เรือนไทย

General Category => ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 13:45



กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 13:45
  อนึ่งข้าสดุดีแด่พระองค์ มะหะเด่วผู้ทรง
สุรภาพก่อโลกา
  อันท่านธารอินทชฎา ทัดจันทรจุฬา
มณีเถลิงโคไคล
  ไหว้วิษณุเทพผู้ไกร อันทรงจักรไฟ
แลสังข์คทาธรณี
  ครบทั้งสี่มือครวี ขี่ครุฑอันมี
พหลกำลังโบยบิน
  โสดข้าบังคมพรหมินทร์ ผู้เจ้าแดนดิน
จรรโลงดิลกจักรพาฬ
  นบวิฆเนศมหิบาล ผู้เป็นครูการย์
ให้เกิดสวัสดิมงคล
  ชุลีเวสสุกรรม์วิมล อัญชาญการสกล
ด้วยเทวฤทธิรจนา
  จงท้าวทั้งห้าผู้ปรา- กฏได้เมตตา
อำนวยสวัสดิพรไชย
  ให้เรืองวิทยปัญญาไว เห็นการทั่วไป
อย่ามีที่ขัดเคืองครือฯ

คำบูชาเทวดาของเก่า

(มะหะเด่ว महादेव = มหาเทพ คือพระอิศวร)

ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อยู่คู่สังคมไทยมาช้านานกับพระพุทธศาสนา มีบทบาทในการพระราชพิธี การปกครอง ความเชื่อ ฯลฯ หลายอย่าง กระทู้นี้ขอรวบรวมภาพเทวรูปไสยศาสตร์จากตำราในหอสมุดแห่งชาติมาเผยแพร่ กรมศิลปากรเคยรวบรวมพิมพ์ไว้ในหนังสือตำราภาพเทวรูป และเทวดานพเคราะห์ แต่ภาพจากสมุดไทยดำเมื่อพิมพ์กลับเป็นสีส้ม



กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 14:27
ประเดิมด้วยตำราเทวรูปไสยศาสตร์ เลขที่ ๗๐ สมุดไทยดำ เขียนด้วยหรดาลเป็นสีเหลืองและหรดาลปนชาดเป็นสีชมพู สันนิษฐานว่าพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ พระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ทรงดำริสร้างในรัชกาลที่ ๔ และเป็นต้นแบบให้กับจิตรกรรมบานประตู-หน้าต่างของอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า)

๏ รูปนี้คือองค์พระสยมภูวนาท

สยมภูวนาถ = พระผู้เป็นเอง คือพระศิวะ



กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 15:00
(ไม่มีข้อความกำกับ ไม่ทราบว่าฤๅษีท่านใด)

รูปพระฤๅษีกไลยโกฏิ์

ฤๅษีกไลโกฏ อินเดียเรียกว่าฤษยะสฤงค์ (ऋष्यशृंग) ส่วนชื่อกไลโกฏเป็นภาษาทมิฬ กไลโกฏมุนี (கலைக்கோட்டு முனிவர்) แปลว่าหน้าเนื้อ รามเกียรติ์ว่าเป็นบุตรของฤาษีอิสีสิงฆ์และมีมารดาเป็นกวางทราย อาศัยอยู่ในป่าสาลวัน กรุงโรมพัตตัน บำเพ็ญตบะจนเกิดความแห้งแล้ง ฝนไม่ตกสามปี ท้าวโรมพัตจึงให้นางอรุณวดี ราชธิดาไปทำลายตบะของฤๅษี นางอรุณวดีจึงเปลื้องอาภรณ์ที่ปิดบังท่อนบนของกายาออกเหลือติดกายไว้บ้างก็แต่เพียงเครื่องประดับ ฤๅษีกไลโกฏไม่เคยเห็นสตรีเพศมาก่อน ครั้นเมื่อเจอนางอรุณวดีในสภาพเปลือยเปล่าครึ่งท่อน จึงตบะแตกและถูกเชิญเข้าไปอยู่ในวัง เมื่อท้าวทศรถ กษัตริย์แห่งกรุงอยุธยาตั้งพิธีขอลูก ฤๅษีกไลโกฏมาอำนวยการพิธี และเป็นประธานคณะฤๅษีไปเฝ้าพระอิศวร ทูลขอให้เชิญพระนารายณ์มาเกิดเป็นพระราม รามายณะว่าเป็นหลานของฤๅษีกัศยปะ บำเพ็ญตบะจนแคว้นอังคะแห้งแล้ง ท้าวโลมบาทจึงนำนางโสเภณีมาล่อพระฤาษี และได้ถวายนางศานตา ธิดาของพระองค์ให้พระฤๅษี ฝนจึงตกตามปกติ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 15:33
๏ พระพลเทพย์ไถนา ๚ะ๛

พระพลเทพ (बलदेव) หรือพระพลราม (बलराम) อินเดียว่าเป็นบุตรคนที่ ๗ ของวาสุเทพกับนางเทวกี พี่ชายของพระกฤษณะ เดิมเป็นอวตารของพระวิษณุปางที่ ๘ ในทศวาตารฉบับดั้งเดิม เมื่อเกิดพุทธาวตารจึงแก้ให้เป็นอวตารของเศษนาค (ในภาควัตปุราณะระบุว่าเป็นอวตารปางที่ ๑๙ ของพระวิษณุ) พระพลรามมีผิวกายสีขาว อาวุธคือกระบองและคันไถ มีนิสัยชอบดื่มสุราอย่างมาก ชายาชื่อนางเรวตี บุตรีท้าวกกุทมิน ส่วนไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เป็นเทพยดาที่ตามเสด็จพระบรมจักกฤษณ์ไปปราบพาณาสูรที่กรุงรัตนา

๏ รูปพระฤๅษีเทวบิศ ๚

ยังไม่ทราบข้อมูล




กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 16:36
๏ รูปพระประเมศวรเหยียบมูลาคะนี ๚ะ๛

ปรเมศวร परमेश्वर = ผู้เป็นใหญ่ยิ่ง คือ พระอิศวร

ของอินเดียว่าเป็นปางที่พระศิวะกับพระนารายณ์มาปราบพวกฤๅษีในป่าตารกะที่ประพฤติอนาจารฝ่าฝืนเทวบัญญัติ จึงทรงฟ้อนรำทำปาฏิหาริย์ ขณะนั้นมียักษ์ค่อมตนหนึ่งชื่อ มุยะละกะ (முயலகன்) มาช่วยพวกฤๅษี พระศิวะก็เอาพระบาทข้างหนึ่งเหยียบยักษ์ค่อมนั้นไว้ แล้วทรงฟ้อนรำต่อไปจดหมดกระบวน พวกฤๅษีก็สิ้นทิฐิ ยอมรับผิด ทูลขอขมาโทษแก่พระเป็นเจ้าทั้งสอง เมื่อทรมานฤๅษีสำเร็จแล้ว พระศิวะเสด็จกลับคืนไปยังเขาไกรลาส พระนารายณ์ก็เสด็จกลับคืนไปยังเกษียรสมุทร ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า มีอสุรพรหมตนหนึ่งชื่อ มูลาคะนียักษ์ เกิดพร้อมด้วยแผ่นดิน ได้พรจากพระเป็นเจ้าทั้งสาม มีจักษุเป็นเปลวไฟ เที่ยวเบียดเบียนทั้งสามโลก บรรดาฤๅษีไปทูลพระอิศวร พระอิศวรจึงเสด็จลงมาปราบมูลาคะนี มูลาคะนีลืมตาเป็นไฟล้อมพระอิศวรไว้โดยรอบ พระอิศวรจึงสำแดงเทวฤทธิ์ขึ้นเหยียบเหนือหลังมูลาคนี พร้อมเปิดท่อน้ำท่อเพลิงออกมาจากช่องพระกรรณ ให้ตกต้องถูกศีรษะมูลาคะนี มูลาคะนีก็สิ้นฤทธิ์ตาที่เป็นไฟนั้นก็สูญไป พระอิศวรเป็นเจ้าจึงสาปมูลาคะนีให้เป็นกรุงพาลี เที่ยวกินกระบาลอยู่ในมนุษยโลก ในเวลาที่มนุษย์โลกจะกระทำการมงคลพิธีทั้งปวงชั่วภัทรกัลป์หนึ่ง

๏ พระนารายน์เสดจไปคิชบันพต ๚ะ๛

นารายณ์ नारायण = ผู้ที่ได้เคลื่อนไหวอยู่ในน้ำ คือ พระวิษณุ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 17:44
๏ พระฤๅษีทรพัท ๚ะ๛

ยังไม่ทราบข้อมูล

๏ พระอะแมฤๅษี ๚ะ๛

ยังไม่ทราบข้อมูล

๏ พระอิศรีสิงฆ์ดาบส ๚ะ

คือฤๅษีอิสีสิงฆมุนีในเรื่องรามเกียรติ์ มีบุตรคือฤๅษีกไลโกฏ อิสีสิงฆ หรือ อิสีสิงค์ เป็นภาษาบาลี ฤษยะสฤงค์ (ऋष्यशृंग) เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่าผู้มีเขากวาง ในรามายณะคือฤๅษีตนเดียวกัน ไทยแยกเป็นฤๅษีอิสีสิงฆมุนีกับฤๅษีกไลโกฏ ในรามายณะว่าบิดาของฤๅษีฤษยะสฤงค์คือฤๅษีวิภาณฑกะ (विभान्डक)


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 17:57
๏ พระศรรทธาสิท ๚

ยังไม่ทราบข้อมูล


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 18:30
๏ พระวิกฆิเนศวร ๚ะ๛

วิกฆิเนศวร विघ्नेश्वर = เจ้าแห่งการกำจัดอุปสรรค

เป็นโอรสของพระศิวะ ในศิวมหาปุราณะของอินเดียว่าพระนางปารวตีเอาขี้ไคลปั้นเป็นกุมารผู้หนึ่ง ให้เป็นนายทวารบาลไม่ให้ผู้ใดเข้า เมื่อพระศิวะจะเข้าไปหาก็ถูกขวาง พระศิวะและบริวารของพระองค์จึงเข้าสู้ เมื่อพระนางปารวตีได้ยินเสียงดัง พอทราบเรื่องก็ให้เหล่าเทวีมารบกับเหล่าเทพ เหล่าเทวีชนะเหล่าเทพ พระอินทร์จึงทูลให้พระศิวะกอบกู้ชัยชนะของเหล่าเทพ พระศิวะจึงให้พระวิษณุออกอุบายหลอก แล้วพระศิวะใช้ตรีศูลตัดศีรษะขาดกระเด็น พอความทราบถึงพระนางปารวตีก็ทรงกริ้ว จึงเกิดศึกใหญ่ระหว่างเทพและเทพีบนสวรรค์ พระศิวะจึงให้เหล่าเทวดาไปหาสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วหันศีรษะไปทางเหนือ พระวิษณุพบช้างตาย จึงตัดศีรษะให้พระศิวะต่อให้พระพิฆเนศวร พระนางปารวตีจึงประทานพรให้พระพิฆเนศวรเป็นเทพที่ได้รับการบูชาเป็นพระองค์แรกก่อนเทพองค์ใด ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า พระอิศวรจะทำการโสกันต์พระขันทกุมารเพื่อจะให้ไปปราบอสุรภังคี ให้พระอินทร์ไปเชิญพระนารายณ์ที่กำลังบรรทม เมื่อพระนารายณ์ตื่นบรรทมและทราบเรื่องจากพระอินทร์จึงพลั้งพระโอษฐ์ว่า "ลูกหัวหายจะนอนหลับให้สบายก็ไม่ได้" เศียรพระขันทกุมารจึงหายไป พระอิศวรให้พระวิษณุกรรมไปตัดเอาศีรษะคนที่ถึงมรณภาพก็ไม่มี พระอิศวรจึงให้ไปตัดศีรษะสิ่งมีชีวิตที่หันหัวไปทางตะวันตก ได้หัวช้างพลายหัวหนึ่งจึงเอามาต่อ เปลี่ยนชื่อจากพระขันทกุมารเป็นพระมหาวิฆเนศ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 18:51
๏ รูปพระอิศวรเสด็จไปไกรลาศ ๚ะ๛

อิศวร ईश्वर = ผู้เป็นใหญ่ เห็นได้ชัดว่าพราหมณ์ไทยเป็นไศวนิกาย เพราะเรียกพระศิวะว่าพระอิศวร (ผู้เป็นใหญ่) ซึ่งไวษณพนิกายก็สามารถเรียกพระวิษณุว่าพระอิศวรได้เหมือนกัน

๏ พระนรายณ์เสด็จไปไกรลาศ ๚ะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 19:08
๏ พระมหาวิกฆิเนตรไปกระเศียรสมุท ๚ะ

๏ พระมหาวิกฆิเนตรปราบอสูรภังฆี

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เมื่อต่อเศียรพระมหาวิฆเนศแล้ว จึงสำแดงพระกายมี ๔ กร ถือบ่วงบาศ ขอ ค้อนเหล็ก ก้อนเหล็กแดง ทรงมุสิกะพาหนะไปยังยมนานที อสุรพังคีนำอมนุษย์แสนโกฏิขึ้นมาต่อสู้พระมหาวิฆเนศแต่สู้ไม่ได้จึงดำน้ำหนี พระมหาวิฆเนศจึงอ้าพระโอษฐ์สูบน้ำจนแห้ง เมื่อเห็นตัวอสุรพังคีแล้วจึงถอดงาช้างเบื้องซ้ายถูกอสุรพังคีและอมนุษย์แสนโกฏิตายหมด และคายน้ำออกไว้เหมือนเก่า


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 19:18
๏ พระมหาวิกฆิเนตร์ตัตะหมาด ๚ะ๛

๏ พระเทวกรรม์ ๚ะ

พระเทวกรรมองค์นี้ไม่มีในอินเดีย คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง สันนิษฐานว่าคือผีครูหมอช้างพื้นเมืองที่ไปหยิบยืมรูปลักษณ์ของพระวิกฆิเนศวรจากอินเดียมาใช้


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 08 มิ.ย. 20, 19:58
๏ พระเทวกรรม์ ๚ะ๛

๏ พระโกญจนาเนศวร วิทสวรให้เกิดช้างพลายในมือขวาช้างพังในมือซ้าย

พระโกญจนาเนศวรองค์นี้ไม่มีในอินเดีย ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า ในไตรดายุค พระอิศวรมีเทวโองการให้พระเพลิงพระทำเทวฤทธิ์เพื่อบังเกิดศิวบุตร 2 องค์ พระเพลิงรับเทวโองการและกระทำเทวฤทธิ์ให้บังเกิดเป็นเปลวเพลิงออกจากช่องพระกรรณทั้งสอง เบื้องขวาบังเกิดบุตรที่มีพระพักตร์เป็นช้าง มี ๒ กร ถือตรีศูลและดอกบัว ชื่อพระศิวบุตรพิฆเนศวร ส่วนเบื้องซ้ายบังเกิดเป็นเทวกุมารองค์หนึ่ง มีพักตร์เป็นช้าง ๓ พระพักตร์ มี ๖ กร แต่ละกรให้กำเนิดมีช้างประเภทต่างๆ คือ ช้างเอราวัณ ช้างคีรีเมฆละไตรดายุค ช้างเผือกเอก ช้างเผือกโท ช้างเผือกตรี ตระกูลอัคนิพงศ์ กรซ้ายเป็นช้างพัง กรขวาเป็นช้างพลาย ชื่อพระโกญจนาเนศวรศิวบุตร

พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) สันนิษฐานว่าพระนาม โกญจนาเนศวร์ เป็นพระนามของพระขันทกุมาร เพราะคำว่า โกญจนา ตรงกับคำสันสกฤตว่า เกราญจ (क्रौंच) ซึ่งเป็นชื่อภูเขาที่พระขันทกุมารเสด็จไปประทับ

รองศาสตราจารย์ ดร. มณีปิ่น พรหมสุทธิลักษณ์อธิบายมาจากคำสันสกฤตว่า เกฺราญจนาเนศวร (กฺราญจน+อานน+อิศวร) จึงแปลความหมายของชื่อดังกล่าวว่า ผู้เป็นใหญ่เหนือแผ่นพักตร์เกราญจะ และได้อธิบายอีกว่า ชาวสยามโบราณคงทราบทางเทพปกรณัมแขกว่าพระอิศวรมีบุตรสององค์ แต่เข้าใจผิดว่าเป็นองค์เดียวกัน จึงโอนชื่อพระขันทกุมารไปให้กับพระคเณศ

