เรือนไทย

ได้แรงกระเพื่อมจากคำคุณโฮ
ขอเชิญมาลงบัญชี ของดีที่ตายก่อน....เอ หรือของเคยดีที่ตายแน่ๆ
เอาว่านี่คือกระทู้สุสานเทคโนโลยี่ละกัน

1
HD DVD
ผมยังไม่ทันจะคิดซื้อเลยครับ เครื่องเล่นชนิดนี้ ก็ถึงกาลกิริยา
ตาย....ครับ

พ่ายแพ้แก่ Blue Ray Disk
โตชิบา เจ้าของลิขสิทธิ์ HD DVD ประกาศเลิกพัฒนาแล้ว

2
Plasma TV
ไพโอเนียร์ เจ้าตลาด ประกาศเลิกผลิตแล้ว สูญเงินค่าพัฒนาไปเป็นแสนล้าน
แต่แปลก พอประกาศออกมา หุ้นดีดขึ้นแฮะ

3

 :( เลเซอร์ดิสค์ค่ะ จอดสนิท..

มาแจมครับ

ว่าจะมาเจิมคนแรก แต่ถูกคุณกุ้งแห้งเยอรมัน ชิงไปเสียแล้ว  :'(

LaserDisk ก็เป็นเทคโนโลยีหรือที่ผมไม่เคยสัมผัส อิอิ เหมือนกับโทรเลขเลย

ที่ไม่เคยสัมผัสเพราะว่า ช่วงนั้นที่ Laser Disk ออกมาใหม่ๆ จำได้ว่า แพงมากๆ ทั้งเครื่องเล่นและแผ่น เนื่องจากไม่มีเงิน ก็เลยไม่ซื้อ

VDO เทป เป็นทางเลือกที่ถูกกว่า

แต่ความซวยของ Laser Disk ก็มาเยือน เพราะเปิดตัวไม่นานก็มาเจอ VCD ตีตลาดกระจาย ด้วยราคาที่ซื้อมาแล้ว ไม่พอใจก็เอาไปผูกท้ายรถสิบล้อได้
ถ้าแม้ว่า คุณภาพของภาพจะเทียบกันไม่ได้ แต่ราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ VCD เป็นที่นิยม (แม้แต่ในปัจจุบัน สำหรับผู้มีรายได้น้อย)

ผมเคยได้ยิน Super-VCD แต่ก็ไม่เคยใช้ครับ ได้ข่าวว่า "ดับ" เหมือนกันที่เมืองไทย แต่ต่างประเทศนี่ไม่ทราบ

=====================================
มาที่เรื่องสื่อบันทึกข้อมูลดิจิตอลครับ
ผมเสนอ แผ่นดิสก์ครับ (Diskette)
รุ่นแรก ขนาด 5 นิ้ว (ประมาณปี 1990 - 1995 ได้มั้ง ?) จำไม่ได้ว่าความจุเท่าไหร่
รุ่นต่อมา ขนาด 3 นิ้ว (ประมาณปี 1995 - 2005 ?) ความจุ 1.44 MB ไม่รู้ต่อนี้ยังใช้กันจริงจังหรือเปล่า
Notebook เดี๋ยวนี้ก็ไม่ทำช่อง Drive A กันแล้ว อิอิ (ไม่ทำมานานแล้ว)
เพราะมี เทคโนโลยี USB port ที่อำนวยความสะดวกให้กับ FlashDrive, ThumbDrive มาแทนที่แล้ว ความจำก็เยอะกว่าไม่รู้กี่เท่า

รุ่นต่อมา ZipDrive รูปร่างเหมือนแผ่นดิสก์ แต่หนากว่า ความจุ 120 MB อันนี้ มาแบบแว๊บๆ เพราะแพงมากตอนนั้น (ปี 1998 ได้มั้งครับ)

แต่ ZipDrive ก็จอด เพราะว่าเทคโนโลยี่การบันทึกข้อมูลดิจิตอลด้วยแผ่น VCD (750 MB) เข้ามาพอดี

