กระทู้: โลกที่สร้างด้วยเลือด เริ่มกระทู้โดย: เนยบิน ที่ 20 ก.ย. 01, 07:14 ตั้งแต่การที่มนุษย์เริ่มตั้งเป็นชุมชน เป็นสังคม
ประวัติศาสตร์ของทุกที่ มักมีการสู้รบกันเสมอ มีผู้รุกราน และผู้ต่อต้าน ผู้ที่เข้มแข็งก็เป็นผู้ชนะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น จะเรียกว่าเป็น ธรรมชาติของมนุษย์ หรือ สัตว์โลกเดินสองขา หลังตรง ได้หรือไม่ โลกที่ปั่นป่วน ก็เพราะคนบ้า ๆ ไม่กี่คนเท่านั้น คิดอย่างไรกันบ้างคะ กระทู้: โลกที่สร้างด้วยเลือด เริ่มกระทู้โดย: แจ้ง ใบตอง ที่ 20 ก.ย. 01, 19:14 ไม่ใช่แต่สังคมมนุษย์เท่านั้นหรอกครับ ผมว่าสัตว์ทุกประเภทนั่นแหละที่มีการต่อสู้กัน
จะแตกต่างตรงที่..สัตว์พอรู้ว่าสู้ไม่ได้แล้วมันก็จะยอม เคยเห็นหมากัดกันมั้ยครับ ถ้าตัวไหนสู้ไม่ได้มันก็จะนอนหงายยอมแพ้ตัวที่เก่ง ปลากัดถ้ากัดกันแล้วสู้ไม่ได้ก็ว่ายหนี ก็เท่าอันเอง ถือว่าเป็นอันจบ ตัวที่เก่งกว่าก็ไม่ได้ทำร้ายเอาจนถึงตาย ต่างฝ่ายก็แยกย้าย กันไป แต่มนุษย์ไม่เป็นอย่างนั้น ข้าแพ้วันนี้ วันหน้าเอ็งอาจจะแพ้ข้าบ้างก็ได้ การต่อสู้ ของมนุษย์จึงมักจะมี "นัดล้างตา" อยู่เสมอ แต่ก่อนสัตว์กับมนุษย์ยังไม่แตกต่างกันนัก ผู้ที่เป็นจ่าฝูงหรือผู้นำต้องมีร่างกายแข็งแรง สามารถปราบคนอื่นได้หมด แต่พอเวลาผ่านไปนานๆเข้ามนุษย์ก็เริ่มพัฒนาตัวเองให้ แตกต่างจากสัตว์ เพราะว่ามนุษย์รู้จักใช้ "ปัญญา" คนที่เป็นผู้นำรุ่นต่อๆ มาจึงไม่จำเป็น จะต้องเป็นผู้ที่สามารถดึงดาบออกจากก้อนหินได้หรือมีความแข็งแรงกว่าคนอื่นเสมอไป อาจจะเรียกได้ว่าเป็นพัฒนาการจากการใช้กำลังไปสู่การใช้ปัญญา ซึ่งจะเห็นได้จากผู้นำ ของโลกหลายๆ คนตัวเล็กนิดเดียวแต่สามารถบังคับบัญชาคนที่แข็งแรงกว่า ให้ทำอะไรตาม ที่ต้องการได้ แต่การใช้ปัญญานั้นก็เหมือนดาบสองคมครับ ถ้าใช้ไปในทางที่สร้างสรรค์ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อ มวลมนุษยชาติ ถ้าใช้ไปในทางที่ผิดก็จะเป็นตัวทำลายมนุษยชาติได้อย่างร้ายแรงที่สุด มนุษย์ใน ปัจจุบันนี้ส่วนมากใช้ปัญญาในทางไม่สร้างสรรค์ อยากอยู่เหนือธรรมชาติ(เรื่องนี้อาจจะมีแนวคิด ทางศาสนาเข้ามาเป็นปัจจัยด้วย) ใช้ปัญญาเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง คนอื่นเป็น ยังไงก็ช่างขอให้ตนเองได้ในสิ่งที่อยากก็พอ แถมมนุษย์ยังไม่รู้จักความพอเสียอีก พอได้ไอ้นั่น แล้วจะเอาไอ้นี่ Maslow ได้แบ่งความต้องการของมนุษย์ออกเป็น ๕ ขั้น ในความคิดของผม ไอ้ความต้องการทั้ง ๕ ขั้น(บวกด้วยปัจจัยสี่ที่ขาดแคลน) นั่นแหละที่ทำให้มนุษย์ที่ไม่รู้จักใช้ ปัญญาแก่งแย่งกัน เอาเปรียบกัน ไม่ได้เล่ห์ก็เอาด้วยกล เริ่มจากกลุ่มเล็กๆก่อน ต่อมาก็ขยายใหญ่ขึ้นเป็นกลุ่มระดับประเทศ พอไม่สามารถตกลงกันโดยสันติวิธี สงครามมันก็หลีกเลี่ยง ไม่ได้ มนุษย์ก็ใช้อาวุธที่เกิดจากปัญญานั่นแหละมาประหัตประหารกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ หรือไม่ก็เหนื่อยล้ากันไปเอง ความเชื่อหรือเรื่องศาสนานี่ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มนุษย์ต้องฆ่ากันครับ สังเกตใกล้ๆ บ้านเรา ก็ได้ แค่ความเชื่อไม่เหมือนกันก็ฆ่ากันแล้ว เหตุการณ์ในปัจจุบันนี้ก็เริ่มจะโยงเข้าไปเกี่ยวข้อง กับศาสนาด้วย ผมว่าถ้ายังไม่แยกแยะว่าอะไรเป็นเรื่องทางโลก อะไรเป็นเรื่องทางศาสนา สงครามครูเสดภาคใหม่เกิดขึ้นแน่ๆ ครับ เล่นอะไรก็ไม่ร้ายแรงเท่ากับเล่นกับความเชื่อของ มนุษย์ ลองนึกดูสิครับว่าความเชื่อของมนุษย์ทำอะไรได้บ้าง บางทีสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้าทำด้วยความเชื่อแล้วมันก็เป็นไปได้ และคงเป็นไปได้ยากที่จะทำให้มนุษย์ทั้งโลกมีความเชื่อ เหมือนกัน มีมาตรฐานการวัดความดีความชั่วอันเดียวกัน แต่มนุษย์สามารถทำให้คนที่มีความ เชื่อแตกต่างกัน อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขได้ ..แล้ววันนี้มนุษย์ได้ทำอย่างนั้นไปถึงไหนกันแล้ว? |