เรือนไทย

เป็นแหนบติดเสื้อรุ่นโบราณ อันซ้ายเป็นแหนบนักฟุตบอลล์ดีเด่นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนอันขวานี่ไม่ทราบ พยายามแกะตัวหนังสือ ก็ยังดูไม่ออก ใครเคยเห็นหรือรู้จักบ้างครับ
เจ้าของแหนบนี้คือ รองอำมาตย์โท ขุนเจริญวรเวชช์ (น.พ.เจริญ สืบแสง) อดีตนักโทษกบฏสันติภาพครับ

(https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc6/226875_203442833026035_100000809593273_466593_805848_n.jpg)

โยนเผือกร้อนให้ท่าน siamese

พอดีอ่านเจอกระทู้ และเป็นของรัก เลยขอตอบนะครับ.. ;D

แหนบอันขวามือ " บริพัตร "

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต

เนื้อเป็นเงิน ลงยาสี ในรูปสงสัยสร้อยจะขาดหายไปครับ :-[

ขอบคุณครับ
ผมเคยคิดว่าเป็น บริพัช แต่มานั่งคิดว่าไม่น่าจะเขียนผิด
แสดงว่า ต กับ ร ลากหางติดกัน ทำให้ผมสับสน

เผือกหายเย็นแล้ว คุณ TK ตอบไปแล้วครับ 8)

.

เกือบจะไปตามที่บ้านโน้นแล้วครับ  ;D

มีเผือกอุ่นๆมาใส่มืออีกชิ้นหนึ่งค่ะ

อีกชิ้นหนึ่ง  ฝากคุณ V_Mee  ช่วยกรุณาอธิบายว่าราชรุจิยาคืออะไรคะ

กำลังจะตอบเรื่องแหนบสายนาฬิกาข้างบน  ก็พอดีท่านอาจารย์ใหญ่ให้การบ้านมาพอดี
ขออนุญาตทายปัญหาข้างบนก่อนนะครับ

แหนบสีเขียวมีเครื่องหมายยศจอมพล  ตอนล่างเป็นไก่กางปีกคล้ายพญาอินทรี  เจ้าของแหนบนี้มีอยู่คนเดียวคือ ท่านจอมพลเจ้าของสัญลักษณ์ตราไก้ที่เกิดวันพุธ  ท่านผู้นั้นคือ จอมพลแปลก  พิบูลสงครามครับ

^

ท่านอาจารย์ใหญ่ให้ข้อสอบภาบาลีมา  เล่นเอาเป๋เลยครับ  ลำพังภาไทยกว่าจะผ่านมาได้ก็กระท่อนกระแท่นเต็มที  ตอนบวชก็ไม่ทันได้เรียนบาลีเสียด้วย  เลยไม่กล้าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน  

เนื่องจากเหรียญราชรุจินี้เป็นเหรียญที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นสำหรับพระราชทานแก้ข้าราชการในพระราชสำนัก และนายทหารรักษาพระองค์และผู้มีความชอบในพระราชสำนัก  ทั้งสำหรับพระราชทานข้าราชการในพระราชสำนักแห่งพระเจ้าแผ่นดินต่างประเทศ  ชั้นมหาดเล็กรับใช้เป็นต้น  ฉะนั้นคำว่า "ราชรุจิยา ทิน์นมิทํ"  จึงน่าจะแปลได้ว่า พระราชาพระราชทานเหรียญนี้ให้เพื่อแสดงความขอบใจหรือทรงพึงพอใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาด้วยดี

เหรียญนี้ในรัชกาลที่ ๕ ใช้ห้อยด้วยแพรแถบสีแดง  อันหมายถึงสีประจำวันพระราชสมภพ  จึงเป็นพระราชประเพณีในรัชกาลต่อๆ มาที่ทรงสร้างเหรียญราชรุจิแล้วโปรดให้ห้อยแพรแถบสีตามวันพระราชสมภพต่อมา  คือ
รัชกาลที่ ๖  แพรแถบสีน้ำเงิน
รัชกาลที่ ๗  แพรแถบสีเขียว
รัชกาลปัจจุบัน  แพรแถบสีเหลืองขอบขาว

ขอบคุณค่ะ เพิ่งทราบความหมายวันนี้เอง
ไหนๆคุณ V_Mee แวะมาแล้ว   ถ้าอธิบายเรื่องแหนบที่คุณหมอ CVT ถามจบแล้ว   ดิฉันมีเหรียญและเสมามาให้พิจารณา เพื่อโปรดอธิบายความหมายเป็นวิทยาทานด้วย
แต่ไม่เร่งนะคะ  เดี๋ยวท่าน V_Mee เจอการบ้านหลายชิ้นจนมึน    จะหายหน้าไปเลย

เสมารัชกาลที่ 6 เหมือนกัน แต่อีก 3 แบบ

เสมาอันนี้ เอามาทายว่าเป็นเสมาอะไร

^
ตราประจำพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ในรัชกาลที่ 6 ตรงกลางรูปนกยูงบน ปรมาภิไทยย่อ "อ"

^
(http://www.myemoticons.com/images/super-smileys/jumbo/everyday/clapping-hands.gif)

รูปต่อไปค่ะ

 พระนามาภิไธยย่อ  สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สว (สว่างวัฒนา)
พระสัญลักษณ์ประจำพระองค์(http://upic.me/i/00/e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b1e0b88de0b8a5e0b8b1e0b881e0b8a9e0b893e0b98c_e0b8aae0b8a7e0b988e0b8b2e0b887e0.jpg)

อันนี้เด็ดสุด คิคิ

เสมาก่อนหน้านั้นเป็นเสมาอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ว.ป.ร.พระมหามงกุฎ  มีความหมายว่า "วชิราวุธ ปรเมนทรมหาราชา"  เสมานี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในช่วงแรกเสด็จเสวยราชย์  ถัดมาเป็นเสมาอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ร.ร.๖  ซึ่งย่อมาจากพระบรมนามาภิไธย "ราม รามาธิบดีที่ ๖"  เสมานี้โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อเฉลิมพระปรมาภิไธยเป็น พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ แล้ว  ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ยังทรงใช้อักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ร. พระมหามงกุฎ  ถึงปี พ.ศ. ๒๔๖๑ จึงทรงเริ่มใช้อักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ร.ร.๖

เสมาทั้งสองแบบนั้นแบ่งเป็น ๕ ชั้น ดังนี้
ชันที่ ๑ ประดับเพชรล้วน
ชั้นที่ ๒ ลงยาราชาวดีขอบประดับเพชร
ชั้นที่ ๓ ลงยาราชาวดี
ชั้นที่ ๔ ทองคำ
ชั้นที่ ๕ เงิน

การพระราชทานสุดแต่พระราชอัทยาศัย  เท่าที่ทราบนอกจากจะพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในพระองค์แล้ว  ยังมีพระราชนิยมพระราชทานเสมานี้พร้อมกับใบพระราชทานนามเด็กที่บิดามารดาขอพระราชทานนาม  ซึ่งจะพระราชทานตามบรรดาศักดิ์ของผู้เป็นบิดา  เช่น บุตรธิดาเจ้าพระยา  พระราชทานเสมาทองคำลงยาราชาวดี  ถ้าเป็นบุตรธิดาข้าราชการชั้นรองลงมาก็พระราชทานในลำดับชั้นลดหลั่นกันลงมา

ถัดมาเสมา อ. นกยูง ในสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายานั้น  ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ พระราชทานชื่อเรียกไว้ว่า "ลดามหาปราสาท"

คุณบัว  ศจิเสวี มหาดเล็กรุ่นจิ๋ว เคยเล่าให้ฟังว่า  วันหนึ่งในระหว่างที่ล้นเกล้าฯ ประทับอยู่ที่พระที่นั่งศรีสุทธนิวาส พร้อมด้วยสมเด็จฯ  มีข้าราชบริพารท่านหนึ่งเชิญตัวอย่างเสมา ลดามหาปราสาทมาทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัย  จึงทรงหาเด็กชายบัวซึ่งเมื่อล้นเกล้าญ สวรรคตเพิ่งจะมีอายุได้ ๘ ปีเข้าเฝ้าฯ  แล้วล้นเกล้าฯ ทรงคล้องเสมาพร้อมสร้อยไปที่คอเด็กชายบัว  แล้วมีรับสั่งถามสมเด็จฯ  เมื่อสมเด็จฯ กราบบังคมทูลว่า เป็นที่พอพระราชหฤทียแล้ว  จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานเสมาพร้อมสร้อยนั้นแก่เด็กชายบัว  จึงนับได้ว่า เด็กชายบัวคือคนแรกที่ได้รับพระราชทานเสมา ลดามหาปราสาท

เสมาเงิน ร พระมหามงกุฎ  ที่พระราชทานเป็นที่ระลึกแก่นายและพลทหารที่อาสาไปในงานพระราชสงคราม ณ ทวีปยุโรป พ.ศ. ๒๔๖๐ (สงครามโลกครั้งที่ ๑)

คุณบางปลาม้า  -   ถูกต้องค่ะ
คุณ V_Mee    -   นึกแล้วว่าต้องเฉลยได้หมด
คุณ Siamese  -   โหดมาก  >:(

ภาพนี้ไม่ได้ถามค่ะ เอามาร่วมด้วยช่วยกันชม  ;D
เป็นหัวเข็มขัดทองเหลือง ของตำรวจ สมัยรัชกาลที่5 ค่ะ

หัวเข็มขัดพลตระเวน  ทำลวดลายสวยงามประณีตมากค่ะ  ขนาดพลตระเวนยังทำสวยขนาดนี้ แล้วตำรวจชั้นสัญญาบัตรจะสวยขนาดไหน

รูปนี้คือเหรียญพระราชนิยมในรัชกาลที่ ๖   แต่ไม่รู้ว่าพระราชทานในโอกาสอะไร

เหรียญทองแดงรูปดอกบัว และเหรียญช้างเมืองไท
เขาบรรยายภาพว่า เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3 สร้างเพียงอย่างละ 500 เหรียญ
เป็นการพยายามทำเหรียญแบนครั้งแรกในสยาม เพื่อที่จะแทนเงินพดด้วง แต่ไม่ได้นำออกใช้ ค่ะ

ตส. เครื่องหมายอะไรคะ

ยังหาความหมายของ ต.ส. ไม่ได้เลย   น่าจะต้องเชิญคุณ V_Mee อีกแล้ว

เหรียญนี้  ใครเคยเห็นบ้างคะ

ป้อนคำถามเพราะยังไม่มีคำตอบ

นี่ก็น่าสนใจครับ
(http://upic.me/i/ei/rambhai2085.jpg)

เหรียญราชนิยมตามความเห็นที่ ๒๔  เป็นเหรียญราชอิสริยาภรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕  สำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบแก่

"ผู้กระทำน่าที่พลเมืองดี  ให้เปนประโยชน์แก่การปกครองท้องที่  หรือแก่เพื่อนมนุษย์  จะเปนผู้มียศบรดดาศักดิ์ชั้นใดๆ  ฤาจะเปนสามัญชนก็ดี  สมควรที่จะได้รับพระมหากรุณาเปนพิเศษส่วนหนึ่ง  แสดงให้ปรากฏซึ่งพระราชนิยมในผู้ที่ประพฤติตนเปนพลเมืองดี  แลมีความกล้าหาญอันบังเกิดแต่ความกรุณาแก่เพื่อนมนุษย์เปนที่ตั้ง"

ในการพระราชทานเหรียญราชนิยมนี้จะมีการประกาศความชอบของผู้ได้รับพระราชทานลงในราชกิจจานุเบกษาด้วย  ดังเช่น รายนักเรียนมหาดเล็กหลวง พลเสือป่าประยงค์  ภมรมนตรี (คู่แฝดของพลโท ประยูร  ภมรมนตรี) กองช่างหลวงรักษาพระองค์  ที่ได้ช่วยพลเสือป่า หลวงปราบพลแสน กองช่างหลวงรักษาพระองค์  ก็มีประกาศความชอบลงในราชกิจจานุเบกษาว่า 



ปัจจุบันเหรียญนี้พ้นสมัยพระราชทานแล้ว  แต่มีเหรียญลูกเสือสรรเสริญมาแทน

เสมา ต ส นั้นน่าจะเป็นของเจ้านายชั้นพระองค์เจ้าหรือผู้มีบรรดาศักดิ์อื่น  เพราะมีอุณาโลมอยู่เบื้องบนอักษรย่อนั้น

ส่วนเหรียญ จ.ป.ร. ถัดลงมานั้น  น่าจะเป็นเหรียญรัตนาภรณ์ จ.ป.ร. เป็นบำเหน็จความชอบในพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ซึ่งใช้ห้อยกับแพรแถบริ้วสีขาวอยู่ตรงกลางมีริ้วแดงขนาดเท่ากันขนาบสองข้าง  เหรียญนี้มี ๕ ชั้น
ชั้นที่ ๑  ประดับเพชรล้วน 
ชั้นที่ ๒  อักษรพระบรมนามาภิไธย จ.ป.ร. ลงยาราชาวดีสีแดง ขอบพวงมาลาประดับเพชร
ชั้นที่ ๓  อักษรพระบรมนามาภิไธย จ.ป.ร. ลงยาราชาวดีสีแดง ขอบพวงมาลาเป็นทองคำ
ชั้นที่ ๔  เป็นทองคำล้วน
ชั้นที่ ๕  เป็นเงินล้วน

เหรียญตามภาพนั้นดูไม่ออกว่าเป็นเงินหรือทองคำ  จึงระบุไม่ได้ว่าเป็นชั้นที่ ๔ หรือ ๕ 

คุณ V_Mee ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม  (http://www.webwork.co.za/image/Clapping%20hands%20Smily.gif)

ต.ส. ยังนึกไม่ออกว่าเป็นพระนามย่อของเจ้านายพระองค์ไหน     ภาพเด็ดของคุณ siamese  ก็ยังทายไม่ได้

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=20595;image)

ของคุณบางปลาม้า ก็ยังนึกไม่ออกว่ารูปเมฆหมายถึงอะไร

(http://upic.me/i/ei/rambhai2085.jpg)

สัญลักษณ์ที่คุณบางปลาม้านำมาลง เป็นจี้ห้อยคอ ลงยาสีขาวเป็นกลุ่มเมฆ ๓ กลุ่ม เบื้องหลังเป็นแสงสุริยฉายส่องเป็นรังสีแผ่ปกคลุมไปทั่ว ซึ่งพ้องกับพระนาม "สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗" ครับ

ทั้งนี้ยังมีตราพระราชสัญลักษณ์อีกรูปแบบหนึ่งเป็นการผสานพระนามทั้งสององค์เข้าด้วยกัน สัญลักษณ์หนึ่งปุยเมฆพร้อมรังสีสาดส่องลงมา พร้อมด้วย ลูกศร ๓ แถวปักตอกตรึงไว้ด้วยกัน ซึ่งคือ "สัญลักษณ์แห่งพระราชวังไกลกังวล" เป็นการผสานพระนามแห่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ประชาธิปกศักดิเดช + รำไพพรรณี เข้าไว้ด้วยกัน

โหดมากๆ ต้องจัดให้อีกสำรับ  8)

สัญลักษณ์นี้ อะไรหรือครับ  ???

รูปแรก  "ร.จ." พระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์  (น.ม.ส.)

รูปหลัง  "ป.ว." พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี

ฝากให้ชมครับ

โบว์หายยย..... รบกวนคุณ V_Mee อธิบาย หรือหาภาพโบว์(พร้อมสี) ให้ด้วยครับ ขอบพระคุณ

มีแต่ของจำลองสำหรับงานราตรีสโมสร..... ของจริง เคยมีพ่อค้านำมาขาย ราคา เหรียญละ 1 ล้านกระมัง .............

เข็มนี้ เคยเห็นภาพในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ มีการนำมาประดับผม .........เก๋ เป็นที่สุด

สุดยอดมากครับ นับถือๆ

คุณ siamese ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว  :)

# 40   งามมาก 

เสมาอันนี้ก็สีสันสวยมากเช่นกัน    คิดว่าคงทายกันได้ว่าเสมาพระนามย่อเจ้านายพระองค์ไหน

เหรียญที่ระลึก สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
"ครบรอบ ๕๐ ปี พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี" (เหรียญหมู) เนื้อเงิน รูปหมูลงยาสีชมพู  พ.ศ.๒๔๕๖

นอกจากเหรียญสัญลักษณ์รูปหมู สีชมพูนี้จะเป็นปีแห่งนักษัตรแห่งปีพระราชสมภพแล้ว ในหนังสือสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กล่าวไว้ว่า ในบริเวณพระราชวังพญาไทยังทรงเลี้ยงหมูอีกด้วยครับ

เหรียญพระนามย่อท่านใดคะ....

^
งานพระเมรุพระองค์เจ้าเพ็ญพัฒน์พงษ์ครับ ;)

ยกเสมาตามมาหน้านี้   ถ้าไม่มีใครตอบ อีก ๒ วันจะมาตอบเองค่ะ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=20743;image)

^ ท่าน siamese ...เยี่ยมค่ะ
พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงษ์ เป็นพระนามเดิมของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม
พระราชโอรสลำดับที่ 38 ในรัชกาลที่ 5 และที่ 2 ในเจ้าจอมมารดามรกฎ
เป็นองค์ต้นราชสกุล เพ็ญพัฒน์  ค่ะ

เหรียญต่อไปล่ะคะ...ท่านใด... ลายเซ็นต์ค่อนข้างชัดค่ะ   ;D

เหรียญต่อไป...ชอบรูปสุนัขมากค่ะ ดูองอาจดี ยืนบนเมฆ ด้านหลังมีแสงอาทิตย์  ;D
เป็นเหรียญที่ระลึก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 นี่เองค่ะ
เป็นรูปสัญญลักษณ์ของอะไรคะ...

เฉลย..อักษรย่อ ตส.นะคะ... ;D
เป็นเหรียญที่ระลึกทองคำลงยา ตราประจำพระเจ้าราชวงศ์เธอพระองค์เจ้าโตสินี พระนามย่อ ตส.
พระเจ้าราชวงศ์เธอพระองค์เจ้าโตสินี (พ.ศ.2394-2458) ชาววังทั่วไปเรียกว่า “พระองค์โตเล็ก” 
ทรงเป็นพระโอรสลำดับที่ 34 ในสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และลำดับที่ 5 ในเจ้าจอมมารดากลีบ
และทรงเป็น องค์ต้นราชสกุล โตษะณีย์

^
มัวแต่หาพระนามย่อเจ้านายวังหลวง  เลยไม่เจอพระนาม ต.ส.ของเจ้านายวังหน้า   :(
ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้านายพระองค์นี้เลยนอกจากพระนาม  ราชสกุลโตษะณีย์ ก็ไม่เคยเจอสมาชิกราชสกุลนี้ค่ะ
ถ้าใครมีข้อมูลจะเล่าให้ฟังก็จะยินดีมาก

สงสัย เพราะลายเซ็นต์ค่อนข้างชัด เละยังไม่มีท่านใดตอบ... ;D

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน

พี่วิกกี้ เล่าว่า...
ราชสกุล โตษะณีย์ มีองค์ต้นราชสกุล คือ พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโตสินี
มีหม่อมเจ้าชาย 6 พระองค์ หม่อมเจ้าหญิง 10 พระองค์
ลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรสกับสามัญชน 2 พระองค์

ส่วน http://www.leelachili.com/ (http://www.leelachili.com/) เป็นเว็ปของน้ำพริกเผากุ้ง ตราลีลา ของ มรว.ไฉน โตษะณีย์ ค่ะ
มีประวัติเล็กน้อย ลองอ่านดูนะคะ

คุณดีดี

เท่าที่ทราบ พระองค์เจ้าโตสินี ไม่ได้ทรงกรมนะครับ

กรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณนั้น คือพระองค์เจ้าจรูญโรจน์เรืองศรี ครับผม
ต้นราชสกุล "จรูญโรจน์"

คุณ takae เยี่ยมไปเลยค่ะ แกะลายเซ็นต์ได้เฉียบค่ะ... ;D

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน หรือ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร (23 มกราคม พ.ศ. 2424 - 14 กันยายน พ.ศ. 2479)
ทรงเป็นพระบิดาแห่งกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย และพระบิดาแห่งการรถไฟไทย
เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาวาด
ทรงเป็นต้นราชสกุล "ฉัตรชัย" มีพระโอรส พระธิดารวม 11 องค์ ค่ะ
ภาพข้างล่าง พี่วิกกี้ บอกว่า เป็นตราประจำราชสกุล ฉัตรชัย ค่ะ

เรียนถามคุณ art47 หรือท่านอื่นๆ ที่ทราบค่ะ
เห็นบางท่านใช้ "ฉัตรไชย" ไม่ทราบว่าเขียนแบบไหนจึงจะถูกคะ...

เหนือตัวอักษร มีพระเกี้ยวด้วย..

ขอเดาครับว่า

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา

ขอบพระคุณคุณ art47 ที่แก้ไขให้ค่ะ  ;D
พี่วิกกี้ ก็คงจะสับสน เพราะใส่ กรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณ ไว้ทั้งที่ พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญโรจน์เรืองศรี และที่ พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโตสินี ค่ะ
ได้เข้าไปแก้ข้อความในความคิดเห็นที่ 55 แล้วค่ะ ผู้มาอ่านจะได้ไม่จำข้อมูลที่ผิดไป

เหรียญที่ระลึกการเสด็จกลับจากยุโรป ครั้งที่ 2

เดาแม่นยำมากค่ะ

อยากทราบว่า เป็น เหร๊ยญเสมาชื่อว่าอะไรครับ

เหรียญที่ระลึก จักรมาลา (เหรียญดื้อ)  ทำไมต้องได้ชื่อว่า เหรียญดื้อ ครับ ใครทราบที่มาช่วยอธิบายด้วยนะครับ

เหรียญที่ระลึก รัชกาลที่ 5 เสมอด้วยรัชกาลที่ 2 ทวีคูณ ร.ศ. 117 ในงานพระราชพิธีทวีธาภิเศก

เหรียญจักรมาลา และเหรียญจักรพรรดิมาลา (เหรียญดื้อ) ลองอ่านดูตามลิ้งนี้นะคะ
http://www.snw.ac.th/courseware/www.nectec.or.th/courseware/royal-coin/chakra_mala.html (http://www.snw.ac.th/courseware/www.nectec.or.th/courseware/royal-coin/chakra_mala.html)
 ;D

สอบถามว่า เป็นเหรียญอะไรครับ

ยกตามมาค่ะ ยังไม่มีท่านใดตอบ...
เหรียญรูปสุนัขด้านหลังมีแสงอาทิตย์  
เป็นเหรียญที่ระลึก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 ค่ะ

เหรียญเสมาอักษรย่อพระนาม "จปร" เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อพระราชทานแก่บรรดาเด็กๆในคราวเสด็จประพาสต้นครับ นอกจากนี้ยังมีการแจกเหรียญดังกล่าวให้กับประชาชนตามวโรกาสสำคัญต่างๆ ผมมีภาพผู้คนรุมล้อมเข้าแย่งรับเหรียญดังกล่าวด้วย แต่ต้องใช้เวลาหาสักหน่อยครับ

เหรียญนี้แจกทั่วไปเป็นเนื้อเงินไม่มีการลงยาแต่อย่างใด แต่ภาพที่นำมามีการลงยา สวยมากเลยครับ

เหรียญในความคิดเห็นที่ 66 ของคุณ werachaisubhong

เป็นเหรียญที่ระลึกเหรียญแรกของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ค่ะ
ที่ระลึก ในคราวเฉลิมพระชนมพรรษา 17 พรรษา อักษรย่อพระนาม ส.พ.ป.ม.จ. สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ และเลข ๕
เนื้อทองแดง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 45 มม.

มีมาถามอีกเหรียญค่ะ  ;D

^
เหรียญทองแดง "จับโป่ยล่อฮั่น" หรือ เหรียญสิบแปดเซียนอรหันต์ สร้างขึ้นในการทรงผนวชสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ  ;)

ท่าน siamese ยอดเยี่ยมอีกแล้วค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย....
เรียนถามต่ออีกนิดค่ะ ภาษาไทยที่เขียนเลียนภาษาจีน เขียนว่าอย่างไรคะ หนูอ่านไม่ชัดค่ะ...

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=20739;image)

มีเข็มทองลงยา ของเจ้าพระยามหิธรมาให้ชม   แต่ไม่ทราบความหมายของสัญลักษณ์ซ้ายขวาที่ท่านเลือกค่ะ

เหรียญ "จับโป๊ยล่อหั่น" มีรูปพระอรหันต์ ๑๘ องค์ ลักษณะของเหรียญจับโป๊ยล่อหั่น มีรูปร่างคล้ายเหรียญอีแปะเงินของจีนโบราณ ถ้าดูที่ด้านหลังเหรียญจะมีอักษรไทยที่เขียนลักษณะเลียนแบบอักษรจีน ถ้าอ่านจากด้านบนลงล่างจะได้ความว่า "การทรงพระผนวช" ที่ด้านขวาจะเป็นอักษรย่อ "ส, พ, บ, ร, อ," ย่อมาจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ด้านซ้ายเป็น ปีร.ศ.๑๑๐ ครับ

ขอบคุณท่าน siamese ค่ะ... ;D

เหรียญนี้มีคำบรรยายสั้นๆว่า เหรียญเบนเฮอร์  พ.ศ. ๒๔๖๓   ไม่รู้ว่าเป็นเหรียญอะไร ทำไมชื่อเป็นฝรั่ง
ตัวอักษรบนเหรียญ อ่านไม่ออกค่ะ   ใครจะช่วยได้บ้าง

^
เหรียญเงินเบนเฮอร์ เป็นเหรียญที่พระราชทานในงานถวายพระราชทานเพลิงพระศพ  สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนนี ครับผม
โดยภาพเหรียญม้าควบสี่ตัว พร้อมด้านหลังอักษรพระนามย่อภาพใต้มงกุฎ และมีฉัตรกระหนาบสองด้าน ม้ากำลังควบบนปุยเมฆ เปรียบเสมือนการส่งเสด็จขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เป็นการออกแบบโดย "สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวติวงศ์" ครับผม  ;)

ที่เรียกว่าเหรียญเบนเฮอร์ คงจะเทียบกับหนังฮอลีวู๊ด ที่ใช้รถม้าควบหลายๆตัว จึงเรียกตามกันครับ

นึกๆ เหมือนกันว่าม้าที่ควบนี้เหมือนฝีพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศฯ  ขอบคุณค่ะ  คำตอบรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
มีเหรียญพระนามย่อมาให้ดูกัน   คงง่ายดายมากสำหรับคุณหนุ่มสยาม  เพราะงั้นห้ามทาย  เชิญให้ใบ้คำได้อย่างเดียว

ได้ครับ  ;D ใบ้เพิ่มเติมว่า อ่านว่า "มน"  ;D

มีดาว ๙ ดวง... ??? ;D ???

ใกล้แล้วค่ะ   ใกล้แล้ว...

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าหญิงมาลินีนพดารา กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา


สัญลักษณ์ในเข็มทองลงยาของเจ้าพระยามหิธรนั้น

1. ด้านบนเป็นรูปมาลาเส้าสะเทิ้น
2. ด้านซ้ายเป็นรูปกระบี่ฝักทองคำจำหลักลาย

สองชิ้นนี้ เป็นเครื่องประกอบอิสริยยศของผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าหรือปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ
ซึ่งเจ้าพระยามหิธรได้รับพระราชทานชั้นปฐมจุลจอมเกล้า

3. ด้านขวาเป็นตราพระนารายณ์ยืน ตราประจำตำแหน่งราชเลขาธิการ ซึ่งเจ้าพระยามหิธรดำรงตำแหน่งในสมัยรัชกาลที่ 6-7

ห่างหายจากวงการไปยังไม่ทันข้ามวัน  กระทู้นี้วิ่งฉิวติดลมเลย

เห็นเสมาอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ว.ป.ร.  รัตนวราภรณ์  และเข็มพระบรมนามาภิไธยประดับเพชรแล้วเป็นบุญตาจริงๆ ครับ

สำหรับเข็มอักษรพระบรมนามาภิไธย ว.ป.ร.พระมหามงกุฎประดับเพชร  ที่แพรแถบชำรุดสูญหายไปนั้น  เคยเห็นหลานสาวพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภท่านประดับมาให้ชมครั้งหนึ่ง  ไม่มีแพรแถบเหมือนกัน  เลยไปเสาะหาได้แพรแถบมหาวชิรมงกุฎส่งให้ท่านไปแล้วครับ 

เสมานี้มีทั้งหมด ๓ ชั้น  ชั้นที่ ๑ ประดับเพชรล้วนสอดแพรแถบมหาวชิรมงกุฎ  ชั้นที่ ๒ ทองคำลงยาราชาวดีสอดแพรแถบช้างเผือก  ชั้นที่ ๓ ทองคำสอดแพรแถบมงกุฎไทย

ถัดมารัตนวราภรณ์ (ฝ่ายหย้า) ใช้ห้อยกับแพรแถบสีเหลืองริ้วดำ

ลองเดากันนะครับ  ภาพนี้เป็นธงประจำตัวนายหมู่เสือป่าท่านหนึ่ง  ลายในภาพมีความหมายถึงชื่อของเจ้าของธง

ภาพ "กลองทัด"  ???

