เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: ดาวกระจ่าง ที่ 21 ธ.ค. 20, 20:34



กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 21 ธ.ค. 20, 20:34
ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ คือดิฉันได้ไปอ่านเกี่ยวกับความเชื่อ ประเพณีที่เกี่ยวกับสัตว์ของชนชาติอื่นมาค่ะ บ้างก็นับถือ กราบไหว้ บูชาสัตว์ บ้างก็มีการเอาสัตว์ไปบูชายันต์ บ้างก็เอาสัตว์ไว้เป็นเครื่องมือทำนายทายทัก เลยทำให้ดิฉันนึกสงสัยขึ้นมาว่าคนไทยภาคกลางในสมัยอยุธยามีความเชื่อแบบนี้บ้างไหมคะ

1 คนไทยภาคกลางในสมัยอยุธยามีความเชื่อ นับถือ กราบไหว้ บูชาสัตว์บ้างไหมคะ

2 คนไทยภาคกลางในสมัยอยุธยามีความเชื่อในการเอาสัตว์ไปบูชายันต์บ้างไหมคะ

3 คนไทยภาคกลางในสมัยอยุธยามีความเชื่อในการเอาสัตว์ไว้เป็นเครื่องมือทำนายทายทักบ้างไหมคะ


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ธ.ค. 20, 18:10
ตอบข้อ ๓

อ้างจาก"ตำราพรหมชาติ" ที่เป็นตำราโหราศาสตร์  บอกไว้ว่า

เห็นสุนัขไล่กัดกันเข้ามาในบ้าน      ผู้น้อยจะให้คุณแก่ท่าน
เห็นสุนัขหนีเจ้าของวิ่งเข้ามาในบ้าน ผู้น้อยจะให้คุณแก่ท่าน
คางคกขึ้นบันได        จะทำมาค้าขึ้นมีเงินทองทรัพย์สินบริบูรณ์
ค้างคาวเข้าห้อง        จะมีโชคลาภ
เห็นงูเขียวบนเพดาน   จะพบกับคนเจ้าเล่ห์ให้ระวังตัวอย่าไว้ใจใคร
เห็นตะขาบอยู่ใต้ถุนบ้าน  จะมีบุญวาสนามีอำนาจราชศักดิ์
แร้งบินมาจับต้นไม้ในบ้าน   เจ้านายจะให้ลาภ
เห็นตัวเหี้ยใต้ถุนบ้าน  ให้เรียกตัวเงินตัวทอง   แล้วจะมีโชคลาภหมดเคราะห์หมดโศก
นกแสกจับรั้วบ้าน      ระวังอันตรายจะมาสู่
แมวมาอาศัยอยู่ในบ้าน  จะได้ลาภและมีโชค
สุนัขจรจัดมาอาศัยอยู่ในบ้าน   ให้ระวังคนพาล
มีนกมาจับที่ยอดจั่วบ้าน    จะมีความเจริญรุ่งเรือง
มดดำเดินเป็นแถวลอดรั้วบ้านเข้ามา   ให้ระวังคนมาอยู่ใหม่
ตั๊กแตนกระโดดเข้าห้องนอน    ระวังคนมายุแหย่หาความเดือดร้อนใจ
เห็นแมลงเม่าตอมไฟ   จะได้ข่าวของญาติ
จิ้งเหลนวิ่งเข้าบ้าน      จะสูญลาภ
เห็นกิ้งก่ายืนนิ่งอยู่ใกล้ประตูบ้าน   จะพบกับความสุขสำราญ
ม้าวิ่งเข้ามาในบ้าน   จะมีโชคลาภ
นกกระจอกมาทำรังในบ้าน    ญาติมิตรจะปรองดองด้วยกันดี
เห็นหิ่งห้อยเข้ามาในห้องแล้วหายไป ระวังคนหลอกลวง ให้ใจคอหนักแน่นไว้จะได้ดี
นกกระจอกบินไล่กันเข้ามาในบ้าน   ระวังจะสูญเสียมิตรหรือผิดใจกัน
หมาวิ่งไล่แมวเข้ามาในเขตบ้าน  จะพบกับเรื่องยุ่งยากใจ
