หาเป็นไรไม่คุณ caeruleus คุณนิลฯ ท่านดำน้ำได้สลวยมาก ฮ่าๆๆๆๆ โคลงนั้นเป็นฉากอวสานของยอดคนท่านไหนครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เปิดหูเปิดตาให้กระผมได้รับทราบกลอน(ขอเรียกรวมๆแล้วกันนะ)ดีๆเยอะขึ้น สังเกตว่าจะมีรสนิยมอยู่ 2 แบบคือ กลอนที่ภาษาสวยงามวิลิศมาหรา และกลอนที่มีความหมายลึกซึ้งแสดงอารมณ์
ผมชอบแบบหลังมากกว่าครับเพราะว่าภาษานับวันก็จะแปรผันไปกลอนโบราณ ใช้คำโบราณ แม้สูงส่งล้ำค่าแต่ยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจเช่นผมเป็นต้น แหะๆๆ
ถ้าเทียบกับกลอนที่กล่าวถึงอารมณ์ความรู้สึกแม้ภาษาจะเรียบง่ายแต่ชนรุ่นหลังสามารถรับรู้ความในใจของกวีโดยง่าย
กิมย้งกล่าวว่าอารมณ์ของมนุษย์เป็นสิ่งร่วมกันของมนุษยชาติบทประพันธ์ที่กล่าวถึงอารมณ์แม้กาลเวลาผ่านไปยังมีคนซาบซึ้งเสมอเช่นอันนี้
เสียเจ้า
๑.เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า ซบหน้าติดดินกินทรายฯ
๒.จะเจ็บจำไปถึงปรโลก ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย อย่าหมายว่าจะให้หัวใจฯ
๓.ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์ ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้ ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณฯ
๔.แม้แต่ธุลีมิอาลัย ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตาฯ
๕.ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอยฯ
อังคาร กัลยาณพงศ์
จากเวปนี้ครับ
http://www.geocities.com/thailiterature/ak1.htm