หากจะทายแบบไม่เกรงใจ คงทายว่า ท่านเจ้าของธงเสือป่านี้คือ

พระยาชาติเดชอุดม (หม่อมราชวงศ์โป๊ะ มาลากุล)

(โป๊ะ - เสียงตีกลอง (ทัด หรือตะโพน) ;D)

คุณ Art47 มาถูกทางแล้วครับ  แต่ยังไม่ถูกครับ

คุณ art ตอบเรื่องเหรียญ มน ได้ถูกต้อง  ขอบคุณสำหรับคำอธิบายเครื่องหมายในเข็มทองลงยาของเจ้าพระยามหิธร

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=20739;image)

ข้างล่างนี้เป็นเหรียญในสมัยรัชกาลที่ ๖  อีกเช่นกัน ชื่อว่าเหรียญนารายณ์บันฦๅชัย ปี พ.ศ. ๒๔๖๑    ไม่ทราบรายละเอียด ต้องขอคำอธิบายตามเคยค่ะ

เหรียญจักรพรรดิมาลา หรือเหรียญปรนนิบัติราชการดี พ.ศ. ๒๔๓๗ (ร.ศ.๑๑๒)

ข้อมูลจาก พิพิธภัณฑ์เหรียญที่ระลึกไทย เล่าไว้ว่า
"ในวาระสมโภชศิริราชสมบัติครบ ๒๕ ปี ในร.ศ.๑๑๒ รัชกาลที่ ๕ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างเหรียญจักรพรรดิมาลา ขึ้น
และในวันที่ ๓ มีนาคม ร.ศ.๑๑๔ (วันขึ้นปีใหม่แบบเดิม)ในการพระราชพิธีสมโภชศิริราชสมบัติ เสมอเท่ารัชกาลที่ ๑ ทรงโปรดให้ตราพระราชบัญญัติให้เหรียญจักรพรรดิมาลา เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ปฏิบัติราชการดีทั่วไปไม่ได้มีการแบ่งชนชั้น (ความละเอียด ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๒ หน้า ๔๘๐ ถึง ๔๘๑ )
เริ่มพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา ตั้งแต่วันที่ ๓ มีนาคม ร.ศ.๑๑๔ จนถึงการพระราชทานครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ร.ศ.๑๒๙ เป็นจำนวนครั้งที่ทรงพระราชทาน ๔๙ ครั้ง มีผู้ได้รับพระราชทาน ๒๒๒ ท่าน ....
โดยเหรียญที่ทรงโปรดพระราชทานให้แก่ผู้ใด จะมีชื่อผู้รับพระราชทานจารด้วยลายมือไว้ที่ด้านหลังเหรียญ"

เหรียญนารายณ์บันฦๅชัย  หรือ เหรียญชัย  เป็นเหรียญที่สร้างเป็นที่ระลึกตามมติของชาคิสัมพันธมิตร  เพื่อเป็นที่ระลึกในการชนะสงครามโลกครั้งที่ ๑  โดยมีกำหนดให้ทุกชาติที่ร่วมกันเป็นพันธมิตรจัดสร้างเหรียญที่ระลึกห้องแพรแถบเหมือนกันทุกประเทศ  แต่รูปแบบและรายละเอียดในตัวเหรียญให้แต่ละชาติอกแบบกันเองตามอัทธยาศัย

เหรียญชัยของไทยนี้  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชทานแก่ทหารอาสาและผู้มีส่วนร่วมในงานพระราชสงครามครั้งนั้น

"ลุงหนุ่ม"  คุณเศวต  ธนประดิษฐ์ อดีตที่ปรึกษาสำนักพระราชวังเล่าว่า หม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์  กฤดากร ทรงออกแบบโดยพระบรมราชโองการในรัชกาลที่ ๖ 

โจทย์ยากไปหรืออย่างไรไม่ทราบ  เลยไม่มีท่านผู้ใดมาทายชื่อเจ้าของธงนั้นอีกเลย
ใบ้เพิ่มอีกนิดแล้วกันครับ  กลองนั้นชื่อ "กลองเภรี" ตีแล้วดัง.......
คงจะทายกันถูกแล้วนะครับ

นึกไม่ออก ว่ากลองเภรีตีเป็นเสียงอะไร นอกจาก ตูม

มีเหรียญมาให้ชมกันอีกเหรียญค่ะ   หมายถึงใคร เดาไม่ยาก

เหรียญนี้ก็หน้าตาเป็นจีนเหมือนกัน มีคำบรรยายว่า เหรียญที่ระลึกมหาสมณุตตมาภิเศก (เหรียญมือ) พ.ศ. 2434
ใครจะกรุณาอธิบายให้ฟังได้บ้างคะ

พระลักษมีถือดอกบัว แน่เลย... ;)

เหรียญที่ระลึกมหาสม ณุตตมาภิเศก หรือที่ชาวผู้นิยมพระเครื่องมักเรียกว่า "เหรียญมือ" นั้น สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2434 (ร.ศ.110) เพื่อพระราชทานเป็นรางวัลเครื่องโต๊ะ ในพระราชพิธีฉลองสมณศักดิ์ สมเด็จพระสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2334 ครับ

ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่เจาะรูตรงกลางเป็นสี่เหลี่ยม ด้านหน้าของเหรียญเป็นรูปมือ ทางด้านซ้ายของเหรียญเป็นรูปมือขวาแบมือ ด้านขวาของเหรียญเป็นรูปมือซ้ายแบมือ ด้านละ 4 มือ โดยแสดงท่านิ้วมือต่างๆ กัน ตรงกลางตอนล่างเป็นมือซ้ายแบมือเหยียดนิ้วตรงทั้ง 5 นิ้ว รวมทั้งหมดมี 9 มือ เหนือรูสี่เหลี่ยมเป็นรูปฉัตรตาดขาว 5 ชั้น มีระบาย 2 ชั้น ขอบระบายติดแถบ

ด้านหลังเป็นอักษรไทยประดิษฐ์เลียนแบบตัวอักษรจีน (เหมือนกับอักษรในเหรียญจับโป๊ยล่อหั่น) อ่านจากด้านบนลงล่างความว่า "มหาสมณุตมา" อ่านจากขวามาซ้ายว่า "ภิเศก ร.ศ.110" ขนาดของเหรียญกว้าง 44 มิลลิเมตร ส่วนยาว 55 มิลลิเมตร เนื้อเหรียญเป็นเนื้อทองแดง

สาเหตุที่ชาวผู้นิยมพระเครื่องเรียกว่า "เหรียญมือ" ก็เพราะว่าเหรียญมีรูปมืออยู่หลายมือครับ รูปแบบของเหรียญนั้นทำตามแบบคติของพุทธศาสนามหายานของจีน เข้าใจว่าน่าจะเป็นพระหัตถ์ปางต่างๆ ของพระพุทธเจ้าตามแบบคติมหายาน ซึ่งเป็นปริศนาธรรมครับ และเหรียญนี้ได้เข้าพิธีมหาสมณุตตมาภิเศก ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2434 โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ได้ทรงอธิษฐานจิต
และแต่ละมือแสดงสัญลักษณ์ต่างกัน เช่น ยกนิ้ว 2 นิ้ว 3 นิ้ว เป็นการแสดงอาการด้วยมือและนิ้ว ท่านผู้สร้างแฝงไว้ด้วยธรรมานุสรณ์ สรุปแล้วเป็นการให้พรทั้ง 9 ประการ อย่างเช่น ยกนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว เป็นการให้อำนาจหรือมีความหมายว่าส่งอำนาจ อย่างนี้เป็นต้น...

อย่างไรก็ตาม การให้ปริศนามือในลักษณะนี้ สรุปโดยรวมน่าจะแสดงถึงการให้พร 9 ประการ ซึ่งคงไม่พ้น ลาภ ยศ อำนาจ สรรเสริญ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติ ทั้ง 9 ประการ

กลองเภรีตีแล้วดัง

"โม่ง" "ตูม" ???

ใบ้เพิ่มอีกนิดก็ดีนะคุณวีมี ;D

กลองเภรี  ตีแฃ้วดัง สนั่น ครับ  น่าจะทราบกันแล้วนะครับว่าเป็นท่านผู้ใด

สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา ถูกต้องไหมครับ  ;D

เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี( สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)

เรียนถามคุณวีมี

1. ตอนที่ท่านเจ้าคุณธรรมศักดิ์ (สนั่น) ได้รับพระราชทานธงนายหมู่เสือป่านั้น
ท่านเจ้าคุณเป็นเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี หรือ พระยาธรรมศักดิ์มนตรี หรือ พระยาไพศาลศิลปศาสตร์ ครับผม

2. ธงนายหมู่เสือป่าผืนนี้ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงเขียนเองหรืออย่างไรครับ

ถูกต้องแล้วครัย

1. ตอนที่ท่านเจ้าคุณธรรมศักดิ์ (สนั่น) ได้รับพระราชทานธงนายหมู่เสือป่านั้น
ท่านเจ้าคุณเป็นเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี หรือ พระยาธรรมศักดิ์มนตรี หรือ พระยาไพศาลศิลปศาสตร์ ครับผม

ตอบ  พระยไพศาลศิลปสาตร ครับ


2. ธงนายหมู่เสือป่าผืนนี้ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงเขียนเองหรืออย่างไรครับ
ล้นเกล้าฯ ทรงผูกลายและทรงร่างแบบ  พระราชทานให้กรมช่างมหาดเล็กที่มี พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์  จิตรกร) ไปจัดสร้างเป็นผืนธง 
ตัวอย่างธงนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการกรมช่างมหาดเล็กวาดไว้เป็นตัวอย่างในมุดทะเบียฬธงที่พระราชทานไว้ที่ห้องหนังสือ  สโมสรเสือป่า

โปรดสังเกตว่า  ทรงใช้ห้องหนังสือไม่ใช่ห้องสมุด

ภาพนี้เป็นนาคมานพเชิญพานฉลองพระบาท  เป็นธงประจำตัวท่านผู้ใดครับ?
ใบ้ให้นิด  ท่านที่เป็นนักเลงหนังสือเก่าน่าจะเคยเห็นเป็นตราบนปกหนังสือครับ

มหาเสวกเอก พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์)

ภาพมานพเชิญฉลองพระบาท  ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงผูกเป็นลายในธงที่พระราชทานแก่ พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ  ไกรฤกษ์)  เนื่องจากในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียรเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ นั้น พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ ได้เป็นผู้ถวายฉลองพระบาทเชิงงอน  ส่วนนาม "จิตฺตคุตฺโต"  ตอนล่างของตรานั้นเป็นนามฉายาของท่านเจ้าคุณฯ เมื่อเป็นพระภิกษุ  ท่านเจ้าคุณบุรุษฯ ได้ใช้ตรานี้เป็นตราประจำตัวต่อมา  และบุตรชายคนหนึ่งของท่านเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อท่านเจ้าคุณยังมีชีวิตนั้น  ท่านได้ชักธงประจำตัวของท่านขึ้นไว้บนหลังคาบ้านท่านด้วย  แต่ไม่ทราบว่า ทายาทของท่านจะได้ใช้ตรานี้เป็นตราประจำตระดูลต่อมาหรือไม่

จากข้อเขียนของคุณV_Mee ค่ะ ;D
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3418.0 (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3418.0)

มีเหรียญมาถามค่ะ เครื่องหมายอะไร ใช้ทำอะไรคะ...

อีกเหรียญค่ะ เครื่องหมายอักษรย่อ ท่านใดคะ... ;D

ไม่มีใครตอบเลย .. เฉลยนะคะ... ;D
หนูสงสัยว่า ภาพสุนัขยืนบนเมฆ เกี่ยวข้องอะไรกับ ท่านอรุณ ทัพพะรังสี คะ ???

เหรียยปฏิทิน ทำด้วยอลูมิเนียม น่าจะถูกสร้างขึ้นจากต่างประเทศ

เจอคำตอบของคุณ D D เข้าไปเล่นเอาหงายท้องไปไม่ถูกเลยครับ

อ มาจากอินทวิชยานนท์ คือ พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้านครเชียงใหม่ที่ ๗  ผู้เป็นพระชนกในพระราชชายา เจ้าดารารัศมี

ด คือ ดารารัศมี หรือพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ครับ

เหรียญนี้ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ โปรดให้สร้างพระราชทานพระราชชายาฯ เพื่อประทานเป็นที่ระลึกในการฉลองกู่วัดสวนดอก  เมื่อคราวเสด็จกลับเชียงใหม่ครั้งแรก

เหรียญนี้ลองดูเทียบกับดาราทุติยจุลจอเกล้าวิเศษครับ

สวัสดีครับ ;D

รูปนี้ นำส่ง ท่านหัวหน้าแก๊งค์ลูกน้ำ เอามาทายให้ แก๊งค์ย่อยหินมึนงงครับ ;D



(http://i751.photobucket.com/albums/xx153/takae/DSC01084.jpg)

ตรานี้ไม่งงหรอกครับ คุณ TK  ;) เห็นว่าเป็นรูปหน้าเทวดา พร้อมเปล่งรัศมี แสดงถึง "สุริยเทพส่องแสงสว่างไปทั่ว" พ้องกับ "สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์" ครับ

^
^
ตราผู้สำเร็จราชการของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาสุริยวงศ์

 :-[ขอบคุณครับ... :-[

สวัสดีครับ. ;D

มีมาอีก ๑ ครับ คราวนี้ ผมขอ ถาม ไม่ได้ขอ ทาย ???
เพราะผมก็ไม่ทราบคำตอบเหมือนกัน.. :-[
ขอผู้รู้วานเฉลย.....

ของชิ้นนี้เป็นนาฬิกาพก ตัวเรือนเงิน
ระบุที่เครื่อง เป็นของห้าง J.W. BENSON แห่ง LONDON
ผลิตในราว ค.ศ. 1880 - 1900
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวเรือนนาฬิกา ประมาณ ๒ นิ้ว
ฝาตัวเรือนด้านหลัง มีสลักลงยา

ขอบคุณครับ

^
อ่านจากอักษรที่ฝานาฬิกาว่า "แจ่ม"  ;)

ขอบคุณครับ. ;D

อ่านได้ตรงกัน
อยากทราบเพิ่มเติมว่า ชื่อนี้ น่าจะเป็นผู้ใดครับ? ???

จมื่นอมรดรุณารักษ์ (แจ่ม สุนทรเวช)

^
พระยาสุนทรสงครามรามพิไชย (แจ่ม สุนทรวิภาต)
หลวงแจ่มวิชาสอน (แจ่ม นิยมเหตุ)
หลวงวิพิธพจนการ (แจ่ม สูตะบุตร)
นายพันตรี หลวงประมาณพลนิกร (แจ่ม  เมษมัต)
นายร้อยโทแจ่ม  รายะรุจิ    กรมทหารบกราบที่ ๓
ขุนวิเศษธานี (แจ่ม  พลจันทร) กรมการที่ปฤกษา เมืองราชบุรี

แค่นี้ก่อนค่ะ

 :)

ขอขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบครับ

 :o ???เลยไม่รู้ว่าเป็นท่านใด...  ;D ;D ;D

 ;D ;D ;D


รูปนี้แถม ไม่ทายครับ :-[

สวัสดีครับ.. ;D

สำหรับ คำว่า " แจ่ม " คาดเดาว่าน่าจะค้นหาระบุว่าเป็นผู้ใดยากสักหน่อย
เพราะใช้ตัวอักษรผูกลวดลายแบบตรงๆ
ไม่ได้เป็นตราสัญญลักษณ์เฉพาะตัว
และเป็นชื่อที่สั้น / มีซ้ำกัน

แต่

ก็ยังหวังในใจลึกๆ ว่า อาจจะมีท่านใดพอจะมีข้อมูลชัดเจน
รอคอยต่อไปครับ.........

ระหว่างรอคอย เลยขอฝากถามอีกชื่อนึงครับ แหะ แหะ.. :-[ ;D

ผมเองอ่านได้ว่า   พ ร ม  

พยายามแกะรอยเจ้าของนาฬิกาพกเรือนเงินที่ชื่อแจ่ม

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21114;image)

1    นาฬิกาเรือนเงิน เกลี้ยงๆเรียบๆ  ไม่มีลวดลาย เว้นแต่ชื่อย่อสลักลงไป  ไม่ใช่ของแพงในสมัยปลายรัชกาลที่ 5  ชาวบ้านที่ฐานะมีอันจะกินทั่วไปก็ซื้อได้  
2    ถ้าเป็นขุนนาง  น่าจะอยู่ในตำแหน่งงานไม่สูงนัก    ถ้าเป็นขุนนางชั้นพระยา หรือต่ำลงมาหน่อยเช่นคุณพระ  ถือว่ามีหน้าที่การงานมีหน้ามีตาพอสมควร  จะนิยมใช้นาฬิกาพกเรือนทองมากกว่า   นาฬิกาเรือนทองสมัยนั้นหาซื้อไม่ยาก ขอให้มีสตางค์สัก 120 บาทก็พอ
2   บางทีท่านแจ่มอาจไม่มีราชทินนามก็ได้  จึงจารึกชื่อตัวเอาไว้ แทนชื่อย่อของราชทินนาม   เช่นท่านเป็นครูแจ่ม  หมอแผนโบราณชื่อหมอแจ่ม     หรือเป็นร้อยโทแจ่ม อย่างในรายชื่อที่หามาให้ดู
3   ไม่มีสัญลักษณ์ของตระกูล หรือสัญลักษณ์ของหน่วยงานที่สังกัด   ข้อนี้สอดคล้องกับข้อ 1
4   ลักษณะนาฬิกายังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดี  ไม่บุบบิบบูบี้ หรือชำรุด  สายก็ยังอยู่ครบ    แสดงว่านาฬิกานี้น่าจะอยู่ในความครอบครองของเจ้าของเดียวมานาน    ลูกหลานอาจเก็บรักษาไว้เป็นที่ระลึก   ไม่ทิ้งๆขว้างๆ  จนมาตกอยู่ในมือคุณ TK  
5   สีสันของตัวอักษรย่อ  ดูสวยใส  ไม่รู้ว่าระบายสีขึ้นมาในภาพหรือเปล่าคะ   ตัวอักษรของเดิม แปลว่าสั่งทางร้านที่ขายนาฬิกาทำให้  เป็นบริการตามธรรมเนียมฝรั่งของร้าน ที่รับทำถ้าลูกค้าสั่งให้จารึกชื่อย่อ  
     นาฬิกาพกของฝรั่งนี้ถือเป็นมรดกตกทอดชิ้นสำคัญ ที่ลูกชายคนโตจะได้รับไปจากพ่อ    เขาจะรักษาไว้อย่างดี ไม่ใช่ลานขาดก็ทิ้งไปเลย

นาฬิกาเงินเก่าสวยจัง เลยนั่งลงยาให้ จะได้อ่านง่ายๆ พ - ร - ม

ขอบคุณมากครับ... ;D
มีข้อมูลเพิ่มเติมบ้างดังนี้

ขอบคุณมากครับ  ;D
รอคอยคำตอบนะครับ.. ??? ;D

ดิฉันไปค้นนาฬิกาจากห้างเบนสันที่ลอนดอนมาให้ดู    หน้าปัดนาฬิกาเงินเรือนนี้เป็นแบบนี้หรือเปล่าคะ

ทราบพระนามผู้พระราชทาน

สงสัยแต่นามผู้รับ

สว่างคือใคร

 ???

^
พระราชทานเมื่อ ร.ศ. 124 ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2448 ซึ่งพระองค์ยังคงดำรงพระยศสยามมงกุฎราชกุมาร

 :-[ สว่างคือใคร ?  ??? ยังไม่ทราบเลยครับ ;D

มีข้อมูลล่าสุด บอกให้ลองตรวจสอบชื่อผู้ที่ทำหน้าที่ในเรือเสด็จประพาสต้น

แต่ผมความสามารถน้อยครับเด้อครับ.. :-[

นาฬิกาด้านหลังที่คุณเพ็ญชมพูเอามาลง  คือเรือนเดียวกับของคุณแจ่มหรือ พ.ร.ม.  หรือคนละเรือนคะ

คนละเรือนครับ.. ;D

คนละแบบครับ

เรือน " แจ่ม "  ตัวเรือนเป็นแบบ Hunter คือ มีฝาปิดด้านหน้า แต่มีรูตรงกลาง สามารถมองดูเวลาได้

เพิ่งถ่ายรูปมาชมกันครับ

ปล. ขอบกระจกหายไปนะครับ

 

ด้านหน้าของเรือน "สว่าง"

มีพี่ดา bmw อยู่ด้วยไหมนี้

ภาพนาฬิกที่คุณเพ็ญชมพูนำมาให้ชมนั้น  พอจะคลำทางได้ว่า นับแต่ทรงผนวชในปี พ.ศ. ๒๔๔๗  มีมหาดเล็กข้าหลวงเดิมคนหนึ่งชื่อ นายสว่าง  เทพาคำ  สุดท้ายได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระเสนาพิพิธ

นาฬิกาพกของ "สว่าง" ผลิตจากร้าน S. Tisseman & Co., กรุงเทพ คงเป็นร้านนาฬิกาที่มีคุณภาพในสมัยก่อน

นาฬิกาพก เรือน "สว่าง" นี้คงไม่ได้ผลิตจาก ห้าง เอส ทิสแมน แอนด์ โก เป็นแน่แท้  

ห้างทิสแมนมีหน้าที่สั่งมาขาย

สืบดูจึงทราบว่าเป็น นาฬิกาพกยี่ห้อ Elgin เรือนเงิน รุ่นปี ๑๘๗๒ (http://www.miles-pocketwatches.com/PageEL280.html)

(http://www.miles-pocketwatches.com/EL280face500.jpg)

ผลิตโดย Elgin National Watch Company  (http://en.wikipedia.org/wiki/Elgin_National_Watch_Company) ของอเมริกา

 ;D

^
ด้านหลังนาฬิกา "สว่าง" ปรากฎยี่ห้อ Elgin หรือครับ งามแท้ๆๆ

ฝากภาพร้านนาฬิกาสมัย ร.6 ให้ชม

^
^
หามิได้

ยี่ห้อ Elgin ปรากฏอยู่ใน เว็บนี้ (http://www.lungoldwatch.com/index.php?option=com_content&view=article&id=151:elgin2&catid=59:2010-08-15-07-24-31&Itemid=76)  แต่เป็นเรือนทอง

เป็นของห้างทิสแมน กรุงเทพ เหมือนกัน

 ;D

สืบทราบได้ยังไงคะ   ยังนึกไม่ออกว่าแกะรอยจากไหน

http://www.lungoldwatch.com/index.php?option=com_content&view=article&id=151:elgin2&catid=59:2010-08-15-07-24-31&Itemid=76

 ;D

สวัสดีครับ.. ;D

ขอขอบคุณทุกๆท่าน สำหรับทุกๆคำตอบครับ

ดีใจมากครับที่ได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับเรือน " ให้ สว่าง " เป็นยี่ห้อ Elgin ครับ ผมโพสรูปมาให้ชมแล้วครับ ;D

เรือน " แจ่ม " ได้มาตามสภาพ มีรูปเครื่องดังนี้ครับ

ฝาหลังชั้นใน สลัก ตัวอักษร " เบนซอล ลอนดอน "

ยี่ห้อนี้หรือครับ คุณ TK

ข้อมูลร้านกำเนิดที่อังกฤษ กรุงลอนดอน

J.W Benson Ltd. made clocks and watches and also dealt in jewelery, diamonds, silver, and gold.

The business began as a partnership between Samuel Suckley Benson and James William Benson. From about 1840, they were selling watches under the name SS & JW Benson, Cornhill, London. In 1855 the partnership was dissolved, and from 1855 to 1897 the company traded as J.W. Benson and moved their premises to Ludgate Hill. The firm held royal warrants during the second half of the 19th Century, starting in 1876, for Queen Victoria, the Prince if Wales, the King of Siam, and the King of Denmark.

นาฬิกาพกเรือนทองนี้สำหรับพระราชทานประมุขและผู้นำของประเทศ

ยี่ห้ออะไรเอ่ย

 ;)

ปาเต๊ะ ครับผม.. ;D

ขอขอบคุณ สำหรับข้อมูล จากคุณ siamese มากๆครับ ;D

Benson  =  เบนสัน หรือเบนซัน     ไม่ใช่ เบนซอล (Bensol)  ค่ะ

สันนิษฐานว่า สมัยโน้นคงจะเรียกเพี้ยนครับ :)

รวดเร็วมาก ตอบได้ใน ๔ นาที

 ;D

อีกแบบหนึ่ง

นาฬิกา Patek Philippe ที่คุณเพ็ญชมพูเอารูปมาลง  สวยมากๆ   ยี่ห้อระดับโลก
รูปนี้เป็นของปาเต๊ะฟิลิปเหมือนกัน  เป็นนาฬิกาพกเรือนทองของผู้หญิง  ปี 1890

ชิ้นส่วนจากอดีต... ;D

ผมมันวาสนาน้อยนิดนัก.. :-[ :-[

^
ล้ำค่ามาก....มีนาฬิกาแขวนบ้างไหมเนี่ย..

มีบ้างเพียงเล็กน้อยครับ :-[

กำลังจะเอานาฬิกาพกของพระเจ้าลุดวิกมาโชว์ เลยหลีกเข้าข้างทางก่อนค่ะ

เรือนใน # ๑๕๒ มีประวัติดังนี้

16. Pocket Watch Offered by Rama V, King of Siam
Patek Philippe & Co., Geneva, No. 93 202
Open-face, keyless-winding and push-pin setting pocket watch
Watch manufactured in 1891 / 1897
Rose gold
Inv. P-250
Sold on September 7, 1897, to Chulalongkorn (1853–1910), King of Siam under the name of Rama V
(1868–1910), for the amount of 250 francs.
The case-back is engraved in taille-douce (fine cut), with the royal emblem of the Siam. The cuvette
(dome) is engraved in taille-douce (fine cut) with the mention “Chulalonkorn / Rex Siamensis / to /
John Anderson / Singapore / 10. decr 1897.” (Chulalongkorn, King of Siam, to John Anderson,
Singapore, December 10, 1897).

http://patek.watchprosite.com/show-forumpost/fi-11/pi-3878406/ti-619171/s--1/

อยากทราบว่า John Anderson แห่งสิงคโปร์ คือใคร

 ???

^
พวกนามสกุลแอนเดอสัน Anderson น่าจะเป็นพวกชาวเดนมาร์ค พวกนี้เก่งด้านการเดินเรือ ซึ่งในสยามก็มีปรากฎ นาย ฮันซ์ แอนเดอสัน เข้าทำการเดินเรือ และรับใช้เบื้องพระยุคลบาทในการเดินเรือถวาย และมีร้านแอนเดอสัน แอนด์ โก อีกด้วย

และอีกนัยหนึ่ง ที่มาเลย์
Sir John Anderson 1853-1924,
Under his leadership the firm diversified its interests into agricultural and mining estates in the Malay Peninsula and the surrounding region. Venturing Into the Interior of Malaya With the formation of the Federated Malay States on 1 July 1896, development in the interior of the Malay Peninsula became possible. So in 1896, the firm became one of the first companies to venture into the Malay states. They became agents for five coffee estates in Selangor and two in Negri Sembilan. They also purchased a rubber estate in Perak with Malayan businessman, Loke Yew. In January 1876, John Anderson joined the firm and eventually assumed the position of Governing Director. Anderson was responsible for the firms many planting and mining interests in Malaya and steered the company's policy for the first quarter of the 20th century. He also played a decisive role in the development of the rubber industry in Malaya. John Anderson left Singapore in 1912.

สิ่งนี้คืออะไร ? มีอักษรอะไรบ้าง ? ลงมาให้ขบปัญหาทายกัน

เขาใช้คู่กับขวดนี้   บางทีก็เป็นกล่อง อย่างในรูปที่ ๒
ส่วนตัวอักษร ยังแกะออกมาไม่ถูก  ผ่านให้ท่านอื่นค่ะ

ได้คำตอบแล้ว  เซอร์จอห์น แอนเดอร์สัน เป็นข้าหลวงใหญ่ของอังกฤษประจำสิงคโปร์

ฝ่ายไทยคงต้องการให้เรื่องสร้างทางรถไฟเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว จึงเสนอให้ราห์มันและเกาะลังกาวีแก่อังกฤษ โดยมีเงื่อนไขว่า อังกฤษจะต้องลดดอกเบี้ยเงินกู้ ที่จะกู้สร้างทางรถไฟ จากอัตราร้อยละ ๔ เหลือร้อยละ ๓.๗๕

เมื่อประสบปัญหานี้ ทางฝ่ายรัฐบาลอังกฤษ กลับมีความเห็นแตกแยกออกเป็นสองพวก พวกแรกมีเซอร์ จอห์น แอนเดอร์สัน ข้าหลวงใหญ่ประจำสิงคโปร์ เป็นหัวหน้า พวกนี้เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง กับข้อเสนอของไทย เพราะเห็นว่า อัตราดอกเบี้ย ที่ลดลงร้อยละ ๑ ส่วน ๔ คุ้มค่ากับดินแดนราห์มัน และเกาะลังกาวี ที่อังกฤษจะได้ แต่เพื่อที่จะให้ได้ประโยชน์มากที่สุด แอนเดอร์สัน ขอระแงะ ซึ่งอยู่ติดกับกลันตันเพิ่มขึ้น แต่ฝ่ายนายแพชยิต กลับคัดค้านข้อเสนอนี้อย่างรุนแรง แพชยิตมองไม่เห็นว่า ดินแดนที่ไทยเสนอให้เพิ่มนี้ จะไปเกี่ยวข้องกันอย่างไร กับเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ สร้างทางรถไฟ เพราะเป็นปัญหาคนละประเด็น เขากลับเห็นว่า อังกฤษเสียสละให้ไทยหลายเรื่องแล้ว เช่น เรื่องการที่จะยอมให้คนในบังคับอังกฤษ มาขึ้นศาลไทยแทนศาลกงสุล และการที่อังกฤษ ยอมให้ไทย มีอำนาจสิทธิ์ขาด เหนือเส้นทางรถไฟ ฉะนั้น อังกฤษควรจะได้ราห์มัน และเกาะลังกาวีเพิ่มขึ้นเฉยๆ โดยไม่ต้องเสียอะไรเป็นการตอบแทนดอกเบี้ยเงินกู้สร้างทางรถไฟจะต้องคงไว้ในอัตราร้อยละ ๔ เช่นเดิม แต่ให้ระงับข้อเรียกร้องขอระแงะ เพราะอาจจะทำให้ไทย ไม่พอใจและยุติการเจรจาได้

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=494081

กล้องเป่ายานัตถุ์ ทองคำ
ตัวอักษร ขอเพ่งดูก่อนนะครับ :-[

ขวดใส่ยานัตถุ์เงิน

 :o :oกล่อง๔ เหลี่ยม ของฟาร์บาห์เช่ " พระเจ้าซาร์ นิโคลัส ที่ ๒ " :o งดงามมาก ;D

ที่ระฤก ร.ศ.๑๒๓.....