แมววิ่งไล่หมาเข้ามาในเขตบ้าน  จะพบกับเรื่องเดือดร้อน
นกตีกันบนหลังคา            เพื่อนจะมาหาและนำลาภมาสู่ จงต้อนรับให้ดี
เห็นแมลงภู่มาตอมดอกไม้ในบ้าน  จะมีความสุขสำราญ
วัวเข้ามากินหญ้าในเขตบ้าน          ระวังเจ้านายจะกินแหนงแคลงใจในตัวท่าน
เห็นงูเลื้อยขึ้นต้นไม้            จงระวังตัวไว้บ้างอาจมีอันตราย
ผึ้งมาทำรังในเขตบ้านท่าน    จะมีลาภและหายจากความทุกข์โศก
แพะมากินต้นไม้ในบ้าน        ระวังจะมีคนหาความและใส่ร้ายท่าน
อึ่งอ่างเข้าครัวให้ระวังตัว  จะได้ไม่ทำอะไรผิดผลาด
เห็นเขียดกระโดดวนเวียนอยู่ในห้อง    ให้ระงับอย่าเพิ่งคิดลงทุนทำอะไรในช่วงนี้
เห็นกบกระโดดในลานบ้าน     เป็นนิมิตดีการงานจะบังเกิดผลอันดี
ค้างคาวมากินผลไม้ในบ้าน    ระวังจะเกิดเรื่องขึ้นในบ้านหรือเกิดกับตัวท่าน
ค้างคาวบินมาแล้วบินกลับทันที   เรื่องร้ายจะกลายเป็นดี
เห็นงูลอกคราบทิ้งไว้ในบ้าน    จะได้ลาภ
ผีเสื้อเข้าห้องแล้วเกาะนิ่ง      จะเกิดสิริมงคลแก่ท่าน
ผีเสื้อเข้าห้องแล้วบินวนเวียน    ระวังผู้ร่วมงานของท่านไว้ให้ดี
ผีเสื้อบินมาตอมดอกไม้ในบ้าน    ระวังเมื่อจะเดินทาง
แตนมาทำรังที่ต้นไม้ในบ้าน     เป็นมงคลจะให้คุณกับท่าน
เต่าเดินไปมาบนพื้นแล้วหายไป    จงรีบบูชาพระแล้วจะหายจากเคราะห์
ปูเดินตามพื้นท่านจะโชคดี
แมวไล่กันเข้ามาในบ้าน     จะได้รับข่าวดี
แมวตัวผู้มาติดแมวตัวเมียในบ้าน   จะประสบกับความสุขสมหวัง


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ธ.ค. 20, 12:03
นันทวัน สาวนายน เขียนไว้ในนามานุกรมขนบประเพณีไทย หมวดประเพณีราษฎร์เล่ม ๓ (คติความเชื่อ) (กรมศิลปากรจัดพิมพ์เผยแพร่ พ.ศ. ๒๕๕๒) เรื่องลางสังหรณ์ เป็นความเชื่อสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนี้

ตุ๊กแก :

ร้อง ๔ ครั้ง จะเกิดความเดือดร้อน เสียเงินเสียทองหรือเจ็บป่วยในครอบครัว
ร้อง ๕ ครั้ง จะมีเคราะห์ให้รีบทำบุญตักบาตร มิฉะนั้นจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
ร้อง ๖ ครั้ง จะประสบโชคลาภ ฐานะการเงินจะดีขึ้น
ร้อง ๗ ครั้ง จะเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น
ร้อง ๘ ครั้ง จะได้ ลาภลอยโดยการเสี่ยงโชค หรือได้มรดกจากญาติผู้ใหญ่
ร้อง ๙ ครั้ง จะพบความสำเร็จทุกอย่าง
ร้อง ๑๐ ครั้ง ถือกันว่าเป็นลาง สังหรณ์ที่ดีมาก ทั้งตัวเองและครอบครัวจะมีความสุขความเจริญ ทั้งลาภผลและร่ำรวยเงินทองมากมาย

