เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 11, 15:24



กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 11, 15:24
อ้างถึง
ประตูศรีสุดาวงศ์ เป็นประตูเข้าออกของฝ่ายในที่มิใช่เจ้านาย และสำหรับออกไปสู่เขตถนนที่อยู่ระหว่างกำแพงชั้นกลางกับชั้นนอก ซึ่งบริเวณนี้ ว่าเป็นที่ชุมนุมของพวกชาววังเวลาออกไป ‘อุโมงค์’ หรือ ‘ศรีสำราญ’   ดังที่ในหนังสือเรื่อง ‘สี่แผ่นดิน’ ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช บรรยายไว้ บรรดาบุรุษส่วนมากข้าราชการหนุ่มๆ มักจะมาคอยเกี้ยวพาราศีหรือดูตัวหญิงชาววังกันที่นี่

สงสัยครับ

อุโมงค์ตามที่ว่า ผมได้ยินอยู่ แต่ไม่ทราบตำแหน่งว่าอยู่ที่ไหน แต่น่าจะใกล้แม่น้ำเพราะมีน้ำขึ้นน้ำลงมาชำระไอ้ที่ว่าออกไป ผมอยากตามไปดูร่องรอย

อันนี้ก็สงสัย

พวกเจ้าชู้ประตูดินหากมาคอยเกี้ยวพาราศีผู้หญิงตอนที่เขาออกมาปลดทุกข์กัน จะได้เรื่องหรือครับ ยังทักทายไม่ทันเสร็จ สาวเจ้าคงวิ่งจู๊ดไปแล้ว พวกมาแอบดูตัว คงเห็นตัวที่มีใบหน้าเหยเก เหงื่อผุดพราวหน้าผาก


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 11, 15:26
อุโมงค์ เป็นสิ่งก่อสร้างภายในรั้วพระบรมมหาราชวัง เป็นอาคารชั้นเดียว ก่ออิฐถือปูนหนาทึบคล้ายสถาปัตยกรรมโรมันค่อนข้างแข็งแรงเป็นพิเศษ มีหลังคาเป็นรูปจั่วปูนปั้นเป็นแท่งขึ้นไป เหมือนมีแต่กำแพงตั้งไปขึ้นรับ ตัวอาคารตั้งหันหลังแนบชิดอยู่กับแนวกำแพงพระราชฐานชั้นกลางด้านทิศตะวันตก ค่อนข้างยาวและกว้างใหญ่พอจะรองรับคนได้ มีท่อน้ำสำหรับไขน้ำออกให้ถ่ายเททิ้งตามอุโมงค์พื้นดินรอดออกไปแม่น้ำได้


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 11, 15:28
^
อยู่ หรือเคยอยู่ตรงไหนครับ

มีแผนผังใดระบุบ้างไหม


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 11, 15:36
ทางเข้าอุโมงค์นั้น ไม่มีประตูปิด แต่ทำเป็นช่องโค้ง ๆ ไว้แทนช่องประตู มีความลึกตามส่วนหนาของกำแพงตรงช่องทางเข้า พอที่จะมองไม่เห็นตัวข้างในได้ เพราะมีลับแลอยู่ตรงกลาง

พื้นภายในก่ออิฐถือปูนกระเบื้องหน้าวัว มีที่นั่งถ่ายเป็นเหมือนคอกกั้นด้วยฝาไม้เรียงกันเป็นแถวเฉพาะห้องเล็ก ๆ นั่งได้คนเดียว คอกเหล่านี้มีฝากั้นสองข้างสูงพอมิดศรีษะ จำนวนคอกเหล่านี้ยาวไปจนสุดมุมกำแพงซ้ายขวา

ด้านหน้ามีคอกมีฉากไม้กั้นเป็นบังตากันอุจาดไว้ตลอด เว้นทางเดินเข้าเป็นช่องไว้บ้างเป็นระยะห่าง ๆ สำหรับเดินเข้าออก ภายในด้านบนมีช่องลมกว้างมากตลอดแนวก่อนถึงหลังคา ช่วยให้มีแสงสว่างส่องถึงและถ่ายเทอากาศได้สะดวก


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 11, 15:46
^
อยู่ หรือเคยอยู่ตรงไหนครับ

มีแผนผังใดระบุบ้างไหม

ตรงนี้ระบุว่าเป็นเขตพระราชฐานชั้นกลาง ริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ก็ควรอยู่บริเวณประตูเทวาภิรมย์ - ป้อมมหาโลหะ - ประตูอุดมสุดารักษ์ อันเป็นช่วงต่อท้ายแถวๆ รอยต่อแนวพระที่นั่งดุสิตฯ น่าจะประมาณที่ทำสีแดงไว้ น่าจะประมาณนี้


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 11, 15:53
เพลงยาวหม่อมเป็ดสวรรค์

หม่อมเป็ดสวรรค์เป็นพนักงานที่อยู่ในวัง เป็นพวกนิยมเล่นเพื่อน มิใช่ภรรยาเจ้า แต่ท่าทางเดินเหมือนเป็ดเลยถูกประชดว่า “หม่อมเป็ดสวรรค์” ดังนั้นเวลาปวดหนักคราใดก็ต้องไปที่สีสำราญ จะมานั่งกระโถนเหมือนพวกหม่อมไม่ได้เด็ดขาด บางครั้งชาวพนักงานต้องทนกลั้นไว้นานมากกว่าจะลงจากตำหนัก อีกทั้งไกลอีกด้วย กว่าจะวิ่งไปถึงอุโมงค์ก็เกิดเหตุขายหน้า จนมีเพลงยาวเกิดขี้น

“ครั้นปวดท้องเต็มทนจนสิ้นอาย
ลุกจะไปถ่ายให้ถึงที่
ด้วยเหลือทนพ้นกระสันพันทวี
ก็รายเรี่ยเสียทีมาตามทาง
ก็ซื้อขนมให้ตาเฒ่าเฝ้าตำหนัก
ให้ตักน้ำชำระสะสาง
ให้หมดสิ้นกลิ่นอายระคายคาง
ช่วยอำพรางเสียให้มิดช่วยปิดบัง”


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 11, 15:54

อยู่นอกกำแพงพระบรมมหาราชวังชั้นนอกหรือครับ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 11, 16:04
อยู่ในรั้วกำแพงพระบรมมหาราชวังครับ แต่ที่ทำขีดสีแดงเป็นเพียงแนวระดับเดียวกัน เพื่อไม่ให้สีแดงไปบดบังลายเส้นของแผนที่ครับผม


ซึ่งเคยอ่านเจอว่า บริเวณนั้นตรงกับท่าราชวรดิฐ อันเป็นบริเวณที่มีการต่อท่อประปาชักน้ำเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง หากเทียบกับอุโมงค์ ก็คงไม่ห่างไกลกันมาก


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 01 ก.ย. 11, 18:31
จากหนังสือ "วังหลวง" ของนางอมรดุณารักษ์ (อุทุมพร สุนทรเวช) ท่านกล่าวถึง "อุโมงค์" ไว้ว่า

"... ลักษณะอุโมงค์นี้เป็นอาคารชั้นเดียวก่ออิฐถือปูนแบบโบราณ หนาทึบคล้ายๆ สถาปัตยกรรมสมัยโรมันที่ค่อนข้างแข็งแรงเป็นพิเศษ หลังคาเป็นรูปจั่วปูนปั้นเป็นแท่งตรงๆ ขึ้นไปรับตัวอาคาร
ตั้งหันหลังแนบชิดอยู่กับแนวกำแพงพระราชฐานชั้นกลางด้านทิศตะวันตก ทางใกล้ๆ กับประตูศรีสุดาวงศ์ ค่อนข้างจะยาวและกว้างใหญ่พอที่จะรับรองผู้ต้องการมาใช้สถานทีเปลื้องทุกข์ได้พร้อมๆ กันคราวละหลายๆ คน
มีท่อสำหรับไขน้ำเข้าออกให้ถ่ายเทสิ่งโสโครกลงไปตามท่ออุโมงค์ใต้พื้นดินลอดไปออกแม่น้ำได้ตลอดเวลา

