เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 07, 09:53



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 07, 09:53

       เมื่อล้มกลิ้งใครหนอวิ่งเข้ามาช่วย

และปลอบด้วยนิทานกล่อมขวัญให้

ทั้งจูบที่เจ็บชะมัดปัดเป่าไป

ผู้นั้นไซร้ที่แท้แม่ฉันเอง

                                    พระราชธรรมนิเทศ
   


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 07, 09:55

                                                   My Mother

         
           Who fed me from her gentle breast,
And hushed me in her arms to rest,
And on my cheek sweet kisses prest?
                                 My Mother.
 
           When pain and sickness made me cry,
Who gazed upon my heavy eye,
And wept, for fear that I should die?
                                My Mother.
 
           Who dressed my doll in clothes so gay,
And fondly taught me how to play,
And minded all I had to say?
                               My Mother.
 
           Who ran to help me when I fell,
And would some pretty story tell,
Or kiss the place to make it well?
                              My Mother.

           And can I ever cease to be
Affectionate and kind to thee,
Who was so very kind to me?
                             My Mother.

- Ann Taylor


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 07, 10:08
และเพลงไพเราะประทับใจในอดีต ครับ

                                   Mother of Mine  by Neil Reid (songfacts.com)

Mother of mine you gave to me, all of my life to do as I please,
I owe everything I have to you,
Mother sweet mother of mine.

Mother of mine when I was young
You showed me the right way things had to be done,
Without your arms where would I be,
Mother sweet mother of mine.

Chorus:
Mother you gave me happiness, much more than words can say,
I thank the lord let me breathe with you, every night and every day.

Mother of mine now I am grown and I can walk straight all on my own,
I'd like to give you what you gave to me,
Mother sweet mother of mine.

Chorus

Mother of mine now I am grown and I can walk straight all on my own,
I'd like to give you what you gave to me,
Mother sweet mother of mine.

Mother sweet mother of mine.

       
          version ฮิทในบ้านเราเมื่อนานมากแล้ว ร้องโดยน้องคนเล็กของครอบครัว Osmond - Jimmy Osmond
เนื้อร้อง chorus เป็น -

Mother, you gave me happiness, much more than words can say,
I pray the Lord that he may bless you every night and every day.



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ส.ค. 07, 13:17
                เสภาขุนช้างขุนแผน  กำเนิดพลายงาม

            เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่             ชำเลืองแลดูหน้าน้ำตาไหล
            แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลัย               ลูกเติบใหญ่คงจะมาหาแม่คุณ
            แต่ครั้งนี้มีกรรมจะจำจาก                      ต้องพลัดพรากแม่ไปเพราะไอ้ขุน
            เที่ยวหาพ่อขอให้ปะเดชะบุญ                   ไม่ลืมคุณมารดาจะมาเยือน

            แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ารัก                         คนอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน
            จะกินนอนวอนว่าเมตตาเตือน                  จะจากเรือนร้างแม่ไปแต่ตัว
            แม่วันทองของลูกจงกลับบ้าน                  เขาจะพาลว้าวุ่นแม่ทูนหัว
            จะก้มหน้าลาไปมิได้กลัว                       แม่อย่ามัวหมองนักจงหักใจ


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ส.ค. 07, 13:23
       นางวันทองส่งพลายงามไปหาย่าทองประศรี ที่เมืองกาญจนบุรี

           นางกอดจูบลูบหลังแล้วสั่งสอน                 อำนวยพรพลายน้อยละห้อยไห้
           พ่อไปดีศรีสวัสดิ์กำจัดภัย                       จนเติบใหญ่ยิ่งยวดได้บวชเรียน
           ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ                       เจ้าจงอตส่าห์ทำสม่ำเสมียน
           แล้วพาลูกออกมาข้างท่าเกวียน                จะจากเจียนใจขาดอนาถใจ
           ลูกก็แลดูแม่แม่ดูลูก                            ต่างพันผูกเพียงว่าเลือดตาไหล
           สะอื้นร่ำอำลาด้วยอาลัย                         แล้วแข็งใจจากนางตามทางมา
           เหลียวหลังยังเห็นแม่แลเขม้น                  แม่ก็เห็นลูกน้อยละห้อยหา
           แต่เหลียวเหลียวเลี้ยวลับวับวิญญาณ์            โอ้เปล่าตาต่างสะอื้นยืนตะลึง


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ส.ค. 07, 13:27
           ลิลิตพระลอ ตอนพระลอเดินทางมาถึงแม่น้ำกาหลงแล้วบังเกิดความคิดถึงพระมารดาขึ้นมา - บาปสิ่งใดจำให้ ลูกร้อนใจถึง

          ร้อยชู้ฤๅเท่าเนื้อ       เมียตน
เมียแล่พันฤๅดล                 แม่ได้
ทรงครรภ์คลอดเปนคน          ฤๅง่าย เลยนา
เลี้ยงยากนักท้าวไท้              ธิราชผู้มีคุณ ฯ

                สู่เพลง ลาวครวญ

โอ้พระชนนีศรีแมนสรวง                    จะโศกทรวงเสียวรู้สึกระลึกถึง
ไหนทุกข์ถึงบิตุรงค์ทรงรำพึง               ไหนโศกซึ้งถึงตูคู่หทัย
ร้อยชู้หรือจะสู้เนื้อเมียตน                   เมียร้อยคนหรือสู้พระแม่ได้
พระแม่เคยอยู่เยือกเย็นไม่เห็นใคร         หรือกลับไปสู่นครก่อนจะดี         


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 14 ส.ค. 07, 14:11

        จาก เวสสันดรชาดก

            เมื่อชูชกได้รับพระราชทานสองกุมารแล้ว เฒ่าใจแกล้วก็ฉุดลากกระชากสองกุมาร
ผูกพันพระพี่น้องให้มั่นกับมือ ปลายเชือกข้างหนึ่งนั้นถือตามตีต้อนอย่างไม่ปรานีต่อหน้าสมเด็จพระบิดา
            พระชาลีปรึกษากับน้องว่า

       .....กุมาร กุมารีใดไร้นิราศปราศจากพ่อยังแต่แม่ผู้เดียว ก็พอแลพอเหลียวชื่อว่าอยู่พร้อมทั้งบิดาและมารดา
       ทารกา ทารกผู้ใดไร้นิราศปราศจากแม่ยังแต่พ่อผู้เดียว ก็เปล่าเปลี่ยวได้ชื่อว่าศูนย์สิ้นทั้งบิดาและมารดา
       ถึงจะประโลมเลี้ยงรักษาเล่าก็ไม่ถึงใจ ถึงจะได้ทุกข์ภัยสักร้อยสิ่ง อันบิดาแล้วก็นิ่งได้ไม่นำพา
       อันคุณของพระมารดาท่านพรรณนาไว้ว่าเป็นที่ยิ่ง  สจฺจํ คำที่ว่ามานั้นก็จริงสมอยุ่แล้วนะพระน้องแก้วกัณหา

           


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 14 ส.ค. 07, 14:27

        พระนางมัทรีออกตามหาลูกรักทั้งสอง มาถึงต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม     
   
