เรือนไทย

General Category => ทันกระแส => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 08, 15:40



กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 08, 15:40
คุณจะรู้สึกยังไง ถ้าหากว่าคุณเข้ามาในโลกเสมือน ด้วยความตั้งใจที่จะแลกเปลี่ยนความรู้  และคุยกับเพื่อนใหม่ๆที่มีความสนใจร่วมกัน   
แต่กลับถูกกล่าวหา  ถูกด่าสาดเสียเทเสีย แม้แต่ญาติผู้ใหญ่ของดิฉันที่ล่วงลับไปแล้วก็ไม่ถูกละเว้น  จากใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า  ไม่เคยมีเรื่องราวขัดแย้งกัน
         
 เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์โดยตรงในอินเทอร์เน็ตที่ดิฉัน ประสงค์จะบันทึกเรื่องราวทั้งหมดไว้  เพื่อ
๑) ปกป้องชื่อเสียงของดิฉัน ที่จะไม่ถูกนำไปอ้างในทางผิด จากผู้ไม่หวังดี   
๒) เป็นอุทาหรณ์แก่คนอื่น หากเคราะห์ร้ายประสบอย่างดิฉันเข้าบ้าง  จะได้มีตัวอย่างเรื่องนี้ไว้เป็นแนวทางออกว่าควรจะทำอย่างไร
๓) ขอความช่วยเหลือจากทุกท่านที่พอจะให้เบาะแสเกี่ยวกับคนนี้  ข้อเท็จจริง ความรู้ทางกฎหมาย   หรืออะไรก็ตามที่พอเป็นประโยชน์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตามที่ท่านพอจะทราบ 
ก็อาจจะเป็นการร่วมด้วยช่วยกัน ป้องกันภัยสังคมที่แฝงอยู่ในโลกเสมือนได้อีกทางหนึ่ง
 
เรื่องนี้เป็นความจำเป็นให้ดิฉันต้องเปิดเผยชื่อจริงของ "เทาชมพู" อันได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร. คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ (ป.ม.  ท.ช.  ต.จ.  จ.ภ.)ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ  2547  จากผลงานวรรณกรรม ในนามปากกาว่า ".วินิจฉัยกุล"และ"แก้วเก้า"
ถ้าอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม   เข้าไปอ่านได้ที่นี่
http://www.vcharkarn.com/vcafe/31627


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 08, 15:44
      เมื่อปลายปี 2549 มีข้อความพาดพิงถึง "เทาชมพู" โดยบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า"คุณน้ำอบ" ใน www.khunnamob.org กล่าวหาว่าเทาชมพูเป็นบุคคลเดียวกับ"โมนิค" ซึ่งมีกรณีพิพาทกันอยู่ก่อนหน้าหลายปี ในห้องสมุดของ www.pantip.com
      ข้อความที่ใช้ ไม่มีทางคิดเป็นอื่นได้ว่าหมายถึงผู้ใดอีก นอกจากกล่าวถึง"เรือนกล้วยไม้" อันเป็นสถานที่รับรองแขกของดิฉัน   เคยเชิญสมาชิกบางคนในเรือนไทยไปสังสรรค์   
 ยังระบุชื่อคุณจ้อ และเวบวิชาการไว้อย่างชัดเจน

      "ถามว่า รู้ได้อย่างไรว่า โมนิค คือเทาชมพู  ความจริงรู้ละเอียดกว่านี้ค่ะแต่ขอบอกเพียงเท่านี้ เหตุที่รู้นั้น เพราะ..มีการโทร.มาข่มขู่สมาชิกเทวกุล หลายท่าน ว่าถ้าไม่ยอมบอกว่าคุณน้ำอบเป็นใคร จะแฉ เขาก็บอกว่า ก็เอาสิอยากจะแฉก็แฉ มีอะไรให้คุณแฉก็แฉไป  จะมาขู่ว่าจะลงหนังสือพิมพ์ ก็ลงไป
        ดิฉันแปลกใจว่า ไปขู่ สมาชิกบางท่าน ของเทวกุล เขาทำไม
นั้นคือชนวนที่ทำให้มีการ เกาะติด จนสืบรู้ว่า เป็นคนนี้ อยู่รัฐนี้ ที่อเมริกา และกลับมาเมืองไทยตอนนี้อยู่ที่นี่
         ถึงมีคนบอกว่า เขาคือ เทาชมพู  เพราะมีคนที่มีอุปาระคุณต่อเวบวิชาการ เป็นคนที่ดิฉันรู้จัก เขาบอกว่า จะเรียก ดร.จ้อมาคุย และจะบอกให้ ตามเทาชมพูมาคุยกันมั้ย
         ดิฉันบอกว่า เขาควรจะมีศักด์ศรีกว่านี้สิ ในเมื่อกล้าพูดให้ร้ายดิฉันขนาดนั้น นั้นหมายความว่า เขาจะต้องคิดเบ็ดเสร็จแล้วว่าดิฉัน จะไม่สามรรถทำอะไรเขาได้เลย
         เพราะดิฉันเป็นเพียงเด็กโรคจิต คนบ้า เพ้อฝันเพียงเท่านั้นเอง แต่ เขากลับกลัว อิทธิพลมืด
แต่คิดอยู่คะว่า บางที บางวันจะไป จ๊ะเอ๋..ถึงเรือนกล้วยไม้เสียหน่อย
เพราะทุกวันนี้ก็ยังมีเข้ามารังควานถึงตรงนี้ ทั้งที่ดิฉันไม่เข้าไปยุ่งในส่วนของเขาเลย "
(ท่านที่ไม่คุ้นกับกรณีพิพาทระหว่าง"โมนิค" กับ"คุณน้ำอบ" โปรดอ่านได้จากลิงค์ต่อไปนี้ หรืออ่านข้อสรุปได้จากท้ายกระทู้)

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/K3401884/K3401884.html


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 08, 15:57
ดิฉันขอยืนยันว่าไม่เคยโทรข่มขู่บุคคลที่ใช้นามสกุล เทวกุล ไม่ว่าใคร  การกระทำนี้เป็นของใครก็ไม่ทราบ  แต่ไม่ใช่ดิฉัน
นอกจากนี้ ดิฉันอยู่ในประเทศไทย  ไม่ได้อยู่ในรัฐไหนของต่างประเทศแห่งไหน ทั้งนั้น  จะอยู่ต่างประเทศไม่ได้ เพราะมีอาชีพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐ  ทำงานมาจนลาออกเพื่อรับบำนาญ เมื่อครบ ๒๕ ปี ในพ.ศ. ๒๕๓๘
ต่อจากนั้นก็เป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่ง  สอนทุกปี ติดต่อมาจนทุกวันนี้  แฟนหนังสือของว.วินิจฉัยกุลย่อมรู้ดี  เพราะมีประวัติย่อลงไว้ท้ายนิยายทุกเล่ม ว่าทำงานอะไรอยู่ที่ไหนทั้งในอดีตและปัจจุบัน

เมื่อข้อความของน้ำอบแพร่ออกไป คุณ "โมนิค" เจ้าของนามแฝงนี้ได้ออกมาปฏิเสธความเข้าใจผิดของน้ำอบ ในห้องสมุด ของเว็บ pantip.com   
และกล่าวขอโทษที่ดิฉันที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย แต่กลับถูกเข้าใจผิด นอกจากนั้น ยังมีบางท่านแสดงความเห็นคัดค้านการกล่าวหาของคุณน้ำอบอีกด้วย
แต่แทนที่ คุณน้ำอบ จะทบทวนความเห็น  กลับกล่าวถึงดิฉันว่าเป็นคนเดียวกับคุณโมนิค มากขึ้นอีก  และเปลี่ยนหัวข้อกระทู้ถึงสามครั้ง
คือเริ่มจากครั้งแรก ชื่อกระทู้เป็นคำถามลอยๆ ว่า "สงสัยเรื่องที่มีการกล่าวหาคุณน้ำอบ" มาเป็น
"โมนิค = เทาชมพู"
แล้วเปลี่ยนเป็น
"คนขี้ขลาดที่ชื่อคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์"
จนมาถึงชื่อปัจจุบันคือ
"ส้มตำรสแซ่ป..."


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 08, 18:41
นี่คือตัวอย่างจากกระทู้ดังกล่าว ที่น้ำอบกล่าวถึงดิฉันและคุณโมนิค  ส่วนคุณโปรดปรานเป็นใครไม่ทราบ

นังโมนิค นังเทาชมพู นังพีพี(โปรดปราน)ออกมาเจอกันเลย แล้วฉันจะตั้งวงสนทนาให้อย่างใจดี...ว่า "ขอแส่เรื่องชาวบ้าน"  จะจองหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ให้ หอประชุมเล็กไม่เอา เกรงว่าคนจะไม่มีที่นั่งพอ  แล้วฉันจะเชิญพี่ๆสื่อมวลชนที่รู้จัก ตลอดจนในเมื่อฉันมีสิทธิ์ใช้ ช่อง ๕ สุววรณภูมิได้อยู่  จะใช้หนทางสื่อสารให้หมด
ไหนๆก็สารภาพออกมาแล้วว่า แท้ที่จริงอยากแส่  และไปแค่พันทิป มันไม่เป็นธรรมกับฉัน..ออกมาดีเบทพร้อมกัน    แล้วเรามาดูกันว่า ผู้ที่ถูกพาดพิงในกรณีของฉัน แต่ละท่านจะส่งใครออกมาชี้แจงบ้าง   และส่วนเธอก็ต้องพร้อมด้วยเช่นกัน  เรามาดูว่าใครจะ "พังกลางเวที"
และอีกทางหนึ่ง ถ้าเธอสองคน ทั้งนังโมนิค และนังเทาชมพูมิใช่คนเดียวกัน เธอเป็นโจทก์ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลได้เลย  แล้วคอยดูว่คนอย่างฉันจะไปหรือไม่
ฉันต้องการเจอกับพวกเธอลักษณะนี้เลย เอากันชนิดที่ ลิ้นมันพลิกไม่ได้  ตัวอักษรมันดิ้นไปดิ้นมา ฉันว่ามันไม่แฟร์สำหรับฉัน
ไม่ต้องรอให้ลากออกมา เหมือนวัว เหมือนควาย เดินออกมาสู้กันในชีวิตจริงๆ อย่างที่มนุษย์ที่เจริญแล้วด้วยสติปัญญาอย่างเธอพึงจะกระทำ
ปล.นั่งขำ ที่นัง โมนิค เต้นเป็นเจ้าเข้าเดือดร้อนแทน นังเทาชมพู ที่ตอนนี้ คนในแวดวงวิชาการเขาตามด่ากันให้ทั่ว เพราะทำตัว ยกตนข่มท่าน ระรานเขาไปทั่วในชีวิตจริง  5555
นี่ขนาดนังนี่ มันเถียงคอเป็นเอ็นนะว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่คนเดียวกัน
 
•••แก้ไขล่าสุด : เมื่อ 27 พ.ย. 2549 เวลา 14:00 น. โดย คุณน้ำอบ
คงจะไม่ต้องบอกว่าคำพูดแบบนี้เป็นสิ่งที่ดิฉันไม่เคยเจอจากใครมาก่อน  ไม่ว่าในหรือนอกอินเทอร์เน็ต    ไม่เข้าใจด้วยว่าผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงพูดกับดิฉันขนาดนี้  ในเมื่อดิฉันไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับหล่อนมาก่อนเลย
หล่อนทำท่าเหมือนรู้จักดิฉัน  เพราะเอ่ยถึง "แวดวงวิชาการ" แต่จะเรียกว่ารู้จักจริง  ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ  เพราะคนรู้จักดิฉัน ย่อมจะรู้ว่าข้าราชการบำนาญ คือผู้ออกจาก"แวดวงวิชาการ" แล้ว   
ไม่มี" แวดวง" อะไรกับเขามา ๑๑ ปีแล้ว


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 08, 20:41
ถ้าถามว่าดิฉันตอบคำพูดนี้ไหม ก็ขอตอบว่าไม่ได้ตอบโต้อย่างใดทั้งสิ้น   ไม่มีการตอบรับหรือปฏิเสธ

ในเมื่อน้ำอบอ้างถึง "สวนกล้วยไม้" และ "แวดวงวิชาการ"   ก็ถือได้ ว่ารู้ว่าเทาชมพูเป็นใคร    อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าเป็นครูบาอาจารย์
ดิฉันจะไปที่ไหนก็ตาม ก็ต่อเมื่อมีคำเชิญอย่างถูกต้องตามมารยาทจากเจ้าภาพ   ที่สำคัญคือเป็นงานที่เหมาะสมกับความรู้ของเรา  และมีประโยชน์ต่อสังคม    ไม่ใช่ไปร่วมรายการอะไรก็ได้
อีกอย่างหอประชุมมหาวิทยาลัยใหญ่ๆในกรุงเทพฯ  ต้องจองกันล่วงหน้า บางแห่งคิวแน่นนานเป็นปี  ทางมหาวิทยาลัยก็พิจารณาด้วยว่ากิจกรรมที่จัด เหมาะสมจะให้จัดหรือไม่  และจากหน่วยงานไหนทั้งของภาครัฐและเอกชน
จะมาจัดอะไรแบบนี้  ไม่น่าจะเป็นไปได้

ดิฉันเชื่อว่าตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง    คิดว่าถ้าเฉยเสีย ไม่โต้ตอบ  อีกฝ่ายก็คงจะเบื่อแล้วเลิกไปเอง
วิธีนี้หนึ่งในแฟนคลับของดิฉันเคยแนะนำไว้   เขาใช้เวลาเขาเจอตัวป่วนในอินเทอร์เนต เขาก็เลยคิดว่าถ้าดิฉันเจอปัญหาก็คงจะใช้ได้เหมือนกัน

แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ยักใช่   วิธีนี้ไม่ได้ผลในกรณีนี้   


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 08, 20:57
เรื่องที่กล่าวหาว่าดิฉันเป็นคนเดียวกับคุณโมนิค  ดูความคิดเห็นของชาวเน็ตส่วนหนึ่งได้จากลิ้งค์นี้
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pookpui&month=11-2006&date=03&group=1&gblog=145
โดยเฉพาะความคิดเห็นล่างๆ ตั้งแต่ 75 เป็นต้นไป
 



กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 08, 20:08
ถ้อยคำที่น้ำอบกล่าวถึงดิฉัน โดยรวมไปกับชื่อโมนิคบ้าง เทาชมพูบ้าง เป็นคนเดียวกันบ้าง หรือแยกเป็นสองคนบ้าง   มีมากมายเกินกว่าจะเอามาลงในกระทู้นี้ได้
ขอยกตัวอย่างเฉพาะเรื่องการกล่าวถึงญาติผู้ใหญ่ของดิฉันก็แล้วกัน

ความเห็นที่ : 73  โพสต์เมื่อ : 9 ส.ค. 2550 เวลา 21:05 น. 
 ขอให้ไปนะคะ...ที่เอ็มเมอรัล......จริงมั้น โมนิค ลูกหลานสกุล นาวานุเคราะห์ขี้ขลาดแบบเธอ น่าอายแทนนะ  มาเลยจะอยู่หรือจะตาย มาซัดกันสักตั้ง
นี่เห็นใจนะว่าในชีวิต เธอเองก็โดนเล่นงานไว้เสียอ่วม เรื่องการงาน เป็นไง ฟื้นแล้วหรือ

และ

ยายโมนิคหรือยายเทาชมพู มันมีสิทธิ์ตรงไหนหรือคะ  ที่มากล่าวร้าย ป้ายสีเรา เรื่องต่ำๆตลอดเวลา เป็น
เวลามาหลายปีดีดัก
ถึงได้ถามมันไงว่า แม่มันอยู่ในตระกูลนาวานุเคราะห์นั้น  โดนคนในตระกูลเขาด่าให้แบบที่จะต้องมาระบายออกกับเราด้วยความเก็บกดอย่างนั้นหรือ

การพาดพิงไปถึงคุณแม่ดิฉันนั้น  มาจากกระทู้เก่าเรื่องหนึ่ง ดิฉันตอบคุณ V_Mee ว่า
--------------------------------------------------------------------------------
 ยินดีที่มาเจอคนรู้จักของคุณลุงถนัด และคุณบัว ในเว็บนี้
ดิฉันเป็นหลานสาวของคุณถนัด นาวานุเคราะห์ ค่ะ 
ส่วนคุณบัว ก็รู้จักกันสมัยท่านทำงานที่หอวชิราวุธานุสรณ์

จากนั้นก็ sms ไปบอกคุณ V_Mee ว่าดิฉันเป็นญาติกับคุณถนัด นาวานุเคราะห์ทางไหน เพื่อจะยืนยันว่าไม่ใช่การแอบอ้าง  คุณ V_Mee ก็ตอบมาอย่างดี

ข้อความนี้ ลงเมื่อ  13 มิ.ย. 05, เป็นเวลาสองปีกว่า ก่อนน้ำอบจะพาดพิงถึง  เป็นข้อความเล็กๆบรรทัดเดียวลงในกระทู้ยาวเหยียดนับร้อยความเห็นกระทู้หนึ่ง    ซึ่งไม่น่าจะมีใครจดจำรายละเอียดขนาดนี้ได้

นาวานุเคราะห์แม้เป็นนามสกุลพระราชทานในรัชกาลที่ ๖   ก็ไม่ใช่นามสกุลที่คุ้นหูในปัจจุบัน  เพราะคนในสกุลนี้ไม่ได้เป็นนักการเมือง หรือดารา ที่จะมีชื่อลงในสื่อบ่อยๆจนจำกันได้
แต่สองปีต่อมา น้ำอบกลับนำมาระบุได้ชัดเจน   ราวกับว่ามีใครคนหนึ่งในเรือนไทยจำได้อย่างแม่นยำ และส่งข้อมูลให้  เพื่อนำไปใช้พาดพิงถึงบุพการีของดิฉัน


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ม.ค. 08, 21:06
ข้อกล่าวหาในเรื่องอื่นๆของน้ำอบมีสารพัดเรื่อง  ทุกเรื่องเป็นเรื่องเท็จ    เช่นกล่าวหาดิฉันว่ามีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆของเว็บวิชาการจนสปอนเซอร์ถอนตัวจากเว็บ
ข้อนี้เป็นความเท็จ ๑๐๐%   เพราะดิฉันไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องรู้เห็นกับเงินทองของเว็บเลยแม้แต่บาทเดียว   สปอนเซอร์สนับสนุนเท่าไรดิฉันก็ไม่เคยรู้   มาทำงานที่นี่ก็ทำฟรี เช่นเดียวกับนักวิชาการอื่นๆ
ทางเว็บเขาก็ลงเอาไว้ชัดเจน

สปอนเซอร์รายหนึ่งไม่มีงบประมาณให้เว็บวิชาการในปีหนึ่ง ไม่ใช่ถอนตัว  ต่อมาเมื่อเขามีงบประมาณสนับสนุน เขาก็ให้ตามเดิม 
คุณจ้อ คุณเปี้ยว คุณอ๊อฟยืนยันตรงกันได้ในข้อนี้    คุณจ้อตกลงจะเป็นพยานให้หากว่าต้องขึ้นถึงศาล  เพราะข้อกล่าวหานี้ทำให้ดิฉันเสียหายได้หากมีผู้หลงเชื่อตามนั้น

หลังจากดิฉันต้องผจญคำพูดทำนองนี้ยาวนานมาจนเกือบถึงปลายปี ๒๕๕๐ โดยไม่รู้จะทำอะไรนอกจากอดทน
วันหนึ่ง นายตำรวจที่รู้จักกันมาหลายปีแล้ว มาเยี่ยมที่บ้าน    ดิฉันตัดสินใจเล่าเรื่องให้ฟัง ในฐานะประชาชนที่ร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายตำรวจคนนั้น ดิฉันขอเรียกสั้นๆว่า "หมวด"  ก็รับปากว่าจะไปเจรจาให้    โดยถามว่าดิฉันต้องการอะไรบ้าง   ดิฉันก็บอกว่า ขอให้ยืนยันข้อเดียวว่าดิฉันไม่ใช่คนเดียวกับคุณโมนิค    และไม่เคยไปว่ากล่าวเธอไม่ว่าด้วยเรื่องใดๆ
หมวดก็ติดต่อไปหาน้ำอบ   

เมื่อมาถึงตอนนี้  คนอ่านบางคนคงจะถามว่า หมวดรู้จักน้ำอบได้อย่างไร
คำตอบก็คือ   ก่อนหน้านี้  ดิฉันได้ตัดสินใจแล้วว่า เป็นฝ่ายรับและฝ่ายทนอยู่ฝ่ายเดียวแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลยนั้น เห็นทีจะไม่ดี   
แต่ถ้าจะเผชิญปัญหา   ดิฉันจะต้องรู้ว่าคู่กรณีเป็นใคร ทำอะไรอยู่ที่ไหน   เป็นคนเดียวกับในรูปที่ลงหรือไม่
นอกจากนี้เขามีเส้นสายใหญ่โต  เป็นคนสำคัญ อย่างที่เล่าถึงตัวเองไว้ในเว็บจริงหรือไม่
ดิฉันถึงค้นหานามแฝงของเธอจากกูเกิ้ล  ก็พบว่าเธอเข้าไปในกระดานสนทนาของเว็บไซต์อื่นๆด้วย   มีรูปอยู่ในนั้นก็มี
มีเรื่องขัดแย้งกับบางเว็บไซต์ อีกด้วย

ดิฉันหลังไมค์ไปหาคุณโมนิค   ซึ่งเคยตั้งกระทู้ช่วยชี้แจงให้ทราบแล้วว่าเราเป็นคนละคนกัน     เล่าว่าเธอผู้นั้นยังไม่ยอมจบเรื่อง แต่กลับใช้ถ้อยคำต่างๆนานาถึงดิฉันมาตลอด
ดิฉันต้องการรู้ชื่อและนามสกุลจริงของเธอ   ว่าเป็นใคร   เป็นคนที่ดิฉันรู้จักหรือไม่  เพราะดูจากรูปแล้ว ไม่รู้จัก
ก็ได้ชื่อและนามสกุลจริงมา

เมื่อได้ชื่อและนามสกุลจริง การหาเลขประจำตัวประชาชนก็ไม่ยาก  สามารถหาได้ในเว็บไซต์ของราชการบางแห่ง ที่เปิดให้สอบถามถึงผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ ด้วยการพิมพ์ชื่อลงไป
จึงพบว่า เธออยู่ในรายชื่อผู้ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ณ เขตบางซื่ออันเป็นภูมิลำเนา อีกด้วย  ก็นับว่าแปลกอยู่บ้าง  สำหรับผู้มีกิจกรรมทางการเมือง


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ม.ค. 08, 21:29
เมื่อได้ชื่อและหมายเลขบัตรประชาชนมา  ก็พอจะหารายละเอียดอย่างอื่นได้ต่อไปอีก  แม้กระทั่งหมายเลขโทรศัพท์
จนในที่สุดหมวดก็โทรไปขอพูดด้วย   ในตอนแรกเจ้าตัวก็รับอย่างดี  ว่าใช่ชื่อนี้นามสกุลนี้ แต่เมื่อรู้ว่าหมวดโทรมาเรื่องอะไร  คำพูดทั้งหลายก็เปลี่ยนไป
ผลจากนั้นเป็นอย่างไร อ่านได้จากข้อความนี้  ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆข้อความที่เอ่ยถึงเรื่องนี้

"ฉันไม่สนใจหรอกนะว่า ใครจะมาชมหรือไม่ชมฉัน แต่ฉันรำคาญพวกที่เรื่องของตัวเองไม่สนใจ มีแต่เสือกเรื่องชาวบ้าน
พวกนังเทาชมพู อุตส่าห์ส่งตำรวจ มาขู่ ..นี่ให้เกียรติเครื่องแบบที่ใส่อยู่นะ  ถ้าไม่งั้น จะท้าว่า "มึงถอดเครื่องแบบแล้วมาชกกันกูนี่"  ไม่ต้องมาขู่กูรำคาญ
อย่าลืมนะ..วันไหน เจอฉันไปที่ สน.ทองหล่อ ถอดเครื่องแบบรอไว้เลย ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ไปทำร้ายเจ้าพนักงาน
ไอ้พวกหมาขี้เรื้อน จนป่านนี้ยังไม่หายคันอีกหรือยังไง"

ในความเป็นจริง    หมวดรออยู่ที่สถานตำรวจจากวันนั้นจนวันนี้ ก็ไม่เห็นมีคนไปหา


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ม.ค. 08, 19:07
ในตอนแรก น้ำอบพาดพิงถึงดิฉันครั้งใด ก็เอ่ยถึงในนามแฝง ว่า "เทาชมพู"   มีคำว่า "ยาย" บ้าง "นัง" บ้าง ประกอบ
แต่หลังจากหมวดไปเจรจากลับมาแบบไม่สำเร็จ   น้ำอบก็เริ่มเอ่ยชื่อจริงของดิฉัน  ระบุชื่อและนามสกุลรวมทั้งคำนำหน้าชื่อ
*********************
บอกตามตรงว่าพี่ยังไม่ได้เข้าไปดูที่บล็อคยายMONIQUEหรือยายเทาชมพูนี่อีกเลย ยังไม่ว่างค่ะ ตลอดจน ทั้งที่ ตำรวจสน.ทองหล่อ แอบอ้างว่า คุณหญิงวินิดา เป็นเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความ  กับพี่ ข้อหา "หมิ่นประมาท" 

เพราะอีตาตำรวจนี้ พี่ตามจิก เป็นรายชั่วโมงเลยนะ แต่ไม่รับสาย  ..

สำหรับยาย MONIQUEเอาเรื่องล่าสุด  พี่บอกให้มันไปพาเจ้าของบ้านมาหาพี่ มารที่ สน.ทอ งหล่อเลย จะไปได้ทีเดียว ตอนนี้ มันทำไปถึงไหนแล้ว

ตอนนี้พี่จำ "เรื่องที่มันปายสี" ไม่หมด เยอะจัด สรุปว่า พี่นี่โคตรเลวเลย

แต่..พี่คิดว่าคนอย่างมัน ที่บ้านคงจะไม่มีกระจกส่องตัวเองเลยเหมือนกัน ว่าตัวเองเป็นอย่างไร

อ่อ...ที่สำคัญ ..มันซัดแหลกเรื่องลูก  กระทู้ก่อนหน้านี้ มันก็หาว่าลูกของพี่เป็นหัวหน้าวินมอเตอร์ไซด์  เพราะแม่มันมั่ว

อยากรู้จริง ว่า พี่แอบไปเอาผัวคนไหนของมันมา"กก"
..
ออกมาแก้ข่าวกันซะเน้อ
ไม่งั้นคนจะคิดว่า

MONIQUE  =  เทาชมพู  =  คุณหญิงวินิดา ดิถียนต์


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 08, 12:44
จากนั้นอีกไม่นานนัก  น้ำอบเล่าว่าลูกสาวของเธอซ้อนท้ายจักรยานในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่  มีหมาตัวหนึ่งวิ่งไล่จนจักรยานล้ม 
ลูกสาวได้รับบาดเจ็บ  ต้องพาไปโรงพยาบาล
เธอหาว่าหมาตัวนั้นมีคนส่งเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อทำร้ายลูกสาวเธอ
แล้วมาลงที่ดิฉัน

โพสต์เมื่อ : 17 ส.ค. 2550 เวลา 01:46 น.       

พี่นั่งคิดแล้วบางทีก็อยากจะขับรถออกไปบ้านอีนังเทาชมพู แล้วจ่อยิงมันทิ้งคาบ้านมันเลย  แต่ถ้าพี่ทำ พี่จะกลายเป็นคนเลวใช่มั้ย  สังคมจะมองพี่เป็นคนเลวที่สุดเลยใช่มั้ย  แต่กับไอ้พวกชาติหมาในร่างคนพวกนั้นหล่ะ  มันเลวเทียบกับอะไรได้บ้างที่ทำกับเด็ก และทำให้กลายว่าเกิดอุบัติเหตุ
พี่ก็ไม่โง่ ที่จะทำไม่เป็น ยิ่งอุบัติเหตุทางท้องถนน ทำง่ายจะได้ที่จะทำให้คดี..ลอบสังหาร หรือ  ฆาตกรรม กลายเป็น คดีอุบัติเหตุ  แต่พี่มีความรู้สึกว่า เลวก็ให้มันรู้ไปเลยว่า "กูเลว" ไม่ต้องตีสองหน้า  ________________________________________


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 08, 12:57
มาถึงตรงนี้ ดิฉันก็อยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไป    เพราะเป็นการขู่ฆ่าทำร้ายถึงชีวิต   จึงต้องขึ้นสถานีตำรวจเป็นครั้งแรก
ขอให้ร้อยเวรลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เป็นหลักฐาน
หลักฐานการแจ้งความก็ยังเก็บไว้จนบัดนี้   เผื่อจะต้องนำออกมาใช้

ต่อจากนั้นก็มาคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี   เพราะเรื่องประเภทนี้ ไม่เคยเกิดมาก่อนในชีวิต
มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นใครจะเจออย่างเราสักคน 
สาเหตุอย่างหนึ่งก็คือ เหตุเกิดจากในอินเทอร์เนต  ซึ่งเป็นเทคโนโลยี่การสื่อสารล้ำสมัย   ไม่ใช่เหตุเกิดตามถนนหนทางหรือในอาคารบ้านเรือนอย่างธรรมดา

คนที่ขู่ปองร้ายดิฉัน เป็นคนที่มีแต่ชื่อ และรูปถ่าย    ไม่รู้จักว่าเป็นใคร  ทำอะไร อยู่ที่ไหน  เปรียบเสมือนคนอยู่ในเงามืด ส่วนดิฉันเหมือนคนอยู่ในที่แจ้ง 
เพราะเขารู้ว่าดิฉันเป็นใคร  ที่อยู่ที่ไหน 

ดิฉันจะเริ่มตรงจุดไหนดี  ในเมื่อสิ่งที่เราและแฟนคลับคิดว่าเป็นการ"ป่วน" กันอย่างธรรมดา  สมควรจะทำไม่รู้ไม่ชี้ เพื่อให้เงียบไปเอง
กลายเป็นเรื่องถึงขั้นเอาชีวิตกันเสียแล้ว

ถึงตรงนี้ ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากหาทนายความ     เมื่อได้มาแล้ว   ทนายความก็แนะนำให้ดิฉันขึ้นโรงพัก เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 08, 13:24
อันที่จริง สถานีตำรวจก็อยู่ไม่ไกลบ้านเท่าไร  แต่ว่าคนอย่างดิฉันไม่เคยมีธุระอะไรจะต้องไปที่นี่เลยสักครั้งเดียว   ก็เลยงงๆอยู่เหมือนกันว่าจะเริ่มตรงไหนดี
เมื่อตัดสินใจว่าจะไปแจ้งความ ก็ไปด้วยตัวเอง  ไม่เอาใครไปด้วยแม้แต่ทนายความ 

ความจริงในฐานะศิลปินแห่งชาติ  ทางจังหวัดก็เคยส่งนายตำรวจมาดูแล   เรียกว่าเกิดอะไรที่บ้านก็โทรหาเขาได้
แต่ว่านายตำรวจคนนั้นเพิ่งจะย้ายไป  ยังไม่ได้ติดต่อกับคนใหม่   ดิฉันก็เลยเดาสุ่มไปสถานีตำรวจคนเดียว
แต่งตัวธรรมดา เดินเข้าไป  ไม่มีมาดอย่างใดทั้งสิ้น   สามีไปทำงาน แต่เขานัดไปเจอกันที่สถานีตำรวจแล้วรับกลับบ้าน

เปิดประตูเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน เป็นห้องยาวโล่งตลอดมีโต๊ะทำงานของนายตำรวจเรียงรายกันไป   ตามหน้าโต๊ะต่างๆมีประชาชนชาวบ้านมานั่งจับกลุ่มกันอยู่   คงจะเป็นพวกเจ้าทุกข์
มองหาว่าโต๊ะไหนว่าง  ก็เจออยู่ตัวหนึ่งเพิ่งจะว่าง    ดิฉันก็เลยเข้าไปนั่ง   บอกว่าจะมาแจ้งความ

นายตำรวจคนนั้น ขอเรียกแต่เพียงชื่อว่า สารวัตรณรงค์ฤทธิ์   เป็นรองผู้กำกับฯ   ฟังเรื่องที่ดิฉันเล่าอย่างเอาใจใส่
เพื่อให้เรื่องราวกระชับและเข้าใจง่าย   ดิฉันเตรียมเอกสารไปด้วยล่วงหน้า   เป็นการสรุปเรื่องย่อที่เกิดขึ้น และตัวอย่างข้อความที่หมิ่นประมาทดิฉัน   
เพื่อสารวัตรจะได้อ่านเข้าใจง่ายๆ  ไม่ต้องซักถามกันยืดยาวเปลืองเวลากันทั้งสองฝ่าย  เท่าที่สังเกตดูนายตำรวจที่นี่ก็มีงานทำกันแทบไม่ได้ว่างเว้นเลยทั้งวัน
ดิฉันก็หยิบเอกสารจากแฟ้มส่งให้สารวัตรอ่าน  และตอบคำถามที่สารวัตรถามเพิ่มเติม    เรื่องแจ้งความก็จบลงได้รวดเร็ว ไม่เสียเวลา

ดิฉันอยากจะขอบอกท่านทั้งหลายที่อาจจะมีโอกาสขึ้นโรงพักเป็นเจ้าทุกข์ ไม่ว่าคดีอะไรก็ตาม  ขอเรียนว่ากรุณาอย่ากลัวโรงพักหรือตำรวจ    ของจริงไม่ได้น่ากลัวหรือเลวร้ายอย่างที่เรามักจะถูกให้วาดภาพว่าเป็นเช่นนั้น

อย่างน้อยดิฉันคนหนึ่งละค่ะ  ที่รู้สึกเช่นนี้

ข้อสำคัญคือเราต้องช่วยการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ให้เขาสะดวกขึ้น เช่นเตรียมหลักฐานไปให้พร้อม  บอกเล่าให้รู้เรื่องว่าเป็นเรื่องอะไร  ต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยในเรื่องไหน 
มีหนทางไหนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้รวดเร็วขึ้น จากเบาะแสที่แจ้งให้ทราบ  ก็บอกไป   คือมีอะไรก็อย่าอมพะนำไว้  บอกไปให้หมด
หลักฐานมีมากน้อยแค่ไหน ควรจะจัดเรียงไว้เป็นระเบียบ  ทำเป็นเอกสารส่งให้ตำรวจได้เห็น เพื่อจะย่นย่อเวลาในการสืบสวนจับกุมได้ง่ายขึ้น

เพราะนายตำรวจคนหนึ่ง ไม่ได้รับผิดชอบเฉพาะคดีของเราคนเดียว    คนหนึ่งมีเป็นหลายสิบคดีพร้อมๆกันในมือ  ต้องสะสางกันทุกคดีในมือคนๆเดียว
มีตั้งแต่คดีใหญ่ๆไปจนคดีเล็กๆ สัพเพเหระ
ดังนั้นอะไรที่ช่วยให้เขาปิดคดีเราง่ายขึ้น ก็ต้องช่วยทำเท่าที่จะทำได้  อย่าทำแค่แจ้งความด้วยวาจา เซ็นชื่อว่าเป็นเจ้าทุกข์ แล้วที่เหลือส่งให้ตำรวจทำหมด   พอไม่คืบหน้าก็โวยวายว่าตำรวจไม่สนใจ

ตั้งแต่ขึ้นโรงพักในครั้งนี้  ดิฉันเห็นใจการทำงานของตำรวจมากขึ้นเยอะค่ะ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 08, 15:21
สารวัตรต้องการหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท   ทนายความจึงยกไปให้ในครั้งต่อไปที่นัดไปพบ
ต้องใช้คำว่า" ยก" ก็เพราะรวมหน้ากระดาษที่พิมพ์จากเว็บนั้น  ได้แฟ้มใหญ่มหึมาถึง ๔-๕ แฟ้ม  หิ้วกันจนตัวเอียง
รวมเป็นพันหน้าเห็นจะได้
เนื่องจากมีการใช้ถ้อยคำต่อเนื่องยาวนานมากกว่า ๑ ปี  ลงเกือบทุกวัน

ในเมื่อ ๑ ครั้งนับเป็น ๑ คดี ก็ไม่ต้องสงสัยว่าทั้งหมดปาเข้าไปกี่ร้อยกี่พันคดี

จึงเป็นข้อเตือนใจว่า ถ้าหากว่าคุณตกอยู่ในสถานการณ์แบบดิฉัน  อย่าได้เมินเฉยต่อถ้อยคำ ว่าเป็นสิ่งรกหูรกตา เลยปิดจอคอมพ์แล้วไม่อ่านอีก
แต่คุณจะต้องเซฟเอาไว้ให้หมด  ทุกหน้า ทุกคำ   เก็บลง folder ไว้โดยเฉพาะก็ได้  เพื่อเป็นหลักฐาน
ยิ่งมากเท่าไรคุณก็ยิ่งมีโอกาสพิสูจน์ความจริง ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลมากเท่านั้น


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 08, 15:36
เมื่อตำรวจพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อหานี้เข้าขั้นจะทำเป็นคดีได้  ก็จะส่งหมายเรียกไปยังอีกฝ่ายหนึ่งมาให้ปากคำ  ว่ากระทำอย่างที่เจ้าทุกข์มาร้องเรียนหรือเปล่า
นี่คือขั้นตอนตามกฎหมายที่ตำรวจต้องปฏิบัติ  คดีของดิฉันหรือคดีของใครก็ไม่ได้รับการยกเว้น

การส่งหมายเรียกเขาส่งไปตามที่อยู่ตามหลักฐานราชการ  คือที่อยู่ในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน   ไม่ใช่ที่อยู่โดยพฤตินัย  ซึ่งเจ้าตัวอาจจะไปเช่าห้องพักที่ไหนอยู่ก็ได้
เหตุผลก็คือที่อยู่ในหลักฐานพวกนี้ ชัวร์แน่ๆว่าถึง    ต่อให้เจ้าตัวย้ายไปที่ไหนก็ตาม  ก็ต้องมีญาติที่อยู่ในบ้านนั้นแหละส่งข่าวไปบอกกันได้ ว่ามีหมายจับตำรวจมาถึงแล้วนะ
ปกติถ้าญาติไม่ใจไม้ไส้ระกำเสียเหลือแสน ก็ต้องตื่นตระหนกส่งข่าวบอกกันทุกราย     เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์มือถือยิ่งแสนสะดวก โทรกริ๊งเดียวบอกกันได้

หมายเรียกส่งไปครั้งแรกถ้าไม่มีคนรับ หรือถูกส่งกลับมา  ก็ต้องส่งอีกครั้ง
ถ้ายังเพิกเฉย  ก็ต้องออกหมายจับ  ผู้เซ็นอนุมัติคือศาล  ไม่ใช่สารวัตรเจ้าของคดี

หมายเรียกที่ว่านี้ส่งไป ๒ ครั้งตามเลขที่บ้านในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน   ลงทะเบียนด้วย  ปรากฏว่าถูกตีกลับ ไม่รับ
ศาลจึงออกหมายจับ  แต่กว่าจะออกหมายจับในสมัยนี้ ก็ไม่ใช่ง่ายๆ    ต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมหาหลักฐานจนแน่ใจ จึงจะส่งได้

เพราะฉะนั้นใครที่คิดง่ายๆว่า การลงข้อความในอินเทอร์เนต เห็นแต่ถ้อยคำ ไม่เห็นหน้า ไม่เห็นตัว ไม่ถูกจับได้ขณะกำลังพิมพ์คีย์บอร์ดอยู่พอดี    ย่อมจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
โปรดทราบว่าคิดผิด    มีหลักฐานหลายอย่างที่จะนำมามัดตัวได้ในกรณีนี้


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ม.ค. 08, 13:19
สารวัตรณรงฤทธิ์สนใจคดีนี้มาก เพราะเป็นคดีแรกทางอินเทอร์เน็ตที่เขาได้ทำ    แปลกไปจากคดีอื่นๆ
ปกติสารวัตรใช้คอมพิวเตอร์ได้ดี  และใช้อินเทอร์เน็ตเป็น  แต่ว่าไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ตประจำที่เครื่องในออฟฟิศ
แต่พอมาทำคดีนี้     ดิฉันไปหาอีกครั้งก็พบว่าสารวัตรต่อฟรีอินเทอร์เน็ตจากองค์การฯมาเข้าเครื่องแล้ว  เพื่อค้นหาข้อมูลทางกูเกิ้ลและเว็บไซต์ต่างๆ  ดิฉันยังไปช่วยสารวัตรหาที่อยู่ของเว็บโฮสติ้งที่ปรากฏในเว็บไซต์ด้วยเลยค่ะ

การดำเนินการของสารวัตรก็คือ ดูว่าเว็บไซต์ของน้ำอบ ใครเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะเจ้าของเว็บ เพราะในการเปิดเว็บ  ต้องมีการยื่นจดทะเบียนเว็บ
สารวัตรพบว่าผู้จดทะเบียนเว็บ www.khunnamob.org   เป็นชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่น้ำอบ   ขอสมมุติชื่อสั้นๆว่า คุณ จ.