ตอนนี้แผ่น VCD ก็ยังได้รับความนิยมอยู่เพราะราคาถูก ในขณะที่แผ่น DVD (4.7 GB = 4700 MB) คุมค่าต่อหน่วย แต่ราคาแพงถ้าซื้อมาบันทึกข้อมูลที่ไม่มากนัก

ปัจจุบัน มีสื่อประเภทเสียบปุ๊บ Save ปั๊บ มากมาย ความจุเหลือเฟือย โดยเฉพาะพวก walkman, ipod ที่บางรุ่นนอกจากจะดูหนัง-ฟังเพลงได้แล้ว ยังบันทึกข้อมูลได้อีกด้วย (8 GB หรือมากกว่า แล้วแต่รุ่น)

===============================

นึกอะไรได้จะมาเพิ่มครับ

floppy disk 5" ความจุ1.2MB ครับ (จริงๆแล้วรุ่นแรก 8"นะครับ แต่ไม่เคยเห็นของจริง)
ในตระกูลstorage มีอีกหลายตัว
MO 128,256 MB
EZDRIVE 128,256 MB
PD 650 MB

ถ้าถกกันเรื่องทรากในวงการคอมพิวเตอร์ เห็นจะยาว
และเศร้ามาก.....ฮือๆๆๆๆ
ผมเคยแทบหมดตัวกับ RAM เม๊กละ 1200 บาท เอ หมดตัวไปเลยดีกว่าครับ
อัดเข้าไป 40 เม๊ก คิดดูครับว่าเป็นเงินเท่าไร

แต่การซื้อที่ผิดพลาดที่สุดคือ zip drive ซึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง
ยอดขายถล่มทลายจนไอโอเมกา กลายเป็นยักษ์ใหญ่ตามไปด้วย
แต่รุ่งแค่ 2 ปี เจอ CD-r เข้าไป ม้วนเสื่อครับ
(เอ...ม้วนเสื่อนี่ก็เอาไปเล่นในกระทู้ศัพท์ตายได้นี่นา)

ผมใช้แค่ 1 ปี มันก้อกลับบ้านเก่า พอเสียผมก็ไปที่ร้านขาย กะส่งซ่อม
เจอสัจจธรรมของไฮเทค เป็นครั้งแรก
โด้....ของอย่างนี้ ใครเขาซ่อมกัน เพ่ เสียซื้อใหม่ครับ
พศ. นั้น การซ่อมยังเป็นทางเลือกหลักสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่นะครับ

ผมนั่งมองของราคาร่วมหมื่น(ผมต้องใช้แบบที่เป็นสแก๊สซี่ แพงกว่าปกติ) กองเป็นขยะอยู่หลายเดือน
คิดว่า มันอาจจะค่อยๆ ซ่อมตัวเองได้กระมัง  หึหึ

ถ้าให้เดาต่อ
ในอนาคตอันไกล้นี้ ระบบ CD-rom ก็คงม้วนเสื่อเหมือนกัน

เผื่อน้องๆ จะไม่เคยเห็น นำรูปมาให้ชม

ขยะเทคโนฯ ที่บ้าน หนักไปทางคอมพิวเตอร์เก่าแก่ สมัยที่เขายังเรียกว่า เวิร์ด โปรเซสเซอร์
เริ่มหัดใช้ครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๓๕   ตอนนั้นเขายังใช้โปรแกรมเวิร์ด ราชวิถี กับเวิร์ด จุฬา  อยู่ค่ะ  ยังไม่มีวินโดว์
จอเป็นสีดำขาว
แผ่นดิสก์แผ่นใหญ่ๆ บางๆ เสียบเข้าไปในฮาร์ดดิสก์  แต่ละแผ่นลงโปรแกรมอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ กินที่   พิมพ์นิยายเรื่องเรือนมยุราได้ไม่กี่บทก็หมดแผ่น ต้องเอาแผ่นใหม่มาพิมพ์ต่อ

ในเมื่อยังไม่มีอินเทอร์เน็ต  ก็ส่งต้นฉบับด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า แฟกซ์โมเด็ม  เป็นโมเด็มตัวย่อมๆ มีวิธีส่งจากคอมพ์   ลืมไปแล้วว่าทำยังไง   ขั้นตอนมีหลายขั้น ต้องจดเป็นโพยเอาไว้ ไม่งั้นลืม