ที่ตรงทางเข้าอุโมงค์นั้นไม่มีทางปิดเปิด แต่เขาทำเป็นช่องโค้งๆ ไว้แทนช่องประตู มีความลึกตามส่วนหนาของกำแพงตรงช่องทางเข้าพอที่จะมองไม่เห็นถึงข้างในเพราะมีลับแลบังอยู่ตรงกลาง พื้นภายในก่ออิฐถือปูนปูกระเบื้องหน้าวัว มีที่นั่งถ่ายเป็นเหมือนคอก กั้นด้วยฝาไม้ เรียงกันเป็นแถวเฉพาะห้องเล็กๆ นั่งได้คนเดียว

คอกเหล่านี้มีฝากั้นสองข้างสูงพอมิดศีรษะดังกล่าวมาแล้วโดยตลอด จำนวนคอกส้วมเหล่านี้ยาวไปจนสุดมุมกำแพงทั้งซ้ายขวา ด้านหน้าคอกมีฉากไม้กั้นเป้นบังตากันอุจาดไว้ตลอด เว้นทางเดินเข้าเป็นช่องไว้บ้างเป็นระยะๆ ห่างๆ สำหรับเดินเข้าออก

ภายในอุโมงค์นี้เบื้องบนมีช่องลมกว้างมากตลอดแนวก่อนถึงหลังคา ช่วยให้มีแสงสว่างส่องถึงและถ่ายเทอากาศได้สะดวกไม่เกิดกลิ่นเหม็นจัด..."

แต่ท่านไม่ได้กล่าวถึงเส้นทางท่อน้ำสะอาดที่เข้ามาใช้ในอุโมงค์


อ้าว!  ข้อความไปซ้ำกับของคุณพี่ siamese


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ก.ย. 11, 21:08
จากหนังสือ สี่แผ่นดินกับเรื่องจริงในราชสำนักสยาม ของคุณศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย ได้กล่าวถึงอุโมงค์ไว้ด้วยค่ะว่า เป็นที่ถ่ายทุกข์ของข้าราชสำนักฝ่ายใน อยู่บริเวณริมกำแพงพระราชวังด้านใต้ใกล้กับประตูศรีสุดาวงศ์ (ไม่ได้อยู่นอกกำแพงพระบรมมหาราชวังค่ะ)
 
อุโมงค์ที่ช้อยพาพลอยไปนั้นเป็นที่ถ่ายทุกข์แห่งใหม่ซึ่งสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๕)  ส่วนอุโมงค์ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ซึ่งรื้อทิ้งไปแล้วนั้น ปลูกลงแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อออกจากประตูวัง  จะมีทางเดินเป็นกำแพงก่ออิฐถือปูนทึบไม่มีหน้าต่างพุ่งยาวออกจากประตูวังไปโผล่แม่น้ำเจ้าพระยา  รูปร่างอุโมงค์หรือเรือนถ่ายสมัยนั้นมีลักษณะเป็นเรือนไม้หลังใหญ่กั้นเป็นคอกๆ นั่งถ่ายได้ครั้งละหลายคน

แต่ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างอุโมงค์ขึ้นใหม่ใกล้กับประตูศรีสุดาวงศ์เพื่อความเหมาะสม (ไม่ต้องออกไปถึงแม่น้ำ)  โดยอุโมงค์ที่สร้างสมัยนี้จะมีถังตั้งไว้ข้างล่างตลอดแถวสำหรับรับอุจจาระ และจะมีผู้นำไปเทภายหลัง
 

ขอยกบทความหนึ่งของคุณจุลลดา ภักดีภูมินทร์ในสกุลไทย ฉบับที่ ๒๔๗๗  ปีที่ ๔๘ ประจำวันอังคาร ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๕ (http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stcolumnid=1329&stissueid=2477&stcolcatid=2&stauthorid=13) ที่ได้กล่าวถึง “อุโมงค์ หรือ ศรีสำราญ” ไว้ดังนี้

“ศรีสำราญ” ปรากฏหลักฐานในพระราชพงศาวดารภาคที่ ๑๓ เรื่องตำนานวังหน้า เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“ลานพระราชวังบวรฯ ด้านใต้กับด้านตะวันตก กระชั้นชิดกำแพงวังชั้นนอก ด้านใต้มีแต่ทางเดิน ด้านตะวันตกก็เห็นจะเป็นเรือนพวกขอเฝ้าชาววัง ทำนองอย่างข้างพระราชวังหลวง มีสิ่งซึ่งควรกล่าวอยู่ข้างด้านตะวันตก แต่ ๒ อย่าง คือ ท่อน้ำอย่าง ๑ ศรีสำราญอย่าง ๑ ท่อน้ำนั้นก็คือประปาในชั้นแรกสร้างพระราชวังบวรฯ ถึงพระราชวังหลวงก็เหมือนกัน ขุดเป็นเหมืองให้น้ำไหลเข้าไปได้แต่แม่น้ำ ตอนปากเหมืองข้างนอกก่อเป็นท่อกรุตารางเหล็ก ข้างบนถมดิน แต่ข้างในวังเปิดเป็นเหมืองน้ำมีเขื่อนสองข้าง ตักน้ำใช้ได้ตามต้องการ
ศรีสำราญนั้น คือเว็จของผู้หญิงชาววัง ปลูกเว็จไว้ที่ริมแม่น้ำ แล้วทำทางเดินเป็นอุโมงค์ คือก่อผนังทั้งสองข้างมีหลังคาคลุมแต่ประตูวังไปจนแล้วที่ถนนข้างนอกวังตรงผ่านอุโมงค์ก็ทำสะพานข้าม ผู้หญิงชาววังลงไปศรีสำราญได้แต่เช้าจนค่ำ เหมือนกับเดินในวังไม่มีผู้ชายมาปะปน”

   เมื่อแรกเข้าใจว่า ‘ศรีสำราญ’ นี้ เป็นคำใช้กันเฉพาะชาววังหน้า เพราะไม่เคยพบในเรื่องของวังหลวง  ในเรื่อง ‘สี่แผ่นดิน’ ของอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ก็ได้ทราบแต่ว่าชาววังหลวงเรียกสถานที่ว่า ‘อุโมงค์’ เพราะสภาพเป็นอุโมงค์อย่างเดียวกับในวังหน้า
   เพิ่งอ่านพบในหนังสือ ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาค ๑๗ เรื่องหมายรับสั่งบางเรื่องในรัชกาลที่ ๑ และที่ ๒
   ในหมายรับสั่งเรื่องงานศพเจ้าศรีฟ้าในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ (พระโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ สมเด็จพระพี่นางเธอพระองค์น้อยในรัชกาลที่ ๑) พ.ศ.๒๓๕๘ ที่วัดสระเกศมีว่า
    “ด้วยพระยารักษมณเฑียร รับพระราชโองการใส่เกล้าฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสั่งว่า...ฯลฯ...
   เมรุสามสร้างพลับพลา ฉนวน แลที่สรง ที่ลงบังคน ที่ศรีสำราญ และโรงข้างในแต่งสำรับคาวหวานนั้น รื้อเสียบ้าง ยังบ้าง ชำรุดหักพังไปบ้าง ให้สี่ตำรวจ สนมตำรวจ รับเลขต่อพันพุฒ พันเทพราช ด้านละ ๑๕ คน ๓ ด้าน ๔๕ คน เบิกไม้ไผ่ จากหวาย กระแชง ต่อชาวพระคลังราชการ แลยืมผ้าขาวต่อพระคลังวิเศษทำขึ้นให้เหมือนอย่างเก่า อย่าให้ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้เป็นอันขาดทีเดียว จงเร่งทำให้แล้วทันกำหนดมานี้เป็นการเร็ว”
   แสดงว่า ‘อุโมงค์’ ของชาววังหลวงนั้น จริงๆ แล้วก็เรียกว่า ‘ศรีสำราญ’ เช่นกัน

