พระราชธรรมนิเทศ ที่เว็บ สถาบันพระปกเกล้า
http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=พระราชธรรมนิเทศ
ในบรรดาผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของไทยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางภาษาไทยแล้วมีจำนวนไม่มากนัก
และ“นายเพียร ราชธรรมนิเทศ” หรือ “พระราชธรรมนิเทศ” คือหนึ่งในจำนวนนั้น และถือว่าเป็นปราชญ์ภาษาไทยแห่งยุคสมัยเชื่อ
ผู้นำชาติพ้นภัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม อย่างแท้จริง
เพียร ราชธรรมนิเทศ เข้ารับการศึกษาที่วัดทรงธรรม พระอารามหลวงแห่งจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นวัดที่ให้การเรียน
การสอนแก่ภิกษุ สามเณรเป็นหลักจึงสอนด้วยภาษาบาลี แต่หากจะทำการสอนแก่บุตรหลานในชุมชนจะใช้บริเวณใต้ถุนกุฏิพระครู
เจ้าอาวาสเป็นห้องเรียน นักเรียนแห่งสำนักวัดทรงธรรมเมื่อจบการศึกษาออกไปจึงซึมซับภาษาบาลีออกไปด้วย
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2485 ประกอบด้วย
กรรมการ จำนวน 26 คน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีชื่อเสียง มีบทบาทหน้าที่สำคัญในทางวัฒนธรรมทั้งสิ้น โดยตนเองเป็น
ประธานกรรมการ และในจำนวนนี้นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานกรรมการด้วย
ในการปรับปรุงภาษาไทยครั้งนี้ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากเพราะบางคำ หรือบางประโยคในหลักภาษาไทย
เมื่อเปลี่ยนตัวสะกดย่อมทำให้ความหมายเปลี่ยนแปลงไปได้
แต่หากพิจารณาบนพื้นฐานข้อมูลและบริบทรอบด้านแห่งยุคสมัยแล้ว ควรให้ความเป็นธรรมแก่คณะกรรมการชุดนี้ เพราะ
คงไม่มีใครอยากเปลี่ยนแปลงวิถีแห่งวัฒนธรรมทางภาษาที่เป็นอัตลักษณ์ของชนชาวสยามที่มีมาอย่างยาวนานเป็นแน่ หากไม่ได้รับ
แรงกดดัน และ ที่สำคัญใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เพื่อความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
สาเหตุที่ต้องเร่งรีบและปรับเปลี่ยนอย่างฉับพลัน เพราะเหตุว่าญี่ปุ่นได้เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยเพื่อทำสงคราม
ปลดปล่อยชนผิวเหลืองในสงคราม มหาเอเชียบูรพา และแจ้งแก่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีว่าภาษาไทยเรียนยาก
เพราะมีพยัญชนะและสระมากมายเหลือเกิน จึงเห็นสมควรให้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการแทน
หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมรับความพ่ายแพ้และหมดอิทธิพลในภูมิภาคอุษาคเนย์ คณะรัฐมนตรีหลังสงครามโลกได้ยกเลิกประกาศ
ฉบับนี้ การใช้ภาษาไทยแบบเดิมได้รับการนำกลับมาใช้ใหม่
เพิ่มเติม 4 ปุโรหิต : ยง เถียร เพียร นวล : โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ ที่
https://www.matichon.co.th/columnists/news_724312