han_bing
|
ช่วงนี้มหาวิทยาลัยในประเทศไทยบางแห่งหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว อาจจะเป็นเพราะความไม่สงบในประเทศ หรือจะเป็นเพราะเหตุอื่นๆ ทำให้ข้าพเจ้านึกย้อนถึงเรื่องของสงครามระหว่างจีนญี่ปุ่น และผลกระทบต่อการศึกษาการเรียนการสอนในจีนยุคนั้น
ประเทศจีนช่วงทศวรรตที่ ๑๙๓๐ ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองจีนลุกเป็นไฟเนื่องจากการรุกรานของญี่ปุ่น โดยการบุกอย่างจริงจังเริ่มขึ้นเมื่อปี ๑๙๓๗ เมืองที่ถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองเป็นเมืองจำนวนมากบริเวณริมฝังทะเล และเมืองตอนในบางแห่ง อาทิ เมืองหนานจิงซึ่งเป็นเมืองหลวงในขณะนั้นถูกญี่ปุ่นบุกเข้ามาและฆ่าล้างคนในเมืองจนดับสิ้นสูญไปเป็นจำนวน ๓ แสนคน
ภาพการรุกรานนานกิงของกองทัพญี่ปุ่นในปี ๑๙๓๗
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 06 ธ.ค. 13, 21:11
|
|
ท่ามกลางเพลิงแห่งสงครามในครั้งนั้น รัฐบาลจีนรวมถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆในยุคสาธารณรัฐได้ร่วมแรงร่วมใจกันย้ายมหาวิทยาลัยไปสู่พื้นที่ตอนในของประเทศเพื่อให้การศึกษาของจีนยังคงทำได้อยู่ โดยเฉพาะย้ายไปอยู่ที่ยูนาน
ในยูนาน เมืองคุนหมิง มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นเฉพาะกิจยามเกิดภัยสงครามในครั้งนั้น คือมหาวิทยาลัยร่วมซีหนานแห่งชาติ (国立西南联合大学:guo li xi nan lian he da xue) ตั้งจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนได้แก่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (北京大学) มหาวิทยาลัยชิงหัว (清华大学) ซึ่งตั้งอยู่ในปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยหนานไค (南开大学) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเทียนจิน ในเวลา ๘ ปีระหว่างสงครามผลิตบัณฑิตมากมาย เมื่อสงครามสงบมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้พัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยครูแห่งยูนาน(云南师范大学)
ภาพประตูมหาวิทยาลัยร่วมซีหนานแห่งชาติ ปัจจุบัน และอดีต
ภาพมหาวิทยาลัยครูยูนานในปัจจุบัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 06 ธ.ค. 13, 21:17
|
|
นอกจากมหาวิทยาลัยทางเหนือดั่งที่กล่าวมาแล้ว มหาวิทยาลัยทางใต้ก็ย้ายที่ไปไม่น้อยเช่นกัน อาทิ มหาวิทยาจงซาน (中山大学) มหาวิทยาลัยแห่งนี้พัฒนาจากมหาวิทยาลัยกวางตุ้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านซุนยัดเซ็น รวมถึงมหาวิทยาอื่นๆในกวางตุ้งอีกหลายมหาวิทยาลัย
การย้ายมหาวิทยาลัยเช่นนี้มิใช่เรื่องง่าย ดังการย้ายมหาวิทยาลัยจงซานซึ่งอยู่ในกวางตุ้งจะย้ายไปอยู่ยูนานต้องผ่านที่ราบสูงในกวางซี การขนย้ายต้องทำโดยการใช้รถที่มีพลังงานขับเคลื่อนจากฟืน และฟืนก็หาจากรายทาง ซึ่งของที่ต้องย้ายมีทั้งกระดาษที่ใช้สอน หนังสือ รวมถึง บุคคลากร อันได้แก่ครูผู้อดทน
หากมิได้ขนมาในจีนแล้ว ก็ขนย้ายผ่านทางทะเล เข้าทางมาเก๊า หรือไม่ก็ฮ่องกง แล้วเข้าทางฝังเวียดนาม แต่การเข้าทางฝั่งเวียดนามก็มิใช่เข้าได้โดยสะดวก เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าผ่านทางเข้าในเวียดนาม ค่าสำหรับคนที่จะมาดูแลและคุ้มครอง โชคดีที่มีกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเลรักชาติในเวียดนามเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อถึงยูนานแล้วก็ต้องต่อรถไฟ หลังจากต่อได้ระยะหนึ่ง ก็ต่อด้วยม้า ลา หรือล่อ
ลำบากยากแค้นเท่าไรก็ทำเพื่อให้การศึกษามีสืบไปไม่หยุดหย่อน
แม้ประเทศชาติจะถูกเผาด้วยเพลิงสงครามก็ตาม
ภาพประตูของมหาวิทยาลัยจงซาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 06 ธ.ค. 13, 21:21
|
|
มีเพียงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมของจีนเท่านั้นที่มหาวิทยาลัยจีนถูกสั่งปิดโดยไร้สาเหตุ
ช่วงที่ประวัติศาสตร์จีนถือว่าเป็นยุค "หายนะทางวัฒนธรรม" (文化灾难)
ไม่รู้หรือยังว่าเมืองไทยใกล้ถึงยุคเช่นนั้นหรือยัง
คงมีแต่คนไทยเท่านั้นจะตอบได้
ภาพการประจานเหล่านักวิชาการ ข้าราชการ ปัญญาชนในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|