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ม.ค. 08, 13:31
คุณ จ. มีตัวตนจริง  สารวัตรจึงหาตัวได้ไม่ยาก   ก็เชิญมาพบที่สถานีตำรวจ คุณจ.ก็มาพบตามวันเวลาที่นัด แต่โดยดี
คุณ จ. ให้การกับสารวัตร ว่าไม่รู้เรื่องการจดทะเบียนเว็บนี้เลย  เพราะธรรมดาแล้วคุณจ.ไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ต   เรื่องศัพท์เทคนิคอะไรต่างๆเกี่ยวกับโลกเสมือน คุณจ.ไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ
คุณ จ. เองก็ไม่รู้จักบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า "คุณน้ำอบ " และไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์นี้แต่อย่างใด

เมื่อเรื่องกลับตาลปัตรกลายเป็นแบบนี้  สารวัตรจึงแนะนำคุณจ.ว่า เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับคุณ จ. ได้ หากว่ามีผู้แอบอ้างชื่อคุณ จ. ไปใช้
ก็ขอให้คุณจ. ไปแจ้งกับเว็บโฮสติ้ง ถึงความจริงข้อนี้    แล้วถอนชื่อจากการเป็นผู้จดทะเบียนเว็บนี้เสียด้วย 
เพราะจะได้ไม่มีใครแอบเอาชื่อคุณ จ. ไปใช้ก่อความเสียหายได้อีก

คุณจ. ก็ดำเนินการตามคำแนะนำทันที    วันรุ่งขึ้นคุณจ.ก็ติดต่อไปที่เว็บโฮสติ้ง   แจ้งผู้ดำเนินการให้ทราบถึงข้อเท็จจริง ส่งเอกสารยืนยันและหลักฐานประจำตัวไป

เมื่อผู้จดทะเบียนเว็บขอถอนชื่อ ด้วยสาเหตุว่าถูกแอบอ้าง   เว็บไซต์นี้ก็ถูกปิดไปตามระเบียบ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 08, 20:55
การหาเบาะแสเกี่ยวกับตัวผู้กระทำผิดในคดีใดๆก็ตาม  เป็นเรื่องที่นายตำรวจและเจ้าทุกข์ต้องร่วมมือกัน
อย่างที่ดิฉันเล่าให้ฟังแล้วว่า อะไรที่ช่วยให้ตำรวจทำงานได้สะดวกขึ้นก็ต้องช่วยทำ
ดิฉันจึงเริ่มมองหาว่า มีใครบ้างที่รู้จักผู้หญิงคนนี้  เพื่อส่งรายชื่อและที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ให้สารวัตรสอบถาม  เพื่อจะสาวไปถึงตัว
เพราะเจ้าตัวเขาไม่ได้ให้ที่อยู่เอาไว้ในเว็บไซต์

ชื่อหนึ่ง ที่น้ำอบระบุไว้ว่ารู้จักเธอดี  คือสตรีอาวุโสวัยเกือบ ๗๐ ที่ขอเรียกสั้นๆว่า "คุณป้า"  มีรูปถ่ายที่ถ่ายร่วมกันพร้อมคนอื่นๆด้วย
ได้ความจากคำบรรยายว่า เป็นกลุ่มที่เคยไปชุมนุมเดินขบวนเกี่ยวกับการเมือง ที่สนามหลวง  เมื่อสองปีก่อน
คุณป้า มีนามสกุลเดียวกันกับอดีตนายกฯ ท่านหนึ่ง

สิ่งที่น้ำอบคงไม่รู้   ก็คือดิฉันบังเอิญรู้จักคนที่ใช้นามสกุลนี้  เป็นน้องชายของคุณป้าเอง
ดิฉันรู้จักแต่น้องชาย แต่ไม่รู้ว่าคุณป้าเป็นพี่สาว ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพียงลูกพี่ลูกน้องกันด้วยซ้ำ
ดิฉันก็เลยโทรไปหาน้องชาย   บอกเพียงสั้นๆว่าดิฉันมีธุระอยากติดต่อกับคุณป้าคนนี้  ขอทราบเบอร์โทรศัพท์ของท่าน
ดิฉันไม่ได้บอกว่ามีธุระอะไร   โดยมารยาท น้องชายคุณป้าก็ไม่ได้ซักถาม  เพียงแต่บอกว่า เดี๋ยวผมจะโทรกลับมาบอก
ไม่กี่นาทีต่อมา  เขาก็โทรกลับมาบอกเบอร์มือถือคุณป้า    ดิฉันก็ขอบคุณ แล้วแจ้งให้ทนายความของดิฉันทราบ

ทนายความเป็นคนแนะนำให้ดิฉันรอบคอบในการเจรจาติดต่อกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้   เพราะจะต้องระมัดระวังถ้อยคำ  ไม่พูดมากไปหรือน้อยเกินไป ที่จะมีผลเสียต่อคดีได้
ถ้าเรื่องไหนไม่แน่ใจ   ก็แจ้งทนายความเพื่อให้เจรจาเองดีกว่า   เพราะเป็นความชำนาญของผู้ทำงานด้านนี้อยู่แล้ว



กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 08, 21:21
ยังไม่ทันที่ทนายความจะติดต่อไปหาคุณป้าด้วยซ้ำ   ดิฉันขอเบอร์มือถือของคุณป้ามาได้จากน้องชายคุณป้า เมื่อประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง  ของวันที่ 22 พ.ย. 50  พอสองทุ่ม ข้อความดังนี้ก็ปรากฏหราอยู่ในเว็บ

"โพสต์เมื่อ : 22 พ.ย. 2550 เวลา 20:00 น.

ใครว่าคุณหญิงวินิตา โกหก ตอแหลไม่เป็น
หล่อนไปโกหกกับน้องชายของคุณป้าตุ๊ ว่า ทราบว่าคุณป้าตุ๊เปิดเวบไซด์ส่วนตัว และเป็นเวบไซด์ที่ดี ชื่นชมมาก เลยอยากจะคุยด้วย เลยขอเบอร์โทร.ของคุณป้าตุ๊
น้องชายของคุณป้าเลยต้องโทร.มาขออนุญาตก่อนว่า คุณป้าจะให้หรือไม่ คุณป้าตุ๊ก็เลยต้องบอกว่า ท่านไม่เคยเปิดเวบไซด์ แต่เวบไซด์เป็นของ "คุณน้ำอบ"
พอดีว่าน้องชายของคุณป้าท่านเคยเรียนอยู่ มช. เคยเป็นลูกศิษย์ยายคุณหญิงนี้ ยายคุณหญิงเลยเข้าทางน้องชายของคุณป้า อ้างว่า ชื่นชมเวบไซด์มากค่ะ เลยอยากรู้จัก

..
เป็นยังไงคะ ..ใครว่าเป็นคุณหญิงแล้วตอแหลไม่เป็น เพียงแต่ชอบเอาตำแหน่งคุณหญิงมาเป็นตัวบังหน้า ว่าเป็นถึงคุณหญิง ไม่มีวันทำอะไรชั่วๆได้หรอก
ที่ไหนได้มันเลวร้ายกว่าเป็นไหนๆ
เป็นยังไง คนที่ท้าว่าจะติดต่อให้เจอคุณป้านั้นเป็นยายโมนิค แล้วทำไมถึงเป็นยายคุณหญิงหล่ะที่เป็นคนโทร.ไปหาคุณป้า
ตกลงว่าคุณหญิงวินิตา กับ ยายโมนิค เป็นคนเดียวกัน หรือคนละคน สับสนตัวเองบ้างหรือเปล่า
ตัวเองเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก แล้วคิดว่า คนอื่นเขาจะมีนิสัยเหมือนตัวเอง ถึงมาทำสันดานทรามๆแบบนี้กับคนอื่นที่ตัวเองไม่ชอบ มันลุแก่อำนาจเกินไป ..คิดว่า เป็นคุญหญิงแล้วมันใหญ่คับฟ้านักหรือไง "********************
ข้อความทั้งหมดนี้เป็นความเท็จ    ดิฉันขอยืนยันว่าเรื่องจริงเป็นอย่างที่ดิฉันเล่ามาข้างบนนี้เอง  ง่ายๆตรงๆ   ไม่มีอะไรอย่างที่ถูกกล่าวหา
ดิฉันไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องไปปั้นเรื่องว่าคุณป้ามีเว็บไซต์อะไรนั่นทำไม  เราๆก็คงเห็นว่าผู้อยู่ในวัยอย่างคุณป้า ยากที่จะสนใจเทคโนโลยีจนถึงตั้งเว็บไซต์ของตัวเอง 
อย่างดิฉันเองถ้าไม่ใช่นักเขียนที่อยากสนทนากับแฟนคลับ  และไม่ใช่นักวิชาการที่ประสงค์จะเผยแพร่ความรู้    ก็ไม่มีเหตุผลในการมีเว็บไซต์ของตัวเอง

แค่โทรหาน้องชายคุณป้าเพื่อบอกว่ามีธุระขอทราบเบอร์มือถือพี่สาว   ผู้ใหญ่ในวัยดิฉันก็บอกได้โดยไม่ต้องยกเหตุผลอะไรเป็นคุ้งเป็นแควตามที่น้ำอบกล่าวมา

ส่วนเรื่องคุณโมนิค เป็นคนละส่วนกับดิฉัน  คุณโมนิคเคยท้าอะไรใครที่ไหนดิฉันก็ไม่ทราบ    ดิฉันติดต่อกับคุณโมนิคตามความจำเป็นคือขอข้อมูลเกี่ยวกับน้ำอบเท่าที่เธอพอจะให้ได้เท่านั้น   เพราะดิฉันต้องอาศัยคุณโมนิคเป็นจุดเริ่มต้น  ไม่งั้นก็ไม่รู้จะไปเริ่มที่ไหน

ในเมื่อข้อความเหล่านี้กลับตาลปัตรจากความเป็นจริง   ซ้ำยังใช้ถ้อยคำที่ดิฉันไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน  เผยแพร่ลงในอินเทอร์เน็ตให้คนไทยจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้าไปอ่านได้ 
ดิฉันก็ต้องหาหลักฐานมาหักล้าง  เพื่อปกป้องความเสียหายอันจะเกิดกับตัวเองได้ หากว่ามีผู้เข้าใจผิดตามนั้น 

ดิฉันก็จำต้องกลับไปหาน้องชายคุณป้าอีกครั้งหนึ่ง  เพื่อช่วยยืนยันข้อเท็จจริง   ไม่เคยนึกเลยว่าเรื่องแค่ขอเบอร์มือถือคุณป้า  ซ้ำยังไม่ทันได้โทรไปหา จะกลายเป็นเรื่องถูกกล่าวหาขนาดนี้ไปได้


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 08, 21:37
มีเรื่องเล็กๆอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องบอกความจริงไว้  ก็คือ น้องชายคุณป้าไม่เคยเป็นลูกศิษย์ดิฉัน    ดิฉันไม่เคยสอนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ไม่รู้ว่าน้ำอบเข้าใจเช่นนั้นได้อย่างไร ค่ะ

นี่เป็นหลักฐานเล็กๆข้อหนึ่งในอีกหลายข้อ ที่ทำให้ดิฉันสงสัยว่าน้ำอบแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวดิฉันเลย
ทั้งๆประวัติของดิฉันก็ลงอยู่ในท้ายนิยายทุกเล่ม
ผลงานของดิฉัน หล่อนก็ไม่รู้จัก   เอาเพลง ลาวม่านแก้ว  ที่ดิฉันแต่งเนื้อร้อง ไปลงหราอยู่ในเว็บของหล่อนตั้งเป็นนมเป็นนาน 
เพิ่งถอนออกไปไม่กี่วันนี้เอง คงจะเพิ่งมีใครไปบอก
นิยาย แต่ปางก่อน ของดิฉันที่ทำเป็นละคร หล่อนก็มีรูปในละครนั้นลงในเว็บอยู่เป็นนานเหมือนกัน

จึงทำให้สงสัยว่า ใครกันหนอไปบอกผู้หญิงคนนี้ให้เชื่อว่าโมนิคคือเทาชมพู   ทั้งที่เจ้าตัวเขาไม่รู้จักว่าเทาชมพูคือใคร  หลังจากนั้นอีกนานก็ยังไม่รู้ว่าแก้วเก้าเป็นใคร

ผิดกับดิฉันอย่างตรงข้าม คือเมื่อใดที่รู้ว่ามีปรปักษ์  ก็ต้องพยายามหาทางรู้ทุกอย่างที่ทำได้เกี่ยวกับคนนั้น  จะได้ไม่งมอยู่ในเงามืด


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 08, 19:26
ดิฉันโทร.กลับไปหาน้องชายของคุณป้าอีกครั้งหนึ่ง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง  เมื่อเขาทราบเรื่องดีแล้วว่าผลกลับตาลปัตรออกมาอย่างใด   ดิฉันก็พิมพ์ข้อความทั้งหมดที่เราได้พูดกันในครั้งแรก ลงเป็นหลักฐานยืนยัน
แล้วนำไปให้เขาอ่าน   เขาอ่านจบก็ลงชื่อเซ็น รับรองข้อเท็จจริงทั้งหมดทันที  ไม่มีความลังเล

ดังที่ปรากฏในเอกสารที่ดิฉันนำมาลงท้ายข้อความนี้  ขอปกปิดชื่อน้องชายคุณป้าไว้ตามมารยาท  แต่ข้อความเหล่านี้ถ้าจำเป็นก็จะเปิดเผยต่อศาลค่ะ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 08, 21:39
จะเห็นได้ว่าข้อความเหล่านี้ ไม่มีการกล่าวหาผู้ใด   เพียงแต่ยืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น  น้องชายคุณป้ารับรู้ความจริงด้วยตัวเอง เขาถึงเซ็นชื่อให้

ดิฉันเดาว่าน้ำอบคงจะยุติเรื่องนี้   แต่ก็กลับตรงกันข้าม   กลับอ้างว่าคุณป้าโกรธดิฉันถึงกับออกปากว่า "น่าจะทำเรื่องขอเรียกคืนเครื่องราชย์"
ขอคืนเรื่องอะไร เรื่องที่น้องชายคุณป้ารับรองว่าดิฉันไม่ได้พูดอะไรนอกจากขอเบอร์โทรคุณป้าเพราะมีธุระจะพูดด้วยน่ะหรือ?

นอกจากคุณป้าแล้ว  ก็ยังมี" พี่พี" ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร  ถูกระบุว่า เห็นอย่างเดียวกับคุณป้าเสียอีก

พี่พีขา
ยายโมนิคก็สถุล ยายคุณหญิงก็ลมปราณแตกซ่าน
คุณป้าตุ๊บอกว่า แค่เจอก๊กนี้ โทร.มาแค่ ๒ ครั้ง ท่านอยากจะประสาทตาม
จนวันนี้คุณป้าท่านหลุดปากมา คำเดียวกับพี่พี ก็คือ น่าจะทำเรื่องขอเรียกคืนเครื่องราชย์
เมื่อเย็นนี้ ยายคุณหญิง ยุให้น้องชายของคุณป้า  ต้องมาถามคุณป้าว่า ทำไมทุกเรื่อง คุณน้ำอบถึงรู้หมดเลย คุณป้าท่านก็แจ้งกลับไปว่า ต้องรู้สิ เพราะท่านบอกเอง แล้วยังมาหน้าไหว้หลังหลอกอีก เมื่อวานพูดอย่าง แต่มาเขียนในบล็อคในนามโมนิคอีกอย่าง
แล้วยังมายุให้พี่น้องเขาทะเลาะกันอีก อันนี้แหละคุณป้าตุ๊โกรธแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย
คือเมื่อเย็นที่ผ่านมา ที่หนูโพสต์ล่าสุดก่อนหน้านี้ไปไงคะ  ยายคุณหญิงเธอรีบพริ้นท์เอาไปให้น้องชายคุณหญิงดูว่า เห็นมั้ย  **หนูร้ายแค่ไหน ด่าหยาบคาย**
เขาพริ้นท์เอาไปให้ลุกศิษย์ทุกคนของเขาดูว่า เราร้ายแค่ไหน  คุณป้าเลยถามกลับว่า แล้วตัวคุณหญิงไม่ร้ายหรอกหรือ ดูสิ..มายุให้พี่น้องเขาทะเลาะกัน
เป็นผู้ใหญ่แล้วยังทำตัวบ่างช่างยุ ทำไมให้มานั่งคุยกันดี ดี ไม่มา
คุณป้าเลยโมโหจัดมาก บ่นว่า ถ้าเรียกมาคุยกันดี ดีแล้วไม่มา ท่านจะบอกให้น้องชายท่านนั้นแหละ พาหนูไปบ้ายคุณหญิงเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด
ตอนนี้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องดังมากกว่าที่พวกก๊กนั้น พยายามจะใช้พื้นที่ของพันทิป เป็นโทรโข่งกระจายข่าวเสียอีกค่ะ
ตอนนี้ผู้หลักผู้ใหญ่หันมาสนใจกันเยอะมาก ว่า ยายคุณหญิงนี้เป็นอะไร ทำไมทำตัวแบบนี้


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 08, 21:44
ต้องปฏิเสธว่าอะไรที่พาดพิงว่าดิฉันทำ ไม่จริงทั้งนั้นละค่ะ   ดิฉันมีแต่ลูกศิษย์ปริญญาโทสอนปีละไม่กี่คน  ซึ่งไม่เคยพูดอะไรกันนอกจากวิชาที่สอน
นอกจากนี้เรื่องคุณป้ากับน้องชายทะเลาะกัน ก็ไม่จริง   ดิฉันโทรไปถาม น้องชายท่านก็ตอบว่า ไม่ได้ทะเลาะกันนี่ครับ เจอกันก็ยังพูดกันดี
 
เขายืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรมาด้วย  ขอลอกมาให้อ่านกันนะคะ

ผม  ................ตั้งบ้านเรือนอยู่เลขที่ ..............นครปฐม  ขอปฏิเสธคำบอกเล่าที่ว่า พี่ตุ๊กและพี่สาวของผม ทะเลาะกันใหญ่โตด้วยเรื่องของคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์
คุณหญิงไม่ได้มาเป็นบ่างช่างยุ ในเรื่องใดๆ เกี่ยวกับผมหรือพี่สาวของผม
ผมกับพี่สาวไม่ได้โกรธกัน   เมื่อวานนี้ วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2550  ผมกับพี่สาวก็ยังเจอกัน   พูดกันเป็นปกติ ครับ

ส่วนทางน้ำอบก็ยังไม่ยอมหยุดเรื่องนี้  กลายเป็นว่ามีจดหมายนำมาลง อ้างว่าคุณป้าเป็นคนสั่งให้น้ำอบเขียนเอง
ใจความในจดหมาย อ่านแล้วก็เข้าใจอย่างอื่นไม่ได้ว่าคุณป้ากำลังกล่าวหาดิฉันด้วยเรื่องเดียวกับน้ำอบพูด
แต่ดิฉันก็ไม่เชื่อว่าคุณป้าซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้ว  จะทำอะไรเช่นนั้น ในเมื่อเรื่องทั้งหมด ดิฉันไม่ได้ขัดแย้งกับคุณป้าเลยแม้แต่น้อย
การขอเบอร์โทรคุณป้า เป็นเรื่องที่ดิฉันทำความผิดร้ายแรงถึงกับถูกประณามขนาดนี้ทีเดียวหรือ?
 
ดิฉัน"น้ำอบ"ในฐานะตัวแทนที่คุณป้า.........................ท่านมอบหมายให้เขียน ดังนี้
ดิฉัน ..................
ขอความกรุณาคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ อย่าทำให้พี่น้องต้องทะเลาะกัน เพราะดิฉันพูดความจริงทุกอย่างตามที่ได้สั่งให้หนูน้ำอบเขียนไว้ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ที่ผ่านมา
แต่ถ้าใครที่อยากรู้ความจริง และคิดว่าตัวเองเป็นนักเลงจริงให้โทร.มาหาดิฉันได้ที่ หมายเลข ..................  ดิฉันยินดีที่จะตอบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยตนเอง  และฝากบอกให้คุณหญิงวินติ โทร.กลับมาด้วย จะได้ไม่ได้ชื่อว่า "รังแกเด็ก" และถ้ายังไม่ติดต่อกลับมา ดิฉันจะเดินทางไปพบคุณหญิงที่บ้านนครปฐมด้วยตนเอง  เพราะไม่อยากให้คุณหญิงทำให้พี่น้องต้องทะเลาะกัน เนื่องจากความ"ตอแหล"ของคุณหญิง กรุณาอย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว
และเอกสารฉบับนี้ไม่จำเป็นต้องมีลายเซ็นต์ของดิฉันกำกับ มอบอำนาจให้หนูน้ำอบเขียนแทน เพราะตอนนี้อยู่กันคนละบ้าน

(ลงชื่อคุณป้า)


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 08, 22:07
ในเมื่อคุณป้าลงหมายเลขโทรศัพท์ไว้  บอกว่าถ้าใครอยากรู้ความจริงก็โทรไปถามได้    ดิฉันก็ส่งเบอร์นี้ให้สารวัตรโทรไปสอบถามเอาเอง
เพราะลำพังแต่ดิฉันเอง รวมทั้งทนายความของดิฉันด้วย เห็นจะไม่สามารถพูดด้วยได้เสียแล้ว

ครั้งสุดท้ายคุณป้าติดต่อมา บอกว่าจะพาน้ำอบมาที่บ้านดิฉันที่นครปฐม     ดิฉันก็บอกว่าเชิญมาเลย สารวัตรเองก็รอจะพบอยู่
ถ้ามาจริงๆให้ไปที่บ้านน้องชายของคุณป้า  ดิฉันจะไปรอที่นั่น   แต่ไม่ขอต้อนรับที่บ้านดิฉัน   
คุณป้าก็ไม่ติดต่อกลับมา  โทรไปถามว่าเมื่อไรจะพาน้ำอบมาเสียที ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ตรงคำถาม 
จนบัดนี้ดิฉันก็ยังไม่ได้ข่าวคราวจากคุณป้าอีก    และคุณป้ากับดิฉันก็ยังไม่เคยเห็นหน้ากันจนทุกวันนี้

ส่วนเหตุผลที่ว่า ทำไมดิฉันไม่ให้น้ำอบมาหาที่บ้าน ก็อยู่ตรงข้อความที่เธอโพสในเว็บเธอนี่ละค่ะ

พอดีว่าวันนี้ครบ ๑๐๐ วันงานศพของพ่อนะ
ไม่อยากด่ามาก แต่เกลียดฉิบหายเลยไอ้พวกขี้ขลาด ขี้ขึ้นสมองแบบนี้
เมื่อไหร่จะ ชกกัน ก็บอกมาว่าที่ไหน เมื่อไหร่ เล่นแบบนี้รำคาญว่ะ
เดี๋ยวเสร็จงานศพพ่อก่อน ฉันจะขับรถไปอัดประตูรั้วยายคุณหญิงให้เป็นข่าวหน้าหนึ่งเลยว่า ฉันบุกไปด่าถึงหน้าบ้าน   

ดิฉันไม่คิดว่าคนที่ทำแบบนี้  เป็นแขกที่ใครอยากจะเชื้อเชิญให้เข้าบ้าน   แต่ถ้าพบบนโรงพักละก็ จะเหมาะกว่า


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 08, 23:00
โลกไซเบอร์เป็นโลกที่ปกปิดตัวตนกันได้   สื่อสารกันได้ด้วยตัวอักษร จะให้เห็นหน้าตาหรือไม่ให้เห็นหน้าตา  ก็ทำได้
จึงมีคนจำนวนหนึ่งที่อาศัยการปกปิดข้อนี้ สร้างความได้เปรียบให้ตัวเอง  เหมือนคนที่ซุ่มอยู่ในเงามืด อยากขว้างก้อนหินไปทำร้ายคนที่ยืนอยู่ในที่สว่าง ก็ทำได้สะดวกใจกว่ายืนในที่สว่างด้วยกัน  เห็นหน้าตาได้ชัดว่าใครเป็นใคร

คนพวกนี้สามารถส่งข้อความอะไรก็ได้ ที่คิดว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน  เพราะอีกฝ่ายไม่รู้จักตัวตนว่าเป็นใคร หรือต่อให้รู้ก็ย่ามใจว่า เทคโนโลยี่เช่นนี้ล้ำสมัยเกินกว่ากฎหมายจะเอื้อมถึง
ทำให้การล่วงละเมิดบุคคลอื่น โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักต่อสาธารณชน เกิดขึ้นง่ายดาย

คนที่เข้ามาในโลกไซเบอร์โดยสุจริตใจ  ไม่ทำร้ายใคร   อาจจะตกเป็นเหยื่อของใครอีกคน   โดยที่สองฝ่ายไม่ต้องรู้จักกันเลยก็เป็นได้

ดิฉันขอทำนายว่า การล่วงละเมิดบุคคลอื่นทางอินเทอร์เน็ต จะเป็นคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นมากมายในทศวรรษใหม่นี้
ไม่ใช่แค่เด็กหญิงถูกล่อลวงผ่านทางแช็ท   หรือชายหนุ่มหญิงสาวถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเงิน    แต่ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ  จะถูกข่มเหงรังแกหรือกระทำให้เสียหาย ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ทั้งสิ้น
แม้แต่คนอย่างดิฉันเอง ซึ่งไม่น่าจะโดนด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น   ก็ไม่อยู่ในข้อยกเว้น
ท่านที่เข้ามาอ่านด้วยความรู้สึกว่า  ฉันเป็นคนนอกไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใคร  ยังไงก็ไม่โดน  ก็ขอให้รู้ด้วยว่าไม่จริง  มันจะเกิดกับใครก็ได้รวมทั้งตัวคุณด้วย

คดีทางอินเทอร์เน็ตจึงเป็นที่สนใจของผู้อยู่ในแวดวงกฎหมาย   สารวัตรณรงค์ฤทธิ์จึงให้ความสำคัญกับคดีนี้มาก  ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
เพราะมันอาจเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ต่อไปการทำร้ายกันด้วยเทคโนโลยี่จะเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากทำร้ายกันทางร่างกาย ตัวต่อตัว  ก่อผลเสียหายทางชื่อเสียงและจิตใจได้ไม่น้อยกว่าทำร้ายร่างกาย
ตำรวจจะต้องเจอคดีแบบนี้มากขึ้นทุกที  จากปัญญาชนและคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศชาติ  ถ้าไม่ใช่เจ้าทุกข์ก็เป็นผู้ต้องหาเสียเอง

ดิฉันเองถูกทำร้ายต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่ปลายปี ๔๙  มีหลายคนแนะนำให้ปล่อยเลยตามเลย ด้วยความเชื่อว่าเขาก็คงเบื่อไปเอง  ตบมือข้างเดียวไม่ดัง  หรือคนอื่นก็เห็นใจอาจารย์เองละ ถ้าเขาไม่หยุด
ดิฉันก็อดทนมายาวนานถึง ๑๓ เดือน  พอจะพิสูจน์ได้แล้วว่าไม่จริง  นอกจากนี้ ความเชื่อเช่นนี้กลับไปเอื้อประโยชน์ให้ผู้ทำร้ายมากกว่าผู้ถูกทำร้าย 
เหมือนกับว่า ไหนๆก็ถูกรังแกแล้ว ก็จงสงบปากสงบคำ  ยอมให้ถูกรังแกต่อไป 

เอาเป็นว่าดิฉันไม่สอนลูกดิฉันแบบนี้ก็แล้วกันค่ะ   แต่จะสอนว่าถ้ามีปัญหาก็แก้ไปทีละเปลาะ   ก่อนเราจะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย ก็ต้องพึ่งตัวเองเสียก่อน


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 08, 20:57
บางท่านที่เข้ามาอ่านถึงตอนนี้ คงจะเกิดคำถามขึ้นกับตัวเองว่า
ถ้าคุณเป็นคนละคนกับคุณโมนิค แล้วน้ำอบมากล่าวหาคุณได้ยังไง โดยไม่มีต้นสายปลายเหตุเสียเลย

ดิฉันก็ถามตัวเองเหมือนกันว่า มันเรื่องอะไร จู่ๆถึงถูกกล่าวหาว่าเป็นคนอีกคนหนึ่ง ทั้งๆเป็นคนละคน คนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกันเลย
คำตอบนี้ น้ำอบให้มาเองค่ะ

โพสต์เมื่อ : 19 พ.ย. 2550 เวลา 17:09 น.     
สวัสดีค่ะพี่มารีคะ
เรื่องโมนิคเป็นเทาชมพู และเทาชมพูคือโมนิค...แม้นแต่พี่พีก็ทราบค่ะ
และมีคนที่รู้ตชจักหล่อนดีมากเลยค่ะ รู้ประวัติความเป็นมาทุกอย่างเช่นกัน
มีผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี เป็นคนบอกหนูเองแหละค่ะว่า โมนิค คือ เทาชมพูค่ะ
เรื่องนี้พี่พีก็ทราบค่ะ  แต่หนูไม่ขอเล่ารายละเอียดว่า ท่านไหนเป็นคนบอก
สัญญาด้วยใจกับท่านผู้นั้นด้วยความสัตย์เลยค่ะ ว่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็จะไม่พูดเลยค่ะ

ดิฉันไม่รู้ว่าน้ำอบพูดจริงหรือไม่   ถ้าหากว่าเอาเหตุการณ์เรื่องคุณป้าเป็นตัวเทียบ ก็น่าเชื่อว่าไม่จริง
แต่ถ้าหากว่าเธอพูดจริงขึ้นมา    ก็แปลได้ว่า มีใครคนหนึ่ง ที่น้ำอบเรียกว่า "ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี" เป็นคนบอกเธอว่า โมนิค คือ เทาชมพู
และยังอ้างพยานด้วยว่า "พี่พี" ก็ทราบเรื่องนี้   
เหมือนกับว่า ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี พี่พี และน้ำอบ รู้จักกันดีเป็นส่วนตัว

ปัญหาที่จะต้องขบต่อไปก็คือ "ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี" แปลตามตัวว่าอะไร? หมายถึงใครได้บ้าง?


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 08, 21:22
คำว่า รั้วจามจุรี  คนที่เรียนมหาวิทยาลัย ไม่ว่าที่ไหน   ก็น่าจะรู้ว่าเป็นสัญลักษณ์หมายถึงสถาบันการศึกษาแห่งใดในประเทศ 
ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี หมายถึงคนที่อยู่ในสถาบันแห่งนี้ แปลอย่างอื่นไปไม่ได้
เมื่อบอกว่าเป็น"ผู้ใหญ่" ก็ตัดประเด็นไปได้เลยว่าไม่ใช่นิสิต    ก็เหลือแต่อาจารย์และเจ้าหน้าที่ข้าราชการฝ่ายต่างๆ ที่ประจำอยู่
ผู้ใหญ่คนไหนหนอ  อยู่ๆก็มาคบกับน้ำอบอย่างสนิทสนม   ถึงขั้นบอกกล่าวสิ่งที่เป็นเท็จให้ฟังได้ แล้วยังไม่รับผิดชอบคำพูดของตัว
ต้องให้น้ำอบสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยชื่อให้รู้     ในสิ่งที่พูดแล้วนอกจากเท็จก็ยังเสียหายกับคนอื่นอีกด้วย
ไม่น่าจะเป็นวิสัยของ"ผู้ใหญ่" ที่น้ำอบเรียกอย่างยกย่องว่า"ท่าน" เสียเลย

ดิฉันไม่รู้ว่า"ผู้ใหญ่"มีตัวจริงหรือไม่  แต่"พี่พี"นั้นมีตัวจริงแน่   ในเมื่อน้ำอบอ้าง"พี่พี" ก็ชวนให้เข้าใจว่าผู้ใหญ่มีตัวจริง "พี่พี" รู้จัก


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 08, 21:29
น้ำอบอ้างชื่อ "พี่พี"  หลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ  ตัวอย่างเช่นคำพูดนี้

"คุณทานตะวันลองคิดดูเอาก้แล้วกันค่ะ นักพรตแห่งขุนเขาอย่างพี่พียังต้องออกมาเคลื่อนไหว ทำสารพัดเลยเหมือนกัน ถึงกับจะตั้งกระทู้ แฉ ชีวิตยายคุณหญิงตั้งแต่สมัยสาวๆ ตั้งแต่ยังอยู่ที่รั้วจามจุรีอีกด้วยเช่นกัน แปลว่า สุดทน แล้วนะคะ"

"พี่พี" กับดิฉันไม่รู้จักกันมาก่อน   จนบัดนี้ก็แน่ใจว่าไม่เคยเห็นหน้ากัน  หรือถ้าเห็น  เขาก็คงเคยเห็นข้างเดียว เพราะดิฉันไม่รู้จักบุคคลนี้
พูดถึงอายุ ในเมื่อเคยเปิดเผยว่าจบสวนกุหลาบรุ่น 104 ก็กะได้ว่าอายุราว 40 ปี    สมัยดิฉันเข้าเรียนมหาวิทยาลัย    " พี่พี" อาจจะยังไม่เกิด  หรือถ้าเกิดก็เป็นเด็กทารกอยู่
ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะรู้อะไร ถึงขั้นสามารถ "แฉ ชีวิตยายคุณหญิงตั้งแต่สมัยสาวๆ ตั้งแต่ยังอยู่ที่รั้วจามจุรีอีกด้วย"

อีกอย่างคือ" พี่พี" มาสุดทนอะไรแทนน้ำอบ   ในเมื่อน้ำอบเป็นฝ่ายโจมตีดิฉันด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยที่ดิฉันไม่เคยโต้ตอบแม้แต่ครั้งเดียว    คำนี้ก็เป็นคำถามที่ดิฉันยังขบไม่แตกอยู่นาน


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.พ. 08, 19:20
การเอ่ยอ้างถึงเรื่องราว "เมื่อยายเทาชมพูยังสาว" เป็นสิ่งที่น้ำอบพูดย้ำหลายครั้ง   จนสะดุดใจ
นับว่าน่าประหลาด   เพราะตามธรรมดาแล้ว เวลาใครโจมตีใครก็ตาม   พฤติกรรมที่ไม่ดีของคนนั้นคือพฤติกรรมในยุค ปัจจุบัน
ไม่ค่อยมีใครไปตั้งหน้าตั้งตาว่านักการเมืองหรือดาราคนไหน ถึงเมื่อครั้งเขาเรียนม. ๖ หรือปี ๑

แต่น้ำอบ ชอบย้อนไปถึงสมัยดิฉันเรียน คือร่วม ๔๐ ปีมาแล้ว อาจจะก่อนน้ำอบเกิดเสียอีก  ไม่ว่าโจมตีอะไรก็ต้องวกไป "สมัยสาวๆ" ซ้ำซากอยู่นั่นเอง

โพสต์เมื่อ : 19 ต.ค. 2550 เวลา 18:37 น.   
ส่วนเรื่องยายเทาชมพู หรือ เต้าชมพู หรือยายวินิดา ดิถียนต์นั้น ขอบอกว่า สันดานหาเรื่องจนเข้ากระดูก คงจะขัดยากค่ะ
แต่มันแกล้งที่จะบิดเบือนข้อมูลทุกอย่าง เพื่อจะแกล้งเรา
มันทำเพื่ออะไร ทั้งๆที่พี่กับมันก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกัน ผัวมันพี่ก็ไม่ได้ไปสนใจ ถ้าจะว่าเรื่องหึงหวงก็
ไม่ใช่เลย  นี่เพิ่งมารู้ทีหลังว่า มันมีนิสัยแบบนี้ตั้งแต่สมัยสาว สาวแล้ว

และอีกตอนหนึ่ง

 โพสต์เมื่อ : 17 ต.ค. 2550 เวลา 22:34 น.       
คนที่เขานำดอกกล้วยไม้ของดิฉันเอาไปให้ยายโมนิคหรือ (เทาชมพู)นั้น เขารู้จักยายคนนี้มาตั้งแต่สมัยสาวๆ  เขาบอกว่าคนๆนี้มีปมด้อยตั้งแต่สมัยสาวๆ เรื่องที่ไม่สวย และไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของคนรัก คนก่อนคุณน้อย ทำให้มีอาการไม่ปรกติในเรื่องที่จะคอยตามจิกคนโน้นคนนี้มาตั้งแต่สมัยสาวๆ แล้วค่ะ
ตอนนี้เท่าที่ทราบมีผู้หลักผู้ใหญ่ ที่รู้ว่า โมนิคเป็นใคร เขาก็เกิดวิกฤติศรัทธากันอย่างหนัก เพราะเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีวุฒิภาวะทางความคิดมากแล้ว ไม่น่าจะทำเรื่องไม่งามแบบนี้
ดิฉันเลยงง และเรียนกถาม ไปว่า แล้วดิฉันไปเกี่ยวข้องอะไรกับคนๆนี้ ทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้  ก็ได้รับคำตอบว่า เขามีปัญหาในเรื่องส่วนตัวอย่างหนัก และจะเป็นคนที่หน้าอย่างใจอย่างแบบนี้มานานแล้ว  จะตามจิกคนที่ไม่ชอบใจหรือเห้นมาปัดแข่งปัดขาตัวเอง และอาศัยความที่ตนเป็นคนเฉลียวฉลาดกลบเกลื่อนปมด้อยของตนเองมาตลอด [/u]   


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.พ. 08, 20:52
ข้อหาที่น้ำอบกล่าวอ้าง หมายถึงใครก็ไม่ทราบ แต่สิ่งเสียหายที่กล่าวมานี้  ไม่ใช่ดิฉันแน่นอน 
เป็นความเท็จตั้งแต่ต้นจนจบ

เพื่อนร่วมรุ่นที่คณะ รู้กันดีว่าดิฉันเป็นเด็กเรียน   ไม่มีปมด้อย ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัว
เป็นนิสิตเงียบๆคนหนึ่งที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียน   ด้วยความหวังว่าจะได้เรียนต่อในระดับสูงกว่านี้  จึงต้องทำคะแนนให้รอดตั้งแต่ปี ๑ ถึงปี ๔

ใครเคยเรียนในยุคที่มีคำว่า "รีไทร์ รีพีท และรีเอ๊กแซม" ย่อมจะรู้ว่าหนักแค่ไหน   ถ้าหากว่าพลาดเพียงนิดเดียว ก็อาจต้องเรียนซ้ำชั้น  เสียเวลาไป ๑ ปี
เพราะฉะนั้นจึงไม่มีคำว่าปัดแข้งปัดขา  ระบบการเรียนไม่มีแบบนั้น  แค่เรียนให้รอดไปได้   แคล้วคลาดจากคำว่า "รี" อย่างใดอย่างหนึ่ง  คือจุดมุ่งหมายของพวกเรา

เมื่อเรียนจบปริญญาตรี  ก็ได้บรรจุเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย   ซึ่งอาชีพนี้ถือว่ามีเกียรติ  ห่างไกลจากปมด้อย
การทำงานวิทยาเขตที่เปิดใหม่ในครั้งนั้น ก็ไม่เอื้อให้ปัดแข้งปัดขาใดๆ มีแต่บุกเบิกทำงานและทำกิจกรรมกับนศ.หลังเวลาเลิกเรียน   
บรรยากาศเป็นยังไง ใครเคยอ่านนวนิยาย"น้ำใสใจจริง" หรือดูละครช่อง ๗ ที่มีศรราม เต๋า นัท แคทรียา เล่นนั่นแหละค่ะ   คือถอดมาจากของจริง
เป็นประสบการณ์ช่วงมีค่าที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตการทำงานของดิฉัน

ข้อกล่าวหาของน้ำอบ เป็นปริศนาสำหรับดิฉันมานาน  จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ จึงได้พบคำตอบ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.พ. 08, 14:41
ประมาณหนึ่งเดือนมานี้  เพื่อนเก่าร่วมรุ่นคนหนึ่งโทรมาหา   เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว  เธอมีครอบครัวและใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ต่างแดน  กลับมาเยี่ยมเมืองไทยบ้างบางครั้ง  มีจังหวะเหมาะก็มาเจอเพื่อนๆที่เรียนจบมาด้วยกันสักครั้ง
ปรากฏว่าเธอรู้จัก " พี่พี" และเพื่อนรุ่นพี่ของเราทั้งสองอีกคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนเช่นกัน   ดิฉันไม่รู้จักรุ่นพี่คนนั้น เพราะเธอเรียนจบไปจากคณะตั้งแต่ก่อนดิฉันเข้าปี ๑ 
ในตอนแรกที่เธอโทรมา  เอ่ยถึง "พี่พี" ในชื่อเล่นจริงๆของเขา  ดิฉันตกใจมาก   เพราะเข้าใจว่าเพื่อนเก่าของดิฉันคือ "ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี" คนนั้น   
แต่เป็นความเข้าใจผิดของดิฉันเอง  ได้ขอโทษเธอไปแล้ว ด้วยความเสียใจ   พร้อมกันนั้นก็ดีใจว่าเธอผู้นั้นเป็นเพื่อนแท้ที่หายากยิ่งคนหนึ่ง

ขอรวบรัดว่าด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนเก่าของดิฉัน   ดิฉันก็ได้มีโอกาสรับการติดต่อทางอีเมล์โดยตรงกับเพื่อนรุ่นพี่ และ " พี่พี" เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง
จึงได้รู้ว่าข้อความที่น้ำอบบอกว่าจะแฉเรื่อง "เมื่อยายเทาชมพูยังสาวๆ" เป็นเรื่องกลับตาลปัตรจากความเป็นจริง ยิ่งกว่าเรื่อง"คุณป้า" เสียอีก
แต่กว่าจะรู้  เรื่องไม่จริงที่ว่า  ก็ทำให้หลายคนที่ถูกพาดพิง เดือดร้อนวุ่นวายกันไปไม่มากก็น้อย



กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.พ. 08, 16:07
เท่าที่ปะติดปะต่อได้ก็คือ ในตอนแรก "พี่พี" หรือคุณ ptepkoom เข้าใจผิดตามคำบอกเล่าของน้ำอบว่า คุณโมนิคและดิฉันเป็นคนเดียวกัน   
ดังนั้นถ้อยคำอะไรที่คุณโมนิคโพสลงไปในบล็อค คุณ ptepkoom ก็นึกว่าเป็นคำของดิฉัน 
การกระทบกระทั่งระหว่างคุณโมนิค กับ" พี่พี"  ก็เลยกลายเป็นว่า ดิฉันคือคู่กรณีของเขา ทั้งๆดิฉันไม่เคยโต้ตอบไม่ว่าน้ำอบหรือ "พี่พี" หรือใครในเว็บ

ข้อนี้คุณโมนิคก็ยืนยันซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง   เธอพร้อมจะรับผิดชอบว่าเป็นถ้อยคำของเธอ

ความเข้าใจผิดข้อนี้ จบไปแล้ว  คุณ ptepkoom  ก็ยอมรับแล้วว่าดิฉันกับคุณโมนิค เป็นคนละคนกัน

ส่วนรุ่นพี่ของดิฉัน รู้จักคุณ ptepkoom เป็นส่วนตัว   ไม่เคยรู้จักดิฉัน  เธอเรียนก่อนดิฉันหลายรุ่น
แต่เคยรู้จักอดีตนิสิตคณะเดียวกันอีกคนซึ่งเป็นลูกนักเขียน    เธอก็บอกคุณ ptepkoom ไปตามนั้น
ในเมล์ที่พี่คนนี้ส่งมาให้ดิฉัน ยืนยันความจริงว่าเธอไม่เคยกล่าวร้ายดิฉันเลย

อ่านส่วนหนึ่งของอีเมล์ ได้ค่ะ
I would like to clarify that the information quoted in Khun Namob's board was mixed up and did not have anything to do with Khunying at all.  I remember when I was talking to Yo about an Arts student who was a daughter of a well known Thai writer, it was (ชื่อของอดีตนิสิตคนนั้น), daughter of (ชื่อของนักเขียนคนหนึ่งที่ล่วงลับไปแล้ว).   