เมื่อเริ่มมีโปรแกรมวินโดว์   คอมพ์เก่าแก่ขาวดำนี้ก็หมดอายุไป  เพราะอัพเกรดไม่ได้   ต้องซื้อใหม่ที่มีโปรแกรมวินโดว์ เป็นคอมพ์สีอย่างปัจจุบันนี้

ของเก่าก็เข้าสุสานไปตามระเบียบ    จนเมื่อมีอินเทอร์เน็ต  แฟกซ์โมเด็มก็ตามลงหลุมฝังไปด้วยอีกตัวหนึ่ง

 ;)สุสานเทคโนโลยีของผมเพียบครับ สมัยก่อน ไม่เดิ้น ไม่ซื้อ.. เดี๋ยวนี้ ลังเลก่อน ว่ามันต้องล้าสมัยทันทีที่ออกแหงมๆ ฮ่า

แพ็คลิงค์ กองอยู่ในลิ้นชักสองอัน.......
โทรศัพท์แดนคอล 470 เครื่องเก่าของคุณพ่อดูๆไปเหมือนของในพิพิธภัณฑ์.....
เครื่องเล่นเกมบอยที่เคยอยากได้ใจจะขาดตอนนี้กองเต็มกล่อง..... :-X

อันแรกก่อน ดิสก์ 8 นิ้วของคุณภูมิ ผมเคยเห็นที่ตึกภาคคอมพ์เก่า ตรงข้ามอุเทนถวายนั่นแหละครับ แต่แค่ได้เห็น เพราะตอนนั้นก็เป็นวัตถุโบราณเรียบร้อยไปหลายปีแล้ว

ส่วน zip drive แบบของคุณ pipat ผมมีตัวนึงใส่ถุงกองอยู่ใต้โต๊ะทำงาน รอวันทิ้งเหมือนกันครับ แต่ของผมเป็น parallel ค่าเสียหายถูกกว่าของคุณ pipat หน่อยครับ  ;D

ส่วนแรม ช้ำสุดเม็กละหมื่น ราวๆปี 2533 ได้มั้ง  :'(

อ้อ ชั้นข้างตัวนี่มีแพ็คลิงค์อยู่อันนึงเหมือนกัน กะว่าว่างๆจะเอามาเลาะดูหน่อยว่าข้างในมันเป็นไง  ;D

 :'( :'( :'(Newton ปาล์มคอม ของApple 

ถ้าต้องย้อนยุค เห็นจะยาวโยชน์
ลองดูนะครับ

1 กระดาษข้อมูล ที่เป็นแผ่นยาวๆ เจาะรู พี่ชายเอาให้ผมเล่นบ่อยๆ

2 สไลด์รูล พี่ชายผมอีกเหมือนกัน อยู่ในซองหนังแข็งๆ เสียบตูด โก้แหลก
ไม่น่าเชื่อนะครับ อะพอลโล 11 ไปดวงจันทร์
โดยฝากความหวังยามคอมพิวเตอร์ดับ กับมือชักสไลด์รูลที่เก่งที่สุดของนาสา

3 พิมพ์เขียว
ผมเคยอยากได้ไว้ที่บ้านสักตัว

4 ทีวีขาวดำ

5 เทป 8 แทรค
อันนี้ละเด็ด ใครจำได้บ้างครับ

เห็นใน series american เกี่ยวกับพวกหมอๆ เค้ายังใช้ pack link, phone link, page phone กันอยู่เลยครับ (น่าจะใช่นะ) แสดงว่าที่อเมริกายังมีใช้กันอยู่  ???

บ้านเราหมดไปแล้ว อิอิ (หรือเปล่า ?) หรือยังมีให้บริการอยู่อย่างเงียบๆ  ???

