เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ก.พ. 20, 11:25



กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ก.พ. 20, 11:25
เมื่อวานนี้ (๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓) เวลาบ่าย เกิดเหตุทหารคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงผู้บังคับบัญชาพร้อมแม่ยายของผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตที่นครราชสีมา จากนั้นได้ขับรถไปยังคลังอาวุธภายในค่ายทหาร ก่อนขับฮัมวี่พร้อมอาวุธสงครามจำนวนมากหลบหนีเข้าตัวเมือง ระหว่างทางคนร้ายได้ใช้อาวุธที่ขนมากราดยิงชาวบ้านที่สัญจรไปมาและตำรวจที่เข้าระงับเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองสนธิกำลังปิดล้อมห้างเทอร์มินอล ๒๑ ที่ผู้ก่อเหตุซ่อนตัวอยู่เป็นเวลานานกว่า ๑๗ ชั่วโมง โดยมีประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในห้างด้วย

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญฆาตกรรมแล้วเมื่อเวลาประมาณ ๙.๐๐ น. วันนี้ (๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมารายงานว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด ๒๐ ราย บาดเจ็บ ๔๒ ราย

https://www.bbc.com/thai/live/thailand-51428500

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและครอบครัว มา ณ โอกาสนี้  :'(


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ก.พ. 20, 13:46
อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 20, 15:44
    เมื่อก่อนหน้านี้ เวลาโพสข่าวร้ายต่างๆในกระทู้นี้ต่อเนื่องกันมาเป็นปีๆ  แต่ละข่าวทำให้ใจคอหดหู่  แต่ก็ยังมีความรู้สึกใจชื้นขึ้นนิดหน่อยว่า ยังดีที่ บ้านเมืองเราไม่มีข่าวคนบ้าคลั่งไล่ฆ่าประชาชนคนเดินถนนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่  แบบบ้านเมืองอื่นๆ
     แต่มาวันนี้  ความรู้สึกใจชื้นนั้นหมดไปแล้ว มีแต่ความแห้งผาก  ว่าบทจะเกิดบ้านเราก็ทำลายสถิติบ้านอื่นเมืองอื่นเขาหมด
    ยังไม่มีกะจิตกะใจจะโพสค่ะ  ท่านใดตั้งสติได้เร็วกว่า ขอเชิญก่อนนะคะ 


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 09 ก.พ. 20, 17:54
เช่นกันครับ   และก็หวังว่าคงจะไม่มีการเอาเหตุการณ์ความโศกเศร้าเสียหายในครั้งนี้ไปรังสรรค์ปั้นแต่งให้เป็นสาระที่ยังให้เกิดประโยชน์แก่ตนหรือกลุ่ม


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ก.พ. 20, 20:11
อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 10 ก.พ. 20, 10:11

       อยากให้เป็นฝันร้าย            ตื่นแล้วหายกลายเป็นดี

บ้านเราถึงจุดนี้                        คงไม่มีวันเหมือนเดิม   

ภาพ The Scream (1893) และ Melancholy (1891) โดย Edvard Munch


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.พ. 20, 10:30
เมื่อเวลา 1.40 pm (NZT) ได้เกิดเหตุกราดยิงผู้คนในมัสยิดสองแห่งที่ Christchurch, New Zealand  ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย(ยังไมีมีการระบุจำนวนแน่นอน)
          
บางรายงานกล่าวว่า จนท.จับกุมผู้ก่อเหตุได้ 4 รายเป็นชาย 3 และหญิง 1 และเชื่อว่า1 ในนั้นเป็นชาวออสเตรเลีย

น่ากลัวมากคะ่   นิวซีแลนด์เคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศสงบสันติ ปลอดภัย  ไม่มีปัญหาการเมืองใดๆระหว่างประเทศ

เหตุร้ายครั้งนี้ คนร้ายยิงกระหน่ำเข้าไปในมัสยิด 2 แห่ง ทำเอาคนตายไปอย่างน้อย 49 คน  และอีก 20 บาดเจ็บสาหัส

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บด้วยค่ะ

บทเรียนจากนิวซีแลนด์

"ขอให้พวกเราเอ่ยชื่อผู้ที่สูญเสีย มากกว่าชื่อคนที่คร่าชีวิตพวกเขาเหล่านั้น"


ส่วนหนึ่งจากถ้อยแถลงของนายกนิวซีเเลนด์ต่อเหตุการณ์กราดยิงในมัสยิดที่เมือง Christchurch มีนาคม ๒๕๖๒

"หนึ่งในสิ่งที่เขาต้องการจากอาชญากรรมนี้ คือการมีตัวตน (ชื่อเสียง) ดังนั้นคุณจะไม่มีวันได้ยินฉันพูดชื่อเขา เขาเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นอาชญากร เป็นคนหัวรุนเเรง เเต่เมื่อฉันพูด, "เขาจะไม่มีชื่อ" ฉันขอให้พวกเราเอ่ยชื่อผู้ที่สูญเสีย มากกว่าชื่อของคนที่คร่าชีวิตเขาเหล่านั้น เขาอาจจะอยากมีตัวตน แต่พวกเราชาวนิวซีเเลนด์จะไม่ให้ แม้เเต่ชื่อ"

https://youtu.be/QS22n2bvXn4


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 20, 19:01
    ปกติ  สื่อจะเว้นชื่อบุคคลในข่าวหากว่าเป็นผู้เสียหาย  เช่นเด็กหรือผู้หญิงที่ถูกละเมิดทางเพศ    ในกรณีผู้ก่อเหตุกราดยิงโคราช   ดิฉันยังไม่เห็นว่าเสียหายถ้าระบุชื่อจริง
   สรุปข่าวดังนี้

    -  เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ. 63 จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี สังกัด กรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 บชร.2 ได้ก่อเหตุยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส และ นางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิตทั้งคู่
        - จากนั้น ได้ไปที่คลังอาวุธในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ แย่งอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการ และยิงพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิต 1 นาย ได้อาวุธออกมาเป็นจำนวนมาก ก่อนจะขโมยรถฮัมวีของหน่วยราชการขับหนีออกมาด้วย
         จ.ส.อ.ดังกล่าวใช้อาวุธกราดยิงชาวบ้านที่สัญจรไปมารวมทั้งตำรวจที่เข้าระงับเหตุ พร้อมกับเข้าไปก่อเหตุกราดยิงในวัดป่าศรัทธาธรรม ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนี จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช
    -    ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม ราดยิงผู้คนบริเวณนั้น พร้อมกับยิงถังแก๊สที่ตั้งอยู่ภายนอกจนระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้
      - สถานการณ์ในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช อยู่ในความวุ่นวาย ผู้คนพากันหลบหนีออกมาจากห้าง และมีอีกจำนวนมากที่หนีไม่ทัน จำเป็นต้องหลบอยู่ภายในห้างเพื่อรอการช่วยเหลือ  ตำรวจและทหารสนธิกำลังกันเพื่อเร่งคลีคลายสถานการณ์
       พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งการให้ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.  ลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการ
      - สื่อทั้งโทรทัศน์และโซเชียลมิเดียติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด  รวมทั้งไลฟ์บรรยากาศสดในพื้นที่ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม จากการให้รายละเอียดความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ติดอยู่ในอาคาร   จนคนร้ายรับรู้ที่ซ่อนและความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าทีื    จนสำนักงาน กสทช. ได้ขอความร่วมมือ 3 ข้อ ได้แก่
1. ไม่ควรรายงานสด หรือแสดงข้อมูล กระบวนการ และรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์นี้
2. ไม่ควรนำเสนอข้อมูลในสถานที่ที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ
3. ไม่นำเสนอภาพที่รุนแรง เช่น ภาพผู้เสียชีวิต ภาพการยิงอาวุธ เป็นต้น

- ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. มีรายงานว่าคนร้ายได้ขึ้นไปที่ชั้น 4 ของห้าง พร้อมจับตัวประกันไว้ 16 คน ทางการจึงส่งหน่วยคอมมานโด หน่วยหนุมานกองปราบ รวมทั้งตำรวจหน่วยนเรศวร 261 ตชด. ลงพื้นที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้บัญชาการทหารบก ก็ตามมาลงพื้นที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน

   นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 31 ราย

- ประมาณ 22.00 น. ประชาชนที่ติดค้างและหลบซ่อนอยู่บนห้างเทอร์มินอล 21 บริเวณชั้น 4 ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบผ่านการใช้บันไดหนีไฟออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยออกมาจากชั้นที่ 1 ประมาณ 60 คน จากชั้นที่ 3 จำนวน 25 คน จากชั้นเครื่องเล่นเด็ก 60 คน โดยทั้งหมดออกมาทางประตูหนีไฟ และเจ้าหน้าที่พยายามกระชับพื้นที่บริเวณชั้น LG
- ประมาณ 01.00 น. ตำรวจควบคุมสถานการณ์ที่ชั้น G ช่วยเหลือประชาชนออกมาได้ และมีรายงานจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางมาที่ห้างเทอร์มินอล 21 เพื่อติดตามสถานการณ์ และยืนยันยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 20 คน

- หลังมีรายงานควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 01.45 น. เจ้าหน้าที่ได้ทยอยนำประชาชนออกมาจากห้างเทอร์มินอล 21 และชุดสุดท้ายได้รับการช่วยเหลือออกมาเมื่อเวลา 02.00 น.

- 03.00 น.เจ้าหน้าเข้าเคลียร์พื้นที่หน้าห้างเทอร์มินอล 21 แต่ในเวลา 03.15 น. สถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องนานหลายนาที จากนั้นมีการนำตัวผู้บาดเจ็บออกมา 4 ราย ปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ยังทำไม่สำเร็จ
- 05.00 น. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เดินทางออกจากบริเวณห้างเทอร์มินอล 21 โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อมาในเวลา 05.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล ระบุว่าจากเหตุปะทะเมื่อเวลา 03.30 น. มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย รวมขณะนั้นมีผู้เสียชีวิต 21 ราย บาดเจ็บ 33 ราย
- 07.30 น. มีรายงานผู้บาดเจ็บเพิ่มอีก 9 ราย นำส่ง รพ.มหาราช
- เวลาประมาณ 09.50 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันว่า คนร้ายเสียชีวิตแล้วจากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในเวลาประมาณ 09.00 น.
- 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บินด่วนมาถึง จ.นครราชสีมา รับฟังสรุปเหตุการณ์จาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ก่อนไปเยี่ยมคนเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ รพ.ค่ายสุรนารี ในเวลา 10.30 น.
- 10.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงข่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยแก้ไขปัญหา และขอแสดงความเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น
 
    ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงโคราชอยู่ที่ 30 ราย  (รวมผู้ก่อเหตุ)  และผู้บาดเจ็บ 58 คน


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 20, 19:23
ตามที่ เกิดเหตุคนร้ายประทุษร้ายประชาชน ณ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันเสาร์ ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และได้รับผลกระทบจากภยันตรายดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ความทราบตามข่าวสารที่ปรากฏแล้ว นั้น

เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระปรารภห่วงใยผู้ประสบเหตุและผู้สูญเสีย จึงโปรดประทานผ้าไตร ๑ ไตร พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่ทายาทของเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศลศพทุกราย และโปรดประทานเหรียญพระรูป พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่ผู้บาดเจ็บทุกรายเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลพระบรมราชานุเคราะห์ในการรักษาพยาบาล

ทั้งนี้ โปรดให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ) ในฐานะรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้เชิญสิ่งของและกัปปิยภัณฑ์ประทานไปมอบแก่เจ้าภาพศพและผู้บาดเจ็บทุกรายตามพระประสงค์

อนึ่ง มีรับสั่งประทานกำลังใจแก่ครอบครัว ญาติมิตรของผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้ เพื่อให้ทุเลาความโศก ความทุกข์ยาก และความหม่นหมอง อีกทั้งโปรดประทานพรให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ประสบเหตุภยันตรายพร้อมด้วยครอบครัวและญาติมิตร ตลอดจนประชาชนชาวนครราชสีมา และสาธารณชนผู้รู้สึกหดหู่สะเทือนใจ จงถึงพร้อมด้วยศรัทธา ขันติ สติ และปัญญา เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความสงบร่มเย็นของสังคมไทยให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นสืบไป

สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3046387365385685&set=a.3043496855674736&type=3&theater


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 20, 19:59
ยกย่องความกล้าหาญ รปภ. ห้างเทอร์มินอล 21 ช่วยหลายชีวิตรอดตาย #กราดยิงโคราช

https://www.sanook.com/news/8029238/?fbclid=IwAR0czXwU9tAYOOlFLhmrQBgJU1YoBtIz0jRHaES3mhAw0l492KfAQNrexRM


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 20, 20:03
อย่างนี้ควรเอ่ยถึง



กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.พ. 20, 21:24
เมื่อ ๓ ปีที่แล้ว ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ James N. Meindl ผู้ช่วยศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเมมฟิส และ Jonathan W. Ivy ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ได้เขียนบทความวิชาการเรื่อง Mass Shootings: The Role of the Media in Promoting Generalized Imitation (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5296697/) ในวารสาร American Journal of Public Health  ชี้ว่า ค่าเฉลี่ยของเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในสหรัฐ จะเกิดขึ้นซ้ำอีกภายใน ๑๒.๕ วัน โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการเลียนแบบพฤติกรรม

รองศาสตราจารย์ปณิธาน วัฒนายากร ได้เก็บความสำคัญจากบทความไว้ดังนี้

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ศึกษาเรื่องนี้มากว่า ๕๐ ปีแล้ว และมีข้อแนะนำที่น่าสนใจว่า

๑. ไม่ควรใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปในการรายงานข่าว
๒. ไม่ควรพาดหัวข่าวใหญ่โตเกินไป
๓. ไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นเพราะสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง เพราะในความเป็นจริง จะมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน
๔. ไม่ควรจะรายงานซ้ำ ๆ หรือย้ำบ่อย ๆ
๕. ไม่ควรจะนำเสนอขั้นตอนการสังหารโดยละเอียด อันจะนำไปสู่การลอกเลียนแบบ หรือการเรียนรู้ได้ง่าย
๖. จำกัดการนำเสนอของรูปภาพและคลิปวีดิโอให้น้อย เพื่อลดผลกระทบลง
๗. ระมัดระวังในการนำเสนอ ไม่ให้ผู้กระทำผิดถูกยกย่องชื่นชมหรือเป็นแบบอย่าง รวมทั้งเรื่องการสังหารตัวเอง

ซึ่งข้อแนะนำดังกล่าว ทางรัฐบาลอเมริกัน โดย FBI ได้นำไปเป็นนโยบายในการสื่อสารชื่อว่า “อย่าไปเอ่ยชื่อเขา” (Don’t Name Them) และได้นำไปใช้ในกรณีที่อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรือนจำชาวอเมริกันที่มีพ่อแม่อพยพมาจากอัฟกานิสถานได้สังหารคนที่มาเที่ยวไนต์คลับไป ๔๙ คนและบาดเจ็บอีก ๕๓ คน ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เมื่อหลายปีก่อน

นอกจากนี้ James Meindl และ Jonathan Ivy ยังได้มีข้อเสนอที่น่าสนใจในการสื่อสารอีก ๖ ประการ คือ

๑. สื่อสารให้เห็นถึงความน่าละอาย การละเมิดศีลธรรม จรรยาบรรณ ความขลาดกลัวของมือสังหาร ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ผู้ทำผิดถูกชื่นชมหรือยกย่อง
๒. หลีกเลี่ยงการอธิบายเหตุผลของมือสังหาร เพราะซับซ้อน และจะทำให้คนอื่นที่มีปัญหาคล้าย ๆ กัน อาจเลือกแนวทางรุนแรงเป็นทางออกได้
๓. ลดเวลาออกอากาศให้สั้นหรือให้พื้นที่การสื่อสารให้น้อย เพราะการให้เวลาหรือให้พื้นที่สื่อมาก ๆ จะเป็นการให้รางวัลและเพิ่มสถานะทางสังคมของผู้ทำผิด
๔. ควบคุมการให้ข่าวและการแถลงข่าวสดหลังเหตุการณ์ ถึงแม้ว่าอาจจะมีความต้องการบริโภคข้อมูลเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้เกิดความน่าสนใจหรือ “ความตื่นเต้น” เกินความจำเป็น
๕. นำเสนอแต่ข้อเท็จจริงสั้น ๆ อย่าผลิตหรือทำซ้ำอะไรที่เป็น “ดราม่า” โดยเฉพาะไม่ควรพาดหัวว่า “Breaking News” เพื่อสร้างความเร้าใจเพิ่มขึ้น
๖. ไม่ควรลำดับเหตุการณ์โดยละเอียดทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการสังหาร เพราะรายละเอียดเหล่านี้จะถูกนำไปลอกเลียนแบบได้ง่าย

https://www.facebook.com/100000122931524/posts/3361808323833232/


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 08:02
แนวปฏิบัติสื่อต่างชาติรายงานเหตุกราดยิง :  ที่นี่ Thai PBS

https://youtu.be/HF5KXlNLkhQ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 09:28
ขอตั้งข้อสังเกตบางอย่าง ที่อาจเป็นประโยชน์ในการนำไปถอดบทเรียน เพื่อป้องกันเหตุร้ายไม่ให้ลุกลามใหญ่โตอย่างคราวนี้

