เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: chupong ที่ 09 ธ.ค. 10, 09:41



กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: chupong ที่ 09 ธ.ค. 10, 09:41
เรียนท่านอาจารย์เทาชมพู ตลอดถึงท่านสมาชิกเรือนไทยที่เคารพทุกท่านครับ

เมื่อรู้ข่าวการมรณภาพของหลวงพ่อบุญสม ปุณยวังโส ใจผมหายในฉับพลันครับ จริงอยู่ แม้ในชีวิตนี้จะไม่เคยกราบนมัสการท่านสักครั้ง แต่ผมจดจำรำลึกถึงท่านเป็นนิจ รำลึก ในขณะท่านยังเป็นคฤหัสถ์ผู้อุโฆษนาม แน่หละ บรรดาผู้ชอบฟังเพลงเก่า ไม่ว่าจะเป็นลูกทุ่ง ลูกกรุง หรือแนวไหนก็ตาม ย่อมต้องเคยยินชื่อเสียงของศิลปินสมยา “พร ภิรมย์” แม่นแท้ สำหรับผมนั้น นับถือท่านพร ภิรมย์ อย่างยิ่งยวด ด้วยผลงานประณีตวิจิตรในการประพันธ์เพลง ทั้งเพลงลูกทุ่งทั่วๆไป แหละ เพลงแหล่อันยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน (หรือที่ภาษาสมัยนี้เรียก ขั้นเทพ) และคิดว่าหลายๆท่านก็คงรู้สึกมิต่างกันครับ

   ผมจดจำเพลงแหล่ เนื้อหาเป็นนิทานสอนใจ ผลงานท่านพร ภิรมย์ได้บ้างบางส่วนครับ แต่ในเมื่อท่านเริ่มต้นเข้าสู่วงการเพลงด้วยการขับร้องเพลงลูกทุ่งทั่วๆไปก่อน จึงขอเริ่มกระทู้ด้วยเพลงแนวนี้เป็นปฐมครับ

   ถึงผมจะชอบ “บัวตูมบัวบาน”, “น้ำตาลาไทร”, “กระท่อมทองกวาว” ฯลฯ เหมือนหลายท่าน แต่ถ้าหากตั้งปรัศนีว่าเพลงใดโปรดปรานที่สุด ต้องยกให้เพลงนี้ครับ หนึ่งในดวงใจชั่วนิรันดร์ การเล่นคำ เล่นความ ยึดแบบขนบนิราศพรรณนาอย่างใกล้ชิด ข้อสำคัญ สำนวนซาบซึ้งตรึงใจนักหนา ฝีมือแบบนี้หละครับ ชั้นครู

ลานรักลานเท
โดย ท่านพร ภิรมย์

   รักพี่ยิ่งใหญ่ไพศาล
จึงตามนงคราญมาย่านลานรักลานเท
ลานเอ๋ยลานอย่ารานรวนเร
ขอลานจงเททุกข์ตรมความเศร้าเบาบาง

   เหลือทนจึงดั้นด้นมา
ฝ่าภัยนานามาสู่ลานน้อยคอยนาง
ใจหวังเชยชื่นชวนนวลปราง
รักเจ้าไม่จาง ไม่ขอยอมห่างลานเท

   ฝั่งกว้างว่างวุ้ง
พี่มองสุดคุ้งตรอมตรมไม่สมคะเน
เห็นเพียงเงาสาวบ้านลานเท
ไม่เลือนเสน่ห์ โฉมงามเจ้ามาให้พี่ชื่นใจ

   รักรานหรือเจ้ารวนเร
เจ้าลืมลานเทลานเก่าลานรักไปไย
โอ้ลานเทไม่เททอดใจ
ทิ้งความอาลัยฝากไว้บนฝั่งลานเท