นี่ก็เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่ผม ไม่เคยได้ใช้ (มีแต่โทรไปเครื่องคนอื่น) ;D จำได้ว่า มันบูมมากๆ ตอนผมเรียนปีสอง มหาวิทยาลัย เพื่อนมีกันตรึม แต่ผมไม่มี เพราะไม่ชอบให้ใครตามตัว  ;D

คุณโฮคร๊าบ
ซีรี่ย์ของคุณน่ะ ER ภาคแรกมั้ง
ซีรี่ย์เรื่อง Freinds ดูเหมือนจะไม่มีบี๊บเปอร์กันแล่ว

หึหึ.....
สมกะเป็นนักภาษาโบราณจริงๆ

ผมว่า ผมเพิ่งเห็นเร็วๆ นี้แหละครับ จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เพราะดูผ่านๆ

ตอนนี้มี Dr.House ต้องตั้งใจดูหน่อยแล้ว อิอิ

แต่ก็ไปลองดูที่ wikipedia มาครับ เห็นเค้าบอกว่า ยังมีใช้กันอยู่จริง แต่เฉพาะกลุ่มอาชีพที่ต้องการแจ้งข่าวแบบฉุกเฉิน

Pager use in the 21st century

Pagers are still in use today in places where mobile phones typically cannot reach users, and also in places where the operation of the radio transmitters contained in mobile phones is problematic or prohibited. One such type of location is a large hospital complex, where cellular coverage is often weak or nonexistent, where radio transmitters are suggested to interfere with sensitive medical equipment and where there is a greater need of assurance for a timely delivery of a message.

Some common environments in which pagers are still used are:

    * Pagers remain in use to notify emergency personnel. For example, they are required to be used by UK lifeboat men and retained firefighters.
    * Pagers are mostly carried by staff in medical establishments, allowing them to be summoned to emergencies.
    * Pagers are also widely used in the IT world, especially in cases where on-call technicians cannot rely on more modern cellular telephone systems. A good example would be in a cellular telephone company, where a service interruption in the cellular network would also mean that it would not be possible to notify a technician due to the outage in the network. Therefore, in these companies, engineers are usually equipped with a pager that uses another telco's mobile network to ensure reachability in case of emergency. Pagers are also frequently used by non-telco IT departments.

ที่มา: http://en.wikipedia.org/wiki/Pager

ถ้างั้นเป็นไปได้หรือเปล่าครับ ที่พวกหมอใช้ Pager กันเพราะว่าปัญหาคลื่นมือถือ รบกวนการทำงานของเครื่องมือการแพทย์  ::)

อันนี้ในไทยไม่รู้ว่ากันยังไงนะครับ  ;D

แต่เทิร์นเทเบิ้ล ร็อคซาน กับแผ่นเสียงเก่าๆของคุณพ่อ  ถึงแม้ว่ายุคนี้จะมีเพลงซีดีชั้นดีฟังกับแหล่งเสียงเกรดเอ  แต่ก็ได้ยินคุณพ่อหยิบแผ่นลองเพลย์เก่ามานั่งฟังอยู่ (บางทีผมก็แอบฟังเหมือนกัน)  นี่หรือเปล่าที่เรียกว่าคลาสสิค  Never die......... :-[

คุณกุ้งพูดถึงปาล์มแล้วเศร้า ตะก่อนพกสาวขอดูตรึม  เดี๋ยวนี้  เฮ้อออออ  :'(  :'(  :'(  :'(

คุณกุ้งแห้งเยอรมัน และคุณ Bana พูดถึงปาล์ม  ;D ผมก็ไม่เคยได้สัมผัสอีกเช่นกัน อิอิ สงสัยเป็นคนตกเทคโนโลยี

เคยเห็นเพื่อนใช้กัน ก็ดูแล้วสะดวกดี แล้วจากนั้นผมก็ลืมไปเลย มัวแต่ทำงาน เตรียมตัวมาเรียนต่อ

นี่หมดยุคปาล์มไปเสียแล้วหรือนี่  :-X

วิดีโอเทป ค่ะ ทั้งเครื่องเล่นและวิดีโอคาสเส็ตต์ 
ไม่กี่ปีมานี้ยังอัดละครไว้ดูเองอยู่     หลังจากนั้นพอแผ่น DVD เข้ามาก็ไม่ได้ใช้พวกนี้อีกเลย   ราขึ้นหมดแล้ว