คมกฤช อุ่ยเต็กเค่งอธิบายว่า โกญจนาทเนศวร์ ซึ่งปรากฏใน ตำราช้าง มาจากคำว่า โกญจนาท แปลว่า เสียงร้องของช้าง และพระนามจึงควรจะเป็น โกญจนาเทศวร์ แปลว่า พระเป็นเจ้าที่มีเสียงร้องของช้าง หรืออาจจะมาจาก โกญจนาทนฺ+อีศวร ตามการสนธิสันสกฤตอย่างทมิฬ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 08:18
๏ รูปพระอิศวรทรงปลากรายทอง ๚ะ๛

๏ รูปพระมหาไชยทรงปลากราย


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 08:28
๏ พระอิศวรทรงจระเข้กับพระอุมา ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 08:36
๏ พระนรายน์ทรงพระยานาค์

๏ พระนรายน์จำศิลบันลังค์นาค์


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 08:41
๏ พระนราย์นประทับบันลังค์นาค์ ๚


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 08:49
๏ พระนราย์นบันธมสินธุในกระเศียรสมุท๚


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 09:03
๏ พระนรายน์จำสถานนั่ง ๚ะ๛

๏ พระปรเมศวร ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 10:07
๏ พระนรายน์ทรงบาชปราบเอกทันท์ ๚ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า ในไตรดายุค พระอิศวรสถิตอยู่ ณ เขาไกรลาส ในวันที่พระเป็นเจ้าทั้งสามมาประชุมกัน ยังมีพรหมจำพวกหนึ่ง เห็นพระพรหมธาดาทรงหงส์เป็นพาหนะ พรหมจำพวกนั้นมีความริษยาแก่พระพรหมธาดา ผลกรรมอันนั้นจึงได้จุติลงมาบังเกิดเป็นช้างชื่อ เอกทันต์ มีงาเดียวงอกกลางเพดาน มีอำนาจมาก แทงเงาและรอยเท้ามนุษย์ให้ตาย เที่ยวกระทำยำยีเดือดร้อนไปทั้งสามโลก เหล่าพระสิทธิทั้งหลาย มีฤๅษีจุฬามหาพรหมเป็นต้น ปรึกษาพร้อมกันแล้วจึงขึ้นไปฟ้องพระอิศวร พระอิศวรจึงมีเทวโองการให้เทพยดาจัตุบทและจัตุบาท ไปเชิญเสด็จพระนารายณ์มา ณ เขาไกรลาส และให้ไปปราบช้างเอกทันต์ พระนารายณ์จึงกระทำเทวฤทธิ์มี ๖ กร เอากำลังพระอาทิตย์พระจันทร์มาทำเป็นเทพอาวุธชื่อว่า เสมา เอากำลังพระเพลิงพระคงคาทำเป็นเทพอาวุธชื่อว่า โสภา เอากำลังพระยามงคลสุบรรณมาทำเป็นเทพอาวุธชื่อว่า ชาลัก เอากำลังเขาพระเมรุมาทำเป็นเทพอาวุธชื่อว่า ตรี เอากำลังพระยานกอินทรีชื่อท้าวศรีพิลาไลยมาทำเป็นเทพอาวุธชื่อว่า พระเฆอ เอาพระยาอนันตนาคราชมาทำเป็นบ่วงบาศ แล้วเสด็จมาโลกมนุษย์ มาถึงทุ่งนาพบกับชาวนา ๔ พี่น้อง พี่ใหญ่ชื่อ โภควันดี พี่หญิงที่ ๒ ชื่อว่า สิระวัง (ศรีระวัง) น้องทั้ง ๒ ชื่อว่า คชศาสตร ๑ ศาสตรกรรม ๑ ทั้งสี่ฝากตัวขอเป็นศิษย์พระนารายณ์ นำทางพระนารายณ์มาถึงฝั่งนทีอันใหญ่ พระนารายณ์จึงเอาใบไม้แถลงสาร (ใบแสมสาร) โยนลงนทีเกิดเป็นเรือ พระนารายณ์และ ๔ พี่น้องข้ามฟากไปอีกฝั่ง ถึงป่าไม้คูน ไม้ยอเชิงภูเขาซึ่งเป็นที่อยู่ของช้างเอกทันต์ ๔ พี่น้องกลัวจึงขอให้พระนารายณ์คุ้มครอง พระนารายณ์จึงร่ายวิษณุมนตร์ ๓ คาบแล้วกระทำประทักษิณเป็นทักขิณาวัฏ ๓ รอบ เอาพระเฆอปักลงพื้นพระธรณี เอาพระรัศมีพระเพลิงมาประดิษฐานไว้ทั้งเฉวียงสดำ (ทั้งซ้ายทั้งขวา) และมีเทวโองการเรียกพระมหาวิฆเนศให้มาประจำพระเพลิงฝ่ายขวา แล้วถอดเอาสายธุรำของพระองค์อธิษฐานให้เป็นพระเทวกรรม นั่งประจำพระเพลิงฝ่ายซ้าย แล้วให้คนทั้ง ๔ สังวัธยายมนตร์พฤฒิบาศนั่งรักษาตัวอยู่ในที่นั้น พระนารายณ์กระทำเทวฤทธิ์ หักรุกข ๗ ประการมากวัดแกว่งเรียกเทพยดาชื่อมหาเมศว ให้ต้อนหมู่ช้างทั้งหลายมา พระมหาเมศวก็ไล่หมู่ช้างเถื่อนทั้งหลายมายังที่นั้นทั้งสิ้น แต่ช้างเอกทันต์เป็นพรหมมาบังเกิด เป็นชาติอิศรพงศ์ ไม่ได้มาโดยวิษณุโองการ พระนารายณ์พิโรธ จึงเอารุกขทั้ง ๗ ประการมาร่ายวิษณุมนตร์ ๓ คาบ ฟาดลงไปที่รอยปถวะลัญช์แห่งคชเอกทันต์ ถ้วนวาร ๓ หน เดชะอำนาจวิษณุมนตร์ บันดาลให้ช้างเอกทันต์ปวดศีรษะดังจะแตกออกเป็น ๗ ภาค ก็วิ่งมาด้วยกำลังโกรธเข้าต่อสู้ด้วยพระนารายณ์ พระนารายณ์ทรงเทพอาวุธทั้ง ๕ เข้าสู้กับเอกทันต์เป็นสามารถ เอกทันต์สิ้นกำลังก็บ่ายหน้าจะหนี พระนารายณ์จึงทรงบาศอุรเคนทร์ซัดถูกเท้าขวาอสุรเอกทันต์ แล้วเอาตรีปักลงบนพื้นพระธรณี อธิษฐานให้เป็นต้นไม้มะตูม แล้วเอาหางอุรเคนทร์กระหวัดไว้กับต้นไม้มะตูม แล้วเอาพระหัตถ์ขวาทึ้งเอามะลิวัลย์มาอธิษฐานให้เป็นทาม เป็นพับเฌอคล้องคอคชเอกทันต์เข้าไว้กับไม้คูน เมื่อเสร็จภารกิจพระนารายณ์ก็เสด็จมาอยู่ใต้ร่มไม้ยอ แล้วตรัสเรียกคนทั้ง ๔ ให้มาจากที่ซุ้มร่มอันนั้น เอาตำรับพฤฒิบาศประสิทธิ์ให้คนทั้ง ๔ เป็นประกรรมสำหรับได้ปราบหมู่ช้างทั้งหลายและสอนให้กระทำการคชกรรมต่อไป แล้วพระนารายณ์มีเทวโองการสั่งเทพคชนาคให้เอาช้างเอกทันต์ไปไว้เป็นพาหนะของพระอินทร์ แต่ให้รักษาไว้ที่ป่าพ้นมนุษย์ทั้งหลาย แล้วพระนารายณ์เป็นเจ้าเสด็จกลับไปประทมสินธุ์ในเกษียรสมุทร ครูประกรรมจึงได้ห้ามไม่ให้หมอช้างทั้งปวงหักกิ่ง ถากเปลือก เด็ดใบ ไม้มะตูม ไม้ยอ ไม้คูน เพราะเหตุพระนารายณ์ประสิทธิครูประกรรมในที่นั้น

๏ พระอิศวรเหยียบองคุกะพรหม ๚

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า ในไตรดายุค มีพรหมตนหนึ่งชื่ออังคุฐพรหม เห็นพระพรหมธาดาทรงหงส์เป็นพาหนะ อังคุฐพรหมมีความริษยาแก่พระพรหมธาดา จึงขึ้นไปย่ำยีบรรดาพรหมในสุทธาวาสมหาพรหม ท้าวมหาพรหมจึงให้พรหมสัทธาสิทธิ พรหมสัทธาสิบ พรหมสัทธาทิพ พรหมสัทธาเทพ ไปต่อสู้กับอังคุฐพรหม พรหมทั้ง ๔ สู้ไม่ได้ ท้าวมหาพรหมจึงทูลพระอิศวร พระอิศวรจึงเสด็จไปชั้นสุทธาวาสมหาพรหม อังคุฐพรหมเข้าต่อสู้ พระอิศวรกระทำเทวฤทธิ์ขึ้นเหยียบบ่าอังคุฐพรหม ถอดเอากุณฑลขว้างอังคุฐพรหมศีรษะแตกตาย พระอิศวรเสด็จกลับเขาไกรลาส ดวงจิตอังคุฐพรหมจุติยังโลกมนุษย์ เกิดเป็นม้าชื่ออสุรกัณฐะกะ เที่ยวเบียดเบียนสามโลก

๏ พระนรายน์จับระบำ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 10:12
๏ พระพลเทพย์ไถนา ๚ะ๛

พระพลเทพ (बलदेव) หรือพระพลราม (बलराम) อินเดียว่าเป็นบุตรคนที่ ๗ ของวาสุเทพกับนางเทวกี พี่ชายของพระกฤษณะ เดิมเป็นอวตารของพระวิษณุปางที่ ๘ ในทศวาตารฉบับดั้งเดิม เมื่อเกิดพุทธาวตารจึงแก้ให้เป็นอวตารของเศษนาค (ในภาควัตปุราณะระบุว่าเป็นอวตารปางที่ ๑๙ ของพระวิษณุ) พระพลรามมีผิวกายสีขาว อาวุธคือกระบองและคันไถ มีนิสัยชอบดื่มสุราอย่างมาก ชายาชื่อนางเรวตี บุตรีท้าวกกุทมิน ส่วนไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เป็นเทพยดาที่ตามเสด็จพระบรมจักกฤษณ์ไปปราบพาณาสูรที่กรุงรัตนา

๏ รูปพระฤๅษีเทวบิศ ๚

ยังไม่ทราบข้อมูล




เจอข้อมูลฤๅษีเทวบิดแล้วครับ ในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่าเมื่อดวงจิตอังคุฐพรหมจุติยังโลกมนุษย์ เกิดเป็นม้าชื่ออสุรกัณฐะกะ เที่ยวเบียดเบียนสามโลก มีจิตพยาบาทพระอิศวร จึงเหาะไปเชิงเขาไกรลาส ขณะนั้นพระฤๅษีเทวบิดเป็นพนักงานน้ำสรงพระอิศวรลงมาตักน้ำในสระอโนดาต อสุรกัณฐะกะไล่กัดขบฤๅษีเทวบิด ฤๅษีเทวบิดหนีไปเฝ้ากราบทูลพระอิศวร พระอิศวรจึงให้เทพยดาจัตุบท จัตุบาท ไปเชิญเสด็จพระนารายณ์มาปราบ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 11:37
๏ พระนรายน์เสด็จไปเมืองจิตตรํมะลำ

เมืองจิตตรํมะลำ หรือเมืองจิทัมพรัม (சிதம்பரம்) เป็นเมืองในรัฐทมิฬนาฑู ในโกยิลปุราณัมเล่าว่า หลังจากพระศิวะปราบพวกฤๅษีในป่าตารกะ พระยาอนันตนาคราชได้ฟังพระนารายณ์ทรงเล่าถึงการฟ้อนรำของพระศิวะในป่า ตารกะ  มีความประสงค์ที่จะได้ดูการฟ้อนรำของพระศิวะบ้าง พระยาอนันตนาคราชจึงทูลพระนารายณ์ให้ทรงทูลพระศิวะให้ทรงฟ้อนรำให้ด  พระนารายณ์จึงทรงแนะนำให้พญาอนันตนาคราชบำเพ็ญพรตบูชาพระศิวะเพื่อขอพรแล้วจะได้ทุกๆ อย่างที่ต้องการ  พญาอนันตนาคราชก็ทรงทำตาม และเมื่อได้เวลาทูลขอการฟ้อนรำ พระศิวะก็ทรงรับคำว่าจะลงมาฟ้อนรำให้ดูในโลกมนุษย์ ณ ตำบลจิทัมพรัม ให้พระยาอนันตนาคราชมาคอยดู ครั้นถึงวันที่กำหนดพระศิวะก็เสด็จลงมายังติลไล หรือจิทัมพรัม ทรงเนรมิตนฤตสภา (เทวสภา) ขึ้น แล้วจึงฟ้อนรำตามที่เคยทรงประทานสัญญาแก่พระยาอนันตนาคราชอีกครั้งหนึ่ง  และมีพระบัญชาให้ภรตมุนี ซีงอยู่ใน ณ ที่นั้นด้วย บันทึกสร้างเป็นตำราการฟ้อนรำขึ้น

๏ พระนราย์ทรงขลุ่ย

สันนิษฐานว่าคือพระกฤษณะ (कृष्ण) ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่าชื่อพระบรมจักรกฤษณ์

พระนราย์นนนทุกข

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า อสุรนนกทุกพรหม เป็นพนักงานตักน้ำล้างเท้าเทวดา (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่ามีอสุรพรหมตนหนึ่งมาไม่ทันประชุม จึงถูกพระอิศวรสาปให้เป็นนนทุก รามเกียรติ์ฉบับสยามรัฐว่าอนันตพรหม อิจฉาพรหมธาดารุ่นน้องที่พระอิศวรตั้งให้ปกครองพรหมทั้งปวง จึงไม่เข้าเทวสมาคม ไม่เข้าเฝ้าพระอิศวร พระอิศวรจึงสาปให้เป็นนนทุก) นนทุกถูกเหล่าเทพยดาโขกทุบถอนศีรษะจนหัวล้าน นนทุกพรหมโกรธจึงทูลขอนิ้วเพชร ชี้ผู้ใดก็ตายจากพระอิศวร นนทุกพรหมใช้นิ้วเพชรชี้เหล่าเทพยดาตายจำนวนมาก พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์มาปราบ พระนารายณ์อวตารมาเป็นนางอัปสรกัญญา (อัปสรอวตาร โคลงนารายณ์สิบปางว่าอัปสราวตาร ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าเทพอัปสรอวตาร) นนทุกเห็นจึงเกี้ยวพาราสี นางอัปสรว่าถ้ารักจริงต้องรำตาม นนทุกตกลง นางอัปสรจึงรำเพลงเทพนม เพลงประถม พรหมสี่หน้า สร้อยมาลา กวางเดินดง หงส์บิน กินนรเลียบถ้ำ ช้านางนอน ภมรเคล้า แขกเต้า ผาลาเพียงไหล่ เมขลาโยนแก้ว มรุยาฟ้อน ลมพัดยอดตอง พรหมนิมิต พิสมัยเรียงหมอน มัจฉาชมสมุทร นารายณ์ขว้างจักร เมื่อถึงท่านาคราชฟ้อนหาง (รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในร.๑ ว่านาคาม้วนหาง) ชี้นิ้วตรงเพลา กระดูกขาก็พินทนาการทำลายออก ล้มลงทันใด พระนารายณ์จึงคืนร่างเหยียบอกนนทุก นนทุกถามว่าตนทำสิ่งใดผิด พระนารายณ์จึงว่านนทุกชี้เทพยดาตายมากมาย นนทุกว่าพระนารายณ์กลัวนิ้วเพชรตนจึงแปลงเป็นนางอัปสร พระนารายณ์ว่าไม่กลัวแต่เพราะนนทุกจะตายเพราะกิเลส นนทุกจึงขอพรพระนารายณ์ว่าให้ตนไปเกิดเป็นอุปปาติกะเชิงเขาไกรลาส พระนารายณ์อนุญาตแล้วตัดศีรษะนนทุกไป นนทุกเกิดเป็นอุปปาติกะ จึงทำความเพียรบูชาพระอิศวรด้วยกายดุริยางค์ เอากระบอกศีรษะทำกะลาซอ เอากระดูกสันหลังทำท่อนซอ เอาหนังศีรษะเป็นหนังขึงซอ เอาเอ็นในกายเป็นสายซอสีถวายพระอิศวร พระอิศวรเป็นเจ้าได้ฟังเพลงที่ไพเราะก็โปรดประทานพรให้ อุปปาติกะนนทุกจึงขอให้ไปเกิดเป็นอสูรพงศ์พรหมในลงกาทวีป มีสิบเศียร ยี่สิบกร ทรงเทพอาวุธครบหัตถ์ มีมหิธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่ พระอิศวรประทานพร อุปปาติกะจึงจุติลงมาเข้าครรภ์นางรัชฎา มเหสีของท้าวลัสเตียน เมื่อประสูติได้ชื่อว่าทศกัณฐ์ สันนิษฐานว่าเรื่องนนทุกอาจมีที่มาจากภัสสมาสูร (भस्मासुर) ที่บำเพ็ญตบะแรงกล้าแล้วได้รับพรจากพระศิวะ พระศิวะให้ภัสมาสูรขอพร ภัสมาสูรได้ขอให้ไม่มีวันตาย แต่พระศิวะว่าไม่มีอำนาจที่จะให้ไม่ตาย ดังนั้นภัสมาสูรจึงขอให้มีฤทธิ์ทำให้คนอื่นตายโดยใช้มือแตะบนศีรษะของผู้ใด ผู้นั้นจะไหม้เป็นเถ้าถ่าน (ภัสมะ) ครั้นให้พรแล้วภัสมาสูรจึงพยายามแตะศีรษะของพระศิวะ เพราะเห็นนางปารวตีแล้วต้องการนางเป็นภรรยา พระศิวะหนีไปหาพระวิษณุ พระวิษณุจึงแปลงเป็นนางโมหิณี (मोहिनी) ซึ่งทำให้ภัสมาสูรลุ่มหลงในความงดงาม ภัสมาสูรได้ขอนางแต่งงาน นางโมหิณีได้บอกว่าจะแต่งงานด้วยถ้าภัสสมาสูรเต้นด้วยกัน แล้วทั้งสองก็เริ่มเต้นรำ นางโมหิณียกมือไว้บนหัว ภัสมาสูรหลงกลก็เลียนแบบ จึงกลายเป็นเถ้าถ่าน