            ลูกรักเจ้าแม่เอ่ย เจ้าเคยมาอาศัยนั่งนอน ประทับร้อนสำราญร่มรื่นร่มรื่นสำรวลเล่นเย็นสบาย
พระพายรำเพยพัดมาฉิวเฉื่อย เรไรระรี่เรื่อยร้องอยู่หริ่งหริ่ง แต่ลูกรักของแม่ทั้งชายหญิงไปอยู่ไหนไม่เห็นเลย
            .... อนิจจาเอ๋ยเห็นแต่ไทรทองถัดกันไป กิ่งก้านใบรากห้อยยื่นระย้า เจ้าเคยมาห้อยโหนโยนชิงช้าชวนกันแกว่งไกว
แล้วเล่นไล่ปิดตาหาเร้นแทบหลังบริเวณพระอาวาส
            .... เจ้าเคยมาประพาสสรงสนานในสระศรี โบกขรณีตำแหน่งนอกพระอาวาส นางเสด็จลีลาศไปเที่ยวเวียนรอบ จึ่งตรัสว่า
 
          น้ำเอ๋ยเคยมาเปี่ยมขอบเป็นไรจึ่งขอดข้นลงขุ่นหมอง พระพายเจ้าเอ๋ยเคยมาพัดต้องกลีบอุบล พากลิ่นสุคนธ์ขจรรสมารวยรื่น
เป็นไรจึ่งเสื่อมหอมหายชื่นไม่เฉื่อยฉ่ำ
          ฝูงปลาเอ๋ยเคยมาผุดคล่ำดำแฝงฟอง บ้างก็ขึ้นล่องว่ายอยู่ลอยเลื่อนชมแสงเดือนอยู่พรายพราย เป็นไรจึ่งไม่ว่ายเวียนวง
          นกเจ้าเอ๋ยเคยบินลงไล่จิกเหยื่อทุกเวลา วันนี้แปลกเปล่าตาแม่แลไม่เห็น
          พระลูกเอ๋ยเจ้าเคยมาเที่ยวเล่นแม่แลไม่เห็นแล้ว โอ้แลเห็นแต่สระแก้วอยู่อ้างว้างวังเวงใจ
 


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 14 ส.ค. 07, 14:37
        นางก็เสด็จครรไลล่วงตำบลเที่ยวค้นหาพระลูกตามลำเนาเนินป่า ทุกสุมทุมพุ่มพฤกษาป่าสูงยูงยางใหญ่ไพรระหง
พนัสแดนดงเย็นยะเยือกเงียบสงัดเหงา ได้ยินแต่เสียงดุเหว่าละเมอร้องก้องพนาเวศ

        พระกรรณเธอสังเกตว่าสองดรุณเยาวเรศเจ้าร้องขานอยู่แว่วแว่ว ให้หวาดว่าสำเนียงเสียงพระลูกแก้วเจ้าขานรับพระมารดา
นางเสด็จลีลาเข้าไปหาดู เห็นหมู่สัตว์จตุบาทกลาดกลุ้มเข้าสุมนอน นางก็ยิ่งสะท้อนถอนพระทัยเทวษครวญ เสด็จด่วนด่วนดะดุ่ม
เดินเมิลมุ่งละเมาะไม้มองหมอบ แต่ย่างเหยียบเกรียบกรอบก็เหลียวหลัง
        พระโสตฟังให้หวาดแว่วว่าสำเนียงเสียงพระลูกแก้วเจ้าบ่นอยู่งึมงึม พุ่มไม้ครึ้มเป็นเงาเงาชะโงกเงื้อม
        พระเนตรเธอแลเหลือบให้ลายเลื่อมเห็นเป็นรูปคนตะคุ่มตะคุ่มอยู่คล้ายแล้วหายไป สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู่ก้อง
        พระพักตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา

        จึ่งตรัสว่าโอ้โอ๋เวลาปานฉะนี้เอ่ยจะมิดึกดื่น จวนจะสิ้นคืนค่อนรุ่งไปเสียแล้วหรือกระไรไม่รู้เลย
พระพายรำเพยพัดมารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว อกแม่นี้ให้อ่อนหิวสุดละห้อย ทั้งดาวเดือนก็เคลื่อนคล้อยลงลับไม้

        สุดที่แม่จะติดตามเจ้าไปในยามนี้ ฝูงลิงค่างบ่างชะนีที่นอนหลับ ก็กลิ้งกลับเกลือกตัวอยู่ยั้วเยี้ย ทั้งนกหกก็งัวเงียเหงาเงียบทุกรวงรัง
แต่แม่เที่ยวเซซังเสาะแสวงทุกแห่งห้องหิมเวศ ทั่วประเทศทุกราวป่า
        สุดสายนัยนาที่แม่จะตามไปเล็งแล สุดโสตแล้วที่แม่จะซับทราบฟังสำเนียง
        สุดสุรเสียงที่แม่จะร่ำเรียกพิไรร้อง สุดฝีเท้าที่แม่เยื้องย่องยกย่างลงเหยียบดิน
        ก็สุดสิ้นสุดปัญญาสุดหาสุดค้นเห็นสุดคิด จะได้พานพบประสบรอยพระลูกน้อยแต่สักนิดไม่มีเลย
        จึ่งตรัสว่าเจ้าดวงมณฑาทองทั้งคู่ของแม่เอ๋ย หรือว่าเจ้าทิ้งขว้างวางจิตไปเกิดอื่น เหมือนแม่ฝันเมื่อคืนนี้แล้วแล


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 14 ส.ค. 07, 14:50

      พระนางเที่ยวหาพระลูกตั้งแต่ยามเย็นจนรุ่งเช้าก็สุดสิ้นจะเที่ยวค้นทุกตำแหน่งแห่งละสามหนเที่ยวหา
         ..... นางจึ่งเซซังเข้าไปสู่พระอาศรมบังคมบาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวาจะวางวายทำลายล่วง
สองพระกรเธอข้อนทรวงทรงพระกันแสงครวญคร่ำแล้วรำพันว่า

        โอ้เจ้าดวงสุริยันจันทราทั้งคู่ของแม่เอ่ย แม่ไม่รู้เลยว่าเจ้าจะหนีพระมารดาไปสู่พาราใดไม่รู้ที่
หรือจะข้ามนทีทะเลวนหิมเวศประเทศทิศแดนใด ถ้ารู้แจ้งประจักษ์ใจแม่ก็ตามเจ้าไปจนสุดแรง
นี่ก็เหลือที่แม่จะเที่ยวแสวงสืบเสาะหา เมื่อเช้าแม่จะเข้าไปสู่ป่า พ่อชาลีแม่กัณหายังทูลสั่ง แม่ยังกลับหลังมาโลมลูบ
จูบกระหม่อมจอมเกล้าทั้งสองรา กลิ่นยังจับนาสาอยู่รวยรื่น

        โอ้พระลูกข้านี้จะไม่คืนเสียแล้วกระมังในครั้งนี้ กัณหาชาลีลูกรักแม่ นับวันแต่ว่าจะแลลับล่วงไปเสียแล้วและหนอ
ใครจะกอดพระศอเสวยนมผทมด้วยแม่เล่า ยามเมื่อแม่จะเข้าที่บรรจถรณ์ เจ้าเคยเคียงเรียงหมอนนอนแนบข้างทุกราตรี
แต่นี้แม่จะกล่อมใครให้นิทรา

