอาเถอะค่ะ จะตอบให้เท่าที่ความรู้ดิฉันจะช่วยคุณได้นะคะ
ขอออกตัวก่อนค่ะ ว่าดิฉันเองความรู้เรื่องผ้าก็มีอยู่แค่กระแบะมือพูดอะไรไปก็ผิดๆถูกๆอยู่ออกบ่อย ถ้าความรู้ที่มีอยู่ผิดพลาดไปก็ขออภัยไว้ซะก่อนจะเล่าล่ะค่ะ ท่านสมาชิกทั้งหลายอย่าได้ถือสานะคะ
เริ่มที่ผ้าในราชสำนักสยามก่อนแล้วกันค่ะ
ถ้าคุณๆสังเกตงานปราณีตศิลป์ของไทยกัน จะพบว่าราชสำนักสยามนิยมของสวยของงามมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทุกอย่างที่เจ้านายทรงใช้จะต้องปราณีต สวยงาม และสีสันสดใสสะดุดตาเสมอ
แต่น่าเสียดายค่ะ ชาวสยามทำงานช่างเก่งอยู่ไม่กี่ประเภท ของที่เหลืออย่างอื่น คนพวกนี้ไม่เคยเลยแม้แต่คิดที่จะเรียนรู้กรรมวิธีการผลิตว่าเขาทำกันมายังไง ดิฉันสรุปเอาเองดื้อๆว่าพี่ไทยแกถือว่าแกมีเงินซื้อใช้ได้เป็นอันเสร็จพิธี ไม่ต้องมีอะไรต่อ ของส่วนมากก็แค่ส่งแบบส่งลายไปเป็นต้นแบบให้ช่างต่างชาติทำแล้วส่งกลับมาใช้อีกที งานจะออกมาสวยงามสมใจหรือผิดแบบไปเท่าไหร่พี่ไทยทำตัวเป็นลูกค้าที่ดีเสมอ เพราะไม่เคยปริปากบ่นแม้แต่น้อย แถมแกใช้ได้อย่างชื่นชมเสียหมดทุกอย่างและเห็นว่าดีเพราะพี่แกถือว่าเป็น ของนอก ค่ะ
ผ้าผ่อนแพรพรรณก็อยู่ในรายการของที่ดิฉันพูดถึงว่าพี่ไทยไม่เคยทำเองด้วยล่ะค่ะ โดยเฉพาะงานทอที่ละเอียดปราณีต เรียกได้ว่าช่างในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นของสยามไม่มีความรู้ความสามารถเอาเสียเลย เจ้านายจะนุ่งผ้าปูมทีก็ต้องสั่งจากเขมร จะนุ่งผ้าเขียนผ้าพิมพ์ก็ต้องสั่งจากอินเดีย มลายู จะนุ่งผ้ายกก็ต้องสั่งจากจีนหรือ อินเดีย มีสกุลช่างที่พอจะอะลุ่มอล่วยได้ว่าเป็นญาติห่างๆกันแล้วทอผ้าเป็น อยู่ใกล้ที่สุดก็ไกลถึงเมืองนครศรีธรรมราชนู่นแหนะค่ะ
ชื่อผ้าในราชสำนักไทยแต่ละชนิดถึงกระเดียดไปทางฟังไม่ออกว่าเป็นภาษาไหนเสียส่วนมาก บางชนิดจนปัจจุบัน นักประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ และเดาศาสตร์ทั้งหลายก็ยังหาคำตอบไมได้ ว่ามาจากภาษาอะไร ได้แต่สันนิษฐานกันไปต่างๆนานาเขียนตำราขายกันได้เป็นเล่มๆ แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าข้อสันนิษฐานไหนถูก เพราะผ้าบางชนิดแม้แต่สถานที่ผลิต นักวิชาการปัจจุบันเขาก็ยังเถียงกันอยู่เลยค่ะ