   ครับ ส่วนตัวผมคงจบเพียงนี้ หวังว่าท่านผู้อ่านจะกรุณาเข้ามาร่วมแสดงความอาลัยท่านพร ภิรมย์ ในฐานะ ศิลปินผู้ยิ่งยง ปูชนียบุคคลอมตะผู้เป็นเอตทัคคะทางภาษาไทย โดยโพสต์เพลงของท่านพร ภิรมย์ที่ท่านประทับใจ รวมถึงหากท่านใดมีเกร็ดประวัติชีวิตของท่านพร ภิรมย์ ก็นำมาแลกเปลี่ยนเล่าสู่กันฟัง กระทู้นี้ก็จะมีชีวิตชีวาหาน้อยไม่ครับผม


ขอแสดงความนับถืออย่างสูงยิ่ง
ชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ






กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 10, 10:40
ขอให้ท่านไปสู่สุคติ ค่ะ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/4/44/Pondphirom.gif/180px-Pondphirom.gif)


ประวัติ จากวิกิ
พร ภิรมย์ (ปุญญวังโสภิกขุ) (29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 - 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลงชาวไทย ที่ใช้ดนตรีไทยเดิมเป็นพื้นฐาน เนื้อเพลงแนวนิทานชาดกแฝงธรรมะ มีชื่อเสียงจากเพลง "บัวตูมบัวบาน" และ "ดาวลูกไก่"

พร ภิรมย์ มีชื่อจริงว่า บุญสม มีสมวงษ์ เป็นบุตรของนายประเสริฐ และนางสัมฤทธิ์ มีสมวงษ์ ชาวอำเภอพระนครศรีอยุธยา จบชั้นมัธยม 3 จากโรงเรียนวัดบพิตรพิมุข มีความเชี่ยวชาญการร้องและเล่นดนตรีไทย ทำขวัญนาค พากย์หนัง และเข้ามาเล่นลิเก ใช้ชื่อคณะว่า "บุญสม อยุธยา" เล่นกับเสน่ห์ โกมารชุน มีชื่อเสียงโด่งดังจนครูมงคล อมาตยกุล ชักชวนมาอยู่ วงดนตรีจุฬารัตน์

พร ภิรมย์ ร้องเพลงอยู่กับวงดนตรีจุฬารัตน์หลายปี มีผลงานบันทึกเสียงประมาณ 200 เพลง เพลงที่ร้องส่วนใหญ่เป็นผู้แต่งเอง ในแนวนิทานชาดกแฝงธรรมะ ด้วยเทคนิคการแหล่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพลงแรกที่ได้รับความนิยมคือ "บัวตูมบัวบาน" ตามด้วย "ดาวลูกไก่", "ดาวจระเข้", "วังแม่ลูกอ่อน", "กลับเถิดลูกไทย" เป็นต้น

พร ภิรมย์ ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ในปี พ.ศ. 2509 ถึง 3 รางวัล จากเพลง บัวตูมบัวบาน และ ดาวลูกไก่ และในปี พ.ศ. 2514 จากเพลงกลับเถิดลูกไทย และได้รับรางวัลกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทย ในปี พ.ศ. 2532 จากเพลง บัวตูมบัวบาน และ พ.ศ. 2534 จากเพลง ดาวลูกไก่

พร ภิรมย์ บวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดรัตนชัย (วัดจีน) ตำบลหอรัตนชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ พ.ศ. 2524 จนถึงมรณภาพ ด้วยอาการปอดติดเชื้อ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553 สิริอายุ 82 ปี พรรษา 29



กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 10, 10:41
ขอนำเพลงของท่านมาลงให้ฟังกัน เป็นการระลึกถึงครูเพลงผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้

http://www.youtube.com/watch?v=azkyVsF5X48&feature=related


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 10, 10:42
บัวตูมบัวบาน

http://www.youtube.com/watch?v=6PQD3_prbMw&NR=1


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 10, 11:01
ดาวลูกไก่

http://www.youtube.com/watch?v=9cefqqyj3ZQ


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 09 ธ.ค. 10, 23:08
อ้างถึง
สำหรับผมนั้น นับถือท่านพร ภิรมย์ อย่างยิ่งยวด ด้วยผลงานประณีตวิจิตรในการประพันธ์เพลง ทั้งเพลงลูกทุ่งทั่วๆไป แหละ เพลงแหล่อันยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน (หรือที่ภาษาสมัยนี้เรียก ขั้นเทพ) และคิดว่าหลายๆท่านก็คงรู้สึกมิต่างกันครับ