1   คนร้ายผู้ก่อเหตุ ฆ่าเหยื่อ 3 รายแรกเมื่อเวลาประมาณ 15  น.    เข้าไปยิงครั้งแรกในเทอร์มินัล 21  เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. (ตามหลักฐานจากปชช.ที่ประสบเหตุ)   
     ระหว่างเวลา 2 ชม.ครึ่งนี้ได้ฆ่าทหารในค่าย ปล้นอาวุธสงคราม   ฆ่าตำรวจและประชาชนตามท้องถนน ด้วยอาวุธปืน ทำให้มีผู้ตายหลายราย เป็นฆาตกรรมที่เปิดเผย ใช้อาวุธสงครามที่มีเสียงดัง   ไม่ใช่การลอบสังการ
     แต่นอกจากตำรวจ 1  รายที่เข้าไปขัดขวางเพื่อจับกุมแล้วถูกยิงตาย      ไม่มีปฏิบัติการจากหน่วยงานใดๆ ทั้งทหารและตำรวจ   แสดงว่ายังไม่รับทราบ หรือรับทราบแล้วแต่ยังไม่เคลื่อนไหวเข้าระงับเหตุ
    เวลา 2  ชั่วโมงครึ่ง   คนร้ายลงมือได้อย่างย่ามใจ  สะดวกในการทำงานมาตลอด

2    คนร้ายปล้นอาวุธของทางราชการ ประกอบด้วย
      1. จากป้อมรักษาการณ์ ปลย.11 จำนวน 1 กระบอก + กระสุน 5.56 จำนวน 40 นัด ,
      2. จากกองร้อย(คลังอาวุธ)ปลย.11 (HK) จำนวน 1 กระบอก / ปก.M60 จำนวน 1 กระบอก
     ,3. จาก บก.พันฯ รยบ.51บี และ. จากคลังกระสุนกองพันฯ กระสุน 5.56 จำนวน 736 นัด
      ด้วยการยิงทหารยามตาย 1 บาดเจ็บ 2   ขโมยรถของกองทัพอีก 1 คันขับออกไปจากค่ายทหาร เข้าสู่ตัวเมือง

     การเข้าถึงอาวุธสงครามทำได้ง่ายมาก   ไม่มีการสแกนบัตรหรือลายนิ้วมือเพื่อเปิดประตูเข้าออกสู่คลังอาวุธได้  ไม่มีกล้องวงจรปิดที่มีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์ความผิดปกติต่างๆ 
     นอกจากนี้      เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น  ในค่ายไม่มีใครได้ยินเสียงปืน ที่ดังอย่างน้อย 3 นัด
      ไม่มีใครเห็นคนร้ายขนอาวุธเข้าออกจากสถานที่ต่างๆซึ่งอยู่คนละแห่งกัน    หรือเห็นแต่ไม่ผิดสังเกต ที่คนร้ายหอบอาวุธสงครามพะรุงพะรังเดินไปมาหลายเที่ยว 
     ไม่มีใครเห็นว่าคนร้ายไปเอากุญแจรถมาจากไหน ถึงไขเข้าไปขับรถฮัมวี่ออกจากค่ายได้   
     ยามที่เฝ้าประตูเข้าออกก็ไม่ผิดสังเกตแต่อย่างใด ที่คนร้ายเข้ามาในค่ายด้วยยานพาหนะชนิดหนึ่ง และออกไปด้วยยานพาหนะอีกชนิดหนึ่ง

    ทั้งหมดนี้ประมวลจากข่าวที่ได้อ่านค่ะ   ถ้าผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วย


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 09:45
   ประมวลจากช่วงเวลาที่เกิดเหตุ  และวิธีการทำงานของคนร้าย ทำให้ดิฉันสงสัยว่าเหตุการณ์นี้มีการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วอย่างดี    ไม่ใช่การบันดาลโทสะจากข้อพิพาทส่วนตัว ยิงคู่กรณีตายแล้วเกิดอารมณ์คลุ้มคลั่ง  เตลิดไปยิงผู้คนตามถนนหนทาง     แต่เป็นการวางแผนไว้ว่าพบคู่กรณีที่ไหน  เวลาไหน วันไหน ถึงยิงตายไปได้ 3 คนโดยไม่มีชาวบ้านแตกตื่นแห่กันเข้ามา หรือโทรแจ้งเหตุ   
   เหตุเกิดตอนบ่ายสามโมง  ไม่ใช่ตีสาม    ถ้าเกิดกลางดึกชาวบ้านอาจไม่กล้าออกจากบ้านมาดู ต้องรอจนเช้า   แต่นี่เป็นเวลาบ่ายวันหยุด   แถวนั้นเป็นบ้านนายทหารมีคนอยู่กันคึกคัก  ไม่ใช่บ้านเดี่ยวกลางทุ่ง 
   นอกจากนี้การปล้นอาวุธ  จะเห็นได้ว่าต้องใช้เวลาพอสมควรจากการขนอาวุธต่างๆหลายชนิด      ยิงทหารยามตายด้วย  หารถขนอาวุธออกไปด้วย    ทั้งหมดนี้ไม่มีการขัดขวาง ไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเสียงปืน  ไม่มีใครเอะใจ    คนร้ายจะต้องเลือกวัน เวลา ที่รู้ว่าปลอดคน  และเส้นทางในค่ายทหารที่ปลอดจากสายตาและการรับรู้ของคนในค่าย

   ดังนั้น เรื่องที่พูดกันว่าคนร้ายถูกโกง ได้รับแรงกดดัน จึงทำลงไป น่าจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 09:51
   เรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับผู้ประสบเหตุร้ายในเรื่องนี้ คือ อาการ PTSD ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง
    PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) คือ สภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เกิดความเครียดอย่างมาก อาทิ ภัยพิบัติ อุทกภัย แผ่นดินไหว การก่อการจราจล การฆาตกรรม สงคราม การปล้นฆ่า ข่มขืน เป็นต้น ซึ่งคนที่เผชิญอยู่กับเหตุการณ์นั้นๆ รอดชีวิตมาได้ หรือว่าเป็นผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในเหตุการณ์นั้นๆ ทำให้เกิดมีความเครียดทางด้านจิตใจชนิดรุนแรงมาก จนทุกทรมาน ส่งผลให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ ตามมา
    อาการผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงเป็นภาวะ PTSD คือ
    อาการในช่วงแรกประมาณ 1 เดือน เราจะเรียกว่าระยะทำใจ (Acute Stress Disorder) หรืออาการเครียดเฉียบพลัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเครียดแล้วเกิดอาการทางประสาทขึ้นมาได้

     ระยะที่สอง (PTSD: Post-Traumatic Stress Disorder) คือ กินระยะเวลานานมากกว่า 1 เดือน บางคนอาจจะยาวนานหลายเดือน หรือนานเป็นปีแล้วแต่บุคคล มีลักษณะอาการสำคัญ 4 อย่าง คือ

   1. เห็นภาพเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นนั้นตามมาหลอกหลอนอยู่บ่อยๆ ผุดขึ้นมาซ้ำๆ หรือฝันเห็นบ่อยครั้ง
   2. อาการ Flash Back คือ เกิดความตื่นตัว เห็นเหตุการณ์นั้นๆ กำลังจะเกิดขึ้นกับเรา ควบคุมไม่ได้ เกิดอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย ก้าวร้าว ซึ่งเดิมไม่เคยเกิดขึ้น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ตกใจง่าย ใจสั่น ความดันโลหิตสูง ไม่มีสมาธิ เครียดได้กับสิ่งต่างๆ รอบตัว
   3. พยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะส่งผลทำให้กระทบกระเทือนต่อจิตใจ เช่น ภาพข่าวเหตุการณ์ การพูดถึงจากบุคคลอื่น
    4. มีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ในเชิงลบ รู้สึกว่าชีวิตตัวเองหม่นหมอง ทั้งตัวเองและสิ่งรอบข้าง คิดว่าตัวเองคงไม่มี  ความสุขได้อีกต่อไปแล้ว ไม่สนใจกิจกรรมที่เคยชอบหรือเคยทำมาก่อนอีกแล้ว ทำให้อาจคิดฆ่าตัวตาย หรือพึ่งสารเสพติดต่างๆ เพื่อต้องการให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แต่จริงๆ แล้วอาจจะทำให้เกิดผลร้ายแรงยิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว

ข้อมูล: อ.พญ.แสงศุลี ธรรมไกรสร ภาค้อวิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

https://med.mahidol.ac.th/ramachannel/home/article/ptsd-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8/

   เพราะฉะนั้นสื่อที่เอาไมค์ไปจ่อปากถามผู้ประสบเหตุหรือญาติของคนเหล่านั้นก็ว่ารู้สึกยังไง    หรือไล่ตามสัมภาษณ์ไม่ละลด   เพื่อเอาข่าวความทุกข์ทรมานใจมาลงสนองความกระหายอยากรู้ของคนเสพข่าว   ขอได้โปรดเห็นแก่มนุษยธรรม   อย่าทำเช่นนั้นเลย   
   ถ้าบุคคลเหล่านั้นอยากบอก  เขาก็จะบอกของเขาเอง


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 09:53
 :'( :'(


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 11 ก.พ. 20, 09:56
ในฐานะที่ผมเคยได้เข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่คลังสรรพาวุธปากช่องก็ขออนุญาตนำเสนอข้อมูลบางประการครับ
1. คลังสรรพาวุธที่ปากช่องตั้งอยู่ในที่ราบที่เนินเขาล้อมรอบ มีทั้งส่วนที่เป็นอาคารสำนักงาน คลังอาวุธ โรงงานซ่อมบำรุงอาวุธและเครื่องกระสุน และพื้นที่โล่งกว้างสำหรับการทำงานกระสุนที่หมดอายุการใช้งานแล้ว หรือกระสุนเก่าที่เก็บมาได้จากที่ต่างๆ

2. ในส่วนของคลังอาวุธ จะแยกออกไปกระจายกันอยู่ตามพื้นที่ต่างๆครับ แทบจะแยกกันอยู่หุบเขาละคลังเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันหากเกิดระเบิดขึ้นมา แต่กรณีนี้เป็นหน่วยทหารในเมือง คลังอาวุธอาจจะไม่ได้แยกไปอยู่ในหุบเขาขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ต้องห่างจากอาคารทั่วไปอยู่พอสมควรครับ และลักษณะของอาคาร หากเป็นอย่างที่ปากช่อง ตัวอาคารเขาจะสร้างไว้แข็งแรง มีการนำเอาถมดินกลบผนังอาคารไว้สามด้าน ส่วนด้านหน้าจะมีกำแพงปิดบังด้านหน้าอาคารและมีการถมดินเช่นกัน ดังนั้น เป็นไปได้มากเลยครับ ที่คนร้ายอาจก่อเหตุได้โดยไม่มีใครเห็น

3. คลังอาวุธจะมีเวรยามรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลาครับ อย่างที่ผมไปดูนั่น อาคารหนึ่งก็มีเวรยามประมาณ 3-4 นายครับ แต่วิธีการเบิกอาวุธจากคลัง ผมไม่ทราบครับเนื่องจากในวันที่ไปเยี่ยมชมการปฏิบัติงาน ไม่ได้ขอชมภารกิจนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเรียนก็คือ อาคารคลังอาวุธ จะตั้งอยู่ภายในหน่วยทหาร ซึ่งโดยปกติจะมีเวรยามดูแลอยู่ หากมีบุคคลภายนอกที่ประสงค์ร้ายจะเข้าปล้นอาวุธ เขาจะต้องยกกำลังกันเข้าปล้นค่ายอย่างที่เคยเกิดเหตุในภาคใต้นั่นหนะครับ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องก็จะเอิกเริกบานปลายไปตั้งแต่แรก แต่ในกรณีนี้ผู้กระทำเป็นบุคคลภายในครับ บางทีอาจรู้จักกับเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าคลังด้วยซ้ำไป เลยเป็นช่องทางที่สามารถลงมือได้ง่าย ถ้าเป็นบุคคลภายนอก ย่อมทำไม่ได้อย่างนี้ครับ

4. การเข้าพื้นที่ด้วยรถชนิดหนึ่ง แต่ออกจากพื้นที่ด้วยรถอีกชนิดหนึ่งเป็นเรื่องปกติมากครับ ตอนเช้าขับขี่รถส่วนคัวเข้ามาทำงาน แล้วออกไปธุระด้วยรถราชการ คือเรื่องปกติมากครับ ยิ่งเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นเคยด้วยแล้ว ไม่มีใครสงสัยอะไรแน่นอนครับ    


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 10:04
เหตุการณ์กราดยิงที่โคราช ท่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นหลายท่าน กระทู้น่าจะยาว เห็นควรแยกเป็นกระทู้ใหม่ตั้งแต่ความคิดเห็นที่ ๓๕๔

เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 10:15
แยกให้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณเพ็ญชมพู


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 10:26


2. ในส่วนของคลังอาวุธ จะแยกออกไปกระจายกันอยู่ตามพื้นที่ต่างๆครับ แทบจะแยกกันอยู่หุบเขาละคลังเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันหากเกิดระเบิดขึ้นมา แต่กรณีนี้เป็นหน่วยทหารในเมือง คลังอาวุธอาจจะไม่ได้แยกไปอยู่ในหุบเขาขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ต้องห่างจากอาคารทั่วไปอยู่พอสมควรครับ และลักษณะของอาคาร หากเป็นอย่างที่ปากช่อง ตัวอาคารเขาจะสร้างไว้แข็งแรง มีการนำเอาถมดินกลบผนังอาคารไว้สามด้าน ส่วนด้านหน้าจะมีกำแพงปิดบังด้านหน้าอาคารและมีการถมดินเช่นกัน ดังนั้น เป็นไปได้มากเลยครับ ที่คนร้ายอาจก่อเหตุได้โดยไม่มีใครเห็น

คุณนริศมาให้ความกระจ่างขึ้นอีกมุมแล้วค่ะ   ถ้างั้นก็แปลว่า
1    คลังอาวุธตั้งอยู่ในทำเลไกลหูไกลตา พอที่ใครจะขนอาวุธออกมา  ก็ไม่มีใครเห็น     หรือไกลมาก พอจะยิงกันตรงนั้น  ทหารในที่อื่นๆก็จะไม่ได้ยินเสียงปืนเช่นกัน
2   รถฮัมวี่ แต่ละคัน   มีกุญแจอยู่ในที่สะดวก (เช่นค้างไว้ในรถ ) ใครจะขับออกไปก็ได้  ไม่ต้องผ่านผู้รับผิดชอบเรื่องยานพาหนะ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 10:45
    เมื่อเวลา 09.00 น.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถลงที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) กรณีเหตุการณ์สังหาร จนท. และประชาชน ดังนี้
   
    1.ขอโทษและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อญาติผู้เสียชีวิต จากการที่ทหารในสังกัดกองทัพบกเป็นผู้ก่อเหตุ

    2.ลำดับเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ 8 ก.พ. เวลาประมาณ 14.00 น. ผู้ก่อเหตุได้สังหารคู่กรณีและญาติ โดยขนอาวุธปืนของส่วนตัว 5 ชนิดไปก่อเหตุ เวลาต่อมา 15.00 น. ใช้รถยนต์ส่วนตัวขับเข้าค่ายทหาร ใช้ปืนที่พกส่วนตัว ขู่ทหารยามรักษาให้ส่งมอบปืน HK 33 พร้อมกระสุนอีก 40 นัด
     เมื่อผู้ก่อเหตุขู่จึงมอบให้ ผู้ก่อเหตุขับรถต่อถึงคลังกระสุน ใช้ปืน HK 33 กราดยิงใส่พลทหารฯที่เฝ้าอยู่จนเสียชีวิต แล้วใช้ปืนลูกซองยิงกุญแจและปล้นปืน HK 33, ปืนกล M 60 และใช้ปืนยิงยามฝั่งตรงข้ามได้รับบาดเจ็บ และขับรถมิตซูฯ ไปขโมยรถจี๊ปดัดแปลงไม่ใช่ฮัมวี่ แล้วขับชนประตูไปในคลังกระสุน เพื่อขโมยกระสุน 700 นัด และกราดยิงตามเหตุการณ์ที่ได้ทราบอยู่แล้ว
   
    3.สาเหตุและมูลเหตของผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา เกี่ยวกับการชื้อขายที่ดิน จึงทำให้เกิดแรงจูงใจ แต่นาทีเขาสังหารคู่กรณีนั้น เขากลายเป็นอาชญากรไม่ใช่ทหารแล้ว

     4.มาตรการดูแลอาวุธปืนและกระสุน แต่บางหน่วยอาจหย่อนยานก็ต้องลงโทษต่อไป ไม่ใช่วัวหายแล้วล้อมคอก แต่เพราะผู้ก่อเหตุรู้ภายในค่ายดี เพราะเป็นจนท.ในค่ายทหารอยู่แล้ว จึงรู้ว่าจะปล้นปืนอย่างไร


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 10:58
ดิฉัน copy ข่าวมติชนมาไม่ได้    ระบบไม่ให้ copy  ก็เลยแค็ปหน้าจอมาให้อ่านค่ะ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 11:08
ในฐานะที่ผมเคยได้เข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่คลังสรรพาวุธปากช่องก็ขออนุญาตนำเสนอข้อมูลบางประการครับ

คุณนริศพูดถึงคลังแสงที่ปากช่อง แล้วนึกถึงความหลังเหตุการณ์เมื่อ ๑๙ ปีที่แล้วเมื่อคลังแสงเก่าระเบิดจนต้องย้ายไปที่ใหม่ ครั้งนั้นชาวปากช่องหลายคนต้องหนีไปตั้งหลัก บางคนไปรอเหตุการณ์สงบที่ปากทางขึ้นเขาใหญ่ บางคนไปไกลถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์  ;D

ข่าวจาก บันทึกเหตุการณ์สำคัญ สะเทือนสังคมไทย ๒๘๙ ข่าวดัง ๓ ทศวรรษหนังสือพิมพ์มติชน พ.ศ. ๒๕๒๑ - ๒๕๔๙ (https://books.google.co.th/books?id=t8lcDwAAQBAJ&pg=PA325&lpg=PA325&dq=คลังแสงปากช่องระเบิด+200+ล้าน&source=bl&ots=CkWRwDKS-_&sig=ACfU3U2JWy_Xdncpt445yRaff00Gs7RP0Q&hl=th&sa=X&ved=2ahUKEwjJgpmlysjnAhWPyTgGHVTqAJUQ6AEwB3oECAUQAQ#v=onepage&q&f=false)


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ก.พ. 20, 11:48
           ติดตามข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงมาหลายปี และยังคิดอยู่ว่า
           บ้านของเรานี้(ยัง)เป็นที่ที่ปลอดภัย แต่
           ในที่สุด - วันที่ไม่อยากให้เกิด,ให้มี,ให้มาถึง ก็มาถึงจนได้

ภาพไทยรัฐ บีบีซีไทย


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 20, 13:46
    นอกจาก PTSD   อาการน่าเป็นห่วงอีกอย่างสำหรับผู้ได้รับการกระทบจากเหตุสะเทือนอารมณ์อย่างแรง คือ copycat syndrome    หมายถึงการเอาอย่าง หรือเลียนแบบพฤติกรรม     เราคงเคยอ่านพบข่าวดาราฆ่าตัวตาย จากนั้นแฟนคลับบางคนก็ฆ่าตัวตายตามไปด้วย   แบบนี้เรียกว่า copycat suicide   คนที่ฆ่าตัวตายอาจมีโรคซึมเศร้าอยู่ก่อน  เมื่อพบเห็นเหตุกระทบอารมณ์อย่างดาราคนโปรดฆ่าตัวตาย ก็อาจเกิดการเอาอย่างได้
    ในกรณีนี้   copycat syndrome มีเค้าให้เห็นแวบๆบ้างแล้ว  แม้ว่ายังไม่มีการกระทำเกิดขึ้นก็ตาม   
    สื่อประโคมข่าวผู้ก่อเหตุฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นจุดสนใจไปทั่วประเทศ    มีการเสนอข่าวละเอียดลออ ติดตามเหตุการณ์ทุกฉ็อท  ไม่มีกลันกรองว่าอะไรเหมาะไม่เหมาะ     ก็มีสิทธิ์ทำให้ผู้ที่ขาดวุฒิภาวะ  มีแต่คึกคะนองไปตามอารมณ์  หรือมีนิสัยใกล้เคียงกับผู้ก่อเหตุแอบแฝงอยู่ในสมองบ้างบางส่วน      ก็อาจจะเกิดเห็นผิดเป็นชอบ อยากทำบ้างเพื่อความดัง หรือถูกเร้าอารมณ์จากความตื่นเต้นที่เห็น กระทำลงไปได้

    https://www.sanook.com/news/8029558/


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 11 ก.พ. 20, 20:49
เป็นเรื่องที่น่าเสียใจจริงๆค่ะไม่คิดว่าจะเกิดกับไทย คิดว่าหลังจากนี้ไทยอาจจต้องมีการสอนในเรื่องเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ต้องทำตัวอย่างไรเข้าไปบ้าง (ไม่รู้ดิฉันตื่นตูมเกินไปหรือเปล่าคะ) มีอยู่เรื่องที่เห็นต่างชาติพูดถึงคือการใช้สื่อของคนร้ายที่พยายามอวดผลงานเมื่อยิงเสร็จ ทางนั้นเขาเลยค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องการเข้าถึงสือง่ายจะทำให้คนทำอะไรที่ขาดสติเพราะมองว่ามันเท่ ได้อวดคนอื่นด้วย


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 07:51
ย้อนสำรวจบันทึกความรู้สึกคุณหมอในเหตุกราดยิงที่โคราช
12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 07:29 น

12 ก.พ.2563 – เพจแพทยสภาได้โพสต์เฟซบุ๊กและแชร์บันทึกคุณหมอ @nuttawut nititanabaworn ซึ่งเป็นของ
ณัฐวุฒิ นิธิธนาบวร แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมาในเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช  โดยมีเนื้อหาว่า

บันทึกไว้ในความทรงจำ 8 กพ 2563 R2 Gen Sx


เวลาประมาณ 17.00 ข้อความแจ้งเตือนในไลน์ Trauma team มีเหตุยิงกันที่วัดป่าศรัทธารวม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสให้เตรียมพร้อม ในตอนแรกคิดว่าเป็นเหตุทะเลาะวิวาท ผู้บาดเจ็บไม่กี่รายทาง Trauma team เอาอยู่แน่นอนเพราะเคสแดงมาพร้อมกัน2-3รายก็เจอบ่อยๆ ประมาณ30นาทีต่อมาได้รับแจ้งว่าเป็นเหตุคนร้ายกราดยิงที่ห้าง Terminal มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายให้ทุกคนอยู่ในพื้นที่ ขณะนั้นกำลังเริ่มเคสผ่าตัด พี่chiefหัวหน้าทีม Gen Sxจึงได้ตัดสินใจส่ง 1st call 2คน ทีมGenไปช่วยทีมTrauma ผมกับพี่ผ่าตัดกันต่อ ขณะนั้นในorมีการอัพเดตสถานการณ์ให้ฟังตลอดเวลา สิ่งแรกที่ทุกคนกังวลคือscene safeกลัวคนร้ายจะบุกมารพ.เพราะห้องผ่าตัดอยู่ติดด้านหลังรพ. ประตูหลังรพ.ปิดแล้วเนื่องจากเป็นประตูที่ใกล้กับห้างมากที่สุดประมาณ1กิโล พี่ยามออกมาเฝ้าตามจุดต่างๆทุกทางเข้าออกและห้องฉุกเฉิน


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 07:52
ทุกคนโทรหาที่บ้าน อย่าออกไปไหน คนร้ายยังจับไม่ได้ ปลอดภัยดีไม่ต้องเป็นห่วง ทำหน้าที่ตัวเองต่อ เชคไลน์ทีมศัลย์ปลอดภัยทุกคน อุ่นใจ ในor พยบ.inchargeรายงานสถานการณ์กับหัวหน้าห้องผ่าตัดปรากฏว่าหัวหน้าติดอยู่ในห้างพร้อมกับครอบครัว ตอนนี้orมี4teamมีการตามทีมพยบ or มาช่วยกันพร้อมstandby 3team ดมยาพร้อมเปิดตามมาเสริมได้ตลอด ผู้ป่วยรายแรกมาถึงERชื่อถูกsetมายังห้องผ่าตัด

ผมกับพี่ผ่าตัดเสร็จส่งผู้ป่วยเข้าห้องพักฟื้น อ.Neuro sxเวรวันนั้นกำลังผ่าตัดอยู่อีกห้อง ลูกและเมียของอ.ติดอยู่ที่ชั้นGในห้างterminalยังออกมาไม่ได้ อ.เข้มแข็งและมีสติมากยังคงผ่าตัดผู้ป่วยตรงหน้าต่อไป ทางorก็ช่วยประสานให้มีการช่วยเหลือกับทางกองปราบ พวกผมรีบไปช่วยที่ERเดินผ่านจุดรอญาติหลังERเสียงร้องไห้ดังระงมไปหมด บางคนกรีดร้องลงไปนอนที่พื้น ผมยอมรับว่าตอนนั้นใจเสียมากแต่ต้องทำหน้าที่ต่อไป พร้อมนะหมอพี่ยามที่คุมประตูหลังห้องResusถาม ผมพยักหน้า ประตูเปิดออก


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 07:52
รพ.ประกาศmass casualty ห้องผ่าตัดถูกสำรองไว้เฉพาะเคสtrauma ห้องเลือดเตรียมพร้อม พี่ๆน้องๆศัลย์ที่อยู่รพ.ออกมาช่วยกันหมด ทั้งGen Trauma Neuro CVT ทีมGen Sxได้รับคำสั่งให้ไปช่วยTrauma team หน้าที่หลักresuscitate and management at ER ส่วนTrauma teamและพี่ๆน้องๆศัลย์คอยผ่าตัดข้างในor โดยstaff traumaเป็นคนตัดสินใจmanagement ทุกอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบ Incidence commander จัดการอยู่ ทุกคนทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่ การออกคำสั่งไม่มั่ว สื่อสารกันตลอด ทุกคนมีสติ ขอบคุณทุกคนทุกฟันเฟืองทุกสหวิชาชีพที่ช่วยกันเต็มร้อย ขอบคุณน้องๆexternทั้งรามาและpiรวมถึงน้องinternที่ออกมาช่วยกันที่er ทุกคนช่วยได้มาก ทีมmcattหน่วยจิตเวชมาช่วยพูดคุยกับญาติกับผ้ป่วยคอยเยียวยาจิตใจ

ทหาร ตำรวจ กู้ภัย และอาสาเริ่มเข้ามาช่วยในรพ. รวมถึงนักข่าวด้วย การผ่าตัดในorยังดำเนินต่อไป ผู้ป่วยยังถูกลำเลียงมาเรื่อยๆ แดง เหลือง เขียว ผมถูกตามเข้าไปช่วยผ่าตัดเสร็จเคสประมาณเที่ยงคืน ความรู้สึกแรกคือหิวมากคอแห้ง เดินไปเซ่เว่นในรพ. แต่เซเว่นปิดบอกว่าไม่ปลอดภัย เดินมาที่erพี่ๆพยบ.จูงมือไปบอกหมอมาทานข้าวก่อน มีข้าวต้มกับโอวัลตินตั้งเป็นโรงทานข้างๆer แค่นี้ก็หายเหนื่อย ประมาณตีสอง ผมเจออ.Neuro sxได้คุยกับอ.ว่าประสานทางกองปราบได้ช่วยลูกเมียอ.ออกมาได้ตอนประมาณห้าทุ่มปลอดภัยดีแต่ยังคงเสียขวัญเพราะเห็นคนถูกยิงเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา อ.กลับไปปลอบลูกแล้วก็รีบกลับมารพ.กำลังจะเข้าผ่าตัด ตรงนี้นับถือ อ.มากจริงๆ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 07:54
    ตีสี่สถานการณ์ในรพ.เริ่มคลีคลาย ผู้ป่วยหลายรายผ่าตัดเรียบร้อย หลายรายแอดมิทขึ้นไปแล้ว หลายรายก็กลับบ้านพวกผมแบ่งกันไปพัก คืนนี้ขอพักรบแต่นี่ก็ใกล้เช้าแล้ว

  9 กพ 2563 9.00
   เสียงไลน์เด้งไม่หยุด ให้Trauma teamเตรียมพร้อม ใครอยู่ในรพ.ขอกำลังเสริมด่วน กำลังลำเลียงผู้ป่วยไปรพ.หลายรายมีสาหัส   ผมรีบลุกจากเตียงไปER ไปด้วยใจ  แม้ไม่ได้อยู่เวร พี่ๆน้องๆอ.ศัลย์หลายคนมาพร้อมแล้ว มีรุ่นพี่ศัลยแพทย์จากรพ.อื่นมาช่วยด้วย ผู้ป่วยเริ่มมาถึง การรักษาดำเนินไปอย่างรวดเร็วตามแผน ผู้ป่วยถูกพาไปห้องผ่าตัดอย่ารวดเร็ว ทีมเตรียมพร้อมมาก สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิด ผู้ป่วยถูกยิงมีแผลหลายที่ไม่รู้สึกตัวหายใจอ่อนยังคลำชีพจรได้ แต่ใบหน้าของผู้ป่วยรายนี้พวกเราคุ้นหน้ารู้จักกันดี พี่จนท.นวก.ของภาควิชาศัลย์ดูแลตั้งแต่น้องปี4ถึงextern ทุกคนช๊อก รีบคลำชีพจร คลำไม่ได้ witness arrest start ER thoracotomy, internal cardiac massage เข็นเข้า OR แต่เราก็ยื้อไม่ไหว จากเราไปในที่สุด เกือบเที่ยงทุกอย่างเริ่มคลี่คลายลง ทีมที่ทำงานมาแต่เมื่อวานรวมถึงผมได้ไปพัก ส่งไม้ต่อให้ทีมวันนี้

ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้สูญเสียทุกๆท่าน ขอทุกดวงวิญญาณจงไปสู่สุคติ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละจะอยู่ในใจของพวกเรา

บารมีย่าโมคุ้มครองลูกหลานชาวโคราชบ้านเอง ให้ปลอดภัย ให้มีกำลังแรงใจสู้ต่อไป


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 07:59
พฤฒิพล ประชุมผล
10 กุมภาพันธ์ เวลา 20:54 น. ·

จากเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช ทำให้เราได้รู้ว่ามีคนไทยที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ บ้างก็ยอมเสี่ยงตาย บ้างก็เสียสละทำในสิ่งที่ตนเองถนัด เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้เคราะห์ร้าย รวมทั้งพยายามช่วยให้สถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ดีขึ้น ... ซึ่งผมจะพยายามรวบรวม "ผู้ปิดทองหลังพระ" ทุกสาขาอาชีพไว้เป็นจดหมายเหตุ "คนไทยตัวอย่างที่ไม่ทิ้งกันยามมีภัย" และจารึกคำขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ :

๑. ผู้สื่อข่าวช่อง ๗ ที่ยอมเสี่ยงตายเข้าไปบังคับโดรนส่องหาตำแหน่งคนร้ายในอาคาร

๒. คุณนุ้ย-วนิดา รองผู้จัดการสาขาฮาร์เบอร์แลนด์ ที่ช่วยต้อนเด็กเกือบ ๔๐ คนและผู้ปกครองที่เกือบร้อยคนให้เร่งหลบในที่ปลอดภัย

๓. พนักงานแกรปฟู้ด ที่รวมตัวกันบริการส่งประชาชนที่เจ้าหน้าที่พาหนีออกมาได้ ออกนอกพื้นที่กลับบ้าน

๔. เจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาลทุกท่าน


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:00
๕. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง พี่อำนาจ บุญเกื้อ ที่พยายามต้อนประชาชนตรงทางออกของห้างเข้าที่กำบัง และสุดท้ายก็เสียชีวิต

๖. เจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เร่งพาลูกค้าเข้าไปหลบภายในห้องเซฟเก็บเงินทั้งสองห้อง

๗. น้องอธิวัฒน์​ พรมสุข เสียชีวิตบริเวณห้องเย็นชั้น ​LG.​ เป็นผู้กล้าที่ช่วยดันประตู​ห้องเย็น​เอาไว้ จนคนร้ายพังเข้ามา​ สุดท้ายน้องรับกระสุนแทนคนในห้องนั้น​ เพื่อให้คนอื่นได้วิ่ง ออกมาได้​ 9​ คน​ แต่​คนร้ายตามมายิง​ หนีรอดได้​ 8​ น้องอายุ​18​

๘. แอดมินเพจหมอแล็บแพนด้า แอดมินเพจแหม่มโพธิ์ดำ แอดมินเพจ drama-addict ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายออนไลน์ รับส่งต่อข้อมูลช่วยเหลือประชาชนออกจากห้างไปยังเพจกองปราบปราม ... ขอพระคุณแอดมินเพจกองปราบปรามด้วยครับ ... "คนไทย เราจะไม่ทิ้งกัน ขอบคุณครับ"

