อ่านกระทู้นี้แล้วหุดหิด เอ๊ยหงุดหงิดนิดหน่อยกับภาษาแบบวัยรุ่นตรงคำว่าปะครับ ใช่ปะครับ หลังไมค์ได้ปะครับ ที่จขกท ใช้
เวลาเราขอความช่วยเหลือ ขอความเห็นจากผู้ใหญ่หรือผู้อาวุโสกว่า ต้องระมัดระวังการใช้คำใช้ภาษาให้มากกว่านี้หน่อยครับ ภาษาที่ใช้ไม่จำเป็นต้องทางการจ๋า แต่ภาษาแสลงหรือคำแบบที่ใช้พูดกับเพื่อนถ้าเลี่ยงได้ควรจะเลี่ยง เพราะภาษาที่ใช้มันสะท้อนตัวเราว่าเราใส่ใจแค่ไหน เราไม่ได้สนิทสนมกับท่าน เราเหมือนเด็กมาขอความเห็นผู้ใหญ่ การใช้ภาษาที่สุภาพและระมัดระวังกว่านี้จะทำให้คนตอบยินดีและเต็มใจที่จะตอบหรือให้ความช่วยเหลือ และการเรียกนามผู้ใหญ่ผิดแม้จะเป็นนามแฝงยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวังเพราะมันแสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจของเราได้มาก
ที่ตักเตือนมาก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมทำผิดพลาดที่นี่แล้วบ่อยครั้ง แซวท่านอาจารย์หลายๆ ท่านแบบปากไม่มีหูรูดก็บ่อย โดนไม้เรียวมาก็หลายที หลาบจำแล้วแต่ยังเผลอไผลบ่อย พอเห็นความผิดพลาดคนอื่นจึงเป็นดั่งขุนเขา เพราะความผิดเราเท่าเส้นผมเสมอ เลยแนะนำมาด้วยความปราถนาดีครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ผมขออนุญาตแตกความเห็นเพิ่มเติมสักเล็กน้อย
ถ้ามองไกลออกไปอีกสักนิด นี่คือการเคารพผู้ใหญ่ นี่คือการให้เกียรติแก่ผู้อาวุโสกว่า หรือที่เรียกว่า seniority
ในต่างประเทศ(ที่เราเรียกว่า เจริญ) การให้เกียรติแก่ผูอาวุโสแทบจะไม่มี ทุกคนเท่าเทียมกัน ใครมือยาวก็สาวได้สาวเอา บางคนเรียกว่า ประชาธิปไตย
เหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้คนอาวุโสในต่างประเทศดูไร้ค่า แม้ว่าจะมีระบบสวัสดิการแก่คนสูงอายุหรืออาวุโส แต่นั่นคือวัตถุล้วนๆ ไม่มีจิิตวิญญาณ ไม่มีความห่วงใยหรือความให้เกียรติที่แท้จริง สุดท้ายคนอาวุโสในต่างประเทศก็เหมือนส่วนเกิน เพราะ ศักยภาพของตนก็ร่อยหรอ คนที่เห็นหัวก็หดหาย สุดท้ายก็ไม่รูว่ามีชีวิตเพื่ออะไร อัตราฆ่าตัวตายของคนในต่างประเทศ (ที่เจริญ) จึงสูงมาก
ระบบการนับถืออาวุโสเป็นสิ่งที่ดีเพราะทำให้สังคมมีสิ่งที่ถักทอคนแต่ละรุ่นเข้าไว้ด้วยกัน และสักวันหนึ่งทุกคนก็ต้องอาวุโส ทุกคนต้องแก่ตัว ศักยภาพทุกคนต้องลดน้ยถอยลง
ถ้าวันนี้เราไม่เห็นหัวคนอาวุโสกว่า สักวันหนึ่งเราก็จะถูกกระทำเช่นเดียวกัน
แต่ที่ผ่านมาในระบบอาวุโสคือ บางคนที่อาวุโสกว่าก็เอาแต่ได้เอาแต่กอบโกย เอาเปรียบจากการที่ตนเป็นคนอาวุโสกว่าหรือ seniorกว่าและพาลทำให้ไม่เห็นด้วยกับ seniority หรือที่เรียกว่า Seniority Abuse เหตุฉะนี้เด็กจึงไม่นับถือ
ทุกคนต้องตระหนักว่า เราในทุกช่วงขณะของชีวิตต้องมีคนอาวุโสอ่อนกว่าเรา เมื่อมีคนให้เกียรติเราในฐานะที่อาวุโสกว่า เราก็พึงที่จะรักษาเกียรตินั้น การรักษาเกียรติดังกล่าวมิใช่ด้วยการเอารัดเอาเปรียบผู้ที่อ่อนอาวุโสกว่าซึ่งให้เกียรติเรา แต่ต้องเป็น "การให้" แก่ผู้ให้เกียรติเรา "การให้"ดังกล่าวอาจจะเป็นการให้ความรู้ ให้ประสบการณ์ รวมทั้งการให้เกียรติแก่ผู้อ่อนอาวุโสกว่าด้วย