ความหมายของคำว่า "ศรีสำราญ" ค่ะ

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ ทรงเล่าไว้ในเรื่อง ‘สาส์นสมเด็จ’
ทรงอธิบายคำว่า ‘ศรีสำราญ’ ไว้ว่า
“คำศรีสำราญ นั้น ได้ทราบความหมายแล้วเป็นคำเขมร เขียนเช่นนี้ ‘สรีสำราล’
สรี แปลว่าผู้หญิง คือคอรัปชั่นมาจากคำว่า ‘สตรี’
สำราล แปลว่าทำให้เบา(ทุกข์) เป็นพวกเดียวกับคำที่ว่า ส่งทุกข์”


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3531.0;attach=14807;image)

 ;D


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 11, 21:21
ขอบคุณทุกท่านครับ เข้าใจขึ้นแยะ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 11, 21:32
อ่านข้อความของคุณเพ็ญชมพูที่ยกจากคุณปีแอร์ คุณดีดี เห็นว่า อุโมงค์ของวังหน้าจะพิเศษกว่า ทำเป็นทางยื่นไปแม่น้ำ ทำฉนวนสะพาน มีสิ่งบังไว้ไม่ให้สตรีชาววังได้ต้องตาชาย แต่สำหรับวังหลวงจะตั้งภายในรั้วกำแพงวัง

แผนที่วังหน้า ริมด้านตะวันตก จุดสีแดงคือ ประตูอุโมงค์


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 11, 09:26
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็คงต้องมีบริเวณสีสำราญเช่นกัน กระมังครับ  :o


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 02 ก.ย. 11, 09:55
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็คงต้องมีบริเวณสีสำราญเช่นกัน กระมังครับ  :o

จาก "อธิบายแผนที่พระนครศรีอยุธยากับคำวินิจฉัยของพระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์)"

"ประตูช่องกุดท้ายวัดศรีสารเพช ๑ มาถึงป้อมปืนมุมสระแก้ว ๑ ประตูบวรเจษฎานารี ภรรยาขุนนางเข้าถือน้ำวัดสารเพช ๑ มาถึงป้อมปืนสวนองุ่น
มุมท้ายสระ ๑ มาถึงประตูไขน้ำออกจากท้องสระในวัง ชื่อประตูชลชาติทวารสาคร ๑ ประตูมหาโภคราช ขุนนางเข้าเฝ้าเสด็จออกพระที่นั่งทรงปืน
ท้ายสระ ๑ ประตูอุดมคงคาระหัดน้ำเข้าท้องสระ ๑ ประตูจันทวารมณาพิรมย์อยู่ข้างสีสำราญ* สำหรับยกศพข้างในออก ป้อมปืนปากท่ออยู่มุม
กำแพงพระราชวัง สุดด้านประจิม"

*ส้วมสำหรับพวกชาววัง น่าจะอยู่ริมแม่น้ำนอกกำแพงด้านเหนือ แต่เหตุใดจึงเอาเข้าไว้ในคลองท่อ
น้ำที่ไขเข้าไปในสระบรรยงก์รัตนาสน์น่าจะปฏิกูลพออยู่


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 11, 10:01
ขอบพระคุณมาก หนุ่ม Art47 ผู้เลี้ยง Vast ปักษา น่าจะมีแผนที่ประกอบก็ดีไม่น้อยนะครับผม  ;)


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 11, 15:27
จาก "อธิบายแผนที่พระนครศรีอยุธยากับคำวินิจฉัยของพระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์)"

เชิญชวนเข้ามาอ่านหนังสือเล่มนี้ที่นี่

http://ebook.lib.cmu.ac.th/full/inter/rare/2496/rare0458_2496.htm


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 11, 15:35
จาก "อธิบายแผนที่พระนครศรีอยุธยากับคำวินิจฉัยของพระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์)"

"ประตูช่องกุดท้ายวัดศรีสารเพช ๑ มาถึงป้อมปืนมุมสระแก้ว ๑ ประตูบวรเจษฎานารี ภรรยาขุนนางเข้าถือน้ำวัดสารเพช ๑ มาถึงป้อมปืนสวนองุ่น
มุมท้ายสระ ๑ มาถึงประตูไขน้ำออกจากท้องสระในวัง ชื่อประตูชลชาติทวารสาคร ๑ ประตูมหาโภคราช ขุนนางเข้าเฝ้าเสด็จออกพระที่นั่งทรงปืน
ท้ายสระ ๑ ประตูอุดมคงคาระหัดน้ำเข้าท้องสระ ๑ ประตูจันทวารมณาพิรมย์อยู่ข้างสีสำราญ* สำหรับยกศพข้างในออก ป้อมปืนปากท่ออยู่มุม
กำแพงพระราชวัง สุดด้านประจิม"


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 11, 15:39
*ส้วมสำหรับพวกชาววัง น่าจะอยู่ริมแม่น้ำนอกกำแพงด้านเหนือ แต่เหตุใดจึงเอาเข้าไว้ในคลองท่อ
น้ำที่ไขเข้าไปในสระบรรยงก์รัตนาสน์น่าจะปฏิกูลพออยู่


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 11, 16:00
ประตูด้านทิศเหนือ ประตูไหนเอ่ย คุณเพ็ญชมพู  ???


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 11, 16:16
คำตอบเห็นจะอยู่ในหนังสือหน้า ๒๔ เช่นกัน

สมัยอยุธยาก็มี "ประตูดิน"

 ;D


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 11, 10:09
บริเวณอุโมงค์ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีการขายของเท่าไร แต่ระหว่างทางย่อมต้องมีแผงขายอุปกรณ์ไม้เช็ดก้น เรียกว่า "ไม้แก้งก้น" (แก้ง แปลว่า ทำให้สะอาดหมดจด) ลักษณะแก้งก้นเป็นไม้ซีกขนาดเล็กๆ จักหรือเหลากล่อมเกลาจนกลมมนไม่มีเสี้ยน เอาเชือกผูกรวมกันไว้เป็นกำ กำละ ๕ อัน ราคากำละโสฬส ก่อนเข้าอุโมงค์ก็จะซื้อไม้แก้งก้นไปคนละกำ บางคนที่ไม่ซื้อไม้แก้งก้น ก็จะหาใบไม้ กิ่งไม้ หรือกาบมะพร้าว ติดมือเข้าไปด้วย   ;)

ในส่วนของเจ้านายนั้นมีหลักฐานเกี่ยวกับการใช้กระดาษชำระ ดังที่หมอสมิธได้บันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่าเมื่อครั้งไปเฝ้าพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวงจันทร์ พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่วังหน้าว่า

"---วันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินสำรวจไปรอบๆ ห้อง ข้าพเจ้าได้เปิดลิ้นชักๆ หนึ่งออกดู และพบว่ามีกระดาษหนังสือพิมพ์ฉีกเป็นชิ้นๆ ขนาดเท่าๆ กันวางอยู่ ข้าพเจ้าจึงทูลถามว่า "มันคืออะไรขอรับ" พระองค์จันทร์ได้ตรัสตอบพร้อมกับทรงพระสรวลเสียงดังว่า "มันคือกระดาษชำระ" หลังจากที่ข้าพเจ้าอธิบายให้ฟังว่า กระดาษชำระมีลักษณะเช่นไรแล้ว พระองค์จันทร์ทรงให้ความสนพระทัยและตรัสว่า "นำมาให้ฉันสิ แล้วฉันจะให้เครื่องปั้นดินเผาท่านอีกชิ้นหนึ่ง" ในการเข้าเฝ้าครั้งต่อมา ข้าพเจ้าจึงได้นำกระดาษชำระ ๖ ม้วนใหญ่มาถวาย---"


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 11, 10:10
สีสำราญแห่งวังพญไท