เห็นด้วยกับคุณชูพงศ์ค่ะ ท่าน พร ภิรมย์ สำหรับดิฉันแล้ว ท่านเหมือนเทพมาเกิด เพื่อทำหน้าที่ใช้ศิลปะสื่อสารให้คนเข้าถึงสัจจะธรรม

ดิฉันฟังแหล่ของท่านตั้งแต่เด็ก จำขึ้นใจ โดยเฉพาะ ดาวลูกไก่ จนวันนี้ หากเปิดเทปให้สี่ขาสุดที่รักของดิฉันฟัง

เขาจะนอนหมอบนิ่งจนถึงตอนที่ ลูกไก่โดดเข้ากองไฟ ตายตามแม่ไก่นั่นแหละ น้ำตาสี่ขาก็หลั่งพรุ่งพรูลงมาเปียกแก้ม


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: chupong ที่ 10 ธ.ค. 10, 10:26
กราบขอบพระคุณครับ ท่านอาจารย์เทาชมพู ที่กรุณานำเสียงท่านพร ภิรมย์ มาให้พวกเราชาวเรือนไทยฟัง สำเนียงอย่างนี้ ยังตรึงจิตติดวิญญาณ์ผมไม่จางครับ

   “ดาวลูกไก่” กลายเป็นตำนานเพลงอันอำนรรฆไปแล้วครับอาจารย์ ผมฟังเพลงนี้มาแล้วนับรอบไม่ถ้วน อีกเพลงหนึ่งซึ่งฟังทีไรก็ขนลุกซู่ทีนั้นคือแหล่ชุด “ริมไกรลาส” (ทั้งตอน ๑ และ ๒) ครับ ประทับใจทั้งแม่โค ลูกโค แม่เสือ สัตว์ทั้งหลายในเรื่องล้วนมีคุณธรรมทั้งนั้น แม่โคถือสัจจะ ลูกโคกตัญญู ฝ่ายแม่เสือแม้ดุร้าย แม้กระหายหิวเพียงไรก็ยังรู้จักความละอาย แล้วก็แอบสะใจลึกๆครับ ที่ท่านพร ภิรมย์ ทิ้งท้ายด้วยการเหน็บแนมแบบค่อนข้างแรงว่า:

   “สัตว์บางตัวกลัวบาป มนุษย์ไม่ทราบใจสัตว์
รู้จักผลัดหนักเบา ไม่เหมือนคนบางเหล่าศีลกร่อน
ริมไกรลาสหิมพานต์ ก็จบนิทานคำกลอน”

   จะหาเพชรน้ำหนึ่งเฉกท่านคงยากนัก เสียดายเหลือเกินครับอาจารย์ 


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: chupong ที่ 10 ธ.ค. 10, 10:59
คุณสมบัติเด่นของท่านพร ภิรมย์ ข้อหนึ่งในบรรดาหลายข้อซึ่งผมคารวะ นั่นก็คือ ท่านเข้าถึง และลึกซึ้งในวรรณคดีไทยของเราโดยไม่ทอดทิ้ง งานแหล่ของท่านหลายชิ้นก็ใช้วรรณคดีนี่แหละครับเป็นแรงบันดาลใจ ผมขออนุญาตสาทกสักตัวอย่างนะครับ ไม่แน่ใจว่าเพลงนี้จะชื่อ “รจนา” หรือเปล่า ผมจำเนื้อได้ขึ้นใจ แต่ชื่อเพลงยังรัวๆรางๆครับ หากท่านใดมีข้อมูลชัด โปรดปรานีผมด้วยเถิดครับ