นาฬิกาพกเรือนทองพร้อมสายห้อย  เชื่อว่าทำขึ้นสำหรับพระเจ้าลุดวิคที่ ๒ แห่งบาวาเรีย  ประมาณ ค.ศ. 1880  ห้างโซเธอร์บี้ที่ลอนดอนนำออกประมูล  ประเมินราคาไว้ระหว่าง $27,000 - $44,000 
แต่พอเอาออกมาจริงๆ มีนักสะสมใจถึง  ประมูลไปในราคา  $198,996.00

^
นาฬิกาสวยมาก พระเจ้าลุควิคที่ ๒ นี้เป็นผู้สร้างปราสาทนอยชวานชไตน์ อันแสนงดงาม บนเชิงเขาแอลป์ เห็นทะเลสาปสีน้ำเงินและหงส์ป่าสีขาว แหวกว่ายอยู่ในบึงฟ้าใส

รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นสำหรับพระราชทานเป็นที่ระลึกในพระบรมราชวโรกาส ทรงราชาภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี ครบ ๑ ปี เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๔๖๖

ชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นสำหรับพระราชทานเป็นที่ระลึก ในวันที่ทรงประกอบพระราชพิธีราชภิเษกสมรสกับคุณเปรื่อง สุจริตกุล ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น "พระสุจริตสุดา" ตำแหน่งพระสนมเอก เมื่อวันที่ ๒๗ ต.ค. ๒๔๖๔

รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นสำหรับพระราชทานเป็นที่ระลึกในพระบรมราชวโรกาส ทรงราชาภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี ครบ ๒ ปี

เข็มกลัดเงินที่ระฤกในงานราชาภิเษก รัชกาลที่ ๖ รศ.๑๓๐

^ ก่อนเข็มกลัดงานราชาภิเษก เป็นตลับสีผึ้ง งานพระบรมศพ ร.ศ. ๑๒๙

เป็นตลับสีผึ้งที่รัชกาลที่ ๖ ท่ทรงสั่งให้ทำขึ้นเพื่อพระราชทานแก่ผู้เข้าถวายพระเพลิงรัชกาลที่5
ซึ่งต้องมีฐานะเป็นภรรยาข้าราชการ ซึ่งได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าหรือ คุณหญิง ท่านผู้หญิง ขึ้นไปถึงชั้น เจ้าฟ้า
จะได้ตลับแบบเหรียญเดียว
และถ้าชั้นยศสูงกว่านี้จะได้ตลับแบบ ๒ เหรียญ

เข็มรูปช้างสามเศียรนั้นมีชื่อว่า "เข็มไอยราพรต"  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่สมาชิกกองเสือป่าเมื่อคราวงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๔๕๔ ครับ

บอกให้เลย ไม่ต้องทาย
เครื่องหมาย W บนกระดุมข้อมือเพชร  คืออักษรย่อพระนามพระเจ้าไกเซอร์ วิลเฮล์มที่ 1 แห่งเยอรมนี

เครื่องหมายอะไรหนอ สิ่งนี้คืออะไร (ใบ้ว่าเป็นของทรงใช้)

มาไม่ทันคุณ siamese   
มีเครื่องหมายมาให้ดูเหมือนกันค่ะ 

เครื่องราชอิสสริยาภรณ์จุลวราภรณ์ช้างเผือกที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่ประมุขต่างประเทศ ใช่ไหมครับ  ;)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลวราภรณ์ช้างเผือก  สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ทำด้วยทองคำลงยาราชาวดี จำหลักเป็นตัวอักษรว่า "วราภรณ์" โปร่งประดับทับทิม มีช้างเผือกผูกเครื่องมั่น ห้อยอยู่เบื้องล่าง ดวงตราห้อนแพรแถบ สำหรับประดับอกเสื้อ
หลักเกณฑ์ของผู้ที่ได้รับ คือ ชั้นมหาอำมาตย์ตรี เทียบยศนายพลตรี หรือนายพลเรือตรี กำหนดพระราชทานตั้งแต่ มงกุฎสยามชั้นที่ 3 มัณฑนาภรณ์ และเลื่อนชั้นขึ้นไปถึงมงกุฎสยามชั้นที่ 2 จุลสุราภรณ์ และช้างเผือกชั้นที่ 2 จุลวราภรณ์ ถ้าสูงกว่านั้นตามแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ

http://www.baanjomyut.com/library/law/25.html

จี้เงิน เก่าใหม่ไม่ทราบผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ

(http://image.ohozaa.com/i/916/dsc04858.jpg)(http://image.ohozaa.com/i/add/dsc04859.jpg)

เหรียญที่คุณ konkao นำมาแสดงไว้ข้างบนมีชื่อเรียกว่า "เหรียญกระดานชนวน"  เป็นเข็มที่ระลึกที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้างพระราชทานแก่ผู้ที่เรียนจบจากโรงเรียนราชวิทยาลัย  เมื่อครั้งที่โรงเรียนราชวิทยาลัยย้ายจากกระทรวงยุติธรรมมาขึ้นสภากรรมการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙  และพระชทานต่อเนื่องมาจนถึงปี ๒๔๖๗  ปี ๒๔๖๘ ยังไม่ทันพระราชทานก็พอดีสวรรคตเสียก่อน

เข็มกระดานชนวนนี้มี ๒ แบบ  คือแบบพระราชทานนักเรียน  ด้านหลังสลักชื่อ  เลขประจำตัว  ลำดับที่ที่ออกจากโรงเรียนใน พ.ศ. ที่จบการศึกษา  อีกแบบพระราชทานครู  จะต่างกับที่พระราชทานนักเรียนตรงที่ด้านหน้าตอนบน  มีคำว่า "คุรุ" ด้านหลังสลักชื่อผู้ที่ได้รับพระราชทาน

เหรียญนี้มีห่วงสำหรับคล้องรังดุมเสื้อเม็ดต้น  ถ้าคอเสื้อประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ก็เลื่อนลงมาประดับรังดุมถัดลงมา

เครื่องหมายนี้ไม่มีภาพมาให้ชม

"เครื่องหมายนนทิมุข"

เป็นเครื่องหมายที่เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๐ ลักษณะเป็นแผ่นโลหะ มีอักษรประดับไว้ แบ่งเป็น ๒ ชั้น

ชั้นที่ ๑ ทำด้วยทองแดงกะไหล่เงิน พร้อมอักษร "อนุญาตให้เข้าพระราชฐานชั้นกลาง"

ชั้นที่ ๒ ทำด้วยทองเหลือง พร้อมอักษร "อนุญาตให้เข้าพระราชฐานชั้นนอก"

ไว้ติดหรือแขวนที่หน้ารถ และมีเลขแทนนามเจ้าของรถกำกับไว้อีกชั้นหนึ่ง

พระราชฐานชั้นกลางในที่นี้หมายถึง ๒ ที่คือ พระบรมมหาราชวัง ที่หนึ่งและที่พระราชวังดุสิต อีกที่หนึ่ง โดยเขตพระราชฐานชั้นกลางที่พระบรมมหาราชวัง จะเข้าได้ในประตูพิมานไชยศรี, ประตูสุวรรณบริบาล และประตูศรีสุนทร

ส่วนพระราชวังดุสิต คือ เข้าได้ในประตูทวยเทพสโมสร, ประตูเทวศักดิ์ภิรมย์, ประตูพรหมโสภิณ, ประตูอินทรโสภณ, ประตูภูวนารถลีลา

ส่วเขตพระราชฐานชั้นนอก สำหรับพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ถึงประตูพิมานไชยศรี และ ประตูพิมานเทเวศร์ ถึงประตูสุวรรณบริบาล และประตูเทวาภิรมย์ ถึงประตูศรีสุนทร

ส่วนเขตพระราชฐานชั้นนอกที่พระราชวังดุสิต ให้รถเข้าทางประตูสำนักวิเวศนพล ถึงประตูเทวศักดิ์ภิรมย์

เข็มกลัดค่ะ เครื่องหมายอะไร ของใคร... ;D

^
เข็มกลัดพระราชทานจากรัชกาลที่ ๕ แด่เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ ลดาวัลย์

พี่ๆเก่งกันทุกคนเลยผมนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นเครื่องหมายอะไรเลย ???

เข็มกลัดพระรูปพระองค์ใด และเนื่องในงานอะไรคะ  ;D

เข็มกลัดพระรูป
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิราภรณ์โสภณฯ
พระราชธิดาในสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
ส่วนในงานใด รอคุณดีดี มาเฉลย

^ คุณกะออม เก่งมากค่ะ ตอบได้รวดเร็วมาก  ;D
มีมาอีก 3 ภาพค่ะ เครื่องหมายอะไร ของใครคะ  ;D

ขอบคุณมากครับพี่  "เหรียญกระดานชนวน" ได้ชื่อที่ถูกต้องแล้วถาม google มีหลายรุ่นด้วยเลยงงไปกันใหญ่ไหนเก่าไหนใหม่

มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มาให้ชมอีกชิ้นค่ะ งามมาก...

ขอร่วมทายภาพดวงตราทั้ง ๓ ที่คุณ D:D: นำมาให้ชมกัน 
เรียงจากบนลงล่าง
ดวงบน  บุษบกตามประทีป  น่าจะหมายถึงเสนาบดีธรรมการ
ดวงกลาง  พระยมทรงสิงห์  น่าจะหมายถึงเสนาบดีนครบาล
ดวงล่าง  ตราพระราชสีห์  น่าจะหมายถึงเสนาบดีมหาดไทย

ขอบพระคุณ คุณV_Mee ที่กรุณาตอบค่ะ  ;D

- ดวงตรามหาสุริยมณฑล
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงค์ ใช้เป็นตราประจำตัวและยึดถือเป็นสัญลักษณ์แทนตัว ทำด้วยทองคำเป็นรูปกลมมีแฉก 7.0 ซ.ม. ลงยาราชาวดี จำหลักเป็นรูปพระอาทิตย์บุษบก ทรงราชรถเทียมราชสีห์ มีฉัตรขนาบช้าง อยู่ในวงกรอบประดับเพชรกลีบบัวประดับเพชรและทับทิม สำหรับประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย

- ดวงตราพระยมทรงสิงห์
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นดวงตราตำแหน่งเสนาบดีกรมเมือง(นครบาล) พระราชทานแก่เจ้าพระยายมราช ทำด้วยทองคำเป็นรูปกลมกลีบบัว 14 กลีบ ขนาด 6.5 ซ.ม. ลงยาราชาวดี จำหลักเป็นรูปพระยมทรงสิงห์ อยูในวงกรอบเพชรระหว่างกลีบบัวฝั่งทับทิม สำหรับประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย

- ดวงตราราชสีห์
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นดวงตราตำแหน่งสมุหนายก พระราชทานแก่เจ้าพระยาภูธราภัย ทำด้วยทองคำเป็นรูปกลมกลีบบัว 6.5 ซ.ม. ลงยาราชาวดี จำหลักเป็นรูปราชสีห์ มีพระจุลมงกุฎบนหลัง ล้อมเพชรกลีบบัวฝังทับทิม สำหรับประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย

คัดลอกจาก "ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์ไทย" ค่ะ  ;D

มีมาให้ชมอีก 2 ภาพค่ะ  ;D
เครื่องหมายอะไร ใช้ในงานอะไรค่ะ....

^ ;D
พัดรองที่ระลึกงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พัดรองที่ระลึกนี้ ทำขึ้นเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีบรมราชภิเษก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายพัดรองแด่สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ พัดรองนี้ชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พัดไอราพต" (ช้างสามเศียร) จัดเป็นพัดรองที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองไทย และเป็นพัดที่มีการตกแต่งด้วยการปักไหมเป็นครั้งแรก โดยสั่งปักมาจากเมืองจีน ทั้งนี้พระองค์มีความเห็นว่าช่างไทยมีความชำนาญ ในการปักดิ้นได้งามกว่าชาติอื่น แต่ไม่ชำนาญในการปักไหมเหมือนชาติจีน ภายหลังจึงมีการหัดปักไหมขึ้นจนมีความชำนาญ ความสยวงามของพัดนี้อยู่ที่ลวดลายในการปัก และการใช้ไหมสีที่ดูเด่นสะดุดตา งดงามสมพระเกียรติยิ่งนัก ปักลายพานแว่นฟ้า ซึ่งประดิษฐานพระจุลมงกุฎ ใต้ลงมาเป็นช้างสามเศียรขนาบด้วยราชสีห์และคชสีห์ รอบขอบพัดปักลายช่อดอกไม้อันอ่อนช้อย ส่วนนมพัดทำด้วยงา สลักเป็นรูปกลีบบัว และแกะลายพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 5 ด้ามพัดทำด้วยงา

^^พัดในงานฉลองพระชันษา ๕ รอบ  ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลินี (เสด็จอธิบดีฝ่ายใน)
เมื่อปี ๒๔๖๗   ภาพ หนู ๕ ตัว หมายถึง  ปีชวดอันเป็นปีประสูติ  ที่เวียนมาครบ  ๕ รอบ
กำลังจะขึ้นรอบที่ ๖  (จะเห็นหัวหนูที่โผล่ขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง) 
ภาพหน้าต่างติดลูกกรงเหล็กดัดมองเห็นท้องฟ้าสว่างเหลืองนวล  สื่อถึงพระนาม  นภาพรประภา
นมพัดมีอักษรพระนาม  นพป ซึ่งมาจากพระนาม  นภาพรประภา  เช่นกัน
ส่วนปี ๒๔๐๗ เป็นปีที่ประสูติ  ส่วนปี ๒๔๐๗ เป็นปีที่จัดงานฉลองพระชันษา ๕ รอบ
ภาพต้นไม้ที่แลเห็นยอดพุ่มอยู่นอกหน้าต่าง  คือ ต้นฝ้าย  หมายถึงนามเจ้าจอมมารดาสำลี ในรัชกาลที่ ๔
ซึ่งเป็นเจ้าจอมมารดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์นั้น

พัดนี้เป็นฝีพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงออกแบบ

มีมาอีก ๒ ภาพ

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/425/2425/images/Naris2.jpg)

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/425/2425/images/Naris4.jpg)

รอคำอธิบายความหมาย

 ;D

^^ ;D

พัดชนมายุสมมงคล  พัดรองสำหรับงานพระราชพิธีพระชนมายุสมมงคล รัชกาลที่ ๕ เสมอด้วยรัชกาลที่ ๒  ภาคสมโภชพระชนมายุและฉลองวัดอรุณราชวราราม  พุทธศักราช ๒๔๕๒

         ผลงานต่าง ๆ  ปรากฏให้ชาวไทยรุ่นหลังได้ชื่นชมในความงดงาม  ความไพเราะ  และเป็นข้อมูลสำคัญทางประวัติศาสตร์ให้ได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้  จวบจนกระทั่งทุกวันนี้  ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์  ทรงอุทิศเวลาให้แก่การสร้างสรรค์ศิลปกรรมด้านต่าง ๆ ไว้มากมาย  ผลงานที่เป็นมรดกอันล้ำค่าที่ได้ทรงสร้างสรรค์อย่างวิจิตรบรรจง  ฝากไว้ตราบจนถึงทุกวันนี้ คือ การออกแบบตาลปัตรหรือพัดรอง  ทรงออกแบบลายพัดรองเพื่อใช้ในโอกาสต่าง ๆ ในงานพระราชพิธี  และพิธี  ทั้งงานมงคลและอวมงคลเป็นจำนวนมาก  ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๕๒ - ๒๔๙๘  ซึ่งในสมัยนั้นผู้ที่มีฝีมือในการออกแบบพัดได้อย่างสวยงามมีเพียงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์  และหม่อมเจ้าประวิช  ชุมสาย  ต่อมาในระยะหลังการออกแบบตาลปัตรเป็นเพียงสิ่งประกอบของงานเท่านั้น  และผลงานที่ออกมาไม่ได้พิถีพิถันละเอียดลออเหมือนสมัยก่อน

คุณ luanglek กะ คุณ konkao เยี่ยมมากค่ะ อธิบายได้ละเอียดมากเลยค่ะ  ;D

^^

พัดพระวิมานไพชยนต์  พัดสังเค็ดสำหรับงานพระบรมศพ  สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ  (สมเด็จพระพันปีหลวง)  พุทธศักราช ๒๔๖๓

         สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์  ทรงมีพระคุณต่อมหาวิทยาลัยศิลปากรอย่างใหญ่หลวง  พระองค์เป็นผู้ตัดสินพระทัยเลือกและสนับสนุนให้นายซี  เฟโรจี  (Professor Corrado Feroci)  หรือศาสตราจารย์ศิลป์  พีระศรี  ประติมากรผู้มีชื่อเสียงของนครฟลอเรนซ์  ประเทศอิตาลี  มาเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ทฤษฎีศิลปะตะวันตก  และพัฒนาฝีมือให้แก่ช่างชาวสยามในศิลปากรสถาน  ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์  ทรงกำกับควบคุมดูแล  จนต่อมาได้ก่อกำเนิดโรงเรียนประณีตศิลปกรรม  ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนศิลปากร  และเจริญเติบโตเป็นมหาวิทยาลัยศิลปากรในที่สุด

หาจากพี่ กูเกิล ครับพี่มีอะไรก็ถามเขาได้ใจดีมากๆ ;D

มีมาให้ชมอีกภาพค่ะ  ;)

^^ ;D ดวงตรามหามงกุฏไทย

สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ทำด้วยทองคำเป็นรูปกลมกลีบบัว ขนาด 4.8 ซ.ม.ลงยาราชาวดี จำหลักเป็นรูปพระจุลมงกุฎ บนพานรอง 2 ชั้น ขนาบด้วยฉัตร อยู่ในกรอบเพชร ดวงตรานี้อยู่เบื้องล่างใบไม้ฝั่งเพชร สำหรับติดแพรแถบสีน้ำเงินห้อยคอ

เยี่ยมอีกแล้วค่ะ คุณ konkao

เทวดาขี่ม้าหมายถึงอะไรครับ

(http://image.ohozaa.com/i/3d9/img_0463_resize.jpg)

ขอตอบคำถามคุณ konkao ด้วยพระราชนิพนธ์โคลงศุภลักษณ์วาดรูป  ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนี้

   “หนึ่งในนวเคราะห์นั้น   สุริยง
เรืองรัตภูษาทรง      สว่างหล้า
พระขรรค์ฤทธิรงค์      กุมมั่น
สีหะวาหนกล้า      กาจแกล้วกลางสวรรค์ ฯ
   พระจันทร์รัศมีเรื้อง   เรืองฃาว
ทรงเศวตภูษาพราว      เพริดแพร้ว
ทรงอัศวะสกาว      ผยองเผ่น
กรจับพระขรรค์แก้ว      แกว่งเพี้ยนเพลิงฉาน ฯ
   อังคารรังสีเหรื้อ   เหลือตรู
ทรงพัสตระชมพู      เพริดด้าว
กรกุมพระขรรค์ชู      เชิดเฉิด
ทรงมหิงษ์อะคร้าว      เคลื่อนคล้อยเมฆี ฯ
   องค์ที่สี่พุธอ้าง   ออกนาม
ภูษิตล้วนเขียวงาม      ชุ่มชื้น
ทรงคอคชเรืองราม      แลเลิด
ขอจับขับผ่านพื้น      พ่างพ้นเมฆา ฯ
   ที่ห้าโสระไท้   กำยำ
ทรงพัสตร์ภูษิตดำ      เดชห้าว
พระขรรค์รัตนกำ      แหงแกว่ง
ทรงพยัคฆ์อะคร้าว      ร่าร้องเริงดี ฯ
   ที่หกคุรไท้      เทพเรือง  วิทแฮ
ทรงพัสตราภรณเหลือง       เลิดด้าว
ทรงมฤคประเทือง      เทิดเกียรติ
กรจับพรหมทัณฑ์ท้าว      เทพล้วนชวนดู ฯ
   ราหูทรงรูปแม้น   อสุรา
ภูษิตและกายา      ม่วงคล้ำ
กรกวัดแกว่งคทา      ธรถนัด
ทรงนกฮูกจ้ำหม้ำ      เหมาะดั้นเมฆี ฯ
   ที่แปดศุกระไท้   สุนทร
ภูษิตน้ำเงินอ่อน      โอ่หล้า
ทรงหลังพฤษภจร      เร็วรวด
หัดถ์จับพรหมทัณฑ์อ้า      เอี่ยมพริ้งเพริดเพรา ฯ
   ที่เก้าเกตุไท้      เทวัน
กายและพัสตร์สุพรร      ผ่องแผ้ว
กรกุมพระแสงขรรค์      เรืองรัตน์
ทรงพญานาคแพร้ว      เพริศพริ้งพรายตา ฯ”

หม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย  ดิศกุล ได้ทรงพระนิพนธ์สรุปสีประจำวันจากบทพระราชนิพนธ์ข้างต้นไว้ในพระนิพนธ์เรื่อง “สีมงคล” ว่า
“๑.  พระอาทิตย์  ทรงภูษาสีแดง  พระหัตถ์ถือพระขรรค์”  และทรงราชสีห์เป็นพาหนะ
 ๒. พระจันทร์  ทรงภูษาสีขาว  ถือพระขรรค์แก้ว  ทรงม้าขาวเป็นพาหนะ
 ๓.  พระอังคาร  ทรงภูษาสีชมพู  ถือพระขรรค์  ทรงควายเป็นพาหนะ
 ๔.  พระพุธ  ทรงภูษาสีเขียว  ทรงช้างเป็นพาหนะ  และพระหัตถ์ถือขอช้าง
 ๕. พระเสาร์  ทรงภูษาสีดำ  ถือพระขรรค์  และทรงเสือเป็นพาหนะ
 ๖. พระพฤหัสบดี  ทรงภูษาสีเหลือง  ถือไม้เท้า  และทรงกวางเป็นพาหนะ
 ๗. พระราหู  ทรงภูษาสีม่วงคล้ำ  ถือคทาและทรงนกฮูกเป็นพาหนะ
 ๘  พระศุกร์  ทรงภูษาสีน้ำเงินอ่อน  ถือไม้เท้า  ทรงวัวเป็นพาหนะ
 ๙.  พระเกตุ  ทรงภูษาสีทอง  ถือพระขรรค์  และทรงพญานาคเป็นพาหนะ”

จากพระราชนิพนธ์ข้างต้นสามารถตอบคำถามข้างบนได้ว่า เทวรูปนั้นคือ พระจันทร์ ครับ

ภาพอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ร.ร.ต พระมหามงกุฎ  กลางผืนธง ศารทูลธวัชกรมนักเรียนเสือป่าหลวง  ดูครั้งแรกก็งงอยู่เหมือนกันว่าใช้วัสดุอะไร  เพิ่งมาได้คำตอบจากเอกสารจดหมายเหตุที่นายพลเอก เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (แย้ม  ณ นคร) กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ขอพระราชทานธงไชยเฉลิมพลเปลี่ยนให้กรมกองทหาร  เพราะธงเดิมปักด้วยดิ้นเลื่อมทำให้ธงชำรุดง่าย  แต่ถ้าใช้วิธีเดียวกับที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างศารทูลธวีชประจำกรมกองเสือป่าสังกัดกรมเสนาหลวงรักาพระองค์  ที่ใช้วิธี “ทอเนื้อไหมขวั้นแซมด้วยขนม้า เช่นอย่างผ้าธงกรมทหารญี่ปุ่น  อันจักเป็นที่ถาวรมั่นคงอย่างยิ่งชั่วกาลนาน” 

^ "ทอเนื้อไหมขวั้นแซมด้วยขนม้า" มิน่าถึงมีเงาเหมือนขน
แต่ขนม้าไม่ยาว ผู้ทอคงต้องใช้ฝีมือและความอดทนมากเลยนะคะ...  ;D


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21481;image)

ยังไม่มีท่านใดตอบเลยค่ะ...
หนูดีดีดี ก็อยากทราบค่ะว่าคืออะไร... ;D
ดูเหมือนทำจากกะลามะพร้าว ขัดจนมัน น่าจะเป็นตลับใส่ของ นะคะ

^
ยังไม่ใช่กะลามะพร้าวขัดมันหรอกครับ ... ลองทายใหม่ซิครับ  ;D ;D

ตอบคุณเพ็ญชมพู

สมเด็จกรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ทรงออกแบบพัดที่จะถวายพระสมเด็จพระราชาคณะตลอดจนพระเถรานุเถระที่ได้รับนิมนต์มาในงานออกพระเมรุโดยประกอบภาพดังนี้

 1. รถเทียมม้าบรรทุกพระวิมานไพชยนต์เทียมด้วยม้า 4 ตัว มีเทพสารถีกุมบังเหียน ในพระวิมานไพชยนต์มีพระนามย่อสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีว่า "ศรี" อันแทนดวงพระวิญญาณ เบื้องขวายอดพระวิมานไพชยนต์มีรูปพญานาคอันเป็นปีพระราชสมภพแห่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว คู่กับสายฟ้าด้านซ้ายอันเป็นพระราชสัญญลักษณ์ในพระองค์พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้ารถม้าและพระวิมานลอยเหนือกลุ่มเมฆ

 2. ด้านบนมีจารึกเป็นภาษาบาลีว่า "มาตายะถานิยังปุตตังอายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข เอวัมปิ สัพพภูเตสะ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง"

  มีคำแปลเป็นภาษาไทยว่า "มารดาย่อมคอยคุ้มครองบุตรในอุทรแห่งตน ด้วยชิวิตแห่งตนก็ยอมสละได้ฉันใด ขอภิกษุทั้งหลายพึงแผ่เมตตาแก่ภูติผีปีศาจทั้งหลาย โดยไม่มีประมาณฉันนั้น"

ส่วนพัดรองสำหรับงานพระราชพิธีพระชนมายุสมมงคล รัชกาลที่ ๕ เสมอด้วยรัชกาลที่ ๒ พัดด้ามงานี้ถูกสั่งทำจากประเทศญี่ปุ่น ปักอักษรพระปรมาภิไธยย่อ อ.ป.ร และ จ.ป.ร ภายใต้พระมหาพิไชยมงกุฎ และตราราชวงศ์จักรี ภายใต้ซุ้ม เบื้องขวาเป็นรูปครุฑ มือทั้งสองข้างจับนาค ซึ่งเป็นสัตว์พาหนะแห่งองค์พระนารายณ์ และเบื้องซ้ายเป็นรูปหนุมาน ถือกระบี่และธง ซึ่งเป็นทหารเอกแห่งองค์พระราม ลอยมาเหนือซุ้มดังกล่าว นมพัดไม่ใช้แผ่นโลหะแต่ปักลายหน้ากาล รูปสิงห์แทน ด้ามงาบนสุดหุ้มเงินเดินลายเกลียว

ขอบคุณครับ

อย่าลืมลวดลายลงยาสวยๆ เรือนนี้ ยังรอคำตอบอยู่นะครับ.. :'(

เข็มกลัดของคุณเทาชมพูทำเนื่องในโอกาสเดียวกับพัดรองของคุณหนุ่มหรือเปล่า

 ???

พระนามาภิไธยย่อ อ.ป.ร ย่อมาจาก อิศรสุนทร บรมราชาธิราช ครับ

^
^
รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม

 ;D

การสร้างเข็มที่ระลึก และพัดรองที่ระลึกในงานพระราชพิธีสมมงคล เสมอด้วยรัชกาลที่ ๒ นั้น พัดรองถวายแก่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงวชิรญาณวโรรส แทนการถวายเข็มพระชนมายุสมมงคล ส่วนเหรียญพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชกาล แบ่งตามชั้นไปเรื่อยๆ ซึ่งทรงพระราชทานพร้อมกันเมื่อ ๑๖ กุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๒๘ และหลังจากนั้นก็มีการพระราชทานต่อมาเป็นลำดับ แต่การสร้างคงสร้างต่างเวลากันเพื่อมาพระราชทานในโอกาสดังกล่าว

นอกจากนี้แล้วในพระราชพิธีสมมงคล เสมอด้วยรัชกาลที่ ๒ ในส่วนของเหรียญที่ระลึก ยังสร้างเหรียญกษาปณ์แบบเหรียญที่ระลึกรูปดากห้าแฉกอีกด้วย ตัวเหรียญระบุว่า "ทวีธาภิเษก"

กระทู้นี้สนุกมากครับ.............