ส้วมของข้าหลวงวังพญาไทก็ยังมีลักษณะคล้ายอุโมงค์ในพระบรมมหาราชวัง คือ

"---ภายหลังฝ่ายข้าหลวงต้องใช้ห้องส้วมซึ่งอยู่ข้างหลังเรือนข้าหลวงสองชั้น ไม่ห่างจากห้องเครื่องนัก ส้วมของคุณข้าหลวงและพนักงานมีลักษณะคล้ายอุโมงค์ในวังหลวง มีไม้เจาะรูใหญ่เป็นแถวยาว ๕ รู สำหรับใช้บริการสุขาได้ทีละ ๕ คน นั่งยองๆ เปิดชายกระเบนแต่ยังมีส่วนหนึ่งของผ้านุ่งปิดก้นไว้ เห็นแต่หน้ากันจนเป็นของธรรมดา แล้วคุยกันอย่างสนุกสนานระหว่างปลดทุกข์---"


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 11, 11:24
อาคารนี้ในวงกลมสีขาว น่าสนใจดีนะครับ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 03 ก.ย. 11, 12:08
ได้ภาพ ไม้แก้งก้น จากมิวเซียมสยาม ในนิทรรศการ "สืบ จาก ส้วม" ค่ะ  ;D


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 03 ก.ย. 11, 12:18
อีกรูปแบบของส้วม ... ;D


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 03 ก.ย. 11, 12:23
ภาพจากนิทรรศการเดียวกัน สืบ จาก ส้วม พอให้เห็นภาพส้วมสมัยโบราณได้บ้าง..ง


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: atsk ที่ 05 ก.ย. 11, 15:05
แก้ง   เป็นภาษาอีสานครับ

แก้งก้น  คือ เช็ดก้น  เป็นคำที่พูดกันเป็นปกติสมัยผมเด็กๆที่ยังไม่มีส้วม ต้องไปถ่ายทุกข์ตามชายป่าแถวหมู่บ้าน   

การแก้งก้น   ของคนอีสาน  จะใช้ไม้   หรือ ใบไม้  หรือ หญ้าแห้ง หรือ อะไรก็ใช้ได้และเรียกเหมือนกันว่า แก้งก้น

แต่พอมีส้วมซึม คำว่าแก้งก้น  ก็ค่อยๆหายไปจากคนแถวบ้านผม เปลี่ยนเป็น ล้างก้น   เมื่อปีที่แล้วผมกลับบ้าน เห็นหลานไปนั่งถ่ายอยู่ข้างโคนต้นมะม่วง จึงถามว่า " บักหล่าแก้งก้นแล้วบ้อ"   หลานชายทำหน้างง ไม่รู้จักคำว่าแก้งก้น  กลับเข้าใจว่า จะมีคนมาแกล้งจับก้น   


สมัยเด็กๆ จะมีเพลงแปลง สัปดี้สัปดนว่า


"  องค์ใดพระสัมพุทธ  สุวิสุทธสันดาน     ก็แปลงไปเป็น     องค์ใดพระสัมพุทธ    ขี้บ่สุดเอาไม้แก้งลัด

   องค์ใดประกอบด้วย   พระกรุณาดังสาคร  ก็แปลงไปเป็น     องค์ใดประกอบด้วย    ขี้ใส่ถ้วยเอาข้าวจ้ำกิน "


อาจจะมีคำไม่สุภาพไปบ้าง   แต่เป็นเรื่องจริงที่อยากเล่าให้ฟังครับ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 ก.ย. 11, 15:09
ขอบคุณครับ คุณ atsk ว่าแต่การแก้งก้น นั้นท่านใช้ไม้ใผ่เหลาหรือเปล่า แล้วหากไม่ใช้แล้ว ใช้ใบไม้ หญ้า นั้นมันสะอาดโดยไม่ต้องใช้น้ำชำระอีกครั้งหรือ  ???


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: atsk ที่ 05 ก.ย. 11, 15:36
เรื่องความสะอาดนั้น  พูดกันตรงๆมันก็คงไม่สะอาดเท่าการใช้น้ำชำระหรอกครับ 

แต่อาศัยว่า ในป่ากิ่งไม้แห้งเยอะ ใบไม้เยอะ  ใช้ได้จนพอใจ ว่าสะอาดพอ  ซึ่งต้องใช้การแก้งแล้วเอาไม้มาดู ว่ามีติดอีกไหม๊  ถ้ามีติดอยู่อีกก็แก้งต่อ ถ้าไม่มีก็เสร็จเท่านั้น (เห็นภาพพจน์มากไปไหมครับ   :-X)

ส่วนการจะชำระให้สะอาดเอี่ยมอ่องนั้น  ต้องอาศัยตอนอาบน้ำครับ จะเป็นการอาบน้ำคลอง หนองน้ำ ว่ากันไป โดดลงน้ำ ก็ขัดถูกันไป ตรงไหนซอกไหน    ;D ;D ;D


พูดไปก็อายนะเนี่ย   ละเอียดเชียว  อิอิอิ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 11, 15:29
ติดตามอ่านด้วยความเพลิดเพลิน
ชาวบ้านทั่วไปเวลาจะปลดทุกข์.   เขาไปทุ่ง.  ถ้าหากว่าพอมีฐานะก็ปลูกเว็จเอาไว้ห่างจากเรือน.   เป็นส้วมหลุม.  ตอนพระไวยไปจี้ตัวนางวันทอง. ให้มาอยู่กับขุนแผน. ก็ไปแก้ตัวกับพระพันวษาว่าไปรับแม่ตอนแม่ลงจากเรือนจะไปเว็จตอนดึก.   แสดงว่าเรือนขุนช้างที่แสนจะหรูหราสมเป็นมหาเศรษฐี ไม่มีห้องส้วม. และสงสัยว่ากระโถนก็คงไม่มี
คนธรรมดามีส้วมบนเรือนไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อขุนช้างทูลฟ้องว่าขุนแผนเป็นกบฏ ข้อหาหนึ่งคือบังอาจทำส้วมไว้ใช้ในที่พัก 

เมื่ออ่านสี่แผ่นดิน. วันแรกที่พลอยเข้าวัง กินข้าวเสร็จแม่หนูเกิดปวดท้องขึ้นมา.  ท่านผู้เขียนบรรยายว่าเมื่ออยู่บ้านริมคลองบางหลวง เธอนั่งกระโถนเป็นประจำ มีบ่าวคือนางพิศเอาไปเทให้
พอมาอยู่ในวัง. ปวดท้องที.  ต้องไปอุโมงค์. แปลว่าตำหนักเสด็จไม่มีกระโถนให้นางข้าหลวงหรือไร  ???


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 11, 15:57
จากข้างบนนี้. แสดงว่าตามบ้านประชาชน ใช้กระโถนกันได้ไม่มีใครห้าม.   แต่พอเข้าวัง ปวดท้องทีไร.  พลอยต้องไปอุโมงค์.    ข้อนี้ดิฉันก็ยังรู้สึกว่ามันทูลักทุเลชอบกล. เพราะตอนกลางคืนใครจะนอนรวดเดียวได้จนเช้าโดยไม่ต้องขับถ่ายแม้แต่หนเดียว.   สาวชาววังมีออกมากมายในเขตพระราชฐานชั้นใน. มิต้องถือโคมเดินเข้าอุโมงค์ไม่ขาดสายทั้งคืนหรือ
ลักษณะของอุโมงค์ตามที่บรรยาย ทำให้นึกถึงส้วมแบบเก่าในเมืองจีน ที่เคยไปเห็นมา.    ข้างล่างเขาเป็นรางแล่นตลอดตั้งแต่หัวยันท้ายอาคาร. กั้นเป็นคูหา. ถึงเวลาก็เปิดน้ำไล่สิ่งปฏิกูลในรางให้ไหลออกไปเสียทีหนึ่ง
ส่วนส้วมชนิดเปลี่ยนเป็นถังรองรับอยู่ข้างล่าง.   เพื่อขนไปเททิ้ง.   จำได้ว่าเป็นของบริษัทออนเหว็งที่รับขนไปทำเป็นปุ๋ยรดผัก.  แต่ล้มเลิกกิจการไป
เพราะคนไทยกินเผ็ด. ผักตายหมด.  เคยอ่านมาอย่างนี้ค่ะ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 ก.ย. 11, 16:22
ห้องโน้นเขาลงเพลงยาวประตูพัง ห้องนี้ขอประตูหลังพังกับเขาบ้าง