จิ้งจก :

ถ้าเสียงดังอยู่ เบื้องหน้า ให้รีบเดินทางจะพบโชคลาภความสำเร็จ
ถ้าเสียงดังเบื้องหลังอย่าด่วนรีบไป ควรเปลี่ยนเวลาออกจากบ้าน มิฉะนั้นจะประสบโชคร้ายหรือผิดหวัง
ถ้าเสียงดังจากเบื้องซ้าย การออกเดินทางนอกบ้านจะได้ผลดีประสบความสำเร็จ
ถ้าเสียงดังเบื้องขวา การเดินทางจะไม่ได้ผลดีนักและอาจประสบเคราะห์
ถ้าร้องเบื้องบนศีรษะอย่าเดินทางไปไกล ๆ เป็นอันขาด จะประสบความเดือดร้อน

หนู :

เสียงร้อง
เสียงดังจก...จก จะได้รับสิ่งของที่สุขใจ
เสียงดังแจก...แจก จะมีโชคลาภมากมาย มีความเจริญรุ่งเรือง
เสียงดังแจ๊ก...แจ๊ก จะได้สิ่งที่เป็นมงคลชีวิต จะสูงเด่นด้วยวาสนาบารมี ประสบโชคลาภและความสุขสบาย
เสียงดังจุด...จุด ให้ระวังเรื่องเดือดร้อน จะเสียเงินทองและทรัพย์สินถึงขั้นล้มละลาย ต้องหาทางแก้ไขป้องกัน

กัดผ้าเป็นรูป
เป็นรูปปากกระต่าย จะมีโชคลาภ
เป็นรูปวงกลมจะอุดมสมบูรณ์
เป็นรูปดอกบัวจะมีความสุข
เป็นรูปธนูศรจะเจริญรุ่งเรือง
เป็นรูปหอยสังข์จะได้รับสักการะ

กัดผ้าในวัน
วันอาทิตย์จะพ้นทุกข์  วันจันทร์จะสุขสวัสดิ์ วันอังคารจะอัตคัด วันพุธจะเดือดร้อน วันพฤหัสบดีจะเจ็บไข้ วันศุกร์จะได้ลาภ วันเสาร์จะให้โทษ

อื่น ๆ :

จิ้งจกหล่นลงมาถือว่ามีโชค
นกแสกนกเค้าแมวบินข้ามบ้าน เชื่อว่าบ้านนั้นจะมีคนตาย
สัตว์วิ่งตัดหน้าขณะเดินทางเป็นลางร้าย อย่าเดินทางต่อไป
หนูทำรังในเตาไฟเป็นลางร้ายระวังไฟให้ดี
ไก่ป่า อีแร้ง บินมาจับหลังคาบ้าน เชื่อว่าเป็นลางร้ายจะเกิดความเดือดร้อนภายในบ้าน เกิดอาเพศถึงบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องนิมนต์ พระสงฆ์มาสวดแก้อุบาทว์ และบาปเคราะห์ ทำพิธีบัตรพลี ประพรมน้ำพุทธมนต์
ปลวกทำรังที่เตาไฟ งูเข้ามาขดในบ้าน เห็ดขึ้นที่เตาไฟ ถือเป็นอัปมงคล

https://www.thairath.co.th/content/100185


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 23 ธ.ค. 20, 17:36
ขอบพระคุณ คุณเทาชมพู คุณเพ็ญชมพู สำหรับคำตอบในข้อ 3 ค่ะ แล้ว