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 11:52
ข้อความขาดไป เมื่อเปรียบเทียบกับตำราเทวรูปเล่มอื่นแล้ว อาจเป็นรูปพระนารายณ์กระแสพยาม

๏ พระนรายน์จำสถานยืน ๚

๏ พระนรายน์เสดจจะไปปราบนนทุกขพรหม ฯ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 13:43
๏ พระลัศมีคือองค์ศิดา

พระลักษมี लक्ष्मी เป็นมเหสีของพระวิษณุ

๏ พระมเหศวาริย์

พระมเหศวรี माहेश्वरी ของอินเดียคือชื่อหนึ่งของพระนางปารวตี หรือศักติของพระศิวะ แต่ของไทยในในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เป็นคนละองค์ และว่าพระมเหศวรีเป็นมเหสีของพระนารายณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กรุงเทพมหานคร ในโบสถ์พระนารายณ์ได้ประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์กับพระลักษมี พระมเหศวรี ซึ่งควรจะเป็นภูมิเทวี (भूमी देवी) ตามแบบอินเดียใต้ที่นิยมประดิษฐานเทวรูปพระวิษณุคู่กับพระลักษมีและภูมิเทวี

๏ พระอุมาภัควดี

พระอุมาภัควดี उमा भगवती ชื่อหนึ่งของพระนางปารวตี เป็นมเหสีของพระศิวะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 13:50
พระนรายน์ทรงสิงหภาหน์


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 14:23
พระขันธกุมารทรงมยุรภาหน์

พระขันทกุมาร स्कंद कुमार เป็นโอรสของพระศิวะ ของอินเดียนิยมเรียกว่าการติเกยะ (कार्तिकेय) เกิดจากพระศิวะทรงขว้างเชื้อของพระองค์ลงไปในไฟเกิดเป็นกุมารขึ้น พระคงคา (บ้างก็ว่านางบรรพตี) ก็รับเป็นมารดา ต่อมานางกฤติกาทั้ง ๖ (เทวดาประจำดาวลูกไก่) เอาไปเลี้ยงไว้และมี ๖ เศียรตามจำนวนนางกฤติกาซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดู บางคัมภีร์ว่ามารดาของพระขันทกุมารคือพระอุมา ส่วนไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า หลังจากพระอิศวรปราบมูลาคะนีแล้วเสด็จกลับไกรลาส เสด็จไปทรงศีลอยู่เหนือยอดเขารัชดากูฏ ให้หมู่อุรเคนทร์รักษาพระองค์ แล้วดื่มกินพระโลหิตในแม่นิ้วพระบาท กระทำด้วยเทวฤทธิ์ บังเกิดกุมารองค์หนึ่งออกจากอุทรประเทศ มี ๖ พักตร์ ๑๒ กร ให้นามว่าพระขันทกุมารเทวโอรส และเสกมนยุรปักษาให้เป็นพาหนะ เมื่อจะให้ไปปราบอสุรภังคีได้ทำพิธีโสกันต์แต่เกิดเรื่องหัวหายเสียก่อน พระขันธกุมารของไทยจึงถูกรวมเป็นองค์เดียวกับพระมหาวิฆเนศ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 14:33
ภาพยังวาดไม่เสร็จ ไม่มีข้อความระบุกำกับว่าคือเทพองค์ใด แต่มีความคล้ายคลึงกับรูปพระขันทกุมารทรงนกยูงบนบานหน้าต่างของพระอุโบสถ วัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) รูปนี้อาจเป็นรูปพระขันทกุมารต้นแบบ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 16:02
๏ พระพรหม์นารถ

๏ พระพรหมธาดา

พระพรหมธาดา ‎ब्रह्मधाता = พรหมผู้สร้าง คือพระพรหม ของอินเดียในคัมภีร์ศตปภะพราหมณะว่า ในสมัยที่จักรวาลยังว่างเปล่า พระปรมาตมัน (परमात्मन्) มีพระประสงค์ที่จะสร้างโลกและจักรวาลขึ้น จึงทรงสร้างน้ำขึ้นมาก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นก็ทรงหว่านพืชลงไปในน้ำนั้น กำเนิดเป็นไข่ทองคำขึ้นในน้ำนั้น เมื่อเวลาผ่านไปก็ปรากฏว่าไข่นั้นได้แตกออกเป็น 2 ซีก ซีกบนปรากฏเป็นท้องฟ้า ส่วนซีกล่างปรากฏเป็นแผ่นดิน ภายในไข่ทองคำที่แตกออกมา มีพระพรหมที่มีรูปร่างปรากฏ และได้ทำการสร้างทุกสรรพสิ่งขึ้น ส่วนของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า หลังเพลิงบรรลัยกัลปล้างโลกแล้ว ครั้งนั้นพรเวทพระธรรมมาประชุมกันเป็นสยมภูวญาน คือพระอิศวร พระอิศวรเอาพระหัตถ์ลูบพระอุระเกิดเป็นพระอุมาภควดี เอาพระหัตถ์เบื้องซ้ายลูบพระหัตถ์เบื้องขวาเกิดเป็นพระนารายณ์ เอาพระหัตถ์เบื้องขวาลูบพระหัตถ์เบื้องซ้ายเกิดเป็นพระพรหม

๏ พระพรหมนารถ




กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 18:08
๏ พระทระริงค์มัดอสุรสัตวบาพด้วยบ่วงเชือกบาช ๚

พระเทวริงค์ ยังไม่ทราบความเป็นมา มีภาพของพระเทวริงค์ปรากฏบนบานหน้าต่างของพระอุโบสถ วัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) และบานหน้าต่างวัดสุทัศนเทพวราราม ในหนังสือเทพฮินดูผู้พิทักษ์พุทธสถาน ของอรุณศักดิ์ กิ่งมณี ว่ามีการค้นพบภาพวาดกุลกุมารในลังกา ซึ่งคล้ายคลึงกับภาพพระเทวริงค์มาก สันนิษฐานว่าพระเทวริงค์อาจเป็นองค์เดียวกันกับกุลกุมาร กุลกุมาร (කළු කුමාරයා) เดิมเป็นเจ้าชายของอาณาจักรแคนดี ทรงถูกพระบิดาประหาร บ้างว่าพระองค์ทรงบำเพ็ญพรตจนเหาะได้ วันหนึ่งทรงเหาะไปเห็นเจ้าหญิงงามและเกิดหลงรัก จึงตกลงมาตายและกลายเป็นปีศาจที่อาฆาตผู้หญิงทุกคน จะมาสิงให้เป็นบ้าหรือเจ็บไข้ตาย และมักทำร้ายหญิงมีครรภ์ด้วย บางตำราว่าเป็นตนเดียวกับเททิมุณฑะ (දැඩිමුණ්ඩ) เทพเจ้าชั้นรองของลังกา หัวหน้าของพวกยักษ์และพัณฑาร เป็นเทพผู้พิทักษ์พุทธสถาน แต่ภาพที่ปรากฏมักแต่งกายเป็นเจ้าชายถืออาวุธ ไม่ใช่ภาพกินคน

๏ พระอินศวรทร้างมหาธนูโมลิด้วยลำไม้ศรีสุกขซึ่งศุกขวัฒนดาบศถวายพระอิศวรผู้เปนเจ้า ๚

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า พระฤๅษีสุขวัฒน บำเพ็ญพรตอยู่เขาพระสุเมรุ (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าเชิงเขาไกรลาส) มีต้นไม้ไผ่ต้นหนึ่งสูงครอบหลังคาอาศรม พระฤๅษีสุขวัฒนจึงเอาไม้ไผ่ลำนั้นมาถวายพระอิศวร พระอิศวรจึงหักไม้ไผ่เป็นสองท่อนทิ้งลงมา ท่อนปลายเกิดเป็นกระบี่ชื่อชามภูวราช ท่อนต้นเกิดเป็นยักษ์ชื่ออสุรเวรำ ต้นโคตรวงศ์ฝ่ายมารดาของทศกัณฐ์ (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าพระอิศวรเอาไม้ไผ่มาทำธนู เมื่อน้าวธนูหักกลางคัน พระอิศวรเอาทิ้งเสีย ท่อนเบื้องบนเกิดเป็นวานรชื่อนิเกสรหรือชามพูวราช ท่อนเบื้องต่ำเกิดเป็นอสูรชื่อเวรำพาย ต้นโคตรวงศ์ฝ่ายมารดาของทศกัณฐ์ พระอิศวรทำนายว่าต่อไปวานรกับอสูรจะทำสงครามกัน วานรเกิดข้างหัวธนูจะชนะอสูร) ฤๅษีสุขวัฒนเฝ้าอยู่จนพลบค่ำ นางวานรินเทพอัปสรพนักงานประทีปหลงด้วยเพื่อนลืมจุดประทีป พระอิศวรกริ้วสาปให้ลงมาอยู่ในถ้ำเขาอังกาบ คอยท่าทหารพระนารายณ์ (รามเกียรติ์  พระราชนิพนธ์ในร.๑ ว่านางวานรินทร์) ไม้ไผ่นั้นจึงได้ชื่อว่าไม้ไผ่ฤๅษีสุข (ไผ่สีสุก)


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 18:16
ภาพกุลกุมาร (කළු කුමාරයා) ของลังกา มีความคล้ายคลึงกับภาพพระเทวริงค์มาก


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 09 มิ.ย. 20, 20:05
๏ พระวิสณุ ๚ะ๛

พระวิษณุ विष्णु = แผ่ซ่านไปทั่ว

๏ พระศิวา ๚ะ๛

พระศิวะ शिव =ดีงาม เป็นมงคล

๏ พุทธาวตาลเพื่อจะถือเอาซึ่งพระศิวะลึงค์แต่อสูรตรีบุรำ ๚ะ๛

ของอินเดียในศิวมหาปุราณะว่า ตรีปุราสูร (त्रिपुरासुर) เป็นนามของอสูร ๓ ตน คือ ตารกักษะ (तारकाक्ष) วิทยุนมาลี (विद्युन्माली) และวีรยาวณะ (विरववाना) บุตรของตารกาสูร ที่ถูกพระขันทกุมารสังหาร ตรีปุราสูรบำเพ็ญตบะถึงพระพรหมเป็นเวลา ๓,๐๐๐ ปี พระพรหมประทานพรให้ ทั้ง ๓ ได้ขอความเป็นอมตะ แต่พระพรหมไม่มีอำนาจที่จะทำได้ ตรีปุราสูรจึงขอปราสาท ๓ แห่ง ปราสาททองคำตั้งอยู่บนสวรรค์ สำหรับตารกักษะ ปราสาทเงินตั้งอยู่บนฟ้า สำหรับวีรยาวณะ ปราสาทโลหะ ตั้งบนโลกมนุษย์ สำหรับวิทยุนมาลี เรียกรวมกันว่าตรีปุระ (สามเมือง) โดยให้เมืองทั้ง ๓ จะโคจรมาเรียงกันทุก ๑,๐๐๐ ปี ถ้าจะสังหารตรีปุราสูรได้ต้องยิงธนูดอกเดียวแล้วทำลาย ๓ เมืองพร้อมกัน พระพรหมประทานพรให้ และสั่งให้มายาสูรไปสร้างเมืองให้ เมืองตรีปุระยิ่งใหญ่และสวยงาม เหล่าอสูรจึงไปอาศัยในเมืองตรีปุระ เหล่าเทวดารู้สึกไม่พอใจที่อสูรอวดความยิ่งใหญ่ จึงไปขอให้พระพรหมช่วย แต่พระพรหมปฏิเสธ เหล่าเทวดาจึงไปขอให้พระศิวะช่วย แต่พระศิวะปฏิเสธเพราะอสูรยังไม่ได้ทำความชั่วอะไร เหล่าเทวดาจึงไปพึ่งพระวิษณุ พระวิษณุกล่าวว่าจะจัดการหากอสูรเริ่มทำความชั่ว พระวิษณุจึงเนรมิตสมณะผู้หนึ่งที่หัวโล้น นุ่งห่มผ้าดำ และถือหม้อน้ำทำจากไม้ พระวิษณุให้ไปเผยแผ่ศาสนาใหม่ที่สอนว่านรก-สวรรค์มีจริงในชีวิตปัจจุบัน ไม่ใช่หลังจากตายไปแล้ว และสาวก ๔ คนได้ไปเผยแผ่คำสอนนี้ที่ป่าบริเวณใกล้กับเมืองโลหะของวิทยุนมาลี มีผู้คนศรัทธาในคำสอนของเขามากมาย และฤาษีนารัทได้แกล้งไปหลงเชื่อคำสอนลัทธินี้ด้วย วิทยุนมาลีเมื่อเห็นเทวฤาษีนารัทเชื่อในลัทธินี้แล้ว จึงเชื่อตาม พร้อมทั้งชักชวนให้ตารกักษะกับวีรยาวณะเชื่อตามตนเอง ตรีปุราสูรจึงเลิกบูชาศิวลึงค์ เหล่าเทวดาจึงได้โอกาสไปทูลพระศิวะว่าอสูรเลิกบูชาศิวลึงค์และเริ่มทำความชั่วเเล้ว พระศิวะจึงสั่งให้พระวิศวกรรมสร้างรถม้าจากทองคำ ให้พระพรหมเป็นสารถี และสร้างธนูกับลูกศรปาศุปัตอันมีพระวิษณุและพระอัคนีสถิตอยู่ให้พระศิวะ พระศิวะและเหล่าเทพจึงบุกไปที่เมืองตรีปุระ เมื่อทั้ง ๓ เมืองเรียงตรงกัน พระศิวะจึงยิงธนูใส่เมืองทั้ง ๓ ให้พังพินาศ ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่ามีอสุรตนหนึ่งชื่อตรีบุรัม เจ้าเมืองโสฬส ได้พรพระอิศวรว่ามิให้ผู้ใดฆ่าตาย และยังได้พระศิวลึงค์จากแม่น้ำสรภู ตรีบุรัมเอาทูนเศียรไว้ เที่ยวย่ำยีไปทั่วสามโลก พระอิศวรจึงยกทัพจะมาปราบอสุรตรีบุรัม เอากำลังเขาพระสุเมรุเป็นคันศร เอากำลังพญาอนันตนาคราชเป็นสายศร เอาพระนารายณ์เป็นลูกศร เอากำลังพระพรหมและพระอิศวรเป็นเกราะเพชร แผลงไปเพื่อจะสังหารตรีบุรัม  แต่ด้วยกำลังพรพระอิศวรกับพระศิวลึงค์ทำให้พระนารายณ์หลับไป พระอิศวรปรึกษาพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงอวตารเป็นพระ เรียกว่าสมณวตาร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าสมณอวตาร) ไปขอบิณฑบาตพระศิวลึงค์จากตรีบุรัม ตรีบุรัมหลงกล พระอิศวรจึงเอากล้องแก้วส่องอสุรตรีบุรัมละเอียดเป็นจุลไป แล้วเอามหาธนูโมลีทิ้งลงเมืองมิถิลาแล้วสาปว่า ผู้ใดเป็นนารายณ์แบ่งภาคแล้ว จึงยกมหาธนูโมลีได้ ถ้าไม่ใช่ถึงจะมีกำลังเท่าใดก็อย่ายกขึ้นได้ (รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ใน ร.๑ ไม่มีเรื่องศิวลึงค์)