"เพลงยาวตอนสนมแต่งเพลงยาว" จากเรื่องมณีพิไชย

สารประสงค์จงจิตสนิทสนอง
มาถึงน้องหนูหุ่นพึ่งรุ่นสาว
ได้พบกันวันอังคารบ้านตะนาว
เมื่อหน้าหนาวเดือนยี่ปีมะเมีย
ฉันทักถามเลยกลับหลังเข้าวังเสีย
พี่อุตส่าห์หาสายคุณนายเปีย
สินบนเสียไปเป็นชั่งยังไม่พบ
เมื่อวันน้องออกมาเทกระทงคูถ
ดูหน้าบูดเหมือนคุณเผือกเอาเกือกตบ
พี่ถามว่าข่าวแก้วตาเพราะปรารภ
ควรฤๅหลบเข้าฉนวนทำด่วนเดิน


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 ก.ย. 11, 16:28
ฝ่ายหญิงร้องแก้ว่า

"สารสนองของหนูหุ่นรุ่นจำเริญ
เป็นคนเชิญพระกระทงลงตีนท่า
ได้ฟังคำร่ำรสพจนา
ปวดท้องตดปลดผ้าไม่ใครทัน
จะคบพวกสนมไม่สมหน้า
เหมือนกะลาทั้งขนเข้าปนขัน
ถึงเทกระทงก็เป็นวงศ์ของเทวัญ
เชื้ออสัญแดหวาราคาแพง"


ส.พลายน้อย ให้รายละเอียดว่า เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมกระทงเจิมไว้ถวายในหลวงวันละ ๓ ใบ เมื่อทรงพระบังคลแล้วเจ้าพนักงานก็จะอัญเชิญไปลอยน้ำ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่ากระทำเช่นนี้เป็นที่อุจาดนัก จึงโปรดเกล้าให้ยกเลิกเสีย


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 11, 17:59
ในกระทู้เก่า. เคยลงรูปโถส้วมเคลื่อนที่. เป็นผลิตภัณฑ์จากอังกฤษที่น่าจะสั่งเข้ามาใช้ในวัง.  เคยเห็นตัวอย่างจัดแสดงในอุทยานร.2 เสียดายไม่สะดวกที่จะค้นหาให้ในตอนนี้
เรื่องกระโถนก็เช่นกัน.  ในรัชกาลที่ 5 คงมีกระโถนแบบฝรั่งที่เรียกว่า chamber pot. แปลตามตัวเลยว่ากระโถนในห้องนอน เข้ามาในสยามแล้ว
ตอนเด็กๆ. ทันเห็นว่าเป็นกระโถนเคลือบสีขาวมีฝาปิด.ใบเตี้ยๆ  และมีหูข้างหนึ่ง.  คนละอย่างกับกระโถนบ้วนน้ำหมาก. กระโถนปากแตร กระโถนท้องพระโรงฯลฯ

มีสุขภัณฑ์อีกอย่างเรียกว่า. Bidet. อ่านว่าบิเดต์. ถ้าใช้อินทรเนตรจะเจอ.   เอารูปมาลงไม่ได้เพราะเครื่องมือที่ใช้จิ้มคีย์บอร์ดอยู่ตอนนี้ เซฟรูปไม่ได้ค่ะ
ไม่แน่ใจว่าสั่งเข้ามาขายหรือไม่.   ตามโรงแรมในยุโรปยังใช้กันอยู่.


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: atsk ที่ 09 ก.ย. 11, 18:40
สมัยนี้เป็นกระโถนพลาสติกแล้วครับอาจารย์ 

ของหลานผมสีฟ้าสดสวยแสบตาทีเดียว  มีหูข้างเดียว มีฝาปิด


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 09 ก.ย. 11, 19:19
หารูป royal chamber pot มาประกอบ ให้อาจารย์เทาชมพูค่ะ... ;D
ส่วน Bidet ดูภาพแล้วคล้ายโถส้วมที่ใช้กันในปัจจุบันค่ะ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 09 ก.ย. 11, 19:28
ไปเจอรูป royal potty ค่ะ  ;D
ไทยเราก็น่าจะคิดทำเองได้ ...


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 11, 14:48
รูปข้างบนนี่ละค่ะที่ดิฉันเรียกว่าส้วมเคลื่อนที่.   
คิดว่ามีในวังค่ะ.  ด้านข้างเป็นบานประตูปิดเปิด. ให้เลื่อนกระโถนเข้าออกได้ เพื่อนำออกไปเท. ล้างสะอาดแล้วก็เลื่อนกลับเข้าไปใต้ที่นั่ง
ในยุโรปนิยมใช้้กันตอนเดินทางไกล. ขนาดเล็กกว่านี้เพื่อขนใส่รถม้าไปไดสะดวก

คำถามของท่านนวรัตนทำให้คิดได้ ว่าพวกข้าราชการฝ่ายหน้า. หรือขุนน้ำขุนนางที่เข้าเฝ้าในท้องพระโรงอยู่นานครึ่งค่อนคืน ตั้งแต่รัชกาลที่ 1
เขาไปปลดทุกข์กันที่ไหน.    จะให้อดกลั้นไว้จนกระทั่งออกพ้นวังก็น่าสงสารเต็มที.   คงจะต้องมีสถานที่ไว้ให้ท่าน โดยเฉพาะเจ้าพระยานาหมื่น
หลายๆท่านชราแล้ว. คงอดกลั้นไม่อยู่
ทนายบ่าวที่เชิญเครื่องยศมาด้วย. นอกจากกระโถนบ้วนน้ำหมาก. ยังต้องหอบหิ้วกระโถนใหญ่มาด้วยหรือเปล่า ???


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 ก.ย. 11, 12:25
^
นั่นซิครับ อ.เทาชมพู อย่างน้อยต้องฝึกหัดกลั้นไว้ ฝึกระบบขับถ่ายให้ทำงานอย่างดี

มาดูข้อมูลศรีสำราญสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์กันครับ

จากหมายรับสั่ง เรื่องยกประตูวัง จ.ศ. ๑๑๔๔ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๒ ฤกษ์ยกประตูมีมณฑปพระราชวังทั้ง ๔ ด้าน รวม ๑๗ ประตู

กล่าวให้ขุนนางต่าง ๆ มีธุระยกประตูพระราชวัง คือ ประตูด้านสะกัดด้านใต้ จากตะวันออกมาตะวันตก ประตูที่ ๓ ริมศรีสำราญ หลวงพรหมบริรักษ์ สนมขวาทำ คือ ประตูเทวาภิรมย์

จึงได้หยิบแผนที่ มรว.แน่งน้อย สถาปัตยกรรมพระบรมมหาราชวังประกอบดูว่า "ประตูเทวาภิรมย์" อยู่ด้านท้ายพระบรมมหาราชวัง ตรงกับแนวทางออกเต็งท่อ แสดงว่าเมื่อต้นรัชกาลบริเวณศรีสำราญของสาวชาววังอยู่บริเวณนี้


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 11, 16:23
กระทู้นี้ยังหลอนอยู่ในความจำ     ดังนั้นเมื่อไปเจอของจริงเข้าในพิพิธภัณฑ์ ก็เลยรีบถ่ายรูปมาให้ดูด้วยความดีใจ
นี่คือ toilet สมัยวิคตอเรียน  ของแท้     เชื่อว่าสั่งเข้ามาขายในสยามแน่นอน เพราะรูปร่างขนาดของมันกะทัดรัดแบบหอบหิ้วไปได้สะดวก 
ข้างล่างในหีบนี้เป็นกระโถน    เมื่อจะนำออกไปก็เปิดช่องประตูด้านข้าง  เอาออกไปล้างให้เรียบร้อยก่อนใส่เข้ามาใหม่ เพื่อทำธุระครั้งต่อไป


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 11, 16:25
สุขภัณฑ์ที่ค่อนข้างโอ่อ่าของสมัยปลายศตวรรษที่ 19   ในสยามสมัยรัชกาลที่ 6  น่าจะเข้ามาถึงแล้ว


