ใจฟูขึ้นมาหน่อยว่า AI แต่งโคลงผิดฉันทลักษณ์ เอก-โท ถือว่ายังใช้ไม่ได้
แต่นึกขึ้นมาได้ว่าอาจเกิดจากคำสั่งผิดเอง
ถ้าป้อนฉันทลักษณ์ที่ถูกต้องให้ มันก็คงหาคำมาแต่งได้ถูกต้อง
นึกมาถึงตรงนี้ ใจก็หายฟู กลับแฟบตามเดิม
มีข่าวดีและข่าวร้ายอยํ่ในเรื่องนี้ครับ
ข่าวดีคือ ระบบ AI ที่ใช้ในปัจจุบัน ไม่มีการเขียนคำสั่งให้ AI ทำตาม ดังนั้นการแก้คำสั่งเพื่อให้ AI ทำงานให้ถูกต้องจะไม่เกิดขึ้นครับ
ข่าวร้ายคือ AI ปัจจุบันใช้แนวคิดของสมองจำลอง ในสมองจำลองนี้มีพื้นฐานจากเซลล์ประสาทจำลองจำนวนมากมาต่อๆกัน การสอนให้ AI ทำสิ่งต่างๆใช้วิธีป้อมข้อมูลจำนวนมากเข้าไปให้สมองเทียมนี้เรียนรู้ ถึงวันนี้บอกได้เลยว่าความซับซ้อนของสมองเทียมนี้สูงมาก ถึงแม่ว่าจะยังซับซ้อนน้อยกว่าสมองมนุษย์มาก แต่สมองเทียมของ AI ทุกวันนี้ก็ซับซ้อนเสียจนเราไม่สามารถทำความเข้าใจได้แล้วว่ามันทำงานยังไง (เช่นเดียวกับสมองมนุษย์) ความเก่งของ AI นั้นมีปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่ความซับซ้อนของสมองเทียม(จำนวนเซลล์ประสาทจำลอง และรูปแบบการจัดเรียงต่อกันของแต่ละเซลล์), วิธีที่เรียนรู้ และที่สำคัญคือขนาดของชุดข้อมูลที่ใช้เรียนรู้ (Datasets)
ขนาดของชุดข้อมูลนี้เห็นได้ชัดจากความสามารถทางภาษาไทยของ 3.5 มาถึง 4 ซึ่งผมแน่ใจว่าเขาต้องได้ชุดข้อมูลภาษาไทยชุดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมมากมาสอน AI แต่ชุดข้อมูลพวกนี้ก็เป็นตัวแทนของผลิตผลของคนไทยเอง การแต่งโคลงกลอนฉันทลักษณ์ผิดๆเพี้ยนๆทำให้ AI แต่งเพี้ยนตาม ผมมั่นใจว่าถ้าเขาคัดกรองเอาเฉพาะโคลงกลอนของกวีที่แต่งดีๆไปสอน AI มันก็จะแต่งได้เก่งไม่แพ้กันครับ
ที่น่ากลัวคือจาก GPT3.5 ซึ่งเป็น generative AI ตัวแรกที่เผยแพร่ออกมา จนถึง 4o ในตอนนี้ จะเห็นได้ว่ามีความสามารถเพิ่มขึ้นมากในเวลาเพียงแค่ปีเศษเท่านั้นเอง
จาก AI นักเขียนที่มีความสามารถพอๆกับมนุษย์โดยเฉลี่ยในตอนนี้ เราจะได้เห็น AI ที่มีความสามารถระดับบรมครู หรือเหนือกว่าในอีกไม่ช้านานแน่นอนครับ