๙. นายจิรัฐิติกาล นอบไทย หรือ น้องเนย บิ๊กไบค์ที่พยายามไปช่วยช่วยลำเลียงคนเจ็บ แต่ถูกคนร้ายยิงคนช่วยอีกที บาดเจ็บ ยังรักษาตัว

๑๐. คุณหมอที่ไปช่วยผู้บาดเจ็บ ถูกยิงจนเกิดภาวะปอดรั่วเข้า ICU


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:01
๑๑. ห้างโคราช เดอะมอลล์ และ บิ๊กซี เซนทรัล คลังพลาซ่า นำข้าวกล่อง น้ำดื่ม กาแฟ แจกนักข่าว เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และสื่อมวลชน หน้าห้างเทอร์มินอล 21 ขอขอบคุณน้ำใจทั้งสองห้าง โดยทีมงานห้างเดอะมอลล์โคราช ได้นำข้าวกล่องหลายร้อยกล่องพร้อมน้ำดื่มมาเดินแจก เพราะทุกคนอยู่ในเหตุการณ์กันข้ามคืน ส่วนพนักงานห้างบิ๊กซี ก็เดินแจกน้ำดื่มและกาแฟกระป๋องให้ทุกคนอีกด้วย (ที่มา: สนามข่าว 7 สี)

๑๒. ร้านเกมชื่อ "นกฮูก" เปิดร้านให้เจ้าหน้าที่เข้าไปพักระหว่างปฏิบัติภารกิจ รวมถึงพนักงานร้านค้าทุกร้านที่ช่วยเรียกลูกค้าเข้าไปหลบในร้านตนเอง ประชาชน หอพัก บริเวณที่ประชาชนหนีออกมาได้แล้ว บริการแจกน้ำดื่ม ... ขอบพระคุณจากใจจริงครับ ... "ยามมีภัย ไทยต้องช่วยกัน"

๑๓. จดหมายเหตุคนไทยไม่ทิ้งกัน ต้องบันทึกหัวใจคนไทยซึ่งเป็นผู้ให้โดยแท้ นั่นคือ "ผู้ที่บริจาคเลือดทั้งในโคราชและจังหวัดใกล้เคียงทั้งหมด" ครับ ... ท่านทั้งหลายคือผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง กราบขอบพระคุณที่เราไม่ทิ้งกันครับ

๑๔. อาสากู้ภัยทั้งหมดทั้งมวลที่เข้าพื้นที่ และคอยช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตลอดคืนข้ามวัน ... ทุกคนทราบดีว่าทุกท่านเหนื่อยมาก ขอกราบขอบพระคุณหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาของทุกท่านครับ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:01
๑๕. นางสาวกฤษณา ช่างก่อหรือ หมวยลี่ เป็นพนักงานบริษัทเอกชน และเป็นยูทูปเบอร์อิสระ ได้อาสาเดินทางไปแต่งหน้าศพของผู้เสียชีวิตให้สวยที่สุด เมื่อนำร่างไปรดน้ำศพ จะช่วยเยียวยาจิตใจของญาติผู้สูญเสียได้

๑๖. ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง อายุ 50 ปี สภ.เมืองนครราชสีมา และ นายทัศนะ หริรักษ์ อาสาสมัครตำรวจบ้าน ขับรถยนต์สายตรวจเข้าไประงับเหตุในช่วงเริ่มต้นเหตุการณ์ แต่ยังไม่ทันได้ลงจากรถ ก็ถูกยิงกระสุนก็เต็มกระจก เสียชีวิตทั้งคู่ทันที (ได้ edit รายชื่อผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมแล้ว)

๑๗. ร้านอึ้งเจริญดีเซล เฮียชื่อเชียรและอาม่า (ไม่ทราบชื่อ) ช่วยนำน้ำและยาดมมาให้ผู้ประสบเหตุหนีออกจากห้าง และรีบปิดประตูร้านให้หลบข้างใน

๑๘. คุณอาคม จิตรตปัญโญ พร้อมภรรยา ช่วยขับรถส่งผู้ประสบภัย คุณ Namtan Mtra จากโคราช ถึง อ.ประทาย ไปกลับ 200 กิโลเมตร...แถมช่วยงัดแม่กุญแจเข้าบ้านให้ด้วย (ปล.กุญแจบ้านติดอยู่ในรถซึ่งจอดอยู่ในห้าง เอารถออกไม่ได้)


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:02
๑๙. ขอขอบพระคุณทีมคุณหมอที่มาช่วยชันสูตรศพ ซึ่งมาจากหลายแห่ง บางท่านแม้อยู่ในช่วงลาพักร้อน ก็รีบขับรถมาช่วย เพื่อจะได้นำศพมอบให้กับญาติได้โดยเร็วที่สุด ขอกราบขอบคุณผู้ปิดทองหลังพระอีกหนึ่งทีมครับ

๒๐. กลุ่มแพทย์และพยาบาลสหวิชาชีพ โรงพยาบาลมหาราช และโรงพยาบาลใกล้เคียงที่ทำงานกันอย่างหนักเพื่อรักษาชีวิตผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง

๒๑. เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพชั้น 2 ที่พาคนเดินห้างหลบเข้าห้องนิรภัยได้ 18 คน ... ขอบคุณการตัดสินใจที่เด็ดขาด ทันท่วงที และทำให้ทุกคนปลอดภัยครับ

๒๒. ทีมสุขภาพจิตจากกรมสุขภาพจิต ที่มีผู้แทนมาจากโรงพยาบาลต่างๆในสังกัดกรมสุขภาพจิต ประกอบด้วยจิตแพทย์ พยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยาคลินิก เภสัชกร นักสังคมสงเคราะห์จิตเวช นักกิจกรรมบำบัด นักอาชีวบำบัด


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:03
๒๓. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกท่าน รวมถึงท่านที่ขับรถดับเพลิงคอยเป็นโล่กันกระสุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับ (มีคลิปในคอมเม้นต์ข้างล่างครับ)

๒๔. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างเทอร์มินัล (นายไชยวัฒน์ ทำกิน - พี่เสื้อแดง) ที่ช่วยเร่งระบายประชาชนออกจากห้างได้จำนวนมาก

๒๕. พนักงานร้านสตาร์บัค ที่ช่วยเรื่องที่หลบภัยให้ประชาชนรวม 17 คน

๒๖. เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ของ. พัน.สห.21 มทบ.21 ที่เข้าไปปิดพื้นที่เป็นชุดแรกๆกับ. ตำรวจ นปพ. และช่วยลำเลียงประชาชนออกมาตั้งแต่เริ่มสภานการณ์คับขันและอยู่กันจนถึงเช้า

๒๗. ส.ต.ท.กรกต อ่ำพันเงิน ผล.หมู่ สภ.เมืองนครราชสีมา ที่ไปกันรถประชาชนไม่ให้เข้าไปพื้นที่บริเวณหน้าวัดที่คนร้ายกำลังกราดยิง แล้วสุดท้ายโดนคนร้ายขับรถมายิงใส่จนขาเกือบขาด ตำรวจท่านนี้ได้ช่วยลดความสูญเสียชีวิตประชาชนบริเวณหน้าวัดได้เป็นจำนวนมาก แม้ตนเองถูกยิงบาดเจ็บสาหัส (มีภาพประกอบในคอมเม้นต์ข้างล่างครับ)
* ถ้าท่านใดทราบ "ผู้ปิดทองหลังพระ" ทุกสาขาอาชีพ ที่ยอมเสียสละเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นภัย ... รบกวนคอมเมนต์เพิ่มเติมให้ผมหน่อยนะครับ ... ผมจะพยายาม edit รายละเอียดและเพิ่มรายชื่อ สาขาอาชีพให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อเป็นจดหมายเหตุ "คนไทยตัวอย่างที่ไม่ทิ้งกันยามมีภัย" ครับ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:17
จาก  facebook ของ Army times Thailand

เจ้าหน้ากลุ่มหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงพวกเขาคือ เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ของ. พัน.สห.21 มทบ.21 ที่เข้าไปปิดพื้นที่เป็นชุดแรกๆกับ. ตำรวจ นปพ. และช่วยลำเลียงประชาชนออกมาตั้งแต่เริ่มสถานการณ์และอยู่กันจนถึงเช้า


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:19
ฆษกกรมสุขภาพจิต เผยสถิติต่างประเทศ คนร้ายกราดยิงสุขภาพจิตปกติที่จัดการอารมณ์ไม่ได้ในตอนนั้น เป็นผู้ป่วยจิตเวชเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ แนะอย่าละเลยดูแลความเครียดตัวเอง ห่วงเกิดเหตุซ้ำหากยังไม่เปลี่ยนแปลงการจัดการปัญหา - การนำเสนอของสื่อ ลั่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่การแก้แค้น เลิกหาเหตุผลมารองรับสร้างความชอบธรรม ต้องทำให้คนร้ายไร้ตัวตน เข้าใจสื่อเพิ่งเคยเจอเหตุแบบนี้ครั้งแรกจึงพลาดกันได้ แต่ถ้ามีครั้งหน้ายากจะให้อภัย

วันที่ 11 ก.พ. 63 ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "บทเรียนจิตใจ จากเหตุกราดยิงโคราช"

นพ.วรตม์ กล่าวว่า การกระทำลักษณะแบบนี้ ขอไม่พูดถึงกรณีในไทย แต่ต่างประเทศ เอฟบีไอได้วิจัยเก็บข้อมูล พบว่าสาเหตุมีความหลากหลายมาก สาเหตุทั่วไปที่ทุกคนมี เช่น งาน เงิน ฯลฯ แต่มี 3 - 4 สาเหตุ มีหลายปัจจัยกระตุ้นให้ก่อเหตุ ซึ่งสัญญาณนั้นส่วนมากคนรอบข้างเห็นอยู่แล้ว 80-90 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ส่วนเรื่องปัญหาสุขภาพจิต มีเพียง 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ที่พบว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาสุขภาพจิต 75 เปอร์เซ็นต์ คือคนธรรมดา ๆ แบบพวกเรานี่แหละ แต่เกิดปัญหาที่ไม่สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองได้ในขณะนั้น

นพ.วรตม์ กล่าวอีกว่า สัญญาณก่อเหตุ ถ้าคนสนิทจะเห็นสัญญาณเล็ก ๆ อยู่แล้ว ความรุนแรงใหญ่ ๆ มาจากสัญญาณเล็ก ๆ เสมอ แต่บางครั้งเราปล่อยผ่าน ที่อเมริกาหลายครั้งผู้ก่อเหตุมักมีการพูดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่มีการกระทำ เรียกง่าย ๆ คือการเอาแบบอย่าง ยิ่งถ้ามีการเสียชีวิตมาก ๆ เป็นที่จดจำของสังคม บางทีกลุ่มนี้มองว่าเป็นแบบอย่าง ในเมื่อไม่เป็นที่ต้องการของสังคมแล้ว ทำแบบที่คนนี้ทำดีกว่า


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:19
นพ.วรตม์ กล่าวด้วยว่า มันไม่ยุติธรรม ถ้ามองว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวช ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็จะมองว่าตัวเองไม่ป่วย เราไม่มีโอกาสเป็นผู้ก่อเหตุ จะทำให้ละเลยการพิจารณาดูแลความเครียดของตัวเอง

เมื่อถามว่าเป็นพฤติกรรมเลียนแบบเหตุการณ์ปล้นร้านทองหรือไม่ นพ.วรตม์ กล่าวว่า บอกไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าใช่หรือไม่ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างแบบที่บอก แต่ก็ต้องดูว่ามันเกิดติดกัน ต่างประเทศเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็จะเกิดถี่ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง เช่นเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ เปลี่ยนแปลงการจัดการปัญหาเรื่องนี้ เปลี่ยนการนำเสนอของสื่อ ถ้าปล่อยไปแบบเดิมก็จะเกิดแบบเดิมซ้ำ ๆ

พฤติกรรมเลียนแบบเป็นจิตวิทยาสื่อรูปแบบหนึ่ง เมื่อดูสื่อ เสพสื่อ ก็มีแนวโน้มคล้อยตาม อย่างโฆษณาก็ใช้หลักการเดียวกัน เวลานำเสนอเรื่องอะไรมาก ๆ เช่นยูทูปเบอร์ เด็กเห็นก็อยากเป็นกันเยอะ หรือการฆ่าตัวตายด้วยการรมควัน พอสื่อเสนอหลังจากนั้นก็ใช้วิธีเดียวกันตามมาในหลายครั้ง เพราะมนุษย์ได้รับอิทธิพลจากพวกนี้ตลอด


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 08:20
บางครั้งถ้าภาพที่ออกมา มีความรุนแรงบ่อย ๆ เราจะเริ่มเกิดความชินชา เห็นว่าสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นทุกวัน สอง เราจะพบว่าสิ่งนี้มีตัวตนอยู่จริง ทำให้เรียนรู้วิธีจัดการ ยิ่งสื่อลงรายละอียดมากว่าต้องทำอย่างนี้ ๆ ก็เกิดการเลียนแบบขึ้นได้ สาม ผู้รับสื่ออาจเกิดการเบื่อหน่าย เศร้า ความรุนแรงในสื่อมีผลกระทบทั้ง 3 อย่างในมนุษย์

นพ.วรตม์ กล่าวว่า เราถึงจุดแล้วที่ต้องให้ผู้กระทำไม่มีตัวตน นี่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องสรุปว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องระวัง แล้วต้องหาวิธีแก้ด้วย แล้วต้องไม่เอาเหตุผลนั้นไปรองรับพฤติกรรม อาจดูว่าการแก้แค้นเป็นเหตุผล แต่การกราดยิงนี่คือผู้บริสุทธิ์ ต้องแยกพิจารณา ไม่ควรหาเหตุผลมารองรับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ส่วนสื่อโดนโจมตี สถานการณ์นี้ยากลำบากจริง เพราะสื่อก็เพิ่งเคยเจอ หน่วยงานต่าง ๆ ก็เพิ่งเคยเจอ จึงผิดพลาดกันได้ เมื่อพลาดก็ต้องยอมรับเสียงสะท้อนสังคม คนไทยพร้อมให้อภัย แต่อนาคตถ้ามีครั้งหน้าอีก น่าจะลำบากที่จะให้อภัย


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 09:09
ย้อนกลับไปถึงตอนต้นๆของกระทู้นี้ ที่ดิฉันตั้งคำถามถึงการปล้นอาวุธในค่าย และการหลบหนีออกมาโดยไม่มีผู้ใดทราบ
ได้คำตอบจากข่าวนี้ว่า ทหารในค่ายรู้ว่ามีการปล้นอาวุธ แต่สะกัดไม่ทัน และไม่ได้ระบุว่ามีการติดตามผู้ก่อเหตุ

https://www.thaipost.net/main/detail/56949

เพจทหารเล่าเหตุการณ์กราดยิงโคราชก่อนย้อนถามถ้าเป็นผบ.ทบ.จะรับผิดชอบอย่างไร!
12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 08:47 น.