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.ย. 11, 16:26
^
ผมว่าต้องมีกระโถนสำรอง ดึงของที่ใช้แล้วปิดฝา จัดกระโถนใหม่เสียบเข้าแทนที่  ;D

ภาพเครื่องเรือนสมัยวิคตอเรียนสวยมาก ๆ ครับ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 11, 19:09
ในห้องขายของที่ระลึก  มีของใช้  ออกแบบเป็นรูปสุขภัณฑ์    
เอามาฝากเผื่อจะทำเป็นของจิ๋วค่ะ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 11, 19:14
ของใช้ในตู้  สิ่งนี้เดาว่าเป็นกระปุกหมึก     ส่วนอีกอย่างนั้นคือเชิงเทียน  มีฝาครอบเทียน


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.ย. 11, 19:32
ในห้องขายของที่ระลึก  มีของใช้  ออกแบบเป็นรูปสุขภัณฑ์    
เอามาฝากเผื่อจะทำเป็นของจิ๋วค่ะ

น่ารักจังเลยครับผม เขาทำเป็นรูป cup cake ก็มีน่ารักมากครับ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 11, 21:03
ในห้องน้ำโรงแรมในยุโรป   มีสุขภัณฑ์อยู่อย่างหนึ่ง  เมื่อเห็นครั้งแรก ก็ไปยืนจ้องดูว่ามันคืออะไร    เพราะไม่เคยเห็นในอเมริกา
ทวนความจำ นึกได้ว่าในประเทศไทย  เคยมีติดตั้งอยู่ในโรงเรียนเก่า   เป็นห้องแยกออกไปเป็นพิเศษจากห้องน้ำอื่นๆ  เขาเรียกว่า bidet (ออกเสียงว่า บิเดต์)
มีโจ๊กเล่ากันในหมู่คนไทยว่า   พี่ไทยบ่นว่าทำไมอ่างล้างหน้าในห้องน้ำนี้มันเตี้ยจังวะ   จะล้างหน้าต้องลงนั่งยองๆกับพื้นห้อง

คงรู้แล้วนะคะ  ว่าใช้ทำอะไร



กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.ย. 11, 21:30
^
ที่ทำให้เข้าใจผิดเพิ่มคือ ก๊อกน้ำควรออกแบบเพื่อเน้นสักอย่างน่าจะดี  :-[


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 20 ก.ย. 11, 09:58
ที่ปารีสตามชาโตว์แบบโบราณ ที่เปิดเป็นห้องพัก
ส่วนใหญ่ในห้องนอน จะมีแค่อ่างล้างหน้า กับ เจ้า bidet  นี่แหละค่ะ
อยู่ที่มุมห้อง หรือบางทีก็เป็นห้องเล็กๆ มีประตูกั้นนิดหน่อย
ส่วนห้องอาบน้ำ และโถชักโครก จะอยู่ด้านนอกห้องนอน ต้องเดินออกไปใช้รวมกัน
...เจ้า bidet จึงมีประโยชน์อีกอย่าง ดังภาพที่นำมาประกอบค่ะ... ;D


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 20 ก.ย. 11, 12:49
สมัยที่ผมสอบเอ็นทรานซ์ ตอนนั้นเขาสอบแยกกัน ข้อสอบวิชาศิลปะภาคทฤษฎีเข้าสถาปัตย์จุฬามีข้อหนึ่งให้เลือกตอบว่า Bidet เป็นชื่อของ


ก.   น้ำพุแห่งหนึ่งในกรุงโรม
ข.   ที่สำหรับกดน้ำดื่มในสถานสาธารณะ
ค.    ที่ปัสสาวะของผู้หญิง


เข้าไปแล้วอาจารย์เอามาเบิ้ลนิสิตใหม่ว่า ข้อนี้ไม่มีใครตอบว่าBidetเป็นที่ปัสสาวะของผู้หญิงเลยซักกะคน

แล้วพวกเราก็มีโอกาสได้เห็นได้เจ้าบิเด้จริงๆก็ตอนที่อาจารย์พาไปดูโรงแรมชั้นหนึ่งที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆในสมัยนั้น พอเข้าไปในห้องสวีต เห็นเจ้าที่ว่านี่ติดอยู่ข้างเคียงกับโถส้วมในห้องน้ำ แปลกดีแฮะ เข้าไปมุงกันใหญ่ เพื่อนคนที่อยู่ใกล้ทดลองบิดก๊อกดูแต่แรงไปหน่อย น้ำพุ่งจากฝักบัวเล็กๆที่อยู่ด้านล่างขึ้นสูงถึงเพดาน ก่อนจะโปรยปรายลงมาดังสายน้ำมนต์ นิสิตทั้งชายและหญิงต่างฮือแย่งกันออกจากห้องน้ำ เปืยกปอนไปทั่ว คนโรงแรมหน้าเป็นจวัก อาจารย์ที่พาไปก็หน้าจ๋อยตามระเบียบ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 20 ก.ย. 11, 13:49
^
ส้วมที่จีนเขา วิธีการนั่งจะหันตรงข้ามกับทางยุโรปนะ  ;D ;D ;D ต้องนั่งให้เป็น  ;)


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 11, 15:57
บิเดต์ที่เคยติดตั้งในโรงเรียนตอนเด็กๆนั้น  มีท่อเล็กๆติดอยู่บนพื้นด้านล่างของอ่าง    ถ้าใช้ไม่เป็นเผลอไปเปิดก๊อกเข้า  น้ำจะพุ่งฉีดขึ้นมาจากข้างล่าง  โดนหน้าตาเนื้อตัวเปียกมะล่อกมะแล่ก     
แต่การติดตั้งท่อฉีดน้ำจากด้านล่างมันไม่ถูกสุขลักษณะ  เพราะน้ำสกปรกไหลอยู่ในอ่าง อาจไหลปนลงไปในท่อน้ำฉีดที่สะอาดได้    ในอังกฤษดูเหมือนจะมีกฎหมายห้ามข้อนี้   จึงไม่มีท่อฉีดน้ำอยู่ด้านล่างอ่างอีกค่ะ  แต่มีก๊อกหรือท่อปล่อยน้ำอยู่ตรงขอบอ่างแทน
บิเดต์ในปัจจุบัน  ใช้เหมือนสายฉีดในบ้านเรา    คือไว้ชำระล้างทำความสะอาดสำหรับคนที่อนามัยจัดกว่าแค่กระดาษชำระ     เดิมบิเดต์เป็นของผูกขาดเฉพาะผู้หญิงอย่างเดียว    เดี๋ยวนี้ใช้ได้ทั้งชายหญิง
ส่วนการนั่งนั้นจะนั่งหันหน้าเข้าก๊อก หรือนั่งหันหลังให้ ก็ได้ทั้งนั้น   แล้วแต่ใครจะถนัดแบบไหน

พระนางมารีอังตัวแน็ตต์ใช้บิเดต์เป็นประจำ   ตอนถูกจับไปคุมขังในคุก ก็ทรงนำบิเดต์ประจำพระองค์ไปด้วย

เอารูปบิเดต์แบบเก่ามาให้ดูค่ะ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 11, 15:59
บิเดต์แบบใหม่


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 20 ก.ย. 11, 16:35
พูดถึงบิเด้ต์แล้ว ต้องเล่าถึงอุปกรณ์ชิ้นนี้ด้วย

อันท่ออ่อนพร้อมหัวฉีดนี้ เดิมทีฝรั่งคิดขึ้นมาสำหรับใช้กับอ่างล้างจาน แต่เมื่อขายแยกชิ้นกัน พี่ไทยเห็นเข้าก็ปิ๊ง เอามาลองใช้ในศรีสำราญดู ปรากฏว่าต้องรสนิยมเหลือหลาย เดี๋ยวนี้ห้องน้ำสมัยใหม่จะขาดเจ้าสายชำระนี่ไม่ได้เลย จนผู้ผลิตในประเทศออกแบบขึ้นมาหลากหลายคุณภาพและราคาสำหรับห้องน้ำในเมืองไทยโดยเฉพาะ และไม่ทราบว่าจะได้ระบาดไปยังชาติอื่นถึงไหนกันบ้างแล้ว
 