ยางลบหมึกครับ ปัจจุบันใช้ liquid paper กันหมดแล้ว ขออภัยด้วยที่อาจจะไม่ตรงกับกระทู้เท่าใดนัก  :D

เทปโทรทัศน์ขนาดหนึ่งนิ้ว
เทปโทรทัศน์ขนาดสองนิ้ว
เทปยูเมติค
และที่กำลังจะจากไป เทปเบต้า..
เพราะที่มาแรงใช้กันทุกวันนี้ คือMini DV
ขอขยายความนะคะ สมัยแรกๆ เราทำรายการทีวีประเภทสดอย่างเดียว หลังๆมีเทปโทรทัศน์ ก็อัดเทปรายการแทน เทปมีตั้งแต่หนึ่งนิ้ว สองนิ้ว อย่าคิดว่าเล็กนะคะ นั่นคือขนาดด้านข้างค่ะ ใหญ่ประมาณเล็กกว่ากระเป๋าเดินทางหน่อยหนึ่งหิ้วไปสถานีทีวี อัดเสร็จ รอออกอากาศแล้วต้องขอกลับมาเก็บใส่ตู้ในห้องแอร์อย่างเดียว หนังโฆษณาก็ต้องส่งเป็นเทปนิ้ว เบ้อเร่อเท่อ
พอมียูเมติค ก็เป็นเทปกล่อง ยังใหญ่อยู่ ใช้เป็นมาสเตอร์ ตอนนั้นเทปนิ้วหายไปแล้ว ยูเมติคต้องมีเครื่องเล่นซึ่งแพงมาก เฉพาะองค์กรใหญ่ๆ อย่างทีวี หรือเอเจนซี่ และโพรดัคชั่นเฮาส์ถึงจะมีไว้ฉายดู เราจึงดับเทปเป็นวีเอชเอสส่งให้ลูกค้าดูแทน
ยูเมติคจากไป เทปขนาดเล็กลง เรียกว่าเบต้า ขนาดประมาณพ็อกเกทบุ้ค เก็บง่ายขึ้น หิ้วไปไหนมาไหนสะดวก ส่งหนังโฆษณาไปสถานีทีสี่ห้าช่อง สบายๆ แต่ให้ลูกค้าดู ก็ดับลงแผ่นซีดี หรือดีวีดี ง่ายขึ้น
...
เท่าที่ทราบ ตอนนี้ เวลาส่งหนังโฆษณาให้สถานี สถานียังไม่เปลี่ยนเป็นดีวีดี หรือมินิดีวีค่ะ

ดับ=dub

สวัสดีครับ
เห็นหลายๆท่านแนะนำสุสานเทคโนโลยี ก็ขอโอภาปราศรัยเรื่องนี้ด้วยนะครับ

1. ที่บ้านผมยังใช้โมเด็มอินเทอร์นอลอยู่ครับ เมื่อยามจำเป็น
ตอนนี้ยังไม่กล้าใช้ ADSL เพราะไม่รู้ว่าจะสร้างบ้านใหม่เมื่อไหร่ เลยต้องไปแจมข้างนอกครับ

2.เทปคาสเซตต์ ตำนานที่ยังไม่ตาย!
เพราะบัดนี้GMM Grammy และค่ายเพลงลูกทุ่งบางค่ายยังผลิตอยู่
แต่คงจะเลิกผลิตในเร็ววันนี้

เกมส์กดค่ะ
เมื่อลูกอายุสิบกว่าขวบ  มีเกมส์มาริโอ้ให้เล่น   และเกมส์อื่นๆกดเล่นทั้งวัน จากจอทีวี
รวมทั้งเกมส์กดอันเล็กๆพกใส่กระเป๋าไปกดเล่นเวลานั่งรถไปไหนไกลๆ
ไม่เคยเห็นมานานกว่าสิบปีแล้ว

เพื่อนที่เคยใช้ packlink เขาเก็บไว้ใส่ถ่าน เอาไว้ update ข่าว เพราะมันรับข่าวได้ด้วย ไม่ต้องเสียตังค์ ใครยังมีเครื่องเก่าๆ ลองเอามาเล่นดู และเคยได้ยินว่าตามสถานีวิทยุเขายังใช้ให้แฟนๆ ส่งข้อความขอเพลงกันอยู่