        โอ้แม่อุ้มท้องประคองเคียงเลี้ยงเจ้ามาก็หมายมั่น สำคัญว่าจะได้อยู่เป็นเพื่อนยากจะฝากผีพึ่งลูกทั้งสองคน
มิรู้ว่าจะกลับวิบัติพลัดพรากไม่เป็นผลให้อาเพศผิดประมาณ
        เจ้าเอาแต่ห่วงสงสารนี่หรือมาสวมคล้องให้แม่นี้ติดต้องข้องอยู่ด้วยอาลัย เจ้าทิ้งชื่อและโฉมไว้ให้เปล่าอกในวิญญาณ์
เมื่อเช้าแม่จะเข้าไปสู่ป่ายังได้เห็นหน้าเจ้าอยู่หลัดหลัด ควรและหรือมาสลัดแม่นี้ไว้ เหมือนจะเตือนให้แม่นี้บรรลัยเสียจริงแล้ว
ควรจะสงสารเอ่ยด้วยนางแก้วกัลยาณี น้อมพระเกศีลงทูลถามหวังจะติดตามพระลูกรักทั้งสองรา กราบถวายบังคมลาลุกเลื่อน
เขยื้อนยกพระบาทเยื้องย่าง พระกายนางให้เสียวสั่นหวั่นไหวไปทั้งองค์ ดุจชายธงอันต้องกำลังลมอยู่ลิ่วลิ่ว สิ้นพระแรงโรย
เธอโหยหิวระหวยทรวง พระศอเธอหงุบง่วงดวงพระพักตร์เธอผิดเผือดให้แปรผัน จะทูลสั่งก็ยังมิทันที่ว่าจะทูลเลย

        แต่พอตรัสว่าพระคุณเอ๋ย คำเดียวเท่านั้นก็หายเสียงเอียงพระกายบ่ายศิโรเพฐน์ พระเนตรหลับหับพระโอษฐ์ลงทันที
วิสญญี หุตวา นางก็ถึงวิสัญญีสลบลงตรงหน้าฉาน ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาด ขาดระเนนเอนแล้วก็ล้มลง
ตรงหน้าพระที่นั่งเจ้า


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: agree ที่ 25 ส.ค. 07, 11:44
   ผมอยากบอกแม่
ว่าแม่ดีมาก
เมื่อแม่อดอยาก
ผมอยากตอบแทน

-------------------------------------

 :)


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: agree ที่ 25 ส.ค. 07, 11:47
   แม่นี้รักลูก
พันผูกกันนัก
แม่นี้ฟูมฟัก
ลูกรักของแม่

-------------------------

 ;)



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: agree ที่ 25 ส.ค. 07, 11:54
    แม่ผู้ให้กำเนิด
ให้บังเกิดเราทุกคน
มีแม่ไม่ปะปน
เราผองชนมีสุขใจ

--------------------------------

... เดี๋ยวจะมาแต่งเพิ่มอีกครับ


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: caeruleus ที่ 27 ส.ค. 07, 03:52
ขอแจมด้วยคนนะคะ
เพลงนี้เป็นเนื้อเพลงที่เพื่อนแต่งตอน ป.5 เพื่อร้องในงานวันแม่ของฝ่ายประถม
ถ้าจำไม่ผิด รุ่นของดิฉันเป็นรุ่นเดียวที่ได้ร้องแพลงนี้ค่ะ


  ถึงรวมฟ้ารวมดินสิ้นทั้งหมด
รวมทุกหยดสายชลบนพื้นหล้า
รวมสายลมรายล้อมพสุธา
ไม่เหมือนคุณมารดาผู้การุณย์
  คือน้ำใจใสสะอาดปราศภัยพิษ
คือดวงจิตจุนเจือคอยเกื้อหนุน
คือถ้อยคำพร่ำขานหวานละมุน
คืออกอุ่นโอบฉันจนวันตาย

- ศันสนีย์ (ขออภัยค่ะ จำนามสกุลไม่ได้)


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: agree ที่ 27 ส.ค. 07, 16:43
ฉันรักแม่เท่าฟ้ามหาสมุทร
ฉันรักสุดดวงใจที่ใฝ่หา
คือคำว่าแม่นี้ให้ชีวา
ฉันอยากมาตอบแทนคุณมารดา   :'(


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: agree ที่ 27 ส.ค. 07, 17:04
ขออภัยนะครับ ขอนอกเรื่องหน่อย

"จะกล่าวถึงเรือนไทยใครรู้บ้าง
 สิ่งต่าง ๆ ล้วนได้มาคัดสรร
 อ่านมาก ๆ อ่านดี ๆ อ่านไปพลัน
 แล้วใครกันได้ไปสู่ประตูชัย"


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 08, 11:26
       ผ่านไปหนึ่งปี วันที่ ๑๒ ส.ค. เวียนมาอีกครั้งครับ

คำประพันธ์เกี่ยวกับ “แม่” จาก สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

http://www.culture.go.th/study.php?&YY=2548&MM=7&DD=9


         


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 08, 11:28
"The hand that rocks the cradle is the hand that rules the world."
 
William Ross Wallace (1819-1881)


Blessings on the hand of women!
Angels guard its strength and grace,
In the palace, cottage, hovel,
Oh, no matter where the place;
Would that never storms assailed it,
Rainbows ever gently curled;
For the hand that rocks the cradle
Is the hand that rules the world.

Infancy's the tender fountain,
Power may with beauty flow,
Mother's first to guide the streamlets,
From them souls unresting grow--
Grow on for the good or evil,
Sunshine streamed or evil hurled;
For the hand that rocks the cradle
Is the hand that rules the world.

Woman, how divine your mission
Here upon our natal sod!
Keep, oh, keep the young heart open
Always to the breath of God!
All true trophies of the ages
Are from mother-love impearled;
For the hand that rocks the cradle
Is the hand that rules the world.

Blessings on the hand of women!
Fathers, sons, and daughters cry,
And the sacred song is mingled
With the worship in the sky--
Mingles where no tempest darkens,
Rainbows evermore are hurled;
For the hand that rocks the cradle
Is the hand that rules the world.


What Rules The World

They say that man is mighty;
He governs the land and sea,
He wields a might scepter
O'er lesser powers that be.


But a mightier  power and stronger       ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
Man from his throne has hurled,           ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
And the hand that rocks the cradle       อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา
Is the hand that rules the world.          คือหัตถาครองพิภพจบสากล 
     
                                                                                                      อะไรครองโลก?- พระราชธรรมนิเทศแปล
 


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 08, 11:32
  O Love above all other loves                   รักใดชูไว้เหนือรักอื่น
  Love free from worldly dross;                  เป็นรักรื่นไร้ราคีโลกียวิสัย
  Without a taint of selfishness                 รักมิใช่เพื่อตนหรือสนใจ
  Or thought  of gain or loss:                     คำนึงถึงกำไรหรือขาดทุน     
  The love so staunch when all else fails,    รักใดหยัดยืนเมื่ออื่นล้ม
  Love pure and undefiled,                         รักน่าชมสุกใสไม่ข้นขุ่น
  It is the love a mother gives                    รักนั้นคือรักแท้แม่การุญ
  So freely to her child.                              มอบแก่กุลบุตรธิดาผู้ยาใจ
     
                                          บทประพันธ์ของ ฟ. ว. โบเชต /พระราชธรรมนิเทศแปล

  They say there is no other                      เขากล่าวว่าหาใครในโลกนี้
  Can take the place of mother.                 เข้าแทนที่มารดาหาได้ไม่
     
                                          บทประพันธ์ของ เบอร์นาร์ด ชอ /พระราชธรรมนิเทศแปล


     Dear Mother.
   
