ถือเป็นการคุยกันนะครับ กรุณาอย่าคิดว่าความเห็นของผมจะถูกต้องกับความคิดของผู้ที่สร้างรุ้ง จิตเกษมขึ้นมาในโลกวรรณกรรม
รุ้ง มีเค้าของหลายบุคคลที่ม.ร.ว. นิมิตรมงคลรู้จักคุ้นเคยรวมกัน ถ้าจะไม่อ้อมค้อม ในเรื่องวิถีชีวิตเบื้องต้น ท่านสิทธิพรน่าจะเป็นต้นแบบของนักเรียนนอกที่กลับมามีหน้าที่ราชการอันคนทั่วไปเห็นว่ารุ่งโรจน์ดี ทว่าการศึกษาที่ได้รับแบบคนอังกฤษทำให้ท่านทรงมีความคิดอ่านที่ต่างกับคนไทยทั้งปวง รุ้งก็เป็นคนเช่นนั้น แต่รุ้งไม่ใช่ลูกเจ้านายที่จะไปเรียนเมืองนอกด้วยทุนทรัพย์อย่างอื่นนอกจากจะได้ทุน รุ้งก็เลือกที่จะเป็นนักเรียนทุนคิงส์เหมือนคุณสอ เสถบุตร และก็ลาออกจากงานราชการเพราะไม่สามารถทำงานกับพวกคณะราษฎร์ได้เหมือนกัน แต่รุ้งมิได้ไปเป็นนักหนังสือพิมพ์อย่างคุณสอ รุ้งตั้งใจออกไปบุกเบิกงานเกษตรบนที่ดินของครอบครัวเช่นเดียวกับท่านสิทธิพร
ส่วนแนวคิดของรุ้ง ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นแนวคิดของม.ร.ว. นิมิตรมงคลเองที่ได้มาจากประสพการณ์ในยามเป็นอิสระชน และยามอยู่ในคุกอันเสมือนเป็นบัณฑิตวิทยาลัยที่ ม.ร.ว. นิมิตรมงคลที่ใช้เวลากว่า5ปีเป็นนักเรียนประจำ อยู่กับตำรับตำราและครูบาอาจารย์นักเรียนนอก การได้อ่านหนังสือที่ท่านเหล่านั้นขนเข้ามา ได้ฟัง ได้ร่วมถกร่วมคุย ล้วนประเทืองปัญญาที่ทำให้เกิดความคิดอ่านของตนเอง หลังการตกผลึกแล้ว จึงได้นำเสนอออกมาในนวนิยายเล่มนี้
รุ้ง จึงถูกวางตัวให้เป็นนักอุดมคติ นักอุดมคติเป็นเอกพจน์ ในสังคมทุกวันนี้ก็มีไม่น้อย จะเป็นอุดมคติทางใดก็ได้ที่มุ่งกระทำตนโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนเป็นกล่องหรือเป็นเงินก็แล้วกัน
อุดมคติเป็นของใครของมัน คนอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร ฉันก็จะเป็นของฉันอย่างนี้ ส่วนอุดมคติที่เป็นพหูพจน์จะเรียกว่าอุดมการณ์ นักปฏิบัติจะเอาทฤษฎีที่นักอุดมคติสร้างขึ้นไปวางเป้าหมาย โน้มน้าวให้คนหมู่มากเห็นด้วยและเข้ามาร่วมทำงานให้บรรลุถึงจุดนั้น อุดมการณ์จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมืองมันอาจกลายเป็นพรรค หรือลัทธิไปได้เหมือนกัน
นักอุดมคติทางการเมือง ถ้ามีคนเห็นด้วยมากๆจนตั้งเป็นอุดมการณ์ขึ้น ถ้าต้องการให้บรรลุผลแล้วส่วนใหญ่ต้องมีเลือดตกยางออก ถ้าเป็นเลือดของฝ่ายตรงข้ามก็จะมีเยอะแยะ ไม่ต้องยกตัวอย่าง แต่เลือดของนักอุดมคติเอง ที่ดังๆก็มหาตมะคานธี หรือเนลสัน แมนเดลาที่ติดคุกหัวโต
ถ้ารุ้งเป็นนักอุดมคติมีความฝันและไม่ใช่แค่ฝันลมๆแล้งๆ เชื่อว่าคงนิ่งเฉยมือไม่พายอยู่ไม่ได้แน่ๆ
ผมไม่อยากเดา แต่ที่รุ้งลาผู้อ่านไปสู่ความตายก็เป็นตอนจบที่เหมาะสมแล้วสำหรับนักอุดมคติที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย หรือมิฉนั้น หากมีชีวิตรอดพ้นมาได้ รุ้งก็คงเป็นได้ดีที่สุดเท่ากับที่ท่านสิทธิพรได้ทรงเป็นไปแล้วแต่ผู้เขียนไม่มีโอกาสได้เห็น (ได้อ่านเรื่องของม.จ. สิทธิพร กฤดากร ในชีวิตและผลงานของม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน หรือยังครับ) นั่นน่ะทรงเป็นพระเอกตัวจริง ในโลกแบบไทยๆที่สิ่งแวดล้อมทางสังคมเป็นอุปสรรคตรงคนส่วนใหญ่ด้อยการศึกษา มีความเข้าใจประชาธิปไตยแค่สิทธิที่จะไปหย่อนบัตรเลือกตั้ง แลกกับสินน้ำใจจากผู้สมัครเป็นธนบัตร และสัญญาลมๆแล้งๆว่าจะทำให้ร่ำรวยกันได้ทั้งแผ่นดิน นักการเมืองที่มีอุดมคติ เป็นสุภาพบุรุษและมีธรรมชาติของสันติชนที่ไม่นิยมใช้วิธีการรุนแรงให้ได้มาซึ่งอุดมการณ์ของตน ทำงานเพื่อชาติและประชาชนได้เท่าท่านสิทธิพรก็ประเสริฐที่สุดแล้ว
หรือมิฉนั้นมีอีกแนวหนึ่งหากเลือกเป็นนักเขียน รุ้งคงได้เขียนวิพากษ์รัฐบาลได้อย่างสะดวกมือ เพราะทุกวันนี้สื่อมีเสรีภาพแทบจะไร้ขอบเขต แต่จะบานปลายไปถึงจัดตั้งกลุ่มผู้ร่วมอุดมการณ์ขึ้นมาสักสีหนึ่งหรือไม่ อย่าไปสนใจเลยครับ พระท่านว่าเป็นเรื่องอจินไตย