ในชีวิตได้เคยมีบุญเห็นองค์จริงของในหลวง2 ครั้งค่ะ
ครั้งแรก อายุสักสิบสอง เป็นงานพระราชทานเพลิงศพคุณตาซึ่งในหลวงเสด็จมาพระองค์เดียว
จำได้ว่าถูกคุณป้าจับตัวไปตัดชุดไทย เพื่อใส่ตอนเข้าแถวรับเสด็จเวลาที่หน้ารถพระที่นั่งมาจอดเทียบ
ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นพระพักตร์แบบใกล้ชิดมาก คือห่างเมตรเดียวเป็นความคิดแบบเด็กๆ (กราบพระบาทขอพระราชทานอภัย) "ในหลวงหล่อจัง"
พระพักตร์ท่านอิ่มเอิบเปี่ยมด้วยเมตตา ทรงยิ้มนิดๆแบบที่เห็นในทีวี
เรื่องของคุณ Rattananuch ทำให้นึกขึ้นมาได้ ผมเคยเฝ้าพระองค์ท่านในงานพระราชทานเพลิงศพพระผู้ใหญ่องค์หนึ่งที่เมรุหลวง หน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อถึงเวลาช่วงที่แขกเริ่มทยอยกันมานั้น เกิดลมแรงแบบพายุ ฝนตั้งเค้าจะตกหนักอยู่ ครั้นส่วนใหญ่มานั่งหนาตาบนพลับพลาแล้ว ฝนก็เทลงมาแบบฟ้ารั่ว เจ้าภาพเริ่มวิตกกังวลเมื่อใกล้จะถึงเวลาเสด็จพระราชดำเนิน ฝนก็ยังไม่มีท่าทีจะหยุด
ผมเคยอ่านเรื่องที่ ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนถึงบุญญาภินิหารของพระพุทธเจ้าอยู่หัวไว้ ประมาณว่า คราวเสด็จพระราชดำเนินเยื่ยมราษฎรเมืองเพชรบุรีครั้งนั้น ทางราชการปลูกปะรำรับเสด็จใหญ่หน้าศาลากลางสองหลัง ขณะนั้นฝนได้ตกหนักที่สุด ราชองครักษ์ให้เตรียมกางกลดถวาย แต่พระองค์ทรงยับยั้งและตรัสว่า
"ก็เขาเปียกได้ เราก็เปียกได้" แล้วก็เสด็จพระราชดำเนินออกไป ฝนหยุดตกทันที
“นี่เอาผมไปสาบานที่ไหนก็ได้นะ เห็นมากับตา แปลกจริงๆไม่มีฝนเลย พอเสด็จฯเข้าปะรำโน้นพอลับพระองค์ ฝนก็ตกจั๊กๆอย่างเก่าอีกที พวกตามเสด็จฯไม่ต้องพูดละ เปียกโชกไปหมดทุกคนหนีไม่ทัน แม้แต่องค์สมเด็จพระราชินีนาถยังทรงเปียก เมื่อเสด็จพระราชดำเนินคล้อยตาม นี่ก็เห็นกันมาทุกคน และยังมีอีกมากมายเล่าไปก็ไม่หมด"ใครอ่านแล้วไม่เชื่อคำสาบานของท่านก็ชั่ง แต่ผมก็เห็นกับตาเหมือนกัน ฝนยังตกไม่ขาดเม็ดขณะรถพระที่นั่งลุยน้ำกระจายมาเทียบช่องทางเสด็จขึ้นพลับพลา พนักงานกั้นกลดถวายน้ำฝนไม่ต้องพระองค์ ตามกำหนดการนั้น จะเสด็จประทับยังพระเก้าอี้เพียงชั่วครู่แล้วจะเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเมรุเพื่อพระราชทานเพลิงเลย
พอพนักงานกั้นกลดด้านหน้าพร้อม ฝนก็ขาดเม็ด เสด็จพระราชดำเนินลงจากพลับพลาขึ้นเมรุแล้วทรงประกอบพิธีพระราชทานเพลิง เสร็จแล้วเสด็จลง ระหว่างประทับบนพลับพลาให้เจ้าภาพเข้าเฝ้า พระองค์ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้แขกที่มาในงานขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ ช่วงนี้ก็มีเวลาประมาณสักครึ่งชั่วโมง ทุกคนรีบอาศัยพระบารมีในขณะที่ฝนหยุดตกนี้ขึ้นไปทำกิจให้สำเร็จ
เมื่อถึงกำหนดเวลาเสด็จกลับ ทรงลุกขึ้นยืน ทุกคนถวายคำนับ ทรงคำนับตอบยังกลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วเสด็จลงจากพลับพลา พอรถพระที่นั่งเคลื่อนพ้นประตูวัดเท่านั้นเอง แขกเหรื่อทุกคนก็แย่งกันกลับก่อนที่ฝนจะเทลงมาอีก
ก็ตามคาดครับ รอดไปได้แบบไม่เปียกก็สักส่วนเดียว ที่เปียกปอนก็คงมี แต่ที่ยอมรอบนพลับพลาให้ฝนที่พรำๆลงมาอีกให้หยุดก็มีไม่น้อย
เดี๋ยวถึงจังหวะอันควรแล้ว ผมจะเล่าเรื่องความอัศจรรย์เช่นนี้พร้อมหลักฐานประกอบอีกครั้ง โปรดอดใจรอ