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 11:50
๏ สิห์วะตาลปราบเหรันตยักษ์ ๚ะ๛

นรสิงหาวตาร (नरसिंहावतार) ของอินเดียว่ามีอสูรตนหนึ่งชื่อ หิรัญยกศิปุ (हिरण्‍यकशिपु) น้องของหิรัญยากษะ (हिरण्याक्ष) แค้นที่พระวิษณุทรงสังหารพี่ของตน จึงไปบำเพ็ญตบะเพื่อขอพรจากพระพรหม ระหว่างนั้นพระอินทร์และเหล่าเทวดาได้บุกเมืองของหิรัญยกศิปุ แต่ฤาษีนารัทได้ช่วยชายาของหิรัญยกศิปุไว้ และฤาษีนารัทได้สอนบุตรของหิรัญยกศิปุเกี่ยวกับธรรมะและการบูชาพระวิษณุ เมื่อพระพรหมได้มาปรากฏกาย หิรัญยกศิปุจึงขอพรว่าขอให้ตนไม่ตายเพราะผู้ที่เกิดจากครรภ์ ไม่ตายเพราะมนุษย์ หรือสัตว์ ไม่ตายในกลางวันและกลางคืน ไม่ตายทั้งบนพื้นดินหรือบนอากาศ หรือในน้ำ ไม่ตายทั้งในบ้านหรือนอกบ้าน ไม่ตายเพราะอาวุธใดๆ พระพรหมประทานพรให้ หิรัญยกศิปุจึงตั้งตนเป็นพระเจ้าให้คนบูชาตนเเทนพระวิษณุ รวมทั้งสั่งลงโทษสาวกของพระวิษณุอีกด้วย แต่ลูกชายของตน ประหลาทะ (प्रह्लाद) กลับบูชาพระวิษณุ หิรัญยกศิปุจึงสั่งให้พระศุกราจารย์สอนประหลาทะใหม่ ให้บูชาตน แต่ประหลาทะไม่เชื่อฟัง ทั้งยังชวนให้ศิษย์ของพระศุกราจารย์ บูชาพระวิษณุ พระศุกราจารย์สอนไม่ได้ จึงเอาตัวไปคืนให้หิรัญยกศิปุ หิรัญยกศิปุจึงสั่งให้ทหารนำลูกของตนไปโยนในทะเล ประหลาทะรอดมาได้เพราะสวดบูชาพระวิษณุ ต่อมาหิรัญยกศิปุสั่งให้นำไปให้ช้างเหยียบประหลาทะก็สวดบูชาพระวิษณุจึงไม่ตาย ทุกครั้งหิรัญยกศิปุจะถามว่ารอดมาได้อย่างไร ประหลาทะจะตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่าเพราะอำนาจศักดิ์สิทธ์ของพระวิษณุ หิรัญยกศิปุโกรธมากจนท้าให้พระวิษณุมาสู้กับตน พระวิษณุจึงอวตารเป็นนรสิงหาวตารออกมาจากเสาในวังของหิรัญยกศิปุมาสังหาร เนื่องจากนรสิงห์เป็นครึ่งมนุษย์กับสิงห์ เวลาที่สังหารคือโพล้เพล้ นรสิงห์จับหิรัญยกศิปุมานอนระหว่างประตูบ้าน จับหิรัญยกมานั่งบนตัก (ไม่ใช่บนดินและอากาศ) และใช้กรงเล็บสังหารในที่สุด ต่อมาประหลาทะได้เป็นราชาอสูรแทนบิดา ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า มีอสุรตนหนึ่งชื่อหิรันตปะกาสูร เจ้าเมืองมหากาลจักร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าชื่อหิรันตอสูร) ตั้งพิธีย่างกายเอาน้ำมันตามประทีปถวายพระอิศวร เมื่อพระอิศวรปรากฏก็ประสาทพระพรว่า สาตราวุธและมนุษย์สัตว์สิ่งใดจะเข่นฆ่าในน้ำบนบกในเมืองนอกเมือง กลางคืนกลางวันก็อย่าให้บรรลัย เมื่อได้พรแล้วหิรันตปะกาสูณก็กำเริบเบียดเบียนทั่วสามโลก พระอิศวรเชิญพระนารายณ์มาปรึกษา พระนารายณ์เอามหาสังข์ทักขิณาวัฏให้มาเกิดเป็นลูกของหิรันตปะกาสูรชื่อ กาละธรรมกุมาร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าชื่อกระลาธรรมกุมาร) หิรันตปะกาสูรให้เชิญคณะโยคีมาถามว่า ก่อนจะเรียนวิชาต้องว่ามนต์อะไรก่อน คณะโยคีตอบว่าต้องว่าโอมปะระเมศวรนารายณ์ขึ้นก่อน หิรันตปะกาสูรสั่งให้เปลี่ยนเป็นโอมหิรันตปะกาสูร แต่กาละธรรมกุมารยังคงท่องโอมปะระเมศวรนารายณ์ หิรันตปะกาสูรจะฆ่ากาละธรรมกุมารเสีย พระนารายณ์จึงอวตารเป็นสิงห์ กายเป็นคน เล็บเป็นกรด เรียกว่าสิงหวตาร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าชื่อนรสีหอวตาร) เข้าอยู่ในเสาปราสาท กาละธรรมกุมารตบเสา ๓ ที สิงหวตารจึงออกมาต่อสู้กับหิรันตปะกาสูร สู้กันจนจวนจะค่ำ ฝนตกเปียก หิรันตปะกาสูณล้มลงตรงทวาร กายค้างนอกเมืองครึ่งหนึ่ง อยู่ในเมืองครึ่งหนึ่ง เท้าแช่อยู่ในน้ำฝน ศีรษะอยู่บนที่แห้ง สิงหวตารขึ้นเหยียบอกแล้วเอาเล็บฉีกอกหิรันตปะกาสูรสิ้นชีพ พระนารายณ์ก็กลับไปยังเกษียรสมุทร กาละธรรมกุมารก็คืนร่างเป็นมหาสังข์ทักขิณาวัฏ (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าพระนารายณ์เนรมิตเมืองให้กระลาธรรมกุมารชื่อกรุงเทพพระมหานคร แล้วตั้งชื่อกระลาธรรมกุมารใหม่ว่าพระจักรปาณีราช)


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 13:14
๏ พระนรายน์นนทุกข ๚ะ๛

๏ พระนรายน์เทพกรรม์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 13:26
๏ พระเทพกรรม์ประสิทธิ ๚ะ๛

พระเทพกรรมนี้ไม่มีในอินเดีย สันนิษฐานว่าคือผีครูปะกำหมอช้างพื้นเมือง


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 13:56
๏ พระอินทรเจ้าฟ้าทรงช้างคชเอราวรรณ

พระอินทร์ इन्द्रा = ผู้ยอดเยี่ยม ผู้เป็นใหญ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 14:13
๏ พระพรหม์สัทธาเทพ ๚ะ๛

๏ พระพรหม์สัทธาทิพ ๚ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า ในไตรดายุค มีพรหมตนหนึ่งชื่ออังคุฐพรหม เห็นพระพรหมธาดาทรงหงส์เป็นพาหนะ อังคุฐพรหมมีความริษยาแก่พระพรหมธาดา จึงขึ้นไปย่ำยีบรรดาพรหมในสุทธาวาสมหาพรหม ท้าวมหาพรหมจึงให้พรหมสัทธาสิทธิ พรหมสัทธาสิบ พรหมสัทธาทิพ พรหมสัทธาเทพ ไปต่อสู้กับอังคุฐพรหม พรหมทั้ง ๔ สู้ไม่ได้ ท้าวมหาพรหมจึงทูลพระอิศวรให้มาปราบอังคุฐพรหม


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 14:23
๏ พระพรหม์มะเหศวร


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 14:33
๏ พระสะหะบดีพรหม ๚ะ

๏ พระพรหมธาดา ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 15:32
๏ รามาวะตาล คือพระรามเทพปราบพนาสูรในรามเกริยติ์ ๚ะ๛

รามาวตาร रामावतार คือพระนารายณ์อวตารเป็นพระรามปราบราวณะ (रावण) ในรามายณะ หรือทศกัณฐ์ (दशकण्ठ) ในเรื่องรามเกียรติ์

๏ ขุชชาวตาล ๚ะ๛

ขุชชาวตาร ของอินเดียว่าคือวามนวตาร वामनावतार พระนารายณ์อวตารมาเป็นพราหมณ์เตี้ยปราบมหาพลี หลานของประหลาทะ ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่าคือขุชชาวตาร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าทวิชอวตาร) เป็นพราหมณ์ปราบอสุรตาวันยักษ์ อสุรตาวันหนีไปถึงเมืองมายันที่พระอินทร์สร้างให้พระโอรสนามท้าวพันตา แต่หลังจากท้าวพันตาสิ้นชีพก็รกร้าง อสุรตาวันจึงขอพระอินทร์อาศัยอยู่ ต่อมาอสุรตาวันทำชู้กับนางเทพรำภา บาทบริจาพระอินทร์ พระอินทร์จึงสังหารอสุรตาวันและสาปนางเทพรำภาให้ลงไปช่วยพระนารายณ์อวตารจึงพ้นคำสาป และสาปนางบุษมาลีแม่สื่อให้ลงมาอยู่เมืองมายัน เมื่อพระนารายณ์อวตารใช้ทหารไปลงกา ให้นางบอกทางและร่วมเสน่หากับนาง จึงจะพ้นคำสาป

๏ กิศณุอะวะตาล คือบรมจกฤษณปราบพนาสูรในอะนิรุท ๚ะ๛

กิศณุอะวะตาร ของอินเดียว่าคือ กฤษณวตาร कृष्णावतार พระนารายณ์อวตารมาเป็นพระกฤษณะปราบท้าวกังสะ (कंस) ของไทยว่าคือพระบรมจักรกฤษณ์มาปราบพาณาสูรในเรื่องอนิรุทธ หรืออุณรุท


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 15:42
๏ พระขันธกุมารทรงมยุรพาหณ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 16:19
๏ ทุสะดีอะวะตาล ๚ะ๛

ของอินเดียว่ากัลกิอวตาร कल्कि अवतार จะเป็นอวตารปางสุดท้ายของพระนารายณ์ที่จะมาปราบคนชั่วในอนาคต ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เมื่อดวงจิตอังคุฐพรหมจุติยังโลกมนุษย์ เกิดเป็นม้าชื่ออสุรกัณฐะกะ เที่ยวเบียดเบียนสามโลก มีจิตพยาบาทพระอิศวร จึงเหาะไปเชิงเขาไกรลาส ขณะนั้นพระฤๅษีเทวบิดเป็นพนักงานน้ำสรงพระอิศวรลงมาตักน้ำในสระอโนดาต อสุรกัณฐะกะไล่กัดขบฤๅษีเทวบิด ฤๅษีเทวบิดหนีไปเฝ้ากราบทูลพระอิศวร พระอิศวรจึงให้เทพยดาจัตุบท จัตุบาท ไปเชิญเสด็จพระนารายณ์มาปราบ พระนารายณ์จึงกระทำเทวฤทธิ์อวตารเป็นมนุษย์ ๒ กร กรซ้ายทรงร่มทิพย์ กรขวาทรงไม้แส้ ชื่อทุลกีอวตาร ขึ้นหลังม้าเทวกัณฐัศมีปีก บินไล่อสุรกัณฐะกะ อสุรกัณฐะกะหนีไปฝั่งแม่น้ำสินธุ ขณะนั้นมีพระดาบสชื่อพระสัชนาไลย อาศัยอยู่ในถ้ำเขารัตนประพาฬ ออกจากอภิญญาไปแสวงหาผลไม้ พบอสุรกัณฐะกะ อสุรกัณฐะกะก็ไล่ขบกัดกินศีรษะพระดาบสถึงกาลกิริยา ทุลกีอวตารตามมาทันจึงเอาแส้ฟาดอสุรกัณฐะกะล้มลง แล้วตัดศีรษะอสุรกัณฐะกะมากระทำเทวฤทธิ์ร่ายวิษณุมนต์ ต่อศีรษะพระสัชนาไลย พระดาบสจึงมีหน้าเป็นม้า และมอบร่มทิพย์กับแส้ให้ ให้พระดาบสสอนการอัศวกรรมสืบไป พระดาบสจึงได้ชื่อว่าอิสีกัลไลยะกะ เป็นครูม้าสืบมา พระทุลกีจึงสาปร่างอสุรกัณฐะกะให้เป็นฝูงแม่ลา เมื่อม้าพลาหกมาสมจรแม่ลา มีบุตรเป็นชาติอัศดรแล้ว ให้ทำลายท้องแม่ลาออกมาให้แม่ลาถึงแก่ความตาย แล้วพระนารายณ์เสด็จกลับไป


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 10 มิ.ย. 20, 17:45
๏ พระปรเมศวรทรงธนูโมลี ๚ะ๛

๏ สาตร์วราห์ปราบหิรันต์สูร

ของอินเดียว่าวราหาวตาร वराहावतार มีอสูรตนหนึ่งชื่อ หิรัญยากษะ (हिरण्याक्ष) ได้บำเพ็ญตบะถึงพระพรหม เพื่อขอพรให้ตนไม่ถูกฆ่าโดยมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉาน เมื่อได้พรมาแล้วจึงได้ม้วนแผ่นดินไปซ่อนในครรโภทก(มหาสมุทรใต้จักรวาล) หรือบางตำนานเล่าว่า ไปซ่อนในบาดาลชั้นรสตาละแทน พระวิษณุจึงอวตารไปเป็นหมูป่าครึ่งมนุษย์ ที่สูง ๑,๐๐๐ โยชน์ ตัวกว้าง ๑๖ โยชน์ ไปสู้กับหิรัญยากษะโดยใช้กระบอง เมื่อผ่านไป ๑,๐๐๐ ปี พระวราหะจึงสามารถสังหารหิรัญยากษะได้ พระวิษณุนำแผ่นดินกลับมา พระแม่ภูมิเทวี เทวีแห่งแผ่นดินหลงรักพระวราหะ จึงได้แต่งงานกัน และมีบุตรคือนรกาสูร (नरकासुर) ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า มีพรหมตนหนึ่งริษยาพรหมธาดา ผลกรรมจึงให้จุติเป็นอสูรชื่อหิรันตยักษ์ ได้พรพระอิศวรจึงกำเริบ กระทำให้กายใหญ่ม้วนแผ่นดิน พระอิศวรจึงให้เชิญพระนารายณ์มาปราบ พระนารายณ์จึงอวตารเป็นเศวตวราหะนามว่าวราหวตาร ไปสังหารหิรันตยักษ์แล้วกลับมาบรรทมสินธุในเกษียรสมุทร กระทำเทวฤทธิ์ให้เกิดดอกปทุมชาติจากเบื้องอุทรประเทศ บังเกิดพระอโนมาตันจากดอกปทุมชาติ จึงพาพระอโนมาตันไปถวายพระอิศวร พระอิศวรให้พระอินทร์กับฤๅษี ๔ องค์ คือ ยุทธ, อักขระ, ทหระ, ยาคะลงมาสร้างเมืองในป่าประชุมศรีทงทวารมีต้นชุมเห็ด จึงให้ชื่อว่าพระนครศรีอยุทธยา เมื่อสร้างเมืองพร้อมประชากรแล้ว พระอิศวรจึงให้พระอโนมาตันเป็นต้นวงศ์กษัตริย์ในพระนครศรีอยุทธยา (ในรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ใน ร.๑ ว่าพระอิศวรให้พระอินทร์งมาสร้างเมือง พบกับฤๅษีอจนคาวี, ยุคอัคระ, ทหะ, ยาคะ ในป่าทวารวดี จึงตั้งชื่อว่าอยุธยา)