   รจเอยรจนา
เจ้าเกิดมาด้วยกุศล
เป็นธิดาท้าวสามนต์
เทพเดินหนดลใจนาง

   เสี่ยงรักด้วยมาลัย
ให้ยอดชู้เพราะคู่สร้าง
สามนต์หมดหนทาง
แทบล้มผางลงกลางดิน

   โทสะกระทืบบาท
ร้องตวาดไม่ถวิล
รจนาสร้างราคิน
ดั่งดูหมิ่นท้าวสามนต์

   ร้อยเอ็ดเจ็ดหัวเมือง
จักเลื่องลือเสียชื่อตน
ธิดาท้าวสามนต์
คนสุดท้องพาหมองมัว

   โฉมเจ้ารจนา
สิเนหาเงาะผู้ผัว
คู่ครองทองทั้งตัว
รูปนอกชั่วปิดรูปใน

   พวกพี่มีโมหา
มีนัยน์ตาหาแววไม่
อวิชามาคลุมใจ
จึงไม่เห็นเงาะเป็นทอง

   ถูกขับออกนอกเขต
พระนิเวศมาทั้งสอง
เจ้าเงาะเคาะตระบอง
เดินยิ้มย่องพาเมียจร

   มาปลูกเป็นกระท่อม
หลังย่อมย่อมท้ายนคร
สองสุขสโมสร
ไม่เดือดร้อนด้วยเรื่องไร

   ฝูงชนอย่าแบ่งชั้น
เหยียดหยามกันผิดวิสัย
จนมีผู้ดีไพร่
ไม่มีผลพ้นกองฟอน

   ความรักตามหลักแท้
ย่อมนั่งแคร่แลหลุมขอน
รจนาพะงางอน
ตอนสุดท้ายสบายเอย





กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 12 ธ.ค. 10, 17:30
นำมาฝากคุณชูพงศ์ค่ะ
@พรภิรมย์พิราลัย@
       
       @ พระพ่อครู "พรภิรมย์"
       พ่อ "บุญสม อยุธยา"
       พ่อเพลงแหล่เพลงลา
       ลูกขอคารวาลัย
       
       @ ทั้งบัวตูมบัวบาน
       ร่วมประสานสอดร้อย
       เด็ดสายบัวหักห้อย
       เป็นสร้อยบัวบูชาไหว้
       
       @ พระธุดงด์ลงกลด
       ตะวันก็หมดแสงส่อง
       เชิญดาวพรพิรมย์ผ่อง
       เคียงประคองดาวลูกไก่
       
       @ สถิตแดนสุขาวดี
       ชมฉิมพลีพิมานมาศ
       เพลินชมป่าดาระดาษ
       รุกขชาติช่อไม้
       
       @ สร้างบุญสมเป็นศิษย์
       คุณหลวงประดิษฐ์ไพเราะ
       พิณพาทย์ฆ้องซร้องเสนาะ
       พรภิรมย์พิราลัย
       
       @ กตเวทิตาคุณ
       สั่งสมบุญสมบุญสม
       เชิญเสวยทิพยารมย์
       ณ พรภิรมย์เทวาลัย ฯ
       
       
       เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
       พ.๘/๑๒/๕๓


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: chupong ที่ 13 ธ.ค. 10, 10:11
ขอบพระคุณคุณร่วมฤดีอย่างยิ่งครับ ที่กรุณานำบทกวีของท่านอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ มาลงไว้ในกระทู้นี้ ในบทกวี กล่าวพาดพิงถึงเพลงจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ล้วนเป็นเพลงชั้นเซียนทั้งนั้น ผมว่า เพลงของท่านพร ภิรมย์ เป็นอกาลิโกนะครับ คือสารัตถะหลักยังคงใช้สอนใจได้เสมอ ท่านเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่อมรรตัยครับ
 


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 13 ธ.ค. 10, 11:17
คุณชูพงศ์คะ