 
    Dear Mother please make my bed,
Know that I have this pain in my head.
I have had it now for a number of days,
When moving around I am in a daze.

    Dear Mother make me a soothing brew,
Of one of your teas that you do stew.
Perhaps it will settle the pain in my head,
And stop my vision from being blood red.

    Dear Mother hold my hand tight,
See me through another long night.
In the morning gently awaken me,
With another cup of your freshly brewed tea.

    Dear Mother lay me to rest,
In my suit that is of the best.
For the tea that you lovingly brew,
Has not helped me see the night through.

    Dear Mother place flowers on my grave,
Do not sorrow that you could me not save.
Know that I am in a better place,
Since my tea you did with arsenic lace.

Bernard Shaw


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 08, 11:34
Somebody's Mother

    The woman was old and ragged and gray
    And bent with the chill of the Winter's day.

    The street was wet with a recent snow
    And the woman's feet were aged and slow.

    She stood at the crossing and waited long,
    Alone, uncared for, amid the throng

    Of human beings who passed her by
    Nor heeded the glance of her anxious eyes.

    Down the street, with laughter and shout,
    Glad in the freedom of "school let out,"

    Came the boys like a flock of sheep,
    Hailing the snow piled white and deep.

    Past the woman so old and gray
    Hastened the children on their way.

    Nor offered a helping hand to her -
    So meek, so timid, afraid to stir

    Lest the carriage wheels or the horses' feet
    Should crowd her down in the slippery street.

    At last came one of the merry troop,
    The gayest laddie of all the group;

    He paused beside her and whispered low,
    "I'll help you cross, if you wish to go."

    Her aged hand on his strong young arm
    She placed, and so, without hurt or harm,

    He guided the trembling feet along,
    Proud that his own were firm and strong.

    Then back again to his friends he went,
    His young heart happy and well content.

    "She's somebody's mother, boys, you know,
    For all she's aged and poor and slow,

    "And I hope some fellow will lend a hand
    To help my mother, you understand,

    "If ever she's poor and old and gray,
    When her own dear boy is far away."

    And "somebody's mother" bowed low her head
    In her home that night, and the prayer she said

    Was "God be kind to the noble boy,
    Who is somebody's son, and pride and joy!"

Mary Dow Brine (1816-1913)

   
       She’s somebody mother, boys, you know,   
       For all she’s aged and poor and slow.   
 
       เด็กเอ๋ยเด็กรู้ไหมยายคนนั้น       ถึงงกงันงุ่มง่ามตามประสา
       ถึงยากจนเข็ญใจวัยชรา           แกก็เป็นมารดาของบางคน
     
                                          แม่ของใครคนหนึ่ง - พระราชธรรมนิเทศแปล


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 08, 11:38
                A Mother's Love

A Mother's love is something                             
that no on can explain,             
It is made of deep devotion               
and of sacrifice and pain,
It is endless and unselfish
and enduring come what may
For nothing can destroy it
or take that love away . . .
It is patient and forgiving
when all others are forsaking,
And it never fails or falters
even though the heart is breaking . . .
It believes beyond believing
when the world around condemns,
And it glows with all the beauty
of the rarest, brightest gems . . .
It is far beyond defining,
it defies all explanation,
And it still remains a secret
like the mysteries of creation . . .
A many splendoured miracle
man cannot understand
And another wondrous evidence
of God's tender guiding hand.

Helen Steiner Rice (1900 - 1981)


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ส.ค. 08, 11:04
            นึกถึงกลอนนางวันทองกับพลายงามแล้วเลยนึกถึงนางเงือกกับสุดสาครขึ้นมา
ลองค้นในกูเกิ้ลพบดังนี้ครับ
         
นางเงือกเจ็บครรภ์จวนคลอดลูกอย่างเดียวดายไร้สามีเคียงข้าง

      จะกล่าวถึงเงือกน้อยกลอยสวาท           ซึ่งรองบาทพระอภัยเมื่อไกลสถาน
อยู่วนวังหลังเกาะแก้วพิสดาร                     ประมาณกาลสิบเดือนไม่เคลื่อนคลา
ให้เจ็บครรภ์ปั่นป่วนจวนจะคลอด                 ระทวยทอดลงกับแท่นที่แผ่นผา
จะแลเหลียวเปลี่ยวใจนัยนา                       ไม่เห็นหน้าผู้ใดที่ไหนเลย   
โอ้องค์พระอภัยก็ไปลับ                           ไม่เห็นกลับคืนมานิจจาเอ๋ย     
จะคลอดบุตรสุดใจเมียไม่เคย                     ที่ไหนเลยจะตลอดรอดชีวา

ท่านฤๅษีมาดู มาเป่าคาถาและกล่าว(อย่างมีเหน็บ)ว่า

       พระดาบสอดปากมิอยากได้          ใครใช้ให้มึงรักกันหนักหนา
ส่วนลูกไม่ออกสิบอกตา                     สมน้ำหน้าปวดท้องร้องเบยเบย
แล้วจับยามสามตาตำราปลอด              จวนจะคลอดแล้วละหวาสีกาเอ๋ย
กูถูกต้องท้องไส้ไม่ได้เลย                   ยังไม่เคยพบเห็นเหมือนเช่นนี้


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ส.ค. 08, 11:13
เมื่อคลอดออกมาเป็น  - กุมารคลานได้มิใช่ปลา  (พัฒนาการเกินคน ออกจากท้องก็คลานได้) 
นางจำต้องมอบลูกรักให้ท่านฤๅษีดูแลเพราะ

   โอ้เกิดมาอาภัพอัปภาคย์              จะจำจากมารดานิจจาเอ๋ย
อย่าเศร้าสร้อยน้อยใจอาลัยเลย          บุญแม่เคยครองเลี้ยงเจ้าเพียงนั้น
ไปชาติหน้ามาเกิดกับอกแม่               อย่าห่างแหเสน่หาจนอาสัญ
ในชาตินี้วิบากจะจากกัน                   เพราะต่างพันธุ์ผิดเพศสังเวชใจ

กาลผ่านไป นางเงือกแสนห่วงแสนอาลัยเมื่อลูกน้อยลาไปสู่โลกกว้างตามลำพัง
เพื่อตามหาเสด็จพ่อพระอภัยมณี

     นางเงือกน้ำกำสรดสลดจิต          สุดจะคิดคับทรวงดวงสมร         
จะทานทัดขัดใจมิให้จร                   สุดสาครของแม่จะแดดาล
นางดูหน้าอาลัยใจจะขาด                ดังฟ้าฟาดทรวงแยกให้แตกฉาน
สะอื้นอั้นตันใจอาลัยลาน                 แสนสงสารโศกาแล้วว่าพลาง
โอ้ทูนหัวตัวแม่นี้ไม่ห้าม                  สุดแต่ตามใจปองอย่าหมองหมาง
แต่ปรานีที่ไม่แจ้งรู้แห่งทาง              จะอ้างว้างวิญญาในวารี
เคยกินนมชมชื่นระรื่นรส                  พ่อจะอดนมหมองละอองศรี
ทั้งย่อมเยาว์เบาความได้สามปี           เล็กเท่านี้จะไปกระไรเลย


