และเช่นเดิมครับ เชิญท่านทั้งหลายให้เข้ามาช่วยเสริมสร้าง(กรุณาอย่าเสริมแต่ง) หรือใครจะตั้งคำถาม ถ้าตอบได้ผมก็จะตอบอย่างตรงไปตรงมา หรือจะเห็นต่างก็ได้ ผมน้อมรับและยินดีที่จะได้ถกกัน สำหรับกูรูที่ประสงค์จะพาออกจากทะเลขึ้นฝั่งไปบ้างก็ไม่ว่า แต่อย่าไปไกลมากนะครับ เอาแค่ขุดหอยช้อนปลาหาเขียดปาดอยู่แถวชายหาดก็แล้วกัน เดี๋ยวผมจะพากลับออกทะเลไม่ถูก ถ้าสนใจจะต่อเรื่องเหตุการณ์ในกรณีพิพาทอินโดจีนจริงๆแล้วละก็ ควรแยกกระทู้ผมจะไปแจมด้วย จะเอาเป็นมหากาพย์อย่างกระทู้ครั้งกระโน้นก็เอากัน
เจอท่านผู้การ Navarat ดักคอเข้าแบบนี้ ต้องระมัดระวังในการจับกุ้งหอยปูปลาชายฝั่งมาปั่นเรตติ้ง เพราะอาจจะถูกคลื่นซัดไปนอกปากอ่าวกรณีพิพาทอินโดจีนเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว
ไล่จับปลาชายฝั่งได้ มาหนึ่งกาละมัง ว่าด้วยงบประมาณพิเศษของกระทรวงกลาโหม สำหรับซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องบินรบ ในพ.ศ. ๒๔๘๑ เป็นจำนวนเงิน ๑๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท
กลาโหมขอมา ๑๓ ล้านครึ่ง คณะรัฐมนตรีใจดีมาก นอกจากให้ตามที่ขอแล้ว ยังเห็นว่าแค่นี้ไม่พอ ก็อนุมัติเพิ่มเติมให้อีกโดยไม่ต้องขอ ประมาณ ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเตรียมไว้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีงบจ่ายเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงทหารเกณฑ์ กองประจำการปี ๒ เป็นเงิน ๑,๙๙๒,๔๘๘ บาท
กระทรวงกลาโหมได้ที เห็นความจำเป็นต้องจัดกองทัพไทยแบบสมัยใหม่ อาศัยการเคลื่อนที่ด้วยยานยนต์ จึงของบประมาณเพิ่มเติมอีกจำนวน ๔,๙๙๘,๙๘๘ บาท เพื่อเป็นค่าซื้อยานยนต์และค่าก่อสร้างโรงทหารชั่วคราว คณะรัฐมนตรีก็ไฟเขียวแต่โดยดี
นังมีการเพิ่มกำลังทหารทั้งสามเหล่าทัพขึ้นด้วย เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์สงคราม คือมีกองทัพ ๒ กองทัพ คือกองทัพบูรพา และกองทัพอิสาน มีอัตรากำลัง ๗๕ กองพันรวมกำลังพลทั้งสิ้น ประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน
ดิฉันตอบไม่ถูกว่าถ้าเป็นปัจจุบัน งบประมาณเหล่านี้จะเท่ากับเงินจำนวนเท่าไร จำได้ว่าคุณแม่เรียนจบจากจุฬาฯก่อนปี ๒๔๘๑ เล็กน้อย บรรจุเข้าเป็นอาจารย์โรงเรียนสตรี สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้เงินเดือนหนึ่งร้อยกว่าบาท บ่นว่ามากมายเสียจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เลยซื้อตุ๊กตาแจกนักเรียนในชั้น
งั้นค่าของเงินหนึ่งร้อยบาทในสมัยนั้นคงมากกว่าหนึ่งหมื่นบาทในสมัยนี้แน่นอน