เรื่องที่รุ่นพี่ของดิฉันเล่าให้คุณ ptepkoom ฟังอย่างธรรมดาที่สุด  และ "พี่พี" ก็เล่าสู่กันฟังกับน้ำอบ ตรงตามนี้   กลายเป็นคนละเรื่องเมื่อถึงปลายทาง
กลายเป็นคำประณาม ว่าจะ"แฉ" บ้างละ ว่าดิฉันเป็นคนอย่างนั้นอย่างนี้ บ้างละ ล้วนแล้วแต่ไม่ตรงกับความจริงทั้งสิ้น

เรื่องนี้ คุณ ptepkoom มีความเป็นสุภาพบุรุษพอจะเล่าให้ดิฉันฟังตามตรง

เรื่อง ผู้ใหญ่ ในแคนเบอร่า นั้น ผมหมายถึง พี่......ที่ได้ส่งเมล์อธิบายคุณหญิงเช่นกันในวันนี้ ว่าเข้าใจผิดไปถึงลูกสาวนักเขียนอีกคนนึงนั้น
และผมก็อธิบายคุณน้ำอบไปตามนั้น  แต่เธอเขียนไปแล้ว ก็เลยไม่รู้จะไปว่ายังไง


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 08, 20:22
เมล์จากคุณ ptepkoom ช่วยไขปริศนาให้ดิฉันเข้าใจกระจ่าง   ด้วยการเล่าถึงความเป็นมาที่ไปเล่นในเว็บของน้ำอบ 
อันที่จริงก็ไม่มีอะไรแปลกไปจากคนอื่นๆ   เริ่มจากคุณ ptepkoom ไปอ่านพบกระทู้น้ำอบในเว็บ pantip แล้วก็ติดตามอ่านเรื่อยมาจนถึงในเว็บส่วนตัวของน้ำอบ   
เรื่องที่โต้ตอบกันระหว่างโมนิคกับน้ำอบ คุณ ptepkoom ก็รู้เรื่องในฐานะคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย

ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทางโมนิค เรื่อยมา ยกเว้นว่า แค่ได้แต่สงสัย ว่าแกเป็นใคร ทำไมแฉนานจัง
 -และแล้ว คนอ ก็ขึ้นหัวข้อ โมนิค = เทาชมพู ? ผมก็เริ่มค้นหา ว่า เทาชมพู คือ ใคร แต่ก็ไม่กล้าถามแก
-ก็เลยไปเจอ ชื่อ เทาชมพู ในเว็บวิชาการ แต่ก็ไม่รู้จัก ไม่รู้ว่าเป็นใคร
 
-ก็เห็นแกโพสต์รูปที่คุณหญิงเอามาให้ดูนี้เอง และแกเขียนประกอบประมาณว่า นี่คือ เทาชมพู คนที่ว่าแกอยู่ได้ และเป็นคนของนาวานุเคราะห์
-ผมก็กดหา นาวานุเคราะห์อีก ก็ไม่พบอะไร แต่ก็ไม่กล้าถามแก


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 08, 20:33
ขอขยายความประโยคนี้หน่อยนะคะ

อ้างถึง
ก็เห็นแกโพสต์รูปที่คุณหญิงเอามาให้ดูนี้เอง และแกเขียนประกอบประมาณว่า นี่คือ เทาชมพู คนที่ว่าแกอยู่ได้ และเป็นคนของนาวานุเคราะห์

รูปที่ว่านี้คือรูปที่ลงประกอบในค.ห.นี้   คุณ ptepkoom อธิบายภาพให้ฟังว่าเป็นภาพรดน้ำในงานแต่งงานของดร.จ้อและเจ้าสาว   
น้ำอบระบุว่าเป็นภาพของ"เทาชมพู"
เมื่อดิฉันส่งภาพให้ดู  คุณพีก็บอกว่าใช่  ดิฉันไม่เคยเห็นภาพนี้ในเว็บของน้ำอบ   
ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของเว็บ แต่ไม่ใช่ในกระทู้โมนิค =เทาชมพู

ที่มันน่าขำที่สุด แต่หัวเราะไม่ออก   คือภาพนี้ไม่ใช่ตัวดิฉันหรอกค่ะที่กำลังรดน้ำสังข์อยู่
เป็นภาพของคุณน้า ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าสาว   ถ่ายโดยช่างภาพอาชีพที่คุณจ้อติดต่อให้มาถ่ายภาพในงาน
(เชื่อได้ ๑๐๐% ว่าคุณน้าไม่เล่นอินเทอร์เน็ต )

ที่น่าแปลกก็คือ ภาพนี้ไม่ได้ลงในเว็บวิชาการที่ใครๆทั่วโลกก็เปิดเข้ามาดูได้  แต่เป็นภาพที่ลงในเว็บแก้วเก้า   ซึ่งเป็นเว็บปิด  คนที่ล็อคอินเข้าเว็บได้คือสมาชิกเท่านั้น

ภาพนี้ถูกแฮคไปจากเว็บด้วยฝีมือคนที่มีล็อคอิน   แต่เป็นคนที่ไม่รู้จักดิฉัน อาจจะเคยเห็นสักครั้งสองครั้ง  และเป็นคนที่ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งงาน
ถึงไปเข้าใจไขว้เขวว่าคุณน้าคือดิฉัน
คนที่รู้จักดิฉันจะรู้ว่าดิฉันไม่เคยไว้ผมบ๊อบสั้นขนาดนี้   และคนไปร่วมงานก็จะรู้ว่าดิฉันไม่ได้แต่งชุดแบบนี้ในงานสมรสของคุณจ้อ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 08, 20:50
ย้อนกลับมาถึงคำบอกเล่าของคุณ ptepkoom อีกครั้งหนึ่ง

ผมกับพี่เหน่ง ก็คุยกันทางเมล์ กังวลกันว่า คนอ ด่าใครอยู่ รู้จริงหรือเปล่า
-พี่เหน่ง ก็กังวล เพราะเท่าที่พี่เหน่งรู้ เทาชมพู น่าจะเป็นอาจารย์ในรั้วจามจุรีนะ
 
-ผมก็ไม่ได้ทำอะไร ได้แต่คุยเรื่อยเปื่อย กับแกในเว็บ จนกระทั่ง แกเปลี่ยนหัวข้อ เป็นประมาณว่า โมนิค คือ คุณหญิงวินิตา ...
-ผมกับพี่เหน่ง ก็อ้าว รู้แล้วหรือว่าเป็นใคร แล้วทำไมขึ้นชื่อนามสกุลเค้าแบบนั้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าทักท้วงแก
 
-แล้วอยู่ๆ แกก็เริ่มด่า คุณหญิงว่าขี้ขลาด และเปลี่ยนหัวข้อเป็นอย่างนี้ด้วย ผมก็อ้าว แล้วจะทำไงกันละเนี่ย
 
-แล้วผมเริ่มสนิทกับพี่...(รุ่นพี่ของดิฉัน) เลยชวนพี่...ลองอ่านดู ว่าอะไรกัน
พี่...ก็บอก พี่เคยรู้จักลูกสาวนักเขียนคนนึง เป็นรุ่นน้องที่อักษร จุฬา แกตัวเล็กๆ มีเชื้อจีน   ไม่เรียบร้อยตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว ไม่รู้จะใช่คนนี้ไหม
-ผมก็เอาประโยคนี้เล่าให้ คนอ ฟัง คนอ ก็ขึ้นบอร์ดทันที ว่าเห็นมะ เป็นตั้งแต่สาวๆ แล้ว พี่พีก็รุ้ดี เราก็อ้าว อะไรกันเนี่ย   

ขอขยายความว่า คำว่า " ไม่เรียบร้อย" ที่รุ่นพี่ของดิฉันพูดถึง ก็คือเรื่องจุ๊กๆจิ๊กๆ ไม่มีอะไรมาก
เช่นเธอผู้นั้นขอยืมหนังสือพี่ไปอ่าน ส่งคืนมาก็ทำหนังสือยับ   ไม่อยู่ในสภาพดีเหมือนก่อน
สำหรับคนรักหนังสืออย่างพี่ เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจดีสำหรับหนอนหนังสืออย่างดิฉันเองเหมือนกัน ว่าก็ทำให้หงุดหงิดบ้าง

แต่ท่านผู้เข้ามาอ่าน คงจะเห็นว่า มันเป็นคนละเรื่อง ห่างไกลกันแทบจะสุดขั้วโลก กับข้อความที่กลายเป็นว่า

ส่วนเรื่องยายเทาชมพู หรือ เต้าชมพู หรือยายวินิดา ดิถียนต์นั้น ขอบอกว่า สันดานหาเรื่องจนเข้ากระดูก คงจะขัดยากค่ะ
แต่มันแกล้งที่จะบิดเบือนข้อมูลทุกอย่าง เพื่อจะแกล้งเรา
มันทำเพื่ออะไร ทั้งๆที่พี่กับมันก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกัน ผัวมันพี่ก็ไม่ได้ไปสนใจ ถ้าจะว่าเรื่องหึงหวงก็
ไม่ใช่เลย  นี่เพิ่งมารู้ทีหลังว่า มันมีนิสัยแบบนี้ตั้งแต่สมัยสาว สาวแล้ว

และอีกตอนหนึ่ง

 โพสต์เมื่อ : 17 ต.ค. 2550 เวลา 22:34 น.       
คนที่เขานำดอกกล้วยไม้ของดิฉันเอาไปให้ยายโมนิคหรือ (เทาชมพู)นั้น เขารู้จักยายคนนี้มาตั้งแต่สมัยสาวๆ  เขาบอกว่าคนๆนี้มีปมด้อยตั้งแต่สมัยสาวๆ เรื่องที่ไม่สวย และไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของคนรัก คนก่อนคุณน้อย ทำให้มีอาการไม่ปรกติในเรื่องที่จะคอยตามจิกคนโน้นคนนี้มาตั้งแต่สมัยสาวๆ แล้วค่ะ

เขามีปัญหาในเรื่องส่วนตัวอย่างหนัก และจะเป็นคนที่หน้าอย่างใจอย่างแบบนี้มานานแล้ว  จะตามจิกคนที่ไม่ชอบใจหรือเห้นมาปัดแข่งปัดขาตัวเอง และอาศัยความที่ตนเป็นคนเฉลียวฉลาดกลบเกลื่อนปมด้อยของตนเองมาตลอด[   


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 08, 20:54
น้ำอบได้ลงข้อความว่า

"ตอนนี้เท่าที่ทราบมีผู้หลักผู้ใหญ่ ที่รู้ว่า โมนิคเป็นใคร เขาก็เกิดวิกฤติศรัทธากันอย่างหนัก เพราะเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีวุฒิภาวะทางความคิดมากแล้ว ไม่น่าจะทำเรื่องไม่งามแบบนี้

ขอให้ท่านโปรดพิจารณาว่า เจ้าตัวระบุออกมาเองหรือเปล่าว่า เขาเอง ทำให้ดิฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง  เป็นที่ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง  ถูกเข้าใจผิดจากผู้อื่น ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง

ครบถ้วนตามลักษณะการหมิ่นประมาทหรือยังคะ  ขอถามหน่อย


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 08, 16:43
คุณ ptepkoom ยังได้อธิบายถึงความเกี่ยวข้องกับน้ำอบไว้ในเมล์ที่ส่งมาถึงดิฉัน     ว่าเคยขอความร่วมมือเมื่อเขาต้องการสัมภาษณ์คนไทย  ประกอบแบบสอบถามที่ทำอยู่   น้ำอบและเพื่อนๆ ๒-๓ คนในเว็บนั้นก็ช่วยตอบ

-ผมต้องการสัมภาษณ์คนไทยพิเศษเล็กน้อย เพื่อใช้ในการทำแบบสอบถามในงานของผม คนอ และเพื่อนๆ ในเว็บ 2-3 คนก็ช่วยผมตอบแบบสอบถามนั้น ผมก็เลยถือว่าทุกคนเป็นเพื่อนผู้มีพระคุณ และคอยให้กำลังใจผมยามเหงา
 

ต่อมาเมื่อคุณพีกลับมาทำภาคสนามในประเทศไทย  ก็ได้เจอ น้ำอบโดยตรง 

ในเดือนกันยายน คุณptepkoom ป่วย ต้องกลับประเทศไทยมารักษาตัว น้ำอบก็ไปพบหมอและเฝ้าไข้ให้ด้วย

แต่ผมก็ต้องกลับไทยด่วน ปลายเดือน กย. เพื่อรักษาตัวเรื่องช่องท้อง คุณน้ำอบก็บุกมาขอพบหมอด้วย เป็นห่วงเป็นใยมาก และขอให้ผมลองไปเช็คหัวใจอีกที่หนึ่งด้วย และก็ขอไปนอนเฝ้าด้วย (โดยมีพี่สาวผมอยู่ด้วยอีกคนนะครับ) โดยแกอ้างว่า เพื่อที่เช้าๆ จะได้พบพี่หมอ ออดี้ ของแกสักที
 
-แล้ว คนอ ก็ขอไปเที่ยววิเศษชัยชาญ และขอไปงานฉลองเปิดศาลเจ้าใหม่ติดกัน 3 เย็น จึงเป็นที่มาของการโพสต์รูปและเรื่องราวต่างๆ ให้ดูเหมือนว่าเราซี้กันเหลือเกิน จนโมนิคและใครๆ ต่างพากันเข้าใจว่า นายพี่พี กับ คนอ ต้องรู้เห็นเป็นใจกันมาแต่ต้น  


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 08, 16:50
ข้อความต่อไปนี้คือคำสรุปของคุณ ptepkoom ว่าไม่ได้รู้เห็นกับน้ำอบมากไปกว่าที่เล่ามา 
คุณพียืนยันด้วยเกรงว่าดิฉันจะเข้าใจว่าคุณ p เป็นคนชักนำน้ำอบให้เข้าใจว่า เทาชมพูคือโมนิค ทั้งที่คุณ ptepkoom ไม่รู้ไม่เห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด

นี่คือ ทั้งหมด ที่ผมทราบเกี่ยวกับตัว คนอ นอกเหนือจากนี้ คือ สิ่งที่เราคุยขึ้นบอร์ด ซึ่งทางคุณหญิงก็คงได้ปริ้นท์ออกมาอ่านหมดแล้ว
-จะเรียนว่า ต่อให้เอาผมไปซักต่อหน้าตำรวจ หรือบนศาล ผมก็พูดได้แค่นี้ เพราะทราบแค่นี้จริงๆ ครับ
 
-คุณหญิงอาจจะคิดว่า ผมเป็นนก 2 หัว แต่ผมจำเป็นต้องอธิบาย เพื่อไม่ให้คุณหญิงเข้าใจพี่......ผิด หรือคิดว่า ผมนั่นแหละเป็นคนชักนำ คนอ ให้เข้าใจว่าเป็นคุณหญิง
 
-ผมขอเดาว่า คนที่น่าจะส่งข่าว คนอ ตั้งแต่ต้น นั้น น่าจะเป็น คนที่ทำงานที่จุฬา หรือ จบจากจุฬา และหรือ เคยทำงานที่ ม ศิลปากร และหรือ เคยเสียผลประโยชน์ทางใดทางหนึ่งกับคุณหญิงมาก่อน หรือไม่พอใจงานเขียนของคุณหญิง และหรือ การที่คุณหญิงโด่งดัง
 
-แต่ไม่ใช่ผม และหรือ พี่...... แน่ๆ เพราะผมไม่เคยรุ้จักคุณหญิงมาก่อนเลย เพิ่งมาทราบจากเว็บ คนอ ก็ตกกะใจ เพราะผมชอบ เรือนมยุรา แต่ปางก่อน และ นิราศสองภพ ทาง ช่อง 3 มากๆ
 
จึงขอเรียนมาอธิบายเพื่อทราบครับ
นายพี

*****************
รับทราบค่ะ คุณ ptepkoom 
ถ้าดิฉันจะปฏิเสธก็เรื่องเดียวค่ะ   คือดิฉันไม่ได้เป็นคนเขียน นิราศสองภพ นะคะ
 


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 08, 15:13
เท่าที่อ่านถ้อยคำของคุณพี เข้าใจว่าคุณพีเป็นคนซื่อ เกรงใจเพื่อนและเจ็บร้อนแทนเพื่อน   และคงจะเชื่อคำบอกเล่าของน้ำอบว่า โมนิคคือเทาชมพู
ประกอบกับตัวเองไม่พอใจถ้อยคำบางคำของคุณโมนิค    คุณพีก็เลยโต้ตอบคุณโมนิคไปว่า

ผมสังเกตว่า เมื่อไรก็ตามที่นายพี่พีคนนี้มาโพสต์อะไร
มันจะต้องเอาไปแปะ แล้วด่า ด่า ด่า ให้ตายกันไปข้างนึง
พวกอีไพร่Monique
พวกอึ่งอ่างขึ้นวอ ที่คงจะได้รับแรงสนับสนุนเบื้องหลัง จากพวกไพร่ขึ้นวอเลวๆ บางตน
มันถึงได้บังอาจแบบไม่ต้องมีอะไรมาเปรียบ

เกิดมาผมก็ไม่เคยได้ด่าใครแรงๆ อย่างนี้มาก่อนในชีวิต
แต่คราวนี้ไม่ไหวแล้วครับ มันด่าทุกคนที่ขวางหน้า แบบแรงที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมาในชีวิต
ถ้าเกรงว่าหมายศาลจะมาไม่ถึงผม กรุณาเรียนถาม พี่...(ชื่อของเพื่อนดิฉัน) ก็ได้นะครับ
คุณหญิงรู้จักท่านผู้นี้ดี
จะได้ส่งหมายฯ ถูกตัวเร็วๆ แต่ขอตั๋วเครื่องบินไปกลับด้วยนะครับ

เพราะผมแค่ข้าราชการจนๆ มาทำวิจัยอยู่ ตปท เป็นแค่แมงดาชั้นเลวเกาะหญิงกินไปวันๆ ทำอะไรไม่เป็นมิใช่หรือ
ไหนเลยจะมีเงินถุงเงินถังไว้เล่นงานใครก็ได้ตามคำสั่งของคนเลวๆ ที่หนุนหลัง
พวกอีไพร่ใจหยาบไร้คนขัดเกลา

อ่านแล้วดิฉันก็เข้าใจว่า คุณพีเอาดิฉันไปปนเป็นคนเดียวกับคุณโมนิคเสียแล้ว  หรือถ้าไม่ใช่คนเดียวกันก็เป็นพวกเดียวกัน
แต่โชคดีของดิฉันที่มีเพื่อนดี  สามารถทำให้คุณพีเข้าใจได้ถูกต้อง


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 08, 15:27
ในเมล์ที่คุณพีส่งถึงดิฉัน  คุณพีก็พูดจาสุภาพอ่อนน้อม  ให้เกียรติดิฉันดี   ไม่มีสิ่งใดให้เห็นว่าคุณพีจะเอาสองคนมาปนกัน
แสดงว่าคุณพีก็ไม่ได้เอาความขัดเคืองที่มีต่อคนหนึ่ง มาปนกับอีกคนหนึ่ง 

เรียน คุณหญิง ครับ
  ผมคือ นายพี ในเว็บ หรือ นายโย เพื่อนพี่..... (ชื่อเพื่อนดิฉัน) นะครับ
  ได้ยินจากพี่..... ว่าคุณหญิงเครียดมาก กับคำด่าของผม  ผมต้องขอประทานโทษด้วย
  ด้วยความสัตย์จริง ผมลอกเลียนวิธีด่าเหล่านี้มาจากละครทีวี ที่ผมเช่าวิดีโอมาดูที่นี่นะครับ
  ที่บ้านผมไม่เคยใช้คำเหล่านี้ด่าใคร  และผมก็ยืนยันว่า ผมด่า คนชื่อ โมนิค ที่มาด่าผมก่อนหลายครั้ง 
  และด่าคนในตระกูลผมหลายครั้งมาก  และหยาบคายมากๆ ทุกครั้ง
  ผมเลยต้องขอคืนบ้าง
  ถ้าการด่าโมนิคของผมทำให้คุณหญิงไม่พอใจ ผมกราบขอขมาครับ

ในเมื่อคุณพีพูดจาดี มีเหตุมีผล ดิฉันก็โล่งใจขึ้นมาก   เพราะดิฉันรู้ว่าคุณพีเป็นที่เมตตาของเพื่อนดิฉัน และรุ่นพี่ของดิฉันมาก ว่าตัวจริงเป็นคนดี เรียบร้อยและมีน้ำใจ
ดิฉันก็ไม่ได้พูดอะไรมาก  ก็ตอบขอบคุณไป  และบอกด้วยว่า

จนบัดนี้ดิฉันก็ยังไม่ทราบว่าใคร หรืออะไร ทำให้น้ำอบเข้าใจผิดว่าดิฉันเป็นคนเดียวกับคุณโมนิค   
หรือแม้แต่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคุณโมนิคมาแต่แรก
น้ำอบเองก็ไม่เคยแสดงหลักฐานการกล่าวหาสองข้อนี้  จึงต้องรอพิสูจน์ในชั้นศาลต่อไป

ส่วนเรื่องของคุณโมนิคนั้น  ดิฉันเห็นว่าเป็นเรื่องของคุณสองคนที่จะทำความเข้าใจกันเอง  ถ้าหากว่าเข้าใจกันได้ด้วยดีก็ถือว่าดีกับทุกฝ่าย  ดิฉันก็จะขอยินดีด้วย
แต่ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ ก็คงเป็นคดีกันถึงศาลอย่างที่ดิฉันจำเป็นต้องทำอย่างตอนนี้     


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 08, 21:23
คุณพี เป็นเด็กรุ่นหลัง    ห่างทั้งวัยและวิชาที่เรียน   คนที่ดิฉันแคร์มากกว่าในกรณีนี้คือรุ่นพี่ของดิฉัน   เมื่อทราบว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์  ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย     ดิฉันก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก
เธอเขียนมาในตอนหนึ่งว่า

พี่ดีใจที่ได้ช่วยให้ความกระจ่าง นึกไม่ถึงว่าน้องหนักใจถึงเพียงนั้น ที่จริงพี่ควรพูดตั้งนานแล้ว
ว่าเราไม่เคยเห็นกันมาก่อนเลยเพราะได้ไล่เลียงเรื่องรุ่นและคนในรุ่นกับ(ชื่อเพื่อนของดิฉัน)มาหลายคร้ง
สรุปได้ว่าเราไม่มีทางเคยเห็นหลังกันเลย

และพี่ยังไม่ได้แสดงความเห็นใจเรื่องถูกป้ายรัาย (เขียนไว้แต่ไม่ได้ส่งไปเรือนไทย)
แต่พี่คิดอยู่ตลอดเวลาว่าเกียรติคุณของน้องได้คุ้มครองชื่อเสียง ทุกคนมองเห็นฃึ้งในกรรมดีที่ปรากฎ
ไม่มีอะไรลบล้างได้ ที่จริงพี่คิดว่าคนที่เขียนโจมตีมีเป้าหมายที่โมนิคไมใช่น้อง

แต่พอมาถึงตอนที่คนอ.เอาไปสรุปว่าเป็นคนๆเดียวกันนี่ฃิทำให้ทุกอย่างเสียขบวนหมด

ดิฉันตอบไปว่า

ดิฉันขอเพียงให้พี่ใช้ความเป็นผู้ใหญ่  ประเมินเรื่องที่เกิดขึ้นและให้ความยุติธรรมกับทุกคน  และขอให้มั่นใจว่าสถาบันที่เรารักไม่ผลิตรุ่นน้องอักษรศาสตร์  ที่เป็นอย่างคำกล่าวหาของน้ำอบแน่นอน
อย่างน้อยในความปวดหัวทั้งหลายที่เจอมาหลายเดือน   คำตอบจากพี่และคำชี้แจงจากคุณพีก็เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งที่ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก
ขอยกความดีครั้งนี้เป็นกุศลให้พี่และคุณพีทั้งหมด
 


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 08, 21:44
แม้ว่าเรื่องของพี่....และคุณพี ทำความกระจ่างมาให้ข้อหนึ่งแล้วว่า ทั้งสอง ไม่เกี่ยวอะไรกับ "ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี" ที่น้ำอบเอ่ยถึง
แต่ปริศนาเรื่องนี้ ก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว   เนื่องจากถ้อยคำของน้ำอบ แย้งกันเองอย่างตรงกันข้าม
โปรดอ่านดูนะคะ

โพสต์เมื่อ : 19 พ.ย. 2550 เวลา 17:09 น.     
สวัสดีค่ะพี่มารีคะ
เรื่องโมนิคเป็นเทาชมพู และเทาชมพูคือโมนิค...แม้นแต่พี่พีก็ทราบค่ะ
และมีคนที่รู้ตชจักหล่อนดีมากเลยค่ะ รู้ประวัติความเป็นมาทุกอย่างเช่นกัน
มีผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี เป็นคนบอกหนูเองแหละค่ะว่า โมนิค คือ เทาชมพูค่ะเรื่องนี้พี่พีก็ทราบค่ะ  แต่หนูไม่ขอเล่ารายละเอียดว่า ท่านไหนเป็นคนบอก
สัญญาด้วยใจกับท่านผู้นั้นด้วยความสัตย์เลยค่ะ ว่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็จะไม่พูดเลยค่ะ

แต่พอเวลาล่วงมาถึงวันนี้    ถ้อยคำกลับตาลปัตรเป็นตรงกันข้าม

ความเห็นที่ : 221 โพสต์เมื่อ : 18 ก.พ. 2551 เวลา 23:49 น.

ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความกดดันหรือ ผลประโยชน์ใดๆให้ต้องตัดสินใจที่จะต้องออกมายืนอยู่ เป็น แผงหน้าเช่นนี้ ไม่เคยมีใคร หนุนอยู่ข้างหลัง มีเพียงอุดมการณ์ที่มุ่งมั่น และ ความกล้าที่จะเดินเข้าชนแม้นแต่ความตาย
ขอเพียงเพื่อ...ให้ได้กับความอยู่รอดของแผ่นดิน
เพราะฉะนั้น แค่เรื่อง กรณีพิพาท โมนิค วินิตา และ คนอ. ไม่เคยมีใครคนไหนที่ จะยุแหย่ หรือ ยั่งยุ
ส่งผลให้เกิดการกระทำทั้งหมดที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นพี่พี คือคุณ บาบาต็อบ หรือใคร ตามที่มีคนพาดพิงว่า อาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ไม่เลยค่ะ ไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น
ดิฉันมีวิจารณญาณ ที่จะคิดเรื่องราวทั้งหมดได้ด้วยตนเอง

ก็ยังไม่เข้าใจว่า ถ้าเธอ "คิดเรื่องราวทั้งหมดได้ด้วยตนเอง"  การคิดขึ้นมาเองว่า "มีผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี เป็นคนบอกหนูเองแหละค่ะว่า โมนิค คือ เทาชมพูค่ะ"
อย่างนี้เขาเรียกว่า "มีวิจารณญาณ" ได้ด้วยหรือ

เรื่องนี้เห็นจะต้องยกให้เป็นหน้าที่ของทนายความ ซักถามว่าแปลว่าอะไรกันแน่    ดิฉันเองนึกไม่ออก


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.พ. 08, 19:18
ตัวอย่างต่อไปนี้ก็เช่นกัน   ทนายความอาจจะสนใจว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง  เรื่องไหนเป็น "เรื่องคิดเอาเอง"
เพราะ "ก่อน" กับ "หลัง" แตกต่างกันตรงกันข้าม

ก่อน 
วันนี้หนูเปิดบ้านหมดเลยค่ะ
เพราะมานอนที่บ้านเมืองนนท์หลายคืนแล้ว  แต่เดี๋ยวหนูก็ต้องเข้าไปสุขุมวิท เพราะศูนย์บัญชาการเรื่องงานของหนูอยู่ทางโน้น
หรืออย่างบ้านที่ดุสิต ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ซังฮี้ก็จริง
แต่อากาศก็ยังไม่สบายปอดเท่าบ้านนี้
ที่บ้านในเมือง หนูแค่ลงลิฟท์มา ก็ถึง Office ของหนูแล้ว
ขอบพระคุณค่ะคุณพี่พีเทพคุ้มที่แนะนำหลายสิ่งหลายอย่างเชียว

บ้านหนูทุกที่ ไม่ใช่ใครจะขึ้นมาก็ได้
เพราะจะต้องมีกุญแจไขลิฟท์พิเศษ
ไม่ใช่ใครจะกดขึ้นมาถึงบ้านได้เลย และระบบรักษาความปลอดภัย .. ทุกจุดมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั้งหมด  
******

ก่อน
 เพราะเมื่อวานนี้ฮายยิงฟาดกระจกรถยน์ บีเอ็มซีรีส์ 7 ราคาเหยียบ 12 ล้านของคู่กรณีของฮายพับพินาศ 
และเมื่อเช้าวันที่ 1 นี้แหละ ฮายโทร.ไปเช็คแบงค์ว่าดอกเบี้ยแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี้เท่าไหร่ เขาตอบว่า ห้าแสนแปดค่ะ
โดย คุณน้ำอบ [2 มี.ค. 2548 , 23:36:49 น.]

ก่อน
Jan 4, edited on Jan 4
เรื่องลูกจะเรียนที่ไหน และดิฉันจ่ายเงินไว้ทั้งที่ โรงเรียนในอังกฤษ เพื่อจองที่เรียน
และจ่ายเงินไว้ทั้งในเมืองไทย ดังนั้นลูกสาวของดิฉัน จะเรียนที่ไหนก็ได้ ตามแต่เขาจะเลือกที่จะเรียน หรือตามแต่สภาวะบ้านเมือง ถ้าเกิดจราจลใน กทม..เขาก็สามารถไปเรียนได้ที่อังกฤษ
เรื่องที่เรียนของลูก คนที่ใกล้ชิดของดิฉัน ไม่ว่าจะเป็น เจี๊ยบ หรือพี่พี หรือพี่นิด ใครก็ตามที่ใกล้ชิด
ดิฉัน เขารู้ว่าลูกของดิฉันเรียนที่ไหน
ไม่ใช่ธุระของคนอื่น  
****
หลัง

โพสต์เมื่อ : 18 ก.พ. 2551 เวลา 23:49 น.

ได้ข่าวว่าจะฟ้องทั้งแพ่งและอาญา...ดิฉัน อาจจะต้อง ขอผ่อนใช้ให้เดือนละ ซัก ๑๐๐ บาท ตลอดชีพ เนื่องจากดิฉันไม่เคยมีทรัพย์สินตามชื่อที่พวกคุณ "จับกุม" ได้คนนี้เลยแม้นแต่บาทเดียว และไม่เคยประกอบสัมมาชีพใดๆมาก่อน ในชื่อและสกุลที่พวกคุณคิดว่าใช่ และจับกุมคนนั้น
ผู้หญิงในชื่อและสกุลคนนี้ ไม่มีทรัพย์สิน หรือ เงินฝากในบัญชีในชื่อดังกล่าวไว้เลย ตั้งแต่ต้นจนถึงทุกวันนี้
..
แล้วเธอผู้นั้น ก็ไม่เคยมีทรัพย์สินใดๆมาก่อนทั้งสิ้น

ทนายความของดิฉันจะมาอธิบายให้ฟังในกระทู้ว่า ถ้าถูกศาลตัดสินแพ้ในคดีแพ่งแล้ว  การบังคับคดียึดทรัพย์ ๑๐ ปี หมายความว่าอะไร


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.พ. 08, 20:38
อีกข้อหนึ่งที่น้ำอบอาจจะต้องอธิบายในศาล

เทาชมพู คือ โมนิค ค่ะ .
พวกนี้ ร้ายกาจมากๆในโลกไซเบอร์

แต่..ดิฉันบอกผ่านบอร์ดนี้แล้วว่า เขาจะต้องจุดธูปกราบขอขมา ดวงวิญญาณของ มรว. สมัยการ กิติยากร เทวกุล ที่ทำไมถึงนำเรื่องที่ตัวเทาชมพูเองก็แค่ได้ยินเขาเล่ากันต่อมานั้น มาพูดถึงท่านเสียหายในที่สาธารณะ ทั้งที่ท่านก็เสียชีวิตไปแล้ว
และลูกๆของท่านจะรู้สึกอย่างไร ตอนแรกดิฉันเองก็คิดว่าจะโดนด่าแล้วเช่นกัน แต่ทุกคนเข้าใจ พี่จิ๊เข้าใจ พี่ชายเข้าใจ แต่สงสารทุกท่าน ที่ต้องเงียบ ในขณะที่ ยายเทาชมพู มีสิทธิอะไรมาลามปามนำท่านมาพูดให้เสียหาย
และยังพูดลามปามเสียหายอีกหลายคน
 
•••แก้ไขล่าสุด : เมื่อ 1 พ.ย. 2549 เวลา 20:03 น. โดย คุณน้ำอบ

ส่วนข้างล่างนี้นำมาจากบล็อคคุณMONIQUE   
สมาชิกในราชสกุลกิติยากรท่านนั้นได้ติดต่อกับดิฉันเช่นกัน  เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้

ข้อความนี้..จาก สมาชิกในราชสกุลกิติยากร
ที่อนุญาตให้นำมาเปิดเผยได้ว่า..

.........ก่อนหน้าที่จะมีการจับกุมประมาณสองอาทิตย์
มีตำรวจโทรไปหาคุณชายจิราคม ถามว่า น้ำอบที่เป็นเจ้าของเว็บเรือนน้ำอบ
กับม.ล.อรณิช บุตรสาวของคุณชายเป็นคนๆ เดียวกันหรือไม่
ทางคุณชายจิราคมเลยบอกว่า  ไม่ใช่อรณิช เป็นใครก็ไม่ทราบ ให้ทางตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเลย

ข้อความทั้งหมดนี้ดิฉันได้ยินมาจากตัวคุณชายเองเลยค่ะ ท่านเล่าให้ดิฉันและญาติๆ ฟัง ก็เลยมีการพูดคุยซักถามกันว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร มีการแอบอ้างอย่างไรบ้าง
โดย: MONIQUE  วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:7:53:24 น.  