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ส.ค. 08, 11:17
นางเงือกสั่งความลูกรักจากดวงใจแม่ผู้ประเสริฐ   

      นางรู้ว่าอาจารย์บอกหลานน้อย            ที่เศร้าสร้อยสร่างเสื่อมเพราะเลื่อมใส
ฤๅษีช่วยด้วยแล้วเห็นไม่เป็นไร                   ค่อยวางใจจึงว่าแม่ก็แก่กาย
พ่อไปปะพระบิดาแล้วอย่ากลับ                   จงอยู่กับภูวนาถเหมือนมาดหมาย
แม้นลูกยาผาสุกสนุกสบาย                       ถึงแม่ตายเสียก็ไม่อาลัยตัว
ถ้าเที่ยวไปไม่พบตลบหลัง                       มาเหมือนสั่งอย่าให้สูญนะทูนหัว
แม่อยู่นี่มิเป็นไรดอกไม่กลัว                      จะฝากตัวดาบสจนปลดปลง
พ่อไปถึงจึงทูลมูลเหตุ                            ให้ทรงเดชทราบความตามประสงค์
ว่าชาตินี้มิได้ปะกับพระองค์                       ขอดำรงรองบาททุกชาติไป
แล้วเงือกน้ำอำนวยอวยสวัสดิ์                    อย่าเคืองขัดขุ่นข้องให้ผ่องใส
ให้พบปะพระบิดาดังอาลัย                        อรินภัยคลาดแคล้วอย่าแผ้วพานฯ


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 ส.ค. 08, 08:27
"ความหมายของดอกมะลิ"

                                        “ไร้ตำหนิขาวสะอาดชวนมาดหมาย    
บริสุทธิ์ผุดผ่องละอองกาย   จวบกระจายกลิ่นโรยรารักษานวล
ระรวยรินกลิ่นออมอบหอมหวาน   ตลอดกาลทานทนสุคนธ์หวน
แต่แรกแย้มกลิ่นตรลบอยู่อบอวล   มิผันผวนสุคนธ์รื่นทุกคืนวัน
สรรพคุณสมค่าดอกมะลิ      เมื่อแรกผลิสลับร้อยมาลัยขวัญ
ลอยอบน้ำปรุงบุหงาสารพัน   เหี่ยวแห้งแล้วยังสรรค์สร้างความดี
เป็นกระสายแรกยารักษาไข้   ดับร้อนในชื่นวิญญาพาสุขี
จึงขอยกขึ้นขั้นชั้นมาลี      ประดับกายหมายแม่ที่เราบูชา”

ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ร้อยกรอง เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ ซึ่งเป็นปีที่มีการกำหนดดอกมะลิให้เป็นสัญลักษณ์วันแม่เป็นปีแรกครับ


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 11:49
     สวัสดีครับ คุณUP

      วันนี้ท่องเน็ทแล้วดีใจได้พบกลอน My Mother (ซึ่งได้แสดงไว้แล้ว) พร้อมภาพประกอบสวยงามครับ

"My Mother" a Victorian Poem
 
http://www.mamalisa.com/blog/?p=691

     ภาพประกอบฝีมือของ Walter Crane ซึ่งได้เขียนข้อความไว้ด้วยในปี ๑๙๑๐ ว่า

   “My Mother? is mid-Victorian—just after crinolines had gone out—
but mothers are always in fashion, bless them…


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 11:52
My Mother

Who fed me from her gentle breast,
And hush’d me in her arms to rest,
And on my cheek sweet kisses prest?
My Mother.

When sleep forsook my open eye,
Who was it sung sweet hushaby,
And rock’d me that I should not cry?
My Mother.

Who sat and watched my infant head,
When sleeping in my cradle bed,
And tears of sweet affection shed?
My Mother.


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 11:53
When pain and sickness made me cry,
Who gazed upon my heavy eye,
And wept for fear that I should die?
My Mother.

Who dress’d my doll in clothes so gay,
And taught me pretty how to play.
And minded all I had to say?
My Mother.


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 11:55
Who taught my infant lips to pray,
And love God’s holy book and day.
And walk in Wisdom’s pleasant way?
My Mother.

And can I ever cease to be
Affectionate and kind to thee,
Who was so very kind to me?
My Mother.



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 11:56
Ah, no! the thought I cannot bear;
And if God please my life to spare,
I hope I shall reward thy care,
My Mother.

Who ran to help me when I fell,
And would some pretty story tell,
Or kiss the place to make it well?
My Mother.



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 11:58
When thou art feeble, old, and gray,
My healthy arm shall be thy stay,
And I will soothe thy pains away.
My Mother.



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 11:59
And when I see thee hang thy head,
’Twill be my turn to watch thy bed.
And tears of sweet affection shed,
My Mother.



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 12:01
For God, who lives above the skies,
Would look with vengeance in His eyes,
If I should ever dare despise
My Mother.

[Taylor later softened the last verse, changing it to the following.]

For could our Father in the skies
Look down with pleased or loving eyes,
If ever I could dare despise
My Mother.


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ส.ค. 08, 12:20
To My Mother
 
Christina Rossetti (1842) กวีหญิงชาวอังกฤษ ยุควิคตอเรียน
เธอแต่งโคลงบทนี้ให้แม่ ในวันเกิด  เมื่ออายุได้ 11 ปี

To-day’s your natal day,
Sweet flowers I bring;
Mother, accept, I pray,
My offering.

And may you happy live,
And long us bless;
Receiving as you give
Great happiness.



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ส.ค. 08, 13:07
http://www.poems-verses.com/love_poems/whats_a_mother_worth

What's a Mother Worth?
- Dave

I humbly appraise my mother's worth,
It began with pain to give me birth,
Which triggered off a love so strong,
Blossoming into a life-long bond.

When needed, she was always there,
Someone I realised would always care.
And the older I got the more I knew,
A mother's love sincere and true.

Now as I watch Mum age in years,
I'm happy to help and ease her fears.
Privileged now to play my part,
As she did for me from the very start.



กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ส.ค. 08, 13:12
ตอนเล็กๆ   แม่เคยสอนให้ท่องกลอนบทนี้ค่ะ  จนจำขึ้นใจ   
เสียดาย  ไม่ทราบว่าใครแต่ง

เมื่อล้มกลิ้งใครหนอวิ่งเข้ามาช่วย                           และปลอบด้วยนิทานกล่อมขวัญให้
หรือจูบที่เจ็บชะมัดเป่าปัดไป                                 ผู้นั้นไซร้ที่แท้แม่ฉันเอง

สมัยจอมพลป.  จำได้จากหนังสือเก่าๆ ว่าแม่ที่ชนะประกวดแม่ดีเด่น หรือครอบครัวตัวอย่าง อะไรพวกนี้
ตัดสินจากมีลูกถึง ๑๒ คน  เลี้ยงรอดหมดทุกคน สุขภาพดีด้วย


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 15:06
      พระราชธรรมนิเทศ แปลเป็นร้อยกรองจาก My Mother ครับ

ประวัติของท่านหาได้ยากจากกูเกิ้ล ส่วนใหญ่จะพบเป็น พระราชธรรมนิเทศ(พระพยอม กัลยาโณ)
และ พระราชธรรมนิเทศ(ระแบบ ฐิตญาโณ) ท่านหลังมีชื่อเป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

"สุดสงวน" แห่งสกุลไทยเขียนไว้ว่า

   ...เพื่อนรัก ๒ คนได้โทรศัพท์ถึง สุดสงวน ยืนยันว่า พระราชธรรมนิเทศ ผู้แปลโคลงกลอนฝรั่งมาเป็นกลอนไทย
ที่แสนจับใจว่า
         เมื่อล้มกลิ้งใครหนอวิ่งเข้ามาช่วย
    และปลอบด้วยนิทานกล่อมขวัญให้
    หรือจูบที่เจ็บชะมัดเป่าปัดไป
    ผู้นั้นไซร้ที่แท้แม่ฉันเอง
         นั้นไม่ใช่ พระนักเทศน์ชื่อดังวัดย่านนนทบุรี อย่างที่นักวิชาการปัจจุบันบางคนกล่าวอ้างผิดๆ
เพื่อนยืนยันว่าพระราชธรรมนิเทศ (ที่สิ้นชีวิตไปนานพอสมควรแล้ว) คนนั้นเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ทำงานทำนองเดียวกับ
หลวงวิจิตรวาทการ คือ เป็นคนมีความรู้ทางภาษาคนหนึ่ง และผลงานทำให้ท่านกลายเป็นมือเป็นไม้ให้ผู้มีอำนาจในวงการเมือง
เป็นข้าราชการที่ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น พระ (ขุน-หลวง-พระ-พระยา-เจ้าพระยา-สมเด็จเจ้าพระยา) ที่มีราชทินนาม
(นามที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานหรือตั้งให้ สำหรับต่อท้ายบรรดาศักดิ์) ว่า ราชธรรมนิเทศ ไม่ใช่พระที่เป็นบรรพชิต
         พระราชธรรมนิเทศแปลกลอนชิ้นนี้มาจากโคลงกลอนของ (ดูเหมือนจะเป็นพี่น้อง) ฝรั่งคู่หนึ่งที่ชื่อ
Jane and Ann Taylor เขียนไว้น่าฟังว่า
    Who ran to help me
    When I fell
    And would some pretty story tell
    Or kiss the place to make it well
    My Mother         


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 15:11
       จากเว็บบ้านคนรักสุนทราภรณ์มีเพลง แม่
ผู้ประพันธ์คำร้องคือพระราชธรรมนิเทศ

    แม่เป็นคำหวานซึ้งและตรึงใจ
ไม่มีคำใดไหนจะมาแทนที่
แม่ แม่จ๋าหวานซึ้งตรึงใจทวี
กว่าคำแม่เรานี้ที่ชมเพลิน

ถ้าหญิงใดไม่ถูกเรียกแม่จ๋า
ควรคิดหาทางแก้เสียแต่เนิ่นเนิ่น
ยึดสภาหญิงไว้ให้เจริญ
ดีกว่าหลงยอเยินคนต่างแดน

ในต่างด้าวนั้นไซร้ใครสมรส
กับต่างชาติย่อมหมดกำเนิดแม่น
ฉันอยากเห็นไทยบำเพ็ญให้เหมือนแม้น
กับต่างแดนเสียบ้างเอาอย่างดี

รักษาคำแม่จ๋าอย่างหนาแน่น
ให้เหมือนแม้นกล่อมลูกอย่างถูกที่
ให้หลับนอนผ่อนสบายกายใจดี
แม่ยังมีช่องทางสร้างชาติไทย

เกร็ดเพลง

1. ในสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ได้ส่งเสริมให้สตรีมีบุตรมาก ๆ จนถึงกับมีการประกวดแม่ดีเด่น คือแม่ที่มีบุตรมาก
2. พระราชธรรมนิเทศ ประพันธ์คำร้องไว้ เมื่อปี 2490


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 15:23
         ท่านแต่งเนื้อเพลงให้วงดนตรีกรมโฆษณาการในยุคนั้น ดังคำเล่าของครูสริ ยงยุทธว่า
           พ.ศ. ๒๔๘๓ วงดนตรีกรมโฆษณาการได้เริ่มสร้างบทเพลงสำหรับนักร้องขึ้นมา โดยมี
ครูเอื้อ สุนทรสนานเขียนทำนองเป็นส่วนใหญ่ และมีครูเวส สุนทรจามรกับผม(สริ ยงยุทธ) คอยเป็นผู้ช่วย
สำหรับเนื้อร้องก็ช่วยกันหลายคนแต่ที่เขียนบ่อย ๆ ก็คือ พระราชธรรมนิเทศ
          ตอนนั้นถ้ามีคำสั่งจากรัฐบาลเรื่องเกี่ยวกับนโยบายรัฐ ครูเอื้อ ก็แต่งแล้วให้บิลลี่เรียบเรียง หรือบางครั้ง
พระราชธรรมนิเทศแต่งเนื้อมา แล้วครูเอื้อมาใส่ทำนอง แล้วเรียบเรียงให้วงดนตรีบรรเลงออกอากาศ
ตอนนั้นเพลงมีมากมาย รัฐบาลสั่งมาตอนเช้าช่วงบ่าย ๆ เพลงเขียนเสร็จแล้วส่งกระจายเสียงเลย หรือ
พูดง่าย ๆ ว่า สั่งเช้าได้บ่าย ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจรัฐบาลสมัยนั้นเป็นอย่างมาก..

ปรากฏรายชื่อท่านเป็นหนึ่งในนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ที่เคยดำรงตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายนิติบัญญัติ (รวม 8 ท่าน)

    พระราชธรรมนิเทศ (เพียร ไตติลานนท์)                  ประธานรัฐสภา

จากเว็บ รัฐสภาไทย ครับ
      พระราชธรรมนิเทศ (เพียร ราชธรรมนิเทศ)
ประธานสภาผู้แทนราษฎร
๑๕ มิถุนายน ๒๔๙๒ - ๒๙ พฤศจิกายน ๒๔๙๔


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ส.ค. 08, 16:00
อีกหนึ่งร้อยกรองที่ระบุว่าเป็นของท่าน ครับ

There is none,
  In all this cold and hollow world, no fount
    Of deep, strong, deathless love, save that within
      A mother's heart.
 
Felicio D. Hemans English poet (1793 - 1835)

ในโลกอันหนาวทรวงลวงหลอกนี้
ช่างไม่มีธารรักอันศักดิ์สิทธิ์
ที่ซึมซาบดื่มด่ำอมฤต
เหมือนในจิตของแม่รักแท้จริง


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ส.ค. 08, 17:27
เพิ่งรู้จากคุณศิลาในกระทู้นี้เองว่า พระราชธรรมนิเทศ  ไม่ใช่เจ้าคุณอยู่ในวัด อย่างที่เคยนึก  แปลกใจว่าประวัติของท่านไม่เป็นที่คุ้นเคยเลยค่ะ
ทั้งๆผลงานท่าน เป็นที่รู้จักกันมาก
กลอนที่แม่สอนให้ มีคำผิดเพี้ยนกันไปจากที่คุณสุดสงวนเขียนไว้  ของคุณสุดสงวนน่าจะถูก  ดิฉันเลยไปแก้ไขของตัวเองแล้ว


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ส.ค. 13, 14:32
แม้ผ่านไปห้าปีมิมีสาย .......