1 คนไทยภาคกลางในสมัยอยุธยามีความเชื่อ นับถือ กราบไหว้ บูชาสัตว์บ้างไหมคะ

2 คนไทยภาคกลางในสมัยอยุธยามีความเชื่อในการเอาสัตว์ไปบูชายันต์บ้างไหมคะ

พอจะมีข้อมูลบ้างไหมคะ


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ธ.ค. 20, 17:36


1 คนไทยภาคกลางในสมัยอยุธยามีความเชื่อ นับถือ กราบไหว้ บูชาสัตว์บ้างไหมคะ

คนไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋วมีความศรัทธา เคารพกราบไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ     อ่านความเป็นมาได้ที่นี่ค่ะ
https://sites.google.com/site/wwwtiger1831com/sal-cea-phx-seux


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ธ.ค. 20, 17:40
 คนไทยภาคกลางในสมัยอยุธยามีความเชื่อในการเอาสัตว์ไปบูชายันต์บ้างไหมคะ

ไทยเราเรียกว่า เครื่องสังเวย ค่ะ   ไม่ได้มีพิธีกรรมบูชายัญอย่างฝรั่ง  อินเดีย เนปาล    หัวหมู  เป็ดไก่ ไก่ดำ  พวกนี้เป็นเครื่องสังเวยได้ทั้งนั้น


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 25 ธ.ค. 20, 09:19
ขอบคุณคุณเทาชมพูสำหรับคำตอบค่ะ


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 25 ธ.ค. 20, 15:26
รู้จักแต่สำนวน ตัดหางปล่อยวัด


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 27 ธ.ค. 20, 19:06
สัตว์เผือกเป็นสัตว์พิเศษ เช่น ช้างเผือก ถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมีพระเจ้าแผ่นดิน ในบันทึกต่างชาติมักกล่าวถึงการดูแล ไปจนถึงการแสดงความเคารพจากผู้ดูแล สัตว์เผือกอื่นๆ ก็เช่นกัน แม้ว่าไม่มียศเช่นเดียวกับช้าง จะได้รับการดูแลที่พิเศษ


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 ธ.ค. 20, 20:24
สัตว์เผือกที่คู่บุญบารมีของช้างเผือกเห็นจะเป็น ลิงเผือก และ กาเผือก

สัตว์เลี้ยงไว้คู่กับช้างเผือก สัตว์ที่จะนำมาเลี้ยงไว้คู่กับช้างเผือกมี ๒ ชนิด คือ ลิงเผือก และกาเผือก เพราะถือกันว่าสัตว์ทั้งสองชนิดนี้เป็นของคู่บุญของช้างเผือก และจะป้องกันสิ่งอวมงคลที่จะมาสู่ช้างเผือกได้

ลิงเผือกและกาเผือกนี้  ท่านว่าเป็นสัตว์คู่บารมีของพระยาช้างเผือก ว่ากันว่า  ก่อนที่จะพบช้างเผือกแต่ละเชือก  มักจะพบลิงเผือกและกาเผือกก่อนเสมอ และเมื่อได้ขึ้นระวางช้างเผือกแล้ว  ก็จะนำลิงเผือกและกาเผือกมาเลี้ยงไว้ใกล้ ๆ กับพระยาช้างเผือกด้วย  ความทราบมาดังนี้

https://www.gotoknow.org/posts/544676


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ธ.ค. 20, 12:36
นกแสก เป็นสัญญาณของความตาย ค่ะ
ถ้าบินวน และร้องเสียงดังที่บ้านหลังไหน บ้านนั้นก็มักจะมีคนตาย


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 28 ธ.ค. 20, 18:01
ขอบพระคุณหลายท่านที่มาเพิ่มเติมให้ค่ะ