12 ก.พ.2563 – เพจทหารหลังกองพัน โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “สรุปเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ #กราดยิงโคราช ถ้าหากท่านฟังจนจบ แล้วหากว่าท่านเป็น ผบ.ทบ. ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร??”มีเนื้อหาว่า

1. เล่าเหตุการณ์ก่อน เสาร์ที่ 8 ก.พ. เวลา 14.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนส่วนตัวสังหารคู่กรณีและเครือญาติ ณ บ้านพัก ด้วย ***ปืนส่วนตัว 5 ชนิด*** (ซึ่งมีขั้นตอนการได้มาที่ถูกต้อง ตามระเบียบ) คือ ก่อนไปปล้นคลังอาวุธ เขามีอาวุธส่วนตัวไปก่อเหตุมาแล้วนั่นแหละ)

ต่อมาเวลา 15.00 น. ได้ใช้ ***รถยนต์ส่วนตัว*** ขับมาที่ป้อมยาม และได้ใช้อาวุธปืนที่พกไป ขู่เจ้าหน้าที่ที่รักษาการอยู่ และได้ชิงปืน HK33 พร้อมกระสุน 40 นัด ***ที่บันจุอยู่ในแมกกาซีน*** (คือยังไม่ได้บรรจุกระสุนอะ อยู่ในแมกกาซีน อยู่ๆมีคนปืนพร้อมมาขู่แล้ว จะสู้ยังไงใช่มะ??) เลยโดนชิง HK33 กระบอกแรกไป ทีนี้ล่ะ ถึงได้ขับรถต่อไปคลังอาวุธ ซึ่ง ณ จุดนั้นเป็นจุดที่มีพลทหารรักษาการอยู่ ผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนที่ปล้นมาตั้งแต่จุดแรก (HK33) กราดยิงพลทหารเมธา เลิศศิริ จนเสียชีวิต

และหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนลูกซอง เรมิงตัน 870 (ปืนตัวเอง) ซึ่งเป็นลูกซองที่มีอานุภาพในการยิงสูง ซึ่งใช้ทำลายประตูและลูกกุญแจ มาก่อเหตุด้วยการยิงกุญแจซึ่งเป็นกุญแจซึ่งมีความแข็งแรง และได้ยิงตัวบานอาวุธคลัง ได้ทำการปล้นปืน HK33 และ ปืนกล M60 อีก อย่างละกระบอก ***ยังไม่ได้กระสุนนะ เพราะคลังอาวุธ และกระสุนอยู่แยกกัน*** (สรุปคือใช้กำลังในการทำลายประตูเข้าไป ไม่ได้ไปชิงกุญแจมาเปิด ซึ่งเป็นการยากมากที่จะไปขู่นำกุญแจมา จากระบบการบริหารจัดการดูแลคลังอาวุธ) จากนั้นใช้ปืน HK33 กราดยิงยามรักษาการซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบาดเจ็บ ซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะคาดไม่ถึงว่าพวกเดียวกันจะยิงมา

พอน้องพลทหาร ได้เรียนนาย และทหารภายในเริ่มทราบได้ยินเสียงปืน คนร้ายก็ได้นำรถจิ๊ปที่ดัดแปลงเป็นรถตรวจการ (ไม่ใช่รถฮัมวี่อย่างที่สื่อเข้าใจ) ขโมยรถเสร็จก็เอาไปขับชนประตูคลังกระสุน ซึ่งเป็นคลังที่เป็นประตูเหล็กหนาแน่นจนประตูเสียหาย ***ขับรถชนประตูนะ*** จนเข้าไปในคลังได้ และขโมยกระสุน 5.56 มม.ที่ใช้ HK33 และขณะเดียวกันชุดเผชิญเหตุได้รับแจ้งจากพลทหารพยายามไล่ติดตามไปแต่เนื่องจากรถได้ถูกผู้ก่อเหตุขโมยไปจึงต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว อาวุธก็ไม่มีเพราะอยู่ในคลัง ใช้ปืนพกไล่ยิงจนผู้ก่อเหตุออกมานอกค่าย
ได้ไปก่อเหตุกราดยิงประชาชนตามรายทาง ซึ่งมีการแจ้งตำรวจแล้ว จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เข้าไปในห้าง เทอมินัล 21”




กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 09:10
2. แรงจูงใจมาจากอะไรล่ะ?? เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ซึ่งผู้ก่อเหตุและคู่กรณีได้มีการซื้อขายที่ดิน ผิดสัญญากันในเรื่องผลตอบแทน (ซึ่งในรายละเอียดต้องสืบต่อไป) เมื่อผิดสัญญากันก็จึงทำให้เกิดแรงจูงในในการก่อเหตุครั้งนี้ จนเกิดประโยคหนึ่ง ที่สื่อนำไปทำภาพตัดแปะข้อความ คือ "ณ วินาทีที่ผู้ก่อเหตุได้ลั่นไกสังหารคู่กรณี ณ นาทีนั้นเขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว" ถ้าลองได้ฟังที่ท่านพูดจริงๆ กับภาพแปะประโยคสั้นๆนี้ จะรู้เลยว่ามันคนเรื่อง คนละอารมณ์

3. แล้วมาตรการในเรื่องการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ และกระสุนล่ะ?? กองทัพบกได้มีมาตรการในเรื่องนี้เป็นเวลานานแล้ว แต่อาจมีบางหน่วยที่หละหลวม ก็ต้องดำเนินลงโทษเป็นกรณีไป แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ก่อเหตุปฏิบัติราชการอยู่ในหน่วยนั้น ชำนาญใช้อาวุธและพื้นที่ จึงรู้ว่าไปเอาอะไรที่ไหน จะทำลายอะไรอย่างไร

4. แล้วกองทัพบกคิดจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร?? “ผมในฐานะ ผบ.ทบ.พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้สภาพจิตใจทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บดีขึ้น ส่วนประชาชนที่เสียชีวิต กองทัพบกพร้อมที่รับเข้ารับราชการตามคุณวุฒิ อีกทั้ง ผู้บาดเจ็บที่เสียโอกาสประกอบวิชาชีพ กองทัพบกอ้าแขนรับท่านโดยไม่มีข้อแม้”

จริงๆแล้ว มีอีกเยอะมากที่ท่านพูดถึงเรื่องของการรับผิดชอบ แต่ก่อนอื่น เสิงอยากให้เข้าใจว่าเรื่องนี้ถ้าว่ากันตามกฎหมาย เหตุการณ์ระหว่างผู้ก่อเหตุกับคู่กรณี เป็นเรื่องส่วนตัว (ไม่ใช่การกระทำผิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพบก) ดังนั้นการจะฟ้ององค์กร หรือเรียกร้องให้ผู้ดูแลต้องลาออก ฯลฯ หรือที่จะสรรหามาเรียกร้อง มันจึงดูไม่ถูก จริงไหมครับ??

เปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ บริษัทที่มีพนักงานจำนวนมาก หากวันหนึ่งพนักงานไปปล้นร้านทอง เจ้าของบริษํทต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกใช่หรือไม?? แล้วอีกกระแสที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่ท่านร้องไห้เป็นการแสดง บ่งบอกชี้ชัดถึงผู้พูดเลยนะครับ ว่ามีทัศนคติอย่างไร ถ้ามองให้ลึก ท่านก็เป็นคนคนหนึ่ง มีความรู้สึกเหมือนกับเรา การที่ท่านจะเสียใจต่อครอบครัว ต่อผู้สูญเสีย มันเป็นเรื่องที่แย่มากเลยหรือครับ??

ขนาดตัวเราเองที่เสพข่าว อยู่ห่างไกลที่เกิดเหตุมากมาย เรายังมีความรู้สึกเสียใจ และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เสิงจึงอยากฝากคำถามไว้กับทุกคนที่ใช้อารมณ์เข้าวิพากษ์วิจารณ์จนลืมดูข้อเท็จจริงไว้ว่า "ถ้าท่านเป็นผู้บัญชาการทหารบกในวันนี้ ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร??"
 


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 10:09
  ประเด็นหนึ่งที่ควรกล่าวถึงในกระทู้นี้ด้วย   เป็นการศึกษาเพื่อก้าวต่อ ตามที่คุณเพ็ญชมพูตั้งหัวข้อไว้ให้
  คือบทบาทของสื่อในเรื่องนี้

   ตอนเย็นของวันที่ 8 กพ.  ข่าวทีวีในช่องต่างๆหันมารายงานเรื่องคนร้ายพร้อมอาวุธสงครามบุกเข้าไปที่ห้างห้างเทอมินอล 21 โคราช   เวลาผ่านไปตั้งแต่เย็นจนดึก  สถานการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย   ข่าวทุกช่องก็หันมารายงานกันละเอียดยิบ   หาความคืบหน้ากันทุกนาทีที่ทำได้
   นั่งดูข่าว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หลายช่อง   เริ่มตกใจเมื่อพบว่าในบางช่อง ผู้สื่อข่าวและผู้อ่านข่าวไม่ใช่แค่รายงานอย่างกลางๆเท่านั้น แต่เจาะทะลุทะลวงเข้าไปทุกรายละเอียดที่ทำได้  ทั้งๆก็รู้ว่าคนร้ายกำลังติดตาม เสพข่าวอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
   พูดง่ายๆว่า รายงานให้คนร้ายรู้ความคืบหน้าของเจ้าหน้าที่และเหยื่อทุกช็อทที่ทำได้   กลายเป็นว่าช่วยให้คนร้ายได้รู้เห็นทันเหตุการณ์โดยตลอดว่าเจ้าหน้าที่จะมาไม้ไหน  หรือเหยื่อทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง
   ที่ช็อกมากคือมีช่องหนึ่งโฟนอิน(สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์) เข้าไปหาประชาชนที่ติดอยู่ในห้าง เพื่อให้เล่าสถานการณ์ แล้วยังถามด้วยว่า “อยู่ตรงไหนของห้าง” นอกจากนี้  มีการซักถามคนที่รอดออกมาได้ ให่เปิดเผยว่าเขาช่วยซ่อนคนอื่นๆไว้ที่ร้านของเขา
   ไม่มีสำนึกว่าเหยื่อจำนวนมากอยู่ในวินาทีเสียงเป็นเสียงตายเท่ากัน   และอาจจะพาคนอื่นตายไปด้วยหากคนร้ายรู้ที่ซ่อน
   ที่เลวร้ายกว่านี้คือสื่อเจ้าหนึ่ง โทรศัพท์สัมภาษณ์พ่อแม่ของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ โดยที่ทางบ้านยังไม่ทราบข่าวร้ายข่าวนี้  ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้รับรู้ข่าวร้ายแบบกะทันหันตั้งตัวไม่ติด  ออกอากาศให้เห็นกันทั่วประเทศ
 


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 10:11
จนสมาคมและกสทช.ต้องออกมาเตือน


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 11:21
ครูผู้ไม่มีสติ อีกเรื่องหนึ่งน่าเศร้า  :o

https://youtu.be/4MQoGfqtWD8


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 12:27
ตอนแรกเข้าข้างคุณครูว่าคงพูดผิดพูดถูก ตั้งใจจะพูดอย่าง กลับพูดออกมาอีกอย่าง
กลับไปฟังคลิปใหม่   อ้าว  ไม่ใช่นี่
คุณครูน่าจะตั้งสติให้ได้นะคะ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 13:11
ครูออกมาขอโทษแล้วค่ะ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 14:07
https://www.naewna.com/politic/columnist/43004
กวนน้ำให้ใส
สารส้ม

หนังสือพิมพ์ แนวหน้า  วันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 05.00 น.

อย่าหาความชอบธรรมให้อาชญากร อย่าทำให้ฆาตกรกลายเป็นฮีโร่

ถ้อยแถลงของพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวานนี้ จงใจที่จะไม่เอ่ยชื่อ “คนร้าย” ที่ก่อเหตุกราดยิงโคราช และไม่หลบเลี่ยงที่จะยอมรับปมปัญหาขัดผลประโยชน์ระหว่างตัว “คนร้าย” กับ “ผู้บังคับบัญชา”ที่ตกเป็นเหยื่อสังหารโหดรายแรก ทั้งยังให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าสะสางปัญหานี้ด้วยตนเอง


ไม่ว่าใครจะชิงชังทหารแค่ไหน อย่างไร

แต่ถ้าไม่ต้องการเห็นพฤติกรรมเลียนแบบเหมือนในต่างประเทศพึงตระหนักว่า

การสะสาง ล้างบาง ดำเนินคดีกับวงการผลประโยชน์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่จะต้องทำ และจะต้องไม่เชื่อมโยงจนกลายเป็นการสร้างความชอบธรรมในมุมกลับให้กับ “คนร้าย” อันจะทำให้คนที่ “คิดเข้าข้างตัวเอง-ปกป้องตัวเอง” ว่าตนก็ตกอยู่ในภาวะเช่นนี้สามารถลงมือคล้ายๆ กันได้ เพื่อจะได้เป็นฮีโร่

จากท่าทีของ ผบ.ทบ. เชื่อว่าระมัดระวังในประเด็นนี้อยู่

แต่ท่าทีของสื่อบางสำนัก และการแสดงความเห็นของคนในโลกออนไลน์ กลับตรงกันข้าม โดยพยายามเชื่อมโยง ขับเน้น บางความเห็นอาจเข้าข่ายปลุกเร้า-ปลุกระดมให้ผู้ได้รับความอยุติธรรมให้วิธีการตามแนวทางนี้บ้าง

นี่คือสิ่งที่ทุกฝ่าย ควรต้องระมัดระวัง


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 14:08
1. ผบ.ทบ. ระบุว่า “สาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้เกิดจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ในเรื่องการซื้อขายที่ดิน แต่ในวินาทีที่ผู้ก่อเหตุลั่นไกปืนสังหารผู้บังคับบัญชา เขาคือ “อาชญากร” ไม่ใช่ “ทหาร” อีกต่อไป...ผมพร้อมจะใช้อำนาจของผู้บัญชาการทหารบกจนวันสุดท้ายที่อยู่ในตำแหน่ง เพื่อปราบขบวนการหน่วยร่วมกับพ่อค้าเป็นนายหน้าอย่างปัญหาการซื้อขายบ้านสวัสดิการทหารที่เกิดขึ้น มีการวิ่งเต้นกัน ซึ่งไม่อยากจะสาธยายมาก แต่มีข้อมูลไว้หมดแล้ว และภายในเดือนเมษายนนี้ตั้งแต่นายพลยันพันเอก หลายคนจะไม่มีงานทำอย่างแน่นอน หลายอย่างก็ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้วว่าผมจำเป็นจะต้องจัดการ ผมไม่ถนอมตัวในปีสุดท้ายที่ผมยังอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ฉะนั้น ขอให้มั่นใจ...”

เป็นสัญญาประชาคมว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด

สังคมจะต้องช่วยกันติดตาม

2.ข้อมูลที่ปรากฏออกสู่สาธารณะก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ความถูกต้อง

เกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ สร้างบ้าน

แต่ใครโกงใคร แค่ไหน อย่างไร? ไม่ควรจะฟังความข้างเดียว หรืออารมณ์ ความเชื่อ ความสงสาร เข้าไปตัดสิน

ทั้งสองฝ่าย ต่างมีผลประโยชน์ส่วนตัว

ถามว่า มีการเอาเปรียบกัน หรือไม่? มีแน่นอน

แต่ถามว่า มีการโกงกันหรือไม่? ตัวเลขเป็นไปตามเรื่องที่กล่าวขานต่อๆ กันหรือไม่? แม้เชื่อว่ามีแนวโน้มสูง แต่ก็ควรให้มีการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดอย่างเป็นทางการเสียก่อน

และไม่ว่าจะอย่างไร คนร้ายที่ลงมือสังหาร 29 คน ทำลายชีวิตผู้ไม่เกี่ยวข้องอย่างอำมหิต มันคือฆาตกร เป็นอาชญากรร้ายแรง ที่จะต้องถูกสาปแช่ง เพราะได้สร้าง “ความอยุติธรรม” แก่ชีวิตผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมสังหารหมู่ต่อไปอีกจำนวนมหาศาล เกินคณานับ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 14:10
3.แต่ประเด็นสำคัญ คือ ผบ.ทบ. จะต้องสะสางตามคำมั่นที่ประกาศไว้ต่อสาธารณะ

ขณะเดียวกัน สื่อและสังคม ก็ไม่ควรไปเชื่อมโยงในเชิงเห็นใจหรือยกย่อง “อาชญากร 29 ศพ” เหมือนที่คนจำนวนหนึ่งพยายามทำอยู่ในโลกออนไลน์เวลานี้

ขออนุญาตเผยแพร่ข้อเขียนของ นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล แปลและเรียบเรียงจากบทความ (บางส่วน) ใน New York Times ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 ชี้ให้เห็นอันตรายและผลกระทบที่อาจเกิดจากการนำเสนอเรื่องราวของอาชญากรสังหารหมู่ให้โด่งดัง หรือชี้นำไปในทางเห็นอกเห็นใจ ดังนี้

“การสังหารหมู่ เป็นโรคระบาดชนิดหนึ่ง

การยิงกราดสังหารหมู่กำลังเป็นข่าวที่เคยชินมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันไม่ใช่แค่เพียงการระเกิดอารมณ์ของบุคคลอย่างเดี่ยวโดด แต่การกระทำแต่ละครั้งได้กลายเป็นพิมพ์เขียวของการกระทำต่อๆไป

ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันความรุนแรงกล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วผู้ก่อการสังหารหมู่ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการกระทำลักษณะดังกล่าวก่อนหน้านั้นอย่างขะมักเขม้น การตีข่าวสาธารณะของเหตุการณ์รุนแรงแต่ละครั้งสามารถมีผลกระตุ้นนักฆ่าคนต่อไปให้ฮึกเหินและมุ่งหน้าไปสู่สิ่งนั้น

การสังหาร 9 ศพที่โรงเรียนชุมชนในโอเรกอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (ต้นตุลาคม 2015, ผู้แปล) เป็นคัมภีร์อย่างดีในเรื่องนี้ ก่อนทำการกราดยิง มือปืนชื่อคริสโตเฟอร์ ฮาร์เปอร์ เมอร์เซอร์ อายุ26 ปีได้อัพโหลดวีดีโอเกี่ยวกับกรณีสังหารหมู่ปี 2012 ที่โรงเรียนประถมแซนดีฮุก ในนิวทาวน์ คอนเนกติคัต มาดู