Only One Mother  

Hundreds of stars in the pretty sky,
Hundreds of shells on the shore together,
Hundreds of birds that go singing by,
Hundreds of lambs in the sunny weather.

Hundreds of dewdrops to greet the dawn,
Hundreds of bees in the purple clover,
Hundreds of butterflies on the lawn,
But only one mother the wide world over.

George Cooper


ถึงร้อยดาวพราวพรายกระจายแสง
กระจ่างแจ้งแจ่มฟ้าเวหาหน
ถึงร้อยมุกต์เมิลระยับกับสายชล
ที่ริมวนวังหาดดาษดา

ถึงร้อยนกผกผินได้ยินเสียง
ส่งสำเนียงในทำนองร่อนถลา
ถึงร้อยหมู่ภู่ภมรร่อนนภา
เคล้าผกาซาบแสงสุริยัน

ถึงร้อยหยดเย็นเยือกน้ำค้างหยาด
เมื่อสูรย์สาดแลอร่ามงามเฉิดฉัน
ถึงร้อยเมษเพศมฤคอธึกพันธ์
ที่ดุ่มดั้นเล็มหญ้ามาตามชาย

ถึงร้อยสีผีเสื้อเหลือจะนับ
แลระยับในสนามงามเฉิดฉาย
แต่แม่นำกำเหนิดบังเกิดกาย
จะหาภายภพนี้มีผู้เดียว

จิตร  ภูมิศักดิ์


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ส.ค. 13, 15:49
ห้าปีแล้ว !!!! :o

       อ่านกลอนที่คุณเพ็ญนำมาลงเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก่อน แล้วก็นึกว่าบรรทัดสุดท้ายนี้
                  But only one mother the wide world over.
จะแปลแล้วแต่งออกมาเป็นยังไง

        พออ่านที่จิตร ภูมิศักดิ์ แปลเป็น จะหาภายภพนี้มีผู้เดียว
แล้วก็ 
 
     


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ส.ค. 20, 09:15
เจ็ดปีผ่านไป ......

แม่

ยิ่งกว่าดินหนักแน่นเต็มแผ่นพื้น
ยิ่งกว่าน้ำไหลรื่นชื่นใจขวัญ
ยิ่งกว่าลมโบยร่ำพ้นรำพัน
ยิ่งกว่าไฟให้ชีวัน นั่นแม่เรา

ชมัยภร แสงกระจ่าง
๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 20, 10:22
ร่วมย้อนอดีตกระทู้นี้, เพิ่มเติมข้อมูล พระราชธรรมนิเทศ ที่พบมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อแรกค้นหลายปีก่อน

ฟบ. สามก๊ก

            พระราชธรรมนิเทศ เป็นหนึ่งในสี่ปราชญ์คู่บุญของ “ท่านผู้นำ”  

“ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล”

“อะไรครองโลก” ถอดความเป็นภาษาไทยโดย พระราชธรรมนิเทศ

จากคำประพันธ์ What rules the world? ของ William Rose Wallace

« But a mightier power and stronger
Man from his throne has hurled,
And the hand that rocks the cradle
Is the hand that rule the world. »

.....................................................................

              พระราชธรรมนิเทศนี้ คือ นายเพียร ราชธรรมนิเทศ (เดิมท่านใช้นามสกุล ไตติลานนท์ ต่อมาเมื่อยกเลิกบรรดาศักดิ์
จึงนำราชทินนามมาตั้งเป็นนามสกุล)
              “พระ” เป็นบรรดาศักดิ์ ส่วน “ราชธรรมนิเทศ” เป็นราชทินนามของท่าน เป็นฆราวาส

               พระราชธรรมนิเทศ ท่านเป็นหนึ่งใน “สี่ปุโรหิต” คู่บารมีท่านจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่มาของสมญานี้ มาจาก
ท่านจอมพลมักพูดอยู่เสมอว่า ในมโหสถชาดกนั้น มีปุโรหิตอยู่สี่คนที่ช่วยว่าราชการงานต่าง ๆ ให้กับมโหสถ และตัวท่านเอง
ก็มี “ปราชญ์” ถึงสี่คนคอยช่วยงานการด้วยเช่นกัน คือ “ยง เถียร เพียร นวล” อันหมายถึง

พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ)
หลวงวิเชียรแพทยาคม (เถียร ตูวิเชียร)
พระราชธรรมนิเทศ (เพียร ไตติลานนท์) และ
หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์)

จาก http://www.vajiravudh.ac.th/VC_Annals/vc_annal118.htm

            พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงรับรัชทายาทเสด็จดำรงสิริราชสมบัติสืบต่อมา ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดระเบียบ
ราชการในพระราชสำนัก โดยโปรดเกล้าฯ ให้ยุบส่วนราชการและแปรสภาพกรมมหาดเล็ก......
            ...ส่วนพระราชธรรมนิเทศ (เพียร ไตติลานนท์) ผู้บังคับการโรงเรียนราชวิทยาลัยก็ได้ถวายฎีกาคัดค้าน


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 20, 10:31
พระราชธรรมนิเทศ ที่เว็บ สถาบันพระปกเกล้า

http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=พระราชธรรมนิเทศ

              ในบรรดาผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของไทยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางภาษาไทยแล้วมีจำนวนไม่มากนัก
และ“นายเพียร ราชธรรมนิเทศ” หรือ “พระราชธรรมนิเทศ” คือหนึ่งในจำนวนนั้น และถือว่าเป็นปราชญ์ภาษาไทยแห่งยุคสมัยเชื่อ
ผู้นำชาติพ้นภัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม อย่างแท้จริง

              เพียร ราชธรรมนิเทศ เข้ารับการศึกษาที่วัดทรงธรรม พระอารามหลวงแห่งจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นวัดที่ให้การเรียน
การสอนแก่ภิกษุ สามเณรเป็นหลักจึงสอนด้วยภาษาบาลี แต่หากจะทำการสอนแก่บุตรหลานในชุมชนจะใช้บริเวณใต้ถุนกุฏิพระครู
เจ้าอาวาสเป็นห้องเรียน นักเรียนแห่งสำนักวัดทรงธรรมเมื่อจบการศึกษาออกไปจึงซึมซับภาษาบาลีออกไปด้วย

              จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2485 ประกอบด้วย
กรรมการ จำนวน 26 คน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีชื่อเสียง มีบทบาทหน้าที่สำคัญในทางวัฒนธรรมทั้งสิ้น โดยตนเองเป็น
ประธานกรรมการ และในจำนวนนี้นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานกรรมการด้วย