เรื่องการสร้างพัดรองที่ระลึกถวายพระสงฆ์แทนการถวายเหรียญนั้น  มีกรณีพิเศษคือ เมื่อคราวล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ โปรดให้สร้างพัดรัตนาภรณ์ถวายพระสงฆ์เมื่อคราวฉลองพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ ๔ ครบ ๑๐๐ ปี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗  ตอนที่มีการฉลงนั้นมีพระราชโอรส ๒ พระองค์กำลังผนวชอยู่ คือ พระภิกษุสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร  กับสามเณรสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมขุนสงขลานครินทร์  ทั้งสองพระองค์ได้รับพระราชทานพัดรัตนาภรณ์ ชั้น ๒  เมื่อทรงลาสิกขาแล้วก็ได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ม.ป.ร.ชั้นที่ ๒ ทั้งสองพระองค์

เหรียญตราทวีธาภิเษกไม่ได้สร้างสำหรับพระราชพิธีสมมงคล

ถามคุณวิกกี้มาได้ความดังนี้

เนื่องด้วยปี พ.ศ. ๒๔๔๑ (ร.ศ. ๑๑๗) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์เป็นเวลายาวนาน ๒ เท่า ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงโปรดจัดงานบำเพ็ญพระราชกุศลทวีธาภิเษก เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๔๑ ถวายบรมอัยกาธิราช ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิฉัย และสมโภชสิริราชสมบัติ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

เหรียญที่ระลึก

ในงานพระราชพิธีทวีธาภิเษกดังกล่าว พระองค์ได้ทรงโปรดเกล้า ให้ทำเหรียญที่ระลึก รัชกาลที่ ๕ เสมอด้วยรัชกาลที่ ๒ ทวีคูณ ร.ศ. ๑๑๗ เพื่อพระราชทานแก่ข้าราชการภายใน และข้าราชบริพารผู้ประกอบคุณงามความดี เหรียญที่ระลึกนี้มีเนื้อเงินกาไหล่ทองและเนื้อเงิน

ลักษณะรูปทรงเหรียญแบบดาวห้าแฉกยกขอเส้นลวดสองชั้นหูเชื่อม แบบขวางภายใน มีลักษณะดังนี้

ด้านหน้า

๑.พระอุณาโลม ภายใต้พระอุณหิศ มีความหมายถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้ามงกุฎ พระอุณหิศก็คือพระมงกุฎ
๒.พระจุลมงกุฎ (พระเกี้ยว) มีความหมายถึง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
๓.ครุฑยึดนาค มีความหมายถึงพระบรมราชสัญลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศล้านภาลัย ผู้เป็นพระบรมราชอัยกา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
๔.พระแสงขรรค์ไชยศรีและธารพระกรไขว้ มีความหมายถึง เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เนื่องในวโกาส ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติราชาภิเศก เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๑ การเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งสองนี้ เพื่อแสดงว่าเป็นของสำหรับพระราชาธิบดี
๕.สายสร้อย เป็นรูปดอกประจำยามอยู่เบื้องใต้โล่ คือสังวาลย์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำหรับพระมหากษัตริย์ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลอันสำคัญอย่างยิ่ง

ด้านหลัง

จารึกว่า

ที่รฤก รัชกาลที่ ๕

เสมอด้วยรัชกาล ที่ ๒

ทวีคูณ รัตนโกสินทร ๓๑

ศก ๑๑๗

http://th.wikipedia.org/wiki/พระราชพิธีทวีธาภิเษกในรัชกาลที่_5  (http://th.wikipedia.org/wiki/พระราชพิธีทวีธาภิเษกในรัชกาลที่_5)

ขอบคุณคุณเพ็ญฯ ครับ ทิว คือ สองเท่า คือ วันแห่งการครองราชย์เป็นสองเท่าของอดีตบูรพมหากษัตริย์ ส่วน สมมงคล คือ การพิธีมงคลเสมอด้วยวันครองราชย์

ยังมีเหรียญสวยงามนี้มาให้ชมกันครับ เพื่อนสมาชิกทราบกันไหมครับว่าเป็นเหรียญอักษรพระนามท่านใด

เป็นเหรียญสมเด็จพระสังฆราชเจ้า  กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์
สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๑ วัดราชบพิธ
ช.ส. เป็นอักษรพระนามกรม
ฉัตร ๕ ชั้นเป็นเครื่องประกอบอิสริยยศของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า

^
คุณหลวงเล็ก กล่าวได้ถูกต้องแล้ว..ราม ราม  :-X

มีเรื่องให้คุณหนุ่มพิจารณา

๑.
๒.
อ้างจากรอยอิน  ทวีธาภิเษก น. ชื่อพระราชพิธีการสมโภชที่รัชกาลที่ ๕ ได้ครองราชสมบัติยืนนานมาเป็น ๒ เท่าของรัชกาลที่ ๔, เรียกเหรียญที่จัดทําขึ้นเป็นที่ระลึกในพระราชพิธีนี้ว่า เหรียญทวีธาภิเษก.

ทั้ง ๒ ข้อข้างต้น ผิดหรือถูกประการใดช่วยขานไข   และทำไมจึงเป็นเช่นนั้นหนอ

 :D

ขอเดาว่าเป็น "กระ" ครับ ??? ลงยาสีเขียวงดงามมาก.. ;D

ไม่ใช่กระ

ขอบอกว่า วัสดุชิ้นนี้เป็นหินสีน้ำตาล ขัดมันครับ

เหรียญเงินแปลกตาดีครับ เครื่องหมาย ๒ ชิ้นและช่อดอกไม้ ๒ ข้าง

นี่ครับ ขอแก้ตัวใหม่ เหรียญรัชกาลที่ ๕ เสมอด้วยรัชกาลที่ ๒ ครับ

ด้านหน้าเป็นตราสัญลักษณ์พระเกี้ยวบนพานสองชั้น และ พระครุฑยุคนาค อันหมายถึง "ฉิม" วิมานฉิมพลีของครุฑ อันเป็นพระนามของรัชกาลที่ ๒ ด้านหลังเป็นอักษร ที่ระฦกรัชกาลที่ ๕ เสมอด้วยรัชกาลที่ ๒ จุลศํกราช ๑๒๔๕

^ สิ่งของ ๒ สิ่งในเหรียญนั้น คือสิ่งของที่ใช้ในการรำเขนงหรือรำเสนง
ในพระราชพิธีตรียัมปวาย
สิ่งหนึ่งคือ หัวนาคที่ใช้สวมศีรษะนาลิวันผู้รำเสนง
อีดสิ่งคือเขาโคที่ปลายด้านหนึ่งทำเป็นหัวนาคใส่รำเสนงสาดน้ำ

มีคำอธิบายว่า
""นาลิวัน" ซึ่งหมายถึง พญานาค และผู้แสดงก็สวมหัวนาคด้วย
ทำหน้าที่โล้ชิงช้า เสาชิงช้าทั้งคู่จึงสมมติว่าคือขุนเขาทั้งสองฝั่งมหาสมุทร
และขันสาครก็คือมหาสาครอันกว้างใหญ่ซึ่งพญานาคพากันมาเล่นน้ำรำเสนงสาดน้ำกัน
ซึ่งรำเสนงคือการรำเขาสัตว์ มีท่ารำอยู่ 9 ท่า "


เหรียญนี้คงเป็นเหรียญที่ทำแจกในการพระราชพิธีตรียัมปวายปีใดปีหนึ่ง

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21481;image)

ขอเดาว่า เป็นตลับหิน ของทรงใช้ของล้นเกล้ารัชกาลที่7 ลายลงยาสีเขียวขดรูปงู พระนามาภิไธยย่อ ปปร. ค่ะ  ;D

เยี่ยมมากครับผม  ;)

คุณดีดี เก่งมากที่เพียรหาคำตอบมาได้ ที่ใช้รูปงู เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ มีปีพระราชสมภพในนักษัตรปีมะเส็ง และสีเขียว คือ วันพุธ ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพ ดังนี้จึงทำเป็น งูขดและลงยาสีเขียว เป็นที่ทับกระดาษครับ

สืบเนื่องจากคำตอบของ คุณluanglek ค่ะ  ;D
เหรียญที่ระลึกในงานยืนชิงช้า นายพลโทพระยากลาโหมราชเสนา พ.ศ. ๒๔๗๑ ค่ะ

เหรียญนี้แปลกตาดีแท้ เป็นลายเดินปรุ หรือ ไข่ปลา งามมาก ใครรู้ความหมายบ้าง

ไปดูรายละเอียดได้ที่นี่

http://www.krusiam.com/shop/bompattaya/product/detail.asp?ProductID=P0114869

ความหมายของเหรียญละครับ  ;D

^
ขอแจมครับ  ;D

(http://www.mongkhonthip.com/study_prakuang/images/praputtabaht_lage.jpg)(http://www.mongkhonthip.com/study_prakuang/images/praputtabaht_lage1.jpg)

เหรียญพระพุทธบาท วัดเขาบางทราย

          เหรียญพระพุทธบาท วัดเขาบางทราย จังหวัดชลบุรีนี้ถูกสร้างขึ้นในวาระการทำบุญฉลองรอยพระพุทธบาทจำลองที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดเขาบางทรายเมื่อปายพุทธศักราช 2461 ในงานครั้งนั้นพระธรรมไตร โลกาจารย์ เจริญ ญาณวโร วัดเทพศิรินทราวาส เสด็จมาเป็นองค์ประธาน (ภายหลังท่านได้รับการโปรดเกล้าฯเลื่อนขึ้นเป็นที่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) ในครั้งนั้นได้มีการสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้นมาเพื่อแจกเป็นการสมนาคุณแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญในงานนี้ด้วย เหรียญพระพุทธบาทนั้นถูกสร้างขึ้นมาเป็นสองขนาดคือ ขนาดเล็กและขนาดใหญ่เนื้อเท่าที่เห็นมีเนื้อเงินกับเนื้อทองแดง ลักษณะเป็นเหรียญกลมหูเชื่อมชนิดเหรียญใหญ่มีขนาดใกล้เคียงกับเหรียญบาทตราครุฑ ชนิดเหรียญเล็กมีขนาดใกล้เคียงกับเหรียญสลึงตราแผ่นดิน (ซึ่งเป็นเงินรุ่นเก่าด้วยกันทั้งสองชนิด และเลิกใช้ไปแล้ว ขนาดที่ว่านั้นอาจไม่เท่ากันพอดีแต่ก็คงจะเล็กหรือใหญ่กว่ากันไม่มากนัก)

           ด้านหนึ่งเป็นรูปพระพุทธนั่งปางมารวิชัยมีเม็ดไข่ปลาล้อมรอบมีอักขระขอมแปดตัวมีเม็ดไข่ล้อมรอบด้วยเช่นกัน อ่านว่า ทุ สะ นิ มะ จะ ภะ กะ สะ อีกด้านหนึ่งมีลักษณะเหมือนกันทุกประการจะแตกต่างกันก็เพียงเปลี่ยนขจากพระพุทธรูปมาเป็นรอยพระพุทธบาทแทน พุทธคุณดีทุกทางเนื่องจากปลุกเสกโดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ซึ่งเป็นอุปัฌชาย์ของเจ้าคุณนรฯ และเจ้าคุณนรฯ เคยพูดให้คนใกล้ชิดฟังว่าสมเด็จฯ ท่านไม่ใช่พระธรรมดานะท่านเป็นพระอริยะสงฆ์แล้ว

ที่มา google

คาถา หัวใจธาตุกรณี  จะ  ภะ  กะ  สะ
มีความหมายว่า
จะ ย่อมาจาก  จชทุชฺชนสงฺสคฺคํ  แปลว่าจงละเว้นการคบคนชัวเสีย
ภะ ย่อมาจาก  ภชสาธุสมาคตํ  แปลว่าหมั่นคบหาสมาคมด้วยบัณฑิต
กะ  ย่อมาจาก  กรปุญฺญมโหรตฺตํ  แปลว่าให้สร้างบุญ(ให้ทาน) ทั้งกลางวันและกลางคืน
สะ  ย่อมาจาก  สรนิจฺจมนิจฺจํ  แปลว่าให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารเป็นนิจ

คาถา หัวใจอริยสัจ  ทุ สะ นิ มะ
ทุ ย่อมาจาก ทุกฺข ความทุกข์
สะ ย่อมาจาก สมุทัย  เหตุแห่งทุกข์
นิ  ย่อมาจาก นิโรธ  การดับทุกข์
มะ  มาจาก มคฺค วิธีดับทุกข์

อยากรู้อะไรเพิ่มก็อ่านจาก
http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=1877

ใช่แล้วครับ คุณหลวงฯ และคุณ konkao

ต่อมาเป็นอะไรหรอ  ??? ดูเหมือนภาพวาด มีอักษรที่มุม ป ภ ส ม  มีภาษาอังกฤษ B S อีกด้วย ลองไขความกระจ่างวัตถุชิ้นนี้ มาเถิด

^
(http://www.torakom.com/images/upload_images/1235673058_12.jpg)
 ;Dแสตมป์ดังกล่าวคือตั๋วแสตมป์ภาณุรังษีมีสองรุ่นสองราคา คือ 1 อัฐ และ 2 สลึง จากภาพรุ่นแรกทางซ้ายมือ พระพักตร์ยังดูทรงพระเยาว์กว่ารุ่นที่สองทางขวามือ มีอักษรย่อ ป ม ภ ส ย่อมาจาก โปสมาสเตอร์ ภาณุรังษีสว่างวงศ์

ไวมากครับ คุณ Konkao

วัตถุนี้ชื่อว่า "ตั่วแสตมป์" เป็นการทดลองการส่งไปรษณีย์ในพระบรมมหาราชวังของสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของระบบไปรณีย์ไทยรุ่นแรกๆ โดยทดลองติดแสตมป์ดังกล่าวไปกับหนังสือคอร์ท (Court) หรือหนังสือข่าวราชการ โดยเป็นภาพพระพักตร์ของสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ หันข้าง มีอักษร ป ม ภ ส ย่อมาจาก โปสมาสเตอร์ ภาณุรังษีสว่างวงศ์ และ B S คือย่อมาจาก H.R.H.Prince Bhanu Rangsi Sawangwong

^ เห็นรูปวัตถุชิ้นนี้แล้วนึกถึงหนังสือปกสีดำ ๒ เล่มชุด
มีข้อความว่า

"...การที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศวรเดชทรงออก
หนังสือพิมพ์ค๊อตข่าวราชการครั้งนั้น  เดิมได้ตั้งพระหฤทัยแต่สำหรับจะ
ทูลเกล้าฯ ถวายแลแจกกันในเหล่าเจ้านาย  ซึ่งเห็นชอบตามกระแส
พระราชดำริห์ในการออกหนังสือพิมพ์นั้น  ครั้นเมื่อหนังสือพิมพ์ปรากฎ
ไม่ช้าก็มีผู้อื่นต้องการ  พากันมาทูลขอมากขึ้น  ต้องพิมพ์มากฉบับ
กว่าที่ทรงคาดไว้แต่เดิมหลายเท่า  จึงจำต้องคิดราคาพอคุ้มทุนที่ลงไป
ส่วนการจำหน่ายนั้น  ชั้นเดิมผู้ต้องการต้องไปรับหนังสือ ณ หอนิเพท
พิทยาคมเองทุกวัน  ทีหลังมาการที่ไปรับไม่พรักพร้อมกันต้องเก็บ
รักษาหนังสือค้างจำหน่ายลำบากนัก   สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยา
ภาณุพันธุวงศวรเดชจึงโปรดให้มีบุรุษผู้เดิรส่งหนังสือค๊อตข่าวราชการ
เนื่องในการที่ส่งหนังสือค๊อตข่าวราชการนี้  ทรงพระดำริห์ให้มีตั๋ว
แสตมป์ทำเปนพระรูปเหมือนอย่างที่พิมพ์ไว้ข้างหน้าหนังสือค๊อตสำหรับ
ปิดเปนสำคัญ  แล้วเลยทรงอนุญาตให้สมาชิกผู้รับหนังสือค๊อตข่าว
ราชการซื้อตั๋วแสตมป์นั้นไปปิดจดหมายของตน  ในเมื่อจะต้องการ
ให้บุรุษผู้ส่งหนังสือค๊อตข่าวราชการช่วยเดิรจดหมายให้สมาชิกด้วย
ประเพณีการเดิรไปรษณีย์ในสยามประเทศนี้  เริ่มมีด้วยหนังสือค๊อต
ข่าวราชการดังกล่าวมา  ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จฯ พระจุลจอม
เกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จะจัดการโทรเลขแลไปรษณีย์ให้มีขึ้น
ในพระราชอาณาเขตร  เหมือนกับอารยประเทศทั้งปวง  ทรงพระราช
ดำริห์ว่า  สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศวรเดช  โปรดเอา
พระทัยใส่ในเรื่องการไปรษณีย์อยู่  จึงดำรัสสั่งให้ทรงจัดการตั้งกรม
ไปรษณีย์แลโทรเลขตั้งแต่แรกจะมีขึ้น  จนได้เข้าสากลสมาคมกับ
ประเทศทั้งปวง. ..."

คัดลอกตามอักขรวิธีต้นฉบับ   หนังสือนี้ พิมพ์รวมเล่มมาแล้ว ๒ ครั้ง
ครั้งแรก ๒๔๖๖  ครั้งที่ ๒  ๒๕๓๙

 ;D

แล้วตั๋วแสตมป์ชุดนี้ละ มีแต่พระบรมฉายาลักษณ์ และพระฉายาลักษณ์เจ้านายองค์สำคัญแห่งราชวงศ์จักรีทั้งสิ้น

เอาเหรียญมาให้ดูค่ะ..เขาบอกว่าราคาซื้อขายกันตอนนี้ 7 หลัก โอ้โห...

ปี พ.ศ.๒๔๒๕ ทางราชสำนักได้ออกแสตมป์ชุด "ราชกุมาร Royal Family"  เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ และพระฉายาลักษณ์เจ้านายต่าง ๆ รวม 10 พระองค์ สำหรับใช้ในพระบรมราชวังเท่านั้น

พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ ๕ ชนิดราคา 1 อัฐ
พระฉายาลักษณ์สมเด็จสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ชนิดราคา 1 อัฐ
มกุฎราชกุมารวชิรุณหิศ ชนิดราคา 1 อัฐ
สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา ชนิดราคา 1 อัฐ
สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงพาหุรัตมณีมัย  ชนิดราคา 1 อัฐ
สมเด็จเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุฒม์ธำรง  ชนิดราคา 1 อัฐ
สมเด็จเจ้าฟ้าสิริราชกุธภัณฑ์ ชนิดราคา 1 อัฐ
กรมพระเทววงศ์วโรปการ ชนิดราคา 1 อัฐ

แสตมป์งามมากครับ คุณดีดี แล้วที่เอ่ยถึง "Rising P" หมาถึงอะไรหรือ  :o

พ.ศ. 2418 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภานุพันธ์วงศ์วรเดช ทรงออกหนังสือ COURT ข่าวราชการขึ้น แรกๆ ยังมีผู้บอกรับน้อยและผู้บอกรับต้องไปรับหนังสือ ณ ที่พิมพ์เอง ต่อมาเมื่อมีผู้สนใจรับมากขึ้น จึงจัดคนเดินส่งหนังสือให้โดยตรง
ในฉบับที่จะขึ้นปี พ.ศ.2419 ใช้แสตมป์รูปพระองค์ปิดเป็นค่าธรรมเนียม (เรียกว่า แสตมป์ RISING P เพราะมีคำนี้ปรากฏอยู่ข้างล่าง เทียบเท่าพระนามของเจ้าฟ้าภาณุรังษีฯ มีอยู่ 2 รุ่น ๆ ละ 2 สี หายากมาก)
นอกจากนี้ยังทรงอนุญาติให้สมาชิกซื้อแสตมป์ไปปิดจดหมาย มอบให้คนเดินหนังสือนำไปส่งยังที่ที่ต้องการด้วย นับเป็นการเริ่มต้นแบบอย่างการเดินไปรษณีย์ขึ้นในประเทศไทย แต่เนื่องจากมิได้กระทำเป็นทางการ คือรัฐบาลยังไม่ได้ลงมือดำเนินการเอง จึงยังไม่ถือเป็นแสตมป์ (ทางการ) ชุดแรก อนึ่งในระยะเวลาไล่เลี่ยกับการออกแสตมป์ RISING P นี้ ทางราชสำนักยังได้ออกแสตมป์รูปเจ้านายต่าง ๆ รวม 10 พระองค์ เช่น ร.5 สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ฯลฯ สำหรับใช้ปิดจดหมายแบบเดียวกับแสตมป์ RISING P

แล้วภาพนี้ เครื่องหมายอะไรคะ
สยามฝ่ายเหนือ หมายถึงอะไร.. ;D

อากรค่านา "สยามผ่ายเหนือ" ชนิดราคา บาทหนึ่ง สีแดง ตรงในวงกลมกลางดวง "จปร ที่ ๕" ล้อมรอบโดย "บาทหนึ่ง ค่านา"๑๒๕๐" ด้านบนสุด "สยามฝ่ายเหนือ" และด้านล่างเป็นภาษาพม่า"บาทหนึ่ง ค่านา ๑๒๕๐" ผลิตโดยกระดาษสีน้ำตาลอ่อนในประเทศชนิดไม่มีลายน้ำและไม่ปรุรูสีด้าน การพิมพ์ค่อนข้างหยาบ แต่รายละเอียดชัดมาก ขอบใหญ่พอสมควร ขนาดแสตมป์ ๓๒ x ๔๓ มม. ขอบล่างหยาบเล็กน้อย ขอบซ้ายและขาวมีรอยรูเล็ก ๆ ข้างละรู

http://phila09-04.eurseree.com/cgi-bin/info/agora-p.cgi?maxp=4000&ppinc=Printout&query_price_low_range=1&query_price_high_range=1196

ที่ถูกต้อง  คือ  ด้านล่างเป็นภาษาไทย อักษรตัวเมือง
เขียนว่า  "บาทนีง  ฅ่านา  ๑๒๕๐"

มีเหรียญมาให้ดูกันอีกแล้วค่ะ  ;D
เหรียญเครื่องหมายอะไรคะ มีประวัติอย่างไร..

ภาพ กระโถนปากแตร"กระเบื้องเคลือบน้ำเงินขาวใบนี้ มีอักษรย่อ อะไรบ้างคะ ...

เหรียญพระปฐมปาฎิหาริย์ รัชกาลที่ ๕ เนื้อเงิน พ.ศ ๒๔๕๒ เป็นเหตุการณ์ที่พระปฐมเจดีย์แสดงปาฏิหารย์ให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตร เป็นการเรืองแสงบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์

           พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อได้ทอดพระเนตรปาฎิหารย์แล้ว ได้บันทึกถวายรายงานแด่พระราชบิดาคือ พระบาทสมเด็จพระจุมจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ร.ศ.๑๒๘ ".....ได้เห็นองค์พระปฐมมีรัศมีสว่างพราวออกทั้งองค์...." และเมื่อทอดพระเนตรแล้วก็ได้นิมนต์พระสงฆ์ ๑๐ รูป มาสวดมนต์เย็นและเดินเทียนสมโภช และขอถวายพระราชกุศลแก่สมเด็จพระราชบิดา และสร้างเหรียญพระปฐมปาฏิหารย์เพื่อเป็นประจักษ์พยาน

          การเรืองแสงนี้คาดว่าจะเกิดจากสารฟอสฟอรัสที่ทำปฏิกิริยากับอากาศ เนื่องจากการเกิดเหตุการณ์นี้มักจะเกิดช่วงหลังฝนตก พื้นผิวกระเบื้ององค์พระมีความชื้นจากกระเบื้องโบราณ ทำให้เกิดการสันดาบของเคมีกับอากาศทำให้เกิดการเรืองแสงขึ้นมา ปัจจุบันนี้ไม่ปรากฎแล้วเนื่องจากมีการรื้อกระเบื้องเก่าและปัญหามลภาวะอากาศ และแสงไฟแห่งความเจริญได้บดบังหมดครับ  ;)

ข้อสันนิษฐานว่าเป็นฟอสฟอรัส เห็นจะไม่ใช่   พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯทรงสันนิษฐานประกอบด้วยเช่นกัน
แสงในเหตุการณ์นี้มี ๒ แบบคือแสงเรืองไปทั่วองค์ และลำแสงพวยพุ่งขึ้นไป   นอกจากนี้ตอนดับยังดับไม่พร้อมกันอีกด้วย

 ในคืนวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2452 เวลา 2 ยาม 55 นาที ทรงมีพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 26 ตุลาคม ร.ศ.128 กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ความตอนหนึ่งว่า

...ด้วยเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม ร.ศ.128 นี้ ตรงกับวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 11 เวลาดึก 2 ยามกับ 55 นาที ข้าพระพุทธเจ้าได้นั่งเล่นอยู่ที่เรือนสนามจันทร์ มีข้าราชการและมหาดเล็กอยู่ด้วยกันเป็นอันมาก ได้เห็นองค์พระปฐมเจดีย์มีรัศมีสว่างพราวออกทั้งองค์ ดูประหนึ่งว่าองค์พระปฐมเจดีย์ด้านตะวันตก คือด้านที่เล็งตรงกับสนามจันทร์นั้น ทาด้วยฟอสฟอรัส พราวเรืองๆ ตั้งแต่ใต้คอระฆังลงมาหน่อยหนึ่ง ตลอดขึ้นไปจนยอดมงกุฎและยังซ้ำมีเป็นลำรัศมีพวยพุ่งขึ้นไปอีกประมาณ 3-4 วา ปรากฏแก่ตาอยู่อย่างนี้ 17 นาที แล้วรัศมีตอนใต้แต่ปล้องไฉนตลอดจนยอดก็ดับลงไปทันที เหลือสว่างอยู่แต่ตอนช่วงมะหวดลงมา อีกสักไม่ถึงกึ่งนาทีก็ดับหายไปหมด มืดแม้จะมองแต่รูปองค์พระก็ไม่เห็นถนัด ข้าพระพุทธเจ้าได้นับผู้ที่ได้เห็นในขณะนั้น ตลอดจนทหารที่อยู่ยาม 4 คน เป็นจำนวน 69 คน...

รายละเอียดมากกว่านี้  รอคุณ V_Mee ดีกว่าค่ะ

อีกชิ้นหนึ่ง

 ;D

เหรียญพระปฐมปาฏิหาริย์ พ.ศ. ๒๔๕๒ (ร.ศ. ๑๒๘)
ด้านหน้าเป็นรูปธรรมจักร ด้านหลังมี ๒ version ค่ะ
แบบแรกภาพซ้ายมือ บอกเวลา ๒ ยาม ๕๕ นาที
แบบที่สองภาพขวามือ บอกเวลา ๒ ยาม ๑๕ นาที
มีผู้ตรวจสอบกับจดหมายเหตุรายวันฯ แล้วพบว่าเวลา ๒ ยาม ๕๕ นาที เป็นเวลาที่ถูกต้อง
สัณนิฐานว่า เหรียญ ๒ ยาม ๑๕ นาทีสร้างขึ้นก่อน แล้วพบว่าผิดพลาดจึงสร้างใหม่ให้ถูกต้อง
สำหรับปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์มีการรวบรวมไว้ดังข้อความด้านล่างค่ะ... ;D

ข้อมูลจากพิพิธภัณฑ์เหรียญที่ระลึกไทย..

เมื่อปีที่ผ่านมามีการบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ครั้งใหญ่ โดยรื้อกระเบื้องเก่าออกทั้งหมดและซ่อมเสริมองค์พระให้แข็งแรงขึ้น จึงได้พบว่าบริเวณปลียอดองค์พระ ช่างโบราณได้มีเทคนิคก่อสร้างโดยใช้ยางไม้ซึ่งมีความเหนียวคล้ายกาว ยึดไว้ระหว่างปูนองค์พระเจดีย์กับแผ่นกระเบื้อง จึงนำมาให้ชมกันครับ

พระราชหัตถเลขาตอบ

“ได้รับหนังสือปาฏิหาริย์พระปฐมเจดีย์แล้ว  ตามที่เล่ามาช่างไม่มีผิดกับที่เคยเห็น ๒ คราวแต่สักนิดหนี่งเลย  กำลังเสด็จออก  คนเฝ้าแน่นอยู่ ก็ได้เป็นเช่นนี้  เห็นด้วยกันหมด  จึงได้มีเรื่องตรวจตราซึ่งได้ปรากฏในหนังสือของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์  แต่จะเป็นด้วยเหตุใดเหลือที่จะยืนยันฤๅรับรองให้คนอื่นเห็นจริงด้วยได้  จึงไม่ได้เล่าให้ใครฟังในชั้นหลัง ๆ นี้  แปลกอยู่หน่อยหนึ่งแต่เวลาที่จะเห็น มักจะเป็นเดือน  ๑๑  เดือน ๑๒ แลเดือนยี่  เวลาเดินบกมาถึงที่นั้น ฤๅเสด็จออกไปหลายครั้งไม่เคยมีเลย”

ส.ผ. ค่ะ  ;D
จี้ทองคำฝังเพชร ลงยาสีน้ำเงิน เป็นเข็มกลัดได้ด้วย...

จี้ทองคำลงยาสีน้ำเงิน พระนามาภิไธยย่อ ส.ผ. อีกแบบค่ะ  ;D

กระดุมทองคำลงยา พระนามย่อล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕

จี้ ส.ผ. อีกแบบค่ะ  ;D

เหรียญอะไรหนอ นำมาให้ขบปัญหาดู

ภาพนี้ถามค่ะ... ;D
กล่องถมดำลายไทย งดงาม ด้านหน้ามีเครื่องหมายอะไร ของใครคะ...

^ ตอบท่านsiamese ค่ะ  ;D
เหรียญโรงเรียนราชกุมาร พ.ศ. ๒๔๓๕ (ร.ศ.๑๑๑) ค่ะ

ไก่ขาวกางปีก = สัญลักษณ์ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม

จังหวัดพิบูลสงคราม ชื่อจังหวัดพิบูลสงครามนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่จอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้น ทั้งนี้ ยังปรากฏว่ามีการสร้างอนุสาวรีย์ไก่ขาวกางปีกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจอมพลแปลกไว้เป็นอนุสรณ์ของจังหวัดนี้

เมื่อแรกตั้งจังหวัดนั้น ได้แบ่งการปกครองออกเป็น 6 อำเภอ ตามประกาศเรื่องตั้งอำเภอ ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พุทธศักราช 2484 ดังนี้

อำเภอไพรีระย่อเดช (ตามเขตอำเภอบ้านพวกเดิม)
อำเภอกลันทบุรี (ตามเขตอำเภอกลันทบุรีเดิม)
อำเภอพรหมขันธ์ (ตามเขตอำเภอพรหมขันธ์เดิม)
อำเภอเกรียงศักดิ์พิชิต (ตามเขตอำเภอสำโรงเดิม)
อำเภอวารีแสน (ตามเขตอำเภอวารีแสนเดิม)
อำเภอจอมกระสานติ์ (ตามเขตอำเภอจอมกระสานติ์เดิม)

อำเภอเกรียงศักดิ์พิชิต ตั้งชื่อตาม พันเอกหลวงเกรียงศักดิ์พิชิต (พิชิต เกรียงศักดิ์พิชิต ยศสุดท้ายเป็นที่พลโท) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 1 ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพด้านอีสาน และผู้ช่วยแม่ทัพบกในขณะนั้น (ดูประวัติหลวงเกรียงศักดิ์พิชิตได้ที่นี่)
อำเภอไพรีระย่อเดช ตั้งชื่อตาม พันเอกหลวงไพรีระย่อเดช (ชมะบูรณ์ ไพรีระย่อเดช ยศสุดท้ายเป็นที่พลโท) ผู้บัญชาการกองพลบูรพา และรองแม่ทัพด้านบูรพา (คนที่ 2) ในขณะนั้น

เมื่อมีการกำหนดให้มีตราประจำจังหวัดทั่วประเทศ กรมศิลปากรก็ได้นำอนุสาวรีย์ดังกล่าวมาผูกเป็นรูปตราประจำจังหวัดไว้ด้วย

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยต้องส่งดินแดนจังหวัดพิบูลสงครามคืนให้แก่ฝรั่งเศส ซึ่งปกครองประเทศกัมพูชาอยู่ในขณะนั้น ปัจจุบัน คือ จังหวัดเสียมเรียบ จังหวัดอุดรมีชัย และจังหวัดบันเตียเมียนเจย ในประเทศกัมพูชา

เพิ่งทราบนะคะเนี่ย ว่าประเทศไทยเรา เคยมีจังหวัดพิบูลสงคราม ด้วย  :-[

ภาพนี้เรียนถามค่ะ ว่าอักษรย่อ ร.จ.บ.ต.ว.ห.จ. ย่อมาจากอะไร
และภาพนี้เป็นสัญญลักษณ์อะไรค่ะ 

นอกจากจังหวัดพิบูลสงคราม ยังมีอีก ๓ จังหวัดที่ได้มาพร้อม ๆ กัน


 ;D

เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ

พระตราตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช มีขึ้นในรัชกาลที่ ๕ โดยนำพระตราตำแหน่งมกุฎราชกุมารของอังกฤษมาปรับใช้ เปลี่ยนมงกุฎฝรั่งเป็นพระเกี้ยว แสดงความเป็นพระราชโอรสในพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขนนก ก็เปลี่ยนเป็นช่อชัยพฤกษ์ ส่วนแถบล่างของพระตราสยามงกุฎราชกุมารนั้น เป็นแถบสีชมพู หมายถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อักษรย่อว่า ร.จ.บ.ต.ว.ห.จ.นั้น เป็นสุภาษิตประจำเครื่องราชฯนี้ คือ เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ  

สำหรับองค์นี้เป็นลายพระหัตถ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/K3422625/K3422625.html#55

 ;D

คุณเพ็ญชมพู เยี่ยมยอดเลยค่ะ... ;D

ชิ้นนี้ หนูดีดีว่ายากค่ะ.. ;D
เป็นเส้นผมขดเป็นอักษรย่อ พระนามเจ้าของเส้นผมค่ะ...