แต่ฝรั่ง ผมเข้าใจว่ายังช๊อคอยู่ รับไม่ได้พอๆกับกระดาษม้วนที่เขาคิดขึ้นใช้ชำระในห้องส้วม แต่พี่ไทยเอามาใส่กล่องสวยหรูสำหรับเช็ดปากบนโต๊ะอาหาร
เวลาผมไปยุโรปหรืออเมริกาครั้งใด จึงคิดถึงสายชำระมาก ไม่ใช่ว่าห้องน้ำของฝรั่งส่วนใหญ่จะมีบิเด้ต์ใช้กันไปหมดซะที่ไหน


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 20 ก.ย. 11, 16:57
แต่เรื่องศรีสำราญสมัยใหม่นี้ ผมยกให้ญี่ปุ่นเป็นแชมป์ ตั้งแต่เมื่อได้ทดลองใช้ส้วมที่ติดทุกห้องพักในโรงแรมของเขาตั้งแต่สักยี่สิบปีที่แล้ว  เมื่อปฏิบัติการเสร็จ กดปุ่มปั๊บ จะมีท่อยื่นออกมาฉีดน้ำอุ่นชำระให้  พอเราคิดว่าพอแล้ว ก็กดอีกปุ่มหนึ่ง จะมีก้านยื่นมาเป่าลมอุ่นให้จนแห้ง เป็นอันเสร็จพิธี มิต้องใช้กระดาษและอวัยวะส่วนใดช่วยอีกทั้งสิ้น
 
เดี๋ยวนี้โถส้วมและอุปกรณ์ที่ว่าพอที่จะหาซื้อได้ในเมืองไทย ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งเอาไปติดตั้งให้บริการลูกค้าแล้ว (ดูสิ ผมลืมซะแล้วว่าที่ไหน ถ้าผิดไปจากแฟชั่น ไอร์แลนด์ก็ขออภัยด้วย) แต่จุดต่างก็คือ ที่นี่ใช้น้ำเย็น แต่ที่ญี่ปุ่นทุกหนทุกแห่งทั้งส้วมสาธารณะและไม่สาธารณะ เป็นน้ำอุ่นทั้งหมด สุขีศรีสำราญจริงๆ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 11, 17:09
อุปกรณ์สายชำระของไทยนั้นน่าจะเรียกได้ว่ายอดเยี่ยม   
เคยไปเข้าห้องน้ำที่ปีนังและมาเลย์เซียมาแล้ว    ถ้าเป็นโรงแรมสี่ดาวห้าดาวก็พอกล้อมแกล้ม   แต่ตามสถานที่ต่างๆรวมทั้งศูนย์การค้า ล้วนเป็นห้องน้ำสยองขวัญ   ที่เขาใช้สายยางเหมือนชนิดรดน้ำต้นไม้ ตัดท่อนสั้นพอใช้ในห้องน้ำ  ต่อเข้ากับก๊อกน้ำเอาดื้อๆ  แล้วพาดไว้กับถังพลาสติคคร่ำคร่า   ไม่รวมว่าเก่าแก่จนสายขึ้นรา และผุกร่อนอีกต่างหาก
ส่วนในโรงแรมเป็นสายสปริงอ่อนแบบไทย แต่หัวฉีดไม่มี    ลักษณะเหมือนสายสปริงที่ใครถอดหัวออกไปเสียแล้ว   เหลือคอที่คอพับคออ่อนเอาไว้ปล่อยน้ำออกมา  ให้พี่ไทยใช้อย่างทุลักทุเล

โรงแรมดังๆของไทย  รวมทั้งห้างสรรพสินค้าดังๆของไทย  ก็ไม่มีสายศรีสำราญอยู่ในห้องน้ำ   คงกลัวฝรั่งช็อคอย่างท่าน navarat ว่ามังคะ   ทำให้ไม่ชอบ

เคยมีบุญได้ใช้ชักโครกคอมพิวเตอร์ของญี่ปุ่นมาแล้ว      ตรงที่รองนั่งมันเป็นไฟฟ้าทำความอุ่นให้ตอนหย่อนตัวลงนั่งด้วยค่ะ  จำได้ไม่ลืมเพราะไปนั่งในฤดูหนาว     นั่งอุ่นสบายดีท่ามกลางความหนาวเย็นของห้องน้ำ


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ย. 11, 23:13
ไปเจอส้วมโบราณสมัยโรมัน   เลยนำรูปมาให้ชมกันค่ะ
รูปล่างเป็นภาพวาด แสดงให้เห็นว่าสมัยโน้นเขานั่งสนทนาปราศรัยกันอย่างเปิดเผย  ระหว่างทำกิจส่วนตัว     บรรยากาศคล้ายๆอุโมงค์ของสาวชาววัง  แต่ของเรายังกระมิดกระเมี้ยนมีที่กั้นปิดเอาไว้  แค่เห็นหน้าโผล่ขึ้นมา


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ย. 11, 23:25
มาถึงยุคกลางของยุโรป    ถ้าไม่ใช้กระโถน  ห้องส้วมในปราสาทสร้างติดกับผนังด้านนอก  มีท่อระบายของโสโครกปล่อยลงในแม่น้ำหรือคูรอบปราสาท     กลิ่นฉุนของห้องส้วมใช้กันแมลงไม่ให้มากินผ้าได้อย่างดี   จึงนิยมแขวนเสื้อผ้าไว้ในห้องส้วมหรือใกล้ๆห้อง 
:-\


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ย. 11, 23:31
แบบนี้คงเห็นชัดเจนขึ้น นะคะ ว่าปล่อยทิ้งลงมาง่ายๆแบบไหน


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 ก.ย. 11, 09:05
^
เขาปล่อยทิ้งง่ายกันดี  ;D ส้วมแบบลอยฟ้าเสียด้วย  ;)


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 23 ก.ย. 11, 10:02
สังเกตภาพที่อาจารย์เทาชมพูนำมาให้ชม
ฝรั่งที่นั่งทำธุรกันอยู่ถือของสิ่งหนึ่งลักษณะคล้ายช้อน
หรือจะเป็น ไม้แก้งก้น ของพวกฝรั่ง... ???
และตรงกลางห้อง มีคล้ายอ่างน้ำ อยู่สองอ่าง
แต่ไม่เห็นมีภาชนะสำหรับตักน้ำเลยนะคะ เข้าใช้อะไรตักน้ำเอ่ย  ???


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ก.ย. 11, 10:07
อุปกรณ์ที่คุณดีดีว่าคือ ไม้ที่พันปลายด้วยฟองน้ำธรรมชาติที่เรียกว่า spongia (http://www.wondersandmarvels.com/2009/08/what-the-romans-used-for-toilet-paper.html)

มีคนหนึ่งในภาพกำลังใช้งานอยู่

 ;D


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 23 ก.ย. 11, 10:23
แสดงว่าคงเอาฟองน้ำชุบน้ำในอ่าง แล้วพอใช้เสร็จ ก็ล้างเก็บ... ;D
ส่งภาพ medieval toilets มาให้ชมพร้อมวิธีใช้ค่ะ...


