มารำลึกถึง แมรี่ป๊อปปิ้นส์กันเถอะค่ะ
คุณเทาชมพูคลังความรู้ของพวกเราสองพี่น้อง เล่าให้ฟังอีกเช่นเคยเจ้าคะ
ถ้าถามว่าแมรี่ ป็อปปิ้นส์เป็นใคร คำตอบมีอยู่ ๓ อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กชายเด็กหญิงในครอบครัวชาวอังกฤษชั้นกลาง ชื่อครอบครัวแบงค์อาศัยอยู่ ณ ถนนต้นเชอรี่ หลังสวนสาธารณะใกล้โบสถ์เซนต์พอลในกรุงลอนดอน ในราวปีค.ศ.๑๙๓๔ อย่างที่สอง แมรี่ไม่ใช่คน แต่จะเป็นเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ หรืออยู่ในหมู่ภูตพรายที่เรียกว่า “แฟรี่” นั้นไม่ปรากฏชัด รู้แต่ว่าแม่รี่นั้นมีอำนาจพิเศษอย่างไม่มีขอบเขต สามารถไปได้ทุกหนทุกแห่งแม้แต่ดินแดนในรูปภาพ สรวงสวรรค์ท่ามกลางหมู่ดาว และใต้ท้องทะเลลึก พูดได้กับสัตว์ทุกชนิด สามารถเหาะได้ และเนรมิตสิ่งต่างๆได้ ญาติของแมรี่มีตั้งแต่ตุ๊กตาดินน้ำมัน เต่าใต้ทะเล ดวงดาว และผู้คนประหลาดๆ
อย่างที่สาม แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ ถือกำเนิดจากจินตนาการ ของนักประพันธ์สตรี ชาวอังกฤษนามพาเมล่า แอล ทราเวอส์ นิยายเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมสำหรับเด็กที่ได้รับความนิยมสูงสุดเล่มหนึ่งของโลก แปลออกเป็นภาษาต่างๆเกือบทุกภาษาในยุโรป และตัวแมรี่ ป๊อปปิ้นส์เอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวละครในวรรณคดี ที่มีลักษณะเด่นที่สุดตัวหนึ่งในบรรดาวรรณคดีสำหรับเด็ก เทียบเคียงได้กับตัวละครในเรื่อง “อลิสในดินแดนมหัศจรรย์” ซึ่งมีลักษณะเด่นประหลาด ไม่ซ้ำกับนิยายเรื่องใด นับแต่หลุยส์ คาร์รอลเขียนไว้เป็นต้นมา
นิยายเรื่องนี้จัดอยู่ในประเภท “แฟนตาซี” คือเรื่องจากความคิดฝันของผู้แต่ง และเป็นเรื่องเกี่ยวกับความคิดฝันเกี่ยวกับโลกประหลาด ดินแดนประหลาดๆโดยตรง เก่าที่จินตนาการจากสมอง จะพึงวาดออกมาได้มีอยู่ ๔ เล่มด้วยกัน คือ “แมรี่ ป๊อปปิ้นส์” (ค.ศ.๑๙๓๔) “แมรี่ ป๊อปปิ้นส์กลับมา” (ค.ศ.๑๙๓๕) “แมรี่ ป๊อปปิ้นส์เปิดประตู” (ค.ศ.๑๙๔๓) และ “แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ในสวนสาธารณะ” (ค.ศ.๑๙๕๒) ทั้งสี่เรื่องใช้ฉากเดียวกัน และมีตัวละครยืนโรงชุดเดียวกัน ต่างออกไปก็มีแต่ผจญภัยในที่แปลกๆและพบคนแปลกๆแต่ละตอน เด็กชายหญิงที่เป็นตัวเอกในเรื่องคือ เจน และน้องชายชื่อ ไมเคิล รองลงไปคือ น้องชายหญิงฝาแฝดที่ยังเล็กมาก ชื่อ จอห์น และบาร์บารา กับน้องคนสุดท้องชื่อ แอนนาเบล ซึ่งยังเป็นทารกอยู่