มือสังหารที่แซนดีฮุกก็เรียนรู้มาจากการสังหารหมู่ก่อนหน้านั้น ในปี 1999 ที่โรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์ ในโคโลราโด ซึ่งมีผู้ตาย 13 ศพ และกรณีในปี 2011 ซึ่งมีผู้ตาย 77 ศพ
หลังกรณีกราดยิงที่โอเรกอน 3 วัน FBI ได้เตือนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเรื่องจดหมายขู่ที่โพสต์อยู่ในเว็บไซต์ที่นายเฮอร์เปอร์เข้าไปใช้อยู่


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 14:11
แนวโน้มของการระบาดทางวัฒนธรรมต้องการการตอบสนองของสุขภาพชุมชนที่จะรับรู้แต่เนิ่นๆ และมีมาตรการป้องกัน อย่างเช่นการรณรงค์ที่ต่อต้านการกระทำดังกล่าว ขณะเดียวกันความพยายามแยกแยะและปรับสภาพผู้ที่มีแนวโน้มทางนี้ก็สามารถอำนวยความปลอดภัยให้ผู้คนได้

“เรากำลังจัดสมดุลสวัสดิภาพของสาธารณชนกับความเป็นส่วนตัวส่วนบุคคล” เจ. เรด มีลอย นักจิตวิทยาอาชญากรรมซึ่งให้คำปรึกษากับโรงเรียนและองค์กรต่างๆ กล่าว

มีบางคนกล่าวถึงบทบาทของสื่อมวลชน “ถ้าพาดหัวภาพหน้าของอาชญากรอย่างใหญ่โต และเอ่ยชื่อของเขาในสื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก นั่นจะทำให้อาชญากรรมของเขากลายเป็นพิมพ์เขียวสำหรับคนต่อๆไป” ดร.เดโบรา ไวส์บรอด รองศาสตราจารย์คลินิกทางจิตวิทยา มหาวิทยาลัยสโตนีบรูก ซึ่งรับคำปรึกษาวัยรับนับร้อยๆราย ที่มีประวัติความรุนแรง ออกความเห็น

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งปัญหาทางจิตใจเป็นมูลเหตุของการกระทำสังหารหมู่

ใครสักคนหนึ่งที่สนใจกลไกการสังหารหมู่ สามารถสร้างกระบวนการของตนได้อย่างง่ายดาย ด้วยการเข้าไปในอินเตอร์เนต โดยค้นหาข่าวรายงานเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย มีเว็บไซต์หนึ่งได้เรียบเรียงกรณีสังหารหมู่ทั่วโลกเอาไว้


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 14:13
มือปืนที่ก่อกรณีสังหาร 12 ศพ ในโรงภาพยนตร์ที่ออโรรา โคโลราโดปี 2012 มีแฟนคลับมากมาย

ง่ายมากที่จะดูกรณีของนายฮาร์เปอร์ เมอร์เซอร์ ทำไมจึงเลียนแบบมือปืนที่แซนดีฮุก คนทั้งสองอยู่กับแม่ซึ่งรักในเรื่องของปืนและมักจะไปสนามฝึกยิงปืนเพื่อซ้อมยิงบ่อยๆ แม่ของฮาร์เปอร์บอกว่าลูกของตนมีโรคแอสเปอร์เกอร์ซินโดรม (กลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติการทำงานของระบบประสาทจัดอยู่ในกลุ่มโรคออทิสติก ที่มีปัญหาทางพฤติกรรม, ผู้แปล) มือปืนที่แซนดีฮุก ก็เช่นเดียวกัน

มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งเสนอว่า การฆ่าหมู่ก็เหมือนกับการฆ่าตัวตายของวัยรุ่น กรณีแบบนี้จะรวมตัวขึ้นขีดสูงเมื่อมีกรณีหนึ่งแล้วก็จะนำสู่อีกกรณีหนึ่งสะพัดออกไป จึงมีการพูดถึงเรื่องของการออกกฎหมายให้สื่อมวลชนปรับปรุงวิธีเสนอข่าวให้เหมาะสม

ผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายอาชญากรรม มหาวิทยาลัยเท็กซัส นายพีทแบร์กว่าว่า เริ่มรณรงค์ให้เห็นด้วยกับ FBI ที่เสนอกฎหมายว่า “ไม่ให้ออกชื่ออาชญากร”

ดร.มีลอยกล่าวว่า “ข้อสำคัญที่ให้หลีกเลี่ยงการลงภาพ และข้อความประเภท “สิงห์เดี่ยว” ซึ่งเป็นข้อความกระตุ้นใจวัยรุ่น“....”

4. เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืม คือ

อย่าหาความชอบธรรมให้อาชญากร

อย่าทำให้ฆาตกรกลายเป็นฮีโร่

กองทัพต้องสะสางปัญหาที่หมักหมม ตรงไปตรงมา

ขณะเดียวกัน เราก็ต้องตามแก้ไข “ความอยุติธรรมที่คนร้ายสังหารหมู่ก่อขึ้นมา” เพื่อมิให้ใครคิดกระทำชั่วร้ายแบบนี้อีก มิให้คนที่รักของเราทั้งหลายต้องเสี่ยงชีวิตกับเหตุการณ์พวกนี้อีก

สารส้ม



กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 14:37
.


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 20, 14:39
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระราชกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัย ต่อเหตุการณ์ร้ายแรงใน จ.นครราชสีมา



ข้าพเจ้าและพระราชินีรู้สึกเศร้าสลดใจอย่างยิ่ง ที่ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นในประเทศของเรา ที่จังหวัดนครราชสีมา นับแต่บ่ายวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 อันทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากได้รับอันตราย ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต

ความสูญเสียในครั้งนี้ ได้สร้างความสะเทือนใจอย่างใหญ่หลวงให้แก่ข้าพเจ้าและพระราชินี ด้วยเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ทั้งเป็นเหตุรุนแรงที่เกิดจากการกระทำอันโหดร้ายเกินกว่าผู้ใดจะคาดคิด ต่อชาวไทยด้วยกันอันเป็นทั้งเพื่อนมนุษย์และเพื่อนร่วมชาติ

ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้ที่ต้องประสบความสูญเสีย และเห็นใจ ชื่นชมผู้ตกอยู่ในเหตุการณ์ ที่ต่างมีความอดทนเข้มแข็ง ตลอดจนช่วยเหลือและเกื้อกูลกันในยามคับขัน จนสามารถรอดพ้นอันตรายได้ ทั้งขอยกย่องผู้มีส่วนคลี่คลายสถานการณ์ครั้งนี้ทุกคนทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร คณะกรมการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แพทย์ พยาบาล อาสาสมัคร มูลนิธิ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ซึ่งนอกจากจะต้องมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและเสียสละชีวิตอุทิศตนอย่างสูงแล้ว ยังได้แสดงถึงความสันทัดช่ำชองในการปฏิบัติหน้าที่และการให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อชีวิตความปลอดภัยของผู้ที่ตกอยู่ในอันตราย

ความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกคนทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนทุกคนที่ได้ให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อทางการและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะกระทำได้ต่อผู้ที่บาดเจ็บและได้รับอันตราย ได้แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ถึงความรักความห่วงใยที่มีต่อเพื่อนมนุษย์และเพื่อนร่วมชาติ พร้อมทั้งพลังความสามัคคีซึ่งเป็นคุณธรรมอันสูงส่ง ข้าพเจ้าและพระราชินีเชื่อมั่นว่า เราชาวไทยทุกคน สามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงครั้งนี้ไปได้ ด้วยความมีสติ มีปัญญา และสามัคคี ตลอดจนด้วยความเสียสละเพื่อความผาสุก สงบ เรียบร้อยของส่วนรวมและประเทศชาติ.


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ก.พ. 20, 08:15
บทวิเคราะห์จากสื่อนอก

https://youtu.be/f_Crkuk-2JM


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.พ. 20, 08:47
   ข้างล่างนี้ตัดตอนมาบางส่วนจาก facebook ของคุณปราชญ์ สามสี  ที่ไขคำตอบเรื่องค่ายทหารไว้    ก็คงเป็นคำเฉลยได้ในระดับหนึ่งว่า ทำไมไม่มีการเคลื่อนไหวจากค่ายทหารที่ถูกบุกปล้นอาวุธ ตั้งแต่คนร้ายเข้าไปในค่ายจนกระทั่งออกจากค่าย ยิงคนดะไปตามทางจนถึงเข้าไปยิงในเทอร์มินัล 21  รวมเวล่าประมาณ 2 ชม.ครึ่ง

 ปราชญ์ สามสี

ก่อนที่จะ พูดอะไรหลังจากนี้ ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียในเหตุการณ์โคราชทุกท่านครับ

นับเป็น ระยะเวลาเกือบอาทิตย์แล้วสำหรับเหตุการณ์ กราดยิงที่โคราช แต่ก็ดูเหมือน กระแสข่าวนี้ยังคง ถูกพูดถึงและยังไม่มีทีท่าจะลดลงเสียเท่าไร อาจเป็นเพราะ ยังอยู่ในช่วงพิธีกรรมทางศาสนา และผู้บาดเจ็บอีกหลายคนยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ความเข้าใจของผู้คนก็ยังคลุมเครือถึงสาเหตุการยิงกราดครั้งนี้อย่างแน่ชัด ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่มีใครทราบเงื่อนไขที่แท้จริง เพราะ นายทหารที่เป็นพยานที่เกี่ยวข้องหลายนายถูกยิงเสียชีวิต เพราะฉะนั้น เรื่องราวความจริงต่างๆ ยังคงต้องค่อยๆ เยียวยาผ่านกาลเวลาด้วยตัวของมันเอง

แต่อย่างไรก็ตามยังมีความสับสน ที่กลายเป็นความเข้าใจผิด ที่ก่อให้เกิดกระแส ให้ผู้คนถามหาถึงต้นตอถึงการก่อเหตุครั้งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งในหลายประเด็นที่ผ่านมาก็ยังเป็นเรื่องที่คิดกันไปเองค่อนข้างเยอะ ดังนั้น ข้าพเจ้าคิดว่า คงจะ ลอง รวบรวมประเด็นที่ มีคน"มโน" จนมีคนเข้าใจผิดจริงๆ มาลองวิเคราะห์ให้ฟังนะครับ
..............


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.พ. 20, 08:48
อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ตามลิ้งค์นี้ค่ะ
https://www.facebook.com/search/top/?q=%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%8D%E0%B9%8C%20%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%20%E0%B8%AA%E0%B8%B5&epa=SEARCH_BOX

เรื่องที่สาม - ปล้นปืนทำไมง่ายจัง?

เรื่องนี้ คนไม่เข้าใจระบบทหาร ก็จะคิดเพียงว่าจะต้องมีการไล่ล่าจบกุมในค่ายแบบในภาพยนตร์ฝรั่ง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีปัจจัยหลายเรื่องที่ทำให้เหตุการณ์นี้ ถูกปล้นปืนได้ง่าย

ตัดสายการบังคับบัญชา: จากข้อมูลข่าว ระบุเอาไว้ว่า นายพันเป็นคนแรกที่เสียชีวิต ซึ่งนายเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของกองพัน ที่คนร้ายสังกัด เมื่อคนร้ายสังหารผู้พันด้วยปืนส่วนตัว ก็ค่อยไปชิงปืน ไปถล่มบก.ร้อย ก่อนที่จะไปขโมยปืนคลังโดยการยิง นายเวรทหาร ซึ่งยศน่าจะต่ำกว่า ทำให้ผู้น้อยไม่กล้ากระดิก

*** แปลว่า "มีการวางแผนมาอย่างดีในการตัดสายการบังคับบัญชาให้เป็นอัมพาตชั่วครู่ *** เพราะทหารนายนี้มีความเข้าใจในเรื่องสายบังคับบัญชาซึ่งเป็นกฏที่เคร่งครัดในระบบทหาร"

อีกทั้งทหารเวรที่ยศต่ำกว่าย่อม ไม่กล้าขัด"จ่า"ที่เป็นคนร้าย ... ตรงจุดนี้เป็นความคิดเห็นว่า ...การยิงทหารเวรเสียชีวิตทำให้ พลทหารตรงนั้นเสียขวัญกำลังใจก่อนจะ หนีไป ( เป็นพลทหาร พึ่งฝึกมา สามเดือน ... จะไปสู้จ่าคลั่ง อาวุธครบ ไหวเหรอ)

ตั้งข้อสังเกตนะครับว่า ส่วนที่ทหาร ไม่สามารถ ติดตามไล่ล่า ได้นั้นเนื่องจากไม่มีคำสั่งจาก ผู้พันประจำค่าย จึงไม่สามารถ ออกไปนอก บริเวณค่ายทหารได้นั้นเอง ต้องติดต่อส่วนกลาง เพื่อรอคำสั่ง ...ซึ่งผู้มีอำนาจในการดูแลความสงบคือตำรวจนั้นเอง

ดังนั้น คนที่ไม่รู้กลไกทางทหาร จึงมักเข้าใจคิดว่าทหารปล่อยร้ายปล้นปืนไป ฟรีๆ นั้นและครับ
--------------

เรื่องที่ สี่ - ทำไมคนร้ายถึงเลือก วัด โรงเรียน ห้าง เป็นพื้นที่กระสุนตก?

คำตอบนั้น Simpleมาก จนทำให้รู้สึกถึงความอำมหิตของคนร้ายจริงๆ คือ เป้าหมายที่แท้จริงคือ"การเรียกร้องความสนใจ" จากสื่อมวลชนนั้นเอง

ลองย้อนกลับไปคิดดูนะครับ... ทำไม ต้องฆ่าคนไป ถ่ายรูป เซลฟี่ตัวเองไป เรื่อย เหมือนคนบ้า แต่ก็แยบยล ... เพราะเขาต้องการเป็นจุดสนใจของ สื่อมวลชน เพราะให้ สื่อถ่ายทอดความอำมหิตของเขาที่พรากเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์ และและใช้มันเพื่อต่อรองกับเจ้าหน้าที่ในเรื่องส่วนตัว " นี่เป็นคนบ้าที่ฉลาดและอำมหิต" ทีเดียวครับ และแน่นอนว่าเขาเตรียมใจตายในระดับนึงแล้ว

วันนั้น จากข่าว ผบ.ทบ -ผบ.ตร ลงพื้นที่ แล้วเข้าไปในพื้นที่ด้วยตนเองทั้งหมด เพื่อ ไกล่เกลี่ยกับคนร้าย เรียกได้ว่าเสี่ยงไปพร้อมลูกน้องเช่นกันครับ ..


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.พ. 20, 08:49
เรื่องที่ห้า - ทหารคลั่งคนเดียว ทำไมเอาไม่อยู่?

ดูหนังฝรั่ง เห็นเขาเอาสไนเปอร์ ส่อง ยิงเปรี้ยง ที่เดียวอยู่ ... แต่ในโลกความเป็นจริงมันไม่ใช่ ... หลายคนไม่ทราบ เงื่อนไขความเสี่ยง ของการช่วยตัวประกันครั้งนี้ คือ ...

