เมื่อ ๓ ปีที่แล้ว ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ James N. Meindl ผู้ช่วยศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเมมฟิส และ Jonathan W. Ivy ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ได้เขียนบทความวิชาการเรื่อง
Mass Shootings: The Role of the Media in Promoting Generalized Imitation ในวารสาร American Journal of Public Health ชี้ว่า ค่าเฉลี่ยของเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในสหรัฐ จะเกิดขึ้นซ้ำอีกภายใน ๑๒.๕ วัน โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการเลียนแบบพฤติกรรม
รองศาสตราจารย์ปณิธาน วัฒนายากร ได้เก็บความสำคัญจากบทความไว้ดังนี้
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ศึกษาเรื่องนี้มากว่า ๕๐ ปีแล้ว และมีข้อแนะนำที่น่าสนใจว่า
๑. ไม่ควรใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปในการรายงานข่าว
๒. ไม่ควรพาดหัวข่าวใหญ่โตเกินไป
๓. ไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นเพราะสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง เพราะในความเป็นจริง จะมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน
๔. ไม่ควรจะรายงานซ้ำ ๆ หรือย้ำบ่อย ๆ
๕. ไม่ควรจะนำเสนอขั้นตอนการสังหารโดยละเอียด อันจะนำไปสู่การลอกเลียนแบบ หรือการเรียนรู้ได้ง่าย
๖. จำกัดการนำเสนอของรูปภาพและคลิปวีดิโอให้น้อย เพื่อลดผลกระทบลง
๗. ระมัดระวังในการนำเสนอ ไม่ให้ผู้กระทำผิดถูกยกย่องชื่นชมหรือเป็นแบบอย่าง รวมทั้งเรื่องการสังหารตัวเอง
ซึ่งข้อแนะนำดังกล่าว ทางรัฐบาลอเมริกัน โดย FBI ได้นำไปเป็นนโยบายในการสื่อสารชื่อว่า “อย่าไปเอ่ยชื่อเขา” (Don’t Name Them) และได้นำไปใช้ในกรณีที่อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรือนจำชาวอเมริกันที่มีพ่อแม่อพยพมาจากอัฟกานิสถานได้สังหารคนที่มาเที่ยวไนต์คลับไป ๔๙ คนและบาดเจ็บอีก ๕๓ คน ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เมื่อหลายปีก่อนนอกจากนี้ James Meindl และ Jonathan Ivy ยังได้มีข้อเสนอที่น่าสนใจในการสื่อสารอีก ๖ ประการ คือ
๑. สื่อสารให้เห็นถึงความน่าละอาย การละเมิดศีลธรรม จรรยาบรรณ ความขลาดกลัวของมือสังหาร ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ผู้ทำผิดถูกชื่นชมหรือยกย่อง
๒. หลีกเลี่ยงการอธิบายเหตุผลของมือสังหาร เพราะซับซ้อน และจะทำให้คนอื่นที่มีปัญหาคล้าย ๆ กัน อาจเลือกแนวทางรุนแรงเป็นทางออกได้
๓. ลดเวลาออกอากาศให้สั้นหรือให้พื้นที่การสื่อสารให้น้อย เพราะการให้เวลาหรือให้พื้นที่สื่อมาก ๆ จะเป็นการให้รางวัลและเพิ่มสถานะทางสังคมของผู้ทำผิด
๔. ควบคุมการให้ข่าวและการแถลงข่าวสดหลังเหตุการณ์ ถึงแม้ว่าอาจจะมีความต้องการบริโภคข้อมูลเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้เกิดความน่าสนใจหรือ “ความตื่นเต้น” เกินความจำเป็น
๕. นำเสนอแต่ข้อเท็จจริงสั้น ๆ อย่าผลิตหรือทำซ้ำอะไรที่เป็น “ดราม่า” โดยเฉพาะไม่ควรพาดหัวว่า “Breaking News” เพื่อสร้างความเร้าใจเพิ่มขึ้น
๖. ไม่ควรลำดับเหตุการณ์โดยละเอียดทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการสังหาร เพราะรายละเอียดเหล่านี้จะถูกนำไปลอกเลียนแบบได้ง่าย
https://www.facebook.com/100000122931524/posts/3361808323833232/