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 28 ธ.ค. 20, 20:44
วันหนึ่ง ไปงานมา กลับมาถึงบ้านประมาณ 4 ทุ่ม ได้เห็นนกหน้าตาดังนกฮูกเกาะอยู่ที่เสาประตูรั้ว จอดรถเสร็จก็ไปเอากล้วยน้ำว้าที่เผอิญมีอยู่ ปอกเปลือกแล้วยื่นให้เขากิน เขาก็หลับหูหลับตากินประมาณครึ่งลูก ก็เลยเอาผ้าเช็ดรถห่อมือปีนเก้าอี้ไปอุ้มเขาลงมา ไม่มีการขัดขืนใดๆ เอามาใส่กรงนกที่จะมีประจำอยู่ที่บ้านเพราะมักจะมีนกเจ็บป่วยบ้าง ลูกนกหัดบินบ้าง เป็นนกตะขาบบ้าง นกกินปลีบ้าง นกเขาบ้าง ชอบที่จะตกลงมายืนอยู่ที่พื้นโรงรถ ก็จะเก็บเขาเข้ากรง พอหายป่วยแข็งแรงดีแล้วก็ปล่อยเขาไป   เอานกแสกเข้ากรงไปหนึ่งคืน เช้าขึ้นมาพิจารณาดูจึงรู้ว่าเป็นนกแสก ก็ไปตลาดหาพวกใส้ไก่สดจากตลาดสด เอามาให้เขากิน แล้วก็เอาเขามาเกาะอยู่กับขอนไม้ เลี้ยงเขาอยู่ 2 วัน เขาก็บินไป  แล้วเขาก็บินกลับมาส่งเสียงในตอนค่ำอีกสองสามวันแล้วก็หายไปสักพัก แล้วก็ได้ยินเสียงเขาอีกครั้งหนึ่งแล้วหายไปเลย


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 ธ.ค. 20, 09:25
นกแสก เป็นสัญญาณของความตาย ค่ะ
ถ้าบินวน และร้องเสียงดังที่บ้านหลังไหน บ้านนั้นก็มักจะมีคนตาย


กาก็เป็นนกอีกตัวหนึ่งที่เป็นสัญญาณของลางร้าย

เมื่อครั้งพม่ายกทัพมาประชิดปิดล้อมกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง มีกาบินมาตกลงเสียบยอดพระเจดีย์วัดราชบูรณะ เล่าลือกันว่า เป็นลางบอกเหตุว่ากรุงศรีอยุธยาจะแตก

๏ เมื่อใกล้จะเสียพระนครศรีอยุทธยานั้น เกิดลางร้ายต่าง ๆ คือ พระพุทธปฏิมากรใหญ่ที่วัดพนัญเชิงมีน้ำพระเนตรไหล พระพุทธปฏิมากรติโลกนารถ ซึ่งแกะด้วยไม้พระศรีมหาโพธิ์นั้น พระทรวงแยกออกเปนสองภาค พระพุทธปฏิมากรทองคำเท่าตัวคน แลพระพุทธสุรินทร์ซึ่งหล่อด้วยนากอันประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ในพระราชวังนั้น มีพระฉวีเศร้าหมอง พระเนตรทั้งสองหลุดหล่นลงอยู่บนพระหัดถ์ มีกาสองตัวตีกัน ตัวหนึ่งบินโผลงตรงยอดเหมฉัตรเจดีย์ที่วัดพระธาตุ อกสวมลงตรงยอดพระเจดีย์เหมือนดังคนจับเสียบไว้ เทวรูปพระนเรศวรนั้นมีน้ำพระเนตรไหลแลเปล่งศัพทสำเนียงเสียงอันดัง อสนีบาตตกลงหลายครั้งหลายหน พระราชวงษานุวงษ์ข้าราชการก็ไม่ตั้งอยู่ในสัจธรรม สำแดงเหตุที่จะเสียพระนครศรีอยุทธยาหลายอย่างหลายประการ ดังกล่าวมาแล้วในเบื้องต้นนั้น ๚