ดิฉันเชื่อว่า ท่านพรภิรมย์ เป็นผู้มีบุญมาเกิด บุญที่ว่า ไม่ใช่บุญที่สะสมมาเพื่อรับทรัพย์สิน
แต่ท่านสะสมปัญญาบารมีในการเผยแผ่ธรรมด้วยวิธีการใช้ศิลปะทางภาษาและการร้องให้ผู้ฟังเข้าถึงรสพระธรรมได้กินใจ

คนบางคน มีความดีที่สะสมมาในอดีต(เขาเรียกกันว่าบารมี) ในการเทศนา บางคนก็ เขียนหนังสือ บางคนก็เป็นครู บางคนก็เป็นกวี บ้างก็สร้างหนังสร้างละครเื่พอเตือนใจคน บางคนก็วาดภาพ (เช่นภาพในหนังสือมหาชนก) ล้วนมุ่งเสนอธรรมเตือนใจคนทั้งสิ้นค่ะ

แม้แต่ท่านเจ้าเรือนของเรา ละครแต่ละเรื่อง กินใจและ สะเทือนกิเลสคนไม่มากก็น้อยนะคะ

แต่ละคน ล้วนเกิดมาเพื่อทำประโยชน์ตนและประโยชน์เพื่อผู้อื่น

ศิลปะ และ ศิลปิน ไม่ใช่ของไม่ดี แต่มีประโยชน์มากหากใช้ให้เป็น


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 10, 11:34
สิปฺปญฺ จ เอตมฺมํคลมุตฺตมํ 
ความมีศิลปะ เป็นมงคลสูงสุด
 
ชอบกลอนบทนี้ของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ มากค่ะ  ตั้งใจจะนำมาลงในกระทู้ แต่ยังไม่ทันทำ
เห็นคุณร่วมฤดีนำมาลงแล้วดีใจ ที่ใจตรงกัน
 


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: chupong ที่ 13 ธ.ค. 10, 15:59
สวัสดีครับ คุณร่วมฤดี

   มายกมือเห็นร่วมด้วยกับคุณร่วมฯ ทุกประการขอรับ หน้าที่ในการถ่ายทอดพระธรรมนั้นทุกคนมีเหมือนกันหมด ไม่จำเป็นจะต้องเป็นสมณะ คฤหัสถ์ก็ทำได้ถ้าหัวใจมีธรรมครับ

   เรียนท่านอาจารย์เทาชมพูที่เคารพยิ่งครับ

   จากที่คุณร่วมฤดีกล่าวไว้ว่า
   “แม้แต่ท่านเจ้าเรือนของเรา ละครแต่ละเรื่อง กินใจและ สะเทือนกิเลสคนไม่มากก็น้อยนะคะ” ผมจึงถือโอกาสสารภาพกับอาจารย์ตรงนี้ครับ ว่าอาจารย์คือนักเขียนท่านหนึ่งในบรรดาหลายๆท่านซึ่งผมบูชาคารวะเป็นนิตย์ครับ แม้จะยังอ่านผลงานอันมากมายของอาจารย์ไม่หมดก็ตาม (แน่หละ สำหรับคนตาบอดที่ต้องอาศัยผู้อื่นอ่านให้ฟัง จะหมดได้ฉันใด)

   ในนามปากกา “ว. วินิจฉัยกุล” ผลรัก “คุณชาย” มาก เพราะคติสอนใจจากเรื่องนี้เลิศล้ำนัก โดยเฉพาะ “เกิดอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญอยู่ตรง คุณเลือกที่จะเป็นอย่างไรต่างหาก”

   ส่วนนามปากกา “แก้วเก้า” ผมรัก “ผ้าทอง” กับ “บารมีพระแม่ป้อง ปกพื้นธรณิน” มากครับอาจารย์
 


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 10, 17:28
ขอบคุณมากค่ะ   
สถานีวิทยุศึกษา(หรือที่ไหนสักแห่งของกระทรวงศึกษาฯ) เคยนำนิยายของดิฉันไปอ่านเป็นละครวิทยุอยู่หลายเรื่อง ก็อนุญาตไปทุกครั้ง
ไม่ทราบว่าหลังๆนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า

