เรียนท่านอาจารย์เทาชมพู ตลอดจนท่านสมาชิกเรือนไทยที่เคารพยิ่งทุกท่านครับ
วันหนึ่งในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสคุยโทรศัพท์กับเพื่อนคนหนึ่ง เราโม้กันด้วยเรื่องจิปาถะสักครู่ ผมก็ชวนเธอคุยเรื่องภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ถามว่าไปดูมาหรือยัง รู้สึกอย่างไรบ้าง ประโยคแรกที่เธอกล่าวคือคำบ่น “เราปวดหัวกับภาษาในบทหนังมากเลย” จากนั้นตามด้วยปรัศนี
“คนโบราณพูดจากันฟังยากๆถึงขนาดนั้นเลยหรือ” ผมแย้งไปว่า “ไม่ยากนะ” แล้วเราก็เปิดประเด็นอภิปรายกันครับ ยังมิทันได้ข้อสรุป เธอก็ติดธุระเสียก่อน หลังจากวันนั้น เราไม่สนทนากันเรื่องนี้อีก แต่ความคำนึงยังกรุ่นในสมองผม เกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่า นักเขียน หรือผู้เขียนบันเทิงคดี (ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม) หากจะเขียนเรื่องราวยุคเก่า ควรสรรคำอย่างไร ถ้าให้โบราณสมยุคมากที่สุด คนอ่าน/ฟังส่วนหนึ่งก็โวยว่ายากต่อความเข้าใจ ไม่เข้าถึงคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเยาวชน ครั้นทำให้โบราณแต่น้อย ผู้เสพอีกกลุ่มก็อาจวิจารณ์ได้ว่า ภาษาไม่เหมาะกับท้องเรื่อง ฉะนั้น ท้ายที่สุด ผมจึงใคร่ขอความเห็นจากทุกท่านเกี่ยวกับกรณีนี้ครับ สมมุติเล่นๆว่า ผมกำลังเขียนบทละคร โดยกำหนดว่าเรื่องราวเกิดขึ้นสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แม่ผกากำลังปรับทุกข์ด้วยอ้ายแกล้วผู้สามี ลีลาวาจาต่อไปนี้ ควรปรับเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไรครับ
ผกา: “ตรับข่าวชาวกรุงระบืออื้ออึงกัน เศิกครานี้ พระเจ้าหงสาวดีทรงคุมพลแสนยาเสด็จมาเอง แลทวยทกล้าพม่ารามัญอเนกอนันต์นัก ข้าวิตกมิรู้วายเลยพี่”
อ้ายแกล้ว: “เจ้าจักทังวลไย พหลแห่งอโยธยามื้อนี้ดั่งเทวาพยุหะ สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าองค์จุมพลข้างฝ่ายเราทรงพระปรีชาสามารถลือเลื่องกระเดื่องก้องไปทั่วทิศานุทิศ พระราชชโยบายหลักแหลมล้ำลึก ทั้งมากด้วยพระมหากฤษฎาธิการ ทัพม่านทัพมอญ เพียงพรับตาก็จักพินาศดุจแมลงเม่าเข้าเพลิง เจ้าคอยยลเถิด”
ผกา: “กระนั้น ข้าค่อยคลายใจ ว่าแต่พี่จะออกเศิกโดยเสด็จพระองค์ท่าน ระมัดตนด้วยหนา พี่ข้าเหิมห้าวกร้าวกระด้าง ข้าเกรง...”
อ้ายแกล้ว: “มัวหวาดนั่นหวั่นนี่มิเข้าทีเลยเจ้า ในสนามรณรงค์สงครามผู้ใดจักขลาดคร้ามหดหัวดั่งเต่าเอากระดองคุ้มตัวอยู่ได้ ศัตรูมันจักไยไพ ไหนๆประจญประจัญกันแล้ว ก็ต้องเหิมต้องเหี้ยมถึงที่สุด พี่ออกยุทธ์มิรู้กี่คราหาเคยเพลี่ยงไม่ เจ้าวางใจเถิดผกาเอ๋ย ผัวเจ้ามิตายดอก”
นี่เป็นตุ๊กตาที่ผมทดลองทำขึ้น ผิดพลาดอย่างไร กราบขออภัยทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
ขอแสดงความนับถืออย่างสูงยิ่ง
ชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ
ขอพูดตรงๆ ครับ ไม่เหมาะสมเลยครับ
อ้ายแกล้ว ฟังแล้วคงไม่ได้เป็นขุนน้ำขุนนางอะไร เพราะเรียกขึ้นชื่อว่าอ้าย
แล้วจะพูดจาด้วยภาษาเขียนอย่างนี้ได้ยังไงครับ
ถ้าเอาให้เหมาะ ภาษาลูกทุ่งแหละดี ไม่ได้จงใจขัดฅอนะครับ แต่ขอเรียนว่า
คนสมัยก่อน เฃาก็ไม่ได้พูดจากันอย่างนี้ครับ ภาษาพวกนี้มีไว้เขียนหนังสือครับ