จาก https://vajirayana.org/คำให้การขุนหลวงหาวัด-ฉบับหลวง/คำให้การขุนหลวงหาวัด-ฉบับหลวง (https://vajirayana.org/คำให้การขุนหลวงหาวัด-ฉบับหลวง/คำให้การขุนหลวงหาวัด-ฉบับหลวง)


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 ธ.ค. 20, 10:31
ความเชื่อแต่โบราณถือว่า กาเป็นผู้นำข่าวมายังผู้พบเห็น บางครั้งคราวก็บอกข่าวดี บ้างก็บอกข่าวร้าย แต่ส่วนมากเมื่อเห็นกาก็มักจะกลัว และเชื่อว่าจะนำลางร้ายมาให้เสียมากกว่า ดังมีกล่าวไว้ในตำราเล่มหนึ่งว่า

                                      ขอน้อมประณตบทศรี
จะแต่งตำราการ้องให้ฤกษ์ดี  ตามคัมภีร์ไสยศาสตร์ได้เรียนมา
แม้จะมีที่ไปจากนิเวศน์        จงสังเกตการ้องบอกภาษา
ถ้าร้องบอกชัดว่ากากา        ไปเบื้องหน้าลาภได้ดังใจจง
ถ้ากาอ้อกาอ้อบอกภาษา      จะมีคนบูชาสมประสงค์
ถ้ากาวักกาวักจักทะนง        จะเสียทรงเกิดทุกข์ไม่สุขใจ
ถ้ากาวากาวาจะม้วยมรณ์     จะสังหรณ์วายชนม์จนตักษัย
ถ้ากาวู้กาวู้ผู้จะไป              คงจะได้เมียมิตรประสิทธิ์แล


จาก https://cum2m.tripod.com/Beliefs-th/


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 30 ธ.ค. 20, 07:41
สัตว์แปลกที่บางประเทศจุดธูปผูกผ้าสีไหว้กันนั้น ในสมัยอยุธยาถือว่าเป็นอุบาทว์ค่ะ อย่างเช่นสมัยอยุธยาตอนต้น เมื่อจะเสียเมืองทวาย  โคตกลูกมีแปดขา ไก่ฟักไข่ออกมาเป็นไก่สี่ขา


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ธ.ค. 20, 09:22
สัตว์แปลกที่บางประเทศจุดธูปผูกผ้าสีไหว้กันนั้น ในสมัยอยุธยาถือว่าเป็นอุบาทว์ค่ะ

เรียกว่า อุบาทว์พระยม ๑ ใน ๘ อุบาทว์แห่งอภิไทโภธิบาทว์ (คัมภีร์ว่าด้วยลักษณะอุบาทว์ซึ่งเทวดาทั้ง ๘ สำแดงเหตุแก่ชนทั้งปวงให้รู้ว่าภัยจะบังเกิด)

ผิว์โคเคียงเกวียนเดินวน ไป่ทันแก้ปรน ปะอุกแลขุกวอดวาย หนึ่งโคเคียงคู่ไถตา ในแอกอุบาย อุบาทว์พิบัติพึงกลัว ม้าคลอดตัวเดียวสองหัว คราวเดียวสองตัวก็ดี พิบัตนานา หนึ่งผีซัดเรือนเครงครา เนืองนิจมายา แลร้องระริกขิกสรวล หนึ่งไข้แล้วเล่าทบทวน ฝันร้ายรำจวน นิรันดร รำคาญใจ หนึ่งมดแมง แมลงเรือดไร เกิดมากหลากภัย พิบัติรุมราวี นกแสดเค้าคุดปักษี นกเคาะเอาผี นกอกและนกทุงเกวียน เหยี่ยวรุ้งตบยุงทุงเทียน นกไส้ไถ่เถียน แลบินมาเข้าเคหา งูทับสมิงคา ลำพองถลา เห่าพิษนานา มาขึ้นยังเรือนซอกซอน แร้งจับแร้งสมจร กลางวันบ่มิห่อน แลเห็นประจักษ์แก่ตา อุบาทว์เหล่านี้ พระยายมราชมหามหิทธิ หากให้เห็น รีบแต่งบูชา อย่าเย็นใจอยู่ จักเป็นภยันตรายเร่งรน ลาโชบุศโบ และสุคนธ์ ธูปเทียนสกล หิรัญรัตน์วัตถา โภชนาผลาผลนานา สูปะพยัญชนะ มฤคา มธุกขีระทะธ บูชาด้วยมนต์อันมี วาระพระบาลี ลิขิตไว้ให้สืบสาย จัญไรภัยโทษอันตราย จักดลดับหายสะเดาะทั้งเคราะห์ยายี