ไก่กางปีก บนคฑาจอมพล จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม

ไก่

(http://image.ohozaa.com/i/08e/1299045622.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=6d78b280035eabd7043bfd6a9a5a1554) (http://image.ohozaa.com/i/4d0/1299046005.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=bb0d4dbb1ea88c28f9049cc759a25b22)
(http://image.ohozaa.com/i/38a/1299046939.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=4d37a7243bb1c94b3adb732953a7d076) (http://image.ohozaa.com/i/60b/1299047134.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=b4b9dff2fa2d5bacaa29b96e64f2a5e1) (http://image.ohozaa.com/i/eb1/1299047642.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=96fa312dbeea6e87a7d94fde88f84217) (http://image.ohozaa.com/i/1f5/1299048326.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=5469e08e31bbca01e0e0a3d988cb2e00)
(http://image.ohozaa.com/i/04e/1299048761.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=66b7b2f25c15925877d1b2cc2c765fd7) (http://image.ohozaa.com/i/a7d/1299049903.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=822d53f9154dcfc07962adce12de1f03) (http://image.ohozaa.com/i/f9b/1299050079.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=9d0e47490dffc5a6a5730600bbf13eba) (http://image.ohozaa.com/i/067/in1ia.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=d4ee95d1f9d3ae6eecd56aa98d693df9)

อักษรย่อตรงกลางดวงตราคืออะไร ย่อมาจากคำว่าอะไร และดวงตรานี้คืออะไร

 ;)

เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า (The Illustrious Order Of Chula Chom Klao) ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ (ป.จ.ว.)
อักษรย่อ "จ.จ.จ." มาจากพระนาม "จุฬาลงกรณ์จุลจอมเกล้า" ค่ะ

ดารา มีลักษณะเป็นรัศมีทอง 8 แฉก รัศมีเงิน 8 แฉก กลางดารา พื้นสีชมพู มีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "จ.จ.จ." ทองประดับเพชร ขอบลงยาสีขาบ และมีอักษรทองว่า "เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ" รอบขอบเป็นเพชรสร่งเงิน ใช้สำหรับประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2416 เนื่องในโอกาสที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีได้ปกครองประเทศไทยติดต่อกันมาถึง 90 ปี ด้วยความสงบสุข พระองค์จึงทรงพระกรุณาให้สร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้านี้ขึ้นซึ่งเป็นพระนามของพระองค์ และให้แพรแถบสีชมพูอันเป็นสีของวันพระราชสมภพ คือ วันอังคาร

สำหรับพระราชทานฝ่ายหน้า (บุรุษ) มี 3 ชั้น 7 ชนิด คือ
ชั้นที่ 1 มี 2 ชนิด
ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ (ป.จ.ว.) ไม่จำกัดจำนวน
ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) มีจำนวน 30 สำรับ

ชั้นที่ 2 มี 2 ชนิด
ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) มีจำนวน 200 สำรับ
ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) มีจำนวน 250 ดวง

ชั้นที่ 3 มี 3 ชนิด
ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ต.จ.ว.) มีจำนวน 250 ดวง
ตติยจุลจอมเกล้า (ต.จ.) มีจำนวน 250 ดวง
ตติยานุจุลจอมเกล้า (ต.อ.จ.) มีจำนวน 100 ดวง

สำหรับพระราชทานฝ่ายใน (สตรี) มี 4 ชั้น 5 ชนิด คือ
ชั้นที่ 1
ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) มีจำนวน 20 สำรับ

ชั้นที่ มี 2 ชนิด
ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) มีจำนวน 100 ดวง
ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) มีจำนวน 100 ดวง

ชั้นที่ 3
ตติยจุลจอมเกล้า (ต.จ.) มีจำนวน 250 ดวง

ชั้นที่ 4
จตุตถจุลจอมเกล้า (จ.จ.) มีจำนวน 150 ดวง

ภาพนี้ เครื่องหมายอะไรคะ

ภาพง่ายๆ ค่ะ  ;D
เครื่องหมายอะไร มีความหมายว่าอย่างไรคะ

คำตอบที่ถูกต้องคือ

ดารา มีลักษณะเป็นรัศมีทอง ๘ แฉก รัศมีเงิน ๘ แฉก กลางดารา พื้นสีชมพู มีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "จ.จ.จ." ทองประดับเพชร ขอบลงยาสีขาบ และมีอักษรทองว่า "เราจะบำรุงตระกูลวงษ์ให้เจริญ" รอบขอบเป็นเพชรสร่งเงิน ใช้สำหรับประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย

เป็นองค์ประกอบหนึ่งในเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9) และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2)

 ;D

หนูดีดี จัดให้เต็มชุดค่ะ... ;D

^
^
ที่คุณดีดีจัดมาคือ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/1/15/%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9.jpg/250px-%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9.jpg)

ถ้าเป็น เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า จะมีหน้าตาดังนี้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/a/a4/%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2_%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2.jpg/250px-%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2_%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2.jpg)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า ฝ่ายใน

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/d/d3/%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2_%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99.jpg/250px-%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2_%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99.jpg)

 ;D

มีเหรียญแพงมาให้ชมค่ะ ขนาดเฟื้อง ราคาประเมินปัจจุบัน ไม่ต่ำกว่า ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท ... :o
เหรียญเงินรุ่นตอกตรา สมัยรัชกาลที่ ๔ ประมาณปีพ.ศ. ๒๓๙๙ เหรียญแบนทางการเหรียญแรกที่มีอักษรไทย

^
ใช่ครับ เป็นเหรียญกษาปณ์ในยุคเริ่มแรกของไทย เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงเห็นว่าบ้านเมืองควรเริ่มใช้เงินแบนขึ้นตามอย่างอารยะประเทศ เนื่องจากมีฝรั่งร้องเรียนมาว่ามีเงินพดด้วงปลอมมาก แถมที่เวียดนาม พระเจ้าหมิ๋นหมาง และองค์หริรักษ์ แห่งกัมพูชา ต่างล้วนใช้เงินแบนทั้งสิ้น มีแต่สยามที่ใช้พดด้วง จึงมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างเหรียญแบน และมีจดหมายไปยังควีนวิคตอเรียว่าสยามต้องการเครื่องจักรทำเหรียญ ให้ราชทูตไปดูและติดต่อซื้อเมื่อคณะราชทูตไปลอนดอน

แต่ก่อนหน้านั้นทรงโปรดเกล้าให้ทดลองทำเหรียญแบนแบบตอกตราด้วยมือ คือใช้แรงงานค้อนทุบที่แม่พิมพ์โลหะ หล่อแผ่นเงิน ตัดแผ่นเงินเป็นวงกลม ซึ่งมีด้วยกัน ๓ แบบ

เหรียญทำมือในพ.ศ. ๒๓๙๙ นี้มีด้วยกัน ๓ แบบ (เกิดจากแม่พิมพ์ ๓ ตัว)

๑. ด้านหน้าตอกตราเหมือนอย่างพดด้วง (พระเต้า-มหามงกุฎ-พระแสงจักร) และหลังเรียบ

๒. ด้านหน้าเป็นตราพระมหามงกุฎและฉัตรกระหนาบทั้งสองด้าน พร้อมลายเถาวัลย์ดอกไม้ ขอบเรียบไม่เป็นเฟือง ด้านหลังตอกตรา(พระเต้า-มหามงกุฎ-พระแสงจักร) (รวมรายการที่ ๑-๒ ไม่เกิน ๔ เหรียญ)

๓. ด้านหน้าเป็นตราพระมหามงกุฎและฉัตรกระหนาบทั้งสองด้าน พร้อมลายเถาวัลย์ดอกไม้ ขอบเรียบไม่เป็นเฟือง ด้านหลังตีตรา “กรุงเทพ” ซึ่งพบประมาณ ๓ เหรียญ

เคยลงกระทู้ไว้เรื่องเหรียญบรรณาการ ลองอ่านดูนะครับ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/09/K9741207/K9741207.html

ให้คุณดีดี ชมเหรียญกรุงเทพ "ทองคำ" ครับ นี่ขนาดเหรียญเงินมูลค่าแพงเท่านี้ ถ้าเป็นทองคำที่ผมนำมาให้ดูราคาจะขนาดไหน  ;D

คว่ำก้นถ้วยใบหนึ่ง เห็นอักษรผูกไว้พิกล เขียนว่าอะไรดีครับ  ???

ของชิ้นนี้ต้องมีความสำคัญอย่างแน่นอน ใช้ในงานอะไรหนอ ???

นอกจากจะได้ทอดพระปฐมเจดีย์แสดงปาฏืหาริย์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ แล้ว  ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๕๗ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังได้ทอดพระเนตรพระปฐมฯ แสดงปาฏิหาริย์อีกครั้งใน พ.ศ. ๒๔๕๗  คราวหลังนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สน้างพระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศไนยประดิษฐานไว้บนชาลาพระที่นั่งพิมานปฐม  เมื่อเสด็จสวรรคตแล้ว  และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กระทรวงมหาดไทยใช้พระราชวังสนามจันทร์เป็นศาลารัฐบาลมาณฑลนครไชยศรีแล้ว  จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้ชลอพระที่นั่งองค์น้อยนั้นไปไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครมาจนบัดนี้

พระปฐมเจดีย์มองจากคลองเจดีย์บูชา

พระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศไนยบนชาลาพระที่นั่งพิมานปฐม  และที่พิพิธภัณฑสภานแห่งชาติพระนคร

อาคารทางขวาภาพ คือ ตึกโรงเรียนราชกุมาร  ริมประตูพิมานไชยศรี  ในพระบรมมหาราชวัง
โรงเรียนนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเป็นสถานที่เล่าเรียนของพระราชโอรสและบุตรหลานข้าราชบริพาร  เมื่อพระราชกุมารทรงจบการศึกษาชั้นต้นและเสด็จไปทรงศึกษาต่อต่างประเทศแล้ว  ได้พระราชทานตึกนี้เป็นที่ตั้งโรงเรียนมหาดเล็กของกระทรวงมหาดไทย 

ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อแรกพระราชทานกำเนิดโรงเรียนมหาดเล็กหลวงในวันที่  ๒๙  ธันวาคม  ๒๔๕๓  ก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้โรงเรียนมหาดเล็กหลวงเปิดการเล่าเรียนที่โรงเรียนราชกุมารปีกด้านซ้ายติดประตูพิมานไชยศรี  จนถึงวันที่  ๑  มิถุนายน  ๒๔๕๔  จึงได้ย้ายไปอยู่ที่ตั้งปัจจุบันซึ่งในระชกาลที่ ๗ ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า วชิราวุธวิทยาลัย  ส่วนปีกด้ายจวาติดกับกระทรวงมหาดไทยที่ศาลาลูกขุนเดิม  คงเป็นที่ตั้งโรงเรียนมหาดเล็กที่โปรดพระราชทานนามใหม่ว่า โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อโรงเรียนนี้ย้ายไปอยู่ที่หอวังแล้ว  จึงได้มีพระบรมราชโองการให้ประดิษฐานเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เมื่อ  ๒๖  มีนาคม  ๒๔๕๙

ตัวอักษรพระนามย่อ ศกร. ค่ะ ยอมาจากพระนามของ สมเด็จเจ้าฟ้าศิริราช กกุธภัณธ์ฯ อัครวราชกุมาร
เป็นลายที่ก้นเครื่องถ้วยชุดจักรี ค่ะ ปัจจุบันมักเรียกว่าชุดเจ้าฟ้า

เป็นเครื่องถ้วยที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ได้มีพระราชประสงค์สร้างขึ้นเพื่อนำมาแจกในงานถวายพระเพลิงสมเด็จเจ้าฟ้าศิริราช กกุธภัณธ์ฯ อัครวราชกุมาร ซึ่งสิ้นพระชนม์ด้วยโรคอุจจาระมูกเลือด เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม จุลศักราช 1249 (พุทธศักราช 2430) ซึ่งมีพระชนม์มายุได้ 1 ปี 6 เดือน 4 วัน

พระองค์ได้สั่งทำถ้วยชาชุดจักกรีจากโรงงานทำเครื่องถ้วยที่มีชื่อของประเทศฝรั่งเศส คือ โรงงานแซร์ฟ โดยมอบให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพศาสตร์ศุภกิจ เป็นผู้สั่งทำ เพื่อนำมาพระราชทานเป็นของที่ระลึกในงานถวายพระเพลิงพระศพพระอรรคชายา และพระราชโอรส ธิดา รวม 4 พระองค์ ณ พระเมรุท้องสนามหลวงในปีจุลศักราช 1250 (พุทธศักราช 2431) คือ พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราช กุกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีชัย และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าตรีเพชรรุตมธำรง

เครื่องถ้วยชุดน้ำชาจักรีนี้เป็นที่ชาแบบจีนมีถ้วยชา เนื้อกระเบื้องอย่างดีบางแบบเปลือกไข่เป็นลายดอกเดชี่ ซึ่งตกแต่งด้วยการสอดเส้น สีทองบนพื้นสีต่างๆ ที่มีถึง 9 สี คือ สีขาว สีเหลือง สีชมพู สีแดง สีเขียว สีฟ้า สีน้ำเงิน สีดำ และสีทอง ซึ่งชุดสีทองนี้ลายดอกเดชี่จะมีสีต่างๆ บนฝาของเครื่องถ้วยจะเขียนลายจักรและลายตรี ซึ่งเป็นลายเครื่องหมายของราชวงศ์จักรี ดังนั้นจึงเรียก ชุดชาแบบนี้ว่า “ชุดจักรี” ทรงสั้งทำเป็น 2 ขนาด คือ ขนาดธรรมดาสำหรับพระราชทานเจ้านายหรือขุนนางชั้นสูง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ กับขนาดเล็กซึ่งเรียกว่า “ชุดเจ้าฟ้า” สำหรับพระราชทานเจ้านายฝ่ายในและที่ยังทรงพระเยาว์ ชุดน้ำชาจักรีนี้ถ้าเป็นเครื่องสังเค็ดของที่ระลึกงานพระเมรุเฉพาะของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์นั้น บนฝาถ้วยชามีสัญลักษณ์ของพระบรมราชวงศ์จักรี คือ จักรและตรี และที่ก้นถ้วยชาจะมีอักษรพระนาม ศ.ร.ก ไขว้ การจัดที่ชา ชุดน้ำชาจักรี มีการจัดต่างกันเป็น 3 แบบ คือ

      1. ชุดเครื่องไทยปั้นคู่ ประกอบด้วย ถาดรอง ปั้นชาแบบปั้นเท้าปุ่มพร้อมจานรองปั้น 1 คู่ และถ้วยตวง หรือที่เรียกว่า ถ้วยน้ำชาทรงบัวมีฝา 4 ใบ
      2. ชุดเครื่องจีโบ ประกอบด้วยถาดรอง ปั้นชาแบบปั้นเท้าปุ่มพร้อมจานรองปั้น 1 คู่ ถ้วยชงชาพร้อมฝาทรงจีโบ 2 ใบ และ ถ้วยตวงพร้อมฝาทรงจีโบ 4 ใบ
      3. ชุดแบบจีน ประกอบด้วยปั้นชา พร้อมอ่างรองทรงบัว 1 ใบ ถ้วยชาพร้อมฝา ทรงจีโบ 1 ใบ และถ้วยตวงปากคลื่น 4 ใบ

      สำหรับถาดรองชุดชามี 2 แบบ แบบหนึ่งเป็นแบบตะกร้าหวายสานมีหู 2 หู ตรงกลางถาดมีลิ้นหรือแผ่นรองฉลุข้อความว่า “งานพระเมรุ ท้องสนามหลวง ปีกุน 1249” ถาดรองชุดที่ชาอีกแบบหนึ่งเป็นถาดทรงกลมตัวขอบถาดสูงตกแต่งด้วยลายลงยาดอก เดชี่แบบเดียวกันลายถ้วยชา ขาถาดเป็นขาปุ่มทรงหัวเม็ด 4 ขา มีลิ้นหรือแผ่นรองรูปกลม ตรงกลางฉลุโปร่งลายอักษรพระนาม ศ.ร.ก. ไขว้

หนูดีดี เรียนถามว่า ถ้วยชาพร้อมฝา ทรงจีโบ เป็นอย่างไรคะ ต่างจากถ้วยทั่วไปอย่างไร...

แม่นแล้ว ชุดชาจักรีงามมากครับ คุณดีดี

จีโบ = หมวกโบราณ ขอบยาวลงมาปกหู เพื่อกันความหนาว เวลาไม่ใช้พับขึ้นมาได้

เรียนถามท่าน siamese ค่ะ  ;D
ชุดป้านชาน่ารักชุดนี้ ใครปั้นคะ ใช้ในงานอะไร และปัจจุบันยังอยู่หรือไม่คะ... ;D

แหมคุณดีดี เอาภาพนี้มาถามก็เขิลแย่  :-[ :-[ :-[

ชุดป้านชาที่สงสัยนี้เป็นการปั้นด้วยฝีมือของคนประหลาดคนหนึ่ง ซึ่งรู้มาว่าทำแบบนี้ตั้งแต่อายุราวได้ ๑๕ ปีเห็นจะได้ โดยปั้นเป็นเครื่องเบญจรค์และเครื่องเลียนแบบกระเบื้องหลายแบบ ขนาดจิ๋วเล็กประมาณเหรียญบาทบ้าง เหรียญ ๒๕ - ๕๐ สตางค์บ้างหรือว่าบ้าเลือดขนาดย่อส่วนเล็กเท่าเมล็ดส้มก็มี จนกระทั่งเมื่อราว พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้นำผลงานที่เคยทำมาทั้งหมดไปจัดแสดงนิทรรศการของจิ๋ว ทำให้ผู้คนพากันแตกตื่นว่ายังมีคนประหลาดๆ แบบนี้อยู่ด้วยหรือ ต่างพากันชื่นชมผลงานกระจ้อยร่อย อันนับไม่ถ้วน

ช่วงเวลาดังกล่าวสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ก็มาถ่ายทำไปออกรายการอยู่พอสมควร หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาฝีมือการปั้นให้งดงามยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์งานฝีมือคือ บูดๆเบี้ยวๆบ้างตามอารมณ์ของคนประหลาดนั้น

สำหรับเครื่องถ้วยชุดนี้สร้างขึ้นในราว พ.ศ. ๒๕๔๒ ทำเป็น collection ชุดเครื่องลายคราม จปร. เพื่อจัดแสดงนิทรรศการที่เขาเรียกให้ไปจัดแสดง โดยเขียนลายแบบ ยี่ยาว ถ้วยชาแบบจีโบ (อย่างที่คุณดีดี สงสัย) นอกจากนี้ยังจะมีชุดโถน้ำเย็น กระโถน อีกด้วยและเครื่องถ้วยลายครามชุดนี้ เคยได้ถ่ายภาพผลงานร่วมกับผลงานชิ้นอื่นๆลงนิตยสารที่แจกบนเครื่องบิน การบินไทย เพื่อโปรโมตงานของจิ๋ว ของย่อส่วนที่จัดขึ้นที่กรุงเทพเมื่อหลายปีมาแล้วครับ

ปล. นายประหลาด = นาย Siamese เองครับ  ;D ;D

คุณดีดี อยากทานกล้วยปิ้ง กลัวยทับ อร่อยๆไหม

"ชุดตลาดสองฝ่ามือ" มีคนตั้งชื่อให้เพราะขนาดเล็กมากโดยสามารถเอาฝ่ามือทั้งสองวางทับทั้งตลาดได้หมด ชุดตลาดนี้ออกอากาศ สะเก็ดข่าว ด้วยนะครับ

สวยงาม ละเอียดละออ น่ารักทุกชุดเลยค่ะ.. (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)
หนูดีดี จะไปหาสะเก็ดข่าวย้อนหลังมาดู จำวันที่ออกอากาศได้ไหมคะ ประมาณเดือนไหนคะ
คราวหน้าถ้านำผลงานไปแสดงนิทรรศการอีก แจ้งข่าวบ้างนะคะ  ;D
ชุดโตกมุก...เหมือนมากค่ะ เป็นสีระบายหรือประดับเปลือกหอยจริงคะ...

เข็มราชวัลลภ
เมื่อครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ทรงมีพระราชปรารภต่อกรมทหารมหาดเล็กฯ ว่า.. เป็นกรมฯ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาพระองค์อย่างใกล้ชิด และได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยเสมอมา จนถึงในรัชสมัยของพระองค์ จึงได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้มีการจัดทำ เข็มราชวัลลภฯ พระราชทานเป็นครั้งแรกแก่นายทหารมหาดเล็กฯ ทุกนายในปี พ.ศ.๒๔๖๗ ต่อมาในวาระวันราชวัลลภฯ ตรงกับวันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๘๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุยเดชฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเข็มราชวัลลภฯ แก่นายทหารมหาดเล็กฯ ในชั้นหลังอีกวาระหนึ่ง จากนั้นในวันราชวัลลภของปี พ.ศ.๒๕๐๖ ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเข็มราชวัลลภฯ แก่นายทหารมหาดเล็กตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๔๙๖ จนถึง ๒๕๐๖ ซึ่งยังมิได้รับพระราชทานฯ อีกเป็นครั้งที่ ๓ และในวาระที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศนายทหาร ร้อยตรี นายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ แด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ พระราชปิโยรส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๘ ซึ่งเป็นวันราชวัลลภฯ ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเข็มราชวัลลภฯ ด้วยในคราวเดียวกัน ณ กองบังคับการกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ
สำหรับการประดับเข็มราชวัลลภฯ นั้นสามารถประดับทับเครื่องแบบทหารได้ทุกชนิด เว้นเครื่องแบบปกติเสื้อคอพับ เครื่องแบบฝึก และเครื่องแบบสนาม โดยให้ติดที่อกเสื้อเบื้องขวา ถ้าเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานเข็มอักษรพระปรมาภิไธยย่อ สำหรับราชองครักษ์ที่พ้นจากตำแหน่ง และประสงค์ที่จะประดับเข็มทั้งสองชนิดพร้อมกัน ก็ให้ติดแนวเดียวกันโดยเรียงจากด้านดุมไปทางปลายบ่าขวา โดยให้เข็มราชวัลลภฯ อยู่ทางขวา แต่หากในโอกาสที่ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่อกเสื้อเบื้องขวา ก็ให้งดประดับเข็มราชวัลลภฯ

หมายถึงอะไรครับเข็มนี้

(http://image.ohozaa.com/i/96e/img_6693.jpg)

เข็มพระราชทานเสือป่าในราชการที่๖ พร้อมแพรแถบรามาธิบดี

เหรียญการประชุมกองเสียป่า รศ.130

เข็มหมั่นเรียน
ในปีพ.ศ.2465 พระราชทานเข็มหมั่นเรียนแทนหนังสือเพื่อให้ผู้ที่หมั่นเรียนประดับเหรียญเป็นเครื่องเชิดชูการหมั่นเรียน
ลักษณะของเข็มหมั่นเรียนนี้เป็นเข็มรูปพระมนูแถลงสาร มีอักษรว่าหมั่นเรียน พ.ศ. (ตามปี) ที่ได้รับพระราชทานอยู่ใต้แท่น มีสักหลาดสีน้ำเงินกรุด้านหลังเป็นเครื่องประดับ สำหรับติดที่อกเสื้อเหนือกระเป๋าเบื้องขวา
โดยลำดับขั้นของเข็มจะมี4ขั้นดังนี้
ขั้นที่1 เข็มทองคำลงยา สำหรับนักเรียนที่หมั่นเรียนติดต่อกันตั้งแต่ 4 ปี
ขั้นที่2 เข็มทอง สำหรับนักเรียนที่หมั่นเรียนติดต่อกันตั้งแต่3ปี
ขั้นที่3 เข็มเงิน สำหรับนักเรียนที่หมั่นเรียนติดต่อกันตั้งแต่ 2ปี
ขั้นที่4 เข็มทองแดง  สำหรับนักเรียนที่หมั่นเรียนตั้งแต่ 1 ปี
โดยนักเรียนจะขึ้นถึงขั้นต่อไปได้นั้นต้องได้รับพระราชทานรางวัลติดต่อกันทุกปี หากขาดในปีใดต้องนับหนึ่งใหม่
น.ร.ร. อนันต์ (หิรัญเวทย์)  หิรัญญะชาติธาดา เป็นนักเรียนราชวิทยาลัยคนเดียวในโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ที่ได้รับพระราชทานเข็มหมั่นเรียนจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึง4ครั้ง4เหรียญนับตั้งแต่ปีการศึกษา พ.ศ.2465 ,2466,2467และ2468อันเป็นปีสุดท้ายของโรงเรียนราชวิทยาลัยในสมัยที่ 3 ครับ

เข็มนภาธิปัตย์
ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ จะได้รับพระราชทานเครื่องหมายแสดงวิทยฐานะเรียกว่า “เข็มนภาธิปัตย์” ทำด้วยโลหะสีทอง เป็นรูปดาว ๕ แฉกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๔.๕ เซนติเมตร มีครุฑพ่าห์ขนาดกว้าง ๓ เซนติเมตร สูง ๒ เซนติเมตร อยู่บนช่อชัยพฤกษ์สีทอง ๒ ข้างๆ ละ ๙ ใบ ติดอยู่กึ่งกลางดาว ยอดมงกุฎของครุฑอยู่ทางแฉกยอดของดาว ด้านหลังของเข็มให้สลักยศ ชื่อ และชื่อสกุล ของผู้มีสิทธิประดับไว้ด้วย
ภารกิจของผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ ฯ ได้บ่งไว้ในลักษณะของเข็ม “นภาธิปัตย์” หรือดาว ๕ แฉก ซึ่งหมายถึงการวางแผน การจัด การสั่งการ การประสานงาน และการควบคุม สำหรับครุฑนั้น เป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ จึงมีความหมายรวมว่านายทหารฝ่ายเสนาธิการทุกคนพร้อมที่จะรับใช้องค์พระมหากษัตริย์ ด้วยความซื่อสัตย์และจงรักภักดี
ผู้มีสิทธิประดับเข็มนภาธิปัตย์ นอกจากจะเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ ฯ แล้ว ผู้มีสิทธิประดับอื่น ๆ ประกอบด้วย ข้าราชการกองทัพอากาศที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการเหล่าทัพ หรือสถาบันการศึกษาอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีหลักสูตรการศึกษาเทียบได้ไม่ต่ำกว่า หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนเสนา ธิการทหารอากาศฯ (การพิจารณาเทียบหลักสูตรเป็นหน้าที่ของกรมกำลังพลทหารอากาศ) และบุคคลที่กองทัพอากาศเห็นสมควรมอบเข็มนภาธิปัตย์ให้เป็นกิตติมศักดิ์

เข็มราชลัญจกรมหาสุรสิงหนาท
ตราพระราชลัญกรมหาสุรสิงหนาทนี้เป็นรูปพระลักษณ์แผลงศร ทรงหนุมานแผลงฤทธิ์ ออกศึกสงครามเป็นตราประจำพระองค์ของ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพรราชวังบวรสถานมงคล ในรัชที่ ๑เส้นรัศมีที่พุ่งออกมาโดยรอบ ภายในวงกลมสีแดง หมายถึง พระอัจฉริยภาพของพระองค์ ที่แสดงแสนยานุภาพแผ่ไพศาลไปทุกสารทิศส่วนขอบที่มีลักษณะเป็นเส้นร้อยคล้องต่อกันนั้น หมายถึง ความร่วมมือ ร่วมใจ ด้วยความสามัคคี เป้นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เข็มพระราชลัญจกรฯ เปรียบเสมือนภาระหน้าที่ของกำลังพลทุกนายในกองพลทหารราบที่ ๙ ที่จะต้องปกป้องคุ้มครองประเทศชาติ ด้วยความ องอาจ กล้าหาญ มีความสามัคคีเป้นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติให้มี และประดับเข็มราชลัญจกรมหาสุรสิงหนาท ได้ ตั้งแต่ ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๗
สำหรับการประดับเข็มราชลัญจกรมหาสุรสิงหนาท
ใช้ประกอบกับเครื่องแบบทุกชนิด ยกเว้น เครื่องแบบฝึก และ เครื่องแบบสนาม โดยประดับที่ปกกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย   ชิดขอบกระเป๋าเสื้อทางด้านขวาบน ถ้าเป็นเสื้อเครื่องแบบที่ไม่มีกระเป๋าบน
ให้ประดับให้ประดับเข็มนี้ บริเวณอกเบื้องซ้าย ในแนวเดียวกับกระเป๋าบนสำหรับเครื่องแต่งกายประเภท อื่นๆ เช่นชุดพระราชทาน,ชุดสากลนิยม,ชุดซาฟารี หรือ ชุดตรวจการ ซึ่ง ทุกชุดต้องเป็นชนิดผ้า และสีเดียวกัน สำหรับสุภาพสตรีที่แต้งเครื่องแบบราชการ ชุดทำงาน หรือชุดสุภาพ ให้ใช้ประดับที่คอเสื้อ หรือปกเสื้อด้านซ้าย

เหรียญชัย (เหรียญนารายณ์บันภาชัย) สร้างเมื่อ พ.ศ.2464 พระราชทานเพื่อเป็นที่ระลึกผู้ไปร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ประเทศฝรั่งเศส

ชนกลางอากาศอีกแล้ว


หมายถึงว่าผู้ที่จะประดับเข็มพระราชลัญจกรฯได้ คือทหารชายและทหารหญิงที่มีหน้าที่การงานในกองพลทหารราบที่ ๙ ใช่ไหมคะ

มีเครื่องหมายมาให้ดูอีกรูปหนึ่ง   ใครเคยเห็นบ้าง

เข็มกลัดทองคำลงยา ของเจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์)

ขอลองตอบของท่านอาจารย์เทาชมพู ดูนะครับว่าเป็น เข็มเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ

มีรูปมาให้ดูครับอยากทราบว่าเป็นเข็มอะไรครับ

อยากทราบว่าเป็นเข็มกลัดเนื่องในโอกาสอะไรครับ

เข็มกลัดตราพิณภายใต้พระจุลมงกุฏ ร.5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน เมื่อ ร.ศ.125 ( พ.ศ.2449 ) เนื่องในโอกาสอะไรครับ

มาถามอีกแล้วครับ 
เป็นเข้มกลัดอะไรครับ

ทราบแต่ว่าพระราชทานเจ้าจอมม.ร.ว. สดับ ลดาวัลย์ แต่ไม่ทราบว่าพระราชทานในโอกาสอะไรค่ะ

ฝากกระดุมจากทหารรักษาพระองค์ให้ดูครับ ตราอะไรกัน  ???