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ก.ย. 11, 10:25
หน้าตาของ Spongia (http://en.wikipedia.org/wiki/Spongia)

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/40/Spongia_officinalis_001.JPG/300px-Spongia_officinalis_001.JPG)

ให้ความนุ่มนวลกว่าไม้แก้งก้นของเราเยอะ

 ;D


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 11, 10:52
รูปนี้คือชักโครกอันแรกในโลก  ประดิษฐ์โดยเซอร์จอห์น  ฮาร์ริงตันเมื่อค.ศ. 1596   


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ต.ค. 11, 06:30
เมื่อเย็นวาน อาจารย์ใหญ่(มากกส์)อีกท่านหนึ่งได้ใช้เพื่อนร่วมห้องสมัยนักเรียนของผม ให้โทรมาตามผมไปที่บ้าน เพราะท่านเห็นว่าที่เราเรียกๆกันในกระทู้นึ้ว่าสีสำราญบ้าง ศรีสำราญบ้างนั้น ผิดจากที่มาที่ไป ซึ่งท่านบอกว่าคำนี้มาจาก สรีรสำราญ (อ่านว่า สะ รี ระ สำราญ) แล้วกร่อนมาเป็นสรีร์สำราญ จึงเพี้ยนเป็นสีสำราญและศรีสำราญตามลำดับ

ผมได้ขอถ่ายภาพหลักฐานจากท่านมาด้วย


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 11, 08:37
ท่านอาจารย์ใหญ่มากกส์ ท่านอ่านเรือนไทยด้วยหรือคะ.  หรือว่ามีคนพริ้นท์จากจอไปให้ท่านอ่าน

ขอเล่าเกร็ดจากคำนี้. ว่าในโรงเรียนเก่าของดิฉัน.   เวลาจะลาครูไปห้องน้ำ.   ใช้คำว่า"ขอลาไปสำราญ". 
มันเป็นศัพท์ที่ใช้กันมาแต่ครั้งใดก็ไม่ทราบ. แต่เขาไม่ใช้คำอื่น
ถ้าไปถ่าย ใช้ว่าสำราญหนัก
ถ้ากินน้ำเข้าไปมากๆ.   อั้นไว้ไม่อยู่ ก็จะประสบอาการ"สำราญราด"
เพราะเหตุนี้.   พวกนักเรียนเวลาได้ยินชื่อสถานีตำรวจสำราญราษฎร์เป็นครั้งแรก มักหัวเราะกันกิ๊กกั๊ก
นักเรียนร.ร อื่น เขาก็จะไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเราขำกันนักหนา


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ต.ค. 11, 09:06


อา...เล่มสีแดง  หน้า ๘๐๐  กว่า

ที่จริงถ้าท่านผู้อ่าน  จะกรุณาแนะนำมาทางกระทู้ของคุณหนุ่มโดยตรง

คงยินดีกันมากทีเดียว


       เรื่องโรงพักสำราญราษฎร์ของคุณเทาชมพู   ตลกจังค่ะ

ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๒   ดิฉันได้ยินศัพท์นี้ที่โรงเรียนทางศาสนาคริสต์ที่ถนนประมวญค่ะ



กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ต.ค. 11, 09:09
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ ทรงอธิบายไว้อีกอย่างหนึ่ง

ความหมายของคำว่า "ศรีสำราญ" ค่ะ

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ ทรงเล่าไว้ในเรื่อง ‘สาส์นสมเด็จ’
ทรงอธิบายคำว่า ‘ศรีสำราญ’ ไว้ว่า
“คำศรีสำราญ นั้น ได้ทราบความหมายแล้วเป็นคำเขมร เขียนเช่นนี้ ‘สรีสำราล’
สรี แปลว่าผู้หญิง คือคอรัปชั่นมาจากคำว่า ‘สตรี’
สำราล แปลว่าทำให้เบา(ทุกข์) เป็นพวกเดียวกับคำที่ว่า ส่งทุกข์”


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3531.0;attach=14807;image)


ตามความหมายนี้ "ศรีสำราญ" เป็นคำสำหรับห้องน้ำผู้หญิงโดยเฉพาะ น่าจะเหมาะเจาะกับการนำไปใช้ดี

แต่ถ้าความหมายที่ท่านอาจารย์ใหญ่มากกส์ท่านอธิบายดูจะไม่จำแนกเพศ

อันไหนถูกอันไหนผิด วานไปช่วยคิดพิจารณา

 ;D


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 11, 09:34
พยายามคิดว่า สำราญ(ไม่มีศรี)เมื่อคำนี้ออกมานอกวัง  มาอยู่ในโรงเรียน  จำกัดเพศหรือไม่   แต่ก็บอกไม่ได้เพราะว่าร.ร.ดิฉันเป็นร.ร.หญิงล้วน  ครูก็ผู้หญิงทั้งหมด   ไม่เคยมีครูผู้ชาย
ทางร.ร.เคยรับนักเรียนชายมาเรียนชั้นอนุบาลหรือที่เรียกกันว่าชั้น KG(Kinder Garten) ก็เลิกไปตั้งแต่ก่อนดิฉันเข้าเรียน
เลยไม่รู้ว่าทางร.ร.แบ่งแยกศัพท์นี้ตามเพศหรือเปล่า
และไม่ทราบว่าทางร.ร.ชายที่เป็นคาทอลิคเหมือนกัน   อย่างร.ร.อัสสัมชัญและเซนต์คาเบรียล ใช้คำว่าอะไร

ถ้าศรีสำราญ ใช้เฉพาะกับผู้หญิง    แล้วพวกผู้ชายที่ทำงานในวัง  ในสมัยโน้น  เขาไปที่ไหนกันคะ มีศัพท์เรียกว่าอะไร


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ต.ค. 11, 09:50
อ่านที่เคยมีการคุยกันในเรือนไทย เรื่อง วัฒนธรรมเกี่ยวกับห้องน้ำ (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=493.0) เมื่อ ๑๐ ปีก่อน ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ที่ที่ผู้ชายที่ทำงานในวังเขาไปทำธุระส่วนตัวกันเรียกว่าอะไร  

เวจ ?  ให้แปลกใจเมื่อค้นในพจนานุกรมไม่มีคำว่า เว็จ

เวจ, เวจ [เว็ด, เว็ดจะ] น. ที่ถ่ายอุจจาระ. (ป. วจฺจ).

???


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 11, 10:05
ขอยกที่เคยเล่าไว้เมื่อ ๑๐ ปีก่อน มาอีกที

จำได้ตอนหนึ่งจากพระนิพนธ์ " แม่เล่าให้ฟัง" ในสมเด็จกรมหลวงนราธิวาสฯ
เล่าเรื่องส้วมไว้ด้วย
เมื่อ ๑๐๐ ปีก่อน  ส้วมของประชาชนแยกห่างจากตัวบ้าน  อยู่ริมคลอง   มีไม้กระดานเดินพาดจากประตูไปถึงตัวที่ถ่าย  ถ่ายลงน้ำไปได้เลย  พื้นกระดาน โปร่งอากาศถ่ายเทได้   เป็นส้วมที่สะอาดและไม่มีกลิ่น


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 มี.ค. 22, 10:35
ทางเข้าอุโมงค์นั้น ไม่มีประตูปิด แต่ทำเป็นช่องโค้ง ๆ ไว้แทนช่องประตู มีความลึกตามส่วนหนาของกำแพงตรงช่องทางเข้า พอที่จะมองไม่เห็นตัวข้างในได้ เพราะมีลับแลอยู่ตรงกลาง

พื้นภายในก่ออิฐถือปูนกระเบื้องหน้าวัว มีที่นั่งถ่ายเป็นเหมือนคอกกั้นด้วยฝาไม้เรียงกันเป็นแถวเฉพาะห้องเล็ก ๆ นั่งได้คนเดียว คอกเหล่านี้มีฝากั้นสองข้างสูงพอมิดศรีษะ จำนวนคอกเหล่านี้ยาวไปจนสุดมุมกำแพงซ้ายขวา

ด้านหน้ามีคอกมีฉากไม้กั้นเป็นบังตากันอุจาดไว้ตลอด เว้นทางเดินเข้าเป็นช่องไว้บ้างเป็นระยะห่าง ๆ สำหรับเดินเข้าออก ภายในด้านบนมีช่องลมกว้างมากตลอดแนวก่อนถึงหลังคา ช่วยให้มีแสงสว่างส่องถึงและถ่ายเทอากาศได้สะดวก

ภาพประกอบโดย คุณหนุ่มสยาม (https://www.facebook.com/100003957666315/posts/2385322511609648/?d=n)


กระทู้: อุโมงค์ หรือ สีสำราญ ที่คลายทุกข์ของสาวชาววัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 มี.ค. 22, 10:45
จาก สี่แผ่นดิน