ดิฉันขอนำภาพผ้าชนิดต่างๆจาก สารานุกรมไทยฉบับเยาวชนมาให้ชมกันนะคะ สมาชิกท่านไหนสนใจลองเปิดเข้าไปชมเรื่องราวอื่นๆได้ที่ลิงค์ที่ดิฉันให้ไวนะคะ http://kanchanapisek.or.th/kp6/May06.htm เรื่องน่าสนใจแยะเชียวค่ะ
อ้อ ขอบคุณ คุณติบอที่ช่วยแนะนำวิธีการโพสต์ค่ะ
ผืนแรก ผ้ายกทองนะคะ ลายแบบนี้เวลานุ่งขึ้นมาจะเป็นริ้วแนวตั้งค่ะ
|
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: มัธย์ ที่ 28 พ.ค. 06, 01:01
ผ้ายก
ก่อนดิฉันจะเล่าเรื่องผ้าอัตลัต ขอปูพื้นพูดถึงเรื่องผ้ายกก่อนนะคะ
สำหรับคนสยามผ้ายก คือ ผ้าอะไรก็ได้ที่มีลวดลายยกขึ้นนูนสูงจากพื้นผ้า จะทอมาวิธีไหนพี่ไทยแกไม่สนใจอยู่แล้วเพราะแกทอผ้าไม่เป็น แกก็เลยเรียกรวมกันหมดว่าผ้ายกล่ะค่ะ ส่วนจะเป็นแบบไหนก็เรียกแบ่งแยกย่อยกันลงไปอีกที เช่น ผ้าอัตลัด ผ้าเข้ม ผ้าเยียรบับ ตามลักษณะของผ้าอีกที
สำหรับวิธีการใช้แล้ว หลวงจะพระราชทานผ้าแต่ละผืนให้ผู้ที่มีบรรดาศักดิ์ถึง ไม่ใช่ว่าใครอยากซื้อก็ไปซื้อหาผ้าพวกนี้มาใช้กันได้ง่ายๆ หรือถ้าจะซื้อไว้ใช้ราคาผ้าแต่ละผืนก็แพงระยับ จะนุ่งทีผ้าก็หนักแสนหนักเพราะทอแทรกด้วยโลหะเป็นจำนวนมาก การนุ่งก็ต้องคาดเข็มขัดรัดเชือกให้แน่นแล้วอยู่นิ่งๆ เพราะถ้าขยับสักทีสองทีอาจมีผ้าหลุดให้อายได้ง่ายๆ ด้วยเหตุนี้ ผ้ายกก็เลยกลายเป็นผ้าในพระราชพิธีที่ไม่ต้องเดินทางไกลๆหรือมีการเคลื่อนไหวมากไปโดยปริยายค่ะ
และเช่นเดียวกับของพระราชทานตามยศตามศักดิอื่นๆ ผ้ายกก็มียศมีศักดิ์ตามตำแหน่งของผู้ใช้เหมือนกัน ตำแหน่งเล็กหน่อยก็นุ่งดอกเล็กๆ ตำแหน่งใหญ่โตขึ้นหน่อยก็นุ่งลายใหญ่ขึ้นมา โดยเฉพาะผ้าบางลาย เช่น ผ้าสมปักยกเทพนม ผ้าสมปักยกดอกใหญ่ลายต่างๆ จะถูกสงวนไว้สำหรับพระบรมวงศ์เท่านั้น แม้แต่พระญาติทั้งหลายถ้าศักดินาไม่ถึงก็หมดสิทธิ์นุ่งผ้ายกไปตามยศล่ะค่ะ
ชื่อลายของผ้ายกก็เรียกกันไปตามลายดอกลายดวงของผืนผ้า ไม่มีมาตั้งชื่อให้ดูแปลกหูเรียกลูกค้าเหมือนเดี๋ยวนี้ ลายดอกเล็กๆ ก็เรียกว่าสมปักยกดอกเล็ก ดอกขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ก็เรียกไล่ขึ้นไปตามขนาดของดอกลาย ส่วนลายไหนพิเศษก้อาจจะเรียกชื่อลายเป็นพิเศษได้ เช่น สมปักยกดอกใหญ่ลายพุ่มข้าวบิณฑุ์ หรือ สมปักยกลายเทพนม ไงคะ