ตรานี้คงเกี่ยวข้องกับราชสุกลยุคลและวังอัศวินใช่หรือไม่

ภาพยนต์วังละโว้ก็ใช้ตรานี้เช่นกันครับ จากรูปมุมหนังสือ

เข็มนี้มีชื่อว่า เข็มสมาชิกสมาคมบำรุงเสือป่า  พระราชทานเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่บริจาคเงินบำรุงการเสือป่าเหล่าต่างๆ  ซึ่งจะต่างกันไปตามแพรแถบที่ประดับคู่กับเข็มนี้  สำหรับแพรแถบรามาธิบดีนี้คือ ผู้บริจาคเป็นผู้ที่สนับสนุนกิจการของกองเสนาหลวงรักษาพระองค์  ส่วนกองเสนาอื่นๆก็สอดแพรแถบตามสีหมานกองเสนานั้นๆ เช่น กองเสนารักษาดินแดนกรุงเทพฯ หมายสีเหลือง  กองเสนารักษาดินแดนนครไชยศรี หมายสีน้ำเงินเข้ม  กองเสนารักษาดินแดนอยุธยา  หมายสีแดงชาต  กองเสนารักาาดินแดนพายัพ หมายสีบานเย็น ฯลฯ

ถัดมาเหรียญเสือป่า  เป็นเหรียญที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่นายเสือป่าที่ได้มาร่วมสวนสนามถวายไชยมงคลในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช  วันที่  ๙  ธันวาคม  ร.ศ. ๑๓๐ (พ.ศ. ๒๔๕๔)  ณ สนามเสือป่า  พระราชวังดุสิต

เหรียญหมั่นเรียนของโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ใช้ติดกับแพรแถบสีน้ำเงินเป็นเครื่องหมายพระราชทานแก่นักเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ที่หมั่นเรียน

เข็มนี้คือ เข็มอักษรพระนามาภิไธย ร.พ. ในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี

เข็ม "เสาวภา" นั้นนเป็นเข็มอักษรพระนามาภิไธยในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง  ซึ่งทรงพระนามเดิมว่า "เสาวภาผ่องศรี"

ถัดมาอีกเข็มหนึ่งมีชื่อว่า "พระอัศวินยุคลเทพ"  คือ เทพบุตรคู่  กายเบื้องบนเปนอย่างมนุษ  สีหงสบาท  เบื้องล่างเปนม้าห้อ สีแดงชาต  มีดาราบนยอดชฎา
เข็มนี้มีที่มาจากธงประจำพระองค์นายเสือป่าที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่ นายหมู่ใหญ่  สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศวร์  เมื่อวันเสาร์ที่  ๒  กันยายน  ร.ศ. ๑๓๐ (พ.ศ. ๒๔๕๔) ที่พระราชวังสนามจันทร์  

พื้นธงสีดำเพราะประสูติวันเสาร์  ลายกลางผืนธงเป็นรูปพระอัศวินยุคลเทพ  มาจากพระนาม เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร  เบื้องบนมีอักษรว่า “ขัน์ธีรัสส ลํกาโร ขัน์ติตโป  ตปัส์สิโน”

ดุมเสื้อทหารรักษาพระองค์นั้นเป็นดุมเสื้อข้าราชการกองทัพบก  เป็นรูกพระมหามงกุฎอยูเหนือกงจักร
หน่วยทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ดุมพิเศษ มีอยู่ ๒ หน่วยคือ กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (เสื้อแดง) ใช้ดุมตราราชวัลลภ  เป็นอักษรพระบรมนามาภิไธย จ.ป.ร.ประดิษฐานบนโบว์ดูเหมือนจะมีคำว่าราชวัลลภบนแถบโบว์  มีพระมหามงกุฎอยู่เหนือ  กับอีกหน่วยหนึ่ง คือ กองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (เสื้อขาว คอข้อมือสีบานเย็น  หมวกยอดพู่สีบานเย็น)  ใช้ดุมตราอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ว.ป.ร. ในรัชกาลที่ ๖

กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ นี้มี ๔ กองพัน  กองพันที่ ๑ ๒ และ ๔ มีสร้อยนามกรมว่า ใหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ตามที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดขนานนามนี้ไว้ตั้งแต่วันที่  ๒๗  ตุลาคม  พ.ศ. ๒๔๕๓  เพื่อให้ปรากฏเป็นพระเกียรติยศในฐานะที่ทรงพระหากรุณาสถาปนากรมทหารนี้

แต่กองพันที่ ๓ กลับใช้สร้อยนามกรมว่า มหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ก็เพราะเดิมกองพันนี้มีชื่อว่า "กรมทหารรักษาวังของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว"  เป็นส่วนราชการทหารแต่สังกัดกระทรวงวังจึงใช้สีบานเย็น (สีประจำกระทรวงวัง) เป็นสีเหล่า  แทนสีแดงที่เป็นสีเหล่าของทหารราบ  ในรัชกาลที่ ๗ ทหารรักษาวังถูกยุบเหลือเพียง ๑ กองพัน (๒ กองร้อย)  แต่ก็เป็นเพียงหน่วยทหารหน่วยเดียวที่ได้ทำหน้าที่ถวายอารักขาล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๗ ด้วยความจงรักภักดี ในระหว่างที่คณะราษฎร์เข้ายึดอำนาจการปกครอง  ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว  กองทหารรักษาวังถูกแปรสภาพจากข้าราชการกระทรวงวังไปสังกัดกระทรวงกลาโหม  เปลี่ยนชื่อจากกองทหารรักษาวังเป็นกองพันทหารราบที่ ๙  เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลงกองพันทหารราบที่ ๙ ถูกจัดเป็นกองพันที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ของพระบาทสมเดจพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  แต่คงใช้สีเหล่าเป็นสีบานเย็นตามสังกัดเดิม  และได้รับพระบรมราชานุญาตให้เปลี่ยนสร้อยนามกรมเป็น มหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หีว  เพื่อรักษาเกียรติประวัติเดิมที่เคยเป็น กรมทหารรักษาวังของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อคราวฉลองอายุ ๙๐ ปีกรมทหารรักษาวัง ว.ป.ร. ในสมัยที่พันโท พัชร  รัตตกุล เป็นผู้บังคับกองพัน

เป็นเข็มกลัดชื่ออะไรครับและเนื่องในโอกาสอะไรครับ

^
เข็มราชนาวีสมาคมแห่งกรุงสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเข็มเงิน รูปช้างปาลิไลย์นั่งแนบฝั่งน้ำ งวงชูหม้อน้ำ ใช้ประดับ ติดที่อกเสื้อ เป็นเข็มที่รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชนาวีสมาคมแห่งกรุงสยาม จัดสร้างเข็มฯ นี้ขึ้น เพื่อพระราชทานเป็นการสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทุนทรัพย์ซื้อ "เรือรบหลวงพระร่วง"

มีเหรียญมาให้ทายบ้างค่ะ

เหรียญที่ระลึกฉลองกู่เจ้านายฝ่ายเหนือ เป็นรูปดาวหกแฉก มีตัวอักษร อ คือพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ด คือพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ด้านหลัง มีอักษร ฉลองกู่ ร.ศ.๑๒๘

 ;D

เข็มช้างชูหม้อน้ำนั้น  ในสมัยที่ยังใช้ธงช้างเป็นธงชาติใช้ติดบนแพรแถบสีแดง  แต่เมื่อเปลี่ยนธงชาติเป็นธงไตรรงค์ในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ แล้ว เปลี่ยนมาใช้แพรแถบริ้วสีธงไตรรงค์แทน

เงินบริจาคสมทบราชนาวีสมาคมแห่งกรุงสยามนี้  เมื่อซื้อเรือรบหลวงพระร่วงแล้วคงมีเงินเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง  ได้พระราชทานให้กองทัพเรือ  และกองทัพเรือได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งไปจัดสร้างประภาคารชุด "วชิร" ที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน  รวม ๖ แห่ง

นี่ตราของใครครับ มีคนบอกว่าเป็นตราออกรบของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใครรู้ช่วยบอกรายละเอียดหน่อยนะครับ

เป็นเหรียญตราที่ผูกขึ้นมาใหม่ครับ เรียกว่า ตรามหาเดช

เป็นดวงตรานำทัพ ปักไว้บนธงรบของพระเจ้าตากสินมหาราชตรานี้เป็นรูปพญาครุฑ ทรงจักร อัญเชิญ เพชรเปล่งรัศมี ตรงกลางของเพชรมีเครื่องหมายอุณาโลม อันหมายถึงความสำเร็จเจริญรุ่งเรื่อง ดวงตรามหาเดชนี้เป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ และทรัพย์สินเงินทอง ตลอดจนความผาสุก สิริสวัสดิ์ เป็นมงคลทั้งตนเอง และบริวาร แก้อาถรรพณ์ ปราบศัตรู แพ้ภัยง่ายดาย ใครบูชาตรามหาเดช สำเร็จทุกเรื่อง ดังที่ตั้งสัจอธิฐาน อ้างมหาเดชชานุภาพ มหาเดชบารมีพระเจ้าตากเป็นปฐม

มหาเดชนุภาพของดวงตรานี้ในอดีตกาล กองทัพพระเจ้าตากสินมหาราชประจักษ์อานุภาพมหาบารมีของตรานี้ดีนัก ทัพพระเจ้าตากที่ไปรบ ที่ใด มีแต่ชัยชนะ สำเร็จตลอดเวลา ตรานีเป็นเกียรติภูมิ และบารมีมากเสริมมงคลแห่งชัยชนะ ความเจริญรุ่งเรื่อง อำนาจบารมีก้องเกียงไกล ท่านเจ้าคุณฯสร้างตรานี้อย่างโบราณตามหลักพิชัยสงคราม


แต่เบื้องต้นต้องไปหาเอกสารด้านธงโบราณว่ามีแบบนี้จริงหรือไม่ อย่างไรตามที่ผูกตรา คิดว่าน่าจะเป็นการผสมสัญลักษณ์หลาย ๆ อย่างมารวมกัน แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว ตรานี้ผูกขึ้นใหม่ มิใช่ของเก่าดังที่ยกอ้างมาครับ

ตรามหาสุริยมณฑล
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงค์ ทำด้วยทองคำเป็นรูปกลมกลีบบัว 7.0 ซ.ม. ลงยาราชาวดี จำหลักเป็นรูปพระอาทิตย์บุษบก ทรงราชรถเทียมราชสีห์ มีฉัตรขนาบช้าง อยู่ในวงกรอบประดับเพชรกลีบบัวประดับเพชรและทับทิม สำหรับประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย

เป็นตราอะไรครับ

มาอีกรูปหนึ่งครับ ไม่ทรายว่าเป็นตราอะไรมอบให้เนื่องโอกาสอะไรครับ

ใครมีตราประจำสมเด็จพระปิ่นเกล้า และพระโอรส กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ บ้างมั้ยครับ อยากเห็นครับ  :-[

ตราประจำสมเด็จพระปิ่นเกล้า น่าจะใช่นะครับ

ที่มา.....http://www.wangdermpalace.com/kingpinklao/thai_pinklao.html

ดวงตราพระยมทรงสิงห์

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=22043;image)

สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นดวงตราตำแหน่งกรมพระนคร พระราชทานแก่เจ้าพระยายมราช ทำด้วยทองคำเป็นรูปกลมกลีบบัว ๖.๕ ซ.ม. ลงยาราชาวดี จำหลักเป็นรูปพระยมทรงสิงห์ อยูในวงกรอบเพชรระหว่างกลีบบัวฝั่งทับทิม สำหรับประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย

ดวงตราราชสีห์

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=22044;image)

สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นดวงตราตำแหน่งสมุหนายก พระราชทานแก่เจ้าพระยาภูธราภัย ทำด้วยทองคำเป็นรูปกลมกลีบบัว ๖.๕ ซ.ม. ลงยาราชาวดี จำหลักเป็นรูปราชสีห์ มีพระจุลมงกุฎบนหลัง ล้อมเพชรกลีบบัวฝังทับทิม สำหรับประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย

 ;D

ขอบคุณมากสำหรับคำตอบที่ให้มาของ คุณเพ็ญชมพู ครับ

 

คุณวีรชัยหาสามารถหารายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อื่น ๆ ได้ที่ บล็อกของคุณ Insignia Museum

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=klongrongmoo&month=10-01-2009&group=4&gblog=20

 ;D

เข็มนี้หน้าตาน่ารักดี  ไปเจอเข้าโดยบ้งเอิญในบล็อกของ Insignia Museum

(http://www.bloggang.com/data/klongrongmoo/picture/1295880781.jpg)

เป็นเข็มรางวัลสวนครัว ยุคจอมพลป. พิบูลสงคราม ส่งเสริมให้ประชาชนทำสวนครัว เลี้ยงสัตว์ ปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ขุดบ่อเลี้ยงปลา  สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ และยาวนานมาจนถึงสงครามโลก

เครื่องหมายอะไร ของท่านใดคะ... ;D

วันนี้นอนไม่หลับ...
มีเครื่องหมายที่ไม่ค่อยเคยเห็นมาถามกันอีกค่ะ...
เครื่องหมายอะไร ของท่านใดคะ

อีกอันค่ะ... ;D
เครื่องหมายอะไร ของใครคะ...

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=22093;image)

ตรา S.B.C. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงคิดตราสำหรับพิมพ์บนหัวกระดาษเขียนพระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ พระราชทานแด่เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ และพระราชทานพระบรมราชาธิบายความหมายของอักษรโรมันว่า

S หมายถึง "สดับ"  B หมายถึง "ภูมินทรภักดี"  C หมายถึง "จุฬาลงกรณ์"


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=22095;image)

ตราประจำพระองค์พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=22096;image)

ตราประจำพระองค์ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี

 ;D

เยี่ยมอีกแล้วค่ะ คุณเพ็ญชมพู (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)ตอบรวดเดียว 3 ชิ้นเลย...

มีอีกชิ้นค่ะ ถามไว้นานแล้วแต่ยังไม่มีใครตอบเลยค่ะ...

^
^
เส้นพระเกศาของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นำมาขดเป็นพระนามย่อ ว.อ.

 ;D

ส่งของสำคัญชิ้นหนึ่งให้รับชมครับ

กำไรงาช้าง  มีอักษรพระบรมนามามาภิไธย "ราม ร." ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  กูเหมือนจะเป็นของส่วนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี

ของสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง

 ;D

ที่จริงกำไลงาช้างนี้เป็นงาช้างพระเศวต ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ พระราชทานแก่หม่อมเจ้าศรีสอางค์นฤมล เกษมสันต์ ขอรับ ;)

คุณเพ็ญชมพู เยี่ยมจริงๆ เลยค่ะ(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image) นับถือ นับถือ...

น่าจะเป็นชิ้นเดียวกับ # ๓๔๗

เครื่องหมายอะไรคะ... ;D
ที่เขียนว่า ที่ระลึก หมายถึง ที่ระลึกเนื่องในโอกาสอะไร คะ

เครื่องหมายนี้ ผูกอักษรได้งามแท้ อะไรครับ  ???

เรื่องของกระดุม

แล้วภาพนี้ล่ะคะ คืออะไร เครื่องหมายอะไร ของใคร มีประวัติอย่างไร คะ... ;D

พาทยโกศล

เก่งมากครับผม ท่านรู้ได้อย่างไร  ???

ตรา พ.ศ. นี้ย่อมาจาก พาทยโกศล ผมถ่ายไว้เมื่อไปเยือนบ้านเครื่องของจางวางทั่ว ซึ่งผูกลายโดย สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศนานุวัติวงศ์ ซึ่งในขณะนั้นคณะดนตรีวงพาทยโกศล ได้เป็นวงดนตรีไทยในสังกัดของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ และไปเล่นที่วังบางขุนพรหม

กระทู้นู้น พูดเรื่องพระบรมรูปทรงม้า เลยมีเหรียญพระบรมรูปทรงม้ามาให้ชมค่ะ  ;D
งานรัชมังคลาภิเษก

ภาพนี้ถามค่ะ  ;D
อะไร ของท่านใด...

เข็มอักษรพระนาม พ ร ในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี  ที่ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานแก่ราชบริพารในพระองค์
 

คุณV_Mee เยี่ยมเลยค่ะ (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)

ยกตามมาค่ะ....


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=22205;image)

บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้านั้น ด้านทิศเหนือจะเป็นพระที่นั่งอนันตสมาคม ด้านทิศตะวันตกจะเป็นสวนอัมพร ด้านทิศตะวันออกจะเป็นสนามเสือป่า และด้านทิศใต้เป็นถนนราชดำเนินนอก

บนพื้นทางด้านขวาของพระบรมรูปทรงม้าจะมีเส้นตีไปทางขวาเข้าหาประตูทางเข้าสนามเสือป่า

บนแนวเส้นนั้นจะมีหมุดโลหะฝังอยู่บนพื้นถนน  นิยมเรียกกันว่า หมุดคณะราษฎร เป็นตำแหน่งที่พระยาพหลพลพยุหเสนาอ่านประกาศคณะราษฎร มีข้อความว่า

"ณ ที่นี้ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎรได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญเพื่อความเจริญของชาติ"

ภาพหมุดคณะราษฎร์ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ (http://www.oknation.net/blog/Joseph/2010/08/19/entry-1)

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/980/14980/images/Politic/kanarat/2.jpg)

หมุดคณะราษฎร์อยู่ในอันตราย

 :o

ภาพหมุดคณะราษฏร์ หามาให้ชม เนื่องจากอยู่ในเทศกาลใช้สิทธิใช้เสียงตามระบอบประชาธิปไตย ค่ะ  ;D
ว่า 80 ปี ล่วงไปนับจากวัน "ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญเพื่อความเจริญของชาติ"....ชาติเจริญไปแค่ไหนแล้วหนอ.......

เขาบอกว่า เข็มกลัดพระราชทาน ....
แต่ไม่ได้บอกว่าเนื่องในโอกาสอะไร..ท่านใดทราบบ้างคะ

อีกชุดค่ะ กองทัพพายัพ ท่านใดทราบความหมาย และประวัติบ้างเอ่ย... ;D

เข็มที่มีอักษรพระบรมนามาภิไธย จ.ป.ร.นั้น คือ เข็มสมาชิกสภากาชาดสยาม  สร้างขึ้นในีชกาลที่ ๖  และต่อเนื่องมาจนถึงยุคก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง

ส่วนเข็มกลัดไทตามสัญลักษณ์กองทัพพายัพนั้นไม่ทราบที่มา  ทราบแต่เพียงว่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีการจัดตั้งกองทัพพายัพ  มีป๋าผิน พลโทผิน  ชุณหะวัน (นศในขณะนั้น) เป็นแม่ทัพ  พลตรี หลวงหาญสงคราม (ฟ้อน  สุงรรณไศละ หาญสงคราม) เป็นเสนาธิการ  กองทัพพายัพถูกส่งขึ้นไปขัดตาทัพที่เชียงตุง  คุณหลวงหาญฯ ท่านเล่าว่า ไปขัดตาทัพจรงๆ เพราะไม่ได้รับกับจีนหรือกองทัพพันธมิตรเลย  วันๆ ได้แต่เล่นละครหลอกญี่ปุ่นเท่านั้น  ตกกลางคืนคุณหลวงหาญฯ ก็ข้ามไปเจรจากับพันฑมิตรที่จุงกิง  เล่นละครกันอยู่เช่นนี้จนสงครามเลิก  ทางราชการสั่งยุบกองทัพพายัพปลดประจำการทหารในสนาม  บรรดาทหารในกองทัพพายัพเลยต้องเดินนับไม้หมอนกลับกรุงเทพฯ กันตามอัทธยาศัย

กระดุมเครื่องแบบกองทัพพายัพเป็นรูปสมเด็จพระนเรศวรทรงช้างศึก

เข็มกลัดสมาชิกสภากาชาดสยาม นี้ที่บ้านผมมีอยู่ด้วย เคยได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบัน รูปร่างหน้าตาแบบเดียวกัน ซึ่งทางสภากาชาดคงไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบ ด้านหลังจะสลักรายชื่อไว้พร้อมหมายเลขกำกับ ใส่มาในกล่องหุ้มหนังแบบหีบกำปั่นเล็ก ๆ น่าเอ็นดู

เข็มสมาชิกกิตติมศักดิ์ สภากาชาดไทย

มีมาถามกันอีกค่ะ... ;D
เครื่องหมายอะไร ของท่านใด ค่ะ

แหนบนาฬิกาพก ของพระราชทานจากรัชกาลที่ ๖ โดยพระองค์ทรงพระราชสมภพ ปีมะโรง หรือ งูใหญ่ ผูกอักษร ม.ว. ภาพใต้เศวตรฉัตร ๗ ชั้น

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)

แล้วกล่องอันนี้ละคะ ... ;D
กล่องอะไร ของท่านใด มีประวัติความเป็นมาอย่างไร

พระนามอักษรท่านใดเอ่ย

แหนบอักษรพระนามาภิไธยประกอบสัปตปฆลเศวตรฉัตรนั้น  เป็นแหนบสายนาฬิกาอักษรพระนามาภิไธยในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร  พระนามาภิไธยย่อ ม ย่อมาจาก มหา  ว ย่อมาจาก วชิราวุธ  ส่วนพญานาคนั้นคือปีมโรงนักษัตรถ฿กต้องแล้วครับ

มูลเหตุที่เกิดอักษรพระนามาภิไธยย่อนี้มาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงผูกตราประจำพระองค์ถวายเมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จนิวัติพระนครเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๕ แล้ว

สมเด็จเจ้าฟ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ได้กราบบังคมทูลว่า พระตราตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  ที่เดิทเป็นรูปพระเกี้ยวมีขนนกการเวกแซมนั้นไม่ต้องด้วยพระนามาภิไธย  ทั้งยังหามูลที่มาไม่ได้นอกจากเป็นการเลียนแบบตราประจำพระองค์ปรินส์ออฟเวลส์  ส่วนพระตราในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ มยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงใช้อยู่ในเวลานั้นก็เป็นรูปเพชรมีอุณาโลมอยู่เหนือ  ซึ่งก็ไม่ตรงกับพระนามาภิไธยนัก  เพราะพระนามาภิไธยมีความหมายอาวุธของพระอินทร์คือสายฟ้า  สมควรที่จะเลือกใช้รูปวัชระแบบที่นิยมกันในธิเบต  จึงทรงผูกลายพระตราประจำพระองค์เป็นพระวชิราวุธแนวนอนมี ๒ คม หมายถึงพระนามาภิไธย วชิราวุธ  กับมีสัปตปฎลเศวตฉัตรหรือฉัตร ๗ ชั้นอยู่เหนือ  หมายถึงทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมาร  จากนั้นจึงมีการแปลงพระตราเป็นอักษรพระนามาภิไธยย่อ ม ว มีฉัตร ๗ ชั้นอยู่เหนือ

กล่องสีดำถัดลงมาน่าจะเป็น ซองบุหรี่หนังมีตราภาณุรังษี  เป็นของพระราชทานใน จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงษฺวรเดช  หรือ "สมเด็จวังบูรพา"

อักษรพระนามถัดลงมาเป็นอักษรพระนามย่อใน จอมพล จอมพลเรือ สมเด็จพระจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต

นำมาให้ดูบ้างค่ะ  ใครเคยเห็นบ้าง

เข็มพระราชทานเป็นที่ระลึก เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ๕ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕

 ;D

นำของงาม ๆ มาให้ชมกันครับ

เครื่องหมายอะไร...ของท่านใดเอ่ย... ;D

ตราสัญลักษณ์ ครบ ๑๕๐ ปี วันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD_%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%86%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2) (๑๖ ธันวาคม ๒๔๐๒ — ๒๕๕๒)

 ;D

ถูกต้องอีกแล้วคร้าบ....(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)

คำถามตกค้าง





ถามคุณหนุ่มว่า รัชกาลที่ ๖ ท่านพระราชทานแก่ผู้ใด

 ;D

^
^
กำไลงาช้างเผือกของขวัญพระราชทานของรัชกาลที่ ๖ แด่พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีในรัชกาล ที่ ๖ ครับ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)  (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image) (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)

สวัสดีครับ.. ;D
คอมฯเดี้ยง ก็เลยหายไปหลายวัน
กลับมาดู โห... กระทู้หล่นไปหลายวัน
วันนี้ ขอเอากล่องใส่กลักไม้ขีด เนื้อเงิน มาให้ชมกัน ..ใครเอ่ย?

ของใครหนอ

 ???

เปนหนึ่งในตระกูล "บุนนาค " ครับ ;D

ผ่านมายี่สิบกว่าวันแล้ว ยังไม่มีใครตอบได้

คงได้เวลาคุณ "ตาแก่" เฉลยได้แล้วกระมัง

 ;D

ของนายชิต  บุนนาคมั้งครับ ลูกเสือคนแรกของไทยเห็นไอตรงกลมๆ

ลูกดสือคนแรกของไทยชื่อ ชัพน์  บุนนาค ครับ
ต่อมารับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น นายลิขิตสารสนอง 

เข้าคิวรอคุณตะเข้เข้ามาเฉลย 

ดึงกระทู้ขึ้นมาอีก   ยังค้างคำเฉลยรูปข้างบนนี้อยู่ค่ะ
มีล็อกเก็ตเพชรงดงามมาให้ดูกัน    ใครรู้จักบ้าง

พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วัสดุกระเบื้องบิสกิต นูนต่ำ ทำจากโรงงานแซฟ ประเทศฝรั่งเศส พระบรมรูปนี้ผลิตขึ้นเป็นพิเศษเมื่อครั้งเปิดรับบริจาคสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราชล้อมเพชร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ทรงบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบทุนสร้างอาคาร และทรงเชิญพระบรมรูปมาล้อมเพชร เข้าเรือนเป็นเข็มกลัดฉลองพระองค์  เป็น ๑ ใน ๗ สิ่งของพระราชทานเพื่อทำการประมูลโดยรายได้จากการประมูลและบริจาคจะทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อพระราชทานสมทุบทุนมูลนิธิสายใจไทย ก่อนสิ้นพระชนม์ไม่นาน

สวัสดีครับ.. ;D

ก่อนอื่นต้องขออภัยผู้ที่ติดตามกระทู้นี้ด้วยครับที่หายไปนาน
เนื่องจากคอมฯเดี้ยง ๒ รอบ เนื่องจากเก่าชราเหมือนเจ้าของ :-[
สุดท้ายต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ :-\

แต่ ข้อมูล เก่าๆ ที่เซฟไว้ กู้ได้ไม่ครบ :-\ รวมทั้งข้อมูลกล่องใบนี้ด้วย
ผมเองก็เลยตอบมิได้ :-[
และใช้ความจำในหัว ก็ไม่แน่ใจ... ???

คำถามนี้ เลยกลายเป็น "ถาม" มิใช่ "ทาย"
รบกวนรอฟังจากผู้รู้ด้วยครับ

ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง...