จาก http://thaiheritage.net/nation/astrology/astrology7.htm


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: ภศุสรร ที่ 06 ม.ค. 21, 16:19
เป็นเรื่องน่าแปลกมากนะครับที่ความเชื่อเกี่ยวกับการร้องของจิ้งจกตุ๊กแกในประเทศไทยสมัยโบราณนั้นมีส่วนคล้ายคลึงอย่างสูงกับความเชื่อของผู้คนในเกาะบาหลีประเทศอินโดนีเชีย(ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวในทั้งประเทศอินโดนีเชียที่ยังคงนับถือศาสนาพราหมณ์เป็นส่วนมาก) กล่าวคือคนบาหลีแต่โบราณมีความเชื่อว่าด้วย การร้องของจิ้งจกว่า: ถ้าหากจิ้งจกในบ้านส่งเสียงร้องทักติดต่อกันน้อยกว่าห้าครั้งจะถือเป็นลางร้ายอาจจะเกิดอาเพศขื้นกับผู้อาศัยในบ้านนั้น แต่ถ้าหากจิ้งจกนั้นร้องทักต่อกันมากกว่าสิบครั้งจะถือเป็นลางดีนำโชคลาภ ท่านผู้ไหญ่อาจารย์ที่เคารพทุกท่านจะเห็นได้ว่าความเชื่อเรื่องการร้องของจิ้งจกนั้นมีความคล้ายคลึงอย่างมากระหว่างสองประเทศ ความเชื่อทั้งสองจึงอาจจะมีรากเหง้าเดียวกันเกล่าคือศาสนาพราหมณ์โบราณก็เป็นได้

(ขออภัยเป็นอย่างสูงนะครับที่ผมไม่ได้ให้ขอคิดเห็นที่ตรงกับคำถามเท่าไหร่นักผมเพียงแต่อยากจะเขียนถึงจุดอันเป็นที่น่าสนใจแก่ผมเท่านั้น ถ้าหากคำตอบของผมได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของกระทู้นี่ในแง่ลบก็ต้องขออภัยด้วยจริงๆนะครับ)


กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับสัตว์ของคนภาคกลางในสมัยอยุธยาหน่อยค่ะ
เริ่มกระทู้โดย: ภศุสรร ที่ 06 ม.ค. 21, 16:33
ในสมัยอยุธยานั้นสัตว์ที่มีพิษให้โทษแก่ผู้คน(อสรพิษ แมลงมีพิษเช่นแมงมุมแมงป่อง)นั้น ผู้คนส่วนมากจะถือว่าเป็นสัตว์อัปมงคลทั่งสิ้นอย่างเช่นพฤติกรรม”ตีอก” ของแมงมุมซึ่งคนไทยโบราณถือว่าเป็นลางร้ายอย่างสูง คนในบ้านอาจมีเหตุชึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตได้

ความเชื่อดังกล่าวปรากฎในวรรณกรรมขุนช้างขุนแผนดังนี้: 

“ให้มีลางคืนนั้นสนั่นอึง   แมลงมุมตีอกผึงหาหยุดไม่
สยดสยองพองขนทุกคนไป   เย็นยะเยือกจับใจไปทุกยาม”