หมายเหตุ :  ม.ร.ว.จิราคม กิติยากร  คือบุตรชายของม.ร.ว.สมัยการ (เทวกุล) กิติยากร ค่ะ  -  เทาชมพู


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 08, 17:52
ขออธิบายเรื่องการกล่าวหากันสักหน่อยนะคะ

น้ำอบ กล่าวหาดิฉันว่าเป็นคนเดียวกับ โมนิค  แล้วท้าว่าถ้าเป็นคนละคนก็ให้พาคุณโมนิคมาพิสูจน์กันให้เห็นจริงๆ ถึงจะหลุดจากข้อกล่าวหา

ไม่ถูกต้องค่ะ ทำแบบนี้ไม่ได้  เรียกว่ากล่าวหาลอยๆ 

คนกล่าวหาต่างหากล่ะคะจะต้องพิสูจน์ก่อนว่า ดิฉันเป็นคนเดียวกับโมนิค  ด้วยหลักฐานที่นำมาแสดงได้
ถ้าหากว่ามีพยาน ต้องเอาพยานออกมายืนยันอย่างเปิดเผย  และพยานคนนั้นต้องน่าเชื่อถือได้ด้วยว่า รู้จริง
ไม่ใช่พูดว่า " มีผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี เป็นคนบอกหนูเองแหละค่ะว่า โมนิค คือ เทาชมพูค่ะ
เรื่องนี้พี่พีก็ทราบค่ะ  แต่หนูไม่ขอเล่ารายละเอียดว่า ท่านไหนเป็นคนบอก
สัญญาด้วยใจกับท่านผู้นั้นด้วยความสัตย์เลยค่ะ ว่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็จะไม่พูดเลยค่ะ"

อ้าว ทำไมไปทำสัญญาใจแบบนั้นเสียล่ะคะ    ที่จริงต้องทำตรงข้ามค่ะ คือเอาผู้ใหญ่คนนั้นออกมายืนยันให้ได้  ข้อกล่าวหาถึงจะมีน้ำหนัก
ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้ากล่าวหายังไงก็ได้   ไม่ต้องมีหลักฐาน ไม่ต้องมีพยาน  แต่ท่านต่างหากไปหาหลักฐานหาพยานมาไป๊  เพื่อให้ข้าพเจ้าเชื่อ
ตรรกะยังงี้ไม่สะดวกสบายแก่ฝ่ายกล่าวหามากไปหน่อยรึคะ 

ก็ไม่ต่างอะไรกับไปกล่าวหาว่า " ฉันรู้ว่าคุณเคยฆ่าคนตายมาก่อน  รู้ได้ไงไม่บอก   แต่ถ้าคุณบริสุทธิ์ คุณไปหาหลักฐานมาซีว่าคุณไม่เคยฆ่าใคร   
ไม่งั้นฉันด่ากระหน่ำว่าคุณเป็นฆาตกร   จนกว่าคุณจะพิสูจน์ได้  ถ้าคุณพิสูจน์ให้ฉันเชื่อไม่ได้  คุณเข้าคุกฐานเป็นฆาตกรแน่นอน"


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 08, 18:13
ที่พูดในค.ห.ข้างบนนี้คือการกล่าวหา  แต่ข้อความต่อไปนี้ ลองพิจารณาดูว่าเป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่

replykhunnamob wrote on Jan 8
whenever111 said


จริงค่ะ หน้าตา ผิวพรรณ และอากัปกิริยาที่แสนจะดูเหมือนผู้ดีนั้น ไม่สามารถเป็นเครื่องขี้วัดได้เลยว่า คนๆนั้น จะต้องเป็นคนดี คือพูดดี ทำดี และคิดดี

ยกตัวอย่างง่ายๆ คือคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ ที่มีหัวโขน เป็นถึงคุณหญิง นั้นคือเครื่องชี้วัดอีกระดับหนึ่งที่สังคมการันตี ว่าจะต้องเป็นคนดี และมีหัวโขนเป็น ศิลปินแห่งชาติ ก็ สังคมการันตีอีกว่า เป็นบุคคลที่มี คุณประโยชน์ต่อสังคม

แต่..ใครจะรู้ว่าเบื้องที่กว่าจะได้มา ในหัวโขนทั้งหลายแหล่ ได้เหยียบย้ำ และกระทืบหัวใครเขาขึ้นไปบ้าง

ดิฉันเชื่อค่ะว่า ไม่ว่าจะหน้าตา ผิวพรรณ หรือแม้นแต่ชาติกำเนิด ก็ไม่สามารถส่งผลให้ คนๆหนึ่ง เป็นคนดี มีมโนธรรม ได้

ผู้กล่าวถ้อยคำนี้ ต้องหาหลักฐานมาว่า ดิฉันได้เหยียบย่ำ และกระทืบหัวใครเขาขึ้นไปบ้าง  ในการที่เป็นคุณหญิงและเป็นศิลปินแห่งชาติ
ไม่ใช่ดิฉันต้องเป็นฝ่ายหาหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเองว่า ไม่เคยเหยียบย่ำ ไม่เคยกระทืบหัวใครขึ้นไปสู่เกียรติยศที่ดิฉันได้รับ
อาจจะด้วยการไปขอประชาชนไทยกว่า ๖๐ ล้านคนมาช่วยเซ็นรับรองยืนยันว่าไม่เคยมีใครถูกกระทำดังกล่าวเลยสักคน
เพื่อให้คำกล่าวหาตกไป   โดยผู้กล่าวหาก็พยักหน้ารับรู้ เท่านั้นพอ

กฎหมายไม่ได้เอื้อการกล่าวหาใครให้ง่ายดายขนาดนั้น   แต่มีกฎหมายหมิ่นประมาทไว้เพื่อปกป้องความเสียหายของบุคคล ที่จะต้องอับอาย ถูกเข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียง จากสาธารณะ
ยิ่งเป็นบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมสูง   ความเสื่อมเสียก็มีผลกระทบได้มาก    จึงต้องมีค่าเสียหายจากการถูกหมิ่นประมาท เป็นคดีแพ่ง ต่อไป



กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.พ. 08, 20:57
ตัวอย่างอีกข้อหนึ่งที่น้ำอบจะต้องตอบทนายความก็คือ

หนูควรจะให้ผู้ใหญ่ บอกทางเวบวิชาการ ให้ "เทาชมพู" มาหาเสียกระมัง
และ พี่พี หรือโปรดปราน อีกคนกระมัง
ยายเทาชมพูนี่ แกว่งปากหาเสี้ยนไปทั่ว จนมีศัตรูอยู่ในวงการครูบาอาจารย์ด้วยกัน ข่มคนอื่นเขาไปทั่ว จนที่เขาถามเช็คบิลย้อนหลังกันจนต้องปิดเวบนั้นแหละ ทั้งเรื่องเงินเรื่องทอง และ จนกระทั่ง สปอร์เซอร์เก่าของเขา ต้องถอนตัว กว่าจะหา ปตท..เข้ามาเสียบได้

ในเมื่อน้ำอบไม่รู้แม้แต่ว่า "แต่ปางก่อน" และ "เรือนมยุรา" เป็นผลงานของใคร    แล้วจะรู้ขึ้นมาเฉยๆถึงเรื่องภายในเว็บวิชาการได้ละหรือ
ข้อความทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง  แต่ก็น่าสะกิดใจว่า มีรายละเอียดบางอย่างที่แสดงถึงความรู้เรื่องความปั่นป่วนในเรือนไทยเมื่อปลายปี ๒๕๔๙   จนห้องเรือนไทยต้องปิดไประยะหนึ่ง
เพื่อปรับโปรแกรมรับมือกับตัวป่วนให้ได้เสียก่อน

ดิฉันสงสัยว่าใครเป็นคนป้อนข้อมูลเรื่องปิดเว็บเรือนไทยให้น้ำอบ  เพราะอ้างถึงสปอนเซอร์เก่าถอนตัว  มีปตท.เข้ามาแทน   และ"ศัตรูในวงการครูบาอาจารย์ด้วยกัน"
แม้ถ้อยคำในหลายๆเรื่อง อาจถูกพลิกกลับเอาดื้อๆว่า "คิดขึ้นมาเอง"   แต่ลักษณะการอ้างหลักฐานแบบนี้    ไม่ใช่การคิดเองลอยๆ
คนที่นำความไปบอกเป็นตัวป่วนในเรือนไทยหรือเปล่า  ข้อนี้ทนายความคงจะทำให้กระจ่างได้

อินเทอร์เน็ตทำให้คนเล่นรู้สึกถึงอำนาจในการปกปิดตนเอง      มีแต่ชื่อแฝง ไม่มีหน้า ไม่มีตัวตน    แต่สามารถเผยแพร่อะไรก็ได้ไปทั่วโลก  จะจริงหรือเท็จก็ได้เท่ากัน
ทำให้คนโพสไม่ต้องอาย  ไม่ต้องกลัวคนอื่นรู้จักตัว  ไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เสนอออกไป จึงกระตุ้นความคิดทางต่ำของคนออกมาได้  โดยเฉพาะคนชั่ว และคนไม่มีความรับผิดชอบ จะเป็นสุขกับกรรมเลวแบบนี้  อย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้

ลองคิดดู   ถ้าอินเทอร์เน็ตมีโปรแกรมบังคับทุกเว็บว่า เมื่อลงข้อความอะไร คนอื่นๆจะเห็นหน้าและเห็นบัตรประจำตัวประชาชนของคนนั้นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
เว็บอย่างเรือนไทยยังอยู่ได้ ไม่เดือดร้อน  แต่เว็บที่หลอกลวงหรือด่าทอใส่ร้ายคนอื่นอย่างเมามัน นั้น ยังไงก็อยู่ไม่ได้


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.พ. 08, 21:16
ดิฉันตั้งใจจะทำคดีนี้ให้เป็นกรณีศึกษาในหลายข้อด้วยกัน
นอกจากแสดงขั้นตอนของการพึ่งตัวบทกฎหมาย อย่างถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว  ยังอาจจะมีผลพลอยได้ตามมาให้เห็นว่า

คนที่โดดเข้าร่วมวงรุมสกรัมคนอื่น ทั้งๆไม่รู้จักเป็นส่วนตัว  ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกัน
อาจเกิดจากช่วยรุมเพื่อสนุก - เพื่อเอามันส์ -  เพื่อแก้เหงา   เพราะชะล่าใจว่ายังไงก็ไม่มีใครรู้จักว่าฉันเป็นใคร 

ด่าทั้งๆ ก็รู้อยู่เต็มอก ว่าคนที่ตัวเองเข้าข้าง ที่จริงก็กุเรื่องขึ้นมาทั้งเพ  แต่นั่นไม่สำคัญ  สำคัญคือช่วยรุมกลั่นแกล้งรังแกใครสักคนได้ แล้วสนุกมากๆ 
ยิ่งอีกฝ่ายไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ เพราะมีเกียรติยศศักดิ์ศรีค้ำอยู่  คนเลวเหล่านี้ ยิ่งย่ามใจว่าฝ่ายนั้นไม่มีทางสู้ 
มันเป็นสัญชาตญาณดิบของมนุษย์  ที่ปกติแล้ว สังคมภายนอกจะวางกรอบให้อดกลั้น ข่มไว้แค่ในใจ หรือไม่ อย่างมากก็ด่าลับหลัง  แต่โลกไซเบอร์ปลดปล่อยผีตัวนี้ออกมา

ความประมาทนำไปสู่ความจริงว่า  เมื่อไร หน้าตา ชื่อเสียงเรียงนามของตัวเองถูกเปิดเผย  หน้าจอมอนิเตอร์ไม่ได้ช่วยซ่อนตัวตนได้อีก     
ถึงตอนนั้น ก็จะรู้ว่าทุกข์ที่ตามมา  มันใหญ่หลวงขนาดไหน  ไม่คุ้มกับความสนุกเล็กๆน้อยๆของการมีโอกาสด่าคนดัง  แก้เหงาปาก  เอาเลย
เพราะบทลงโทษ มีทั้งทางกฎหมาย ศีลธรรมและที่สำคัญคือบทลงโทษทางสังคม  ขอให้คิดดูว่าเพื่อนฝูง เครือญาติ ลูกน้อง หรือคนที่ในโลกจริงต้องให้ความเคารพนับถือคุณอย่างดี  มาอ่านเจอเข้า จะมองคุณอย่างไร


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.พ. 08, 21:58
ดิฉันกำลังรอทนายความเข้ามาเล่าต่อในกระทู้นี้ ถึงแง่มุมของกฎหมาย 
ตอนนี้ขอทบทวนหลักการที่ควรทำ ให้ฟังพลางๆก่อน  หากคุณเจอเรื่องทำนองเดียวกับดิฉันบ้าง

๑) เซฟข้อความที่ก่อความเสียหายให้คุณไว้ทั้งหมด   ถ้าไม่ทำเองก็ต้องมีผู้ช่วยคอยเซฟให้  อย่ามัวแต่พะอืดพะอมหรือเอาหูไปนาเอาตาไปไร่    เพราะมันจะเป็นข้อเสียเปรียบทางฝ่ายคุณเอง
๒) ส่งข้อความให้ทนายความ เพื่อประมวลว่าเข้าขั้นหมิ่นประมาทหรือไม่
๓) รวบรวมหลักฐานไปแจ้งความ   แจ้งเบาะแสของอีกฝ่ายให้หมดเท่าที่รู้ เพื่อให้ตำรวจทำงานง่ายขึ้น
๔) คุณต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่โพสข้อความคือคนที่คุณแจ้งความจริงๆ     ต้องหาหลักฐาน ไม่เอกสารก็บุคคลมายืนยัน ว่าเขาเป็นใคร
ข้อนี้  ถึงมีแค่นามแฝง ก็ไม่ใช่ว่าจะรอดลอยนวลเสมอไป  พวกชะล่าใจทิ้งเบาะแสเกี่ยวกับตัวเองไว้มากมายนั้น ถูกพิสูจน์ได้ง่ายเสมอ
๕) ถ้าคนที่หมิ่นประมาทคุณ อาศัยเว็บไซต์คนอื่นกระทำการนี้ ต้องแจ้งเวบมาสเตอร์ เพื่อขอความร่วมมือเรื่องเอา IP ออกมา
IP นี้จะมีวิธีสาวไปถึงต้นตอเจ้าตัวได้ค่ะ   เพราะสืบได้ถึงเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้     แม้จะไปโพสตามร้าน หรือสถาบันการเรียน ก็ยังมีทางสืบหาได้อยู่ดี


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.พ. 08, 20:20
ระยะที่เรือนไทยต้องปิดตัวเอง ในช่วงใกล้ๆปลายปี 2549  ก็พอดีกับที่น้ำอบเริ่มด่าในเว็บตัวเอง  อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ว่า โมนิค คือ เทาชมพู  เหตุผลอะไรก็ไม่มี
และมีคนชื่อ"บุ้ง" เข้ามาเสริมข้อความต่างๆ  แล้วคนที่ชื่อบุ้งก็หายเงียบไป รวมทั้งคนใช้ชื่อ "ประเสริฐ"  ที่เป็นเจ้าของกระทู้ด้วย ถามครั้งเดียวแล้วไม่เคยเข้ามาออกความเห็นอีกเลย
แถมกระทู้ก็ยังเปลี่ยนชื่อ ได้สารพัดตามใจชอบของเจ้าของเว็บ   ไม่ยักเกรงใจเจ้าของกระทู้

ทำให้พอมองออกว่า  น่าจะมีการใช้นามแฝงหลายชื่อ ส่งมาจากไอพีเดียวกัน
คงมีคนหนึ่งคนหรือมากกว่าหนึ่ง  โพสต์ข้อความเป็นหลายๆ ชื่อ ให้ดูเหมือนมีหลายสิบคน
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
ย่อมชวนให้คิดต่อไปได้ว่า  น้ำอบต้องมีผู้สนับสนุนทั้งการป้อนข้อมูล   ทั้งการช่วยโพสต์ ฯลฯ

น่าคิดว่า   น้ำอบผู้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดิฉันเลย  เหตุใดจึงอ้างถึง"เรือนกล้วยไม้" ได้ตั้งแต่ครั้งแรก
(อันที่จริง  ต้องเรียกว่า "สวนกล้วยไม้" ค่ะ  แสดงว่าตัวเองไม่คุ้น  เลยเรียกไม่ถูก)
 และต่อมาอ้างถึงชื่อสามีดิฉันว่า "คุณน้อย" 
 
พออ่าน ก็สะดุดใจ    คงต้องอธิบายหน่อยว่า
ชื่อนี้เป็นชื่อที่ดิฉันเรียกสามี   ในอินเทอร์เน็ต และในบทสัมภาษณ์ที่ลงในนิตยสาร  คนที่รู้จักเขาผ่านทางดิฉัน แต่ไม่คุ้นเคยโดยตรงกับเขา จะเรียกตามนี้
แต่คนที่เป็นเพื่อนฝูงญาติมิตร หรือรู้จักคุณน้อยโดยตรง  จะเรียกชื่อเขาอีกแบบหนึ่ง  ไม่เรียกชื่อว่า "คุณน้อย" แต่จะเป็นอะไรนั้น ขอให้การในศาลดีกว่าค่ะ ไม่อยากให้ถูกแอบอ้างอีก

มีการพาดพิงถึงสามีของดิฉันหลายครั้ง เช่น "ผัวมันพี่ก็ไม่เคยสนใจ" หรือ " อยากรู้ว่าหนูเอาผัวคนไหนของมันมากก"
แต่พอเรียกว่า "คุณน้อย" ดิฉันก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักสามีดิฉันโดยตรง 
แต่อาจจะรับการถ่ายทอดมาจากคนในอินเทอร์เน็ตอีกสักคน  อาจเป็นคนที่เคยไปมีตติ้งที่สวนกล้วยไม้ สมัยเรือนไทยเป็นห้องหนึ่งในเว็บวิชาการ ก็เป็นได้


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 08, 20:50
มิตรทางอินเทอร์เน็ตคนหนึ่ง ช่วยไปสอบถามให้จากผู้รู้  ว่าในกรณีที่เจอการหมิ่นประมาท ใส่ร้าย ขู่ฆ่า หรือทำให้เสียหาย ฯลฯ จากเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง  ควรจะดำเนินการอย่างไร

ในจจุบัน  ถ้ามีคดีซึ่งเกิดขึ้นในอินเตอร์เนตนั้น ก็จะต้องผ่านสองช่องทางคือ
1 กระทรวง ICT http://www.mict.go.th/home/1N5.html
2 แจ้งทางสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ซึ่งอยู่ใน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) http://www.dsi.go.th/dsi/unit_detail.jsp?id=13

-กระทรวง ICT นั้นมีอำนาจ"ปิด"เวปไซด์ได้(ถ้าเป็นเวปที่จดทะเบียนในไทย) ส่วน DSI มีอำนาจ"block"เวปไซด์

-การติดต่อขอให้ปิดเวปไซด์(ผ่าน MICT) นั้นจะต้องมีหมายศาล โดยต้องพิสูจน์ได้ว่าเวปไซด์นั้นๆทำผิดกฎหมาย  พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐
(โหลดได้ที่นี่นะคะ http://www.dsi.go.th/dsi/news_index.jsp?id=1708 ) 
ถ้าเรื่องของหมิ่นประมาทก็จะตรงกันกับมาตรา 26 ค่ะ แต่กว่าจะปิดได้ก็ต้องได้หมายศาลนั่นแหละ

-ในอีกกรณีนึง ถ้าผู้อ่าน หรือใครก็ตาม พบเวปไซด์ที่มีข้อความที่ไม่เหมาะสม หรือเป็นเวปไซด์ที่คิดว่าอาจจะเป็นการหลอกลวงประชาชน หรือทำการผิดกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ทาง MICT ก็มีช่องทางไว้ให้แจ้งได้ง่ายๆเหมือนกันค่ะ ที่หน้าเวปของ MICT มีหัวข้อ "แจ้งเรื่องร้องเรียน" ใต้หมวดบริการประชาชนอยู่แล้วค่ะ

-การติดต่อโดยผ่าน DSI นั้น ก็ต้องแจ้งความเหมือนกันค่ะ แต่จะรวดเร็วกว่า MICT เพราะแจ้งที่ DSI ได้เลย....สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเดือดร้อน หรือเกิดคดีทางคอมพิวเตอร์ก็ต้องทำการรวบรวมข้อมูล จัดเก็บพยานหลักฐานในเบื้องต้น Save หน้าจอ เว็บเพจ ข้อมูล hosting ​ที่เช่า Server ฯลฯ ​และมาแจ้งต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ​ได้​ที่ dsi @ dsi.go.th

ถ้าต้องการรายละเอียดติดต่อเพิ่มเติมกับทาง DSI (ในส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ) ก็ติอต่อได้ที่ โทร.02-831-9888 ต่อ 1902
yanaphon @ dsi.go.th

-และเช่นเดียวกันกับ MICT ทาง DSI ก็มีช่องทางไว้ให้แจ้งเวปไซด์ผิดกฎหมายเช่นกันค่ะ ที่หน้าแรกจะมีแถบไว้ให้คลิกได้เลย http://www.dsi.go.th/dsi/index.jsp

- MICT จะจัดการในระดับกว้างกว่า DSI ค่ะ โดยเฉพาะถ้าเป็นคดีหมิ่นประมาท ส่วนมากจะดูในแง่ของการหมิ่นประมาทสถาบันค่ะ

สรุปว่า
1 เก็บหลักฐาน
2 แจ้ง DSI ให้เร็วที่สุด .... และตอนที่จะแจ้งก็ต้องแสดงตัวได้ว่าตัวเองเป็นคนๆนั้นจริงๆ และสิ่งที่โดนเขียนไว้นั้นเป็นการใส่ความ ฯลฯ
 อย่างน้อยทาง DSI ก็จะ block เวปนั้นไปได้ชั่วคราวค่ะ

แต่ก็อาจจะเจอว่า เว็บนี้ปิด  เจ้าของก็ไปเปิดใหม่ได้เรื่อยๆ   ต้องตามไล่จับกันไปหลายหน
ถ้าดำเนินการให้หนักกว่านี้ก็คือฟ้องหมิ่นประมาทฯ อย่างที่ดิฉันทำนี่แหละค่ะ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 08, 18:21
น้ำอบไม่ใช่ผู้เดียวที่ใช้วาจารุนแรงต่อดิฉัน   ในเว็บของน้ำอบ มีหลายคนที่ใช้คำพูดต่อดิฉันในทำนองเดียวกัน
หนึ่งในนั้นใช้นามแฝงว่า kornkanok  มีการว่ากล่าวถึงคุณ Pipat สมาชิกเว็บนี้  และยังเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวของคุณ Pipat ในเว็บเรือนไทย เอามาลงอีกด้วย  ตามนี้

ความเห็นที่ : 885 โพสต์เมื่อ : 4 ธ.ค. 2550 เวลา 18:28 น.

kornkanok
ระดับสมาชิก :
[ สมาชิกบอร์ด ]
จำนวนโพสต์ : 8
Rank :
แรกเริ่ม

ไอ้สัตว์พิพัฒน์ คือไอ้ตัวนี้ที่เรือนไทย http://www.reurnthai.com/index.php

ข้อมูลอย่างย่อ - pipat รูปภาพ/ข้อความ
ชื่อ: pipat
กระทู้: 1275 (3.373 ต่อวัน)
ตำแหน่ง: แขกเรือน
วันที่สมัครสมาชิก: 21 พ.ย. 06, 08:26
ใช้งานล่าสุด: วันนี้ เวลา 11:54
--------------------------------------------------------------------------------
ICQ:
AIM:
MSN:
YIM:
อีเมล์: webmuseumofbangkok@yahoo.com
เว็บไซต์:
สถานะปัจจุบัน: ออฟไลน์ [เพิ่มสมาชิกนี้ไว้ในรายชื่อเพื่อน]

ส่วนถ้อยคำที่ใช้เรียกคุณ Pipat และดิฉัน  ก็เป็นคำที่อ่านแล้ว ท่านทั้งหลายคงจะตอบได้เองถึงนิสัยใจคอตลอดจนการอบรมของเจ้าตัว ว่าเป็นอย่างไร

ศิษย์เอกท่านพระอาจารย์ประจำเรือนไทยนั่นเอง ปกติมันก็นั่งนอนเลียก้นซึ่งกันและกันอยู่แถวนั้นนั่นแหละ
ก่อนเรือนแตกก็เพราะไอ้สันดานตัวนี้นี่แหละที่ออกหน้าด่าสมาชิก แทนแม่มัน แม่มันทนให้เค้าถอนหงอกไม่ไหว เลยต้องทำเป็นงอนกระทืบตีนประท้วงว่า ไม่เอาแล้ว ปิดบ้านหนี
สุดท้ายทนถูกเลียไม่ไหว ต้องมาเปิดเรือนใหม่ อาศัยเกาะลิ้งค์วิชาการดอทคอม กันแควนๆ หาไม่เจอ

ไอ้สัตว์นรกพิพัฒน์ตัวนี้ ออกมาเที่ยวพิพาทกับคนอื่นแทนแม่ ดูดนมเลียตูดแม่มามาก เลยต้องทดแทนพระคุณเสียหน่อย
ใครว่างๆ เชิญไปดูสันดานอหังการของมันได้ที่บ้านโน้นเลย แม่มันให้ท้ายจนตูดลอยติดฟ้าไปแล้ว
แน่จริง ออกมาเจอกับคุณน้ำอบเค้าตัวต่อตัวเลยซิวะ ไอ้เปรตนรก

ความเห็นที่ : 886 โพสต์เมื่อ : 4 ธ.ค. 2550 เวลา 18:31 น.
kornkanok
ระดับสมาชิก :
[ สมาชิกบอร์ด ]
จำนวนโพสต์ : 8
Rank :
แรกเริ่ม

อ้อ มีไรจะบอกอีกว่าไอ้พิพาทตัวนี้น่ะ ไม่ใช่อายุน้อยๆ แล้ว

เป็นผู้ใหญ่กันทั้งแก๊งค์ แทนที่จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ให้สมผู้ใหญ่กลับไม่ทำ ดันมาทำตัวเกรียนอยู่แถวนี้นะ อายเด็กๆ เค้าบ้าง ไอ้ฟายเอ้ยยยยย

ข้อมูลส่วนตัวของคุณ Pipat ที่เอามาลง เช่นอีเมล์  คนที่เข้าไปอ่านได้มีแต่สมาชิกเรือนไทยเท่านั้น  เขาคงไม่รู้ว่าการเปิดเข้าไปอ่านข้อมูลสมาชิกอื่น  จะลง record บันทึกเอาไว้ว่าใครเข้าไปอ่านบ้าง
ปรากฏว่ามีคนเข้าไปอ่านข้อมูลของคุณ Pipat คนเดียวเท่านั้น  เป็นสมาชิกชื่อ "หนอนบุ้ง"

คุณหนอนบุ้งเป็นใครและเกี่ยวข้องด้วยอย่างไรก็ไม่ทราบ  แต่ถ้าใครอยากรู้จักตัว  อาจถามได้จากคุณป้าจิ๋ว ลูกสาวคุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์    เพราะคุณหนอนบุ้งเธอเล่าเองว่าเธอรู้จักคุณป้าดี

ส่วนคำตอบต่อมาของน้ำอบ ก็คือ

ความเห็นที่ : 887 โพสต์เมื่อ : 4 ธ.ค. 2550 เวลา 19:00 น.
ถ้าพวกมึงรู้จริง...ก็ดี แต่กูกลัวว่าจะรู้ไม่จริง ทำให้ พวกมึงที่พร่านกันอยู่แบบนี้ หรือมึงจะเถียงไอ้พิพัฒน์ คนระดับนังคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ จะไม่มีแหล่งข้อมูลที่ดีเชียวหรือ แต่ทำไมยัต้องมาดิ้นพร่านกันอยู่ตรงนี้
นังเปตรโมนิคมันบอกว่า กูเป็นคนเลื่อนลอย ไม่มีทรัพย์สิน ทั้งที่ตอนนี้กู อายุ ๓๗ มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ แค่เรื่องเล็กๆคือลูกของกู ค่าเทอมก็อ่วมแล้ว กูจะเอาเงินที่ไหน พวกมึงไปค้นกันยังไง...คิดง่ายๆ ต่อให้กูอยู่สลัมอยู่ในตอนนี้ มันก็ต้องมีอะไรที่เป็นชื่อที่มึงอ้างบ้างแหละ อย่างน้อย ก็บ้านน้อยในสลัม
กูถึงไม่สนใจในสิ่งที่พวกมึงภูมิใจว่า "ได้เชือดกู" กูนั่งหัวเราะอยู่เสียด้วยซ้ำ
(ต้องขออนุญาตโพสต์รูปที่ดูเวอร์อีกสักครั้ง ขออนุญาตพี่ๆทุกท่านนะคะ) กูบอกอีนังโมนิค ให้ไปหาว่า ใครเป็นเจ้าของรถจากัวร์คันสีเขียว และออกรถมาหลายคันพร้อมๆกันทีเดียว มันหาไม่ยากหรอก คันนี้ก็อีกคันสีน้ำเงิน กูแนะแล้วว่าให้มึงไปค้นไปสืบมา เดี่ยวมึงก็หาเจอเอง แล้วรีบมา
มึงเอาผ้าถุงมาใส่แทนกางเกงได้แล้วนะไอ้พิพัฒน์ เพราะกูไม่ได้เหนื่อยที่จะเขียนตอบกับมึงหรอก แต่กูเหนื่อยใจฉิบหายที่ ผู้ชายอย่างมึง กูท้ามีงตัวต่อตัว กูไม่รุมมึงด้วย ผู้หญิงอย่างกูนี้แหละ จะสู้กับมึง  


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 08, 18:29
ดิฉันไม่ได้สนใจเรื่องรถจากัวร์หรืออะไร   เพราะไม่เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท  แต่ที่สงสัยก็คือ kornkanok เป็นใคร และมาเจ็บแค้นอะไรกับดิฉันและอาจารย์พิพัฒน์นักหนา   
เพราะอาจารย์พิพัฒน์ไม่ได้ว่ากล่าวใคร  พูดกับน้ำอบคนเดียว

ก็ย้อนกลับไปเปิดเมล์เก่า ที่สมาชิกเรือนไทยคนหนึ่งส่งมาให้   เขาคนนี้เป็นคนช่วยดิฉันแกะรอยหาว่า มีใครร่วมมือกับน้ำอบบ้าง
เจอเมล์ที่น่าสนใจเมล์นี้

มีอะไรคืบหน้าไหม หวังว่าทุกอย่างคงคลี่คลายไปในทางดี
 
ฝากบอกอาจารย์ด้วยนะว่า เพื่อนคนนี้ทั้งรักทั้งเเค้นอาจารย์อยู่ตลอด
่วิญญาณทศกัณฐ์ในร่างยังผุดขึ้นมาบ้าง เพราะเเค้นยังไม่หมด
เเต่ก็มีความปรารถนาดีให้กัน
ไม่คิดเข่นให้ตายกันอย่างนั้น ด้วยคำพูดทุเรศอย่างงั้น
 
ขอให้อาจารย์ ตั้งสติให้ดี
ใช้ mediators หาคนเข้าใจพูดเข้าเคลียร์
จิตวิทยาของยัยน้ำอบน่ะ เคลียร์ไม่ยากหรอก
ที่สำคัญต้องเเสดงออกให้เห็นได้ว่า
อาจารย์ไม่ได้เป็น hidden agenda under somebody's skirt
 
ทางยัยอบฝังหัวว่าอาจารย์มี connection กับ MONIQUE
จุดนี้ต้องทำให้กระจ่าง
 
 
แล้วทูตสันถวไมตรีอย่างพิพัด
ไปไหนมีเเต่ทำให้สถานการณ์เลวลง
คำเเรกไปบ้านเขา ก็ด่าเขาสัตว์
อย่าเอานายคนนี้มาใช้ในสถานการณ์เป็นตาย
เก็บไว้ entertain คงพอได้มั่ง
 
(ชื่อเจ้าของเมล์)นิยมตาต่อตา ฟันต่อฟัน เเต่หากเหยื่อล้ม ไม่ตะปบซ้ำ
มีปัญหากับใคร นัดเคลียร์ให้รู้เรื่อง
ไม่นิยมอีเเอบ เเละไม่ชอบให้ใคร เช่น นิลกังขามาขู่ฟอด
ยิ่งขู่ ยิ่งเจอดี ถ้าใช้เหตุผล จบเร็ว
 
*******
พี่รู้จักคนใกล้ชิดยัยอบมาก
พี่...ตอบคำถามเธอไม่ต่ำกว่า 100 หน ว่า
ล้านเปอร์เซ็นต์ ทชพ ไม่ใช่ โมนิค
เห็นยัยอบด่าผิดตัว ก็พยายามบอกหลายครั้ง
 
เเต่พอเห็นโมนิคไม่ยอมจบเรื่อง ก็ชักยัวะ
พี่ PATpdx บอกว่า Pacific Time Zone ปุบ
รู้ดีว่าเด๋วข้าฯ ต้องซัด(ชื่อคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเดียวกับโมนิค)ซักดอก โทษฐานอีเเอบ
  
 
ใครที่เคยเข้าเรือนไทยตั้งแต่ยังเป็นห้องหนึ่งของวิชาการ.คอม คงจำได้ว่ามีสมาชิกบางคน เกิดพิพาทกับอาจารย์ Pipat

โปรดพิจารณาเองว่า เจ้าของเมล์นี้กับ kornkanok  มีความสอดคล้องกันหรือไม่  ในความรู้สึกที่มีต่อดิฉันและอาจารย์ Pipat
ถ้าหากว่าไม่ใช่คนเดียว แต่เป็นคนละคนกัน ก็น่าจะได้รับการบอกเล่า รู้เห็นความรู้สึกของเจ้าของเมล์อย่างใกล้ชิด   สนิทกันดีกับ "ยัยอบ"


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 08, 20:45
ข้อกล่าวหาของน้ำอบ เรียงลำดับตามเวลา
๑   โมนิค = เทาชมพู ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรีเป็นคนบอก
๒   โมนิคกับเทาชมพูเป็นคนละคน   แต่สมรู้ร่วมคิดกัน

แสดงว่าผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรีบอกผิดหรือบอกถูก ก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่ว่ากัน  ไม่มีใครสงสัยถามไต่ถามข้อนี้
แม้ว่าข้อหาเริ่มกลายพันธ์ไปแล้ว  แต่การโจมตียังคงเหมือนเดิม   และไม่เคยแถลงแจ้งเหตุผลว่าทำไมคิดเช่นนั้น   
แต่คนที่โพสในเว็บน้ำอบ พร้อมจะเชื่อข้อแรกอย่างไร  ก็เปลี่ยนมาเชื่อข้อสองอย่างนั้น โดยดี

๓   โมนิคคือเทาชมพูหรือไม่  ไม่สำคัญอีกแล้ว     
ขอด่าคุณหญิงวินิตาอย่างเดียว   ทุกรูปแบบ
ข้อนี้ก็ไม่มีใครในเว็บน้ำอบ แสดงให้เห็นว่าสะกิดใจถึงความเปลี่ยนแปลงในการกล่าวหาอีกเช่นกัน   ก็ยังเชื่อเช่นเดิม

นับเป็นทัศนคติที่ตรงกันข้ามกับเรือนไทย  ถ้าดิฉันกล่าวหาแบบนี้ในเว็บ ว่าสมาชิกชื่อ ก เป็นคนเดียวกับคุณ ข  กระทำการเลวร้าย
ต่อมาบอกว่า ก.กับข. เป็นคนละคนแต่ร่วมมือกันทำสิ่งเลวร้าย
และต่อมาก็ ก.เป็นคนเดียวกับ ข. หรือไม่ ไม่สำคัญแล้ว  แต่ขอโจมตี ข. ว่าเป็นคนเลวร้าย  โดยไม่สนใจ ก. อีก ว่าเขาทำอะไร
สมาชิกเรือนไทยทุกคนก็เชื่อตามโดยดี ว่านอนสอนง่าย เอออวยไปด้วย ไม่มีใครปริปากสงสัย มีแต่ให้กำลังใจเจ้าของเว็บ
ถ้าเป็นอย่างนี้ขึ้นมาจริงๆ     ดิฉันก็อาจจะสงสัยว่า พวกเรือนไทยสติดีกันทั้งกลุ่มหรือไฉน?


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มี.ค. 08, 13:07
ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี ยังเป็นตัวลึกลับอยู่  เพราะทั้งรุ่นพี่และ "พี่พี" ก็ปฏิเสธแล้วว่าไม่ใช่
ไม่เคยพูดว่า โมนิค = เทาชมพู   เพียงแต่เล่าว่า เทาชมพู" อาจจะ" เป็นลูกนักเขียนเก่าสมัยนิตยสารชาวกรุง  ที่ชื่อ ว.วินิจฉัยกุล    และมีพฤติกรรมไม่ดีหลายอย่างสมัยเรียนที่คณะ   
แต่พอไปถึงปลายทาง กลับกลายเป็นอีกเรื่อง   

สรุปจากคำชี้แจงได้ว่า
รุ่นพี่ของดิฉันไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตถึงโรงถึงศาล   ก็เลยไม่ได้มาแก้ไขความเข้าใจผิดของน้ำอบและชาวบ้าน      ส่วน " พี่พี" แม้ว่าถูกน้ำอบอ้างชื่อหลายครั้ง ว่าเป็นผู้รู้เรื่องนี้ดี  ก็ไม่กล้าทักท้วง เพราะเกรงว่าจะถูกน้ำอบเอ็ดเอา
**********************
ทีนี้มาถึงความเข้าใจที่กลับกลาย จาก โมนิคเป็นคนเดียวกับเทาชมพู    มาเป็นเรื่องใหม่ ว่า
สองชื่อนี้คนละคนกัน  แต่ว่าร่วมมือกัน
ความเข้าใจนี้มีอยู่ในคนกี่คนไม่ทราบ  แต่คนที่ดิฉันรับรู้แน่ๆจากเจ้าตัวเขาเอง  ก็คืออดีตสมาชิกเว็บวิชาการที่เคยเข้ามาเล่นประจำในเรือนไทย ระหว่างปี 2548-2549    ซึ่งต่อมาปรากฏชื่ออยู่ในเว็บของน้ำอบ
ชื่อ babatov


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มี.ค. 08, 13:26
 เมื่อคุณ babatov เข้าใจดิฉันผิดคนหนึ่งได้ และได้เผยแพร่ความคิดนี้ออกทางเว็บไซต์พันทิป  ซึ่งมีคนอ่านเป็นหมื่นเป็นแสน  คนอื่นๆหลายคนก็อาจจะคิดทำนองเดียวกัน  ทั้งโดยคล้อยตามและทั้งคิดเอง มิได้นัดหมายกับคุณ bbt ก็ได้
ดิฉันในฐานะจำเลยทางสังคม ก็ควรจะมีสิทธิ์แก้ต่างให้ตัวเองบ้าง

คุณ babatov มีความเชื่อมั่นว่า  ดิฉันต้องรู้เห็นระดับแท็คทีมกับคุณโมนิค  เพื่อโจมตีน้ำอบ 
เหตุผลของคุณ babatov ลงเอาไว้ในห้องสมุดพันทิป  ในกระทู้ที่ชื่อว่า
PANTIP_COM  K6048469 ว_วินิจฉัยกุล ลงเล่นการเมือง พรรคเพื่อแผ่นดิน

ความคิดเห็นที่ 26   

คิดไปก็เห็นใจ คนอ. ที่ไปหลงผิดคิดว่า มน. = ทชพ.
สายข่าววงในแจ้งมาว่า ที่ คนอ. มั่นใจขนาดนั้นเพราะว่า
หลายสิ่งหลายอย่างที่ ทชพ. และ มน. พูด มันเชื่อมโยงถึงกัน  
คนอ. ก็เลยเกิดความมั่นใจอย่างผิดๆ

ที่พูดนี่ ลองคิดดู คนอ. เห็นอะไร จึงเข้าใจผิดว่า มน. เป็น ทชพ.
แล้วถ้า คนอ. เห็นจริง เป็นไปได้ไหม ที่ ทชพ จับมือกับ ม.น. ร่วมกันพิฆาต โจ๊กคนอร์

แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 50 20:24:26

จากคุณ : Babatov  - [ วันลอยกระทง 13:14:43 ]

และอีกตอนหนึ่ง babatov พาดพิงถึงดิฉัน และคุณโมนิค

ท่านสองคนนั้น คือคู่เเทคทีม ที่ปราบหม่อม จนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ในวันวาน
ท่านสองคนนั้น คือคู่เเทคทีม ที่หมายปราบคุณโจ๊ก ให้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ในวันนี้

ไม้เด็ดของทั้งสองคือ มีตาวิเศษ ที่หยั่งรู้ตัวตนจริงของชื่อลอกอินใดก็ได้ที่อยากจะรู้ เพราะมีพรายกระซิบลอยตามลม
จนทำให้ดอกเตอร์ที่คณะหนึ่ง  ในสถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่สุดของประเทศ ไม่กล้าต่อกรกับคุณป้าด้วย

ตัว ม.น. และคุณป้ามีข้อเหมือนกันอีกอย่างคือ เด่น เลิศ หาใครเทียมได้
หากยึดหลัก fair game แล้ว ข้าพเจ้าก็ต้องบนบานกราบกราน ผู้เกี่ยวข้องให้เคารพในจรรยาบรรณในวิชาชีพของตัวเอง
ไม่เปิดเผยรายชื่อสมาชิกให้ใครรู้เมื่อมีรายการ "คุณขอมา"

ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 50 00:12:07
แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 50 00:03:17
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 50 23:59:55
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 50 19:10:25
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 50 19:09:48

จากคุณ : Babatov  - [ วันลอยกระทง 18:39:59 ]  


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มี.ค. 08, 13:31
นี่คืออีกคคห.หนึ่งของคุณ babatov  ในกระทู้เดียวกัน "สตรีสูงศักดิ์" ที่ว่านั้น  เธอหมายถึงดิฉันเอง

ความคิดเห็นที่ 43   
คุณปุกปุย
ไหนๆ คุณกล้าหยั่งถามคำถามนี้แล้ว
ช่วยถามใจตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่า คุณแน่ใจไหม ที่จะกล้าฟังคำตอบ
คุณใจเเข็งพอ หรือจะช็อคตายคาเว็บไหม?

คนที่ช็อคอาจไม่เป็นคุณ แต่อาจเป็นสตรีสูงศักดิ์ที่มีแฟนขับบนพันทิปจมบ่อ
ชื่อ Babatov กล้าเผชิญความจริงอยู่เเล้ว
อย่าเเหยมผมมาก
และอย่ายั่วให้ผมหลุดปาก
หากหลุดปาก ท่านผู้ใหญ่คนหนึ่งจะหลบลี้ไม่กล้าเปิดเน็ตอีกนาน
ท่านจะเละเป็นโจ๊ก ยิ่งกว่าแม่โจ๊กคนอร์

เก็บท่านไว้ในโลกไซเบอร์ต่อไปเถอะครับ

จากคุณ : Babatov  - [ 25 พ.ย. 50 11:46:10 ]  
เพราะคุณ babatov ได้ยืนยันกับดิฉันเองทางอีเมล์  ว่าความมั่นใจนี้เกิดจากข้อนี้เอง

....ออกมาอัดอาจารย์บนบอร์ดเพราะว่าพอพี่ patpdx บอกว่าแปซิฟิคไทม์
.....รู้ทันทีว่า มน คือ ววด
เท่ากับว่าอาจารย์เทาเหมือนเเกล้งมาเล่นปาหี่หลอกชาวบ้านว่า ทชพ ไม่รุจัก มน
นี่คือเหตุผลเดียวที่....ออกมาอัด


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มี.ค. 08, 13:45
ก่อนหน้านี้  คุณ babatov พูดถึงดิฉันในบล็อคปุกปุย
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pookpui&month=11-2006&date=03&group=1&gblog=145
ว่า
คุณเทาชมพู กับคุณโมนิค คนละคนกันค่ะ
คุณเทาชมพูตัวจริงโด่งดังเจ็ดทิศกังไส สตรีสูงศักดิ์จริงๆๆ ค่ะ 

โดย: Ample Rich IP: 203.185.131.3 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:18:55 น. 
และ

ก่อนอื่นดิฉันขออนุญาตเจ้าของห้องนี้ อธิบายอะไรเล็กน้อย
หากเห็นไม่สมควรโปรดลบได้เลย และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

อยากบอกเพื่อนๆห้องนี้ว่า ข้อความจากเวบคุณน้ำอบเกี่ยวกับคุณเทาชมพู เป็นเท็จเสียทั้งนั้น
คุณเทาชมพูที่ดิฉันรู้จัก เป็นคนดี มีคุณธรรมสูงส่ง มีความเป็นครูบาอาจารย์
ที่ดิฉันสามารถยกมือไหว้ได้สนิทใจ เพราะท่านทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างมาก
โดยเฉพาะด้านการศึกษาและด้านศิลปินที่ท่านสร้างความสุขให้กับผู้อ่านและผู้ชมชาวไทย
อย่างทั่วถ้วนหน้ามากว่า 30 ปี

ดิฉันมีส่วนที่ทำให้เรือนไทยแตก เพราะล้ออาจารย์เล่นครั้งเดียว โดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนหน้านี้เคยล้อเล่นกับท่าน ตั้งแต่ยังไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร
อยากบอกอาจารย์ว่าดิฉันแค่ "ลองของ" ไม่ได้ "ลองดี"
และอยากให้อาจารย์เปิดใจกว้าง ให้อภัย เพราะมนุษย์ทุกคนมีดี มีเลว
ดิฉันอยากกราบเท้าขอโทษสักพันครั้ง หากทำให้อาจารย์รู้สึกดีขึ้น
**ถ้าเป็นตัวจริง ขออาจารย์กรุณาเปิด doramail ด้วยค่ะ

โดย: Ample Rich IP: 203.185.131.3 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:18:59 น.   