ตะเข้แก่ๆ

ยินดีครับและข้อมูลก็เริ่มเก็บกันใหม่นะครับ สู้ ๆ

 สองอันนี้เป็นเข็มอะไรครับ

 อยาดทราบว่าเป็น เหรียญอะไร ครับ มีอักษรย่อ แปลว่าอะไรครับ
ขอบคุณครับ

#398  เป็นพระนามาภิไธยสมเด็จฯเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ    ส่วนเป็นเข็มในโอกาสอะไร   เห็นจะต้องถามคุณ V_Mee ค่ะ

ขอบพระคุณมากครับ อาจร์ชมพู อีดอันเอาไว้รอ คุณ V_Mee ครับผม

#398 เป็นเข็มอักษรพระนามในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ดังที่ท่านอาจารย์ใหญ่ว่าไว้  แต่ไม่ทราบว่าสร้างขึ้นในโอกาสใดเหมือนกันครับ  ดูคล้ายกับเข็มที่โแรดพระราชทานตอนฉลองพระชนมายุ ๘๐ พรรษา  แต่เข็มที่พระราชทานคราว ๘๐ พรรษาที่เคยเห็นก็ไม่มีลงยาแบบนี้

#399  รูปเข็มเป็นจักรคล้ายจักรหมายยศนายทหารนายตำรวจในสมัยก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ดาวหมายยศในช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง  แต่ดูจากอักษรที่ตรงกลางวงจักรเป็นอักษร ส ท บ  จะตีความหมายว่าเป็นอักษรย่อของ สโมสรทหารบก หรือ สื่อสารทหารบก ได้หรือไม่?

ต้องขอบคุณทั้งสอง ท่านมาก ครับ ที่กรุณาให้ความรู้
และมีรบกวนอีกเหรียญ ครับ ว่าพระราชทานในวโรกาสใด เมื่อใด ครับ
ขอบคุณครับ

เสมาพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.นี้  ปกติจะพระราชทานมาพร้อมบัตรพระราชทานชื่อครับ

เอาเข็มพระราชทานนี้มาให้ชมครับ

^
 
เข็มนี้ท่านได้แต่      ใดมา
..............      ....

โปรดสังเกตอักษรพระปรมาภิไธยในความเห็น ๔๐๓  เป็นรูปแบบที่หาได้ยากมากแล้วในปัจจุัน  เพราะทรงใช้ในช่วงแรกเสด็จนิวัติพระนคร  ก่อนที่จะทรงเปลี่ยนมาใช้เป็นแบบกลมดูเหมือนเมื่อคราวเสด็จเยือน ๑๓ ประเทศเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓

อักษรพระปรมาภิไธยแบบดังกล่าวแล้ว  อักษรพระนามาภิไธย สก ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็มีรูปทรงเป็นเหลี่ยมต่างจากที่ทรงใช้ในปัจจุบันเหมือนกันครับ

เข็มนี้ท่านได้แต่.........ใดมา  


จอมพิภพโลกา........ท่านให้

ทำชอบสิ่งใดนา........วานบอก

เข็มนี้ท่านได้แต่.........ใดมา


จอมพิภพโลกา........ท่านให้


ทำชอบสิ่งใดนา........วานบอก


ลูกหลานราชสกุลไท้....ท่านให้ทุกคน

 ;D

 ;D

^

ราชสกุลท่านหนึ่งหนา         มอบให้

เขารับพระราชทานมา   มากหลาย ฤาแม่

เข็มนี้ท่านได้แต่                ใดมา

ราชสกุลท่านหนึ่งหนา         มอบให้

เขารับพระราชทานมา         มากหลาย ฤาแม่

หายากนักต่างได้               หนึ่งชิ้นหนึ่งคน

.

^
 ???   ???   ???

คำนับด้วยความนับถือครับ

แต่ดูเหมือนมันจะเร็วไปหน่อย :D

งง  เลยตีความออกนอกทางไปไกลหลายโยชน์ค่ะ

ขออำภัยขะรับ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=27336;image)

เป็นเข็มพระราชทานแก่สมาชิกราชสกุลที่เข้าเฝ้า ณ พระบรมมหาราชวัง  เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบห้ารอบ ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕ ค่ะ

 ;D

^
อ้อ มันมีเลือดหัวตกยางออกด้วย

พามาฝากเนื้อฝากตัวกับท่านทั้งสอง

ผมเอาตัวบน คุณเพ็ญเอาตัวล่าง แบ่งกันคนละตัวก็แล้วกัน



ขอบคุณคะร้าบ

รับเอาไว้ด้วยความยินดียิ่ง

น้องหนูดีใจใหญ่เลย

 ;D

 ;D

สวัสดีครับ ขออนุญาตถามเพื่อหาคำตอบ เพราะผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ว่าเป็นเข็มพระราชทานในโอกาสใดครับ ขอบพระคุณครับผม

#๔๒๙  ในหนังสือที่ระลึกซึ่งมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดพิมพ์ในโอกาสที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอราธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชะประมรรศนีย์ (พิพิธภัณฑ์พระบรมรูปหุ่นขี้ผึ่ง) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อวันที่  ๒๘  กันยายน  พ.ศ. ๒๔๓๗ ระบุว่า เข็มนี้เป็น แหนบสายนาฬิกาอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ว.ป.ร.พระมหามงกุฎ  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชทานแก่ข้าราชบริพารในวันขึ้นปีใหม่ ๑ เมษายน ๒๔๖๓

สวัสดีครับและขอขอบพระคุณในคำอธิบายครับคุณพี่ V_Mee.  ขออีกคำถามนะครับ อยากทราบว่าที่ห้อยคออย่างในรูปอันกลางนี้เป็นของพระราชทานหรือไม่ครับ หรือเป็นการทำขึ้นตามอัทธยาศัยของเจ้าของครับ เพราะเข็มสองอันริมนั้นทราบว่าเป็นเข็มข้าหลวงเดิม ล้นเกล้ารัชกาลที่6ทรงให้สร้างและพระราชทานแก่ข้าหลวงที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทแต่ครั้งยังไม่ขึ้นครองราชย์จนครองราชย์แล้ว เรียกกันว่า "เข็มข้าหลวงเดิม" แยกเป็นฝ่ายหน้าและฝ่ายใน แต่อันตรงกลางไม่ทราบเลยจริงๆครับ...ขอบคุณครับผม

เข็มพระวชิราวุธองค์กลาง  เรียนตามตรงว่าเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกครับ
ส่วนเข็มข้าหลวงเดิมนั้นมี ๒ ขนาด  ขนาดสูง ๑๐ เซนติเมตร พระราชทานฝ่ายหน้า  ที่พระราชทานฝ่ายในขนาดสูง ๗ เซนติเมตร  ใช้ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย  ในเวลาแต่งกายเต็มยศหรือครึ่งยศประดับในแนวต่ำกว่าดาราเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ถาแต่งเครื่องแบบปกติใช้ประดับที่กึ่งกลางกระเป๋าเสื้อข้างซ้าย

เข็มข้าหลวงเดิมนี้พระราชทานแก่ผู้ที่ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กมาแต่ก่อนเสด็จดสวยราชย์ใน พ.ศ. ๒๔๕๓  และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ผู้ที่ได้รับพระราชทานประดับตกแต่งเข็มนี้ให้งดงามตามความต้องการได้  เช้นประดับเพชรที่คมพระวชิราวุธ  และสามารถจำลองไว้ประดับเครื่องแต่งกายลำลองได้ด้วย

ขอบคุณครับคุณพี่สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์

ด้านบนมีเหรียญพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. แล้ว ผมขอนำเหรียญนี้มาให้ชมครับ  :-[

^

คุณหนุ่มสยามยังไม่ได้มาเฉลยเหรียญนี้เลยค่ะ

ไม่มีใครอาสาเลยรึ  ???

รู้แต่ว่าเป็นเหรียญพระปรมาภิไธยย่อในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ   แต่พระราชทานในโอกาสอะไร เมื่อใด  ไม่ทราบ

เป็นเหรียญทองคำล้อมเพชร ทรงพระราชทานให้กับผู้ที่เข้าร่วมรับใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ช่วง พ.ศ. ๒๕๐๙ - ๒๕๑๑ ครับ

มาดูวัตถุชิ้นนี้กันสักหน่อย เป็นของพระราชทานครับผม  :-X

#๔๔๐ มีเข็มไอยราพต เครืองหมายที่ระลึกงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภศ ร. ๒ ธันวาคม ร.ศ. ๑๓๐ (พ.ศ. ๒๔๕๔)  ซึ่งในงานตนาวนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างฝาบาตรพร้อมเครื่องเขียนชุดมุกถวายเป็นที่ระลึกแด่พระราชาคณะที่ทรงนับถือ  มีอาทิ นาฬิกาปลุก  ปรอทวัดอุณหภูมิ  ที่ซับหมึก  ชองทุกชิ้นประดับตราไอยราพตสีทอง

รบกวนคุณ V_mee ทานอักขระให้สักเล็กน้อยขอรับ  ;D

จึงส่งภาพฝาบาตรประดับมุกมาให้ชม ถึงสมบัติแผ่นดินที่สวยงาม เป็นของพระราชทานแด่พระราชาคณะครับผม

วัตถุอีก ๑ ชิ้นที่ทรงคุณค่า ทำไมต้องทำเป็นรูปหมู คาบใบไม้ ๔ แฉก  ???

หมู - ปีกุน
ใบไม้สี่แฉก - สี่รอบ

 ;D

 ;)

สอบถามรอยบุแบงค์ร้อยคำว่า  PAID  มีความหมายว่าอะไรครับ

(http://image.ohozaa.com/i/7c5/GbFnT.JPG) (http://image.ohozaa.com/view/6ve92)

(http://image.ohozaa.com/i/737/59PgG.JPG) (http://image.ohozaa.com/view/6ve95)

PAID

(http://image.ohozaa.com/i/378/fBoQ9.JPG) (http://image.ohozaa.com/view/6vf7p)

รอยปรุบนธนบัตร PAID หมายถึง การจ่ายคืน / แลกคืนธนบัตร ทั้งนี้การจ่ายคืนคือการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกเก็บธนบัตรเหล่านั้นคืนเข้าคลัง หรือ เก็บส่งคืนหน่วยงาน หรือ แลกเปลี่ยนธนบัตรเพื่อแลกคืน จึงได้เจาะรูไว้เป็นเครื่องหมายว่า ธนบัตรนี้ได้ถูกแลกคืนเก็บเข้าคลังแล้ว ในตราไปรษณียากรก็มีระบบเช่นนี้ มีการประทับตรา "กรมเก็บ" ก็มีให้เห็นและหรือทำลายทิ้งไปเลยครับ

ขอบคุณมากครับคุณสยาม

ที่มีรอยปรุ Paid นั้น  เป็นการเรียกเก็บธนบัตรโดยการเปิดให้เล่นคาสิโนในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒  ซึ่งเป็นกุศโลบายเรียกเก็บธนบัตรที่ญี่ปุ่นพิมพ์มาใช้จ่ายหรือไม่ครับ

ขอประทานโทษคุณ Siamese ด้วยครับ  ที่เพิ่งจะมาเห็นภาพฝาบาตรประดับมุขที่เอามาฝากให้ผมทบทวนตัวอักษร  พอดีช่วงที่โพสมานั้นผมไปต่างจังหวัด  กลับมากระทู้นี้ก็ตกไปเลยไม่ได้เปิดดู

ตัวอักษรบนแพรแถบตอนล่างนั้นอ่านได้ว่า "พระราชพิธีบรมราชาภิเศกเบญจศก ศักราช ๑๒๓๕"  หมายถึง การพระราชพิธีบรมราชาภิเศกครั้งที่สองในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันที่  ๑๖  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๔๑๖  ภายหลังจากทรงลาสิกขาแล้ว

การพระราชพิธีบรมราชาภิเศกในรัชกาลที่ ๖ โปรดให้ทำเป็น ๒ ครั้งเหมือนกัน  ครั้งแรกเรียกว่า การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร  เมื่อวันที่  ๑๑  พฤศจิกายน  ๒๔๕๓  เป็นการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเต็มรูปแบบ  แต่งดการเลียบพระนครและการรื่นเริงเพราะอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ถวายรัชกาลที่ ๕  ส่วนการพระราชพิธีครั้งที่ ๒ เรียกว่า การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช เมื่อวันที่  ๒  ธันวาคม  ๒๔๕๔  เป็นการพระราชพิธีเต็มรูปแบบ  และทรงเชิญผู้แทนพระประมุขและประมุขจากนานาชาติมาร่วมงานครั้งนี้ถึง ๑๔ ประเทศ  ในงานพระราชพิธีครั้งที่ ๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ตราไอยราพรตเป็นตราสัญลักษณ์งานครั้งนี้ 

ภาพข้างล่างนี้เป็นภาพพัดไอยราพรต  ที่ระลึกในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชครับ

ฝากภาพงาม ๆ ให้คุณ V_Mee  เป็นภาพพัดรองที่ระลึกที่ถูกใช้งาน เป็นภาพพระราชภาวนาโกศล (หลวงปู่เอี่ยม) วัดหนังราชวราราม ธนบุรีครับ

อีกภาพ หลวงปู่ (ไม่ทราบนาม) กับพัดรองที่ระลึก

ภาพหลวงปู่ที่คุณ Siamese นำมาฝาก  ดูจากพัดยศแล้วน่าจะเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ในฝ่ายมหานิกาย  น่าจะถึงชั้นสมเด็จพระราชาคณะหรืออย่างน้อยก็เจ้าคณะรองหิรัญบัฏเลยละครับ 

วันนี้มีพัดรองที่หาชมยากมากๆ มาฝากคุณ Siamese เหมือนกันครับ  เป็นพัด "รัตนวราภรณ์" (รุ่นแรก) บำเหน็จความชอบในพระองค์ที่ดูเหมือนจะโปรดให้สร้างขึ้นถวายสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระราชแุปัธยาจารย์เพียงเล่มเดียว

 

ขอบคุณครับ ยังให้ภาพพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูป เป็นพัดรองที่ระรึกเช่นเดียวกัน หากแต่นมพัดต่างกัน

อ่านว่าอะไรครับ  สม.... ขอบคุณครับ


(http://image.ohozaa.com/i/99d/SlLa6H.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTCIKTTGpEk2qVwc)

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ

 ;D

ภาพในความเห็นที่ ๔๕๖ ที่คุณ Siamese เข้าใจว่าเป็นพัดรองนั้น  แท้จรองคือพัดรัตนาภรณ์ ว.ป.ร. แต่จะเป็นชั้นใดใน ๕ ชั้น ภาพไม่ชัดเลบดูไม่ออกครับ 
พัดรัตนาภรณ์ ว.ป.ร.นี้ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ โปรดให้สร้างขึ้นสำหรับถวายพระภิกษุที่ทรงคุ้นเคย  เช่นเดียวกับที่โปรดพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์เป็นความชอบแก่บุคคลธรรมดา

ภาพในความเห็นที่ ๔๕๗ นั้น  ตอนบนเป็นอักษรพระนามย่อ ววน ภายใต้ฉัตรขาว ๓ ขั้น  เป็นพระนามย่อในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์  วาสนมหาเถระ) สมเด็จพระสังฆราช  วัดราชบพิธ  ส่วนตอนล่างเป็นลายพระหัตถ์ทรงลงพระนาม สมเด็จพระอริยวงศาคตฐาณ ดังที่คุณเพ็ญชมพูบอกเล่าไว้ในความเห็นข้างบนครับ

ขอบคุณครับพี่  ;D

ทรงฉายในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ในวันรับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน)

รบกวนด้วยครับ เครื่องหมายของใคร ขอบคุณครับ

กระทู้นี้ มีคนสนใจเยอะดีนะครับ ลองติดต่อสอบถามทางเอื้อเสรีคอนเลคชั่นดูอีกทางก็ได้ครับ
เผื่อจะได้รายอะเอียดเพิ่มเติม

ความคิดเห็นที่ ๔๖๒ ภาพบน ไม่ทราบครับ
ภาพล่างเหมื่อนว่าเป็นเข็มนักเรียนเตรียมอุดมศึกษา
โรงเรียนผะดุงศิษย์พิทยา (ผ.พ.)บางชื่อครับ

ภาพบนในความเห็น ๔๖๒ คือ เข็มอักษรพระนาม ก.ศ. ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ  ซึ่งมีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค

เพื่อไม่ให้เป็นการเปลืองการตั้งหัวข้อกระทู้ใหม่นะครับ เลยขออนญาตนำเหรียญมาเผยแพร่บ้าง เพื่อให้ทานที่ทราบความเป็นมาอธิบายให้กระจ่าง

เหรียญนี้ขุดพบที่หน้าโรงหวยสะพานเหล็ก เมื่อไม่นานมานี้ สภาพดังภาพ มีพระราชลัญจกรด้านหนึ่ง

อีกด้านหนึ่งมีคำว่า "1/16 (หน้าเหรียญกร่อนอ่านไม่ได้)อันเป็นเฟื้อง"


คุณหนุ่มสยามไม่มาตามนัด เลย "อด" ได้ชมเหรียญตัวจริง        อ้ะ อ้ะ อ้ะ...

อีกเหรียญหนึ่งสภาพสึกกร่อนมากพอสมควร มาได้ฝีมือการถ่ายภาพที่แย่เข้าไปอีก

ภาพที่ได้มาจึงเป็นอย่างนี้

อนาคตยังมีเวลาครับผม ยังเจอกันอีกได้ครับ

สำหรับเหรียญที่ลุงไก่พบเจอนี้ เป็นเหรียญดีบุกที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ ชนิดราคา "โสฬศ" มีอักษรภาษาไทยว่า "สิบหกอันเปนเฟื้อง" และอักษรจีน และอักษรอังกฤษ เป้นเหรียญดีบุกที่ทำขึ้นราว พ.ศ. ๒๔๐๕ เนื่องจากรัลกาลที่ ๔ มีพระราชประสงค์ต้องการที่จะให้เป็นหน่วยสกุลเงินที่เล็กที่สุด แทนหอยเบี้ยซึ่งนับวันจะมีมูลค่าด้อยลงไป อีกทั้งการค้าได้เริ่มก่อตัวขึ้นไม่สะดวกที่จะมานับหอยเบี้ย จึงได้สร้างเหรียญกษาปณ์หน่วยย่อยใช้งาน คือ โสฬศ - อัฐ ด้านหน้าเป็นกงจักรมีช้างเผือกตรงกลาง ด้านหน้าเป็นพระมหาพิไชยมงกุฎ กระหนาบข้างด้วยฉัตร พร้อมดอกไม้เครือเถา

อันนี้เป็นเหรียญอีแปะแบบจีน ตรงกลางเจาะรูปสี่เหลี่ยม อีแปะจะมี ๒ หน้า หน้าหนึ่งเป็นอักษรแมนจู สองตัวอักษร อีกหน้าหนึ่งเป็นอักษรสี่ตัว บอกรัชสมัยของจักรพรรดิ์จีนที่สร้าง เนื่องจากภาพไม่ชัด จึงไม่สามารถบอกรัชสมัยของเหรียญจีนได้ ซึ่งเหรียญอีแปะทำนองนี้ถูกยกเลิกใช้เมื่อสิ้นสุดราชวงศ์ชิง ค.ศ. 1911

สวัสดีครับเด้อครับ.. ;D

หายไปนาน ยังรัก/คิดถึงกระทู้นี้
เลยนำนาฬิกาพกมาฝากให้ชม
เดาตัวอักษรย่อว่า Pป หรือไม่ก็ Pช
คลับคล้ายคลับคลา แต่ผมเองก็ยังไม่ทราบคำตอบ ???

ขอรบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลาย ด้วยครับเด้อครับ.. ;D

มาทักทายคุณ takae ค่ะ  หายไปนาน
รอยสลักบนนาฬิกาพก ออกแบบสวยมาก     ได้แต่เดาว่า เจ้าของน่าจะชื่อ ป. ซึ่งสะกดเป็นภาษาอังกฤษว่า P.   เลยทำอักษรไทยอังกฤษไขว้กันไว้ทั้งสองตัว 

สวัสดีครับ อ.เทาชมพู.. ;D

ถามพี่ๆอีกแล้ว ขีดสีแดงพอจะหาชื่อจริงท่านได้ไหมครับ P.- NO.......

(http://image.ohozaa.com/i/b6f/aSwoSq.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wgQ9Lr2b5hRoouWA)

ควรอ่านได้ว่า Prince P. - Nobadol (ปรินส์ พี นพดล)

หม่อมเจ้าเพลิงนภดล  ระพีพัฒน์  ???

ไปเดินเตร็ดเตร่แถวสี่แยกพระยาศรี ก็พบเข้ากับภาพถ่ายในร้านยาแผนโบราณเข้า พูดคุยกันไปเรื่อยๆ เรื่องยาแผนโบราณ เลยขออนุญาตถ่ายภาพท่านเจ้าของร้านไว้

ทายาทท่านฝากถามมาว่าเหรียญที่ประดับบนเสื้อตามภาพนั้น คือเหรียญอะไร

เหรียญที่มองเห็นลายเส้นเหมือนตัวอักษร นั้นเป็นภาพถ่ายที่ทำการแต่งภาพโดยร้านมาอีกครั้งซึ่งเป็นกระบวนการตกแต่งภาพถ่ายด้วยพู่กันเล็ก ๆ ใช่ไหมลุงไก่ ซึ่งอาจจะทำให้เหรียญขาดในใจความสำคัญลงไป ผมมองอ่านไว้ว่า "จปร" ไขวัก้นนะครับ

ภาพนี้เป็นภาพเขียนครับ ไม่ใช่ภาพถ่าย

พี่ๆทุกท่านช้วยกันหาคำตอบด้วยนะว่า  Prince P. - Nobadol (ปรินส์ พี นพดล) ชื่อนี้มีอยู่จริงไหม 

เพราะว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการอ้างอิงของประวัติศาสตร์หนังสือนิยายไทยก็เป็นไง  ;D

ไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง
คงจะต้องขอให้คุณเพ็ญชมพูช่วยตีความ

คุณเจ้าของกระทู้หลังไมค์มาบอกว่าพิมพ์ผิดค่ะ
***********************
พี่ผมพิมพ์ผิด

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4423.465

หนังสือนิยายไทยก็เป็นไง

แก้ไขเป็น   หนังสือนิยายไทยก็เป็นได้

ขอบคุณครับพี่
**********************
(http://image.ohozaa.com/i/b6f/aSwoSq.jpg)

1   ชื่่อนี้มีอยู่จริง แน่นอน  เพราะเจ้าของลายมือในภาพข้างบนนี้เขาคงไม่อ้างถึงบุคคลที่ไม่มีตัวตน
2   ในเมื่อราชสกุล นพดล หรือนภดล ไม่มีในรายชื่อราชสกุล ก็ตีความได้อีกอย่างว่า Nobadol ที่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชื่อ   และมีตัวย่อนำหน้าว่า P.
3  เจ้านายระดับหม่อมเจ้า องค์เดียวที่เข้าเกณฑ์นี้คือหม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์  พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์       
4   ถ้าจะเกี่ยวอะไรกับนวนิยายอยู่บ้าง   ตอนนี้นึกออกแต่ว่าท่านเป็นพระอนุชาลำดับรองลงไปจากหม่อมเจ้าอากาศดำเกิง รพีพัฒน์  นักประพันธ์สำคัญท่านหนึ่งของไทย

คำว่า This book is presented by the kindness of Prince P.Nobadol    3/aug/1926  Prija
หมายความว่า   "หนังสือเล่มนี้ เจ้านายพระนามว่า P. Nobadol ประทานมาให้"   หรือ หนังสือเล่มนี้ได้รับมาจากเจ้านายพระนามว่า P.Nobadol" 
 คุณ Prija ผู้ได้รับหนังสือจึงเขียนระบุถึงที่มาของการได้หนังสือเอาไว้   

ทำไมการที่ใครคนหนึ่งให้หนังสือกับใครอีกคน จะสำคัญถึงขั้น "เป็นการเปลี่ยนแปลงการอ้างอิงของประวัติศาสตร์หนังสือนิยายไทยก็เป็นได้"  คะ   อยากรู้คำตอบ

หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%94%E0%B8%A5_%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C)

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%87_%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C

ม.จ. อากาศดำเกิง รพีพัฒน์ ทรงเข้ารับราชการในกรมไปรษณีย์ และกรมสาธารณสุขกระทรวงมหาดไทย ทรงสนพระทัยในการประพันธ์มาตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ โดยทรงร่วมกับนายกุหลาบ สายประดิษฐ์ ทำหนังสือ ในห้องเรียน เมื่อมาทำงานที่กรมสาธารณสุข ได้ทรงนิพนธ์นวนิยายเรื่องแรก คือ "ละครแห่งชีวิต" โดยที่สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ทรงประทานเงินทุนในการจัดพิมพ์ เมื่อพ.ศ. 2472 ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาสูงถึงเล่มละ 3.50 บาท แต่ปรากฏว่าขายหมดทั้ง 2,000 เล่ม จนต้องมีการพิมพ์ครั้งที่สอง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

http://th.wikipedia.org บอกว่าหนังสือ"ละครแห่งชีวิต"พิมพ์ พศ. 2472 
แต่หนังสือ ละครแห่งชีวิต ที่ผมมีดันเจ้าของเดิมเขียน พศ. 1926 น้อยกว่าปีที่พิมพ์ จีงเป็นเหตุให้ผมสงสัย ;D

ข้อมูลในวิกิพีเดีย อาจผิดพลาดได้ค่ะ   เพราะเป็นสารานุกรมเสรีที่ใครก็โพสต์ข้อความได้ 
ถ้าอย่างนั้น ละครแห่งชีวิตพิมพ์ครั้งแรกก็ต้องก่อนปี 2472  อาจจะตั้งแต่ปี  2469 ก็เป็นได้

น่าจะมีปี พ.ศ. ระบุไว้ในหน้าแรก ๆ ของหนังสือ

คุณคนเก่า (หากออกนามผิดกรุณาแจ้ง) ลองตรวจดูหรือยัง

หากระบุว่าพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ แสดงว่าเจ้าของเดิมเขียน ค.ศ. ผิด จากเลข 9 เป็นเลข 6

 ;D

ไม่มีปี พศ.บอกครับ  ตอนแรกพิมพ์1 ใบหุ้มน้ำเงิน  ตอนนี้เจอพิมพ์1ใบหุ้มปกสีแดง เลยไม่มีรู้พิมพ์ไหนก่อนหลัง

ผมเลยนับจำนวนคนปกหนังสือน้ำเงินได้ 6 คน ปกแดงได้ 9 คน เลยเป็น 2469 ;D ;D

(http://image.ohozaa.com/i/029/KYs1wS.jpg)(http://image.ohozaa.com/i/22f/E6ekD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wh1kppNueYgaHvwb)

เช็คจากกระทู้เก่า
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1477.0
เรื่องปีพ.ศ. ที่ "ละครแห่งชีวิต" พิมพ์เป็นครั้งแรก   พบหลักฐานจากข้อความของ "ศรีบูรพา" เขียนไว้ว่า

"เมื่อข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือละครแห่งชีวิต   โดยฝีปากหม่อมเจ้าอากาศดำเกิง ในปีพ.ศ. 2472   สวรรค์เป็นพยานว่าข้าพเจ้าได้อ่านรวดเดียวจบ   
ข้าพเจ้าไม่เคยอ่านหนังสือขนาด 500 หน้ารวดเดียวจบ 
ละครแห่งชีวิตเป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้ข้าพเจ้ามีความสำเร็จในการอ่านหนังสือ 
ข้าพเจ้าจับใจในความสามารถของเพื่อนผู้นี้อย่างยิ่ง"

ถ้าอย่างนั้นหนังสือ ละครแห่งชีวิตที่คุณ konkao มีอยู่  ถ้าเป็นพิมพ์ครั้งแรกก็ต้องพิมพ์พ.ศ. 2472   แต่ทำไมเจ้าของหนังสือถึงนับค.ศ. เป็น 1926 ก็ไม่อาจเดาได้  นอกจากว่านับผิด ควรเขียน 1929

ขอบคุณพี่ๆทุกคนจ้า  ;D

สวัสดีครับเด้อครับ.. ;D

ชิ้นสี่เหลี่ยมด้านขวามือ น่าจะเปนแหนบห้อยนาฬิกาพกนะครับเด้อครับ..