๏ บุรุษรามาวะตาล ๚ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เมื่อทศกัณฐ์อาสาชลอเขาไกรลาสให้ตั้งตรง พระอิศวรจึงว่า ถ้าเอ็งชลอเขาไกรลาสตงแล้ว เอ็งปรารถนาซึ่งนางใดในไกรลาส แม้บาทบริจาริกาของเราก็จะให้ดังปรารถนา ทศกัณฐ์สามารถชลอเขาไกรลาสให้ตรงได้และทูลขอพระอุมาจากพระอิศวร พระอิศวรจึงจำพระทัยยกพระอุมาให้ พระอุมาบันดาลให้ร้อน ทศกัณฐ์จึงเชิญองค์พระอุมาขึ้นทูนเศียรเกล้าไป เทพยดาจึงไปเชิญพระนารายณ์มาช่วย พระนารายณ์จึงนิรมิตกายเป็นบุรุษนามรามาวตาร (โคลงนารายณ์สิบปางว่ามหัลลกอสุรวตาร) มาปลูกต้นไม้ เอาปลายลงขวางทางทศกัณฐ์เป็นกลอุบาย ทศกัณฐ์ไม่รู้จึงกล่าวติเตียนว่า ท่านนี้เป็นคนโฉด มาปลูกต้นไม้เอาปลายลงฉะนี้ เหตุไฉนจึ่งจะเป็นภักผลเล่า บุรุษรามาวตารตอบว่า ท่านเป็นคนโฉดเขลาเองเสียอีก ท่านทูลขอองค์พระอุมามานั้นเพื่อจะประสงค์สิ่งอันใด นางมณฑก (ในรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ใน ร.๑ ว่า นางมณโฑ) ที่เป็นบาทบริจาริกาอยู่ข้างอาสน์พระอิศวรนั้น มีโฉมงามบริสุทธิ์ประกอบไปด้วยเบญจลักษณะ ควรที่จะเป็นมเหสีได้ เป็นไรจึ่งไม่ทูลขอเอาไป มาทูลขอซึ่งองค์พระอุมาภควดี ซึ่งเป็นมารดาสุดาในสุราลัยนั้น ถ้าท่านเอาไปเป็นมเหสี เศียรท่านจะแตกออกเป็นเจ็ดภาค ทศกัณฐ์ได้ฟังก็คิดได้ จึงพาพระอุมากลับไปคืนพระอิศวรและทูลขอนางมณฑก พระอิศวรก็ประสาทให้ พระนารายณ์ก็กลับไปยังเกษียรสมุทร


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 10:10
๏ มัจฉาอะวะตาลปราบหมู่สังขอะสูร

ของอินเดียว่ามัตสยาวตาร मत्स्यावतार ว่าระหว่างนั้นโลกกำลังจะเกิดอุททกภัยครั้งใหญ่ ได้มีอสูรตนหนึ่งชื่อหัยครีพ (हयग्रीव) หรือสังขอสูร (शंखासुर) ได้ขโมยคัมภีร์พระเวทจากพระพรหมไป เมื่อครั้งที่พระพรหมทรงหลับ เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการสร้างโลก แล้วเผลอคายคัมภีร์พระเวทออกมาจากปากของพระองค์ พระวิษณุจึงอวตารเป็นปลาชื่อสะผะริ ระหว่างที่พระมนูไววัสวัต (वैवस्वत मनु) กำลังทำพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ที่ริมแม่น้ำกฤตมาลาอยู่นั้น พระองค์ได้เจอปลาสะผะริ ปลาสะผะริขอร้องให้พระมนูไววัสวัตให้ช่วยตนจากปลาใหญ่กว่าไม่ให้มาทำร้ายตน พระมนูจึงเอาปลาไปไว้ในอ่าง แต่พอไว้ในอ่างปลาสะผะริก็ตัวใหญ่เท่าอ่าง พระมนูจึงนำไปใส่ในสระนำ้ ปลาสะผะริก็ตัวใหญ่เท่าสระน้ำ พระมนูจึงนำไปไว้ในทะเลสาป ปลาสะผะริก็ตัวใหญ่ขึ้น พระมนูจึงนำไปปล่อยในมหาสมุทร ปลาสะผะริก็ขอร้องอีกว่าอย่าทิ้งให้ตนอยู่ในทะเลใหญ่ พระมนูจึงรู้ว่าไม่ใช่ปลาธรรมดา ปลาสะผะริจึงกลับร่างเป็นพระวิษณุ พระวิษณุทรงเตือนว่าอีก ๗ วันจะเกิดน้ำท่วมโลก ให้เตรียมเรือใหญ่ไว้ แล้วนำพืชพรรณทุกชนิด สัตว์ชนิดละคู่ และฤาษีทั้ง ๗ ตน ๗ วันต่อมาน้ำท่วม พระมนูจึงภาวนาถึงพระวิษณุ พระวิษณุจึงปรากฏตัวเป็นมัตสยาวตาร ไปสังหารหัยครีพ แล้วนำพระเวทไปคืนพระพรหม พระมนูได้ใช้พญาอนันตนาคราชพันหัวเรือไว้กับพระมัสตยาวตาร เมื่อน้ำลดพระมนูนำเรือไปจอดที่ภูเขาหิมาลัย พระวิษณุได้กล่าวสอนพระมนูให้ตั้งในธรรม แล้วจึงสืบเผ่าพันธ์มนุษย์ สัตว์และพืชพรรณต่อไป ส่วนของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เมื่อพระนารายณ์อวตารเป็นกัจฉะปาวตารไปปราบผีเสื้อน้ำที่ลักคัมภีร์ไตรเพทมาให้อสุรมัจฉาร้อยโกฏิ อสุรมัจฉาจึงเอาคัมภีร์ไตรเพทไปฝากสังขอสูร พระนารายณ์จึงอวตารเป็นปลากรายทองชื่อมัจฉาวตาร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่ามัจฉาอวตาร) ตามไปปราบสังขอสูร สังขอสูรกลืนคัมภัร์ไตรเพทลงท้อง พระนารายณ์จึงสังหารสังขอสูรแล้วง้างปากล้วงเอาคัมภีร์ไตรเพทคืน พระนารายณ์สาปปลากรายว่า ถึงมนุษย์จะเสพเองเป็นอาหารไปภายหน้าก็ลำบากนัก แล้วสาปสังข์ว่า ถ้ามนุษย์จะทำการมงคลพิธีไปภายหน้า ก็จงเอาสังข์นี้เข้าอยู่ในการพิธีนั้น ถ้าผู้ใดรดน้ำในอุทรสังข์ก็ให้เป็นมงคลกันอุบาทว์เสนียดจัญไร ด้วยสังข์กลืนคัมภีร์ไตรเพทไว้ในอุทร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่ามีพรหมตนหนึ่งริษยาพระพรหมธาดา จึงจุติมาเป็นสังขอสูร ครั้งหนึ่งพระพรหมธาดานำคัมภีร์พระเวท พระธรรมศาสตร์มาถวายพระอิศวร ระหว่างทางได้แวะสรงน้ำ สังขอสูรจึงใช้ผีเสื้อน้ำไปลักคัมภีร์มา พระพรหมไปกราบทูลพระอิศวร พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์ไปปราบ พระนารายณ์อวตารเป็นปลากรายทองชื่อมัจฉาอวตาร ไปสังหารผีเสื้อน้ำและสังขอสูร แล้วสาปสังข์ว่า รอยนิ้วหัตถ์แห่งเราอันเป็นมงคลซึ่งยื่นล้วงเข้าไปเอาคัมภีร์พระเวท พระธรรมศาสตร์ ตามช่องปากแห่งสังข์นี้ แลอุระสังข์ก็เป็นที่ทรงไว้ซึ่งพระคัมภีร์ อนึ่ง พระพรหมซึ่งจุติลงมาเป็นสังข์มีอานุภาพ มงคลทั้งสามนี้ภายหน้าไปบุคคลจะเอาสังข์ไปเป่าได้ยินเสียงสังข์จนสถานที่ใดก็ให้เป็นมงคลจนสุดเสียงสังข์นั้น)

๏ ชัมภูวราช ๚ะ๛

ของอินเดียในรามายณะว่าชัมพวัน (जाम्बवन्त) เป็นพญาหมี ถูกสร้างโดยพระพรหม ของไทยในรามเกียรติ์แยกเป็น ๒ ตนคือ ชามพูวราชและชมพูพาน นารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า ชามพูวราชเกิดจากไม้ไผ่ท่อนปลายของพระฤๅษีสุขวัฒนที่พระอิศวรหัก (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าไม้ไผ่ท่อนเบื้องบน) ส่วนชมพูพาน รามเกียรติ์  พระราชนิพนธ์ใน ร.๑ ว่าเกิดจากเหงื่อไคลพระอิศวร

๏ ขัฉชปาวะตาลปราบอสูรมัจฉา ๚ะ๛

ของอินเดียว่ากูรมาวตาร कूर्मावतार พระนารายณ์อวตารเป็นเต่าเพื่อรองเขามันทระให้สูงขึ้น ในการกวนเกษียรสมุทรเพื่อให้ได้น้ำอมฤต ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่าอสุรผีเสื้อน้ำได้ขโมยคัมภีร์ไตรเพทจากพระพรหมมาให้อสุรมัจฉาร้อยโกฏิ พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์ไปปราบ พระนารายณ์จึงอวตารเป็นเต่าทอง นามว่ากัจฉะปาวตาร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าสุวรรณกัจฉะปะอวตาร) ไปปราบผีเสื้อน้ำและอสุรมัจฉาร้อยโกฏิ อสุรมัจฉาจึงเอาคัมภีร์ไตรเพทไปฝากสังขอสูร กัจฉะปาวตารจึงสังหารอสุรมัจฉาร้อยโกฏิตายสิ้น แล้วอวตารเป็นมัจฉาวตารไปตามสังขอสูร (ฉบับโรงพิมพ์วัชรินทร์ว่าว่ามีพรหมหมู่หนึ่งริษยาพระพรหมธาดา จึงจุติมาเป็นอสูรมัจฉา เหล่าอสูณมัจฉาจึงว่ายเข้าเบียดเชิงเขาพระสุเมรุให้พังลง เทวดาและฤๅษีมาทูลพระอิศวร พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์ไปปราบ พระนารายณ์จึงอวตารเต่าทอง นามว่าสุวรรณกัจฉะปะอวตาร ไล่สังหารเหล่าอสูรมัจฉาจนหมด)


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 10:48
๏ ปัญจะศรีขอรดิดพิณ ๚ะ๛

พระปัญจสีขร หรือ พระปัญจสิงขร ในไตรภูมิพระร่วงหรือเตภูมิกถา ว่าเดิมเป็นเด็กเลี้ยงโค  มีผม 5 ปอย ชอบสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณะประโยชน์คือ ศาลา สระน้ำ ถนน และยานพาหนะ แต่ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังหนุ่ม ด้วยคุณความดีจึงทำให้บังเกิดเป็นเทพบุตร ในชั้นจาตุมหาราชิกา นามว่า ปัญจสิขคนธรรพเทพบุตร นักดนตรีไทยมีความเชื่อเกี่ยวกับพระปัญสิงขรว่าเป็นครูเทพแห่งดนตรีเครื่องสายมโหรี มีหน้าที่บรรเลงดนตรี ขับร้องและฟ้อนรำบำเรอเทพเจ้าบนสวรรค์ จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าแห่งเครื่องดนตรีทั้งปวง สวมมงกุฎยอดน้ำเต้า ๕ ยอด ร่างกายเป็นสีทอง มีกุณฑล (ตุ้มหู) มีอาภรณ์ประดับด้วยนิลรัตน์ นุ่งผ้าสีแดง มีความสามารถในเชิงดีดพิณและขับลำนำ บ้างว่ามีกายสีขาว มี ๔ กร ถือพิณและบัณเฑาะว์ ซึ่งพิณมีพรรณเลื่อมเหลืองดุจผลมะตูมสุกสะอาด คันพิณยาว ๑ คาวุต (๔,๐๐๐ เมตร) เป็นแก้วอินทนิลมณี มีทั้งหมด  ๕๐ สาย ทำด้วยเงิน ส่วนลูกบิดทำด้วยแก้วประพาฬ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 11:03
๏ พระอิศวรสร้างพระหิมพานในร่มไม้สกรม

ในพระหัตถ์ทรงถือบัณเฑาะว์และมฤค ซึ่งคล้ายคลึงกับเทวรูปของพระศิวะในอินเดียใต้ (บางที่ทรงถือขวานแทนกลองบัณเฑาะว์)


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 12:40
๏ พระนรายน์ปราบอสูรหิด ๚ะ๛

คำบูชาพระนารายณ์ ของพระราชครูวามเทพมุนี จากหนังสือนารายณ์สิบปางและพงศ์ในเรื่องรามเกียรติ์

๏ โอม นะโม นารายณ์สะหะคะณะ ปะริวารา อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สะวาหาย

๏ โอม สัพพะอุปาทะ สัพพะทุกขะ สัพพะโศกะ สัพพะโรคะ วินาสายะ สัพพะสัตตรูปะมุจจะติ

๏ โอม นารายณ์ เทวะตา สะทารักขันตุ สะวาหะ สะวาหาย สะวาหาง


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 12:54
๏ พระอิศวร

คำบูชาพระอิศวร ของพระราชครูวามเทพมุนี จากหนังสือยันต์ ๑๐๘ พร้อมวิธีเขียน อ่าน หนังสือขอม ชำระโดย พระราชครูวามเทพมุนี

โอม นะมัสสิวายะ

จำเป นะเคารา นะสีระกายายะ กัตตะปูระณะ กาวะนะสี จะกายอ นะมัสสิ วายะยายะ จะนะมัสสิวายะยอ

กัตตุกรี ศิกากัง คะมะติจัตติตายายะ เสตาริฉัน จัตติตอยอ สะกุณธะลายายะ มะนิกุณธะลายอ นะมัสสิวายายะ จะนะมัสสิวายา

อะระคัม สัมปุญญัม สีวิรุส ตะไรยยะเก กาเม จะมะเหยะเต


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 13:40
พระสมุดรูปพระไสยศาสตร์หรือเทวรูป (พระสมุทรูปพระไสยสาสตร์) เลขที่ ๓๓ สมุดไทยดำ เขียนด้วยเส้นขาว อักษรบรรยายเขียนด้วยเส้นหรดาล หอพระสมุดวชิรญาณซื้อจากนายขีด นาคเทวิน วันที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑

๏ พระศิวะลิงคสยมภูวนาถ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:08
๏ พระมหาวิฆเนกทรงบาท ๚ะ๛

๏ พระมหาวิฆเนกจำสถานบาทซ้ายเหยิยบมุสิกะ ๚ะ๛

พระมหาวิฆเนศ महाविघ्नेश = เจ้าแห่งการกำจัดอุปสรรค


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:13
๏ พระโกญจนาเนศวร ๚ะ๛

๏ พระเทวกรรม์ ๚ะ๛



กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:16
๏ พระมหาวิฆเนศ ๚ะ๛

๏ พระเทวกรรม์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:17
๏ พระวิกฆิเนศวร ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:19
๏ พระวิฆิเนศวร ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:21
๏ พระมหาวิกฆิเนศทรงมุสิกพาหนะไปปราบสะระพังคี ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:36
๏ พระมหาวิกฆิเนคทรงเต่าเปนพาหนะไปกระเษียรสมุท ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:42
๏ พระอิศวรปราบกรุงภาลียักษ์ถือเอาซึงภูมิประเทษเพื่อจะเปนใหญ่ในโลกย์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:47
๏ พระพรหมธาดา ๚ะ๛

๏ พระปัญจศิขรดีดพิน ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:51
๏ ท้าวสหะบดีพรหม ๚ะ๛

๏ พระพรหมเหศวร ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:53
๏ พระพรหมสัทธาทิพ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:54
๏ พระพรหมสัทธาเทพ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 14:57
๏ พระเทพสิทธิกรรม์ ๚ะ๛

๏ อิสีสิงฆดาบศ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:02
๏ พระพรหม ๚ะ๛

๏ พระวิศณุ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:04
๏ พระบรเมศวรเหยียบมูลาคนี ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:06
๏ พระพรหมสัทธาสิทธิ์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:17
๏ พระบรเมศวรพระหัถขวาทรงแก้วพระหัถซ้ายทรงคำภีรไสยสาด ๚ะ๛

ในไตรภูมิฉบับหอสมุดแห่งชาติกรุงปารีส กล่าวว่าพระพรหมบรมสุกขพิจิตรมหาพรหม (มหาพรหมเทพราช) ทอดเลข ๑ เป็นพระอิศวร มีกายสีขาว หัวทรงชฎาธาร มี ๓ ตา (ตาที่ ๓ มีชื่อว่า เพศสังหาร เมื่อเปิดออกแล้วจะลุกเป็นไฟไหม้ ๓ โลก) สวมสังวาลนาค ทรงอาภรณ์หนังเสือ กรทรงคัมภีร์สีทองดำถมอและแก้วสัพพพิธรัตนะสลัก ซึ่งตรงกับภาพนี้


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:22
๏ พระนารายน์ทรงบาศปราบเอกทันต์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:25
๏ พระพรหมสัทธาสิพ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:30
๏ พระนารายบันทมบรรลังก์นาค ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:34
๏ พระนารายน์ปราบนันทกพรหม ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 15:38
๏ พระอะแมนิ้วมือข้างละ ๖ นิ้ว ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 17:19
๏ พระเทวบิต ๚ะ๛