ผู้เขียนวาดภาพแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ไว้แตกต่างจากแบบฉบับนางฟ้าผู้ใจดีทั้งหมด ดูภายนอกแมรี่ คือหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง ผอม มือเท้าใหญ่ มีผมสีดำหวีเรียบ นัยน์ตาสีฟ้าเข้มมีแววเข้มงวด และจมูกเชิดรั้นขึ้นเหมือนตุ๊กตาดัชท์ ท่าทางของเธอต่อเด็กๆค่อนข้างดุและเจ้าระเบียบ กับคนอื่น ติดจะถือตัวและประชดประชัน จนดูเหมือนแมรี่ ป๊อปปิ้นส์อารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลา แต่เจน และไมเคิลรู้ว่าหัวใจของแมรี่ ป๊อปปิ้นส์มีแต่ความรัก และเมตตาปรานี ทุกครั้งที่เด็กทั้งสองคิดฝันอยากได้อะไรพิสดาร ถึงแมรี่ทำเป็นดุหรือบ่นว่าต่างๆ แต่เธอบันดาลความฝันนั้นเป็นความจริงสำหรับเด็กทั้งสองทุกครั้ง
ไมเคิลพูดออกมาดังๆว่า “ผมอยากดื่มเหล้าปอร์ตสักแก้วจังฮะ ผมว่ามันคงอร่อย”
“หนูอยากเห็นทะเล” เจนพึมพำ ขณะมองลึกลงไปในหอยสังข์ที่เพื่อนบ้านของเธอให้มา พร้อมกับเหล้าปอร์ตสำหรับมิสเตอร์แบงค์
แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ทำเสียงขึ้นจมูก “เอาอีกแล้ว อยาก! อยาก ! อยาก! ตลอดวันมีแต่อยาก ไม่ใช่เหล้าก็ทะเล ไม่เคยเห็นอะไรพิลึกยังงี้”
คืนนั้นเอง เจนและไมเคิลได้ยินเสียงเรียกจากหอยสังข์ เมื่อไปตามเสียงเรียกก็พบตัวเองดำลึกลงไปในทะเล จึงลงไปคล้ายบินลิ่วลงไป น้ำแตกกระจายรอบตัว และคลื่นซัดละลอกอยู่เหนือศีรษะ ใต้น้ำมันเจนเห็นคลื่นไหวเป็นแสงสีต่างๆแพรวพราย ฟ้า ชมพู เงิน แดงเข้ม และเขียว ละลานตา
“ปะการัง” เจนอุทานอย่างแปลกใจ
ใต้พื้นทะเลปูด้วยสาหร่ายทะเลสีเขียวสดอ่อนนุ่ม แทรกด้วยเส้นทอง และดอกไม้ทะเลหลากสี ต้นปะการังแผ่กิ่งก้านสาขาแข่งกับเฟิร์นทะเลเป็นพุ่ม ก้อนหินสีแก่ปูลาดด้วยเปลือกหอยระยิบระยับที่มีไข่มุกอยู่ภายใน ทุกสิ่งทุกอย่างไหวพร่าๆไม่อยู่นิ่งด้วยกระแสน้ำซัดไปมา ปลาเล็กๆแหวกว่ายริกๆเหมือนผีเสื้อโบยบินอยู่ท่ามกลางดอกไม้ตามกิ่งก้านปะการังมีปลาเรืองแสงตัวน้อยๆห้อยอยู่คล้ายโคม ดนตรีกังวานก้องไปทั่วบริเวณจากฝูงนักดนตรีปลา แต่ละตัวเล่นดนตรีจากเปลือกหอยตามถนัด นางเงือกแสนสวยสวมสร้อยไข่มุกยาวหลายสาย พากันแหวกว่าย โบกสะบัดไปมา เข้ากับเสียงดนตรีเกล็ดและหางเป็นสีเขียวเข้มเลื่อมพราย
“เหล้าปอร์ตสำหรับไมเคิล” ปลาซัลมอนผู้ทำหน้าที่ปฏิคม สั่งเหล้าเสริฟให้ไมเคิล
ไมเคิลหวนนึกถึงความปรารถนาของเขาด้วยความอัศจรรย์ใจ