ส่วนสุสานเทคโนโลยีที่บ้าน มีเครื่องพิมพฺดีดโบราณที่ตัวใหญ่ๆ หนักๆ กับตัวย่อมๆ ลงมา ที่คุณพ่อใช้พิมพ์ข้อสอบเด็กสมัยก่อน
เครื่องเล่นวิดีโอ คุณพ่อไม่ยอมให้คุณแม่เอาไปทิ้ง เอาไปแอบไว้
วิดิโอเกมของน้อง
disket ทั้ง 1.44 และ 3.5
ทีวีเครื่องเก่า เอาไว้ปลูกต้นไม้ได้
มีแต่เปลที่ไม่ใช้เทคโนโลยีอะไรมากที่ยังอยู่มาเป็นสิบๆ ปีแล้ว

ของบางอย่างแม้จะไม่ได้ใช้  แต่ก็ดูดีมีคุณค่าทิ้งก็ไม่ได้หาที่เก็บก็ลำบาก  แต่เวลาเอามาดูทีไรมีความสุขนึกถึงภูมิปัญญาและความหลัง  และบางอย่างก็ต้องหมั่นทำความสะอาดด้วย  เช่นแถบวิดิทัศน์  เราถ่ายเหตุการณ์ดีดีไว้เยอะแม้จะเอามาแปลงจากอนาล็อคเป็นดิจิตอลเก็บไว้บ้าง  แต่ก็ต้องทำความสะอาดแถบบ่อยๆไม่งั้นบวมขึ้นรา  เปิดดูแล้วมีความสุข 
รางลูกคิด  ,  เครื่องพิมพ์ดีดโอลิมเปีย , วิทยุทรานซิสเตอร์  , โทรทัศน์ขาว-ดำธานินทร์ ตั้งแต่สมัยคุณพ่อคุณแม่ออกเรือน , คอมพ์โบราณสมัยคุณ่พ่อใช้ โปรแกรมยังเป็น จุฬา-ราชวิถี , แม้แต่เตารีดที่ใช้ถ่านหุงข้าวแดงๆใส่มีไก่อยู่ตรงหัว ฯลฯ  หมดสิทธิ์ทิ้งครับเต็มห้องพอดี  และล้วนแต่มีที่มาทั้งนั้น  น่าจะเรียกสุสานของเก่าแห่งความทรงจำล่ะครับ  เพราะเวลาทำความสะอาดท่านก็จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับของเหล่านั้นด้วยแววตาที่เปี่ยมสุข ......... :D  :D  :D

ขอแจมบ้างครับ เห็นพูดถึงพิมพ์ดีดโบราณ เห็นพูดถึงเทคโนโลยี ผมขอสมัยใหม่หน่อย พิมพ์ดีดไฟฟ้าครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ที่ไหนยังใช้อยู่บ้าง ตัวแม่พิมพ์จะเป็นวงพลาสติกลมๆ เปลี่ยนภาษาได้ทั้งไทยทั้งอังกฤษ โดยเปลี่ยนแผ่นใบนี้ครับ หมึกพิมพ์ก็เปลี่ยนได้สองแบบคือเป็นฟิลม์ก็ได้ หรือจะเป็นผ้าหมึกก็ได้ครับ ชุดตลับผ้าหมึกนี้เป็นตลับขนาดประมาณฝามือครับ รุ่นที่ผมเคยใช้ (ออฟฟิตของคุณแม่ครับ ตอนม.ปลายจะช่วยทำงานเอกสารให้ตอนปิดเทอมครับ) ยังไม่มีระบบเซฟข้อความครับจำได้ว่าหลังจากนั้นมีเซลล์มาขายว่าจะมีระบบเซฟข้อความได้ด้วย แต่คงตายเพราะคอมพิวเตอร์ก่อนครับ ก็เป็นคอมรุ่นเก่าใช้ดอส ผมยังเคยเล่นเกมส์ทีใช้ระบบดอส เกมส์พวกนี้ตอนนี้อยู่ในมือถือได้สบายๆ ครับ พรินซ์ออฟเปอร์เซีย แพคแมน งูกินหาง (จำชื่อเกมส์ไม่ได้ เกมส์คืองูกินก้อนก้อนหนึ่งแล้วหางจะยาวขึ้นเรื่อยๆ) เกมส์นักสือ (ใช้แผ่นแบบ 5 นิ้วครึ่ง สามแผ่นต่อเกมส์) พอเริ่มอยู่มหาลัยถึงจะใช้วินโดว์ 3.2