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มี.ค. 08, 21:33
จาก 17 พฤศจิกายน 2549  ในนาม Ample Rich มาถึง  25 พ.ย. 50 ในนามBabatov   เจ้าตัวมองดิฉันแบบตรงกันข้าม  ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าเหตุผลคืออะไร
บอกได้แต่ว่า ใน ๑ ปีนั้น ดิฉันไม่เคยติดต่อกับแอมเพิลริช บาบาตอฟเลยจนครั้งเดียว   เธอทำอะไรอยู่ที่เว็บไซต์ไหน  ดิฉันก็ไม่รู้

เธอจะทั้งรักทั้งแค้นหรือมีวิญญาณทศกัณฐ์สิงสู่อยู่ ก็เป็นฝ่ายเธอคนเดียว  ดิฉันไม่มีด้วย

วันหนึ่ง  บาบาต๊อฟ ก็ออกมายืนยันว่าดิฉันเป็นคนละคนกับคุณโมนิค  แต่ข้อหาใหม่ที่ก็คือ คุณโมนิคคือคุณ Wiwanda สมาชิกอีกคนของพันทิป
เธอเขียนลงไว้ในกระทู้ ว.วินิจฉัยกุล เล่นการเมือง

คิดไปก็เห็นใจ คนอ. ที่ไปหลงผิดคิดว่า มน. = ทชพ.
สายข่าววงในแจ้งมาว่า ที่ คนอ. มั่นใจขนาดนั้นเพราะว่า
หลายสิ่งหลายอย่างที่ ทชพ. และ มน. พูด มันเชื่อมโยงถึงกัน
คนอ. ก็เลยเกิดความมั่นใจอย่างผิดๆ

ที่พูดนี่ ลองคิดดู คนอ. เห็นอะไร จึงเข้าใจผิดว่า มน. เป็น ทชพ.
แล้วถ้า คนอ. เห็นจริง เป็นไปได้ไหม ที่ ทชพ จับมือกับ ม.น. ร่วมกันพิฆาต โจ๊กคนอร์


ข้าพเจ้าขอวิเคราะห์ว่าสำนวนของคุณ ม.น. คล้ายกับนักเขียนมีชื่อ

-คล้ายกับป้าอะไรน้า ที่รู้เรื่อง spirits and liquor ดี
-มีคะ ขาพอประมาณเหมือนกัน
-Time zone ของคนสองคนนี้อยู่ Pacific เหมือนกัน
-ทั้ง ม.น. และป้า ต่างคนต่างก็รู้จัก ทชพ. เหมือนกัน
-ที่สำคัญ ม.น. เกาะติดจับไม่ปล่อย ต้องตีให้หนูโจ๊กเละคาเว็บ
-แม้นว่าอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปี  ม.น.  ก็บ่ยั่น
-ในอดีต ท่านป้าก็เคยถลุงใครเข้ามุมด้วยมิใช่หรือ?
-ที่สำคัญผู้หญิงสองคนวัย 50+ เท่าๆ กัน
-ตั้งชื่อเป็น อังกฤษพิมพ์ใหญ่เหมือนกัน ผิดกันที่ ม.น. มีตัว Q เพื่อลวงว่ามาจากฝรั่งเศส
-แต่แท้จริงแล้วไอพีมาจากทางเหนือของซานฟรานโน่น เหมียนๆๆๆ กันมากๆๆๆก


ฉะนั้น คนอ อย่าลามไปถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องเลย
รับรองล้านเปอร์เซ็นต์ว่า มน ไม่ใช่ ทชพ
ทุกอย่างขอให้จบได้
ถ้าคุณโจ๊กจะอัด ม.น. ก็อย่าถลำไปโดน ทชพ. มันบาปอ่ะ

อ่านทู้นี้ แล้วดูว่าสำนวนเหมือน ม.น. ไหม?
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1724.0
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 50 20:24:26

จากคุณ : Babatov  - [ วันลอยกระทง 13:14:43 ]


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มี.ค. 08, 21:46
โมนิค ไม่ใช่ เทาชมพู   แต่โมนิค(ซึ่งคุณ babatov มั่นใจว่าเป็นคุณวิวันดา)  และเทาชมพูนั้น แท็คทีมกัน
จะเรียกว่าทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดก็คงได้ค่ะ

ท่านสองคนนั้น คือคู่เเทคทีม ที่ปราบหม่อม จนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ในวันวาน
ท่านสองคนนั้น คือคู่เเทคทีม ที่หมายปราบคุณโจ๊ก ให้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ในวันนี้

จากคุณ : Babatov  - [ วันลอยกระทง 18:39:59 ]  

เรื่องหม่อมอะไรนั่นเอาไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะงง  เอาเป็นว่าถ้าใครอ่านไม่รู้เรื่องเพราะนัยยะเยอะเหลือเกิน
ก็ลองอ่านอีเมล์ที่ดิฉันเขียนถึงเธอ อาจเข้าใจง่ายขึ้น
ข้อความมีดังนี้
**************************
คุณพิสูจน์ว่าโมนิคคือวิวันดา เหตุผลสำคัญคือโพสมาจาก Pacific Zone ของอเมริกา เหมือนกัน(อาจจะมีข้ออื่นๆแต่ข้อนี้เป็นประเด็นใหญ่)
เมื่อวิวันดาเป็นสมาชิกเรือนไทย   เทาชมพูจึงต้องรู้จักโมนิค
ดังนั้นเทาชมพูจะมาบอกว่าไม่เกี่ยวกับโมนิคมีข้อพิพาท กับน้ำอบ  มาตั้ง ๓ ปี  ถือว่าฟังไม่ขึ้น
ดังนั้นข้อกล่าวหาที่ว่าน้ำอบหมิ่นประมาทเทาชมพู  ถือว่าตกไป
 
ถ้าคุณจะเป็นทนายให้น้ำอบเพื่อไปแถลงตามนี้  ก็แล้วแต่คุณค่ะ
จะลองแถลงในเรือนไทยดูก่อนไหม    ดิฉันจะเอาข้อนี้ไปลง  มีนักกฎหมายอยู่ในเว็บด้วยซี


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 08, 21:05
หลังจาก babatov โพสข้อความนี้ลงในกระทู้   ก็มีผู้ออกความเห็นเพิ่มเติมหลายราย    มีผู้ออกความเห็นทำนองเดียวกันว่า ให้ babatov เฉลยเรื่องที่จะบอกว่า ทำให้ผู้คนช็อคตายกันเมื่อรู้
คุณนิลกังขาได้เข้าไปเตือนว่า ให้ระวังการกล่าวหาที่นำไปสู่การหมิ่นประมาทได้
babatov ไปตั้งกระทู้ใหม่ถึงคุณนิลกังขา  แต่ตั้งไปวันหรือสองวันกระทู้ก็ถูกลบ เรื่องนี้ก็เงียบไป

babatov ถูกยึดอมยิ้มสมาชิกพันทิป  จะด้วยเรื่องอะไรก็ไม่รู้  แต่ที่รู้ว่าถูกยึดเพราะมีคนเข้าไปบอกในเว็บน้ำอบ
แสดงความเห็นใจ babatov ว่าถูก คุณหญิง "มาเฟียพันทิป" กระทำเอาในเรื่องนี้
ทั้งๆผู้บริหารและเจ้าหน้าที่พันทิปทุกคนย่อมรู้ว่า ดิฉันไม่เคยไปเกี่ยวข้องอะไรกับการทำงานของพันทิปเลยสักครั้ง  ไม่เคยรู้จักกันเป็นส่วนตัวไม่ว่าคนไหน ด้วยซ้ำ

ดิฉันเชื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ มีสมาชิกและเจ้าหน้าที่ในพันทิปด้วย  ก็ขอให้สอบถามกันเองก็แล้วกันค่ะ



กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 08, 21:24
ย้อนกลับมาถึงความเชื่อมั่นของคุณ babatov 
เมื่ออ่านดูแล้ว  ดิฉันรู้สึกคล้ายๆอ่านโจทย์พีชคณิตหรือ Algebra ที่เคยเรียนสมัยม.ต้น   

ถ้า x = y,  y=z
x + y    =  x+z

มาถอดในแบบอินเทอร์เน็ต ดีกว่าค่ะ
ถ้า นามแฝงโมนิค =  นามแฝงวิวันดา   นามแฝงวิวันดา ย่อม = นามแฝงโมนิค
ถ้าเทาชมพู  รู้จัก นามแฝงวิวันดา  ดังนั้นเทาชมพู  ย่อมรู้จัก นามแฝงโมนิค ด้วย

จริงหรือ?
ดิฉันรู้จักคุณ babatov สมัยเล่นในเรือนไทย ในนามแฝงอื่น  เมื่อปี ๔๘-๔๙
ส่วนชื่อ babatov ดิฉันรู้เสียเมื่อไรว่าคนเดียวกัน  จนกระทั่งถามคุณทางอีเมล์  จึงได้รู้คำตอบเมื่อวันที่ ๒๙ ก.พ.นี้เอง เมื่อคุณตอบรับว่าใช่
ถ้าคุณไม่ตอบรับ   ดิฉันก็ไม่รู้    เหมือนดิฉันเคยถามว่าคุณคือ Natalee ใช่หรือไม่ใช่  คุณตอบว่า "ไม่ใช่"  ดิฉันก็เลยยังไม่รู้จนบัดนี้ว่าคุณ Natalee เป็นใคร  ต่อให้เป็นคุณจริงๆ  ดิฉันก็ไม่รู้อยู่ดี


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มี.ค. 08, 09:00
เมื่อกลับไปอ่านกระทู้เก่าๆของพันทิปเรื่องคุณโมนิคกับน้ำอบ   ดิฉันก็แปลกใจว่า สิ่งที่คุณโมนิคทำคือความไม่ดีที่ตรงไหน
การที่เธอพยายามบอกคนอื่นๆว่าผู้หญิงคนหนึ่งโกหกหลอกลวงคนอื่นให้เชื่อว่าหล่อนเป็นอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้เป็น   รวมทั้งหล่อนอ้างชื่อบุคคลจริงๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหล่อนอย่างที่หล่อนอ้าง
ทั้งหมดนี้เป็นความเลวร้ายของคุณโมนิค  จนดิฉันไม่กล้าแสดงว่าเกี่ยวข้องด้วย  งั้นหรือ

ดิฉันไม่เห็นใครคัดค้านสักคนว่า คุณโมนิคกล่าวเท็จในเรื่องน้ำอบ   มีแต่ทักท้วงในเรื่องอื่นเช่นลูกสาวน้ำอบ หรือชื่อคนอื่นๆในเว็บน้ำอบ ที่เธอพาดพิงถึง
แต่ถ้าแยกประเด็นแล้ว  ประเด็นเรื่องน้ำอบ ไม่เห็นมีใครบอกได้ว่า คุณโมนิคพูดเท็จ  น้ำอบต่างหากพูดความจริงเกี่ยวกับตัวหล่อน
เห็นแต่ว่า มีบางคนบอกว่า ถึงหล่อนมาจากสลัมจริงก็ไม่แคร์  ก็หมายความว่ายอมรับว่าน้ำอบพูดไม่จริง  แต่ไม่ถือสา ต่างหากเล่า

มาถึงเรื่องจริงไม่จริงที่ว่านี้แล้ว  ก็ขอพูดสักเรื่องว่า  ได้อ่านข้อความในเว็บน้ำอบ ที่ทนายความส่งมาให้  และอ่านบล็อคคุณโมนิคแล้ว
พบว่าหลายครั้ง น้ำอบกล่าวว่า ตัวเองรู้ตื้นลึกหนาบางของ "ข้างบน" ดี   จนถึงเอาเรื่องส่วนตัวภายในนั้นออกมาพูด  เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญหลายท่าน ที่ไม่จำเป็นต้องแจกแจงมากกว่านี้

ดิฉันขอบอกไว้ ณ ที่นี้เลยว่า   คนที่มีหน้าที่ภารกิจเกี่ยวข้องกับ "ข้างบน" นั้น ทุกคนจะรู้กันดีว่า ไม่มีใครปริปากนำเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องการงาน ออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชนเป็นอันขาด
ถ้าเป็นประชาชนทั่วไป มีโอกาสได้พบเห็นเหตุการณ์อันเป็นมงคลแก่ตัวเอง  เกิดความปลาบปลื้มปีติจนให้สัมภาษณ์ประสบการณ์ส่วนตัวครั้งนั้น  ต่อสื่อที่ไปถาม   ข้อนี้เป็นได้   เราก็คงได้เห็นกันบ่อยๆในหนังสือพิมพ์บ้าง ในรายการสารคดีทางทีวีบ้าง 
 
แต่คนที่มีหน้าที่การงานเกี่ยวข้อง  แม้จะเอ่ยถึงเรื่องงานก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง  เน้นที่งาน ไม่เน้นที่ตัวเอง  และมีจุดหมายแน่ชัด คือนำเสนอเพื่อเฉลิมเกียรติของ "ท่าน"
ข้อนี้คนทำงานทุกคนรู้    ถ้ามานินทาเรื่องนั้นเรื่องนี้  แบบที่น้ำอบคุย  อย่าว่าแต่ไม่จริงเลย 
มันเป็นไปไม่ได้ด้วย   ที่ใครอยู่ "ข้างใน"จริงๆ จะทำได้ลง

เขาถือเป็นอัปมงคลแก่ตนเอง    ถ้าเป็นคนโบราณท่านก็จะถือถึงขั้นว่า เป็นวิบากตกทอดไปชั่วลูกชั่วหลาน
ไม่พึงทำ และไม่กล้าทำเป็นอันขาด
ดิฉันก็เพิ่งมารู้ว่า มีคนหลงเชื่อน้ำอบอย่างจริงจัง    จนน่าตกใจว่าเชื่ออะไรกันได้ขนาดนี้  ไม่ล้างหูกันบ้างหรือ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มี.ค. 08, 15:17
กลับมาเล่าต่อเรื่อง babatov 

เธอรู้จักน้ำอบมากน้อยแค่ไหน  เป็นคำถามที่ดิฉันถามตัวเองตั้งแต่รู้ว่าเธอเข้าไปในเว็บน้ำอบ หลังจากเธอไปโพสในเว็บพันทิป  ชี้เบาะแส ให้คนเข้าใจว่าคุณโมนิคคือคนเดียวกับคุณวิวันดา
ตอนนั้นในเว็บน้ำอบกำลังขานรับเรื่องคุณวิวันดาคือคุณโมนิคกันอึงคะนึง   ไม่ใส่ใจประเด็นว่า Monique= เทาชมพู   ราวกับ"ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี" ไม่เคยบอกเช่นนั้น   จะหาใครต่อว่าผู้ใหญ่คนนั้นสักนิดก็ไม่มี
จู่ๆ babatov ก็โผล่เข้ามากลางวง เข้ามาให้คำแนะนำว่า อยากให้ดิฉันคุยกับน้ำอบให้รู้เรื่อง

ความเห็นที่ : 1101  โพสต์เมื่อ : 9 ธ.ค. 2550 เวลา 18:06 น.     
Babatov

มีข้อความฝากถึงคุณหญิง เอาเป็นว่าจากอดีต net pal
ของคุณหญิงก็ละกัน ในฐานะคนที่ไม่เคยโกรธเคืองกันมาก่อน
จนคุณหญิงมาให้ท้ายนายพิพัฒน์ปากหมา ให้เหยียบหัวคนอื่นได้
อย่างไร้ความยุติธรรม

 โอเค เรื่องเก่าพักไว้ก่อน ขอพูดธุระเสียหน่อย มี 2 ประเด็น
ที่อยากแนะนำ คืออยากให้คุยกับคนอ ให้รู้เรื่อง วิเคราะห์จิตวิทยา
คนคนนี้คุยไม่ยาก เพราะเธอใจถึง ถ้าพูดถูกใจ 5 นาทีก็รู้เรื่อง ถ้าพูด
ไม่เข้าหู เหมือนตาแก่นายพิพัฒน์ปากหมานั้น 10 ปี ก็ไม่ตกลง

•••แก้ไขล่าสุด : เมื่อ 9 ธ.ค. 2550 เวลา 19:09 น. โดย Babatov  

ข้อความที่ดิฉันขีดเส้นใต้ไว้ อ่านแล้ว  ราวกับเพื่อนสนิทพูดถึงกัน
babatov มั่นใจว่าตัวเองรู้จักนิสัยน้ำอบ จนกล้าออกรับประกันว่า คนนี้คุยไม่ยาก ถ้าพูดถูกใจ 5 นาทีก็รู้เรื่อง พูดไม่เข้าหู ๑๐ ปีก็ไม่ตกลง 

คนแปลกหน้า ไม่น่ารับรองได้ว่ารู้ใจกันขนาดนี้    ดิฉันก็รู้สึกแปลกๆ ว่า  ตรงกันข้ามกับที่ babatov บอกดิฉันทางอีเมล์ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ว่าไม่รู้จักน้ำอบ

I never talked to her, never communicate via mail, phone or fax.
You can be sure that I tell the truth because if she knew me, she would have talked about me on board long time ago.
She has no info about me, and I now can't think of anyone who would tell her this info.

เอาเถอะ น้ำอบไม่ได้อ้างอิงอะไรถึงชื่อ babatov  ไม่เคยไปเที่ยวตจว.กัน ไม่เคยไปเดินขบวนด้วยกัน  ฯลฯก็จริง  แต่จะว่าไม่รู้จัก  แม้แต่เคยพูดจากัน  ก็ยังน่าแคลงใจอยู่

นี่แค่ข้อหนึ่งนะคะ ข้อสองก็ยังมี


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มี.ค. 08, 15:31
ดิฉันรู้ว่าคุณ babatov ยังติดตามอ่านกระทู้อยู่    ถ้าคุณจะชี้แจงก็ทำได้   เพราะหลายๆอย่างที่คุณโพสและส่งอีเมล์ ก็ยังทำให้ดิฉันมองคนละทางอยู่
ดิฉันขอเวบมาสเตอร์ให้รับสมัครสมาชิกใหม่ชื่อ babatov ด้วยค่ะ ถ้าเธอสมัครมา 


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มี.ค. 08, 10:46
ที่ยกมาก็คือความเห็นที่ babatov ยังย้ำความคิดเดิมอีกครั้ง ว่า
ความเห็นที่ : 1103  โพสต์เมื่อ : 9 ธ.ค. 2550 เวลา 18:52 น.     
Babatov
ระดับสมาชิก :
[ สมาชิกบอร์ด ]
จำนวนโพสต์ : 16
Rank :
แรกเริ่ม
 
2) มาถึงกรอบล่างที่ยัยวิวันดาพูดไว้ การเอาผิดทางอินเตอร์เน็ต
มันยากยิ่ง คิดดูต่อหน้าศาล คุณหญิงจะเอาอะไรไปพิสูจน์ให้ศาลเห็น
หลักฐานการทำผิด

จะถ่ายรูปหน้าจอคอมพ์ไป พอถึงหน้าบัลลังก์ศาลเปิดเน็ตพิสูจน์
ปรากฏว่าน้อง Admin จัดการลบไปเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้ว เท่านี้ศาล
ก็ไม่อาจเอาผิดได้
 
คดีนี้ถ้าข้าพเจ้าเป็นหนูอบเชย ข้าพเจ้าไม่เสียกะตังจ้างทนายหรอก
การเอาไม้แข็งมาพูดกับคุณอบเชยนั้นผิด คนคนนี้เธอใจถึง
ขอกันกินได้มากกว่าเค้นคอบีบบังคับจากเธอซะอีก
 
วิธีการคือ เคลียร์-เคลียร์-เคลียร์-เคลียร์  หาคนกลางเข้าคุย
อย่าได้คิดแม้แต่จะใช้อำนาจบาตรใหญ่เข้าข่ม เธอไม่กลัวหรอก
หาใครที่มีศิลปะทางปาก (อย่าเหมือนไอ้พินะ) เข้าคุย
 
ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะได้มาซึ่ง peace treaty คุณหญิงต้องลงแรงแลกเปลี่ยน
กำราบวิวันดา ทางสาธารณะให้ชัดจนว่า  “วิวันดา เชิญเธอคนเดียว ต่อแต่นี้
 ฉันกับเธอไม่เกี่ยวกัน อยากให้เธอหยุดจองล้างหนูอบ หรอขอโทษซะหน่อย”
อะไรทำนองนี้
 
ถ้าจะเล่นไม้แข็ง 10 ทนาย 100 ทะแนะ ก็ทำอะไรคุณอบเชยไม่ได้!!!
 

babatov ดูจะมั่นใจในตัวน้ำอบมาก    ถึงขั้นแนะนำว่าคนอย่างดิฉันจะต้องไปโอนอ่อน ขอร้องหล่อน
แถมยังต้องลงดาบ คุณวิวันดา สมาชิกอีกคนหนึ่งของพันทิป ให้เห็นกันจังๆ  ให้คุณวิวันดาขอโทษน้ำอบเสียด้วยอีกแน่ะ
ด้วยข้อหาที่ babatov พูดเองสรุปเอง ว่าวิวันดาคือโมนิค  ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นอะไรมาพิสูจน์ได้

ไม่งั้นละก็...

ไม่งั้นอะไร...ไม่งั้นน้ำอบและพรรคพวกก็ด่าดิฉันได้สาดเสียเทเสียตามสบาย   ดิฉันก็ทำอะไรไม่ได้ งั้นหรือคะ?

เอาละค่ะ   ตอบสั้นๆว่าไม่ทำ   นอกจากไม่ทำตามที่คุณโพสมา สักข้อเดียวแล้ว  ดิฉันทำตรงกันข้ามด้วย  ก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่าผลเป็นยังไง


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มี.ค. 08, 11:12
ดิฉันจะไม่บรรยายมากถึงเรื่องเก่าๆในเรือนไทย  ให้ยืดยาวโดยใช่เหตุ   ว่าใครบางคนทำให้ดิฉันหนักใจแค่ไหน จนต้องตัดสินใจปิดเรือนไทย
จนกว่าระบบการป้องกันตัวป่วน จะแก้ไขเสร็จเสียก่อน   เพื่อความปลอดภัยของเจ้าของเรือนและสมาชิกอื่นๆ

แต่ขอลงข้อความที่ babatov กล่าวถึงดิฉัน ในเว็บน้ำอบเช่นกัน

ความเห็นที่ : 1102  โพสต์เมื่อ : 9 ธ.ค. 2550 เวลา 18:28 น.     
 
 Babatov
ระดับสมาชิก :
[ สมาชิกบอร์ด ]
จำนวนโพสต์ : 16
Rank :
แรกเริ่ม
ที่อยากให้เคลียร์กันให้จบ เพราะคุณ 2 คน ด่ากันมีแต่เสียกับเสีย

คนที่ได้กำไรคือ ยัยวิวันดา ที่เป็นตัวต้นเรื่องแท้ๆ กลับลอยนวล
วิเคราะห์วิวันดา คนคนนี้มีปมเขื่อง ที่เห็นคนอื่นดีเกินหน้าไม่ได้
ต้องเสือกตีนเข้ามาขัดแข้งขัดขา ให้เหยื่อล้ม แล้วตะปบซ้ำ ใจร้าย
ซะไม่มี ข้าพเจ้าเป็นคนตาต่อตา ฟันต่อฟัน ลองถ้าเหยื่อล้มแล้วไม่ซ้ำ
นี่.... ความมีน้ำใจนักกีฬามันผิดกัน
คราวนี้ที่ข้าพเจ้ายื่นตีนเข้ามาเสือก เพราะเห็นว่าคุณหญิงได้รับบทเรียน
จากเน็ตพอควรเเล้ว พื้นฐานคุณหญิงก็เป้นคนดี เพียงเเต่มีกุนซือโง่
และมีคนรอบข้างสอพลอ ยุยงไม่เข้าท่า บทคุณหญิงกินไม่ได้นอนไม่
หลับ มีใครปลดเปลื้องทุกข์ในใจได้บ้าง?

1) จากรูปด้านบน กรอบบน คือ กุญแจที่นำไปสู่การแก้ปัญหา นั่นแหละคือ
the core of what she has thought. เท่านั้น หาคนที่พูดแล้วโดนใจ-เข้าใจ-เห็นใจ แล้วทุกสิ่งจะง่ายดังพลิกฝ่ามือ ในใจของคุณอบเชยก้มีเท่านั้น
แต่ถ้ามาเหมือนไอ้ปากหมา “ยัยอบมาขอสมาลาโทษครูกูเด๋วนี้” มีหวังโดนหนักกว่าเดิม  

คุณ babatov จะรู้ตัวหรือยังว่า คุณอาจเจอข้อหา หมิ่นประมาท ๓ คนรวดในค.ห.นี้
๑  คุณวิวันดา
๒  ดิฉัน
๓  คุณพิพัฒน์

อ้อ  อย่านึกว่านามแฝงนั้นไม่ใช่ตัวจริง  อ้างว่าถูกหมิ่นไม่ได้นะคะ 
อยู่ๆคุณก็ไปหมิ่นคุณวิวันดา   ทั้งๆคุณก็ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกับคุณโมนิคหรือเปล่า

ต่อให้ไม่ระบุชื่อจริงของคุณวิวันดา  คุณก็คงไม่รู้ละมัง ว่า  ชื่อ  วิวันดา ในอินเทอร์เน็ต ปรากฏเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า เป็นนามปากกาของนักเขียน  มีผลงานตีพิมพ์เผยแพร่ 
ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญารับรู้และคุ้มครองสิทธิ์ของนามปากกานี้

การละเมิดใดๆที่ทำกับนามปากกาของนักเขียน ก็ทำนองเดียวกับการละเมิดที่ทำต่อชื่อจริงของเจ้าตัวเขานั่นละค่ะ
เหมือนกับคุณตีหัว ว.วินิจฉัยกุล แล้วจะมาอ้างว่า ไม่ได้ตีหัวคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ สักหน่อย  มันจะฟรีขนาดนั้นละหรือ?

พิพัฒน์ ก็เช่นกัน   เจ้าตัวเขาลงชื่อจริงให้คลิกเข้าไปอ่านได้ในเว็บไซต์  แสดงการยืนยันว่าเขามีตัวตน  แม้ว่าคุณกล่าวอ้อมไปอ้อมมา   ประมวลจากพยานแวดล้อมก็รู้ได้ว่าหมายถึงใคร

ทนายความของดิฉันฝากบอกมา เป็นความรู้สำหรับนักเล่นเน็ตทุกคนว่า
การหมิ่นประมาทคนอื่นทางอินเทอร์เน็ต โดยที่คนถูกหมิ่นก็รู้ว่าผู้หมิ่นเป็นใคร ชื่ออะไรนามสกุลอะไร ทำงานที่ไหน    ย่อมหาตัวผู้ต้องหา  ง่ายกว่ากรณีน้ำอบเยอะค่ะ

ป.ล.  ข้อความที่คุณกล่าวถึงคุณวิวันดา  ฟังคุ้นๆว่ามีใครในเว็บน้ำอบกล่าวหาเทาชมพู แบบเดียวกันนี่นา
สงสัยว่าถ้าเปิดประวัติดูกันได้  มาจากรั้วสีเดียวกันทั้งหมดเลยหรือนี่  หรือว่าแหล่งข้อมูลคนเดียวกัน?


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มี.ค. 08, 14:25
ที่จริง คนที่ babatov หมิ่นประมาท ไม่ได้มีแค่ ๓ แต่เป็น ๔   ถ้าเจ้าตัวเขาจะเอาเรื่อง
ความเห็นที่ : 1113  โพสต์เมื่อ : 9 ธ.ค. 2550 เวลา 23:51 น.     
 
 Babatov
ระดับสมาชิก :
[ สมาชิกบอร์ด ]
จำนวนโพสต์ : 16
Rank :
แรกเริ่ม

กรณีนักแปลอัปยศ ที่คุณ WIWANDA และ คุณนิลกังขา สมุนคุณหญิง
ช่วยกันรุมถลกหนังหัวอย่างไร้ความปราณี

ไงๆ ก็วอนขอเถิด จะอัดใครเปิดช่องออกให้กันบ้าง
โบราณเขาถึงพูดว่า สุนัขจนตรอก ไงล่ะ
ทำอะไรเอาเเต่พอควร อย่าขย้ำกันถึงตายเหมือนป้าวิเลยนะ สงสาร
 


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มี.ค. 08, 14:41
น้ำอบ ไม่ได้แสดงความสงสัยสักนิดเดียวว่าบาบาตอฟเป็นคนแปลกหน้ามาจากไหน
หรือทำไมมาเปลี่ยนประเด็น ว่า โมนิคไม่ใช่เทาชมพู  แต่เป็นคนอื่น
ทั้งๆไม่รู้จักกันมาก่อน  แต่พอพูดปุ๊บ น้ำอบก็เชื่อปั๊บ
ขอบคุณอย่างอ่อนหวาน  ว่าน้อมรับฟังทุกประการ
ทั้งๆก่อนหน้านี้ คุณโมนิคและสมาชิกพันทิปอีกหลายคน บอกกันว่า ไม่ใช่ เป็นคนละคน
ขนาดคุณโมนิคต้องมาโพส IP ยืนยันว่าอยู่กันคนละทวีป  ก็ยังอุตส่าห์มีทฤษฎี "ปลอม IP"   "หรือโพสมาจากออสเตรเลีย"  กันให้วุ่น   คนไหนเป็นคนพูดก็คงนึกออก
เรียกว่าไม่เชื้อ ไม่เชื่อ  ยังไงก็ไม่เชื่อ

แต่บาบาตอฟพูดหนเดียว  นอกจากน้ำอบเชื่อสนิท  บรรดาคนในเว็บก็พร้อมใจกันเชื่ออย่างพร้อมเพรียง เป็นเสียงเดียว
แปลกจริงๆเลือกเชื่อคนแปลกหน้า ที่ไม่รู้จัก ไม่เคยพูดจากับเจ้าของเว็บมาก่อน

ความเห็นที่ : 1077  โพสต์เมื่อ : 9 ธ.ค. 2550 เวลา 03:25 น.     
 
 คุณน้ำอบ
ระดับสมาชิก :
[ แม่มดใจร้าย ]
จำนวนโพสต์ : 19149
Rank :
แม่เรือนต้อนรับ
 
 สวัสดีค่ะคุณ babatov รู้สึกยินดีที่มาชี้แนะ แนะนำสั่งสอนค่ะ น้อบรับฟังทุกประการ

แต่ดิฉัน แทนที่จะรอดตัวจากข้อกล่าวหา กลับตกที่นั่งเคราะห์ร้ายกว่าเก่า
ทำไมน่ะหรือ  ก็เพราะทันทีที่เชื่อว่า โมนิคเป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่เทาชมพู      แทนที่ดิฉันจะได้รับคำขอโทษ  หรืออย่างไร้ความอายที่สุดก็คือ ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่พูดถึงอีก 
ก็กลับเป็น ถ้อยคำที่หนักหน่วงกว่าเก่า

แต่วินาทีนี้...เรื่องราวและความรุนแรง มิใช่อยู่ตรงปัญหาที่ว่า เทาชมพู คือ โมนิค หรือ โมนิค คือ คุณหญิงวินิตาอีกต่อไป
แต่วินาทีนี้  ..เทาชมพู หรือโมนิค ไม่มีใครเลวไปกว่า คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์
 

อ้าว เป็นงั้นไป  ชวนให้ดิฉันนึกถึงนิทานอีสป เรื่องหมาป่ากับลูกแกะขึ้นมาเสียจริงๆ
ยังไงลูกแกะก็ไม่เคยพ้นผิด  ไม่ว่าจะทำหรือไม่ก็ตาม

เมื่อถึงตรงนี้  ก็มาถึงคำถามว่า babatov ควรรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง ในฐานะพยานหรือว่าจำเลยร่วม?
และมีใครอีกหรือไม่?


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มี.ค. 08, 20:53
น้ำเสียงน้ำอบให้ความเกรงใจนับถือบาบาตอฟมาก  แต่ดิฉันมองไม่เห็นว่าบาบาตอฟมีความรู้สึกในทำนองเดียวกันกับน้ำอบ
เพียงแต่ไปยกย่องหล่อน ถึงขั้นว่าคุณหญิงศิลปินแห่งชาติก็ถูกคุณสั่งสอน ให้หัดทำตัวให้ถูกใจน้ำอบเข้าไว้   
ถ้าเชื่อจริงๆว่าผู้หญิงคนนี้ใหญ่โต  เหมือนคนอื่นๆในเว็บเชื่อ  ก็ยังพอเข้าใจว่าคนเราหลงผิดกันได้ 

แต่นี่ก็ไม่ยักใช่   เพราะบาบาตอฟเองก็บอกดิฉันว่า

second thought ที่ยังไม่ติดต่อยัยอบเรื่องสู้คดีก็คือ
ยัยอบมันเก็บปากไม่อยู่
มีอะไรมันชอบมาโพทนาหน้าบอร์ดเเละเเต่งเติมจนเสียผู้เสียคน
ถ้า บบต ติดต่อไป เด๋วมันเอามาพูดหน้าบอรดชัวร์ป๊าด

อีกตอนหนึ่งก็คือ

เอาน้ำอบมากราบขอโทษ ลงประกาศให้โลกรู้ แล้วอาจารย์ให้อภัยจะสวยกว่า
ใครๆก็รู้ว่ายัยอบไม่เต็ม
เเต่สงสัยว่าทำไมอาจารย์ใจเย็น ไม่ตัดไฟเสียเเต่เเรก
เปลืองสมอง เสียประสาทมาก

ตอนนี้คุณบาบาตอฟก็น่าจะรู้แล้วว่าทำไมดิฉันยังใจเย็นอยู่ได้    คำตอบก็คือต้องการบางคนออกมาสู่ที่สว่างยังไงเล่า
ถ้าเทียบกับน้ำอบแล้ว    ดิฉันเห็นว่าคนที่อันตรายกว่าน้ำอบยังมีอยู่อีกหลายคน  สังคมควรจะรู้จักคนแบบนี้ให้ถ่องแท้


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 มี.ค. 08, 07:59
ดิฉันลองเรียงลำดับเรื่องราวอีกครั้ง  เพื่อขอความเห็น (จากทนายและท่านอื่นๆ)ว่า  มีความเป็นไปได้หรือไม่   ที่
๑) มีใครสักคนไปเป่าหูน้ำอบว่า โมนิคคือเทาชมพู   เพราะรู้ว่าโมนิคคือจุดอ่อนของน้ำอบ  น้ำอบต้องเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา แล้วลุยโดยไม่ยั้งคิดใดๆ
๒) คนนั้นคงจะเพิ่งคิดเรื่องนี้ขึ้นมาทีหลัง   หลังจากเรื่องของน้ำอบเงียบหายไปจากพันทิปตั้งแต่กลางปี ๔๘    เพราะข้อกล่าวหานี้โผล่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเมื่อต้นพ.ย. ๔๙  ทิ้งระยะห่างถึงหนึ่งปีครึ่ง
๓) คนนั้นฉวยโอกาสนี้เมื่อเรือนไทยปิดตัวลงเพราะตัวป่วน  เพราะได้โอกาสว่า ดิฉันจะไม่มีทางชี้แจงหรือโต้ตอบ  จะได้รุมกระหน่ำดิฉันได้ตามสบาย
๔)คุณโมนิคไปตั้งกระทู้กล่าวขออภัยดิฉันที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแต่ถูกลากเข้ามาเป็นจำเลย   กระทู้นั้นถูกเจ้าหน้าที่พันทิปลบทิ้ง  หลังจากตั้งเพียงสองสามวัน จะด้วยอะไรก็ไม่ทราบ  แต่ทำให้เรื่องดิฉันถูกใส่ร้ายและคุณโมนิคมาชี้แจงความจริง  ไม่มีใครรู้กันกี่คน
๕)หลังจากนั้น น้ำอบก็บรรเลงถึงดิฉันเรื่อยมา ยาวนานข้ามปี   ถ้อยคำก็ยิ่งรุนแรงขึ้นทุกทีอย่างที่ก็ได้เห็นกันบางส่วนแล้ว
กลายเป็นความสนุกสนานของคนหลายคน ที่ได้ปลดปล่อยสัญชาตญาณด้านมืด อย่างอิสระ  ไม่มีจริยธรรมหรือความเป็นบัณฑิตเข้ามาเหนี่ยวรั้งได้   ทั้งๆอายุอานามก็พ้นวัยคะนองมานานเป็นสิบๆปีแล้ว ทุกคน
ใครจะศึกษาสัญชาตญาณด้านมืดของคนในโลกเสมือน น่าจะหยิบกรณีนี้ไปวิเคราะห์ นอกเหนือจากกรณีหมิ่นประมาท

ถ้าเขียนเป็นนิยาย หรือทำหนังได้  คงสนุกไม่แพ้ Lord of the Flies


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 มี.ค. 08, 08:17
๖) เมื่อคุณโมนิคแสดง IP ให้เห็นว่าโมนิคและเทาชมพูเป็นคนละคน อยู่คนละประเทศ   ก็มีมากกว่า ๑ คนในเว็บน้ำอบที่พยายามชักจูงให้เห็นว่า เป็น IP ปลอมบ้างละ วานคนอื่นโพสให้บ้างละ   คือไม่ยอมเชื่อ จะเอาผิดให้ได้
ด้วยข้อหาเดิมคือโมนิคคือเทาชมพู
๗) babatov โผล่เข้ามาฟันธงในจังหวะเหมาะว่า เป็นคนละคนแต่ร่วมมือกัน    กลายเป็นข้อหาใหม่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเก่า
๘) จากข้อหาเก่าเรื่อยมาถึงข้อหาใหม่  ว่าดิฉันเป็น "พวกอีไพร่โมนิค"  มีคนหลายคนเข้าไปร่วมวงกับน้ำอบ    สองคนในจำนวนนั้นอยู่ออสเตรเลีย คือรุ่นพี่ของดิฉันและ "พี่พี" ซึ่งไม่เคยรู้จักกัน และดิฉันก็ไม่เคยทำอะไรเขาเลย   
ต่อมาคือ "บาบาตอฟ" ผู้มีสาเหตุส่วนตัวกับดิฉัน ในเรือนไทย
บัดนี้ดิฉันก็รู้หมดแล้วว่าทั้งสามคนเป็นใคร ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน  คนอื่นๆในเน็ตก็มีหลายคนรู้เช่นกัน

๗) ผู้ใหญ่จากรั้วจามจุรี เป็นตัวสมมุติ หรือมีจริง ก็เป็นเรื่องที่จะต้องหาตัวกันต่อไป   
จะเป็น ๓ คนที่ว่ามานี้ใช่หรือไม่  ก็ไม่ทราบ  เพราะจะว่าไปทั้ง ๓ คนนี้ก็เคยอยู่ในรั้วเดียวกันทั้งหมด
แต่ถ้าถามความเห็นว่า มีคนอื่นนอกจากนี้อีกหรือไม่  ดิฉันคิดว่ามีอีก

เรื่องนี้มันเหมือนละครเวทีที่รูดม่านปิดเป็นชั้นๆ   ชั้นแรกจากออสเตรเลีย เผยโฉมออกมาแล้ว
ชั้นที่สอง ก็เพิ่งจะถูกรูดม่าน เปิดเผยออกมา  ว่าเป็นใคร  คนที่บอกเองว่าทำให้เรือนไทยล่ม
และไม่พอใจดิฉันกับคุณพิพัฒน์เป็นส่วนตัว
ตัวละครตัวเล็กตัวน้อย เห็นแว้บๆอยู่แถวหลืบ ก็มีอีกหลายตัว 

แต่ที่สำคัญม่านชั้นที่ ๓ ก็ยังมี

คงจะต้องใช้คำแบบท้ายนิยายเรื่องยาวว่า โปรดติดตามตอนต่อไป
(ไม่ได้ยืดเรื่องแบบละครหลังข่าวนะคะ  กำลังเรียบเรียงข้อมูลซึ่งต้องไปขุดมาจากของเก่า  ประกอบกับหมู่นี้งานข้างนอกประดังเข้ามาด้วย)


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 08, 12:15
ย้อนกลับไปถึงข้อกล่าวหาของ babatov  เสียก่อน   

ท่านสองคนนั้น คือคู่เเทคทีม ที่ปราบหม่อม จนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ในวันวาน
ท่านสองคนนั้น คือคู่เเทคทีม ที่หมายปราบคุณโจ๊ก ให้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ในวันนี้

จากคุณ : Babatov  - [ วันลอยกระทง 18:39:59 ]  