1.คนร้ายมีปืน พร้อมเครื่องกระสุน กว่าพันนัด ... ใช่ครับ "พันนัด" 700นัด สำหรับปืนเล็กยาว อีก30นัด คาดเดาว่าน่าจะค้างในซองปืน ส่วน ปืน M60 อีก สามแถว แถวละ ร้อยนัดเห็นจะได้ ..ดังนั้น ยิงทั้งคืน ไม่หมดหรอกครับ... จะปล่อยให้มันยิงลูกหมด เป็นไปได้ยาก .... ตามปรกติเจ้าหน้าที่ทหารหนึ่งคน เวลาทำภารกิจพกซองกระสุนสูงสุดประมาณ3- 4ซอง ตกประมาณ 90-120นัดเท่านั้นครับ

แถมพลังการยิง m60 นี่ ยิงทะลุยานภาหนะเป็นรูเท่ากำปั้นนะครับ ยิงโดนแขน นี่ ขาดนะครับ ...ยิงคอร์ปเตอร์ ยังร่วงเลยครับ

2. คนร้ายเป็นทหาร มีความฟิต และ มีความรู้ด้านการทหารแน่น ย่อมรู้ดีว่าทหารตำรวจจะบุกทางไหน หรือทำอะไร

3. สื่อโซเชียลมีเดียคอยบอกตำแหน่งการเข้าออกของทหารตำรวจ จากการรายงานที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็ทำให้เขารู้ว่ามีโดรน และสไนเปอร์เข้าไปในพื้นที่ จึงทำให้ คนร้ายหนีลงชั้นใต้ดินที่ปราศจากหน้าต่าง


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.พ. 20, 08:50
4. มันมีประเด็นที่ คนร้ายผูก ระเบิดเอาไว้รอบตัวทำให้ ไม่มีใครกล้ายิง.. นี่ไม่ใช่เกม...ที่จะเน้นยิงหัวโดยง่าย ... แต่ต้องช่วยตัวประกันแถมเงื้อนไขคือ มีระเบิด จำนวนมาก มัดรอบตัวฆาตกร... ยิงพลาด หมายถึงความเสียหายตรงต่อตัวอาคาร เสี่ยง "ตึกถล่ม" ซึ่งหมายถึงชีวิต ของ เจ้าหน้าที่และผู้บริสุทธิ์ในบริเวณนั้น อีกทั้ง อาจทำให้พื้นที่ใกล้เคียงเสียหายด้วยเช่นกัน กลายเป็นการวินาศกรรมที่ คนไทยสูญเสียใหญ่หลวง แน่! โชคยังเข้าข้างประเทศไทย ที่ คนร้ายถูก วิสามัญก่อนที่จะไปสร้างภัยอันตรายกว่านี้

เราเรียนรู้ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้

ในภัยร้ายที่เกิดขึ้น เราเห็นความสามัคคีของเจ้าหน้าที่และพลเรือนในการกู้วิกฤติครั้งนี้ เราเห็นพลังคนที่ลงพื้นที่ จิตอาสา ที่ไม่ใช่แค่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ นั่งวิจารณ์ด่าทอ แต่ลงมาช่่วยกันแบบปิดทองหลังพระ

เราเห็นความรับผิดชอบ ของทหารและตำรวจ ที่ทำงานกัน 24ชั่วโมง

เราได้เห็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเข้าไปทำหน้าที่เป็นผู้นำทัพในการปราบคนร้ายที่กลายเป็นภัยต่อราชอาณาจักร

เราได้เห็นขีดความสามารถของ "นักรบไทย" ของเล่นเพียบ

เราได้เห็นภัยเงียบ อย่าง ข่าวปลอม และ ผลพวงของการนำเสนอข่าวที่เป็นภัยต่อสังคม

เราได้เห็นว่าทหารจะมีการปฎิรูปครั้งยิ่งใหญ่หลังจากนี้

เราได้เห็นความเมตตาของพระเจ้าแผ่นดินทรงรับผู้บาดเจ็บเอาไว้ในการดูแลส่วนพระองค์

เราได้เห็นถึงด้านที่อ่อนโยนที่สุด ของทหารที่ขึ้นชื่อว่าน่าเกรงขามที่สุดในประเทศคนหนึ่ง

เราได้เห็นว่าจริงๆแล้วประเทศไทย สงบร่มเย็น ขนาดไหน... เพราะไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย ทั้งๆที่ ประเทศมหาอำนาจบางประเทศเกิดเหตุแบบนี้ แทบทุกเดือน

---------

ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ
ขอเพียงคนไทยรักกันเหมือนเดิม

ป.สามสี


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 15 ก.พ. 20, 08:35
การเข้าถึงอาวุธสงครามทำได้ง่ายมาก   ไม่มีการสแกนบัตรหรือลายนิ้วมือเพื่อเปิดประตูเข้าออกสู่คลังอาวุธได้  ไม่มีกล้องวงจรปิดที่มีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์ความผิดปกติต่างๆ

คลิปซึ่งเพิ่งเอาออกมาเผยแพร่ มีกล้องวงจรปิดแต่คงไม่ได้ออกแบบเพื่อให้เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ขณะเกิดเหตุ

ข้อสังเกต นอกจากความโหดของผู้ก่อเหตุแล้ว ประตูห้องเก็บอาวุธเป็นประตูไม้คงใส่แม่กุญแจไว้ ๓ ลูก แต่เข้าถึงได้ง่ายมาก
 :o

https://youtu.be/scEKpZCKRW0


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 15 ก.พ. 20, 08:43
ระบบที่ควรศึกษาและนำมาใช้ ห้องเก็บอาวุธของหน่วยงานทหารของอเมริกาเป็นประตูเหล็กและกุญแจรหัส

https://youtu.be/wvjQkCW4oGc


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 17 ก.พ. 20, 12:33

(https://s.isanook.com/ns/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTYwNS84MDI5MzQ2L3Nhbm9va190aHVtYm5haWxfMTIwMHg3MjAoMTc2LmpwZw==.jpg)


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ก.พ. 20, 15:21
วันเสาร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ครบ ๑ สัปดาห์เหตุกราดยิงประชาชนที่ จังหวัดนครราชสีมา มีการจัดพิธีทำบุญเมือง ๓๖๔ ปี ตักบาตรพระ ๑๐,๐๐๐ รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชและอุทิศบุญให้แก่ท้าวสุรนารี รวมถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง

https://youtu.be/QecQ1weiNso


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.พ. 20, 15:48
“อนันต์” ปรากฏตัวครั้งแรก เทอร์มินอล 21 โคราช พร้อมเยียวยาทุกฝ่าย

เจ้าของ ‘เทอร์มินอล 21 โคราช’ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปรากฏตัว พร้อมเยียวยาทุกฝ่าย-เปิดให้บริการตามปกติแล้ว ยกเว้นฟู้ดแลนด์

https://www.prachachat.net/prachachat-top-story/news-420915


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 17 ก.พ. 20, 21:38
ตามความเข้าใจผมนะครับ จังหวัดผมมีแต่ทหารทั้งจังหวัด สมัยวัยรุ่นพอจะคุ้นเคยเรื่องพวกนี้บ้างเหมือนกัน ปัจจุบันก็น่าจะเหมือนเดิมนะ

ประเทศไทยคลังอาวุธกับคลังกระสุนก็อยู่คนละที่กันครับ ปืนถูกออกแบบให้ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ แต่กระสุนต้องจัดเก็บอย่างดีเพื่อให้อายุการใช้งานยาวนานตามผู้ผลิตกำหนด การเข้าถึงถ้าเป็นคนนอกต้องผ่านหลายด่าน แต่ถ้าเป็นคนกันเองแบบนี้คุมยาก เพราะคลังอาวุธออกแบบให้สามารถแจกจ่ายได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีเกิดเหตุจำเป็นต้องใช้กำลังหทาร ส่วนกระุสุนจะมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบไปเบิกมาแจกหน้างาน คร่าวๆ ประมาณนี้ครับ

ของอเมริกาเองตามหลักการก็ไม่แตกต่างจากเรา แต่การเข้าถึงอาจจะยากกว่ากันมาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็เคยมีกรณีทหารขโมยรถหุ้มเกราะสายพานขับออกไปดื้อๆ คนในอีกแล้วเรื่องแบบนี้กันยาก

(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/gunn4.jpg)


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 20, 08:14
เรื่องนี้ไม่อยากจะพูดซ้ำ คุณ superboy ก็คงไม่อยากพูดอะไรมากกว่านี้
ต่อไปนี้ก็คงจะมีมาตรการที่รอบคอบรัดกุมและเข้มงวดมากขึ้นละค่ะ    เพื่อไม่ให้มีเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้นอีก


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 18 ก.พ. 20, 09:03
อ่านเรื่องอื่นบ้างนะครับ  :)

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=195404288494339&id=110958803605555 (https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=195404288494339&id=110958803605555)


เมื่อห้วงต้นสัปดาห์ก่อนประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศยังคงไม่หายตื่นตระหนกกับเหตุการณ์กราดยิงที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์บ้านเราที่ จ.นครราชสีมา ณ ห้างเทอร์มินอล 21 ซึ่งมีทั้งเหยื่อผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินชีวิตหลังจากนั้นของประชาชนทั้งประเทศ พี่น้องชาวโคราช ตลอดจนผู้ประกอบการร้านค้าในห้างเทอร์มินอล 21

และหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นคือ อธิพล ตีระสงกรานต์ BCC136 ทายาทเจ้าของกิจการซูเปอร์มาร์เก็ต 24 ชม.

ในห้วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น อธิพลได้เคยเปรยกับผมอยู่หลายครั้งเรื่องสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ส่งผลกระทบต่อฟู้ดแลนด์สาขานี้ที่โคราช ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่มีกำไร จึงได้แต่ต้องคอยประคับประคองไปเพื่อดูจังหวะตามสถานการณ์ และบางครั้งทำให้เขาต้องคิดถึงการปิดสาขานี้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้วย

และเมื่อสัปดาห์ก่อน ช่วงเกิดปัญหาวิกฤตการณ์ขึ้นที่ห้างฯ ผมในฐานะทั้งเพื่อนและเลขาฯ ชมรมกีฬายิงปืนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จึงได้โทรหาอธิพลตั้งแต่ช่วงค่ำของวันเกิดเหตุ เพื่อแนะนำข้อมูลและขั้นตอนการปฏิบัติของพลเรือนต่อสถานการณ์กราดยิงที่ถูกต้องให้กับลูกทีมเขาที่สาขานั้น เดชะบุญที่โชคยังเข้าข้าง ในช่วงดึกพนักงานส่วนใหญ่ของเขาก็สามารถหลบหลีกออกมาจากพท.ในร้านได้ ด้วยจนท.ทำการกดดันจนคนร้ายต้องถอยลึกเข้าไปจนถึงบริเวณก่อนถึงห้องเย็นในส่วนหลังสุดของร้าน

แต่พอเมื่อช่วงเช้าวันสิ้นสุดสถานการณ์ กลับปรากฎว่าเขาต้องสูญเสียผู้ใต้บังคับบัญชาไป 1 คน พร้อมกับเหยื่ออีกจำนวนหนึ่งในพท.ของร้านเขาซึ่งเสียหายรุนแรงจากการปะทะกันด้วยอาวุธสงครามระหว่างจนท.และคนร้าย ปัจจัยดังกล่าวทำเอาอธิพลถึงกับแทบถอดใจ พูดกับผมทางโทรศัพท์ว่า “คงถึงเวลาที่จะต้องปิดสาขาจริงๆ แล้วนะ สถานการณ์มันคงนำพามาถึงจุดนี้แล้ว ...... “

ผมอึ้งไปสักพัก แล้วก็ให้กำลังใจอธิพลไปว่า “ .... เราเข้าใจในสถานการณ์ที่ยากลำบากเข่นนี้ แต่ลองอีกมุมคิดหนึ่งดู เราขอแนะนำให้นายลุกขึ้นสู้นะ สู้เพื่อลูกน้อง  สู้เพื่อคนโคราช สู้ให้เหมือนคุณพ่อของเพื่อนที่ท่านได้ต่อสู้เรื่องการให้บริการ 24 ชม.มาตั้งแต่ 40-50 ปีก่อนโดยไม่เคยย่อท้อ สู้ให้เหมือนที่ทีมเซฟ 136 และทีมเซฟผปค.เราสู้เพื่อลูกหลานเมื่อปีกลาย ... หากเราคิดดีและทำดีด้วยความมุ่งมั่นโดยหวังประโยชน์ต่อลูกค้าและสาธารณะ เราเชื่อว่านายต้องทำได้ และจะทำสำเร็จอย่างแน่นอน”

เมื่อจบการสนทนานั้นทั้งทางไลน์และทางโทรศัพท์ อธิพลตัดสินสินใจทันทีแบบแทบจะไม่ต้องเสียเวลาคิด ว่าเขาจะสู้ต่อเพื่อทั้งลูกน้องและพี่น้องชาวโคราช สู้เพื่อจะเป็นสัญลักษณ์ในการไม่ยอมแพ้ต่อการก่ออาชญากรรมที่จะมาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ และในเร็ววันนี้ พวกเราจะได้เห็นฟู้ดแลนด์ สาขาเทอร์มินอล 21 กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งครับ

สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณในความมุ่งมั่นของ อธิพล ตีระสงกรานต์ BCC136 และขอพระผู้เป็นเจ้าอวยพระพรต่อเขาและครอบครัวคริสเตียนของเขาให้ประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายเพื่อพี่น้องชาวโคราชในเร็ววันนี้ครับ ขอบคุณครับ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 20, 15:01
ขอให้กำลังใจ ไม่เฉพาะแต่ผู้บริหารฟู้ดแลนด์เท่านั้น แต่รวมเจ้าของร้านค้าอื่นๆที่ได้รับความกระทบกระเทือนจากเรื่องนี้ค่ะ
ขอให้สู้ต่อไปค่ะ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 19 ก.พ. 20, 14:11
ตามความเข้าใจผมนะครับ จังหวัดผมมีแต่ทหารทั้งจังหวัด สมัยวัยรุ่นพอจะคุ้นเคยเรื่องพวกนี้บ้างเหมือนกัน ปัจจุบันก็น่าจะเหมือนเดิมนะ

ประเทศไทยคลังอาวุธกับคลังกระสุนก็อยู่คนละที่กันครับ ปืนถูกออกแบบให้ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ แต่กระสุนต้องจัดเก็บอย่างดีเพื่อให้อายุการใช้งานยาวนานตามผู้ผลิตกำหนด การเข้าถึงถ้าเป็นคนนอกต้องผ่านหลายด่าน แต่ถ้าเป็นคนกันเองแบบนี้คุมยาก เพราะคลังอาวุธออกแบบให้สามารถแจกจ่ายได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีเกิดเหตุจำเป็นต้องใช้กำลังหทาร ส่วนกระุสุนจะมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบไปเบิกมาแจกหน้างาน คร่าวๆ ประมาณนี้ครับ

ของอเมริกาเองตามหลักการก็ไม่แตกต่างจากเรา แต่การเข้าถึงอาจจะยากกว่ากันมาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็เคยมีกรณีทหารขโมยรถหุ้มเกราะสายพานขับออกไปดื้อๆ คนในอีกแล้วเรื่องแบบนี้กันยาก

(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/gunn4.jpg)

ที่อเมริกา​ ถึงจะมีทหารยิงกันเอง​ แต่ไม่เคยหลุดไปยิงพลเรือนนะครับ​ ส่วนมากจะซัดกันในค่ายเท่านั้น

ต่อให้หลุดออกไป​ ระดับการเผชิญเหตุในระดับมหานคร​ ก็ค่อนข้างตอบสนองต่อผู้ก่อเหตุได้รวดเร็ว​ ในบางมหานครที่มีหน่วยปฏิบัติการพิเศษ​ เช่น​ NYPD ของนิวยอร์ค​ หรือ​ LAPD​ หน่วยพิเศษเขามีอาวุธสงครามที่สามารถรับมือกับกรณีแบบนี้ได้ทันเวลาพอควรครับ


หมายเหตุ

๑.​ใน​ เว็บบอร์ดยอดนิยมแห่งหนึ่งก็มีกระทู้และรูปคล้าย​ ๆ​ กับที่ยกมาแบบนี้ครับ

๒.​ เห็นบางมาตระการ​ ที่ออกมาบอกให้ถอดลูกเลื่อนปืน​ ถ้าผมอ่านไม่ผิด

คิดแล้วก็จำได้ราง​ ๆ​ ว่า​ นี่มันเป็นมาตรการแบบเดียวกับหลังเหตุการณ์ในสมัยอยุธยาตอนปลายเลย​ ที่ต้องถอดนกปืนแยกออกจากตัวปืน​


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 20, 16:13
สวัสดีค่ะ คุณ samun007 หายหน้าไปนานหลายปี  กลับมาเข้าสู่เหตุการณ์เกิดขึ้นสดๆร้อนๆทันเวลา
ดิฉันไม่รู้ว่าคุณ samun007 เป็นใคร แต่เดาจากคำตอบว่าคงอยู่ในอาชีพที่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไม่มากนัก


อ้างถึง
คิดแล้วก็จำได้ราง​ ๆ​ ว่า​ นี่มันเป็นมาตรการแบบเดียวกับหลังเหตุการณ์ในสมัยอยุธยาตอนปลายเลย​ ที่ต้องถอดนกปืนแยกออกจากตัวปืน​
ไม่เคยรู้เรื่องนี้   เป็นส่วนหนึ่งของการห้ามยิงปืนใหญ่หรือเปล่าคะ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 19 ก.พ. 20, 18:54
การถอดนกปืนออกจากปืนมีทุกแห่งบนโลกแหละครับ มีมานานแล้วตั้งแต่โลกนี้มีปืนกระบอกแรก เพราะปืนถ้าไม่มีนกหรือกระสุนก็เป็นแค่แท่งเหล็ก ทำอะไรไม่ได้นอกจากปาใส่หัวกันให้แตกไปข้าง


ทหารอเมริกาจะไม่ออกมานอกกรมกองเด็ดขาด ใช้ตำรวจจัดการทั้งหมดเหมือนๆ ประเทศไทยนี่แหละ เขาไม่มีกรณีปล้นอาวุธค่ายทหารเพราะเขามีปืนขายกันเกลื่อนเลยครับ กึ่งออโต้เอาไปแปลงเป็นออโต้ง่ายมาก เคยมีกรณีขนปืนขึ้นไปไล่ยิงคนจากบนตึกด้วยนี่ครับ เทศกาลอะไรสักอย่างนี่แหละ ตายเยอะเหมือนกันผมอ่านจากในเรือนไทยอีกกระทู้ แต่จำรายละเอียดไม่ได้ แฮร่!!