ขอนำลงเพลง จำใจจาก และ กระท่อมทองกวาว  เป็นที่ระลึกถึงท่าน อีกครั้ง

http://www.youtube.com/watch?v=npKZ2RBlLng

http://www.youtube.com/watch?v=-0ecdE3nzFc&feature=related


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: chupong ที่ 14 ธ.ค. 10, 11:14
เรียน ท่านอาจารย์เทาชมพูที่เคารพยิ่งครับ

   นวนิยายของอาจารย์ซึ่งผลิตโดยหน่วยงานราชการอันอาจารย์กล่าวถึงนั้น ที่เสร็จออกมาเป็นแผ่นซีดีแล้วยังมีครบครับ ส่วนจะมีเรื่องใดรอการผลิต หรือกำลังผลิตอยู่ ข้อนี้ ผมสุดรู้ครับ ได้แต่รออนาคตครับอาจารย์

   ผมย้อนกลับขึ้นไปอ่านบทกวีของท่านอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่คุณร่วมฤดีนำมาลง พบคำว่า “ชมป่า” เข้า ก็เลยขออนุญาตใช้เนื้อที่ของกระทู้ประกาศตามหาเพลงนี้ครับ ท่านใดมีเนื้อเพลง หากจะกรุณาอนุเคราะห์นำลงก็จะเป็นพระคุณยิ่ง ผมไม่กล้าพิมพ์เนื้อเพลง เนื่องด้วย เสี่ยงต่อการผิดพลาดเหลือเกินครับ ชื่อต้นไม้นานาพันธุ์เป็นวิสามัญนาม ทั้งการเล่นคำก็อลังการเอกอุ เป็นต้นว่า:
   “ยางใหญ่ใบย่นกิ่งโยนลูกเยอะ
ยางยืดหยำเหยอะลูกเยอะยางใหญ่”
   ผู้ที่สามารถประดิษฐ์ถ้อยร้อยเรียงได้เพียงนี้ จะต้องเป็นมหาเศรษฐีแห่งภาษา แหละนี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงอัจฉริยภาพของท่านพร ภิรมย์ ครับ
 



กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 10, 12:33
ค้นกูเกิ้ล หาเพลงชมป่า ไม่เจอ
เจอแต่เพลง เรือนหอรอสวรรค์   เข้าไปที่ลิ้งค์นี้ค่ะ จะได้ยิน

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=10000sword&month=11-2007&date=19&group=8&gblog=4



กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 ธ.ค. 10, 13:56
ชื่อเพลง ชมดง