ในเมื่อ babatov เชื่อว่า คุณโมนิคคือคุณ WIWANDA  ก็ย่อมหมายความว่า ดิฉันได้เคยทำอะไรเกี่ยวข้องกับคุณวิวันดา ในอดีต  โดยมี "หม่อม" อะไรคนหนึ่งมาเกี่ยวข้องด้วย
ก็เห็นว่ามีอยู่เรื่องเดียว ที่มีตัวละครครบ ๒ ตัว    คือเรื่องเมื่อปี ๒๕๔๗

ดิฉันเคยสมัครล็อคอินในเว็บพันทิป ไว้ในนาม pinkandgrey  แต่เคยเข้าไปใช้เพื่อตามคุณป้าหนอนมาเล่นลิเกในเรือนไทยวิชาการ  แล้วไม่ได้ใช้อีก
ห่างหายจากห้องสมุดพันทิปไปนานหลายปี  ไม่มีเวลาอ่านเพราะมัวแต่ทำเรือนไทยอยู่    จนวันหนึ่ง เกิดแวะเข้าไป    ก็เจอกระทู้หนึ่ง มีข้อความที่ประหลาดมากในความรู้สึกของดิฉัน
คือกระทู้นี้
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6279561/K6279561.html

กระทู้เฉพาะกิจค่ะ....สมาชิกคณะผู้ร่วมเสวนาเรื่องราชประเพณีขอเชิญทางนี้หน่อยค่ะ
ดิฉันขอความกรุณาเพื่อนร่วมเสวนาเรื่องราชประเพณีทุกท่านช่วยอะไรดิฉันนิดนะคะ ขอความกรุณาสละเวลาตอบคำถามนี้นิดค่ะ

"ถ้าท่านอยู่ในฐานะที่สามารถจะกราบบังคมทูลเสนอชื่อสุภาพสตรีไทยผู้สมควรได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จตุตถจุลจอมเกล้า เนื่องในการพระราชพิธีฉัตรมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๗ แล้ว ท่านเห็นว่าสุภาพสตรีท่านใดในสังคมไทยที่สมควรได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ ขอให้ท่านช่วยจัดอันดับมาสัก ๗-๘ ท่านนะคะ โดยไม่จำเป็นว่าสุภาพสตรีท่านนั้นจะมีชื่อเสียงโด่งดังในวงสังคมหรือไม่ ถ้าสุภาพสตรีท่านนั้นไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง กรุณาระบุด้วยว่าท่านเป็นใครนะคะ"

ถ้าท่านจะกรุณาตอบ ขอความกรุณาตอบอย่างจริงจังและจริงใจด้วยนะคะ อย่าส่งเข้ามาเล่นๆนะคะ ข้อมูลของท่านจะเป็นประโยชน์มากค่ะ ถ้าท่านตอบอย่างจริงจังและจริงใจ

จากคุณ : หม่อมชุลี - [ 27 เม.ย. 47 23:12:42 A:150.237.42.183 X:150.237.47.3 ]  

ที่ประหลาดมาก ก็คือ ดิฉันเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้มาก่อน    รู้ว่า เครื่องราชตระกูลนี้ เป็นเรื่องทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานลงมา  แก่ผู้ถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท หรือผู้ที่ทำความดีความชอบแก่แผ่นดิน   สมควรที่จะทรงพระมหากรุณา
ไม่ใช่เรื่องของการพิจารณาเสนอขึ้นไป  อย่างเครื่องราชตระกูลช้างเผือกและมงกุฎไทย  ซึ่งส่วนใหญ่จะได้แก่ข้าราชการ ที่มีตำแหน่งหรืออายุราชการถึงขั้นตามลำดับที่ควรได้  ทางหน่วยต้นสังกัดก็ทำเรื่องขึ้นไปเอง

เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องมิบังควร  ที่ใครสักคนที่มีแต่นามแฝง จะมาตั้งกระทู้ให้สาธารณชน เสนอชื่อใครก็ได้ตามใจชอบแบบนี้  แล้วยังยืนยันเสียอีกว่า ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
สมมุติว่ามีใครสักคน สามารถจะกราบบังคมทูลพระกรุณา ได้จริงๆ   บุคคลนั้นก็เห็นจะไม่ใช่คนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆแน่นอน   แต่จะต้องเป็นบุคคลสำคัญ ระดับที่ดิฉันเห็นที่ไหนก็ต้องก้มลงกราบ

พออ่านจบ  ดิฉันก็รู้สึกว่า  คนทั่วไปไม่รู้ข้อนี้ ก็อาจจะตอบกระทู้อย่างพาซื่อ   ไม่ควรถือสา  แต่คนตั้งกระทู้  จะพาซื่อหรือไม่ก็ตาม    ควรจะรู้ได้แล้ว ว่าไม่สมควร
คนที่รู้ดีว่าไม่สมควร  อย่างตัวดิฉัน   จะละเลยไม่ได้    จะเอาคำว่า "ไม่เกี่ยว" " ไม่ใช่กงการอะไรของอาจารย์" มาใช้  ก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน
ดิฉันก็เลยล็อคอินเข้าไปถาม


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 08, 12:38
นี่คือคำถามของดิฉันค่ะ

ความคิดเห็นที่ 24   

หม่อมชุลีคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องเบื้องสูง และเป็นเรื่องที่แล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานตามพระราชวินิจฉัย ไม่ใช่เรื่องที่ใครคนใดคนหนึ่งจะตั้งตัวขึ้นมาหาข้อมูลเสนอ จะทำเล่นหรือทำจริงก็ไม่สมควรทั้งนั้น
จะทำเพื่อประโยชน์อันใดดิฉันก็ยังนึกไม่ออก ดูไม่ออกว่าเกี่ยวกับวิชาการ วิจัย ประเพณี ทำโพล ฯลฯ ตรงไหน โดยเฉพาะเมื่อคุณหม่อมชุลีเองก็ไม่ได้แถลงเจตนาให้โปร่งใส ว่าคุณจะขอรายชื่อไปทำไม คุณมีสิทธิ์จะดำเนินการอย่างใดในฐานะอะไร เกี่ยวกับรายชื่อที่ได้รับ และคุณเป็นใคร ถึงจะมีสิทธิ์ทำได้
ชื่อเหล่านี้ คุณก็ไม่ได้ต้องการคุณสมบัติ หรือผลงาน เพียงแต่ขอรายชื่อ ผู้ที่ตอบเข้ามาก็ตอบเพียงสั้นๆแค่ชื่อและอาชีพ โดยมากจะเป็นคนที่รู้จักในแวดวงเดียวกัน แต่คุณเองก็ไม่ได้รู้จักหมดทุกชื่อไม่ใช่หรือ
ถ้าอย่างนั้นคุณจะทำอะไร จึงจะเกิดผลขึ้นมาจากรายชื่อเหล่านี้
ไปติดต่อกับบุคคลเหล่านั้นเพื่อบอกพวกท่านเหล่านั้นว่าคุณกำลังดำเนินการอย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นดิฉันถือว่าเป็นเรื่องอันตราย อาจก่อความเสียหายและเข้าใจผิดได้แก่ผู้เกี่ยวข้อง
แต่ถ้าเจตนาของคุณบริสุทธิ์เป็นเรื่องดีงาม ก็สมควรแถลงให้ทราบชัดเจน

ดิฉันไม่ได้เข้ามาป่วน แต่ข้อข้องใจของดิฉันมีมากเกินกว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้
ขอความกรุณาได้โปรดตอบด้วยค่ะ

จากคุณ : pinkandgrey  - [ 29 เม.ย. 47 09:31:46 ]


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 08, 12:41
และนี่คือคำตอบของหม่อมชุลี

ความคิดเห็นที่ 28 

ดิฉันว่าพวกเราส่วนใหญ่ที่คุยกันในนี้รู้จักดิฉันดีพอสมควร ดิฉันจึงคิดว่าดิฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของคุณ pinkandgrey กระมังคะ ขอบพระคุณในความเห็นนะคะ แต่ถ้าคิดว่าเป็นการน่ารำคาญหรือขัดความรู้สึกของคุณมากคุณก็ไม่ต้องเข้ามาหรอกค่ะ ดิฉันไม่สนใจหรอกค่ะว่า ข้อข้องใจของคุณจะมีมากเกินกว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ อย่างที่คุณว่า มันเป็นสิทธิ์ของคุณจะคิดนะคะ แล้วมันก็เป็นสิทธิ์ของดิฉันที่จะตอบหรือไม่ตอบคุณก็ได้

นอกจากนั้นท่านใดไม่อยากตอบดิฉันก็ไม่ได้ไปบีบบังคับให้ท่านตอบนี่คะ ทิ้งมันไว้เฉยๆไม่ต้องตอบก็ได้

คุณ pinkandgrey คะ ดิฉันไม่ได้ว่าคุณเข้ามาป่วนหรอกนะคะ แต่ดิฉันไม่ค่อยสนใจคุยกับคนที่ดิฉันไม่รู้จัก โดยเฉพาะคนที่โผล่ขึ้นมาก็คิดอะไรกับดิฉันไปในทาง "อกุศล" แบบนั้นเสียแล้ว

เอาเป็นว่าดิฉันพูดเท่านี้นะคะ ขอบพระคุณมาก

จากคุณ : หม่อมชุลี - [ 30 เม.ย. 47 00:25:18 A:150.237.42.191 X:150.237.47.3 ]  


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 08, 12:55
ในเมื่อหม่อมชุลีไม่ตอบคำถามของดิฉัน    จากความแปลกใจ ดิฉันก็เริ่มข้องใจว่าหม่อมชุลีคนนี้เป็นใครกันแน่   
เห็นบอกว่า "ดิฉันว่าพวกเราส่วนใหญ่ที่คุยกันในนี้รู้จักดิฉันดีพอสมควร  "  ก็แสดงว่าเธอไม่ใช่คนหน้าใหม่ และไม่ใช่คนนอกที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว เพิ่งแวะเข้ามาอย่างดิฉัน 
แต่จะต้องเป็นใครสักคน มีชื่อเสียงอยู่ในห้องสมุดพันทิป  จนผู้คนรู้จักกันไม่มากก็น้อย    มีทางเดียวที่จะรู้ก็คือ ไป search หากระทู้อื่นๆที่หม่อมชุลีเข้าไปตอบ  ก็พบว่ามีอยู่หลายกระทู้ทีเดียว ที่แสดงว่าหม่อมมีความรู้ในเรื่องพระราชพิธีต่างๆ   รู้เรื่องพระมหามณเฑียร พระที่นั่ง ฯลฯ ตอบได้ ละเอียดลออคุ้นเคย  ราวกับเป็นชาววัง

อย่างตัวอย่างนี้ค่ะ

นายUPคะ...

ขออนุญาตหม่อมชุลีทักท้วงนายอัพนิดนะคะ หม่อมชุลีว่าการประโคมที่มีการย่ำมโหระทึกร่วมด้วยนั้น ในรัชกาลปัจจุบันมีเพียงเจ็ดวาระค่ะ อันนี้จากการสังเกตเวลาเฝ้าฯ ในงานพระราชพิธีนะคะ

๑. ประโคมในกระบวนพยุหยาตราทั้งทางชลมารคและสถลมารค
๒. ประโคมเวลาเสด็จออกมหาสมาคม (วันฉัตรมงคลตอนพระราชทานตราจุลจอมเกล้า กับวันเฉลิมฯ ตอนเช้า)
๓. ประโคมเฉพาะเวลาถวายน้ำสรง "พระบรมศพ" (ตอนบำเพ็ญพระราชกุศลเจ็ดวัน ห้าสิบวัน ร้อยวัน และตอนถวายพระเพลิงที่พระเมรุมาศก็ไม่เห็นมีมโหระทึกค่ะ)
๔. ประโคมเวลาทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (เฉพาะเวลาทรงเปลื้องพระมงกุฏหรือพระศกไปจนถึงทรงสวมพระมงกุฏหรือพระศกของฤดูใหม่ถวาย ตอนั้นไปก็ตีพิณพาทย์อย่างเดียว)
๕. ประโคมเวลาทรงวางพานพุ่มหรือพวงมาลาในการเสด็จฯพระราชดำเนินถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์รัชกาลต่างๆและพระบรมรูปสมเด็จพระราชบิดาที่โรงพยาบาลศิริราช (เฉพาะการถวายบังคมประจำปีที่ออกกำหนดการ)
๖. ประโคมเวลาทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ในอดีต
๗. ประโคมเวลาทรงจุดธูปเทียนถวายเครื่องบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช และในการบวงสรวงพระมหากษัตริย์ในอดีต
เวลาสรงสหัสธารานั้นจะมีการย่ำมโหระทึกด้วยหรือไม่ไม่แน่ใจเพราะยังไม่เคยเห็นค่ะ ส่วนเวลาทรงจุดธูปเทียนบูชาพระแก้วในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตน์ฯ, ในพระที่นั่งดุสิตฯหรืออมรินทร์ฯ หรือในพระอารามหลวงอื่นๆอย่างในการพระกฐินหลวงไม่มีการประโคมมโหระทึกนะคะ ประโคมฆ้องชัย แตรสังข์และปี่พาทย์เท่านั้นค่ะ (งานพระกฐินหลวงไม่มีการลั่นฆ้องชัย เมื่อทรงรับผ้าพระกฐินแล้วสังข์เริ่มเป่าเลยค่ะ เช่นเดียวกับการบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิหรือทักษิณานุปทานก็ไม่มีลั่นฆ้องชัยค่ะ)

(ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตน์ฯนั้นมีมโหระทึกตั้งประจำอยู่คู่หนึ่ง แต่จะใช้ย่ำเฉพาะเวลาเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วเท่านั้นค่ะ)

จากคุณ : หม่อมชุลี - [ 21 เม.ย. 47 09:21:25 A:150.237.42.190 X:150.237.47.4 ]     

รู้ถึงขนาดคุณ UP ยอมรับได้ว่าแม่นยำกว่า ก็แสดงว่าหม่อมชุลีเห็นจะรอบรู้อยู่มากในเรื่องเหล่านี้

ความคิดเห็นที่ 54   

ขอบพระคุณคุณหม่อมชุลีที่กรุณาทักท้วงมาครับ เป็นได้ว่าผมสับสนจำผิด ขอยอมรับแต่โดยดี
...........................
ส่วนในการสรงมุรธาภิเษกครับ จำได้ว่าในภาพยนตร์ส่วนพระองค์เมื่อฉายไปขณะไขสหัสธาราแล้วก็ฉายกล้องไปทางชาวประโคมทั้งหลาย มีการกระทั่งมโหระทึกครับ

มโหระทึกในอดีตนั้นน่าจะได้ออกงานบ่อยกว่าเท่าที่ปรากฏในทุกวันนี้ เพราะดูเหมือนพระอารามหลวงทั้งหลายก็มีมโหระทึกประจำพระอุโบสถอยู่หลายแห่ง หากคุณหม่อมฯ กรุณาอธิบายว่ามโหระทึกนั้นๆ ใช้ในโอกาสใด ย่อมเป็นพระคุณยิ่งครับ
แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 47 12:10:42
แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 47 12:04:45
แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 47 11:08:19

จากคุณ : นาย UP  - [ 21 เม.ย. 47 11:04:32 ] 


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 08, 20:55
ในอีกกระทู้หนึ่ง คือกระทู้ "เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ถ้าฝ่ายมารดาได้ จะตกทอดถึงลูกมั๊ยครับ"
มีข้อความที่หม่อมชุลีพูดถึงตัวเอง ดังนี้ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 11 
เห็นกระทู้นี้แล้วก็ได้แต่หวังว่าปีนี้หม่อมชุลีจะได้ "เลื่อน" ขึ้นไปเสียทีนะคะ
จากคุณ : หม่อมชุลี - [ 26 เม.ย. 47 20:07:14 A:150.237.42.191 X:150.237.47.2 ] 

พระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องราชฯตระกูลจุลจอมเกล้า  ในวันฉัตรมงคล คือ ๕ พฤษภาคมของทุกปี    คือไม่กี่วันข้างหน้าของวันที่ ๒๖ เมษายน
คำว่า "เลื่อน" สำหรับผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราช ตระกูลนี้ หมายความว่า เคยได้รับพระราชทานมาแล้ว และจะได้ "เลื่อน"ชั้น สูงขึ้นกว่าเดิม
ถ้าเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานเป็นครั้งแรก   ไม่ใช้คำว่า "เลื่อน" อย่างที่เราเรียกว่า "คุณหญิงใหม่"

หม่อมชุลีพูดจริงหรือไม่ก็ตาม  แต่ก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดีล่วงหน้า 

ความคิดเห็นที่ 13 
หม่อมชุลี
ขอแสดงความยินดีล่วงหน้านะครับที่จะได้ "เลื่อนขึ้น" ด้วยผ้าไหมทองดงามวิจิตรจากศูนย์ศิลปชีพหนึ่งพับใหญ่เพื่อใช้ในงานนี้ครับ
ด้วยจิตโมทนา
จากคุณ : มณีนพรัตน์ - [ 26 เม.ย. 47 20:49:12 A:203.107.195.26 X: ]

คำตอบของหม่อมชุลีก็คือ

ความคิดเห็นที่ 15 
อุ๊ยคุณมณีฯขา....
อย่าเพิ่งยินดีค่ะ.....อย่าเพิ่ง ไม่ได้ขึ้นมาแล้วจะยุ่งค่ะ อิอิอิอิอิ.... เรื่องผ้าไม่ต้องหรอกค่ะ มีชุดอยู่แล้วนะคะ

จากคุณ : หม่อมชุลี - [ 26 เม.ย. 47 23:41:24 A:150.237.42.191 X:150.237.47.2 ]

หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดี ในน้ำเสียงยั่วเย้าอีกสองสามคน

ความคิดเห็นที่ 16   
วันที่ 4 พฤษภาจะรีบไปซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านครับ จะได้เอาข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าคนไหนน่าจะเป็นคุณหม่อมชุลี \(^_^)/

จากคุณ : Magnificum (Magnificum)  - [ 27 เม.ย. 47 12:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ยินดีกับคุณหม่อมชุลีด้วยครับ ผมเองเป็นผู้น้อยคงจะต้องขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

เอ...ฉลองเลยดีกว่า กินที่ร้านมิ่งหลีเป็นไงครับ อยู่หน้าวังเลย ผมจะไปนั่งรอ...อิอิอิ

จากคุณ : ออกญาศรีราชเดโชชัย - [ 27 เม.ย. 47 17:17:32 A:unknown X:203.148.208.104 ]

ดิฉันอ่านแล้ว ก็ได้แต่งุนงงว่าพวกนี้เขาเล่นอะไรกันอยู่  ถ้าหากว่าพูดเล่น  ดูภาษาที่ใช้ก็ไม่ใช่เด็กวัยคะนองที่พูดเล่นเฮฮาไปตามประสาวัยรุ่น     ยิ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว  ทำไมเลือกเรื่องนี้มาพูดเล่นกัน 
แต่ถ้าพูดจริง  ก็แปลกใจว่าคนที่อยู่ในฐานะจะ "เลื่อน" ได้  มีความรู้เรื่องพระราชพิธีและเรื่องปราสาทราชมณเฑียรออกสารพัด จะไม่รู้ทีเดียวหรือว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด

ยิ่งประโยคนี้  ไม่ควรเขียนออกมาเลย

น้อง natthasetคะ

ไอ้เจ้า "ตติยานุ...(ขอเว้นคำค่ะ)" นั่นมันเป็นตราสืบตระกูลของพวกที่ปู่หรือทวดเขาได้ "ปฐม(ขอเว้นคำค่ะ)" ค่ะ โดยมากพวกราชสกุลผู้ชายที่สืบมาจากสมเด็จเจ้าฟ้าฝ่ายหน้าหรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอรุ่นใหญ่ๆน่ะ คนที่อาวุโสที่สุดในแต่ละราชสกุลจะได้รับพระราชทานไว้ค่ะ แล้วสืบไปยังลูกชายคนโตของเขา แล้วก็ต่อๆกันไปจนกว่าจะหาคนสืบไม่ได้ด้วยนะคะ
จากคุณ : หม่อมชุลี - [ 27 เม.ย. 47 23:36:27 A:150.237.42.183 X:150.237.47.3 ]

เครื่องราชตระกูลนี้ มีพระนามพระมหากษัตริย์ประกอบอยู่ด้วย    จะสืบตระกูลหรือพระราชทานโดยตรง ก็ไม่บังควรเอ่ยถึงอย่างไม่เคารพ 
ดิฉันก็ได้แต่แปลกใจว่าผู้ที่ร่วมสนทนากันอยู่  ทำไมไม่มีใครค้านหม่อมชุลีสักคน


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 08, 21:10
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ดิฉันยิ่งข้องใจมากขึ้นเป็นลำดับว่า หม่อมชุลี เป็นใครกันแน่   เธอเป็นบุคคลผู้มีเกียรติยศสูงดังที่แย้มๆเกี่ยวกับตัวเองจริงหรือไม่   
เพราะดูๆ  เธอก็เป็นที่ยกย่องของคนหลายคนที่มีความรู้ในเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีดี
อย่างคุณ UP ก็ออกมารับรอง  เมื่อหม่อมชุลีประกาศอำลา
 
ความคิดเห็นที่ 45

ผมไม่เห็นว่าคุณหม่อมฯ จะมีเจตนาทุจริตใดๆ ในการเข้ามาให้ความรู้ในที่นี้นะครับ น่าเสียดายมากที่คุณหม่อมฯ ตัดสินใจจะไม่ร่วมสนทนาอีกต่อไป หากคุณหม่อมฯ เห็นสิ่งใดขาดตกบกพร่องหรือควรนำมาเล่าสู่กันฟังในแต่ละกระทู้ในห้องนี้ ขออย่าได้ลังเลที่จะเข้ามาเสวนากันอีกเหมือนเคยนะครับ

อย่างน้อยคุณหม่อมฯ ก็พึงภูมิใจได้ว่าเป็นผู้จุดประกายให้หลายๆ คนไม่จำกัดว่าเป็นผู้ใหญ่หรือเยาวชน หันมาสนใจในเรื่องวัฒนธรรมประเพณีไทย ผ่านถ้อยคำสำนวนอันสนุกสนานและเป็นกันเอง แม้จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งก็ตาม แต่ก็นับเป็นช่วงเวลาที่มีค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้รักในเรื่องราชประเพณีและวัฒนธรรมไทยครับ

ตอนนี้ผมก็ได้แต่รอให้คุณหม่อมฯ เปลี่ยนใจกลับมาเสวนากันเหมือนเคย

หลายครั้งที่ผมคิดจะเลิกโพสข้อความในกระทู้ต่างๆ เพราะเหตุผลประการต่างๆ บางทีก็มีเรื่องกระทบใจก็อยู่เหมือนกัน เรื่องการติติงนั้นโดยส่วนตัวผมแล้วยินดีน้อมรับเป็นอย่างยิ่งเพราะผิดก็คือผิด เมื่อมีผู้ติติงแก้ไขก็เป็นเรื่องน่ายินดี แน่นอนว่าแต่ละท่านย่อมมีทรรศนะและความรู้สึกนึกคิดที่ต่างกันไป และนั่นคือธรรมดาของโลก แต่ในบางคราวผมก็รู้สึกได้ครับว่าการติติงของบางท่านมีนัยและน้ำเสียงที่ค่อนข้างทำร้ายความรู้สึกพอสมควร เราอ่านก็พอจะทราบอยู่ว่าความหมายระหว่างบรรทัดที่แทรกอยู่ในนั้นว่าเป็นไปในเชิงบวกหรือลบ อคติหรือไม่อคติ จ้องจับผิดหรือจะติเพื่อก่อ หมั่นไส้หรือนิยมชมชอบ แถมการเรียบเรียงความคิดเรื่องเหล่านี้ออกมาเป็นถ้อยคำแล้วเขียนลงเป็นลายลักษณ์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การเขียนในเวบบอร์ดลักษณะนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะได้สตุ้งสตางค์หรือเกียรติยศชื่อเสียงอะไรตอบแทน
                                                    ฯลฯ

จากคุณ : นาย UP  - [ 30 เม.ย. 47 13:08:58 ]  


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 08, 21:21
ดิฉันเข้าไปถามเพียงครั้งเดียวในนาม pinkandgrey เมื่อไม่ได้รับคำตอบ  ก็ไม่ได้โพสอะไรอีกจนจบเรื่อง
เพราะจับจากน้ำเสียงได้ว่า หม่อมชุลีคงจะไม่พอใจ 

ส่วนท่านอื่นๆ ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าไม่พอใจดิฉันด้วยหรือไม่   อาจจะรู้สึกเหมือนที่คุณ UP โพสไว้ก็ได้

แต่ในบางคราวผมก็รู้สึกได้ครับว่าการติติงของบางท่านมีนัยและน้ำเสียงที่ค่อนข้างทำร้ายความรู้สึกพอสมควร เราอ่านก็พอจะทราบอยู่ว่าความหมายระหว่างบรรทัดที่แทรกอยู่ในนั้นว่าเป็นไปในเชิงบวกหรือลบ อคติหรือไม่อคติ จ้องจับผิดหรือจะติเพื่อก่อ หมั่นไส้หรือนิยมชมชอบ  

อย่างไรก็ตาม  ดิฉันก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดีว่าหม่อมชุลีตั้งกระทู้ขอให้เสนอผู้ที่สมควรได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ  ไปทำไม เพื่ออะไร   คนอื่นๆก็ไม่มีใครมาตอบให้หายข้องใจ   แต่ไปพูดประเด็นอื่น เช่นห่วงใยความรู้สึกของหม่อมชุลีแทน

ใจดิฉันนั้น ตอนแรกเดาว่าหม่อมชุลีเป็นเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี  สำนักพระราชวัง เพราะความรอบรู้ส่อแนวไปทางนั้น     หรือถ้าไม่ใช่ ก็ต้องเป็นคนที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมในพระบรมมหาราชวัง ของอาจารย์แน่งน้อย ศักดิ์ศรี แบบแฟนพันธุ์แท้
แต่ก็ขัดกับถ้อยคำบางคำของเจ้าตัว  เพราะคนทำงานหน้าที่ดังกล่าวก็ไม่น่าจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา

ดิฉันก็มองหาว่าใครบ้างที่พอจะบอกได้ว่าหม่อมชุลีเป็นใคร หรืออย่างน้อยควรรู้ว่าคนที่นี่เขาคิดว่าหม่อมชุลีเป็นใคร

ในกระทู้ที่ดิฉันเข้ามา  ดิฉันก็มองเห็นว่าสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า WIWANDA น่าจะเป็นคนตอบคำถามนี้ได้    เพราะดูจากถ้อยคำ  เธอเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ตอบในเชิงทะนุถนอมความรู้สึกของหม่อม และไม่สนใจจะตอบดิฉันอย่างคนอื่นๆ
นั่นก็คือครั้งแรกที่ดิฉันรู้จักคุณ WIWANDA


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 08, 22:10
ค.ห.ของคุณวิวันดาในกระทู้ที่ดิฉันเข้าไปถามหม่อมชุลี ก็คือ

ความคิดเห็นที่ 25   
เห็นด้วยกับคุณ pinkandgrey ค่ะ

มิใช่ว่าจะลบหลู่คุณหม่อมแต่อย่างใดนะคะ แต่ไม่ค่อยเข้าใจในเจตนา เพราะว่า เท่าที่ทราบเรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ที่ได้มีการตระเตรียมโดยหมู่คณะทำงานใต้เบื้องยุคลบาทฯ มิใช่เป็นหน้าที่ของคนหนึ่งคนใดไม่
อีกทั้งต้องขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัยในขั้นตอนสุดท้ายด้วย เรื่องนี้ ไม่น่าที่จะเป็นเรื่องเอามาคุยกันในหมู่ชาวเน็ทให้เอิกเกริกไป ถ้าเป็นคนอื่น ที่ไม่ประสีประสา
นั่นก็ถือว่า ไม่รู้ควรไม่ควร ตามประสาชาวบ้าน
หากแต่..คุณหม่อมที่เป็น"ชาวข้างใน" ฉันจึงนึกหวาดเสียวแทน คิดว่าไม่เหมาะสมต่อการที่ตั้งกระทู้แบบนี้

จึงเรียนมาเพื่อ"ติง"เท่านั้นละค่ะ มิได้มีอคติอย่างใดไม่

จากคุณ : WIWANDA  - [ 29 เม.ย. 47 09:57:22 ]

คุณวิวันดาเป็นใครก็ไม่ทราบ  แต่ในห้องสมุดตอนนั้น ดิฉันเจอชื่อเธออยู่ในหลายกระทู้ด้วยกัน     ก็คิดว่าเธอคงจะเล่นในห้องนี้มาพักใหญ่แล้ว น่าจะรู้ความเคลื่อนไหวในห้องมากพอควร

ดิฉันก็เลยหลังไมค์ไปถามคุณวิวันดา  ในเรื่องหม่อมชุลีว่าเป็นใคร  และบอกชื่อจริงของตัวเองไปด้วยเพื่อยืนยัน ว่าถามจริงๆ ไม่ใช่แค่อยากรู้เล่นๆ
ก็ได้คำตอบมาว่า  คุณวิวันดาเองก็ไม่ทราบว่าหม่อมชุลีเป็นใคร    แต่มีการเดาไปต่างๆนานา   

เหตุการณ์ต่อไปนี้ ค่อนข้างวุ่นวาย ดิฉันอาจจะลำดับผิดไปบ้าง   
แต่เท่าที่จำได้คือหม่อมชุลีประกาศอำลาพันทิป    และกระทู้ของหม่อมชุลีก็หายไป ดูเหมือนหนึ่งหรือสองกระทู้    ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ

ก็มีคนตั้งกระทู้ต่อว่าต่อขานกันอึงคะนึง   ว่าทำไมกระทู้ดีๆถูกลบ เสียดายกันยกใหญ่     
ต่อจากนั้นก็คือการต่อว่าต่อขานผู้ลบกระทู้กันรุนแรง    ดูเหมือนทุกคนจะเชื่อว่ามีใครคนหนึ่งแจ้งลบกระทู้หม่อมชุลี  และคนที่ต้องสงสัยก็คือดิฉัน
คนที่ด่าว่ารุนแรงนั้น  บางคนก็ถอดล็อคอินเข้ามา    ดูจาก IP  มาจากมหาวิทยาลัยดังในสหรัฐก็มี
ทั้งๆที่ความจริงคือ เจ้าของกระทู้เขาแจ้งลบไปทางพันทิปเอง  แต่แพะรับบาปเป็นอีกคน


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 09:53
คุณวิวันดาเล่าว่า ไม่มีใครรู้ว่าหม่อมชุลีเป็นใครก็จริง  แต่จากที่หม่อมพูดถึงตัวเอง ก็เหมือนเป็นสตรีสูงศักดิ์ท่านใดท่านหนึ่ง จึงเกิดเสียงเล่าลือว่าอาจเป็นท่านนั้นบ้าง ท่านนี้บ้าง
ดิฉันตอบเธอว่า จาก IP ของหม่อม แสดงว่าส่งมาจากต่างแดน    สตรีสูงศักดิ์ทุกท่านเหล่านั้น  ในขณะนั้นอยู่ในประเทศไทย    ไม่มีท่านใดอยู่ต่างแดนแน่นอน

คุณวิวันดา ช่วย search หา IP ที่เหมือนกับของหม่อมชุลีใช้  ให้ดิฉัน  เท่าที่พบใน pantip ก็มีหลายกระทู้เหมือนกัน ที่ส่งมาจากที่เดียวกันคือสถานศึกษาแห่งหนึ่งในต่างแดน
หนึ่งในจำนวนที่คุณวิวันดาพบ ก็คือกระทู้นี้ จากอีกห้องหนึ่งของพันทิป

"ประกาศให้ทุนอุดหนุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาชายในสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี"

กองทุนมหาปรมาภรณ์เป็นกองทุนการศึกษาอิสระที่จัดตั้งโดยกลุ่มนักวิชาการอิสระ ประสงค์จะให้ทุนอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายเดือนสำหรับนักศึกษาชายระดับปริญญาตรี
สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกสาขาที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 4 ทุน นักศึกษาชายที่สนใจจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ - อายุไม่เกิน 25 ปี - ถือสัญชาติไทย - มีฐานะยากจน บิดามารดาหรือผู้ปกครองไม่สามารถส่งเสียได้หรือส่งเสียได้แต่ไม่เต็มที่ -
เป็นผู้ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ - เป็นผู้มีความสุภาพเรียบร้อย บุคลิกภาพดี นักศึกษาที่สนใจกรุณาส่งประวัติ, ภาพถ่ายและจดหมายขอรับทุนในรูปเรียงความไปทางอีเมล์ Boromphiman@yahoo.com
เมื่อคณะกรรมการบริหารกองทุนพิจารณาแล้วจะได้ติดต่อกลับไปเพื่อนัดเวลาสัมภาษณ์ จากคุณ : กองทุนมหาปรมาภรณ์ - [ 7 เม.ย. 47 23:14:55 A:150.237.47.4 X:150.237.42.182  

ทุนนี้ฟังแล้วก็คงเป็นเรื่องตลก  เพราะกลุ่มนักวิชาการอิสระนั้นอยู่ต่างประเทศ  จะสัมภาษณ์กันแบบไหน  อย่างไร
ถ้าหากว่าพิจารณากันเฉพาะหลักฐานเอกสาร  ส่งทางอีเมล์  จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ขอรับทุนนั้นแจ้งหลักฐานจริง   
เท่าที่อ่านก็ไม่เห็นจะพูดถึงหลักฐานการศึกษา หรือจดหมายรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษา  อย่างการขอทุนทั่วไป
แล้วยังรับเฉพาะนักศึกษาชาย บุคลิกภาพดี เสียด้วย

กระทู้นี้มีอายุงานสั้นมาก   อยู่ไม่กี่วันก็ลบไป ไม่ทราบว่าแจ้งลบเองหรือทางทีมงานลบ

และ IP จากสถานศึกษาเดียวกันนี้ปรากฏอยู่ในกระทู้ที่ตั้งขึ้นเพื่อโจมตี" pinkandgrey" ซึ่งคนโพสความเห็นนี้ รู้แล้วว่า "เทาชมพู" มาจากเว็บวิชาการ


ความคิดเห็นที่ 10
 
คนเรานี่ก็แปลกนะครับ ตัวเองก็เป็น "ผู้ทรงคุณวุฒิ" มีเว็บบอร์ดให้ความรู้คนเป็นส่วนตัวอยู่ดีๆแล้ว  แถมยังทำเก๋ตั้งชื่อแฝงให้ตัวเองเป็น "สี"ของสถาบันการศึกษาสำคัญของเมืองไทยเสียอีก
(จะอ้างตัวว่าเป็นคนของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแถวๆถนนพญาไทหรือคณะเด่นคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยข้างๆก็ไม่อาจรู้ได้)
ทำตัวเด่นดังได้ขนาดนั้นแล้วก็ไม่เห็นน่าจะต้องเข้ามา "เกะกะระราน"กลุ่มคนเล็กๆที่เขาสนทนากันด้วยอัธยาศัยไมตรีแบบพี่ๆน้องๆ กันอยู่ดีๆแท้ๆ ทำเอากลุ่มเขากระเจิงหมด กระทู้ดีๆเขาก็พลอยปิดไปด้วย  ทำเป็นอ้าง "ความถูกต้อง"เข้ามาจัดระเบียบคนอื่นโดยไม่ดูตัวเองเสียก่อน......คนแบบนี้ต่อให้ทรงคุณวุฒิถึงระดับศาสตราจารย์ก็ไม่ต่างอะไรกับ"คนพาลข้างถนน" คนหนึ่งเท่านั้น
 
อย่ายอมให้คนพาลประเภทนี้เข้ามาทำลายความสัมพันธ์อันดีของพวกคุณอีกต่อไปเลยนะครับ
 
จากคุณ : WWW - [ 2 พ.ค. 47 01:28:26 A:150.237.42.191 X:150.237.47.2 ]


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 19:34
ถ้าว่าโลกแคบ ก็คงจะจริง  เพราะว่าสถานศึกษาแห่งนั้น  สมาชิกแฟนคลับคนหนึ่งของดิฉันมีเพื่อนเรียนอยู่
ก่อนหน้านี้  มีนักเรียนไทยคนหนึ่งที่สถานศึกษานั้น  ชอบแวะเข้าไปในเว็บสกุลไทยเป็นประจำ  โพสอะไรต่อมิอะไร
เจ้าตัวเมื่ออ่านมาถึงค.ห.นี้ก็คงรู้ว่าโพสอะไรไว้  ใช้ชื่ออะไรบ้าง   ไม่อยากจะบอกมากกว่านี้
เขาช่างพูดเอาการเหมือนกัน  รวมทั้งเรื่องส่วนตัวที่พลั้งเผลอเล่าเรื่อยเปื่อยไปด้วย

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ เว็บบอร์ดสกุลไทยนั้นโชว์ IP สำหรับแอดมิน  แต่คนทั่วไปมองไม่เห็น   IP มันจึงขึ้นหรา ให้เช็คได้  ว่าหลายๆชื่อในนั้นมาจาก IP เดียวกันหมด
เมื่อสมาชิกแฟนคลับคนนั้นถามเพื่อนที่อยู่สถานศึกษาแห่งนี้  เพื่อนก็รู้จักว่าเป็นใคร    ดิฉันก็เลยรู้จักตัวและชื่อเสียงเรียงนามเป็นครั้งแรก

ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอกันอีกในเว็บพันทิป   บอกแล้วว่าโลกมันแคบ

หลังจากนั้น คุณวิวันดาคงจะติดต่อหลังไมค์ไปหาเขา   เพราะในที่สุดเธอก็ส่งข่าวมาให้ทราบว่า รู้แล้วว่าเป็นใคร
เพราะเขายอมเปิดเผยตัวตนจริง


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 21:24
"เรียน  คุณ WIWANDA ที่เคารพ
>
>ผมคือผู้ที่ใช้นามแฝง "หม่อมชุลี" ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเว็บบอร์ดพันธ์ทิพย์เกี่ยวกับเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีในราชสำนัก คุณWIWANDA เองก็คงทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวผมเองแล้วนะครับ ดังนั้นคงไม่ต้องเรียนแนะนำตนเองอีก ที่ตัดสินใจส่งอีเมล์ฉบับนี้มาถึงคุณ WIWANDA เป็นการส่วนตัว ก็เนื่องจากจะขอรบกวนเวลาเพื่อเรียนชี้แจงในเรื่องบางเรื่องที่ทั้งคุณ WIWANDA และผมอาจเข้าใจไม่ตรงกันนะครับ
>
>ผมได้อ่านความคิดเห็นของคุณ WIWANDA ที่ได้เขียนขึ้นอีกครั้งในวันที่ ๕ พฤษภาคม ในกระทู้ส่วนตัวของคุณ WIWANDA เองด้วยความไม่สบายใจครับ ความไม่สบายใจของผมนั้นไม่ใช่ด้วยเหตุที่ได้ทราบว่าคุณ WIWANDA ทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวผมนะครับ เพราะผมทราบดีครับว่าการส่งความคิดเห็นแต่ละครั้งในเว็บบอร์ดต่างๆนั้นข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้ส่งจะปรากฏอยู่ทางเว็บมาสเตอร์เสมอ กระนั้นผมเองก็ยังส่งความเห็นอยู่เสมอ เพราะในการเขียนแสดงความคิดเห็นแต่ละครั้งผมเขียนด้วยความบริสุทธิ์ใจครับ ขอเรียนย้ำว่าเป็นการเขียนด้วยความบริสุทธิ์ใจ คิดเห็นอะไรอย่างไรก็พูดออกไปตามที่คิดครับ แต่การที่จะต้องใช้นามแฝงหรือแม้แต่แสดงความคิดเห็นในนามของสุภาพสตรีนั้นก็ด้วยความเข้าใจว่าเป็น "สิทธิ์ที่เราพึงกระทำได้" ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางเว็บบอร์ด ลักษณะนี้ ผู้เข้ามาสนทนาหลายท่านก็ไม่ได้ใช้นามจริงๆ และผมยังเชื่อมั่นด้วยครับว่ายังมีอีกหลายท่านที่แสดงความคิดเห็นในฐานะเพศตรงข้าม ก่อนที่จะได้เข้ามาสนทนาในเว็บ "ห้องสมุด" ผมเองก็เคยได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นไว้ในเว็บ "ไกลบ้าน" มาแล้ว ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจตอบและแสดงความคิดเห็นกันหลายราย