๏ พระนารายน์กระแสภะยาม ๚ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่าพระอิศวรเป็นเจ้าให้เทพยดาลงมาบังเกิดเป็นในเมืองชุมพู (ชมพู) และเมืองขีดขิน เพื่อเป็นโยธาพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงกระทำเทวฤทธิ์จับระบำในกลางกระแสสมุทร เรียกว่านารายณ์กระแสพยาม แล้วให้พระลักษมีแบ่งภาคลงไปเกิดเป็นนางสีดา ให้จักราวุธตรีศูลคทาเพชรเป็นพระเพลารถ (พระพรต) ให้พญาอนันตนาคราชเป็นพระสัพลักขณา (พระลักษณ์) พระมหาสังข์ทักขิณาวัฏเป็นสัตรุด (ในรามเกียรติ์ พระราชนินธ์ใน ร.๑ ว่า พญาอนันตนาคราชและสังข์คือพระลักษณ์ จักรคือพระพรต คทาคือพระสัตรุด) ส่วนพระนารายณ์แบ่งภาคเป็นพระรามาวตาร


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 17:25
๏ พระนารายน์ทรงขลุ่ยปราบอสุรเวรำภา ๚ะ๛

๏ พระนารายน์ยืนจำสถาน ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 17:45
๏ พระนารายน์นั่งจำสถาน ๚ะ๛

๏ พระอุมาภัควะดี ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 17:54
๏ พระลักษมี ๚ะ๛

๏ พระมเหศวารี ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 17:59
๏ พระนารายน์ยืนปราบนันทกพรหม ๚ะ๛

๏ พระพรหมนารท ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 18:05
๏ พระอิศวรกับพระอุมาทรงโคเสดจไปไกรลาศ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 18:16
๏ พระนารายน์เสดจ์ไปคิชบันพต ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 19:29
๏ พระนารายน์ทรงสิงฆพาหนะเสดจ์ไปไกรลาศ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 19:31
๏ พระนารายน์บันทมสินธุในกระเษิยรสมุท ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 11 มิ.ย. 20, 19:37
๏ พระนารายน์เสดจ์ไปเมืองจิตำมะลำ ๚ะ๛

๏ พระอิศวรเหยียบอังคุทธ์พรหม ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 09:00
๏ พระฤๅษีกระไลยโกฏ ๚

๏ พระพลเทพถือไถ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 09:02
๏ พระนารายน์จำสินในบันลังนาค ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 09:33
๏ พระอินท์ทรงช้างเอราวรรณ์ ๚ะ๛

๏ เทวดาโพธิบาทว์ ๘ องค์ ๚ะ๛

เทวดาโพธิบาทว์ (อาธิไท้โพธิบาทว์, อภิไทโพธิบาทว์) คือเทวดารักษาทิศทั้ง ๘ ทิศ ตามคัมภีร์ฮินดูเรียกว่า อัษฎิกบาล (अष्ट दिक्पाल) มี ๘ องค์ พระอินทร์เป็นเทวดาผู้รักษาทิศตะวันออก


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 09:46
๏ พระยมราชทรงนกแสรก ๚ะ๛

พระยมราช (यमराज) หรือพระยม (यम)  เป็นเทวดาผู้รักษาทิศใต้

๏ พระเพลิงทรงระมาตเพลิง ๚ะ๛

พระเพลิง หรือพระอัคนี (अग्नि) เป็นเทวดาผู้รักษาทิศตะวันออกเฉียงใต้


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 09:51
๏ พระโสมทรงม้า ๚ะ๛

พระโสม (सोम) หรือพระจันทร์ (चन्द्र) เป็นเทวดาผู้รักษาทิศเหนือ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 10:01
๏ พระพายทรงม้า ๚ะ๛

พระพาย หรือพระวายุ (वायु) เป็นเทวดาผู้รักษาทิศตะวันตกเฉียงเหนือ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 10:10
๏ พระนารายน์ทรงครุธ ๚ะ๛

พระนารายณ์ (नारायण) หรือ พระวิษณุ (विष्णु) เป็นเทวดาผู้รักษาทิศตะวันตกเฉียงใต้


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 10:14
๏ พระพิรุณทรงนาค ๚ะ๛

พระพิรุณ หรือพระวรุณ (वरुण) เป็นเทวดาผู้รักษาทิศตะวันตก


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 10:55
๏ พระไพศพทรงบุษบกหงษ ๚ะ๛

พระไพศรพณ์ หรือพระไวศรวัณ (वैश्रवण) เป็นเทวดาผู้รักษาทิศตะวันออกเฉียงเหนือ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 11:03
๏ พระพรหมธาดาทรงหงษ์พาหนะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 11:35
๏ เทวดานพเคราะห์ ๙ องค์ ๚ะ๛

เทวดานพเคราะห์ (नवग्रह)  คือเทวดาประจำดาวเคราะห์ทั้ง ๙

๏ พระอาทิตยทรงราชสีหถือธนู

พระอาทิตย์ (आदित्य) หรือพระสูรยะ (सूर्य) ของอินเดียว่าเป็นบุตรของพระกัศยปฤๅษีเทพบิดร และพระแม่อทิติ เดิมมีนามว่า พระมารตัณฑะ (मार्तण्ड) เป็นเทพในตระกูลเทพพระอาทิตย์ ๑๒ องค์ ได้แก่ พระวรุณ (พระพิรุณ), พระมิตระ, พระอรรยมัน, พระภคะ, พระองศา, พระธาตรี, พระอินทร์, พระวิศวกรรม, พระปรรชันยะ, พระอังศุมาน, พระปูษัน และพระมารตัณฑะ แต่เดิมพระมารตัณฑะมีรูปไม่งาม มารดาจึงทอดทิ้ง ต่อมาเหล่าพี่ชายได้ขึ้นเป็นเทพแล้วได้มอบพลังให้พระมารตัณฑะ มอบนามใหม่ให้ว่าพระสูรยะ (सूर्य) พระศิวะทรงแต่งตั้งให้เป็นเทพประจำดวงอาทิตย์ ของไทยในคัมภีร์เฉลิมไตรภพว่า พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ และพระพรหม ใช้ให้หัสดีไปหาส่วนผสมเพื่อทําพิธีเสกเทวดานพเคราะห์ พระวิศวกรรมสร้างโรงพิธี เทพเจ้าทั้งสี่เสกเทวดานพเคราะห์ โดยพระอาทิตย์ถูกสร้างจากราชสีห์ ๖ ตัว มาบดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีแดง ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกเป็นพระอาทิตย์


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 11:44
๏ พระจันท์ทรงม้าถือดาบเขน ๚ะ๛

พระจันทร์ (चन्द्र) ของอินเดียว่าคือพระพรหมอวตารลงมาเกิดเป็นโอรสของฤๅษีอัตริ กับพระนางอนสูยา บางตำนานก็เล่าว่า พระจันทร์กำเนิดมาจากการกวนเกษียรสมุทร พระศิวะทรงนำมาประดับไว้บนมวยพระเกศา ของไทยในคัมภีร์เฉลิมไตรภพว่า พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ และพระพรหม ใช้ให้หัสดีไปหาส่วนผสมเพื่อทําพิธีเสกเทวดานพเคราะห์ พระวิศวกรรมสร้างโรงพิธี เทพเจ้าทั้งสี่เสกเทวดานพเคราะห์ โดยพระจันทร์ถูกสร้างจากนางอัปสร ๑๕ องค์ มาบดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีขาวนวล ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกเป็นพระจันทร์


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 12:06
๏ พระอังคารทรงมหิงษพาหนะถือดาบ ๚ะ๛

พระอังคาร (अङ्गार) หรือพระมังคละ (मङ्गल) ของอินเดียว่าเกิดจากเหงื่อหรือเลือดของพระศิวะที่ทรงหยดลงในขณะทรงพระพิโรธกับการต่อสู้กับอันธกาสูร และพระแม่ธรณีได้รองรับไว้ กำเนิดเป็นกุมารกายสีแดงโลหิต มี ๔ กร บ้างก็ว่าเป็นบุตรของพระแม่ธรณีกับพระวิษณุในร่างพระวราหาวตาร เดิมมีนามว่า พระเภามะ (भौम) พระเภามะได้เริ่มการบูชาพระศิวะ จนพระศิวะพอพระทัย และแต่งตั้งให้เป็นเทวดานพเคราะห์ ของไทยในคัมภีร์เฉลิมไตรภพว่า พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ และพระพรหม ใช้ให้หัสดีไปหาส่วนผสมเพื่อทําพิธีเสกเทวดานพเคราะห์ พระวิศวกรรมสร้างโรงพิธี เทพเจ้าทั้งสี่เสกเทวดานพเคราะห์ โดยพระอังคารถูกสร้างจากกระบือ ๘ ตัว มาบดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีชมพูเข้ม ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกเป็นพระอังคาร


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 13:10
๏ พระพุททรงช้างถือดาบ ๚ะ๛

พระพุธ (बुध) ของอินเดียว่าเป็นบุตรของพระจันทร์ กับนางตาราชายาของพระพฤหัสบดี เมื่อตอนที่อยู่ในครรภ์ พระพฤหัสบดีสงสัยว่าบุตรในท้องของนางตารา เป็นบุตรของใครกันแน่ พระพุธผู้อยู่ในท้องของนางตาราได้ตอบออกมาว่าตนเป็นบุตรของพระจันทร์ นางตาราได้ยินก็โกรธมากจึงสาปบุตรในท้องให้กลายเป็นคนลักเพศ ส่วนพระพฤหัสบดีเมื่อได้ยินดังนั้นก็โกรธและใช้ไฟตบะของตนเผานางตาราเป็นเถ้าถ่าน ส่วนพระพุธนั้นไม่ได้ถูกเผาไหม้ไปด้วย พระพรหมได้ปรากฏกายขึ้น และกล่าวว่า นางตาราได้รับการชำระล้างบาปจากการถูกไฟเผาแล้ว และได้ชุบชีวิตให้นางตารา ส่วนพระพุธนั้น พระพฤหัสบดีทรงเลี้ยงดูไว้ และมอบความรู้และศิลปวิทยา เมื่อพระพุธอายุได้ ๓๐ ปี ก็ทรงจดจำได้ทุกศาสตร์ จนเป็นผู้ฉลาดปราชญ์เปรื่อง ต่อมาพระพุธได้ไปบำเพ็ญตบะในป่าสคันวัน และได้พบรักกับนางอิลา ซึ่งคือท้าวอิลราชที่ต้องคำสาปให้กลายเป็นหญิงเดือนหนึ่งชายเดือนหนึ่ง พระพุธได้บำเพ็ญตบะด้วยการบูชาศิวลึงค์ด้วยทรายเป็นเวลานาน และพบกับอุปสรรคจากสัตว์ร้ายมากมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้พระพุธหวาดหวั่น จนพระศิวะพอพระทัย และได้แต่งตั้งให้เป็นเทพประจำดาวพุธ  ของไทยในคัมภีร์เฉลิมไตรภพว่า พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ และพระพรหม ใช้ให้หัสดีไปหาส่วนผสมเพื่อทําพิธีเสกเทวดานพเคราะห์ พระวิศวกรรมสร้างโรงพิธี เทพเจ้าทั้งสี่เสกเทวดานพเคราะห์ โดยพระพุธถูกสร้างจากคชสาร ๑๗ เชือก มาบดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีเขียวใบไม้ ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกเป็นพระพุธ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 13:17
๏ พระฤหัศทรงระมั่งถือหอก ๚ะ๛

พระพฤหัสบดี (बृहस्पति) ของอินเดียว่าเป็นบุตรของฤๅษีอังคิรส กับพระนางสมฤติ พระศิวะทรงแต่งตั้งให้เป็นคุรุแห่งเหล่าเทวดา ทรงเป็นทั้งเทวฤๅษี เทวคุรุ และเทวดานพเคราะห์ เป็นเทพประจำดาวพฤหัสบดี ของไทยในคัมภีร์เฉลิมไตรภพว่า พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ และพระพรหม ใช้ให้หัสดีไปหาส่วนผสมเพื่อทําพิธีเสกเทวดานพเคราะห์ พระวิศวกรรมสร้างโรงพิธี เทพเจ้าทั้งสี่เสกเทวดานพเคราะห์ โดยพระพฤหัสบดีถูกสร้างจากฤๅษี ๑๙ ตน มาบดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีเหลืองส้ม ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกเป็นพระพฤหัสบดี


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 13:37
๏ พระศุกรทรงโคถือธนู ๚ะ๛

พระศุกร์ (शुक्र) เป็นบุตรของฤๅษีภฤคุ กับพระนางอุศนัส หรือ พระนางกาพยมาตา มีนามเดิมว่า พระภารควะ เป็นเทพฤๅษีผู้มีรูปงาม และได้หลงรักกับนางอัปสรวิศวาจี และถอดจิตตามนางไป ต่อมานางก็ทิ้งพระภารควะ พระภารควะจึงไปจุติเป็นเมล็ดข้าว และชาวนาได้นำข้าวไปถวายฤๅษี ภรรยาฤๅษีได้กินเข้าไป และได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตร ชื่อ ฤๅษีอุศนัส ส่วนนางอัปสรวิศวาจี ถูกฤๅษีนารทมุนีสาปให้กลายเป็นกวาง และได้มาพบกับฤๅษีอุศนัส และได้สมสู่กันจนมีบุตร ในขณะนี้ดวงจิตของพระภารควะยึดติดในกาม และต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ฝ่ายฤๅษีภฤคุที่เข้าฌานไปเป็นเวลานาน เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบร่างของบุตรตนไม่มีชีวิต ท่านจึงไปพบพระยมในยมโลก เพื่อถามหาวิญญาณของบุตรตน แต่พระยมกล่าวว่าตอนนี้พระภารควะได้ไปเกิดเป็นพราหมณ์และกำลังจะใช้กรรมหมดแล้ว ฤๅษีภฤคุจึงขอให้พระยมนำดวงจิตของพระศุกร์คืนมา เมื่อพระภารควะกลับเข้าร่างเดิมแล้วก็เริ่มเบื่อหน่ายในชีวิต และเริ่มบำเพ็ญตบะต่อพระศิวะ และเนื่องจากพระภารควะได้บำเพ็ญตบะมาหลายชาติ จนกระทั่งพระศิวะทรงพอพระทัย และมอบพรให้พระภารควะ ทรงมอบนามใหม่ให้ว่า พระศุกร์ ให้เป็นอาจารย์ของเหล่าอสูร แทตย์ ทานพ รากษส และทรงแต่งตั้งให้เป็นเทพประจำดาวศุกร์


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 14:33
๏ พระเสารทรงพยักฆพาหนะถือตรี ๚ะ๛

พระเสาร์ (सौर) หรือพระศนิ (शनि) เป็นบุตรของพระอาทิตย์กับนางฉายา ซึ่งเกิดจากเงาของนางศรัณยา เนื่องจากนางศรัณยาไม่อาจทนทานต่อแสงสุริยะได้ จึงได้สร้างนางฉายาขึ้นมา ให้นางฉายาอยู่กินกับพระอาทิตย์ จนให้กำเนิดบุตร เมื่อแรกเกิดพระศนิมีกายสีดำคล้ำ พระอาทิตย์ไม่พอพระทัยและต่อว่านางฉายา พระศนิจึงใช้นัยน์ตาจ้องมองไปที่พระอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์ดับมืดลง ประดุจเกิดสุริยุปราคา เมื่อพระอาทิตย์ขออภัยต่อนางฉายา ดวงอาทิตย์จึงกลับมาสว่างดังเดิม พระอาทิตย์ทรงเห็นดังนี้จึงไม่พอพระทัยอย่างมาก และรังเกียจบุตรผู้นี้ วันหนึ่งพระศนิเกิดเรื่องวิวาทกับพระยม นางฉายาได้เข้ามาห้าม พระยมไม่พอใจจึงเตะนางฉายาด้วยเท้า นางจึงสาปให้พระยมขาพิการ มีแผลเน่าและมีหนอนเจาะแทะแผล พระยมจึงนำเรื่องไปฟ้องพระอาทิตย์ พระอาทิตย์จึงรู้ว่านางฉายาไม่ใช่นางศรัณยา พระอาทิตย์ได้เสกไก่แจ้มารักษาหนอนและรักษาแผลให้ และได้ไปไต่ถามความจริงจากนางฉายา และตามหานางศรัณยาจนเจอ และพานางกลับมาที่สูรยโลก เมื่อนางศรัณยากลับมานางฉายาจึงกลับไปรวมร่างกับนางศรัณยา พระศนิเศร้าโศกและโกรธเป็นอย่างมาก ความร้าวฉานมีมากขึ้น วันหนึ่ง พระเสาร์ได้วิวาทกับพระยมอีกครั้ง นางศรัณยาได้เข้ามาห้าม และสาปให้พระศนิต้องไปกำเนิดบนโลกและต้องถูกพี่น้องของตนสังหาร ซึ่งพระศนิก็ได้มาถือกำเนิดเป็นกรรณะ และถูกอรชุนผู้เป็นน้องชายสังหารในวันที่ ๑๗ ของสงครามทุ่งกุรุเกษตร พระศนิไม่ต้องการอยู่ในสูรยโลกอีกต่อไป และเริ่มบำเพ็ญตบะต่อองค์พระศิวะ จนพระองค์พอพระทัย และตั้งพระศนิเป็นหนึ่งในเทวดานพเคราะห์ ให้เป็นเทพประจำดาวเสาร์ ของไทยในคัมภีร์เฉลิมไตรภพว่า พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ และพระพรหม ใช้ให้หัสดีไปหาส่วนผสมเพื่อทําพิธีเสกเทวดานพเคราะห์ พระวิศวกรรมสร้างโรงพิธี เทพเจ้าทั้งสี่เสกเทวดานพเคราะห์ โดยพระเสาร์ถูกสร้างจากพยัคฆ์ ๑๐ ตัว มาบดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีดำ ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกเป็นพระเสาร์