ส่วนตัวคิดว่าถอดก็ได้ไม่ถอดก็ดี คือถ้าไม่ทำอะไรเลยก็โดนด่า ถึงทำก็โดนด่าเพราะฉะนั้นอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ใครว่าวัวหายล้อมคอกผมไม่ว่านะครับ อนาคตจะเป็นตัวบอกเองว่าดีหรือไม่ดี


ไทยก็ไม่เคยมีคนขโมยรถหุ้มเกราะสายพานออกมาขับนี่ครับ หมายความว่าทหารไทยคุณภาพสูงกว่าทหารอเมเริกาใช่ไหม??? (ก็ไม่ใช่อีก) ตำรวจและทหารอเมริกาเองก็เคยทำงานพลาดเยอะแยะ เคสนี้รถตำรวจวิ่งตามเป็นพรวนอย่างเดียว ไม่เห็นมีหน่วยตอบโต้เร็วปีนขึ้นไปจัดการภายในห้านาทีเลย ปล่อยให้วิ่งไปเรื่อยๆ เป็นอันตรายบนท้องถนน


 ส่วนเคสของไทยผมว่าตำรวจก็ทำเต็มที่แล้ว แต่เจอของหนักเข้าไปเลยเอาไม่อยู่ หลุดไปที่ศูนย์การค้าอย่างที่เห็นนั้นแหละ ตำรวจไทยผมไม่เคยข้องเกี่ยวด้วยนะครับ แต่เขาจะมีกองกำลังติดอาวุธสงครามทุกจังหวัดแบบอเมริกาก็ได้ สมัยก่อนตำรวจไทยยังมีรถถังเลย (พูดเหมือนไม่รู้จักตำรวจไทยเสียแล้ว)  บุกมาถล่มทหารเรือแล้วโดนยิงสวนแตกกระเจิง ปัญหาก็คือจะได้รับการอนุมัติหรือเปล่าเท่านั้นเอง ใช่ไหม???


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 19 ก.พ. 20, 19:35
ผมพูดถึงกรณีศึกษาบ้างดีกว่า ไม่อยากตำหนิใครหรอกโดยเฉพาะทหาร เพราะบล็อกส่วนตัวผมบ่นแล้วบ่นอีกมาหลายปีแล้ว


ในกรณีที่เรามีตำรวจติดอาวุธสงครามพร้อมอุปกรณ์ตรวจจับทุกจังหวัด มันจะเป็นดาบสองคมอย่างชัดเจน ถ้าตำรวจหรือใครก็ตามเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีแผนหรือกำลังหนุน (ต้องมาเร็วๆ ตามชื่อไงคนอื่นยังไม่ทัน) แล้วจัดการคนร้ายสำเร็จ เขาคนนั้นก็แค่รอดตัวไปเท่านั้นเอง แต่ถ้าเหตุการณ์พลิกผันตำรวจพลาดท่าให้แก่คนร้ายมีปืนพกต๊อกต๋อย จะกลายเป็นว่าตำรวจมอบอาวุธสงครามให้คนร้าย และสถานการณ์จะเลวร้ายหนักกว่าเดิม นอกเสียจากเราจะชนะการดวลปืนทุกครั้งซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย


นอกจากนี้ตำรวจหน่วยนี้จะมีภัยเงียบมาเยือนถึงบ้านพัก อาจโดนคนร้ายตามสะกดรอยเพื่อชิงปืนเหมือนสามจังหวัดภาคใต้ ถ้าปืนเบิกง่ายก็โดนแย่งชิงได้ง่าย ถ้าปืนเบิกยากก็ตอบโต้คนร้ายได้ช้า เห็นไหมครับว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ปืนมันไม่เลือกนายยิงโดนใครก็ตายลูกเดียว เพราะฉะนั้นไม่ง่ายเลยในการจัดการ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน


อย่างปัจจุบันเขามีหน่วยเฉพาะกิจเดินทางมาจัดการ อาจล่าช้าไปบ้างก็จริงโดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องอันตรายจากการโดนชิงปืนก็จะมีน้อยลง ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ว่าประเทศเรารุนแรงขนาดต้องมีหน่วยที่ว่าทุกจังหวัดหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่ายังไม่จำเป็น แค่ทหารจัดการเรื่องตัวเองให้เรียบร้อยก็พอแล้ว อนาคตค่อยว่ากันอีกที


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 19 ก.พ. 20, 20:39
ทีนี้ผมจะย้อนกลับมาที่หน่วย LAPD ที่คุณ samun007 ภาคภูมิใจบ้างนะครับ หน่วยงานนี้มีกรณีปืนหายจำนวนมาก ทั้งปืนกล MP-5 รวมทั้งปืนเล็กยาว AR-15 ในเคสอื่นไม่ใช่ในข่าวนี้  ใช่ครับ...นี่คือหน่วยสวาทสำหรับโต้ตอบคนร้ายอย่างรวดเร็ว


https://woldcnews.com/947232/21-machine-guns-stolen-from-lapd-swat-team/


LOS ANGELES-21 MP-5 submachine guns and  12 .45 caliber handguns were stolen from a building used to store equipment for the LAPD SWAT Team.

Police are not sure if the theft was an inside job and are currently investigating the matter.

Investigators Claim LAPD Cover Up In Notorious B.I.G. Murder


Dozens Of L.A. Anti-Gang Officers Quit Over Anti-Corruption Laws

The Los Angeles Times reports

เห็นไหมครับ ไม่ใช่แค่ตั้งหน่วยติดอาวุธสงครามขึ้นมาแล้วก็จบ
 ไม่ง่ายเลยเรื่องการบริการอาวุธสงคราม ทำดีแค่เสมอตัว...ทำพลาดคือตราบาปตลอดชีวิต



เพราะฉะนั้น...ถ้าจำเป็นจะต้องถอดนกปืนก็คือถอดนกปืน ไม่สำคัญเลยว่าวิธีการนี้เก่ามากี่ร้อยปีแล้ว เพราะปืนมันก็มีส่วนประกอบเหมือนๆ เดิมนั่นแหละ นอกจากจะไม่มีนกปืนให้ถอดค่อยหาวิธีใหม่





กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.พ. 20, 09:35
ข้างล่างนี้คือมุมมองของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล   เรื่องเหตุจูงใจในกรณีกราดยิงโคราช
ไม่รับรองว่าความคิดของคุณสนธิถูกต้องทั้งหมด    แต่ทำลิ้งค์ให้เข้าไปอ่านเพื่อจะได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของเรื่องนี้ค่ะ

https://mgronline.com/politics/detail/9630000015027


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 20 ก.พ. 20, 11:50
๑. เรื่องถอดนกปืนที่ผมอ้างถึงนั้น  มีมูลเหตุมาจากเหตุการณ์กบฏเจ้าสามกรมครับ  ถ้าตามประวัติศาสตร์ในยุคนี้จะทราบทันทีว่ามีพลวัตที่สูงมาก

กลับกัน  เราลองย้อนกลับไปดูไม่ว่าจะช่วงสมัยรอยต่อรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชกับพระเพทราชา  ก็ไม่มีบันทึกเรื่องการถอดนกปืนนี้  เพราะฉะนั้นก็ไม่แน่ใจว่าทำไม

มองอีกมุม  อาจเพราะคุมกำลังได้หมดแล้วก็เป็นไปได้นั่นเอง


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 20 ก.พ. 20, 11:57
๒. คงต้องถามกลับไปว่า  ทำไมทหารอเมริกาถึงไม่เอาอาวุธสงครามมาไล่ยิงคนนอกค่ายบ้าง?  เพราะเรื่องการยิงกันเองในค่ายนั้นเป็นเรื่องปกติ  มีบ่อย  สูญเสียไปไม่น้อย

ครั้นจะบอกว่า  ทหารอเมริกาไม่มีปัญหาทางจิตเลยก็เป็นไปไม่ได้  เพราะยิงกันตายขนาดนั้น  มันน่าสนใจว่าทำไมเขาถึงไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้?


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 20 ก.พ. 20, 12:06
๓. เรื่องเอารถหุ้มเกราะมาขับ  คำถามคือ
 
  ๓.๑ วัตถุประสงค์ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร?  เพราะถ้าเราทราบวัตถุประสงค์  เราก็จะรู้อัตราการจัดกำลัง  แลอาวุธที่จะใช้ประจำการ
  ๓.๒  ถ้าไม่ใช้หน่วยทหารด้วยกันหยุดรถ  ลำพังอาวุธหน่วยปฏิบัติการพิเศษจะมีอะไรหยุดรถจำพวกนี้ได้หรือครับ?

  .50 cal? Rpg? หรือ Man pad ต่าง ๆ กระนั้นหรือ?

ซึ่งถ้าเข้าไปดูที่เว็บไซด์ของเขาเราจะเห็นได้ชัดว่าของหนักที่สุดที่มีประจำหน่วยคือเครื่องยิงลูกระเบิดขนาดเดียวกับ  m79  ถามว่ามันทำอะไรรถหุ้มเกราะได้กระนั้นหรือ?

เพราะฉะนั้น  ผมถึงไม่พูดในประเด็นว่าคนอเมริกันครอบครองปืนได้  เพราะรัฐธรรมนูญเขาเปิดทางไว้  แถมกฏหมายบางรัฐยังให้ครอบครองอาวุธสงครามจำพวกรถถังเก่าก็มี  ผมมองว่ามันไม่ใช่เงื่อนไขมี่เหมือนกับของไทยเรา  ก็ไม่สมควรเอามาพิจารณาแต่อย่างใดครับ


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 20 ก.พ. 20, 12:18
๔. เรื่องหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจบ้านเรา  
๔.๑ เอาจริงนอกจากกำลังกึ่งหน่วยรบอย่าง  นเรศวร ๒๖๑  หน่วยที่เหลือก็เป็นระดับเดียวกับ  Lapd หรือ nypd เท่านั้นครับ จะหนุมาน จะอรินทราช  หรือจะของ ภ.๑ เพราะฉะนั้นหน่วยพวกนี้ถูกจัดตั้งเพื่อมาต่อต้านก่อการร้ายเน้นในเมือง  ไม่ใช่หน่วยรบอย่าง เรนเจอร์ seal udt ดังนัน  ถ้ายกตัวอย่างสามจังหวัดใต้  ผมคิดว่าไม่น่าจะตรงกันแต่อย่างใด  เพราะนั่นคือในสงครามแม้จะเป็นจรยุทธ์ก็ตาม

๔.๒ กรณีของหน่วยพิเศษของ ภ.๑(ตำรวจภูธรภาคหนึ่ง)  ก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการจัดตั้งหน่วยพิเศษประจำภูมิภาค  ที่สามารถปฏิบัติการได้ทันที  โดยไม่ต้องรอกำลังจากส่วนกลาง  และก็ทำให้เห็นได้ว่าสามารถจัดตั้งเองได้  ถ้าจะทำกันจริง  ๆ
เรามี  บก.ภ. อยู่  ๙ ภาค  ตัดภาค  ๙  ในเขตสามจังหวัดใต้ออกไป  อีก  ๗  บก.ภ.นอกเหนือจาก  ภ.๑  ก็ยังสามารถมีชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อจัดการกับสถานะการณ์แบบนี้ได้  ย่อมดีกว่ารอแต่กำลังจากส่วนกลางครับ



กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 20 ก.พ. 20, 12:31
http://policenews.co.th/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B9%8C/detail/5434y203

ชุดปฏิบัติการปราบไพรีอริศัตรูพ่าย  ของ บก.ภ.๑


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 20 ก.พ. 20, 12:55
สุดท้ายเรื่อง  lapd ถูกขโมยปืน

https://www.latimes.com/local/la-xpm-2011-oct-29-la-me-swat-20111029-story.html

ตรงนี้เป็นความหละหลวมของเขาครับ  เพราะดันไปเก็บปืนไว้ในสถานที่ฝึก  ไม่ได้เอามาเก็บไว้มี่คลังประจำสถานีตำรวจ  แต่ข่าวไม่ได้บอกว่าเอาไปก่อคดีอะไรหรือเปล่า



หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวแบบนี้อีก  อาจจะหลุดบ่อยแต่ปิดข่าวก็ได้กระมังครับ?




กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 07 มี.ค. 20, 11:10
หนึ่งบทเรียนจากเหตุการณ์นี้

             กราดยิงโคราช : ตั้งสติอย่างไรในภาวะคับขัน บทเรียนจากโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ

จาก https://www.bbc.com/thai/thailand-51763656

ป.ล. ก่อนหน้านี้เคยอ่านเรื่องเล่า,ประมาณว่า เหตุการณ์คนร้ายจี้เด็กเป็นตัวประกันที่เมกา? จิตแพทย์ที่ไปร่วมอยู่ใน
      เหตุการณ์เป็นผู้ตรงเข้าไปรับเด็กหลังจากที่คนร้ายโดนสอย ด้วยท่าที่ปกติธรรมดาและบอกว่า จบการฝึกจำลอง
      เหตุการณ์จี้ตัวประกัน     


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 มี.ค. 20, 11:17
;D

https://youtu.be/2Th-yRHqQ7s


กระทู้: เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 มี.ค. 20, 16:51
โซเชียลฯแห่ยินดี! กองทัพบรรจุ “พี่วินฯ” ฮีโร่ช่วย ตร.บาดเจ็บเหตุกราดยิงโคราช เป็น “นายสิบทหาร”แล้ว

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-ชาวโซเชียลฯแห่ยินดี! กองทัพบกสั่งบรรจุ “พี่วินมอเตอร์ไซค์” เป็น “นายสิบทหาร”แล้ว หลังเป็นฮีโร่เข้าช่วยตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ถูกยิงบาดเจ็บในเหตุกราดยิงโคราช จุดข้างโรงเรียนบุญวัฒนา จนรอดชีวิตมาได้

วันนี้ (12 มี.ค.) จากกรณีเหตุคนร้ายกราดยิงประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา หรือ เหตุกราดยิงโคราช วันที่ 8 ก.พ. 63 ณ จุดหน้าโรงเรียนบุญวัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ส.ต.ท.กรกต อ่ำพันเงิน ผบ.หมู่ ป. สภ.เมืองนครราชสีมา ถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บ ขณะเข้าไปลำเลียงเด็กออกจากโรงเรียนบุญวัฒนา และนำยางรถยนต์มาปิดทาง ซึ่งหลังจากถูกยิง มีวินมอเตอร์ไซค์ เข้ามาช่วยเหลือจนรอดชีวิตมาได้ ทราบชื่อต่อมา คือ อส.ทพ.พัทธพล พรมอ่อน สังกัด ร้อย.ฉก.ทพ.2212 ที่อยู่ในช่วงลาพักร้อนและใช้เวลาว่างมาขับจักรยานยนต์รับจ้าง ณ วินหน้าทางเข้าโรงเรียนบุญวัฒนา เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว นั้น


ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “ Apichat Tanomchat” ได้โพสต์ภาพ อส.ทพ.พัทธพล พรมอ่อน พร้อมข้อความระบุว่า กองทัพ บรรจุให้เป็น นายสิบ สำหรับพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่เข้าไปช่วยตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ที่โคราช ครับ” นั่นแสดงว่า กองทัพบก ได้สั่งบรรจุ “อส.ทพ.พัทธพล พรมอ่อน” พี่วินมอเตอร์ไซต์ ให้เป็นนายสิบทหาร แล้ว ซึ่งชาวโซเชียลมีเดียได้เข้าไปแสดงความยินดีด้วยเป็นจำนวนมาก

อส.ทพ.พัทธพล พรมอ่อน เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ที่วินจักรยานยนต์รับรับจ้างรับ-ส่งผู้โดยสาร หน้าโรงเรียนบุญวัฒนา เห็นเหตุการณ์คนร้ายกราดยิง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกน ให้ตนและเพื่อนที่ขี่วินให้ช่วยกันนำเด็กนักเรียนออกไป ให้หลบในที่กำบัง จึงได้เข้าไปช่วยเหลือร้องบอกให้เด็กที่กําลังจะเดินออกมาจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน ให้หลบเข้าที่กําบัง ไม่นานตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และเห็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ ถูกยิงล้มลงอยู่ด้านหน้า จึงได้วิ่งเข้าไปพยุง เอาตัวออกมาจากจุดเกิดเหตุ เพราะประเมินว่า หากอยู่ตรงนั้นคนร้ายต้องเข้ามายิงซ้ำแน่

เมื่อเห็นบาดแผลถูกยิงที่ขามีเลือดออกมาก จึงใช้เสื้อของตำรวจมาผูกรัดห้ามเลือดไว้ก่อน ตามหลักปฐมพยาบาลที่เคยได้รับการฝึกอบรมมา จากนั้น ประสานชุดกู้ชีพ เข้าช่วยเหลือ จนคนร้ายขับรถหนีไปจากบริเวณดังกล่าว

https://mgronline.com/local/detail/9630000025052