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 21:26
การแสดงความคิดเห็นครั้งนั้นขอเรียนว่าผมไม่ได้คิดว่าเป็นการเขียน "เรื่องโกหกพกลม" มาหลอกลวงท่านผู้ใดนะครับ แต่เขียนออกมาเป็นเชิงบรรยายความรู้สึกของตนเองต่อชีวิตการเรียนในประเทศอังกฤษผ่าน "คนเพศตรงข้าม" อีกคนหนึ่ง ซึ่งแน่นอนครับ.....ผมคิดว่าผมมีสิทธิ์สมมติข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับ "ตัวละคร" ของผมตัวนั้น ซึ่งแน่นอนผมได้สมมติไปว่าความเห็นของผมนั้นแสดงผ่านทางนักเรียนปริญญาเอกคนหนึ่งที่ได้ทุนรัฐบาล ในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม แต่การที่ต้องมีการแต่งแต้มสีสันไปว่า "เคยได้รับทุนพระราชทานของสมเด็จพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่พระองค์หนึ่ง" ก็เพื่อเป็นการทำให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น ขอเรียนด้วยความบริสุทธิ์ใจครับว่ามิได้ตั้งใจจะแอบอ้างพระนามสมเด็จพระบรมวงศ์พระองค์ใดทั้งสิ้น เพราะถ้าประสงค์เช่นนั้นจริงๆแล้วจะเขียนไปทำไมว่า "สมเด็จพระบรมวงศ์พระองค์หนึ่ง" ยอมรับครับว่าเป็นการแต่งแต้มสีสันอย่างที่คุณ WIWANDA เห็นจริงๆ แต่ไม่ได้มีความตั้งใจให้เป็นการหมิ่นพระเกียรติเจ้านายพระองค์ใดแต่อย่างใด
>
>ส่วนการแสดงความคิดเห็นของผมในเว็บ "ห้องสมุด" อันว่าด้วยเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีในราชสำนักนั้นก็ขอเรียนว่าส่งมาเพื่อร่วมสนทนาอีกเช่นกันกับเพื่อนๆที่มีความสนใจในสิ่งเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคุณ WIWANDA ก็คงได้เห็นแล้วนะครับว่ามีใครบ้าง และคุณวิวันดาก็คงเห็นอีกเช่นกันล่ะนะครับว่าแทบจะทุกคนก็ใช้นามแฝงในการสนทนาด้วยกันทั้งสิ้น แต่ผมนั้นแปลกกว่าหน่อยก็ตรงที่แสดงความคิดเห็นในนามของสุภาพสตรีอีกเช่นเดียวกัน ในการแสดงความคิดเห็นแต่ละครั้งก็มีการพูดจาคึกคะนองกันไปบ้างจนท่านที่ไม่เข้าใจอาจมองว่าเป็นการไป "อำ" ใครต่อใครว่าผู้ใช้นามว่า "หม่อมชุลี" นั้นเป็น "คนข้างใน" เอาจริงๆ แต่ถ้าคุณ WIWANDA จะกรุณาอ่านความเห็นที่เขียนไปแล้วทุกๆความเห็นคุณ WIWANDA ก็คงจะเห็นได้ว่าผมจะมีการพูดทีเล่นทีจริงไว้เสมอว่าอย่าได้ถือเอาคำพูดของผมเป็นจริงเป็นจัง เคยเขียนบอกไปตรงๆด้วยซ้ำนะครับว่าไม่ได้เป็นคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่อะไรอย่างชื่อที่ใช้ เป็นคนธรรมดาสามัญคนหนึ่งเท่านั้น ขอเรียนด้วยความบริสุทธิ์ใจครับว่าไม่ได้มีความตั้งใจจะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดแบบ "แขกขายยา" ดังที่คุณ WIWANDA ได้วิจารณ์ไปนะครับ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 21:28
ความตั้งใจจริงๆก็คือต้องการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหมู่ผู้ที่สนใจเรื่องทำนองเดียวกัน และอาจมีการชวนกันไปทำกิจกรรมบางประเภทที่สนใจร่วมกันบ้าง เช่นการจัดโคมบูชาพระไปถวายที่วัดพระแก้วในงานพระราชกุศลวิสาขบูชา ดังที่คุณ WIWANDA เองก็ยังส่งความเห็นเข้ามาอนุโมทนาด้วย ซึ่งผมเองรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของท่านอย่างจริงใจนะครับ
>
>ปัญหาหนักที่เกิดขึ้นก็คือเมื่อผมตั้งกระทู้เกี่ยวกับการเสนอชื่อสุภาพสตรีผู้สมควรได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า แต่แรกก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร จนเมื่อท่านผู้ใช้นามแฝง "Pink&Grey" หรือคุณเทาชมพูท่านเข้ามาเห็นเข้าท่านก็ทักท้วงมา ขอให้ชี้แจงว่ากำลังทำอะไร ขออนุญาตเรียนตามตรงนะครับคุณ WIWANDA ว่าเวลานั้นก็รู้สึกไม่พอใจที่ทำไมท่านเข้ามาพูดแบบนั้น ทั้งๆที่ชื่อกระทู้ก็บอกอยู่แล้วว่าสำหรับสนทนากันในหมู่เพื่อนๆที่สนใจเรื่องราชประเพณีด้วยกัน แต่คุณเทาชมพูท่านมาถึงท่านก็เข้ามาเหมือนต่อว่า ผมเองด้วยความที่ขาดประสบการณ์และขาดความยั้งคิดไปหน่อยก็ตอบท่านไปแรงพอสมควร แต่มิได้มีเจตนาจะไปสร้างความเป็นศัตรูกับท่านแต่อย่างใด เมื่อท่านตอบกลับมาอย่างแรงและค่อนข้างเคร่งเครียดอีกเช่นกัน ผมจึงเห็นสมควรลบกระทู้นั้นทิ้งเสีย เพราะเวลานั้นก็ไม่สบายใจแล้วว่าทำไมเราถูกต่อว่าได้ขนาดนี้ ไม่ได้มีเจตนาอย่างที่คุณเทาชมพูท่านต่อว่ามาแต่อย่างใด แต่ที่ไม่ตอบท่านไปอย่าง "โปร่งใส" ก็เพราะตนเองก็ไม่สู้จะพอใจในการใช้ถ้อยคำของท่านเท่าใดนัก แต่เพื่อความสบายใจและเพื่อความ "โปร่งใส"
>  อย่างแท้จริงก็เห็นจะต้องเรียนคุณ WIWANDA ไว้ตรงนี้นะครับว่า เป็นการขอความเห็นแบบ "ไม่ซีเรียส" กันในระหว่างเพื่อนๆจริงๆ ไม่คิดเลยครับว่าจะถูกมองไปว่าจะกระทำการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง แต่การที่เขียนไปว่า "ข้อมูลที่ได้จะเป็นประโยชน์" นั้นขอเรียนว่ามิได้เป็นการประสงค์จะนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใดนะครับ ที่เขียนไปเช่นนั้นก็เพราะตนเองแน่ใจว่าเว็บบอร์ดของพันธ์ทิพย์นั้นมี "บุคคลระดับสูงยิ่ง" หลายท่านมักจะผ่านเข้ามาอ่านอยู่เสมอๆ หากท่านได้แวะเข้ามาอ่านพบการเสนอชื่อแบบสมมติท่านอาจพิจารณานำไป "กราบบังคมทูลพระกรุณา" เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยจริงๆก็ได้ เท่ากับเป็นการส่งเสริมผู้ที่เราเห็นกันว่าเหมาะสม ตัวผมเองยังเสนอไปเองตั้งหลายชื่อ (แต่เสนอไปโดยใช้ชื่ออื่นนะครับ) ขอเรียนตามตรงว่าเวลานั้นมิได้คิดในประเด็นเรื่อง "ความเหมาะสม" หรือ "ความไม่เหมาะสม" แต่อย่างใดเลย ว่าเราประชาชนคนธรรมดาไม่มีสิทธิ์จะไปทำเช่นนั้น เพราะเท่าที่เคยอ่านจากคอลัมน์ข่าวสังคมของหนังสือพิมพ์ต่างๆ ก็เห็นเขาเคยเขียนกันอยู่เสมอๆ การทักท้วงของคุณเทาชมพูท่านก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นได้นะครับ
>  จึงทำการลบกระทู้นั้นทิ้ง และด้วยความไม่สบายใจที่ถูกต่อว่าก็ทำให้ลบกระทู้ที่ตั้งขึ้นมาอีกสองกระทู้ออกไปเสียด้วย โดยที่ผมไม่ได้แจ้งให้เพื่อนๆทราบว่าเป็นคนขอแจ้งลบออกไปเอง เพราะผมคิดจะหยุดการสนทนาไว้แต่เพียงเท่านั้น แต่ก็ยังมีเพื่อนๆแสดงความเห็นเข้ามาให้สนทนากันต่อไป หลายคนแสดงความคิดเห็นต่อว่าคุณเทาชมพูว่าเป็นต้นเหตุทำให้กระทู้ถูกปิด ผมเองยอมรับนะครับว่าเคยเขียนแสดงความเห็นว่า "ท่านผู้ทักท้วง" ไปครั้งหนึ่งเป็นทำนองกระทบกระทั่ง แต่เมื่อเขียนส่งไปแล้วไม่นานก็ตัดสินใจแจ้งขอลบทิ้งเสีย เพราะคิดได้ว่านั่นเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะทำ รังแต่จะเป็นเรื่องกันต่อไปเปล่าๆ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 21:31
คุณWIWANDA จะเชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่นะครับว่าเพราะเหตุใดผมจึงฉุกคิดได้ว่าการที่ผมเขียนไปว่าท่านผู้ทักท้วงแบบนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ก็เพราะผมได้ย้อนมาอ่านกระทู้ของคุณ WIWANDA ที่เขียนมาถึง "คุณหม่อม" เป็นครั้งที่สอง ซึ่งเนื้อความนั้นน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ก็เพราะคำของคุณ WIWANDA ที่ให้สตินั่นแหละครับว่าจะทำอะไรต้อง "มองเหรียญสองด้าน" เอาไว้เสมอ เมื่อนึกได้ก็คิดได้ว่าอย่าไปกระทบกระเทียบท่านอย่างนั้นเลย ไม่ดีกับตัวเราเปล่าๆ ก็ตัดสินใจแจ้งลบความเห็นนั้นเสีย อย่างไรก็ดีผมเองก็ต้องขอเรียนว่าตั้งแต่นั้นมาผมไม่เคยคิดจะไปสร้างความเข้าใจผิดๆอันใดแก่เพื่อนผู้ร่วมสนทนาในเว็บบอร์ดนะครับว่าเป็นเพราะ "ท่านผู้ทักท้วง" ที่ทำให้ "หม่อมชุลี" ออกไปเสียจากวงสนทนา ผมเองนึกไม่ถึงด้วยซ้ำไปครับว่าการที่ผมไม่ได้แจ้งให้เพื่อนๆทราบว่าผมเป็นคนแจ้งลบกระทู้เองนั้นมันทำให้เพื่อนๆของผมเข้าใจไปได้ว่า "ท่านผู้ท้วงติง" เป็นผู้แจ้ง จึงอาจทำให้มีเพื่อนๆบางคนเขียนเข้ามาแล้วยังคงต่อว่าท่านอยู่ หรือแม้ต่อว่าคุณ WIWANDA เอาเสียด้วย
>
>ผมยอมรับว่าเสียใจมากครับ ที่ได้อ่านความเห็นของคุณ WIWANDA อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้คุณ WIWANDA มิได้เขียนมาเช่น "ผู้อาวุโส" ที่เข้าใจความอ่อนประสบการณ์ของ "ผู้อ่อนอาวุโส" อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการเขียนมาด้วยถ้อยคำรุนแรง ที่ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าคุณ WIWANDA เองจะเขียนได้เช่นนี้ ขอเรียนด้วยความบริสุทธิ์ใจอีกครั้งนะครับว่าผมเองเคารพในตัวคุณ WIWANDA มากพอสมควร จากการได้รับความเห็นสองความเห็นแรก ทั้งๆที่ไม่ทราบว่าคุณ WIWANDA นั้นจริงๆเป็นท่านผู้ใดก็ตาม นี่เองครับที่เป็นเหตุให้ผมนิ่งเฉยไม่ตอบความเห็นเรื่อง "มองเหรียญสองด้าน" ของคุณ WIWANDA (แต่ถ้าจะมีใครต่อว่าความเห็นนี้ ผมขอเรียนว่าไม่ใช่ความคิดของผมเป็นอันขาดครับ) ก็เพราะผมเห็นจริงตามที่คุณ WIWANDA เตือนสติมา และก็แน่นอนครับ.....การได้อ่านอีกความเห็นหนึ่งที่มีถ้อยคำตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงทำให้เข้าใจว่าตนเองได้กระทำสิ่งที่ทำให้ผู้ที่เรานับถืออยู่ในใจเกิดความขุ่นเคืองเสียแล้ว นี่เองจึงทำให้ต้องแจ้งขอลบกระทู้นั้นทิ้งอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้คุณ WIWANDA เข้าใจผิดคิดว่าผมจะ "ต่อต้าน" หรือ "ลองดี" กับคุณ WIWANDA อีก จนทำให้คุณ WIWANDA
>  เข้ามาเขียนความเห็นที่หนักกว่าเดิมในกระทู้ของคุณ WIWANDA เองอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ด้วยความเคารพในตัวท่านเจ้าของกระทู้นะครับ ผมจะไม่ขอแจ้งลบมันด้วยตนเองครับ แต่ผมขอเปลี่ยนเป็นการส่ง อีเมล์ฉบับนี้มาเรียนชี้แจงเป็นการส่วนตัว ผมหวังว่าคุณ WIWANDA จะสละเวลาพิจารณาข้อชี้แจงของผมครั้งนี้นะครับ
>
>ผมขอเรียนว่าผมยังเคารพและนับถือคุณ วิวันดา ด้วยความจริงใจอยู่เหมือนเดิม ด้วยความประทับใจในความเห็นที่เขียนถึง "คุณหม่อม" เช่นผู้ใหญ่ที่เข้าใจเด็ก    คุณวิวันดาคงยังจำคำที่คุณสอนผมได้นะครับ
>
>๑. "ฉันเชื่อว่า..ฉันมีอายุมากกว่าคุณหม่อมมาก(จากเท่าที่อ่าน) จึงมองเหรียญสองด้านเสมอ"
>
>๒.  "จึงอยากฝากคุณหม่อม ว่า..เลือกจำแต่สิ่งดีๆเถอะค่ะ..ไม่มีบุญอะไรที่จะเป็นมหาบุญไปกว่าการให้ความรู้อันเป็นวิทยาทาน"
>
>สองประโยคนี้แหละครับเป็นสิ่งที่ผมซาบซึ้งใจและประทับใจคุณวิวันดา จนเกิดเป็นความเคารพอยู่ในใจนี่แหละครับ ขอเรียนว่าผมไม่มีความรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจอันใดในความเห็นสองความเห็นสุดท้ายของคุณวิวันดานะครับ เพียงแต่เสียใจที่ทำให้ผู้ใหญ่ผิดหวังและไม่พอใจจนต้องออกมาแสดงความเห็นอย่างรุนแรงเช่นนั้นครับ  สิ่งที่คุณวิวันดากล่าวมาว่าผมได้ทำสิ่งที่ "ขัดต่อบุคลิกตัวจริงอย่างมากมาย.." นั้นผมยอมรับอย่างที่สุดครับ เพราะตัวจริงของผมนั้นผมจะเคารพและแคร์ความรู้สึกของผู้อาวุโสเสมอ แต่ในโลกของการสนทนาทางอินเตอร์เนตซึ่งยากที่เราจะรู้ว่าใครเป็นใครได้ในทันทีนั้นย่อมทำให้ผมทำสิ่งที่ "ขัดต่อบุคลิกตัวจริงอย่างมากมาย..." เช่นนั้นได้ง่ายๆเพราะความคึกคะนอง แต่ผมเองนั้นไม่เคยคิดนะครับว่าตนเองประสงค์จะ "สร้างศัตรูทางเน็ต" กับท่านผู้ใดแต่อย่างใด


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 21:33
ส่วนความเห็นของคุณวิวันดาที่ว่า
>"เสียดายครั้งที่สอง นั่นก็คือ ความรู้ที่หนาแน่นที่มี ถ้าเอามาเผยแพร่สู่กันอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่ต้องสร้างภาพให้มีสีสันมากมายขนาดนั้น เขียนแบบเป็นตัวของตัวเองที่สมควรต่อความภาคภูมิใจ
>ใครต่อใคร..ต่างก็จะพากันสรรเสริญ รวมทั้งฉันด้วย" นั้น ผมต้องกราบขอบพระคุณครับที่เห็นว่าผมเป็นคนมีความรู้ดีคนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เสียใจครับที่คุณวิวันดามองว่ามันเป็นการเขียนแบบไม่บริสุทธิ์ใจ หรือสร้างภาพจนขาดความเป็นตัวของตัวเอง ข้อนี้ก็ขอน้อมรับคำสั่งสอนของท่านนะครับว่าการเขียนให้ความรู้คนเช่นนั้นอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปได้ ก็อีกล่ะนะครับ คนเราเวลาเขียนอะไรด้วยความคึกคะนองมากไปหน่อย การสร้างภาพสีสันต่างๆมันอาจเกิดได้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวครับ โดยเฉพาะกับชาวอักษรศาสตร์น่ะครับ ผมสัญญาครับว่าต่อไปจะพิจารณาให้รอบคอบก่อนเขียนครับ
>
>ผมเองไม่แน่ใจนะครับว่าตนเองเคยพบคุณวิวันดาเป็นการส่วนตัวมาก่อนหรือไม่ ถ้าเคยก็น่าจะเป็นในประเทศอังกฤษนั่นเอง ถ้าคุณวิวันดาเป็นผู้ใหญ่ท่านนั้นจริงๆ (คือท่านที่มีชื่อจริงออกเสียงคล้ายๆคำว่า"วิวันดา"นั่นแหละครับ) ผมก็ยิ่งต้องเรียนว่าผมเสียใจมากยิ่งขึ้นไปเป็นสองเท่าที่สร้างความขุ่นข้องหมองใจให้กับท่าน เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเห็นแล้วเกิดความชื่นชมและศรัทธามากอย่างจริงใจครับ ไม่ว่าคุณวิวันดาจะใช่ผู้ใหญ่ท่านนั้นหรือไม่นะครับ ด้วยความเคารพในตัวคุณวิวันดา เมื่อผมทำให้ผู้ใหญ่ขุ่นข้องหมองใจแล้ว แน่นอนครับว่าผมไม่มีความลังเลใจอันใดที่จะกราบขอขมาต่อท่าน
>
>ผมกราบขอขมาคุณวิวันดาด้วยความจริงใจนะครับ หากได้กระทำสิ่งใดที่สร้างความขุ่นข้องหมองใจแก่ท่าน เช่นเดียวกับคุณเทาชมพู ถ้าผมทราบมาแต่แรกว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ระดับนั้นแล้ว ก็แน่นอนครับว่าผมย่อมไม่สร้างความขุ่นข้องหมองใจให้ท่านเป็นแน่ ก็ขออนุญาตกราบขอโทษท่านด้วยก็แล้วกันครับ เพราะผมไม่ทราบจะติดต่อท่านอย่างไรครับ
>
>ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณวิวันดาจะรับการขอโทษจากผมครับ และขอเรียนว่ายังเคารพและนับถือคุณวิวันดาด้วยความจริงใจเหมือนเดิม หวังว่าคุณวิวันดาจะกลับมาเป็นผู้ใหญ่ท่านเดิมที่ผมเคารพนับถือนะครับ
>
>กราบมาด้วยความเคารพ
>
>จากผู้ใช้นามแฝง "หม่อมชุลี" ครับ
>


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 22:23
เมล์ของหม่อมชุลียาวมาก    ต้องอ่านอยู่นาน
พบว่ามีข้อความตอนหนึ่งซึ่งไม่จริง  เป็นความเข้าใจผิด  หรือจำผิดของหม่อมชุลีเองก็ไม่ทราบ  ตรงนี้ค่ะ

แต่มิได้มีเจตนาจะไปสร้างความเป็นศัตรูกับท่านแต่อย่างใด เมื่อท่านตอบกลับมาอย่างแรงและค่อนข้างเคร่งเครียดอีกเช่นกัน  

ดิฉันโพสไปหนเดียวค่ะ  ไม่เคยตอบกลับ  กลับไปเช็คที่กระทู้นั้นได้ว่าไม่มี     
ในกระทู้อื่นก็ไม่เคยเข้าไปตอบ  เพราะเห็นน้ำเชี่ยว ไม่รู้จะเอาเรือไปขวางทำไม


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 08, 14:48
สำหรับท่านที่ยังไม่เข้าใจว่า หม่อมชุลีพูดถึงอะไรในตอนนี้


ผมคิดว่าผมมีสิทธิ์สมมติข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับ "ตัวละคร" ของผมตัวนั้น ซึ่งแน่นอนผมได้สมมติไปว่าความเห็นของผมนั้นแสดงผ่านทางนักเรียนปริญญาเอกคนหนึ่งที่ได้ทุนรัฐบาล ในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม แต่การที่ต้องมีการแต่งแต้มสีสันไปว่า "เคยได้รับทุนพระราชทานของสมเด็จพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่พระองค์หนึ่ง" ก็เพื่อเป็นการทำให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น ขอเรียนด้วยความบริสุทธิ์ใจครับว่ามิได้ตั้งใจจะแอบอ้างพระนามสมเด็จพระบรมวงศ์พระองค์ใดทั้งสิ้น เพราะถ้าประสงค์เช่นนั้นจริงๆแล้วจะเขียนไปทำไมว่า "สมเด็จพระบรมวงศ์พระองค์หนึ่ง" ยอมรับครับว่าเป็นการแต่งแต้มสีสันอย่างที่คุณ WIWANDA เห็นจริงๆ แต่ไม่ได้มีความตั้งใจให้เป็นการหมิ่นพระเกียรติเจ้านายพระองค์ใดแต่อย่างใด
 

หมายถึงกระทู้นี้ค่ะ

พอกันที......ชีวิตไทยในต่างแดน

http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H2759839/H2759839.html&Query=150.237.42.182

"สวัสดีค่ะ ชาวกระทู้โต๊ะไกลบ้านทุกท่าน ดิฉันเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลค่ะ ได้ทุนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
(ปัจจุบันเขาโยกดิฉันไปสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว) มาทำปริญญาโทและเอกในประเทศอังกฤษ ดิฉันใช้เวลาในการศึกษามาตั้งแต่ปี 2540
แล้วค่ะ ขออนุญาตแจ้งข่าวดีว่าดิฉันเพิ่งสอบวิทยานิพนธ์ผ่านไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองค่ะ มีส่วนที่ยังต้องแก้ไขบ้างแต่ไม่มากอีกสักเดือน
ดิฉันก็จะได้กลับเมืองไทยแล้ว ดีใจเป็นที่สุดค่ะ เพราะนั่นหมายความว่าชีวิตเครียดๆ เจ็ดปีที่ต้องอยู่ไกลบ้านมันกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
ดิฉันเป็นคนผูกพันกับเมืองไทยมาก การห่างบ้านไปนานๆเป็นเรื่องทรมานใจที่สุด แม้ดิฉันจะปรับตัวเข้ากับสังคมอังกฤษได้แต่ก็บอกได้เลยค่ะ
ว่าไม่ชอบและไม่มีความตั้งใจแต่อย่างใดที่จะคิดลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ต่อให้บ้านเมืองเขากว่าเมืองไทยเราอีกร้อยเท่าพันเท่าดิฉันก็จะกลับเมืองไทยค่ะ
เพราะในใจดิฉันแล้วไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่อยู่สบายเท่าบ้านเรา ถึงแม้ว่าในเมืองไทยเราชีวิตมันจะไม่สะดวกสบายเท่าอยู่ที่นี่แต่ดิฉันรู้สึกมีความปลอดภัย
ว่าอยู่ในประเทศที่เราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง เรามีสิทธิ์ของความเป็นประชากรเต็มที่ แม้อะไรหลายอย่างจะไม่ได้ดังใจดิฉันก็ยังสุขใจที่จะอยู่เมืองไทย
มากกว่าอยู่เมืองนอก"

"อีกประการหนึ่งเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่พระองค์หนึ่ง
ที่ทรงพระกรุณาพระราชทานเงินส่วนพระองค์ส่งให้ได้เรียนเป็นระยะ
เวลานานถึงเกือบสี่ปีก่อนจะมาได้เข้าเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล
(ทั้งพระราชทานคำสั่งสอนมาเสมอๆให้กลับมาทำงานตอบแทนบ้านเมืองอย่าทิ้งประเทศชาติ)

ดิฉันอ้างจากกระทู้ นี้ค่ะ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2615.msg49591;topicseen#msg49591

ค.ห.ที่ 10



กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 08, 18:57
คุณวิวันดาได้ fw mailของหม่อมชุลีมาให้  เมื่อทราบแน่แล้วว่าเป็นใคร ดิฉันก็ตอบไปว่าดิฉันไม่ถือสา  คุณวิวันดาก็โพสลงในกระทู้ตามนี้ค่ะ

เรียนคุณหม่อมชุลี
ได้รับเมล์ของคุณแล้วค่ะ   ก็นึกมาแต่แรกแล้วจากสำนวนของคุณว่าเป็นชายไม่ใช่หญิง    เมื่อคุณบอกว่าทำไปเพราะความคึกคะนองไม่ได้คิดว่ามันล้ำเส้นไป    ก็เข้าใจค่ะ และเห็นด้วยว่า  เรื่องสถาบันเป็นเรื่องควรแก่ความเคารพ   ไม่ควรสมมุติตัวเองเป็นสตรีสูงศักดิ์แบบกำกวมให้น้องๆบางคนเข้าใจผิด  รวมทั้งเรื่องได้รับทุนไปศึกษาจากพระบรมวงศ์ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง
 แต่เมื่อคุณรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำลงไป และไม่รู้ว่าการที่คุณแจ้งลบกระทู้ทั้งหมดที่โพสต์เองในนามหม่อมชุลี   เป็นเหตุให้คุณ pinkandgrey ถูกเข้าใจผิดจากคนอื่นๆอีกหลายคนว่าเป็นคนทำ คุณเองก็บอกมาว่า ไม่ทันคิดว่าควรจะมาแก้ไขความเข้าใจให้ถูกต้อง   ดิฉันจึงขอตอบเป็นตัวกลางแทนว่าคุณขออภัยเธอผ่านมาทางพันทิพย์ด้วย ก็แล้วกันนะคะ
 
คุณ pinkandgrey เป็นรุ่นพี่....คงไม่ถือสาที่รุ่นน้องได้กล่าวจาบจ้วงล่วงเกิน หลายครั้ง  เพราะคุณเองบอกภายหลังว่าก็เสียใจกับถ้อยคำของคุณอย่างมาก
 
ดิฉันขอเอาใจช่วยให้เรียนจบ.............ที่.......และเดินทางกลับบ้านเร็วๆ เพื่อมาใช้วิชา....เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆต่อไปนะคะ
 
ดิฉันไม่ตอบอีเมล์คุณเพราะคุณบอกมาว่าใช้อีเมล์ผู้อื่นเขียนมาถึง   เกรงว่าจะไม่ถึง    คิดว่าตอบในห้องสมุดน่าจะดีกว่า   


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 08, 19:17
หม่อมชุลีก็ส่งเมล์ตอบคุณวิวันดามาอย่างดี  ว่า

เรียนคุณวิวันดาที่เคารพครับ
 
ผมได้อ่านความเห็นที่คุณวิวันดาส่งตอบมาแล้วครับ กราบขอบพระคุณในความเข้าใจของท่านในฐานะผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำอะไรลงไปโดยคึกคะนองนะครับ และครั้งนี้เพื่อแสดงความเคารพด้วยความจริงใจผมขออนุญาตเขียนตอบมาอีกครั้งหนึ่งทางอีเมล์ด้วยอีเมล์ที่เป็นของตัวผมเองครับ
 
สำหรับคุณเทาชมพูนั้น ผมกำลังคิดจะเขียนไปกราบขอโทษท่านอยู่เช่นกันครับ ได้ทราบจากคุณวิวันดาแล้วว่าท่านเป็นรุ่นพี่ที่..............ก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่าท่านคือผู้ใด ก็ยอมรับนะครับว่าในอดีตได้เคยแสดงความเห็นล่วงเกินและกล่าววาจาไม่เหมาะสมกับท่านไปหลายครั้ง ทั้งนี้โดย "อคติ" ที่ได้ยินได้ฟังจากคนอื่นและแหล่งอื่นเกี่ยวกับตัวท่านและผลงานของท่าน โดยที่ตัวผมเองก็ยังไม่ได้เคยอ่านผลงานของท่านเลยสักครั้ง แต่ด้วยอคติที่เกิดขึ้นจากการ "ฟังเขาเล่ามา" และความคิดอวดดีของตัวเองว่าเราก็ชาว.............คนหนึ่ง ได้ยินได้ฟังสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับชาวอักษรศาสตร์ด้วยกันมาก็อยากจะต่อว่า ก็ทำให้เกิดความคิดเห็นในทางไม่ดีต่อท่านเป็นระยะเวลานาน แต่ละครั้งที่ไปแสดงความเห็นอะไรต่อว่าท่านท่านก็ไม่เคยตอบโต้ นั่นแหละครับจึงเริ่มรู้สึกถึงความเป็นผู้ใหญ่ของท่าน ยิ่งต่อมาได้มีโอกาสเริ่มอ่านผลงานของท่านก็ทำให้เข้าใจตัวท่านมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งก็คือการมีโอกาสได้พบบุคคลต่างๆที่ได้ไกล้ชิดท่านมาก่อนทำให้รู้จักอัธยาศัยที่แท้จริงของท่านมากขึ้น และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือแม้แต่ท่านผู้เป็นบุพการีของผมเองก็ยังนิยมในอัธยาศัยอันดีของท่านและความอ่อนน้อมที่ท่านมีต่อผˆ๒
 
ในส่วนตัวคุณวิวันดานั้นเมื่อผมได้อ่านความเห็นที่เขียนตอบมาวันนี้ทำให้ผมยิ่งเพิ่มความเคารพและนับถือน้ำใจของคุณวิวันดามากยิ่งขึ้นครับ ผมเองจะจำคำสอนของคุณวิวันดาเรื่อง "มองเหรียญให้มองสองด้านเสมอ" ไว้จนตลอดชีวิตนะครับ และจะสอนทั้งลูกศิษย์และลูกหลานของตัวเองต่อไปในอนาคตด้วยครับ
 
ขอถือโอกาสนี้กราบฝากตัวเป็นลูกเป็นหลานคุณวิวันดาสักคนด้วยนะครับ และในอนาคตอันใกล้นี้เมื่อกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่...............แล้วก็ขอปวารณาตัวนะครับ หากมีสิ่งใดที่เห็นว่าความรู้ที่ผมได้ศึกษาเล่าเรียนมาจะรับใช้คุณวิวันดาได้ในด้านใดก็ตามก็ขอท่านอย่าได้ลังเลที่จะแจ้งให้ผมทราบนะครับ เรียนมาด้วยความจริงใจครับ
 
กราบมาด้วยความเคารพครับ

ดิฉันไม่เคยได้รับการติดต่อจากหม่อมชุลี แต่เมื่อคุณวิวันดาส่งเมล์มาให้ก็ถือว่าเรื่องจบลงไปแล้ว   ส่วนเขาจะกลับมาให้ความรู้ในชื่ออื่นหรือชื่อเดิมก็ย่อมทำได้  ไม่มีใครว่า   
ดิฉันเองก็ไม่ได้ถือสา   ในเมื่อเขาก็บอกแล้วว่าเป็นเพียงความคึกคะนองนึกสนุก   หม่อมชุลีก็เป็นเพียงตัวละครหญิงสูงศักดิ์ที่เขาสมมุติขึ้นมา  เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว  ดิฉันก็ไม่ติดใจจะซักไซ้อะไรอีก  ไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ในเว็บไหนด้วย แม้แต่ในห้องสมุด

หม่อมชุลีกับคุณวิวันดาก็ติดต่อกันหลังไมค์ด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี   หลังจากนั้นจำได้ว่าเธอส่งข่าวมาให้รู้อีกครั้ง

"ดิฉันได้ตอบไปเท่าที่ผู้ใหญ่พึงกระทำ ตอนนี้เขาเรียกตัวเองว่า" (ชื่อเล่นของเขา)" และ เรียกดิฉันว่า "คุณน้า" และในเมื่อเขาบอกว่าอยากจะรับใช้..เลยมอบงานให้ทำซะเลย.........  คือ มีนักเรียนออสเตรเลียคนหนึ่ง ได้แจ้งมายังดิฉันว่า
ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี เรียนอยู่ยู...... แต่อยากสมัครเรียนเป็น"ล่าม" ทั้งๆที่จบเศรษฐศาสตร์ มาขอให้ดิฉันช่วยตรวจทานงานเขียนของเขาหน่อย เพราะเขาเชื่อว่าภาษายังไม่ดีเท่าที่ควร
ดิฉันไม่สามารถจะทำได้ดีแน่ๆ เพราะว่าไม่ใช่ผู้ที่เหมาะสม ................จึงมิบังอาจ แต่ได้ส่งต่อให้หม่อมชุลี  ซึ่งเขาก็รับคำด้วยความเต็มใจว่า จะพยายามช่วยถ้าไม่เกินความสามารถ
ไม่ทราบว่าเขาได้ติดต่อกันหรือยัง

นี่ก็คือตอนจบลงอย่างสงบ ของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับคุณวิวันดา pinkandgrey และหม่อมชุลี   

คุณ babatov คงจะได้ทราบตามนี้แล้วว่า เรื่องจริงมันไม่ได้เป็นการแท็คทีมปราบปรามอะไรกันอย่างที่คุณกล่าวหาดิฉันและคุณวิวันดา
และเสียงเล่าลืออะไรทำนองว่า มีการปัดแข้งปัดขา อิจฉาริษยากันนั้น ก็ไม่เป็นความจริงอีกเช่นกัน 


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 08, 19:27
หมายเหตุ  :  แต่ถ้าจะมีอะไรจริงสักอย่าง ก็ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณ babatov เอ่ยมา  แต่เป็นชะตากรรมของดิฉันเอง แบบที่ภาษาหนุ่มสาวยุคนี้ คงเรียกว่า "ซวยซ้ำซ้อน"
คือช่างเจอเหตุการณ์ที่มีคนรุ่นพี่รุ่นน้อง เข้าใจผิดในตัวเรา  เพราะ"ฟังเขามาเล่าต่อ" ว่าดิฉันเป็นคนไม่ดี    ทั้งที่เอาเข้าจริง  เขาก็ยอมรับกันว่าเข้าใจผิด เลยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมกับดิฉัน
เหมือนกันจริงๆ ซ้ำแบบ   ยังกะปั๊มตรายาง

ถ้าขอยืมเพลง"คู่กรรม" มาเป็นเพลงปิดท้ายรายการ   คงจะต้องร้องว่า "ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง" จริงไหมคะ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มี.ค. 08, 21:42
หม่อมชุลีจะเข้ามาในพันทิปอีกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ      แต่หลังจากนั้น ในกระทู้ สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี
http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/library/topic/K3094986/K3094986.html&Query=ธารกำนัล

มีคุณ" ธารกำนัล" เข้ามาถามหาหม่อมชุลีด้วยความนิยมชมชื่น เธอดูจะติดตามมานานพอใช้ รู้รายชื่อขาประจำในกระทู้หม่อมชุลี    และรู้เสียด้วยว่าหม่อมชุลีจากไปไม่มีวันกลับ 

ดิฉันตามอ่านข้อความของพวกคุณมานานเเล้ว  ตั้งเเต่เมื่อสมัยคุณหม่อมชุลี  เข้ามาโพสต์ไว้เเรก ๆ  ดิฉันรูสึกดีใจมากนะคะที่ได้คนใน  อย่างหม่อมชุลีมาให้ความรู้  เเล้วดิฉันก็ได้ความรู้จากหม่อมชุลีมาก  จริงๆด้วย  เเต่ดิฉันก็รู้สึกเสียใจมากเลยนะคะ  ที่คุณหม่อมชุลีด่วนจากไป  อย่างไม่มีวันกลับ  มาร่วมสนทนาในพันทิปอีกเเล้ว  ถ้าคุณหม่อมรับทราบด้วยญานใดๆ  ก็ขอความกรุณา  กลับมาให้ความรู้พวกเราต่อเถอะนะคะ  ดิฉันคิดว่าห้องประวัติศาสตร์ของ  เราคึกคักเเละเจริญถึงจุดสูงสุดในสมัยของคุณหม่อมเเล้วนะคะ  ดิฉันเชื่อว่า  ทุกๆคนในที่นี้ต้องดีใจมากที่คุณหม่อมกลับมา 
ตั้งเเต่หม่อมชุลีไป  ห้องประวัติศาสตร์  เริ่มเงียบเหงาลงเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  จนตอนนี้เงียบเหงา  น่าเบื่อที่สุดเเล้ว  ดิฉันเองเมื่อตามอ่านมานานเห็นสถาณการณ์  ยังไม่ดีขึ้น  มีเเต่เงียบลงทุกวัน  ดิฉันผู้ซึ่งมีความรู้เพียงน้อยนิด  จึงได้บังอาจตั้งกระทู้ขึ้นมา   เเต่ก็ไม่ใด้ทำให้คึกคักขึ้นเลย  สูงสุดมีผู้มาตอบเพียง22ข้อความ  ต่ำสุดหนึ่งข้อความ  อีกอย่างหนึ่งดิฉันอยากบอกว่า
เเกนนำของห้องอย่างคุณUP  ก็หายหน้าหายตาไปเลย
คุณอเทตยา คุณมณีนพรัตน์ คุณพ่อปลัด  อยู่ไหนไม่ทราบคะ  คุณออกญาศรีราชเดโชชัย คุณรอยใบลานก็เงียบๆไป  ดูไม่ค่อยมีใครกระตือรือล้น  เเสดงความคิดเห็นอะไรกันสักเท่าไรเลย  เเละคนสำคัญอย่างคุณnathasetเดี๋ยวนี้ไม่มีรูป  หรือเรื่องราวในวังมาเล่าให้ฟังเเล้วหรือคะ
เเล้วก็คุณบันลือดูเหมือน  หายไปพร้อมคุณหม่อมหม่อมชุลีเลยนะคะ
ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะคะ  ทำไมถึงเงียบอย่างนี้  อยากให้หม่อมชุลีกลับมาอีกจังเลย
แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 47 21:12:20
แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 47 21:04:19
แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 47 20:58:47
แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 47 17:18:19
แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 47 17:05:29

จากคุณ : ยังอยากให้หม่อมชุลีกลับมา (ธารกำนัล)  

แต่ในกระทู้เดียวกัน  คุณ Nattaset ก็มาตอบว่า หม่อมชุลีไม่ได้หายไปไหน

ความคิดเห็นที่ 6   

ดิฉันตามอ่านข้อความของพวกคุณมานานเเล้ว ตั้งเเต่เมื่อสมัยคุณหม่อมชุลี เข้ามาโพสต์ไว้เเรก ๆ ดิฉันรูสึกดีใจมากนะคะที่ได้คนใน อย่างหม่อมชุลีมาให้ความรู้ เเล้วดิฉันก็ได้ความรู้จากหม่อมชุลีมาก จริงๆด้วย เเต่ดิฉันก็รู้สึกเสียใจมากเลยนะคะ ที่คุณหม่อมชุลีด่วนจากไป อย่างไม่มีวันกลับ มาร่วมสนทนาในพันทิปอีกเเล้ว ถ้าคุณหม่อมรับทราบด้วยญานใดๆ ก็ขอความกรุณา กลับมาให้ความรู้พวกเราต่อเถอะนะคะ

ยังกะหม่อมลาโลกไปแล้วแนะครับ ฮิฮิ

ยังไม่หายไปไหนคับผม ยังอยู่คับ เข้าบอร์ดพันทิปทุกวันแหละครับ ฮิฮิ

จากคุณ : natthaset  - [ 31 ต.ค. 47 23:06:13 ]


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มี.ค. 08, 21:56
สำหรับคนที่ถามมาว่า หม่อมชุลีกลับมาพันทิปอีกหรือเปล่า ดิฉันเองก็ไม่ทราบ   
มาเจอชื่อหม่อมชุลีอีกครั้งก็ในเว็บของน้ำอบ

 ความเห็นที่ : 33    โพสต์เมื่อ : 2 ต.ค. 2548 เวลา 00:34 น.       
 คุณน้ำอบ

พี่จะส่งข่าวบอกว่า..คุณหม่อมชุลี ท่านกรุณาติดต่อกลับมาหาพี่ด้วยนะ  ไว้เรามาขอให้ท่านช่วยเขียนเรื่องราวความรู้ของท่านกันดีกว่า
ยังไม่มีโอกาสได้ทันตื้อท่านเลย   ท่านบอกว่าท่านเป็นอาจารย์ภาษาไทย  เปิดฟอรั่มรักษ์ภาษา  สำหรับคุณหม่อมชุลีเลย...............................

อีกตอนหนึ่ง

 ความเห็นที่ : 52    โพสต์เมื่อ : 6 ต.ค. 2548 เวลา 21:21 น.       