ส่วนคำว่าสมปัก เป็นคำที่ใช้เรียกผ้านุ่งทั่วๆไปที่หลวงท่านพระราชทานให้ ขอแค่เอามานุ่งจีบนุ่งโจงเข้าไปได้ก็เรียกว่าสมปัก ถ้าเป็นผ้าปูม หรือที่เดี๋ยวนี้มาเรียกกันตามภาษาลาวว่าผ้ามัดหมี่ ก็จะเรียกว่าสมปักปูม ถ้าเป็นผ้าเขียนหรือผ้าพิมพ์ก็จะเรียกว่าสมปักลาย ถ้าเป็นผ้ายกก็เรียกว่าสมปักยกไปตามระเบียบค่ะ
ภาพที่ดิฉันแทรกมาเป็นกรวยเชิงของผ้ายกเมืองนครศรีธรรมราชนะคะ
|
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: มัธย์ ที่ 28 พ.ค. 06, 01:22
เข้าเรื่องที่เจ้าของกระทู้ถามมานะคะ
ผ้าอัตลัด ค่ะ
สำหรับราชสำนักสยามแล้ว ผ้าอัตลัดจัดได้ว่าเป็นผ้ายกเกรด 3 คือรองลงมาจากผ้ายกอีกหลายชนิด เช่น ผ้าเยียรบับ หรือผ้าเข้มขาบค่ะ เพราะเขาถือว่าผ้าชนิดนี้เป็นผ้าที่มีไหมเงินไหมทองทอควบในลวดลายแค่เป็นลายดอกๆ ไม่ได้เป็นทองทั้งผืนเหมือนอีก 2 อย่างที่ดิฉันพูดถึง เนื่องจากวิธีทอผ้าชนิดนี้ ใช้การเกาะดอกลายทีละดอกลงบนหน้าฟืม ไม่ได้ยกด้วยทองทั้งเส้นตลอดหน้าผ้าค่ะ
ลายของผ้าเยียรบับก็มีขนาดต่างกันออกไปทั้งดอกใหญ่ดอกเล็กเหมือนผ้ายกชนิดอื่นๆล่ะค่ะ การนำไปใช้นิยมตัดเป็นเสื้อ ตัวสั้นบ้างยาวบ้าง มีปกบ้างไม่มีบ้างตามความนิยมแต่ละช่วงต่างๆกันไป แล้วก็เหมือนที่เล่าไปแล้ว การใช้ก็ตามยศของผู้สวมใส่เหมือนของอื่นๆไงคะ
คืนนี้ขอตัวก่อนล่ะค่ะ ภาพสุดท้ายดิฉันนำมาจากผู้จัดการ ออนไลน์เป็นภาพผู้นำเอเปคสวมเสื้อที่ตัดจากผ้าเยียรบับของกลุ่มจันทร์โสมานะคะ
|
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: โพธิ์ประทับช้าง ที่ 28 พ.ค. 06, 16:47
เอามาฝากครับ |
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: โพธิ์ประทับช้าง ที่ 28 พ.ค. 06, 16:48
ขยาย |
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: โพธิ์ประทับช้าง ที่ 28 พ.ค. 06, 16:49
ขยาย |
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: โพธิ์ประทับช้าง ที่ 28 พ.ค. 06, 16:50
อีกผืนครับ |
กระทู้: ผ้าไหมอัตลัด
เริ่มกระทู้โดย: โพธิ์ประทับช้าง ที่ 28 พ.ค. 06, 16:51
ลองดูครับ |
|