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 14:50
๏ พระราหูทรงยักษถือค้อนเหลก ๚ะ๛

พระราหู (राहु) ของอินเดียว่าเป็นโอรสของท้าววิประจิตติ และนางสิงหิกา น้องสาวของหิรัณยกศิปุ เมื่อครั้งที่เหล่าเทวดาได้ทำพิธีกวนเกษียรสมุทรเพื่อให้ได้น้ำอมฤตนั้นมีทั้งเทวดาและอสูรทั้งหลายเข้าร่วมทำพิธี เมื่อทำพิธีสำเร็จ เหล่าเทพและอสูรได้ยื้อแย่งน้ำอมฤตกัน พระวิษณุทรงแปลงกายเป็นนางโมหิณี เพื่อแบ่งน้ำอมฤต พระราหูจึงรีบแปลงกายเป็นเทวดา แล้วลอบดื่มน้ำอมฤตที่เกิดขึ้นนั้น พระอาทิตย์และพระจันทร์ได้เห็นเข้าจึงรีบเอาความนั้นไปทูลบอกพระวิษณุ พระวิษณุทรงทราบจึงขว้างจักรสุทรรศนะตัดไปถูกกลางตัวพระราหูขาดกลายเป็นสองท่อน แต่ด้วยว่าน้ำอมฤตที่พระราหูได้ดื่มนั้นไหลไปจนถึงกลางตัวพระราหูแล้วพอดี ครึ่งบนของพระราหูที่ถูกตัดออกจึงกลายเป็นอมตะ ส่วนครึ่งล่างนั้นได้กลายมาเป็นพระเคราะห์องค์ที่ ๙ คือ พระเกตุ บ้างก็ว่าพระศุกร์ได้นำนาคมาผ่าเป็น ๒ ส่วน เพื่อมาต่อให้ราหูและเกตุ พระราหูมีหัวเป็นอสูรตัวเป็นเทพนาค พระเกตุมีหัวเป็นเทพนาคตัวเป็นอสูร จากนั้นเมื่อครั้งใดที่พระราหูได้พบเจอพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ พระราหูก็จะจับมากลืนกินด้วยความโกรธแค้น แต่อมไว้ในปากได้ไม่นานก็ต้องคายออกมาเพราะทนความร้อนและรัศมีของเทวดานพเคราะห์ทั้งสองไม่ได้ เกิดเป็นเหตุของปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคา ของไทยในคัมภีร์เฉลิมไตรภพว่า พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ และพระพรหม ใช้ให้หัสดีไปหาส่วนผสมเพื่อทําพิธีเสกเทวดานพเคราะห์ พระวิศวกรรมสร้างโรงพิธี เทพเจ้าทั้งสี่เสกเทวดานพเคราะห์ โดยพระราหูถูกสร้างจากหัวผีโขมด ๑๒ หัว มาบดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีทองสัมฤทธิ์ ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกเป็นพระราหู พระราหูเห็นว่าน้ำอมฤตของพระอิศวรศักดิ์สิทธิ์เพราะชุบเทพเจ้าได้ จึงอําพรางกายปกคลุมท้องฟ้าให้มืดมนแล้วแอบกินน้ำอมฤตในอ่างแก้วท้ายปราสาท เหล่าเทพพากันเข้าเฝ้าทูลพระอิศวร พระอิศวรทราบจึงหาผู้อาสาปราบพระราหู เหล่าเทพเสนอให้พระอิศวรใช้จักรแก้วปราบพระราหู พระองค์ขว้างจักรตัดตัวพระราหู พระราหูตัวขาดแต่ไม่ตายเพราะฤทธิ์น้ำอมฤตที่กินเข้าไป เหล่าเทพและนางฟ้าพากันเล่นดนตรีจับระบําถวายถวายพระอิศวร


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 14:57
๏ สิ้นเทวดานพเคราะห์ ๙ องค์

๏ พระเกตุทรงนาคถือพระขรรค์ ๚ะ๛

พระเกตุ (केतु) ของอินเดียว่าคือส่วนลำตัวของพระราหูที่ถูกจักรตัดออกไป พระราหูจึงมีแต่หัว ส่วนพระเกตุมีแต่ลำตัวที่ไม่มีหัว บ้างก็ว่าพระศุกร์ได้นำนาคมาผ่าเป็น ๒ ส่วน เพื่อมาต่อให้ราหูและเกตุ พระราหูมีหัวเป็นอสูรตัวเป็นเทพนาค พระเกตุมีหัวเป็นเทพนาคตัวเป็นอสูร ของไทยในคัมภีร์เฉลิมไตรภพว่า พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ และพระพรหม ใช้ให้หัสดีไปหาส่วนผสมเพื่อทําพิธีเสกเทวดานพเคราะห์ พระวิศวกรรมสร้างโรงพิธี เทพเจ้าทั้งสี่เสกเทวดานพเคราะห์ โดยพระเกตุถูกสร้างจากพญานาค ๙ ตัว มาบดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีทอง ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกเป็นพระเกตุ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 14:59
๏ พระมหาไชยมือขวาถือพระขรรค์มือซ้ายถือรวงเข้าทรงปลากรายทอง ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 12 มิ.ย. 20, 15:01
๏ พระขันทกุมารทรงมยุระพาหนะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 13:29
ตำราภาพเทวรูป เลขที่ ๓๒ สมุดไทยดำ เขียนด้วยเส้นขาว อักษรบรรยายเขียนด้วยเส้นหรดาล หอสมุดแห่งชาติซื้อจากนายเล็ก วันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๓

๏ พระศะหยมผู้วะนาฎ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 13:32
๏ พระประเมศวรปราบมุลาคะนี

๏ พระประเมศวรปราบอังคุทพรหม


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 13:47
๏ พระประเมศวรไปใตรลาตร์ทรงอุสุพภาหะน ๚

๏ พระประเมศวรประพาศจักระวาฬ ๚ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า พระอิศวรเป็นเจ้าทรงศีลแล้วก็ขึ้นทรงปลากรายทองพร้อมด้วยพระอุมาภควดี เสด็จไปประพาสจักรวาลโดยรอบ แล้วพระอิศวรจึงเอาตรีเพชรจักราวุธ หอกมหาสัตโลหะให้พระพายไปใส่ในครรภ์นางสวาหะ ให้เกิดบุตรเป็นเศวตพานรชื่อศรีหนุมาน แล้วเสด็จกลับไปไกรลาส


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 13:53
๏ พระประเมศวรทรงสุงสุมาพาพาหะนะ ๚ะ

๏ พระประเมศวรเสดจ์ไปจำสะถาร ะฯะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 14:18
๏ พระณารายไปคิดชะบันพดทรงครุทธพาหะณะ ๚ะ๛

๏ พระนารายทรงอุรุเคนทรพาหะณะ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 14:26
๏ พระนารายไปใตรลาททรงสิงขภาหะณะ ๚ะ๛

๏ พระนารายจำศิลบันลังนาค ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 14:28
๏ พระนารายทรงบาทปราบเอกกะทันต์ ะ

๏ พระอุมาปราบจรเข่ ฯะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 14:36
๏ พระนารายทรงคลู่ย ะ

๏ พระนารายจำสะถารยืน


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 14:44
๏ พระนารายเสดจ์ไปเมืองจิดตำปลำ ะ๛

๏ พระอุมาเสดจ์ยังใตรลาทหมู่ชางทั้งหลายมาถวายงาพระมารดาโลกย์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 14:49
๏ พระนารายจำสะถารหนั่ง ๚ะ๛

๏ พระนารายปราบนนทุกหนั่ง ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 14:55
๏ พระนารายบันทมสินในกระศิลสะมุตร ๚ะ๛

๏ พระนารายบันทมบนหลังนาค ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 14:59
๏ พระมหาวิกฆิเนตร์ทรงบาท ๚ะ๛

๏ พระมหาวิกฆิเนตร์ไปปราบสูระพังฆีทรงมุสิกะภาหะน ะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 15:10
๏ พระมหาวิกฆิเนตร์ไปกระเสิยนสะมุท ๚ะ๛

๏ พระวิกฆิเนตร์จำสะถาร ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 15:12
๏ พระเทวะกรรม์ยืน ๚ะ๛

๏ พระเทวะกรรม์หนั่ง


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 15:17
๏ พระวิกฆิเนศวรยืน ๚ะ๛

๏ พระวิกฆิเนศวรหนั่ง ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 15:31
๏ พรหมทาดา ะ๚ะ๛

๏ พรหมนารถ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 15:34
๏ สหะบดีพรหม ฯะ๛

๏ พรมเหศวรสามหน้า ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 16:35
๏ พรหมสะทาสิท ๚ะ๛

๏ พรหมสัทธาสิบ ฯะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 16:38
๏ พรหมสัทธาทิพ ฯะ๛

๏ พรหมสัทธาเทพ ะฯฯะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 16:43
๏ พระนารายทรงสิงคภาหะณะ

๏ พระอาแมมีมือข้างละหกนิ้ว ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 16:46
๏ พระลักษมี

๏ พระมะเหศวะรีย์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 16:58
๏ พระอุมา ะ๛

๏ พระอินศวร ๚ะ๛

เรื่องการเขียนพระอิศวร เป็นพระอินศวรนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยมีพระบรมราชาธิบายว่า "หนังสือพิมพ์ลงชื่อว่าพระอินสวน ผู้ลงหนังสือพิมพ์ก็มีครูอาจารย์ให้ถามครูอาจารย์ว่ามีหรือที่ชื่อว่าพระอินสวน ดูเป็นตาอินไม่ได้อยู่ในเมือง เป็นคนอยู่สวน ถูกแล้วหรือ หนังสือในราชการเขียนอย่างหนึ่ง ครูโรงพิมพ์อุตตริยักไปเป็นหลายอย่าง อย่าง ภาย เขียนว่า ผ่าย ลมพยุห์ เขียนว่า ลมพายุ และอะไรๆ อื่นอีกเป็นอันมาก ก็พระอินสวนนี้หนังสือราชการก็ไม่เคยเขียนเคยใช้ เป็นแต่คำผู้หญิงเรียกไม่ถูกเรียกเล่น ถามครูดูก่อนเถิด ถูกแล้วหรือ หรือจะเกี่ยงว่าทำตามเสียงคนอ่าน ก็หนังสืออังกฤษเป็นอะไร ในภาษาอังกฤษเองเขียนแลลงพิมพ์ตามลัทธิหนังสือแทบทั้งนั้น เสียงคนอ่านไปอย่างหนึ่ง ตัวหนังสือไปอย่างหนึ่ง สิอ่านกันได้เขียนกันได้ หนังสือไทยภาษาไทยก็เป็นภาษาเป็นหนังสือลูกศิษย์มีครู แต่ทำไมพวกโรงพิมพ์มาคิดว่าเป็นหนังสือและภาษาอาภัพอัปลักษณ์นักหนา ตัวตามหนังสือต้องกับภาษาสันสกฤตก็ไม่ยอมเขียนและลงพิมพ์หรือสำเนียงเสียงผู้ดี แลผู้รู้อ่านก็ไม่เอา ฉะเพาะจะเอาแต่เสียงไพร่เลวที่ไม่รู้หนังสือ ที่เรียกอะไรไม่ถูก มาใช้เอาเป็นประมาณ"


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 17:03
๏ พระสิทธิกรรม์ ๚ะ๛

๏ พระนารายเทพกรรม์ ะฯ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 17:21
๏ ฤๅศรีเทวะบิตร์ ๚ะ๛

๏ ฤๅศรีกะใลยโกฐ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 14 มิ.ย. 20, 17:31
๏ อิศรีสิงคดาวบศ ๚ะ๛

๏ ฤๅศรีทรพัตร์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 08:46
๏ พระโกนจะนาเนศวร ะ๛

๏ พระศรีวะบุตร์ ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 08:54
๏ พระขันทะกูมารทรง (ข้อความเลือนหาย)

๏ ปันจะสิง (ข้อความเลือนหาย)


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 09:01
๏ พระอิศวรปราบกรุงภาลียักษ์ถือเอาซึ่งผู้มีเพื่อจะเปนใหญ่ในโลกย์ ะ๛

๏ ชามภูวะราชวานร ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 09:16
๏ ชามภูวะราชวานร ะ๛

๏ พระอิศวรสร้างมหาทะนูโมลีด้วยลำไม่ศรีศุกขวัฒนะดาบศถวาย ะ๛

๏ อสูรเวรำพาย ะ๛



กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 09:27
๏ มัจฉาอะวะตาลพระนารายเปนปลาทองปราบหมู่สังขะอะสูรย์ ะ๛

๏ กัจฉะปาอะวะตาลพระนารายเปนเต่าทองปราบหมู่อะสูรย์มัจฉา ะ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 09:37
๏ ศุกะราวะตาลพระนารายเปนศุกรปราบหิรัญตะยัก

๏ สีหาวะตาลนารายเปนสิงหปราบหิรันตะปะกาสูน ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 09:42
๏ ขุชชาวตาลนารายเปนคนเตียปราบท้าวตาวรรณ์ ฯะ๛

๏ บุรุษรามาวะตาลพระนารายเปนบุรุษปลูกต้นเพื่อจะถือเอาพระอุมาไปจากภานาสูน ะ๛



กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 10:16
๏ รามาวะตาลพระนารายเปนพระรามปราบภนาสูนด้วยษรพรหมมาตร์ ะ๛

๏ กิศณุอวะตาลพระนารายเปนบรมจักกฤศปราบภะนาสูนด้วยเทพธรรมรง ะ๛



กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 10:29
๏ พุทธาวะตาลพระนารายเปนพระเพื่อจะถือเอาซึ่งพระศรีวะลึงค์แต่อสูระตรีปุรำ ๚ะ๛

๏ พระศิวา ฯะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 10:33
๏ ทุละกีอะวะตาลย์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 10:37
๏ อับสุรวะตาลนารายเปนนางระบำปราบนนทกพรหม ะ๛

๏ พระนารายกระแสพยาม ะ๛



กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 10:40
๏ พระนารายปราบอะสูรมะหิศ ะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 12:59
๏ พระอินศวรสร่างหิมพานต์ในร่มไม้ศุกขรมย์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 13:05
๏ พระวิศณู ะ๛

๏ พระพรหม ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 13:43
๏ พระอินศวรทรงศิล ๚ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า พระอิศวรทรงช้างชื่อมาตังคกะรีเทพ เสด็จไปทรงศีล ณ ยอดเขารัชดากูฏ ครั้งนั้นทศกัณฐ์แย่งบุษบกทิพย์จากกุเปรันตะยักษ์ผู้เชษฐา กุเปรันตะยักษ์หนีไปยอดเขารัชฎากูฏ ทศกัณฐ์ไล่ตามไป กุเปรันตะยักษ์ร้องกราบทูลให้พระอิศวรช่วย พระอิศวรลืมพระเนตรเห็นทศกัณฐ์ไล่กุเปรันตะยักษ์ก็พิโรธถอดเอางาช้างเบื้องซ้ายขว้างถูกอกทศกัณฐ์ แล้วสาปซ้ำว่า ต้องศรนารายณ์ถึงพรหมลิขิตจึงให้งานั้นหลุดจากอก ทศกัณฐ์ได้รับความเจ็บปวดนัก จึงขึ้นบุษบกกลับลงกา ให้ท้าววิษณุกรรมมาเลื่อยงาให้เสมออกแล้วเอาเกราะปิดบังไว้ แต่นั้นมาอสุรทั้งหลายจึงได้มีเกราะปิดอกเสมอทุกตน

