ภาพนูนต่ำรูปดอกไม้ ๓ ดอกไขว้กันอยู่ในลาย ๓ ห่วง ประดับรอบอาคาร น่าจะมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่
เห็นลวดลายแล้วนึกถึงดอกกระดังงา
แต่ภรรยาเจ้าสัวยมชื่อ "ริ้ว"
ลูกสาว (คนที่แต่งงานกับหลวงจิตรจำนงวาณิช) ชื่อ "แช่ม"
ทั้ง ริ้ว และ แช่ม ไม่ใช่ชื่อดอกไม้เลย
หลวงสาทรราชายุตก์ (ยม) กรมท่าซ้าย เกิดเมื่อ พ.ศ.2400
ภรรยาชื่อริ้ว เป็นบุตรพระยาพิสณฑ์-
สมบัติบริบูรณ์ (เจ้าสัวยิ้ม) และ (ขรัวยาย) ปราง มาจากสกุลสมบัติศิริ (หลวงสาทรฯ เป็นน้องของ
เจ้าจอมมารดาอ่วม และพี่ของเจ้าจอมมารดาเอม ในรัชกาลที่ 5) ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ 1 ชั่ง
ป่วยเป็นอหิวาตกโรคมาตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ร.ศ.114 ได้หาหมอฝรั่งมารักษา อาการหาคลายไม่
จึงเปลี่ยนให้หมอพุดเชลยศักดิ์รักษา อาการทรุดหนักลง รุ่งขึ้นวันที่ 1 พฤษภาคม หลวงสาทรฯ
ถึงแก่กรรม อายุได้ 38 ปี พระราชทานน้ำอาบศพ หีบเชิงชายเป็นเกียรติยศ
พระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (เจ้าสัวยิ้ม) เป็นผู้ขุดคลองภาษีเจริญ และเจ้าของเรือเมล์ไปสิงคโปร์
เมื่อเจ้าสัวยิ้มถึงแก่กรรม นายยมได้สืบต่องานขุดคลอง และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกอมปนีขุดคลองแลคูนามสยาม
และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการจากรัชกาลที่ 5 ในการจัดหาสิ่งของต่างๆ สำหรับใช้ในการก่อสร้าง
พระราชวังบางปะอิน จนเมื่อการก่อสร้างสำเร็จลงแล้ว ก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์และราชทินนามว่า
หลวงสาทรราชายุตต์
กิจการอื่นๆที่เจ้าสัวยมทำต่อจากบิดาคือการเดินเรือ การรับจ้างขนสินค้าจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังเกาะสีชัง
และจากเกาะสีชังไปสิงคโปร์ การค้ากับเมืองจีนโดยสั่งสินค้าจำพวกเครื่องมุก ลายคราม กระดาษฟาง
เข้ามาขาย แต่เจ้าสัวยมถึงแก่กรรมเมื่ออายุเพียง 30 ปีเศษในขณะลูกๆ ยังมีอายุน้อย กิจการทั้งหมด
จึงตกอยู่ภายใต้การดูแลของ นายถมยา หรือ หลวงจิตรจำนงวานิช บุตรเขยที่มาแต่งงานกับ
นางสาวแช่ม
ธิดาคนโตของหลวงสาทร อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1705.