              ในการปรับปรุงภาษาไทยครั้งนี้ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากเพราะบางคำ หรือบางประโยคในหลักภาษาไทย
เมื่อเปลี่ยนตัวสะกดย่อมทำให้ความหมายเปลี่ยนแปลงไปได้
              แต่หากพิจารณาบนพื้นฐานข้อมูลและบริบทรอบด้านแห่งยุคสมัยแล้ว ควรให้ความเป็นธรรมแก่คณะกรรมการชุดนี้ เพราะ
คงไม่มีใครอยากเปลี่ยนแปลงวิถีแห่งวัฒนธรรมทางภาษาที่เป็นอัตลักษณ์ของชนชาวสยามที่มีมาอย่างยาวนานเป็นแน่ หากไม่ได้รับ
แรงกดดัน และ ที่สำคัญใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เพื่อความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
              สาเหตุที่ต้องเร่งรีบและปรับเปลี่ยนอย่างฉับพลัน เพราะเหตุว่าญี่ปุ่นได้เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยเพื่อทำสงคราม
ปลดปล่อยชนผิวเหลืองในสงคราม มหาเอเชียบูรพา และแจ้งแก่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีว่าภาษาไทยเรียนยาก
เพราะมีพยัญชนะและสระมากมายเหลือเกิน จึงเห็นสมควรให้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการแทน
              หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมรับความพ่ายแพ้และหมดอิทธิพลในภูมิภาคอุษาคเนย์ คณะรัฐมนตรีหลังสงครามโลกได้ยกเลิกประกาศ
ฉบับนี้ การใช้ภาษาไทยแบบเดิมได้รับการนำกลับมาใช้ใหม่

เพิ่มเติม 4 ปุโรหิต : ยง เถียร เพียร นวล : โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ ที่

https://www.matichon.co.th/columnists/news_724312


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 20, 10:36
              เมื่อสงครามยุติลงประเทศไทยตกอยู่ในสถานะประเทศผู้แพ้สงคราม มหาอำนาจฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะสงคราม
จึงบีบบังคับให้หาตัวผู้กระทำการดังกล่าวมาลงโทษในฐานะอาชญากรสงคราม ด้วยเหตุนี้จอมพล ป. พิบูลสงคราม พระราช
ธรรมนิเทศ และนายสังข์ พัฒโนทัย จึงถูกตั้งข้อหาตามพระราชบัญญัติอาญากรสงคราม พุทธศักราช 2488

              ศาลฎีกาโดยพระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์ ผู้ซึ่งเป็นทั้งประธานศาลฏีกาและเป็นเจ้าของสำนวน ร่วมวินิจฉัยกับองค์คณะ
ประกอบด้วยพระยาเลขวณิชธรรมวิทักษ์ พระยาธรรมบัณฑิตสิทธิศฤงคาร และพระชัยประชา ได้ชี้ขาดว่าพระราชบัญญัติอาชญากร
สงคราม พ.ศ. 2488 เฉพาะที่บัญญัติย้อนหลังว่าการกระทำก่อนวันประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ คือวันที่ 11 ตุลาคม 2488 เป็น
ความผิดด้วยนั้น ขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 และเป็นโมฆะ อันจะทำให้ลงโทษจำเลยทั้ง 3 ไม่ได้
จึงต้องปล่อยจำเลยให้พ้นข้อหาไป นายเพียร ราชธรรมนิเทศ จึงพ้นบ่วงกรรมที่ประเทศมหาอำนาจพันธมิตรหยิบยื่นให้

              วันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 “คณะผู้บริหารประเทศชั่วคราว” ซึ่งมีพลโท ผิน ชุณหะวัณ เป็นผู้นำกระทำการยึดอำนาจ
การปกครองจากรัฐบาลหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์

              ปี พ.ศ. 2491 ได้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นเพื่อทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 40 คน
โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญได้จัดโครงสร้างการทำงานออกเป็นคณะ กรรมาธิการ 5 คณะ หนึ่งในนั้นคือ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
ประกอบด้วยกรรมาธิการ 9 คน มีเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์ ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน มีนายหยุด แสงอุทัย เป็นเลขานุการ และ
นายเพียร ราชธรรมนิเทศ เป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการนี้ด้วย

              อีกครั้งหนึ่งที่นายเพียร ราชธรรมนิเทศ เข้าไปมีบทบาทในการจัดทำรัฐธรรมนูญ คือ เมื่อจอมพล ผิน ชุณหะวัณ กระทำ
การยึดอำนาจ (อีกครั้ง) ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2494 เพื่อจัดระบบการเมืองเสียใหม่ตามที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม ผู้นำตัวจริง
ต้องการ คือ ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492 โดยการนำเอารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2475 กลับมาใช้ใหม่ แต่ได้แก้ไขเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับภาวการณ์ของบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป และนายเพียร
ราชธรรมนิเทศ ได้เข้าไปมีบทบาทในการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ด้วย


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ส.ค. 20, 10:42
               การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 6 วันที่ 29 มกราคม 2491 ตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ลงสมัครรับเลือกตั้งและได้รับเลือกเป็นสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปทุมธานี

                ในคราวประชุมสภาผู้แทน (ไม่มีคำว่า “ราษฎร” ต่อท้าย) ครั้งที่ 1/2492 สมัยสามัญ วันพุธ ที่ 15 มิถุนายน 2492
หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ผู้ซึ่งมีอายุสูงสุดเป็นประธานการประชุมชั่วคราว เพื่อทำหน้าที่เลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทน
นายเพียร ราชธรรมนิเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี ได้รับการเลือกเป็นประธานสภาผู้แทน

                 ช่วงเวลาที่นายเพียร ราชธรรมนิเทศ เป็นประธานสภาผู้แทนนั้น มีเหตุการณ์ที่ควรบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ว่า
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 ที่เมืองโลซานน์
สวิสเซอร์แลนด์ เมื่อความทราบมายังประเทศไทย นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ได้มีโทรเลขถวายพระพรในนามสภาผู้แทนราษฎร
                 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสรงมุรธาภิเษกแล้วทรงเครื่องต้นเสด็จออกประทับเหนือ
พระที่นั่งอิฐทิศภายใต้ศตปฏลเศวตฉัตร (ฉัตร 7 ชั้น) พราหมณ์ทำพิธีถวายน้ำเทพมนต์เวียนครบ 8 ทิศ แล้ว เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ
ประธานวุฒิสภา ถวายพระพรเป็นภาษมคธ และนายเพียร ราชธรรมนิเทศ ประธานสภาผู้แทน ถวายพระพรเป็นภาษาไทย
                 นายเพียร ราชธรรมนิเทศ เมื่อพ้นจากหน้าที่ประธานสภาผู้แทนแล้ว ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก “ท่านผู้นำ” เสนอชื่อ
แต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 2 และได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร อีกถึง
สองสมัยเพื่อใช้ประสบการณ์ช่วยเหลือและสนับสนุนงานพระยามานวราชเสวี ประธานสภาผู้แทนราษฎร คนต่อมา

รูปภาพที่ค้นพบยังเป็นรูปเดิม


กระทู้: ร้อยกรองวันแม่
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ส.ค. 23, 09:35
Only One Mother  

สุขสันต์วันแม่อีกครา

ถึงร้อยมุกร้อยดาวพราวพรายแสง
ร้อยแมลงภู่วิหคผกถลา
ร้อยความงามธรรมชาติสะอาดตา
มิเทียบค่าเท่าหนึ่ง "แม่" แน่แท้เทียว