คำร้อง :ทำนอง พร ภิรมย์

เพลินชมป่าดารดาษ รุกขชาติดื่นดาษไป
โน่นพิกุล ยอดกุ้นต้อก้อ แตกก้านก่อกอระกะกิ่งไกว
แก้วเกดแกมกันกางกั้นโก่งกิ่ง เกลื่อนกลาดลูกกลิ้งพันกิ่งคานไก่
ลำเจียกขจีสิ้นจี่ขจร ลินจงต้นจ้อนขจรชื่นใจ
สะตือสะตอติดต่อต้นเต็ง ใบโตลูกเต่งต้นเต็งแข็งไต
ยางใหญ่ใบย่นกิ่งโยนลูกเยอะ ยางยืดหยำเหยอะลูกเยอะยางใหญ่
กระทิงเที่ยวท่องเมียท้องแล้วทิ้ง ทุกข์แทนกระทิงผัวทิ้งช้ำใจ
ละมั่งเดินเมียงเข้าเคียงตัวเมีย คลุกเคล้าคลอเคลียเหมือนมีผัวใหม่
ฝูงแรดช้างร้องตามร้องป่าร้าง เจ้าแรดเหลียวหลังโดนลิงวิ่งไล่
สมันปนเม่นมันเดินเล่นตามหมู่ โน่นหมีตามหมูเข้าหมู่กอไม้
โน่นช้างชนกันแย่งต้นอ้อยช้าง แทงฉาดเลือดฉ่างช้างดุพอใช้
จิ้งจอกเที่ยวจรตามดอนป่าแจง เรื่องไรไม่แจ้งร้องหอนจับใจ
นกยูงหางใหญ่มันรำไม่ใคร่หยุดหย่อน ขยับขย้อนบนยอดลำไย
นกเงือกชะง่อนแบกหงอนชะโงก ซบเซาเศร้าโศกสิ้นสุขสดใส
โน่งนกกาเหว่าเจ้าบินนะผวา มาเจอต้นหว้าที่หมายตาเอาไว้
ลูกหว้าร่วงวายเสียดายลูกหว้า กาเหว่าไม่มาลูกหว้าไสว
กาเหว่าบินมาทำไมลูกหว้าร่วงหมด กาเหว่าต้องอดสลดหัวใจ
โลกนี้อนิจจังอย่าหวังนึกแน่ ไม่เที่ยงไม่แท้ย่อมแปรเปลี่ยนไป
กาเหว่าอดหว้าเสมือนดังข้าหมดหวัง วิมานรักพังนะพลาดพลั้งเผลอไผล
ต้องใช้ธรรมะช้ำระบั่นรอน มีให้นิวรณ์มากร่อนจิตใจ
เหมือนข้าวหนีเคียวไม่เกี่ยวหญิงใด ไม่ขอช้ำใจเช่นกาเหว่าเอย

http://www.youtube.com/watch?v=s3H1Euy02Mc

 ;D


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: chupong ที่ 14 ธ.ค. 10, 14:26
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เทาชมพูอย่างยิ่งครับ สำหรับเพลงโรแมนติกเพลงนี้ ฟังแล้ว อยากมีชีวิตแบบนั้นบ้าง ผมชอบ ”ลมโชยโรยลอยสำออยดอกไม้” มากครับ โอ้ สุดยอดโวหารบุคลาธิษฐานแท้ๆ

   ขอบพระคุณคุณเพ็ญชมพูเป็นอเนกครับ ที่เมตตานำเพลงชั้นเซียนเหยียบเมฆ “ชมดง” มาเผยแพร่ นี่อย่างไรเล่าครับ พยานยืนยันว่า ท่านพร ภิรมย์ เข้าถึงความงามของภาษาไทยอย่างล้ำลึก ครูเพลงซึ่งมีความเป็นกวีในทุกคีตะที่ประพันธ์ สูญเสียท่าน จึงเป็นการสูญสิ้นครั้งใหญ่ของวงการเพลงไทยอีกคราหนึ่งครับ
 
 


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 10, 15:10
มัวไปชมป่าเลยไม่เจอเพลงนี้  ส่วนคุณเพ็ญชมพูตรงแน่วเข้าไปชมดง เลยเจอ
ไม่เคยได้ยินเพลงนี้ค่ะ  แต่คุณพร ภิรมย์เขียนเนื้อได้วิจิตรพิสดารมาก


กระทู้: อาวรณ์ "ท่านพร ภิรมย์"
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 16 ธ.ค. 10, 11:21
  ร่วมอาวรณ์ หลวงพ่อ “พร ภิรมย์”

พร ภิรมย์ พรมเพลงเพราะ เสนาะไว้

“เห่ฉิมพลี” “ดาวลูกไก่” “ดาวจระเข้”

ทั้ง “บัวตูมบัวบาน”  “ลานรักลานเท”

หลายพลงเห่ หลากเพลงแหล่ ซึ้งแท้ธรรม

๐“จำใจจาก” ขอฝากฝัง “วังแม่ลูกอ่อน”

เสียงคำวอน “กลับเถิดลูกไทย” อย่าไปถลำ

เกาะ “ไม้หลักปักเลน” ก็เอนคมำ

สิ้นเวรกรรม หลั่ง “น้ำตา- ลาไทร”เอย