ก่อนอินเตอร์เนทจะดังในประเทศ เคยมีใครใช้ระบบชุมสายแบบ BBS หรือเปล่าครับ สมาชิกจะใช้โมเดมโทรเข้าศูนย์แล้วเข้าโปรแกรมคุยกระทู้ต่างๆ ถ้าจำไม่ผิดจะใช้แชทได้ด้วย (ขอไม่ยีนยันครับ จำไม่ได้จริงๆ) เล่นอยู่ประมาณ สองปี แล้วอินเตอร์เนทก็เฟื้องฟู ถึงราคายังแพงอยู่ BBS ก็หายไปตามกาลครับ

พิมพ์ดีดไฟฟ้ายังพอมีใช้กันอยู่ครับ เพราะยังไงก็พิมพ์ใส่แบบฟอร์มได้ถนัดกว่าคอมพ์ครับคุณหมีใหญ่

งูกินหาง นี่คือ Snake ถ้าแบบเล่นสองคน ก็ Tron ครับ (อันนี้เคยมีทำเป็นภาพยนต์ชื่อเดียวกันนี้ด้วย)

เกมนักสืบ เข้าใจว่าจะเป็นชุด Carmen Sandiego

เวอร์ชั่นของ Windows คุณหมีใหญ่จำผิดไปนิดนึง (เข้าใจนะว่ามันนานน่ะ  ;D) ตัวที่แพร่หลายตัวแรกคือ Windows 3.1 หลังจากนั้นก็เป็น Windows 3.11 for Workgroup และก็โดดข้ามไปเป็น Windows NT 32 bits ตัวแรก ที่ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องออก Windows 95 มาเป็นสะพาน ถึงได้หมดยุค 3.11 ครับ

BBS นี่จะฮิตมาก่อนเน็ตจะมาหลายปีอยู่ครับ แต่อยู่ในวงจำกัด บางเจ้าก็ต้องเป็นสมาชิก เสียเงินถึงจะใช้ได้ แต่ก็มีที่ฟรีอยู่หลายที่เหมือนกันครับ

แต่โมเดมตอนนั้นช้ามาก โมเดมตัวแรกของผม ความเร็วแค่ 1200 bps ช้ากว่าที่ใช้อยู่ตอนนี้เกือบๆจะพันเท่าครับ ใช้อยู่หลายปี จนได้มาใช้ช่วงมีเน็ตใหม่ๆสักพักใหญ่ ทนช้าไม่ไหวต้องซื้อใหม่ครับ

โมเด็มตัวแรกของผมความเร็ว 9600 แล้วครับ :-)
BBS นี่ก็ใช้อยู่หลายที่เหมือนกัน

เกมออนไลน์อันแรกที่เล่นกันสมัยโมเด็มก็คือ baron realm ใครยังจำได้บ้างครับ

ขอบคุณครับคุณม้า ผมจำผิดไปจริงๆ ด้วย สงสัยตัวเลข 3.2 นี่จะเผลอติดหัวจาก 32 บิท หรือไม่ก็เอา 1.1 มาบวกกันไม่อาจทราบได้  ;D
เกมส์สมัยก่อนอีกเกมส์ก็ Koei ครับ เป็นเกมส์ตัวลครจากสามก๊ก ตอนนั้นเรียนอยู่เล่นกับเพื่อทั้งวันทั้งคืน (เลยดุหลานเดียวนี้ที่เล่นเกมส์นานๆ ไม่สนิทปาก  :() รันบน dos ตอนฉากสงครามก็เป็นคล้ายๆ ก็สนุกดีครับ แต่ตอนนี้แม้แต่เวอร์ชั่นใหม่ๆ ก็เล่นแล้วไม่สนุกครับ