๏ พระอินศวรทรงศิล ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า หลังจากพระอิศวรปราบมูลาคะนีแล้วเสด็จกลับไกรลาส เสด็จไปทรงศีลอยู่เหนือยอดเขารัชดากูฏ ให้หมู่อุรเคนทร์รักษาพระองค์แล้วให้ดื่มกินพระโลหิตในแม่นิ้วพระบาท กระทำด้วยเทวฤทธิ์ บังเกิดกุมารองค์หนึ่งออกจากอุทรประเทศ มี ๖ พักตร์ ๑๒ กร ให้นามว่าพระขันทกุมารเทวโอรส และเสกมยุรปักษาให้เป็นพาหนะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 13:46
๏ พระอินศวรปราบมะหาใชอิดสุนเพื่อจะถือเอาซึ่งสัตรัตะนามาดทังปวง ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 13:49
๏ พระอินศวรปราบอะสูรตรีบุรำ ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 14:44
๏ พระนารายประทมสินธุ์บันลังนาคจะกระทำให้บังเกีดช้างทั้งปวงในโลกย์นี้ ๚ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า ในไตรดายุค พระนารายณ์เสด็จไปประทมสินธุในเกษียรสมุทร กระทำด้วยเทวฤทธิ์ประดิษฐานให้ดอกปทุมชาติผุดขึ้นจากพระอุทร มีกลีบ ๘ กลีบ มีเกสร ๑๗๓ เกสร จึงนำดอกปทุมชาติไปถวายพระอิศวร พระอิศวรจึงเอาดอกปทุมชาติแบ่งออกเป็น ๔ ส่วนๆ หนึ่ง ๘ เกสร ได้แก่พระอิศวร ส่วนหนึ่ง ๘ กลีบ ๒๔ เกสร ได้แก่ท้าวมหาพรหม ส่วนหนึ่ง ๘ เกสร ได้แก่พระนารายณ์ ส่วนหนึ่ง ๑๓๕ เกสร ได้แก่พระเพลิง พระเป็นเจ้าจึงให้บังเกิดเป็นช้าง ๔ ตระกูล คือ อิศวรพงศ์ พรหมพงศ์ วิษณุพงศ์ อัคนิพงศ์ มีลักษณะต่างกัน พระเป็นเจ้าทั้ง ๔ จึงรังสฤษดิ์พระเวท ๔ ประการเพื่อไว้สำหรับชนทั้งหลายจะได้ปราบช้าง ๔ ตระกูล พระอิศวรจึงสาปนางมหาอุปกาสีให้ลงมาอยู่ในถ้ำชื่อว่า เทวิสินธรบรรพต นางจึงไปกินเถาคชลดาวัลย์ พระพรหมจึงให้บังเกิดบุตรของนางมหาอุปกาสีเป็นช้างอยู่ในป่าหิมวันต์ เป็นช้าง ๑๐ ชาติ คือ ช้างฉัททันต์ ช้างอุโบสถ ช้างเหมหัตถี ช้างมงคลหัตถี ช้างคันธหัตถี ช้างปิงคละหัตถี ช้างตามพะหัตถี ช้างบัณฑรหัตถี ช้างคังไคยหัตถี ช้างกาฬาวะกะหัตถี แล้วพระพรหมจึงสฤษดิ์รังสรรให้เกิดเป็นช้างอัฐทิศด้วยกลีบปทุมชาติ ๘ กลีบ แล้วพระนารายณ์จึงรังสฤษดิ์ให้เกิดเป็นช้างอัฐคชอีก ๘ ชาติด้วยเกสรปทุมชาติ แล้วพระอิศวรจึงรังสฤษดิ์ให้เกิดเป็นช้างอัฐคชาธารอีก ๘ ชาติ แล้วพระเพลิงจึงรังสฤษดิ์ให้เป็นช้างมีตระกูลอันชื่อว่าศุภลักษณะ ๔๙ ชาติ เป็นช้างโทษบาปลักษณะ ๘๐ จำพวกสำหรับประจำอยู่โลก


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 14:54
๏ พระรายปราบเอกทันต์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 15:00
๏ พระเทวะริ่งมัจอสูรสัตด้วยบวงบาท ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 15:09
๏ พระพลเทพ

๏ นางเทพี ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 15:15
๏ พระปะโคนทับ ะ๛

๏ พระมหาเมศอ ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 15:19
๏ พระอิ่นศวรปราบมหาพลอิสูนเพื่อจะเปนใหญ่ในโลกยนี้ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 15:27
๏ มัทยาวามหาฤๅษริ ฯะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 15:53
๏ พระอุเทนณุราช ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 16:52
๏ อิศริกะไลยกะครูม้า

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เมื่อพระนารายณ์เป็นทุลกีอวตาร ขึ้นหลังม้าเทวกัณฐัศมีปีก บินไล่อสุรกัณฐะกะ อสุรกัณฐะกะหนีไปฝั่งแม่น้ำสินธุ ขณะนั้นมีพระดาบสชื่อพระสัชนาไลย อาศัยอยู่ในถ้ำเขารัตนประพาฬ ออกจากอภิญญาไปแสวงหาผลไม้ พบอสุรกัณฐะกะ อสุรกัณฐะกะก็ไล่ขบกัดกินศีรษะพระดาบสถึงกาลกิริยา ทุลกีอวตารตามมาทันจึงเอาแส้ฟาดอสุรกัณฐะกะล้มลง แล้วตัดศีรษะอสุรกัณฐะกะมากระทำเทวฤทธิ์ร่ายวิษณุมนต์ ต่อศีรษะพระสัชนาไลย พระดาบสจึงมีหน้าเป็นม้า และมอบร่มทิพย์กับแส้ให้ ให้พระดาบสสอนการอัศวกรรมสืบไป พระดาบสจึงได้ชื่อว่าอิสีกัลไลยะกะ เป็นครูม้าสืบมา พระทุลกีจึงสาปร่างอสุรกัณฐะกะให้เป็นฝูงแม่ลา เมื่อม้าพลาหกมาสมจรแม่ลา มีบุตรเป็นชาติอัศดรแล้ว ให้ทำลายท้องแม่ลาออกมาให้แม่ลาถึงแก่ความตาย แล้วพระนารายณ์เสด็จกลับไป ต่อมาพระฤๅษีอิสีกัลไลยะกะออกจากฌานมานั่งเหนือแผ่นศิลาแถบแม่น้ำสินธุ เห็นหมู่ม้าพลาหกทั้ง ๓ ตระกูลเหาะมาเที่ยวเสพหญ้าเป็นอาหาร  และม้าสินธพชาติลอยเสพไคลน้ำเป็นอาหาร พระฤๅษีอิสีกัลไลยะกะใคร่จะได้ม้าทั้ง ๔ ตระกูลไว้ในโลก จึงกางร่มทิพย์ขึ้นร่ายพระเวทเรียกแม่โคแม่ลามาประชุมกัน แล้วเป่ามนต์อิตถีลึงค์ใส่แม่โคแม่ลาทั้งหลาย แล้วปล่อยไป  ฝ่ายม้าพลาหก ม้าสินธพชาติ เห็นแม่โคแม่ลาก็บังเกิดมีความกำหนัดในราคะ ก็มาสมจรแม่โคแม่ลาเหล่านั้น จนเกิดบุตร บุตรที่ม้าพลาหกสมจรด้วยแม่มาก็ทำลายท้องมารดาถึงกาลกิริยา บุตรที่ม้าสินธพชาติสมจรด้วยแม่โคแม่ลาก็คลอดปกติ เพราะไม่ต้องสาปพระเป็นเจ้า พระดาบสเห็นจึงคิดจะใคร่ได้ลูกม้าทั้งหลายเป็นพืชพันธุ์ต่อไป จึงกางร่มทิพย์ร่ายมนตร์เรียกอสุรตนหนึ่งชื่อกาลยักษ์ แล้วใช้ให้ไปตัดเอ็นเหาะของลูกม้าทั้งหลายเสีย ไม่ให้เหาะไปได้ในอากาศ แล้วพระดาบสจึงกระทำเป็นบังเหียนผ่าปากเข้าแล้วเอาเปลือกกระโดนนั้น มาพาดบนหลังต่างเบาะขี่ตามอัชฌาสัย แล้วสอนกุลบุตรให้กระทำอัศวกรรมทั้งหลายแต่นั้นมา

๏ พระวิษนุกันครูวัติทั้งปวง

พระวิศวกรรม विश्वकर्मा เป็นเทวดานายช่างใหญ่ของพระอินทร์ เป็นผู้สร้างเครื่องมือ สิ่งของต่างๆ ให้เกิดขึ้น และเป็นแบบอย่างให้กับมนุษย์สืบมา


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 17:12
๏ พระโภคอรรดีครูปะกำช้างอันสิงอยู่ในเลกซรอง ๚ะ๛

๏ นางศรีระวังครูปะกำช้างอันสิงอยู่ในบ่วงบาท ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เมื่อพระนารายณ์ลงมาปราบช้างเอกทันต์ เสด็จมาโลกมนุษย์ มาถึงทุ่งนาพบกับชาวนา ๔ พี่น้อง พี่ใหญ่ชื่อ โภควันดี พี่หญิงที่ ๒ ชื่อว่า สิระวัง (ศรีระวัง) น้องทั้ง ๒ ชื่อว่า คชศาสตร ๑ ศาสตรกรรม ๑ ทั้งสี่ฝากตัวขอเป็นศิษย์พระนารายณ์ นำทางพระนารายณ์ไปหาช้างเอกทันต์ เมื่อปราบช้างเอกทันต์เสร็จแล้ว พระนารายณ์เอาตำรับพฤฒิบาศประสิทธิ์ให้คนทั้ง ๔ เป็นประกรรมสำหรับได้ปราบหมู่ช้างทั้งหลายและสอนให้กระทำการคชกรรมต่อไป พระโภควันดีได้ประสิทธิศิษย์ด้วยเหล็กซอง นางสิระวังได้ประสิทธิศิษย์ด้วยบ่วงบาศ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 17:20
๏ พระคชสาตร์ครูปะกำชางอันสิงอยู่ในยฃอ ๚ะ๛

๏ พระสาตกำม์ครูปะกำช้างอันสิงอยู่ในเสาตลุง ะ๛

ของไทยในนารายณ์สิบปาง ฉบับโรงพิมพ์หลวงว่า เมื่อพระนารายณ์ลงมาปราบช้างเอกทันต์ เสด็จมาโลกมนุษย์ มาถึงทุ่งนาพบกับชาวนา ๔ พี่น้อง พี่ใหญ่ชื่อ โภควันดี พี่หญิงที่ ๒ ชื่อว่า สิระวัง (ศรีระวัง) น้องทั้ง ๒ ชื่อว่า คชศาสตร ๑ ศาสตรกรรม ๑ ทั้งสี่ฝากตัวขอเป็นศิษย์พระนารายณ์ นำทางพระนารายณ์ไปหาช้างเอกทันต์ เมื่อปราบช้างเอกทันต์เสร็จแล้ว พระนารายณ์เอาตำรับพฤฒิบาศประสิทธิ์ให้คนทั้ง ๔ เป็นประกรรมสำหรับได้ปราบหมู่ช้างทั้งหลายและสอนให้กระทำการคชกรรมต่อไป พระคชสาตรได้ประสิทธิศิษย์ด้วยขอ พระสาตรกรรมได้ประสิทธิศิษย์ด้วยตะลุง ฉะนัก และปลอก


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 17:37
๏ พระลักษมี ะ๛

๏ พระนาราย ะ๛

๏ พระมะเหศวะรีย์ ะ๛

ท้ายเล่มมีคาถาบูชาเทพเจ้าและคัมภีร์ไสยศาสตร์

๏ นะรานะระเทวะนาโถ นะวะโลกิศโรคุญโน นะระโสธิสาธิบูชานะบาโป นะโม สะยัมภู ๚ะ๛

๏ สะหะโกทิเทวานัง มังรักขันตุสัพเทวะตา อะหังวันธามิตังเทวัง ๚ะ๛

๏ อาจาริยะอาปาทัง วันธิตะวาอิติใสยะสาทตรา มหามันตังอะหังวันธามิตังอิสิง ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:08
สมุดพระเทวรูป เทวดานพเคราะ เทวดาโภไทยธิบาท เลขที่ ๓๑ สมุดไทยดำ เขียนด้วยเส้นขาว อักษรบรรยายเขียนด้วยเส้นขาวและเส้นหรดาล หอสมุดแห่งชาติซื้อเมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๓

พระฤๅษีไกลยโกษฐ

พระฤๅษิสิงหดาวบท


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:10
พระอินทร์ทรงเอราวัน


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:12
พระเพีลงทรงขันคาเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:15
พระยมทรํงนกแทรกเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:17
พระณ่รายทรงครุฑเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:19
พระพิรุนทรงงูเหลื่อมเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:20
พระพายทรงม้าเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:22
พระโสมทรงอัศ่ฎรเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:24
พระมหาไชใพรสภทรงปลากรายเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:31
พระอาทิตศีแดงทรงราชศรีเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:36
พระจันทร์ศรีขาวทรงมโนใมเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:39
พระอังคารสีชมภูทรงกระบือเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:41
พระพุทศรีเขียวทรํงชางเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:44
พระประหัดสีเมกทรงกวางเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:46
พระสุกศรีเหลีอบเหลีองทรงโคเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:52
พระเสาสีดำทรงพยักฆาเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 19:53
พระราหูศรีมวงทรงสุบันเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 20:05
พระเกสศรีทองทรงนาคาเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 20:07
พระอินศวร พระอุมา ทรงอุศภราชเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 20:08
พระณรายทรงศิงเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 15 มิ.ย. 20, 20:09
พระพรมทรงขุนห่านเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 09:22
พระมหาวิค่เนตรทรงกัดสินามเปนภาห่ณ่


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 09:25
พระเทว่กรรณ

มีข้อความว่า "เขียนเพียงนิแล แลวให้เขียนตามสมุทเล่มไหญ่" สมุดพระเทวรูปเล่มนี้อาจเป็นการยกร่างภาพเพื่อเป็นต้นแบบ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 09:28
พระป่ร่เมศวร

มีข้อความว่า "ยังไว้เพียงนี้"


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 09:42
พระนรายปราบเอกทรร


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 09:46
พระโภกค์วันดี

นางศิรวัง

พระคชสาต

พระสาตกรรม


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 09:55
๏ เปรดเมืองรามราช ะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 11:27
พระเทวรูป เลขที่ ๖๙ สมุดไทยดำ เขียนด้วยเส้นขาว อักษรบรรยายเขียนด้วยเส้นขาวและเส้นหรดาล หม่อมไพชยนต์เทพ (หม่อมราชวงศ์พิณ สนิทวงศ์) ถวาย วันที่ ๘ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๙ (พ.ศ. 2453)

๏ พระอินท์ธรงช้างเอระวรรณ์ ๚ะ๛
พระหัษซ้ายทรงจัก พระหัษขว่าธรงสัง ๚ะ

๏ เทวะดาโพธิบาทว์ ๘ องค์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 11:36
๏ พระยมราชทรงนกแสรก ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 11:38
๏ พระเพลองทรงระมาตเพลอง ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 11:39
๏ พระโสมทรงม้า ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 11:40
๏ พระพายทรงม้า ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 11:43
๏ พระนารายน์ทรงครุท ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 11:45
๏ พระพิรุณทรงนาค ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 11:47
๏ สิ้นเทวะดาโพธิบาทว์ ๘ พระองค์ ๚

๏ พระไพศพทรงบุศบกหงษ์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 13:58
๏ เทวะดานพเคราะห์ ๙ องค์ ๚ะ

๏ พระอาทิตยทรงราชสีหถือธนู ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 13:59
๏ พระจันทร์ทรงม้าถือดาบเฃน ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:01
๏ พระอังคารทรงมะหิ่งษพาหะนะถือดาบด่งง ๚ะ


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:04
๏ พระพุททรงช้างถือดาบ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:05
๏ พระประหัศทรงระม่งงถือหอก ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:08
๏ พระศุกรทรงโคถือธะนู ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:10
๏ พระเสารทรงพยักฆพาหะนะ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:11
๏ พระราหูทรงยักษถือค้อนเล็ก ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:14
๏ สิ้นเทวะดานพะเคราะห์ ๙ องค์ ๚ะ

๏ พระเกตุทรงนาคถือพระขรรค์ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:15
๏ พระพรหมธาดาทรงหงษพาหะนะ ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:17
๏ พระมหาไชยมือขวาถือพระขรรค์มือซ้ายถือรวงเข้าทรงปลากรายทอง ๚ะ๛


กระทู้: ตำราเทวรูปพระไสยศาตร์
เริ่มกระทู้โดย: นโม ตสฺส ที่ 16 มิ.ย. 20, 14:18
๏ พระขันทกุมารทรงมยุระพาหะนะ ๚ะ๛