 คุณน้ำอบ

งานของกองราชพิธีเป็นเรื่องละเอียด และยากมาก สำหรับพี่  คนหนึ่งที่ทำให้พี่หันมานั่งสนใจและนั่งศึกษา คิดตาม คือ คุณหม่อมชุลี ท่านก็อธิบายได้ดี  คิดถึงหม่อมชุลีจังเลยค่ะ
ต้องส่งกระแสจิตไปหาหน่อยเสียกระมัง
อาจารย์ขา..ถ้ามาอ่านอยู่..ขอเสียงหน่อยนะคะ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 เม.ย. 08, 20:50
กำลังค้นข้อมูลจากกระทู้เก่าอยู่ค่ะ มีเซฟไว้หลายเรื่อง ต้องค่อยๆอ่านดู เพื่อจะดึงออกมาเฉพาะส่วนที่จำเป็น
เห็นจะต้องกล่าวถึง "ธารกำนัล" ว่าเกี่ยวข้องอะไรด้วย


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 เม.ย. 08, 14:54
ก่อนจะถึงเรื่องธารกำนัล   เห็นจะต้องปูพื้นกล่าวถึงเรื่องบางเรื่องก่อน
คือตั้งแต่เปิดเว็บบอร์ดเก่า ที่เป็นห้องหนึ่งของเว็บสกุลไทย   ตอนนั้นเป็นเว็บบอร์ดเปิด ใครก็เข้าไปโพสความเห็นได้ ทั้งในเว็บสกุลไทย(เก่า) และเว็บบอร์ดของดิฉัน
ก็มีคนเข้ามาว่ากล่าว แสดงความไม่พอใจ  หลายคน หลายวาระ หลายชื่อ  บางคนก็ลงชื่อจริง บางคนก็ใช้นามแฝง  ปั่นป่วนวุ่นวายอยู่หลายครั้ง
จนในที่สุดก็ต้องทำเป็นเว็บปิด

ในเว็บไซต์อื่นๆ ก็เช่นกันเมื่อเปิดเว็บบอร์ดขึ้นมา  ก็มีคนเข้าไปกล่าวถึงดิฉันในทางลบอยู่หลายครั้ง  อย่างในเว็บนี้
 
ความคิดเห็นที่ 5  ตอบโดยคุณ : เอ็ม [22 มี.ค. 2546 10:05:53]
                  [150.237.47.xxx  ]
                  ชอบอ่านนิยายของอาจารย์คุณหญิงหลายเรื่องแต่ผมเป็นพวกชอบติชอบวิจารณ์
                  ผมชอบงานของท่านหลายเรื่องแต่ไม่ค่อยศรัทธานิสัยส่วนตัวของท่านบางประการ
                  นี่พูดกันตรงไปตรงมาเลยนะ
                  คิดว่าน่าจะพูดได้เพราะที่นี่ไม่ใช่ห้องสนทนาสีชมพูเฉพาะสมาชิกที่มีแต่พวกสาวกเข้าไปสรรเสริญเยินยอนักเขียนเจ้าของห้อง
                  พอใครมีความเห็นไม่ตรงกับพวกตนเองหรือวิจารณ์อะไรแรงๆหน่อย
                  พวกสาวกก็ออกมายำผู้ออกความเห็นเสียเละเทะ
                  ด้วยมุขเดิมๆว่าผู้วิจารณ์คนนั้นเป็นตัวป่วนตัวสร้างความวุ่นวาย
                  ประเภทเข้าไปในห้องสีชมพูห้องนั้นได้แล้วมาพาล
                  มีพวกสาวกพากันจงรักภักดีปกป้องออกหน้าแทนกันแบบนี้ตัวนักเขียนท่านก็ยิ่งมองไม่เห็นข้อบกพร่องของงานเขียนของท่าน
                  แล้วอัตตาความยึดมั่นถือมั่นในผลงานของตัวท่านเองก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
                  สรุปคือท่านก็ต้องเขียนนิยายป้อนนักอ่านกลุ่มเดิมๆที่มีแต่ความเห็นด้านบวกให้ท่าน

                  ไม่มีทางที่คนเราจะทำสิ่งใดได้สมบูรณ์พร้อมไปทุกอย่าง
                  ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากคนส่วนมากแล้วว่าเป็นเยี่ยมในงานด้านนั้น
                  ยิ่งได้รับการยกย่องมากเท่าไหร่ก็ยิ่งน่าจะต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
                  ไม่ใช่ปิดตัวเองฟังแต่คำเยินยอของพวกที่ชื่นชมกันจนไร้สติ

                  นี่เป็นความเห็นที่อยากฝากถึงนักเขียนท่านนี้
                  เชื่อสิประเดี๋ยวไม่ทันนานหรอกพวกสาวกก็จะร้อนตัวแทนแล้วเราก็จะโดนเขาออกมายำอีกเป็นแน่แท้
                  แต่เราไม่แคร์ เพราะเรามีสิทธิ์จะแสดงความเห็นของเรา  

                  ความคิดเห็นที่ 6  ตอบโดยคุณ : เกนูรี [23 มี.ค. 2546  04:40:09] [150.237.47.xxx  ]
                  เหอะ เหอะ เหอะ....กระทู้สาวกอีตือโป๊ยก่ายอีกแล้วว่ะ  

                  ความคิดเห็นที่ 8  ตอบโดยคุณ : เกนูรี [25 มี.ค. 2546  03:47:07] [150.237.47.xxx  ]
                  เจ้าของความเห็นที่เจ็ดขา......ต้องเข้าใจนะคะว่าอีหน้าตือโป๊ยก่ายน่ะดังขึ้นมาได้เพราะพวกสาวกช่วยกันโปรโมตน่ะสิคะ
                  โปรโมตอย่างเดียวไม่พอเล่นวิธีสกปรกกำจัดคนทุกคนที่ติหรือวิจารณ์งานของอาจารย์เจ้าสำนักออกไปจากเวทีของหลายห้องสนทนาอีกต่างหาก
                  สักวันหนึ่งเถิดอีคุณหญิงหน้าหมู
                  หมดมุขน้ำเน่าจะเขียนเมื่อไหร่พวกสาวกก็เลิกคลั่งไปเอง
                  แล้วหล่อนจารู่สึก......  
               
                 สิ่งที่คนโพสไม่รู้ก็คือ เว็บบอร์ดนี้ ไม่โชว์ IP ถ้ามองหน้าจออย่างธรรมดา   แต่ถ้าลากเม้าส์ไปตามบรรทัดของชื่อแฝง   มันจะขึ้น IP ขึ้นมาให้เห็น 
                 เวลาเซฟจากจอ  เป็น text file ก็จะเห็น IP ผุดขึ้นมาด้วย
ดังนั้นคนถามเองตอบเอง เปลี่ยนชื่อเข้ามาตอบ  หรือว่าโพสจากแหล่งเดียวกัน  ก็จะเห็นได้ง่าย
 
 IP จากต่างประเทศนี้ เช็คต้นตอง่ายกว่า IP ในประเทศไทย  เพราะของไทยมีหลายบริษัท ISP   
 ผู้คนโพสจากศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตเดียวกัน มีเยอะแยะ ไม่ได้แปลว่าเป็นคนเดียวกัน  หรือโพสจากที่เดียวกัน
แต่คนโพสจากต่างประเทศ  โดยเฉพาะไม่ใช้เน็ตของบริษัท  แต่เป็นสถาบันการศึกษา   เช็คง่ายกว่าค่ะว่ามาจากที่ไหน


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 เม.ย. 08, 15:05
ยังมีอีกค่ะ

 ตั้งกระทู้โดยคุณ : ที [9 ธ.ค. 2545 19:20:26] [210.203.181.xxx  ]

                  นิยายในดวงใจของคุณ ?
                  อยากรู้ว่านิยายในดวงใจของคุณๆแต่ละคนคือเรื่องอะไร
                  เรื่องที่คุณอ่านแล้วประทับใจ...
                  ถ้ามีนักเขียนในดวงใจบอกด้วยก็ได้นะคะ

                  ความคิดเห็นที่ 28  ตอบโดยคุณ : ยิ่งศักดิ์ [23 มี.ค. 2546
                  05:02:59] [150.237.47.xxx  ]

               ดูเอาเองก็แล้วกันท่านผู้ชม....มีสักกี่คำตอบกันเชียวที่ชอบนิยายอีคุณหญิงหน้าหมูเมืองนครปฐม
                  อีโธ่เอ๊ยอีตือโป๊ยก่าย.....มึ งก็แน่เฉพาะในก ร ะ ด อ งห้องสนทนาสีชมพูไร้สาระของมึงนั่นแหละวะ
                  ทำเป็นโปรโมตตัวเองนักหนา อีนักเขียนสอพลอ  
 
**********************

                ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมนะคะ   ดูเอาเองก็แล้วกันท่านผู้ชม


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 08, 21:32
ทีนี้  ก็จะเล่าถึงความเป็นมาของคนใช้หลายชื่อ  ส่วนที่เกี่ยวกับเรือนไทย เสียที

เรือนไทยหลังเดิม มีกระทู้ยาวๆที่ดิฉันเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์อยู่หลายกระทู้  หนึ่งในจำนวนนั้น คือ "สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า "
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1228.0

เล่าไปเรื่อยๆ ก็มีคนสนใจติดตามอ่านอยู่หลายคน   ไม่มีเนื้อหาที่ระคายเคืองผู้ใด   จนกระทั่งถึงหน้า 5 จู่ๆก็มีคนเข้ามาถามว่า
 ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 06 ธ.ค. 04, 17:09
 
--------------------------------------------------------------------------------
 เเหมคุณเทาชมพูคะ  อย่างนี้จบกระทู้เเล้ว  ดิฉันขอรวมเล่มไปพิมพ์ขายนะคะ  จนป่านนี้หนังสือ "สมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ" ของคุณสมภพ จันทรประภา  ก็คงขาดตลาดเเล้ว  คงจะพอขายได้บ้างกระมังคะ   เเล้วจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดี  ชื่อ "สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าฯ"  ดีไหมคะ

ดิฉันก็งง ว่า ใครๆที่เข้ามาอ่าน ก็น่าจะรู้ว่าวิชาการดอทคอม เป็นบริการฟรีทางวิชาการ  ทำมาหลายปีแล้ว
การค้นคว้าศึกษานำมาเล่าสู่กันฟังนี้ ไม่เคยเป็นไปเพื่อการค้า  แล้วก็ไม่ได้ขโมยจากหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง
แต่ว่าเก็บเนื้อหาจากหนังสือหลายเล่ม ตลอดจนความทรงจำส่วนตัว เท่าที่เคยอ่าน   มาเรียบเรียงเป็นเรื่องราว

ทำไมจะต้องมีสมาชิกใหม่คนหนึ่ง จู่ๆก็มาพูดอะไรแปลกๆ     จะว่าเป็นคำชมก็ไม่ใช่  จะว่าเป็นการออกความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหา ก็ไม่ใช่อีกเหมือนกัน


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 08, 21:47
คนที่เข้ามาในกระทู้นี้ ใช้ชื่อว่า"ลายคราม"
เข้ามาครั้งแรกในชื่อนี้  ในกระทู้ ก็อสสิปนอกกำแพงวัง   ที่เรากำลังคุยกันอยู่ในเรื่องเกร็ดประวัติศาสตร์หลายเรื่อง
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1219.msg21399#msg21399

อยู่ๆคุณลายคราม  ก็มาโพสข้อความครั้งแรก โดยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่คนอื่นๆกำลังคุยกันอยู่   เหมือนทะลุกลางปล้องขึ้นมาเฉยๆ ว่า
ความคิดเห็นที่ 93  เมื่อ 31 ต.ค. 04, 20:03 

เรียนถามคุณเทาชมพูตัวจริงคือใครคะ  

ดิฉันตอบไปในกระทู้เดียวกัน ในคห. 95  ว่า

"ในอินเทอร์เนต  การใช้นามแฝงหมายความว่าคนนั้นไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามจริง ต่อสาธารณชน   ทุกคนในเว็บนี้ ก็ทำเช่นนั้นรวมทั้งคุณลายครามด้วย"

เมื่อตอบไปอย่างนี้แล้ว คนอื่นๆก็สนทนากันต่อไป ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้อีก    ส่วนคุณลายครามก็ตอบมาว่า

ความคิดเห็นที่ 98  เมื่อ 01 พ.ย. 04, 19:10
 --------------------------------------------------------------------------------
 ดิฉันต้องขอประทานโทษ  คุณเทาชมพูเป็นอย่างสูงนะคะ  ที่ได้ละลาบละล้วงจาบจ้วงก้าวร้าวคุณ  เพียงเเต่ดิฉันอยากทราบว่าโดยส่วนตัวเเล้ว  คุณรู้จักหม่อมชุลีในห้อประวัติศาสตร์พันทิปไหมคะ  กรุณตอบด้วยค่ะ  เเละเพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อความผิดครั้งนี้ดิฉันจะไม่ร่วมสนทนา  ในกระดานเสวนานี้อีกในชื่อลายครามเท่านั้นนะคะ  


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 08, 21:53
ดิฉันก็ไม่รู้ว่าคุณลายครามหมายความว่าอะไรกันแน่     เพราะเธอเล่นตอบคำถามข้อแรก   ด้วยคำถามข้อที่สอง 
คือถามว่าดิฉันรู้จักหม่อมชุลีไหม

สรุปว่า อยากรู้ว่าเทาชมพูเป็นใคร  เพราะอยากรู้ว่าเทาชมพูรู้จักหม่อมชุลีไหม
ดิฉันก็ตอบเธอไปว่า
" ดิฉันไม่ได้ถือว่าเป็นการก้าวร้าวจาบจ้วงล่วงเกินอะไรหรอกค่ะ  คือบางทีเราก็เดาความคิดของชาวเน็ตไม่ได้     โดยเฉพาะชาวเน็ตหน้าใหม่ ที่ไม่ได้สนทนากันจนคุ้นเคย  จึงเดาสำนวนและความคิดไม่ถูก
บางคนอาจจะถามว่าตัวจริงเป็นใครเพราะนึกว่าเปิดเผยได้ถ้าถาม  บางคนก็ถามเพราะเข้าใจว่าเป็นคนเดียวกับคนโน้นคนนี้
ดิฉันก็ได้แต่เดา
เดาว่าเป็นข้อแรก คือนึกว่าดิฉันจะเปิดเผยได้ถ้าถาม   คำตอบคือยังไม่ประสงค์จะเปิดเผย เท่านั้นเอง

เเต่ดิฉันอยากทราบว่าโดยส่วนตัวเเล้ว คุณรู้จักหม่อมชุลีในห้องประวัติศาสตร์พันทิปไหมคะ กรุณาตอบด้วยค่ะ?
นี่ก็ต้องพยายามเดาอีก ว่าถามเพราะสงสัยอะไร  แต่ยังเดาไม่ถูก ช่วยขยายความหน่อยได้ไหมคะ


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 08, 22:44
นอกจากถามหาหม่อมชุลีในเรือนไทยแล้ว  ยังไปถามใน pantip อีก  ที่รู้ก็เพราะคุณ cinnabar เข้ามาตอบ
ใน ความคิดเห็นที่ 100  เมื่อ 02 พ.ย. 04, 09:41

แปลกจริง  เรื่องหม่อมชุลีนี่ก็เกิดขึ้นมานานหลายเดือนจนใครต่อใครลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
คุณลายครามนึกอย่างไรขึ้นมา ถึงมาถามถึงในนี้ มิหนำซ้ำยังไปตั้งกระทู้ถามในพันทิพอีก
อยากหาตัวหม่อมชุลีจริงๆก็ไม่ยาก เพราะเป็นครูบาอาจารย์ ลูกศิษย์ลูกหาเยอะ เดี๋ยวก็มีคนมาบอกเองแหละ   
 
ก็เลยกลายเป็นการถาม-ตอบ ระหว่างคุณ cinnabar และคุณลายคราม ไปแทน

คุณลายครามตอบตามนี้
ความคิดเห็นที่ 101  เมื่อ 02 พ.ย. 04, 17:37
 -----------------------------------------------------------------------ก็คิดว่าจะไม่พูดอะไรอีกเเล้ว  เเต่ก็อยากชี้เเจงให้คุณเทาชมพู  เเละคุณcinnabar ให้ทราบว่าไม่ต้องสงสัยเเละเเปลกจริงหรือว่าเเปลกใจ  เพราะดิฉันจะบอกว่า  ตัวดิฉันเองเป็นคนที่อยากพูดอะไรก็พูด  อยากทำอะไรก็ทำ  เเละอยากถามอะไรก็ถาม  คิดอะไรก็ทำอย่างนั้น  เเละในชีวิตจริงดิฉันก็ยังเคยมีเรื่องกับคนอยู่เรื่อยๆ  เพราะไอ้การพูดไม่คิดของดิฉันเเอง   ถึงเเม้เรื่องหม่อมชุลี  จะผ่านไปหลายเดือนเเล้ว  มันก็จริงค่ะ  คุณถามว่าดิฉันนึกอย่างไรขึ้นมา  ก็คงจะบอกว่านึกได้นึกดีมังคะ  เเต่ถ้าตอบจริงก็คงเพราะนึกถึงหม่อมชุลีขึ้นมา  หรือว่าจะเห็นว่าประวัติศาสตร์ห้องสมุดพันทิป  เงียบเหงาลงมาก  เมื่อหม่อมชุลีไป  ดิฉันปกติก็ไม่มีอะไรจะทำอยู่เเล้ว  วันๆหนึ่งก็มีเเต่เล่นเน็ตเป็นส่วนใหญ่  เเล้วเว็บไซต์  ที่ดิฉันเข้าทุกวันก็มีอยู่ไม่มาก  ดิฉันก็เลยฟุ้งซ่านน่ะสิคะ   เเละก็ไม่ใด้ถึงกับจะตามตัวอะไร  อย่าไปใส่ใจกับคำพูดของดิฉันเลยค่ะ  เเต่ถ้าทราบก็ดีเหมือนกันนะคะ  ว่าอันที่จริงเเล้วหม่อมชุลีชีวิตจริงคือใคร จะได้สิ้นสงสัยไปสักที ยิ่งคุณcinnabarพูดว่าเป็นอาจารย์  มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ  ดิฉันก็อยากทราบสิคะ  เเล้วที่ว่าเป็นอาจารย์ไม่ทราบที่วิทยาลัยในวังหรือเปล่าคะ 
 
คุณลายครามจะมาถามอะไรถึงหม่อมชุลีในเรือนไทยก็ไม่ทราบ   ดิฉันจะไปตอบอะไรได้  นึกรำคาญขึ้นมาหน่อยๆเหมือนกัน
ก็เลยตอบแบบตัดบทไปว่า

" ข้อสงสัยของคุณลายคราม เป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกของเรือนไทย   และเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับเรือนไทย  ดิฉันไม่ตอบนะคะ
ถ้าสมาชิกท่านใดประสงค์จะตอบคุณลายคราม ก็แล้วแต่สมัครใจ "
 
ส่วนคุณ Cinnabar คงจะเห็นว่าควรจะตอบให้คุณลายครามหายสงสัย เธอก็เลยตอบมาว่า
 
" ถ้าคุณลายครามยังสงสัยอยู่ก็จะตอบให้ในเรื่องของกระทู้คุณหม่อมชุลี 
คุณว่าคุณอ่านแล้วจึง"นึกได้" "นึกดี" ถึงได้มาถาม จนอยากรู้จักว่า คุณเทาชมพูเป็นใคร พร้อมสงสัยว่าน่าจะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว  อย่างนั้นใช่ไหม?

ถ้าคุณยังจำได้ กระทู้นั้น เป็นกระทู้ในห้องประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับเรื่องพิธีการของเจ้านาย อันเป็นเป็นพระราชวินิจฉัยส่วนพระองค์
ไม่สมควรที่ใครจะมาตั้งข้อเสนอแนะอย่างมีเงื่อนงำ
คุณเทาชมพู เป็นท่านแรก ที่แย้งว่า ไม่เป็นการสมควร
ซึ่งคุณหม่อมชุลีก็คงเพิ่งรู้สึกตัว ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
อีกทั้งในโลกของอินเตอร์เน็ทสมัยนี้ ใครเป็นใครย่อมไม่ใช่ความลับที่ดำมืด
กระทู้นั้น จึงถูกลบไปด้วยการตัดสินใจของคุณหม่อมชุลีเอง
ไม่เกี่ยวกับการรู้จักกันเป็นส่วนตัวหรือไม่ เพราะ ไม่ว่า คุณเทาชมพูหรือใครๆที่พบข้อความเช่นกัน ย่อมมีผลสรุปเหมือนๆกัน
คือ เสนอให้ลบทิ้ง

ขอแถมอีกหน่อย เดี๋ยวจะไม่แจ่มแจ้ง ว่า คุณหม่อมชุลีเป็นผู้ใหญ่แล้ว ที่น่าต้อง"รู้ควรไม่ควร" ด้วยตัวเอง แต่อาจด้วยความนึกสนุกที่ว่า ไม่มีใครรู้ของที่มาที่ไป จึงคะนองไปตามบทบาท
แต่เมื่อการณ์กลับกลายเป็น ว่า คุณหม่อมนั้นยืนอยู่ในที่โล่งแจ้ง แดงแจ๋   นั่นก็ต้องถือว่า การที่ทุกคนช่วยกันทำให้เรื่องเงียบหาย
ลืมไปว่า มันเป็นการผิดพลาดที่ไม่น่าเกิด
นั่นคือ ผลดีต่อคุณหม่อมชุลีทั้งในด้านการดำเนินชีวิต หรือ เส้นทางการงาน

คุณ"ลายคราม " คงจะกระจ่างแจ้งขึ้นมา  เลยตอบสั้นนิดเดียว

ความคิดเห็นที่ 104  เมื่อ 03 พ.ย. 04, 20:34
 
อ่ะค่ะ 

ที่เรื่องยังไม่จบ ทั้งๆไม่มีการถาม-ตอบเรื่องหม่อมชุลีอีกแล้ว ก็เพราะคุณลายครามยังไม่อำลาเรือน 
แต่จุดประเด็นใหม่เรื่องสมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ  ขึ้นมา
มาพูดเรื่องพิมพ์ขายหนังสือ ซึ่งฟังแล้วดิฉันก็เห็นด้วยกับเธอ ที่เธอบอกถึงตัวเองว่า

"ตัวดิฉันเองเป็นคนที่อยากพูดอะไรก็พูด  อยากทำอะไรก็ทำ  เเละอยากถามอะไรก็ถาม  คิดอะไรก็ทำอย่างนั้น  เเละในชีวิตจริงดิฉันก็ยังเคยมีเรื่องกับคนอยู่เรื่อยๆ  เพราะไอ้การพูดไม่คิดของดิฉันเเอง"  


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 เม.ย. 08, 20:36
มาถึงตรงนี้ ดิฉันก็ชักสนใจคุณลายครามขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าเธอเป็นใคร  ก็เลยพลิกหาปูมหลังดู
นึกชมว่าคุณลายครามนี่...ไม่ใช่ขี้ไก่เลยเชียว  ใครถามเธอก็ตอบรายละเอียดเรื่องเจ้าเรื่องนายได้ฉะฉาน
นับเลขก็เก่ง  คงจะสนใจเรื่องพระราชวงศ์อยู่มาก   
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1238.msg21707#msg21707

ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 08 ธ.ค. 04, 17:52
 
 ดิฉันไม่ทราบหมดทุกองค์นะคะสำหรับหม่อมเจ้า  เพราะก็มีตั้งหลายราชสกุล  เเต่ตอนนี้ก็คงเหลือไม่มากองค์เเล้ว  เเต่ตอนนี้ดิฉันเองก็ไม่มีความสามารถพอที่จะรู้ได้ทุกพระองค์  เเต่ที่เเน่ใจคือประมาณ๒๐ปีที่เเล้ว  ยังมีพระบรมวงศ์  ตั้งเเต่หม่อมเจ้าขึ้นไปหลายพระองค์ เเละหลายองค์  มีตั้งเเต้ชั้นพระราชนัดดาในรัชกาลที่๓  ซึ่งตอนนั้นเหลืออยู่องค์เดียว  คือหม่อมเจ้าหญิงเเย้มเยื้อน  พระธิดาในเสด็จฯกรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ  เเล้วก็นี่ค่ะจากราชสกุลในรัชกาลที่๔  คิดว่าคงมากกว่าครึ่ง  ของหม่อมเจ้าทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ  มากกว่าราชสกุลในรัชกาลที่๕เสียอีก  อันนี้ยืนยันได้ค่ะ  วงศ์สืบสายราชสกุลในรัชกาลที่๔ มีถึง๒๗ วงศ์เเน่ะค่ะ  ในขนาดที่วงศ์สืบสายราชสกุลในรัชกาลที่๕  มีจำนวน ๑๕ วงศ์  ยังไม่ถึงครึ่งของราชสกุลในรัชกาลที่ที่ ๔เลยค่ะ  ที่เหลือรัชกาลที่ ๖-๘ ก็เป็นที่ทราบกันว่าไม่ทรงมีพระราชโอรส  ที่เหลือก็เป็นหม่อมเจ้าจากราชสกุล สายวังหน้า ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อยองค์  เห็นด้วยนะคะว่าจะนวนพระบรมวงศานุวงศ์มีจำนวนน้อยพระองค์ลงไป  ว่าเเต่คุณคิดว่ายังไงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในอนาคตล่ะคะ  พอจะบอกได้หรือไม่   

กระทู้นี้ เธอก็ตอบได้รอบรู้น่าทึ่ง      ถ้าไม่เคยอ่านหนังสือวิชาการของศ. กิตติคุณม.ร.ว.แน่งน้อย ศักดิ์ศรี มาก่อน   ก็น่าจะเคยเฉียดเต๊งมาด้วยตัวเอง

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1240.msg21711#msg21711
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 05 ธ.ค. 04, 10:43
 
ขอตอบคุณนายชินจังไปก่อน  ในระหว่างที่คุณเทาชมพูยังไม่มานะคะ  เเถวเต๊งนั้นน่ะเป็นอาคาที่พักของคุณพนักงานคุณข้าหลวง  เเล้วก็เป็นที่กั้นเขตพระราชฐานชั้นในกับชั้นกลาง  เข้าใจว่าไม่เปิดให้เข้าชม  เพราะมันก็ไม่มีอะไร  เเค่อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้หลังยาวเยียด  ชั้นล่างเป็นอิฐชั้นบนเป็นไม้  มีระเบียงทางด้านหน้าถนนด้านเดียว  หลังคามุงกระเบื้องดินเผา เเบ่งเป็นห้องๆ  เเถวเต๊งมีหลายเเถวนะคะ  ทั้งเเถวเเดง เเถวกลาง  เเถวนอก
เเหมชาววังรุ่นคุณสายถ้ายังอยู่ก็ไม่ใช่คนเเล้วล่ะค่ะ  ถ้าจะมีก็เป็นพวกข้าหลวงของเจ้านายที่เพิ่งจะสิ้นพระชนม์ไปไม่นาน  หรือข้าหลวงคุณพนักงาน  ในราชสำนักฝ่ายในสมัยรัชกาลที่๗ ที่ไม่มีที่ไปจริงๆ  ก็คงจะพอเหลืออยู่บ้างกระมังคะ อย่างเมื่อไม่นานนี้คุณสมบุญ  อินทรสูตร ข้าหลวงสมเด็จฯพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า  ถึงเเก่กรรมก็พระราชทานเพลิงศพไปเเล้ว  ข้าราชสำนักฝ่ายในสมัยรัชกาลที่๕รุ่นคุณสาย  ฉันเเน่ใจว่าไม่มีเเล้ว  เเม้กระทั่งคุณข้าหลวงพระมเหษีเทวีเจ้านายฝ่ายในที่เคยมีชีวิตอยู่ในราชสำนักในสมัยรัชกาลที่๖   ก็ไม่เเน่ใจว่าจะมีอยู่ไหม  เเต่พวกชาววังในสมัยก่อนเปลี่นยเเปลงการปกครอง ซึ่งส่วนมากเป็นชาววังสวนสุนันทา  หรือตามวังของเจ้านาย  ก็ยังพอมีอยู่บ้าง  เเต่ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวงนั้นคงจะเหลือน้อยเต็มที  หรืออาจไม่มีเเล้วก็ได้   


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 08, 05:38
ในเรือนไทยหลังเก่า มีกระทู้ยาวชื่อ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า   ดิฉันเก็บความจากหนังสือต่างๆมาเล่าใหม่ ให้อ่านง่ายสำหรับคนอ่านจากหน้าจออินเทอร์เนต
เล่าไปถึงกลางเรื่อง  กำลังคุยกับท่านอื่นๆที่เข้ามาซักถาม  คุณลายคราม จู่ๆก็โผล่เข้ามาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ด้วยถ้อยคำที่ดิฉันอ่านแล้วก็สะอึก

ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 06 ธ.ค. 04, 17:09

เเหมคุณเทาชมพูคะ  อย่างนี้จบกระทู้เเล้ว  ดิฉันขอรวมเล่มไปพิมพ์ขายนะคะ  จนป่านนี้หนังสือ "สมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ" ของคุณสมภพ จันทรประภา  ก็คงขาดตลาดเเล้ว  คงจะพอขายได้บ้างกระมังคะ  เเล้วจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดี  ชื่อ "สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าฯ"  ดีไหมคะ 

มาถึงตรงนี้ดิฉันก็ชักสงสัยแล้วว่าคุณลายครามเป็นใคร    จะว่าเป็นวัยรุ่นซ่าส์ๆก็ไม่ใช่   ดูจากพื้นความรู้และความสนใจ    ก็เลยลองแหย่ดูว่าจะใช่ใครคนหนึ่งที่ดิฉันรู้จักหรือไม่
ด้วยการตอบว่า
"เรื่องราวในกระทู้ต่างๆ ที่ดิฉันเรียบเรียง  มีเอาไว้อ่านฟรีทางเน็ต  ไม่ได้เอาไว้พิมพ์ขายค่ะ
ถ้าคุณอยากพิมพ์ขาย  วิทยานิพนธ์เรื่องชวาของคุณก็น่าสนใจนี่คะ  พิมพ์หรือยัง

ถึงตรงนี้ก็มีคนเข้ามาช่วย  คือคุณ "กุลธิดา" ที่ซัดอย่างไม่เกรงใจ

ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 06 ธ.ค. 04, 22:12
 ขอขอบพระคุณคุณเทาชมพูที่สู้อุตสาหะ เรียบเรียงข้อมูลความรู้
ที่ถือว่าหาอ่านได้ยากยิ่งลงในเวบวิชาการแห่งนี้ อันเปรียบได้ว่าเป็น"คลังสมอง"สำหรับคนหลายๆคนรวมทั้งดิฉันด้วย

แต่อ่านไปอ่านไป ก็เกิดอาการหงุดหงิดนิดหน่อยนะคะ ที่ต้องมาพบว่าในคลังสมองแห่งนี้ยังมีคนบางประเภทที่เข้าข่าย"กัดไม่เลือก" หรือจะเรียกว่า"กัดไม่ปล่อย" ชนิดที่ไม่มีสติแห่งความรู้ควรไม่ควรว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควรพูด
คำถามช่างใสซื่อราวกับทารกที่"ผีมือบอน"สักแต่แค่เจาะปากมาให้เท่านั้น แต่ลืมใส่สมองมาในกระโหลกให้ด้วย..

เรื่องราวแห่งความหลังครั้ง"ในวัง"นั้น ใครเล่าจะไปล่วงรู้ได้ ถ้ามิใช่เพราะผู้ใหญ่ได้เล่่าต่อๆกันมา หรือจากบันทึกข้อความที่หลงเหลือ (ซึ่งในปัจจุบันต้องวิ่งหาอ่านเอาจากหนังสืองานศพ)
และใช่ว่าทุกครัวเรือนจะมีหนังสือของคุณสมภพ จันทรประภา
วางไว้ใกล้มือให้หาอ่านได้สะดวก

แต่ใน"คลังสมอง"ที่นี่ ทุกอย่างมีอยู่พร้อมพรัก ราวกับอาหารทิพย์คุณเทาชมพูและผู้รู้ท่านอื่นๆได้ค้นคว้านำมาปรุงใส่ถาดทองวางไว้ให้บนโต๊ะสไตล์บุฟเฟท์ พร้อมทั้งเชิญแขกผู้สนใจให้เข้ามาลิ้มรสแบบฟรีๆสตางค์แดงเดียวก็ไม่เสีย  แล้วจะเอาอะไรกันอีก..?

น่าเบื่อออกนะคะ พวกแขกเชิญประเภทไม่รู้คุณ จ้องแต่จับผิด
ดิฉันละเชื่อเลยค่ะ ว่า คนบางคนต่อให้เรียนด๊อกเตอร์จากสถาบันที่สูงส่ง แต่ จิตใจแย่จนไม่รู้จะเปรียบกับอะไรดี
ขอเสนอว่า..ครานี้คือการสมควรแก่เวลาที่คุณเทาชมพูต้องใช้"ไม้แข็ง" กับคนคนนี้ซะที ดีไหมคะ?  


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 08, 05:45
คุณลายครามเธอก็เข้ามาอ่านพบข้อความของคุณกุลธิดา  เธอก็ตอบ แต่สงสัยว่าจะตื่นเต้นหรือไม่ก็ไฮเปอร์มากไปหน่อย เลยไปตอบผิดกระทู้

ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 07 ธ.ค. 04, 21:16

 ก็คิดว่าเจ้านายหรือผู้ใหญ่ท่านไหน  เล่าประทานคุณเทาชมพูนี่คะ  เเล้วยังไงคุณเทาชมพูมายกให้เป็นญาติผู้ใหญ่ฉันเสียล่ะคะ  ถ้าเกิดญาติผู้ใหญ่ฉันจริงคงเผาทิ้งเสียนานเเล้วล่ะค่ะ  ขอประทานโทษนะคะ
 
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 07 ธ.ค. 04, 21:18
 เวรกรรม!  ดิฉันโพสต์ข้อความผิดกระทู้  คิดว่าจะโพสต์ไว้ที่กระทู้สมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ  เเล้วก็ขอโทษคุณกุลธิดาด้วยออกจะเป็นขอความที่ไม่เหมาะสม 
 
แต่เธอก็เข้ามาตอบถูกกระทู้จนได้ในที่สุด

ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 07 ธ.ค. 04, 21:23
 
ยังไงคุณเทาชมพู  มายกเป็นญาติผู้ใหญ่ฉันเสียล่ะคะ  ขอโทษเเล้วกัน  เเต่ก็จริงอย่างคุณกุลธิดาว่าล่ะค่ะ  ดิฉันไม่ใด้ใช้สมองในการเขียนความคิดเห็นอะไรหรอกค่ะ  เเล้วก็ขอพูดอย่างไม่ใช้สมองอีกว่าในนี้ใครจะรู้ว่าใครเป็นใครจริงไหคะ  เเหมคุณก็ชีวิตจริงก็ซีเรียสตายเเล้ว  จะเล่นเน็ตทั้งที่จะไปคิดอะไรให้มันมาก  คิดอะไรได้ก็เขียนไปจริงใจดีออก


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 08, 05:59
มาถึงตรงนี้ดิฉันก็เริ่มรู้สึกว่าจะพูดดีๆกันต่อไปก็คงไม่รู้เรื่องแล้ว   คุณลายครามอาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนรายชื่อข้างล่างนี้ ซึ่งตามราวีดิฉันมาตลอดในเว็บบอร์ดอื่นๆ   หรืออาจจะไม่ใช่  ก็ไม่รู้ได้
ก็เลยตัดสินใจดุออกไป เผื่อจะกระทบเป้าหมายบ้าง  ถ้าหากว่าใช่   เขาก็จะได้รู้ว่าดิฉันรู้ว่าเขาเป็นใคร  ถ้าหากว่าไม่ใช่  เขาก็คงตอบอะไรให้เราพอจับได้บ้างว่าเป็นคนละกลุ่มกัน

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1228.msg21550#msg21550
ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 08 ธ.ค. 04, 07:19
 
คุณลายครามนอกจากไม่ใช้หัวคิดแล้วความจำยังไม่ค่อยดีอีกด้วยนะคะ  จำคุณกุลธิดาก็ไม่ได้ หรือจำได้เฉพาะคุณ Cinnebar ก็ไม่ทราบ
งั้นคงจำชื่อหนอ   LEE  อดีตทหารเรือหญิง เกนูรี  อดิศักดิ์  รมณีย์  หม่อมชุลี ธารกำนัล  a-b-c-d-f เงาในกระจกทั้งกลุ่ม ไม่ได้แน่ๆเลย 
ไม่เป็นไรค่ะ จำไม่ได้ก็ไม่ว่ากัน  ขอให้เอาเวลาที่โพสต์อะไรที่ไม่สร้างสรรค์ มาฟังเฉยๆดีไหม   มือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำนี่ไม่สมกับวุฒิภาวะของคนอายุ 35-36 เลยนะ
 
ส่วนคุณกุลธิดา เธอก็เข้ามาเสริมในความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 08 ธ.ค. 04, 23:21

แหม..คุณเทาชมพูคะ อยากจะเล่าเหมือนกันว่ากระแสจิตของใครบางคนนี่แรงจริง  วันนี้ดิฉันไปเดินที่ศูนย์หนังสือจุฬา ใจก็ร่ำๆ
อยากจะไปแวะเยี่ยมหลานด๊อกเตอร์ให้รู้เรื่องรู้ราวไปเหมือนกัน
เพราะอยากรู้นักว่า เกิดคลั่งอะไรขึ้นมาอีก..นี่เข้าข่ายโรคจิตวิปริตเต็มที หรือไม่ก็"ผีเน็ท"เข้าสิงถึงขนาดเที่ยวตั้งคำถามปั่นกระทู้ที่โน่นที่นี่
สมองอย่างด๊อกเตอร์สติเฟื่องช่างกัดคนนี้ คงลืมไปว่า..
คุณเทาชมพูเป็นผู้ดูแลเวบนี้ จะเอาไอพีมา"ดู" หรือ มา"เทียบ"
เมื่อไหร่ก็ได้  แถม"ตัวเป็นๆ" ก็อยู่แค่เอื้อม
ระวังนะคะ  วันดีคืนดี คุณลายคราม และอีกสารพัดชื่อ(ที่นับไม่หมดด้วยสองมือ)อาจได้รับแขกในที่ทำงานอย่างไม่คิดไม่ฝัน
และหวังว่าคนที่มีโจทก์เยอะอย่างคุณ..คงไม่แปลกใจ
ใช่ไหมคะ?

ปรากฏว่าคุณลายครามหายไปกลายเป็นชื่อจำปา เข้ามาตอบแทน   แล้วยังระบุว่า "คุณธารกำนัลไม่อนุญาติให้ดิฉันโพสข้อความในเรือนไทยแล้ว"
แปลว่าอะไรก็ไม่ทราบ  อาจจะหมายความว่าเธอมีหัวหน้าผู้ออกคำอนุญาต อีกที  หรือว่าเธอพิมพ์ผิด  หรือเธอเรียกชื่อดิฉันผิด คิดว่าเทาชมพูเป็นธารกำนัล  เธอก็ไม่ได้มาชี้แจงให้กระจ่างถึงความกำกวมข้อนี้

ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 09 ธ.ค. 04, 20:40
คุณธารกำนัลไม่อนุญาติ  ให้ดิฉันโพสต์ข้อความในเรือนไทยเเล้ว  ดิฉันก็คงไม่หน้าด้านอยู่ต่อ  เเต่ก่อนจะไปขอเเวะมากราบลาคุณน้ากุลบุตรกุลธิดาก่อนสิคะ  เเล้วก็ขอเรียนคุณน้านะคะว่าไม่ต้องลำบากเข้าไปหาหรอกนะคะ  ดิฉันเองก็ไม่อยากรับเเขกหรอกค่ะ  เเหมคุณน้าก็พูดเสียหน้ากลัวเชียวนะคะ  ดิฉันก็เพิ่งจะรู้ตัวนี่ล่ะค่ะ  นึกเเล้วสยอง ไม่อยากรับใครทั้งนั้นล่ะค่ะอับอายขายขี้หน้าตายเลย  เอ เเต่ไอ้จิตวิปริตเต็มทีนี่มันฝังดูเหมือน เอ่อ.......มันเเปลกๆ พิกลนะคะ  ถ้าจะเเปลเป็นคำสามัญ คงเเปลว่าบ้ามากหรือเปล่าคะคุณน้า  ดิฉันกราบลาล่ะนะคะ  เกิดชาติหน้าฉันใดอย่าใด้พบใด้เจอกันอีกนะคะ หมดเวรหมดกรรมต่อกันเเต่เพียงเท่านี้นะคะ  สาธุ  

************
แต่ดิฉันก็สังเกตว่าเธอเรียกคุณกุลธิดาว่า "คุณน้า"  ทั้งๆญาติผู้ใหญ่ อาจจะหมายถึงยาย ย่า ป้า ถึงอา หรือน้า ก็ได้    ดิฉันก็ไม่ได้บอกว่าญาติผู้ใหญ่นั้นอยู่ในลำดับไหน
ก็เป็นข้อสังเกตเล็กๆเท่านั้นเอง


กระทู้: เรื่องของน้ำอบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มิ.ย. 23, 09:17
ไปอ่านต่อได้ที่นี่ค่ะ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=7357.msg184696;topicseen#msg184696