รบกวนสอบถามว่า ตรา 2 ดวงนี้ เป็นตราของพระองค์หรือท่านผู้ใดครับ

(http://image.ohozaa.com/i/g3e/GSuQTK.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wo7u6bnO60UZ11D6)


(http://image.ohozaa.com/i/63d/HaUL74.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wo7ucd1oV292yjEV)



ขอบพระคุณครับ

ตราดวงบนเป็นตราประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร

ความหมายในดวงตรา
ช่องบนซ้าย  พื้นเหลืองมีตราจักกับตรี  หมายถึงทรงเป็นพระบรมวงศ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์  สีเหลืองเป็นสีประจำพระบรมราชวงศ์
ช่องบนขวา พื้นที่สีชมพูมีตราจุลมงกุฎ คือ จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ พื้นสีชมพูเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพในรัชกาลที่ ๕
หมายว่าทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ช่องล่าง  เป็นเพชรเปล่งรัศมี  มีอุณาโลมอยู่หนือ  บนพื้นสีน้ำเงินประจำวันพระราชสมภพคือวันเสาร์  หมายถึงพระนามาภิไธย "วชิราวุธ"
ซึ่งแปลความว่า "อาวุธเพชร" เดิมพระตรานี้ไม่มีอุณาโลมอยู่เหนือ  เมื่อทรงรับสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ แล้ว  ล้นเกล้าฯ
รัชกาลที่ ๕ จึงโปรดให้เติมอุณาโลมลงไป  เพื่อให้มีความหมายว่า ทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมาร

เดาว่าเป็นละครแห่งชีวิต พิมพ์แรก (พิเศษ) ชำร่วยในงานเสกสมรส หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ 18 พฤศจิกายน 2472 หายากมากนะครับไม่เคยมีประวัติว่ามีการพิมพ์ใบหุ้มปกสีนี้มาก่อน เก็บไว้ให้ดีๆนะครับ

http://image.ohozaa.com/view2/wo7ucd1oV292yjEV

ย้อนกลับมาดูดวงตราดวงล่างอีกครั้ง  พอจะกล้อมแกล้มดำน้ำได้ว่า  ตราดวงนี้น่าจะเป็นเครื่องหมายในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
ตราดวงบนซ้าย ดูเหมือนพระอาทิตย์ลอยขึ้นเหนือน้ำ ซึ่งหมายถึงพระนาม บริพัตรสุขุมพันธ์
ตราดวงบนขวา  เป็นจักร  น่าจะหมายถึงทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก
ตอนล่างเป็นรูปราชสีห์และคชสีห์ยกขาหน้ากุมด้ามกระบี่
ราชสีห์น่าจะหมายว่า เคยทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีมหาดไทย
คชสีห์น่าจะหมายว่า เคยทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงกระลาโหม

ตราของผู้ใดหนอ   ;)

ตรานี้อยู่บนปกหนังสืออนุสรณ์ในงานเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ป.จ. , ม.ว.ม. , ป.ช. ณ เมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร วันอังคาร ๑๔ สิงหาคม ๒๕๒๗

ในเล่มมีเรื่องที่คุณวันดีเคยยกมาเป็นหัวข้ออภิปรายเรื่อง  คุณย่าท่านผู้หญิงละเอียด รู้จักแม่จันทร์ภรรยา "สุนทรภู่" (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3518.0)  และบทโคลง ปัจฉิมกาลอนุสรณ์  (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5571.msg120506#msg120506) จับความตามเนื้อเรื่องตั้งแต่คุณแปลกต้องลี้ภัยระหกระเหินไปเขมรจนถึงไปพำนักเป็นการถาวรที่ญี่ปุ่น


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

มาอีกแล้ว

ตราอะไรหนอ   ;)

ตรานี้คุ้นตา และอยู่คู่กับคนไทยมานานมาก ๆ

ผ = ผิน
จ = แจ่มวิชาสอน

ผจ = ผิน แจ่มวิชาสอน

คุณเทพกรลองขยายความอีกสักหน่อย

ผ และ จ หมายถึงคนสองคน  ผ คือ ผิน แล้ว จ คือใครหนอ   และกระต่ายชมจันทร์หมายถึงอะไร   ;)

จ  มาจาก เจียมวิจิตร หรือเปล่าครับ

จ เจียมวิจิตร เป็นนามสกุลของลูกเขยของ จ แรก

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

เครื่องหมายของวิเศษนิยม คือ อักษร ผ. จ. ไขว้อยู่ตรงกลางรูปกระต่ายชมจันทร์
ผ. และ จ. ย่อมาจากชื่อผู้ก่อตั้งทั้ง ๒ ท่านคือ
นางผิน แจ่มวิชาสอน และ คุณหลวงแจ่มวิชาสอน
นางผิน แจ่มวิชาสอนนั้นเกิดปีกระต่าย ส่วนคุณหลวงแจ่มนั้นเกิดตอนเดือนหงาย
จึงเป็นที่มาของรูปกระต่ายชมจันทร์
ในส่วนของรัศมีนี้คือรัศมีของดวงจันทร์ เพื่อแทนความหมายของกิจการที่เจริญรุ่งเรืองสว่างไสว

นางผิน แจ่มวิชาสอน ภรรยาของคุณหลวงแจ่มวิชาสอน เป็นผู้เริ่มปรุงยาสีฟันวิเศษนิยม จำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๔
จากตำราที่ได้รับมาจากท่านจมื่นสิทธิแสนยารักษ์ แพทย์แผนโบราณประจำโรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
ในเวลานั้น คุณหลวงแจ่มวิชาสอนรับราชการเป็นครูผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ ท่านเกิดป่วยเป็นโรคลักปิดลักเปิด
มีเลือดออกตามไรฟันและเหงือกบวมไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่หาย จนในที่สุดก็มาหายด้วยตำรายาของ ท่านจมื่นสิทธิแสนยารักษ์
ต่อมาท่านจมื่นได้มอบตำรายาให้แก่นางผิน ด้วยประจักษ์ในคุณงามความดี มีกตัญญู และความขยันขันแข็งของนางผิน
แต่แรกนั้น นางผินได้ปรุงยาเพื่อใช้ดูแลนักเรียน และแจกจ่ายให้ผู้ปกครอง และผู้ใกล้ชิด
รวมถึงในสมัยรัชกาลที่ ๗ มีการจัดประชุมลูกเสือทั่วประเทศ นางผิน แจ่มวิชาสอนจึงได้ทำยาสีฟันแจกลูกเสือที่มาในงานฟรี
เพื่อให้ได้ใช้กันอย่างทั่วถึงด้วยตัวยาสีฟันที่มีคุณภาพ ใช้แล้วเห็นผลดีเป็นที่ประจักษ์
จึงมีคนเรียกร้องให้ทำขาย จึงได้ทำยาสีฟันวิเศษนิยมออกขายแพร่หลายต่อมาจนปัจจุบัน

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้  ;D

หลวงแจ่มวิชาสอน (แจ่ม นิยมเหตุ) และคุณผิน แจ่มวิชาสอน (นิยมเหตุ)  มีบุตรหญิง ๒ คนคือคุณกฐินและคุณทิพย์

คุณกฐินสืบทอดกิจการ "วิเศษนิยม" ส่วนคุณทิพย์ สมรสกับ พ.ต.ต. เทียม เจียมวิจิตร มีบุตรคือคุณเทศภักดิ์ นิยมเหตุ (นักแปลในดวงใจ  ;) - ใช้นามสกุลของคุณตา) เป็นเจ้าของกิจการ "ทิพย์นิยม"   ;D

ไปเจอมาครับผม

ส่วนตรานี้ เคยได้ยินมานานแล้ว เพิ่งจะไปหาเจอครับผม เห็นว่ามีเวอร์ชั่นที่มีกรอบด้วยครับ มองดูคล้ายๆเป็นลูกศรชี้ขึ้นครับผม

ผมแกะอักษรได้ว่า "ป" และ "ว"

ใช่แล้วครับผม

ป ว  มาจากตราที่ตาลปัตรนี้ครับผม
องค์ต้นราชสกุลคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี
พระนามเดิม พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม เป็นพระราชโอรสลำดับที่ ๑๕ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแช่ม (กัลยาณมิตร) บุตรีพระยามหาอำมาตย์ (ชื่น)

หม่อมราชวงศ์ธวัชจันทร์ ประวิตร เป็นบุตรของ หม่อมเจ้าจิตร์ปรีดี ประวิตร ครับ
ข้อมูลจาก Wiki ครับ

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา หรือพระนามเดิม หม่อมเจ้าสุทธสิริโสภา จุฑาธุช
พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ที่ประสูติแต่หม่อมละออ จุฑาธุช ณ อยุธยา

ประสูติเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2464 มีพระอนุชาต่างมารดา 1 พระองค์ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช ทั้งสองพระองค์ได้รับการเฉลิมพระยศเป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2470

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา ทรงดำรงตำแหน่งผู้จัดการโรงเรียนราชินี
และประธานกรรมการมูลนิธิร่วมจิตน้อมเกล้าเพื่อเยาวชน จนพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541
พระชันษา 77 ปี
ข้อมูลจาก wiki ครับ

โดยส่วนตัวชอบตรานี้มากครับ เคยมีผู้เล่าให้ฟังว่า ทรงให้เจ้านายลูกหลานออกแบบให้ ซึ่งก็ออกแบบมาเป็นแบบนี้
ในตอนแรก ผู้ออกแบบก็เกรงว่าพระองค์อาจจะไม่ถูกพระทัย แต่พระองค์กลับถูกพระทัยมาก และเห็นว่าทันสมัย วัยรุ่นดี
มองแล้วคล้ายกับลูกศรชี้ขึ้นข้างบน ซึ่งถือว่าเป็นมงคล จึงทรงเลือกใช้ตรานี้เป็นตราประจำพระองค์ ครับ
ผิดถูดประการใด ชี้แนะได้นะครับ เพราะฟังเค้าเล่ามาอีกทอดหนึ่งครับผม

 ;D

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ถามพี่ๆ ;D เครื่องหมายหน่วยงานไหนครับ

(http://image.ohozaa.com/i/ac0/g6nXgM.jpg)

ของคุณดีดี และคุณเพ็ญชมพู

ตราประจำพระองค์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ปรากฏบนพัดรองที่ระลึกบำเพ็ญกุศลวันประสูติพระชันษา ๖๐ ปี กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ พื้นตาลปัตรเป็นผ้าสีเขียว (วันพุธ) ขอบพัดปักรูปนาค (มะโรงนักษัตร) ที่กลางตาลปัตรปักตราประจำพระองค์ ซึ่งเป็นตรายันต์พรหมวิหารภายใต้มงกุฎ กึ่งกลางยันต์เป็นตัวเฑาะว์ อีก ๔ ทิศเป็นอักษรขอมตัว ก (กรุณา) ม (เมตตา) อุ (อุเบกขา) ม (มุทิตา) นมพัดเป็นโลหะดุนนูนด้านหน้าเป็นรูปพระพรหมสี่กร พระหัตถ์ซ้ายบนทรงกมัณฑลุ (หม้อน้ำ) พระหัตถ์ซ้ายล่างทรงอักษมาลา (ลูกประคำ) พระหัตถ์ขวาบนทรงคฑา (กระบอก) พระหัตถ์ขวาล่างทรงปุสตกะ (คัมภีร์) นมพัดด้านหลังมีสลักข้อความ “งานพระชนม์พรรษา พระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ครบ ๖๐ ปี พระพุทธศักราช ๒๔๕๙

ที่มา http://www.kshemasanta.com/

เข็มโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ครับ เป็นอักษรย่อ ก.ศ. มาจากพระนามของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค กรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ

เกษม >>> เขมะ
ศรี >>> สิริ
เขมะสิริอนุสสรณ์ >>> ที่ระลึกถึงเกษมศรี

ขอบคุณครับพี่  ;D

ถามพี่ๆหน้าปัดนาฬิกา อ่านว่า วงเดือน พระ..... อะไรครับ

(http://image.ohozaa.com/i/622/yOh9jG.jpg)

ไม่ทราบว่า พวงมาลานี้ เป็นของพระองค์ใดครับ

เดาว่า Sirivanavari Mahidol ครับ

ตอนแรกก็เข้าใจอย่างนั้นครับ แต่เห็นพื้นพวงมาลาเป็นสีม่วง (สีของวันเสาร์)
แต่พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ประสูติวันพฤหัสบดี พื้นน่าจะเป็นสีส้ม
และพระองค์ก็มีพระนามย่อที่ปรากฏตามรูปนี้ครับ
เลยสงสัยว่าเป็นของพระองค์ใด เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน  ;D

ในดวงตรามีพระมหามงกุฎประดิษฐานเหนือตราจักรี  ระบุได้ว่าเป็นพระบรมวงศ์ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า
อักษร MV สีเหลืองน่าจะมาจากพระนามาภิไธย Maha Vajirilomgarana
และ S น่าจะมาจากพระนาม Sriratana

หัวเข็มขัดนี้ เป็นตราของพระจอมเกล้าฯ หรือไม่  ???

เครื่องหมายอะไรเอ่ย  ;D

ส.พ.ป.ม.จ.๕ (อักษรย่อของพระปรมาภิไธย "สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์")

 ถามพี่ๆป้ายชื่อ โรงเรียนทหารสราญรมย์  หรือเปล่าครับ

(http://image.ohozaa.com/i/45f/Tll5OI.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xEaVmygvGgBYkmdL)

ไม่ใช่โรงเรียนทหารสราญรมย์ครับ  แต่เป็นเครื่องหมายสมาคมสโมสรราษำร์สราญรมย์ของคณะราษฎร  สมาชิกสมาคมนี้คือกลุ่มคณะราษฎรผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕  มีที่ที่ตั้งสโมสรอยู่ที่เรือนกระจกในพระราชอุทยานสราญรมย์  จึงได้ชื่อว่า ราษฎร์สราญรมย์  คือ ราษฎร + สราญรมย์

ขอบคุณพี่ V_Mee มากครับ  ;D

โอ้ว เข็มสมาชิกสมาคมสโมสรราษฎร์สราญรมย์  เพิ่งเคยเห็นตัวจริงนี่เอง

ครั้งกระโน้น ใครที่ประดับเข็มนี้จะเสมือนมีบัตรเบ่งพิเศษ ตำรวจ ข้าราชการทั้งหลายต้องเกรงใจกันหนักหน่อย

สำหรับสมาชิกติดเสื้อน่าจะเป็นเหน็บลักษณะนี้ (ของจริงขนาดประมาณเหรียญสิบบาท)  ;D

ส่วนที่คุณคนเก่านำมาแสดงเป็นเครื่องหมายติดอยู่บนขันสาคร ลักษณะเหมือนดังในรูปทางขวามือ  ;D

อธิบายเพิ่มเติมตามคำของท่านรอยอิน  ;D

ขันสาครคือ ขันขนาดใหญ่ทำด้วยโลหะผสม ได้แก่ สัมฤทธิ์ ทองเหลือง ตัวขันเป็นทรงลูกมะนาวตัด ก้นขันมีเชิง ข้างขันทำเป็นรูปหน้าสิงโตปากคาบห่วงซึ่งใช้เป็นหูหิ้วข้างละหู ใช้บรรจุน้ำสำหรับทำน้ำมนต์หรือสำหรับผู้มีบรรดาศักดิ์ใช้อาบ.

สำหรับเข็มติดเสื้อจะมีลักษณะนี้  ;D

พี่ๆมากันเป็นชุดเลย  ;D

ถามอีกแล้วครับเจ้าตัวนี้ชื่อ  เกสรสิงหะ  ถูกต้องไหมครับ

(http://image.ohozaa.com/i/g67/JNujNq.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xHyrXVvY0vZWd2Bb)

ตัวซ้ายคือ ราชสีห์ ตัวขวาคือ คชสีห์  ;D

คชสีห์หัวจะเป็นช้างนะพี่  ;D

เพ็ญชมพู ตอบถูกแล้วครับขอบคุณมากครับ  :-[

ตัวย่อแบบนี้ีความหมายว่าอะไรครับ
 :(
(http://image.ohozaa.com/i/ea4/GY47Fw.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xI5KOqsOoxrdZ2CF)

ช่วยหน่อยครับ อะไร

เหมือนคำว่า "เจริญ"

รบกวนสอบถามเพื่อนสมาชิกเกี่ยวกับตราสัญลักษณ์นี้ว่าเป็นของท่านใดครับ ตรานี้อยู่บนเครื่องเงินที่น่าจะจัดทำในสมัยรัชกาลที่ 6 ครับ

(https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-0/q81/s480x480/18447548_1702124390089096_7638194117695889995_n.jpg?oh=f85c37d1ede464fd37eca068b92c98fa&oe=59ABC1A5)

เจอรูปนี้ ใครพอจะอธิบายได้บ้างครับว่าทำไมตัวหนังสือมันถึงหัวกลับครับ

ดูทรงเหมือนจะเป็นตู้เซฟโบราณเลยนะครับ อ่านไม่ชัดเลย

A Frankel bolt lock fire proof and thef resisting ครับ

ช่วยหน่อยครับตราอะไร

ต้องถามคุณหนุ่มสยามค่ะ

เห็นสามอักษร ก.ก.อ ถูกต้องไหม  ???

ก.ว.ก. หรือ ก.อ.ก.  ???

หน้าปกหนังสือเล่มนี้มีบางสิ่งที่น่าสนใจ

เครื่องหมายนี้คืออะไร  ;D
 

ตัวเหรา หรือคะ?

ดูชัด ๆ เครื่องหมายอะไร  ;)

ตัวเดียวกันหรือเปล่าคะ

น่าจะเป็นญาติฝ่ายจีนของเหรา  ;D

งั้น มังกร หรือ มกร

ถ้าหากจะกล่าวว่า มกร และ มังกร อยู่ในสายวิวัฒนาการเดียวกัน ก็น่าจะได้

ย้อนกลับไปในตำนานกรีก แพะทะเลเป็นสัญลักษณ์ของราศี Capricorn ไทยเรียกว่าราศีมกร หรือ มังกร  ในตำนาน แพะทะเลนั้นก็คือร่างแปลงของเทพแพน

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3296.0;attach=24947;image)

ยามเมื่อต้องหนีอสูรไทฟอนจนตกน้ำตกท่า เทพซุสต้องช่วยเปลี่ยนส่วนขาให้เป็นปลาเพื่อจะได้ว่ายน้ำได้คล่องแคล่วขึ้น

(http://xamdevesh.com/wp-content/uploads/2010/12/capricorn.jpg)

ยามเมื่อชาวอารยันบุกไปตั้งหลักแหล่งในชมพูทวีป  ก็ได้หอบหิ้วเอาแพะทะเลในตำนานกรีกนี้ไปด้วย แต่งหน้าทาแป้งเสียใหม่ให้ชื่อว่า มกร


มาถึงพม่าก็ยังคงหน้าตาเดิมอยู่


แต่พอมาถึงไทย สมัยอยุธยา อิทธิพลจีนดูจะมาเหนือแขกเสียแล้ว

มกร จึงกลายเป็น มังกร


จาก แพะทะเล จึงเป็น มกร และ มังกร ด้วยประการฉะนี้ แล  ;D

พอมาขึ้นฝั่งทางเหนือของไทย ก็กลายเป็นตัวมอม

ป.ล. ยังกลับไปที่หน้าปกหนังสือประวัติหลวงอุดมสมบัติไม่ถูกเลยค่ะ    เกี่ยวอะไรกับคุณหลวงหรือเปล่าคะ

เครื่องหมายนี้เรียกว่า "มังกรคาบแก้ว" หรือ "มังกรเล่นแก้ว" เดิมใช้เป็นพระราชลัญจกร แต่ไม่ทราบที่มา แต่สมเด็จฯ กรมพระยาดํารงฯ ได้ทรงสันนิษฐานไว้ว่า “...หวนรําลึกถึงพระราชลัญจกรเล่นแก้ว ซึ่งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงพระราชทานให้เป็นตราสําหรับโบราณคดีสโมสร ในประกาศก็เรียกว่าพระราชลัญจกร ถ้าพระราชลัญจกรองค์นั้นไม่ใช่สําหรับพระราชสาส์นไปเมืองจีนไซร้ คงสําหรับใช้ในการอย่างอื่นอันใดอันหนึ่ง พระราชลัญจกรองค์นั้นสังเกตดูแบบที่เขียนลายดูเป็นแบบเก่าถึงรัชกาลที่ ๑ มาคิดเห็นว่าจะสําหรับประทับพระราชสาส์นไปเมืองญวน (เวียดนาม) ดอกกระมัง... พระราชสาส์นที่ไปเมืองญวนเห็นจะไม่ประทับพระราชลัญจกรมังกรหก เพราะเป็นตราหองของจีน...”

เหตุที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้นําพระราชลัญจกรมังกรคาบแก้วมาใช้เป็นตรา “โบราณคดีสโมสร” (ค้นคว้าเรื่องโบราณอันเกี่ยวเนื่องในพงศาวดาร) นี้ มีปรากฏอยู่เมื่อครั้งพระราชพิธีรัชมงคล ร.ศ. ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๔๕๐) ณ พระที่นั่งสุริยาสอมรินทร์ พระราชวังโบราณ เมืองกรุงเก่า โดยทรงพระกรุณาโปรดให้ตั้งสมาคมฯ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (รัชกาลที่ ๖) ทรงเป็นอุปนายกสมาคมฯ ทรงมีพระราชดํารัสว่า “...การที่จะให้สโมสรนี้เป็นสโมสรสําหรับพระนคร จึงได้ยอมให้ใช้เครื่องหมายรูปมังกรคาบแก้ว อันเป็นพระราชลัญจกรโบราณอันหนึ่ง 

...เหตุไฉนจึงจะได้ใช้รูปนาคฤๅมังกรนี้ เหตุด้วยนาค แลมังกร ฤๅงู ย่อมเป็นที่นับถือมาแต่โบราณกาลในแถบประเทศเราทั้งหลาย ก่อนกว่าที่นับถืออย่างอื่นๆ อันได้นํามาในภายหลัง เพื่อจะให้เป็นเครื่องหมายว่า ความคิดความมุ่งหมายของสโมสรนี้ จะแสวงข้อความโบราณอันมีในระหว่างพันปี ตั้งแต่บัดนี้ขึ้นไป ...”

https://facebook.com/dharma.org/posts/712120328883990

หนังสือเล่มใดที่แต่งดี จะได้รับพระบรมราชานุญาตประทับพระราชลัญจกรมังกรคาบแก้ว อันเป็นตราของโบราณคดีสโมสร

จดหมายหลวงอุดมสมบัติก็อยู่ในเกณฑ์นี้  ;D

ส่วนอักษรใต้ตรา "มังกรคาบแก้ว"  

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=69639;image)

เป็นอักษรไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหง อ่านว่า "โบราณคดีสโมสร"

เป็นอักษรไทยแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ ๖  ที่ทรงดัดแปลงให้พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์อยู่ในบรรทัดเดียวกันครับ  แต่พระราชนิยมนี้ไม่เป็นที่นิยมของคนในยุคนั้นและรุ่นต่อมาจึงไม่ค่อยพบเห็น  ปัจจุบันคงมีแต่ตราสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยที่ยังคงสะกดชื่อสมาคมตามแบบพระราชนิยมในดวงตราของสมาคมอยู่

ลองเปรียบเทียบชื่อสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยซึ่งใช้อักษรไทยแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ ๖

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6787.0;attach=65304;image) (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6787.0;attach=65306;image)

และชื่อโบราณคดีสโมสรซึ่งใช้อักษรไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหง

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=69639;image)

สังเกตที่อักษร "ม" ระหว่างอักษรแบบรัชกาลที่ ๖ และแบบของพ่อขุนรามคำแหง จะแตกต่างกัน  ;D

เครื่องหมายของสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ใช้อักษรไทยแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ ๖ เช่นกัน

สังเกตว่าคำว่า "ใน" ใช้สระไอ (ยกเลิกสระใอ) อยู่หลัง น  วรรณยุกต์เอกและเครื่องหมายทัณฑฆาตอยู่ข้างบน ไม่ได้อยู่ในบรรทัดเดียวกับพยัญชนะและสระ

ลายพระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอธิบายการใช้สระแบบใหม่

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6787.0;attach=65309;image) (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6787.0;attach=65311;image)

เครื่องหมายอะไร  ;)

ไม่มีความรู้เลยค่ะ  ส่งไม้ต่อให้สมาชิกเรือนไทยท่านอื่นค่ะ

อธิบายภาพ เป็นพระนามย่อ จ.ก. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ  ;D

เป็นตราประจำพระองค์ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ปรากฎอยู่ตรงมุมบนซ้ายขิงใบประทานนามสกุลซึ่งประทานให้บุคคลต่าง ๆ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6099.0;attach=51677;image)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6099.0;attach=51680;image)

ดิฉันพึ่งทราบว่าตัวมกร และ มังกรมีที่มาจากตัวเดียวกัน ต้องขอบคุณสำหรับความรู้ด้วยค่ะ

ด้วยความยินดี  ;D

และปรากฏอยู่บนพัดรองที่ระลึกในงานพระศพสมเด็จพระอนุชาธิราช (ในรัชกาลที่ ๖) เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ พ.ศ. ๒๔๖๓ มีลักษณะเป็นพัดหน้านาง ทำด้วยผ้าแพรสีดำ ปักไหมสี ตรงกลางเป็นอักษรพระนามย่อ จ.ก. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ อุณาโลม ขนาบด้วยลายกนกก้านขดและสายเฟื่องอุบะ รอบขอบพัดปักอักษรข้อความ "งานพระศพ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ" นมพัดเป็นโลหะทองเหลืองดุนอักษร พ.ศ. ๒๔๖๓ ด้ามไม้ สันทองเหลือง

ขอทราบข้อมูลเหรีญเสมา อักษรย่อ จร ขอบคุณครับ

ฤๅจะเป็น อักษรย่อ จภ ❓

ภาพซ้าย คุณวีมี (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4423.msg85555#msg85555) อธิบายว่าคือเหรียญเสมาอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ร.ร.๖  ซึ่งย่อมาจากพระบรมนามาภิไธย "ราม รามาธิบดีที่ ๖"  เสมานี้โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อเฉลิมพระปรมาภิไธยเป็น พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ แล้ว  ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ยังทรงใช้อักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ร. พระมหามงกุฎ  ถึงปี พ.ศ. ๒๔๖๑ จึงทรงเริ่มใช้อักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ร.ร.๖

ภาพขวาก็คือเหรียญเสมาเช่นเดียวกัน แต่อักษร ๒ ตัวดูคล้ายอักษรย่อ จ.ภ. ซึ่งย่อมาจากพระนามสมเด็จพระอนุชาธิราช (ในรัชกาลที่ ๖) เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

พอทราบไหมครับ
นี่เหรียญอะไรครับ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกสยาม ชั้น เหรียญเงินช้างเผือก อักษรย่อ ร.ง.ช. ร.ศ. ๑๒๑ (พ.ศ.๒๔๔๕)

สำหรับพระราชทานแก่ข้าราชการชั้นผู้น้อย เช่น มหาดเล็ก นายเวร เสมียน และผู้มีบรรดาศักดิ์ระดับ ขุน หมื่น และข้าราชการฝ่ายทหารชั้นต่ำกว่าสัญญาบัตร

ข้อมูลจาก  หนังสื่อเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย (https://www.facebook.com/groups/932566400147450/permalink/7936908313046522/?mibextid=S66gvF)

ป.ล. อักษร ส.พ.ป.ม.ม.๔ เป็น พระปรมาภิไธยย่อ มาจาก สมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ รัชกาลที่ ๔

ขอบคุณครับ

ไปชมนิทรรศการจัดแสดงการ์ดจากซองบุหรี่ มีภาพเขียนว่า เทาะขัตมาต ถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครรู้ ค้นในอากู๋ก็เจอแต่ผู้สะสมชุดการ์ดจากซองบุหรี่แต่ไม่มีคำอธิบาย ขอรบกวนท่านผู้รู้ในเรือนไทย ช่วยอธิบายหน่อยครับว่า เทาะขัตมาต คืือเครื่องหมายอะไรและใช้อย่างไรครับ ขอบคุณครับ

เคยผ่านสายตาในหนังสือเก่า  สะกดคำแรกว่า เฒาะ ส่วนคำหลังไม่แน่ใจ   เป็นลายคล้ายยันต์ค่ะ
รอท่านอื่นมาอธิบายดีกว่านะคะ

"เทาะขัตมาต" ที่ถูกต้องควรเขียนว่า "เฑาะว์ขัดสมาธิ" มาจากตัวเฑาะว์ ซึ่งว่ากันว่าจากตัวอักษร ธ ในภาษาปัลลวะ หมายถึง ธรรมะ ด้วยความหมายที่ดีจึงนิยมไปเขียนเป็นยันต์ลงบนกระหม่อม หรือจารลงบนหลังองค์พระ

https://youtu.be/Zo6ieXzIlWs

อยากสอบถามผู้รู้ สำหรับประวัติของ ของเหล่านี้ครับ

ไม่มีความรู้ค่ะ  ขอเชิญท่านอื่น

๒/๑ แหนบทองตราพระมหามงกุฎ สำหรับพระราชทานแก่นักฟุตบอล และผู้บริหาร ที่สร้างเกียรติประวัติและเกียรติภูมิให้กีฬาฟุตบอลของสยาม ระหว่าง พ.ศ.  ๒๔๕๙ - ๒๔๗๔

ปัจจุบัน แหนบทองตราพระมหามงกุฎ ของขุนประสิทธิ์วิทยกร (ศักดิ์ คุปตะวาณิช) ยังคงเก็บรักษาและจัดแสดงที่ พิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยาม

https://www.facebook.com/MuseumFootball/videos/573770423920916/

ขอบคุณนะครับ ถ้าได้อันอื่นๆด้วยจะเป็นพระคุณมากครับ

ขอบคุณ อ.เทาชมพู และอ.เพ็ญชมพู อย่างยิ่งครับ ทราบความหมายแล้วก็คิดต่อว่า ทำไมผู้ผลิตการ์ดถึงเอามาใส่ไว้ในชุดอักษรไทยในสมัยนั้น แสดงว่าคงเป็นที่รู้จักอยู่สมัยหนึ่ง ปัจจุบันก็ไม่เคยเห็นในหนังสือต่างๆ ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งครับ

ตราสัญลักษณ์ อักษรพระนามย่อ ศ.ว. นี้ ปรากฏบนหน้าบันของศาลาสุวพักตร์วิไลยพรรณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

ศาลานี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๘ โดยเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) บุตรคนสุดท้องของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ผู้สถาปนาพระอาราม  เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๐ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุวพักตร์วิไลยพรรณ พระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ ๑๐ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ (แพ บุนนาค) ธิดาเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) หรือ "เจ้าคุณทหาร" ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ศาลาหลังใหญ่นี้ และโปรดให้ประดิษฐานตราสัญลักษณ์และอักษรพระนามย่อ เพื่อเป็นอนุสรณ์ ณ บริเวณหน้าบันศาลา

ข้อมูลจาก คุณสายหมอกและก้อนเมฆ (https://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=morkmek&month=08-07-2013&group=3&gblog=196)

กรอบเมนู เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ (แพ บุนนาค) อายุครบ 70 ปี พร้อมใบเมนู ใครพอทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวาระนี้บ้างครับ ขอบคุณครับ

ไม่ทราบเลยค่ะ  อ่านไม่ออกด้วย
ใครทราบช่วยตอบด้วยนะคะ

สอบถามที่มาของเข็มครับ

มีต่อครับ

๑/๒ เข็มนคราภิบาล ดุสิตธานี และเข็มรางวัลการประกวดเคหสถาน ดุสิตธานี เป็นเข็มลายฉลุรูปไข่ทำด้วยเงินด้านกว้างยาว ๒.๔๐ และ ๓.๑๐ เซนติเมตร เป็นรูปพระโพธิสัตว์ปัทมปาณี คือพระราชลัญจกรสวนดุสิต ด้านบนและล่างเป็นตัวอักษรประดิษฐ์โดยรัชกาลที่ ๖ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐ ด้านบนถอดความได้ว่า นคราภิบาล ด้านล่าง ดุสิตธานี

เข็มนคราภิบาล ด้านหลังเป็นเข็มกลัด ส่วนเข็มรางวัลการประกวดเคหสถานด้านหลังมีที่สอดริบบิ้น

อยากทราบว่าเข็มพระนาม จ.ป.ร. ชิ้นนี้ พระราชทานในวาระไหนครับ ขอบคุณครับ