เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์โลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 17:53



กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 17:53
มาเสิฟน้ำจิ้ม  รอคุณประกอบ และ/หรือ ท่านที่อยากจะเล่าเรื่องนี้ค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 10 ส.ค. 16, 19:22
จองแถวสองแล้วกันครับ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 ส.ค. 16, 20:06
มาลงชื่อรอเรียนแถวหน้าเลย  ;D ;D ;D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 10 ส.ค. 16, 20:54

โอ้ ขอบพระคุณค่ะ  เข้ามานั่งรออาจารย์ก่อนเลย


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 21:00
อาจารย์หนีงานไปคนนึงค่ะ หมายเลข 2


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 ส.ค. 16, 21:53
อาจารย์หนีงานไปคนนึงค่ะ หมายเลข 2

อ้าว เหรอครับ เป็นท่านอาจารย์ใหญ่กว่าหรือซายาเพ๊ญครับที่หนีงาน  เหลวไหลมาก  แบบนี้ต้องไปตามตัวมาสอน ไม่ก็ออกแอ๊ปเรือนไทยโก ;D  ;D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 22:05
สัญญาเมื่อสายัณห์  ;D

ถ้าไม่ลืม    จะมาเล่าเรื่องสงครามดอกกุหลาบให้ฟัง  ในห้องหน้าต่างโลก นะคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 22:19
 :-[


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 11 ส.ค. 16, 07:01
Molly มาลงชื่อเข้าชั้นเรียนด้วยค่ะ  :D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 09:58
เสิฟแพนเค้กแบบอังกฤษ ให้รับประทานกันไปพลางๆก่อนค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 10:49
    ถ้าบ่นมาแล้วก็จะขอบ่นซ้ำ
    ประวัติศาสตร์อังกฤษมีเรื่องน่ามึนหัวอยู่เรื่องหนึ่งคือพระนามกษัตริย์อังกฤษ ชอบตั้งกันซ้ำซากอยู่ไม่กี่ชื่อ เช่นริชาร์ด เฮนรี่  จอร์ช    บรรดาเจ้าชายทั้งหลายก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน  คือซ้ำซากกันเหมือนชื่อพ่อ       เมื่อต้องเล่าเรื่องอะไรที่ต่อเนื่องหลายรัชสมัย ก็จะมีชื่อพระเจ้าแผ่นดินที่ซ้ำๆกันตามด้วยหมายเลข เช่นเฮนรี่ที่สอง เฮนรี่ที่สาม  ให้ต้องมานับกันหลายครั้งหลายครา ว่าเฮนรี่องค์ไหนกันแน่
   สงครามดอกกุหลาบก็อยู่ในข่ายนี้ละค่ะ
   ไม่มีใครมาช่วยเล่า   ก็ขอลาไปนับชื่อซ้ำๆพวกนี้ให้หายงงเสียก่อนนะคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 11:56
    ถอยหลังกลับไปถึงยุคกลางของยุโรป   ในศตวรรษที่ 14 ต่อกับศตวรรษที่ 15   ขอปักจุดสตาร์ทที่พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษทรงพระนามว่า เอ็ดเวิร์ดที่ 3    
    พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 มีพระราชโอรสหลายองค์   แต่ที่เกี่ยวกับกระทู้นี้มี 4 องค์คือ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรสองค์ใหญ่  มีสมญาว่า the Black Prince  หรือเจ้าชายดำ    ครองตำแหน่งรัชทายาท
     องค์ที่สองชื่อเจ้าชายไลออนเนล ต่อมาคือดยุคแห่งคลาเรนซ์  แต่ในประวัติช่วงนี้ ไม่ต้องไปสนใจเพราะยังไม่เกี่ยว  องค์ที่สาม  ชื่อ เจ้าชายจอห์นออฟก๊อนท์ ทรงกรมเป็นดยุคออฟแลงคาสเตอร์     กับองค์ที่สี่ ชื่อเจ้าชายเอ็ดมันด์  ดยุคออฟยอร์ค
    เจ้าชายจอห์นออฟก๊อนท์ องค์นี้คือพระเอกในเรื่องแคทเธอรีนที่คุณ Tita  เอ่ยถึงไงคะ

    เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ  ประชวรสิ้นพระชนม์ก่อนพระบิดาคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 เสด็จสวรรคตเล็กน้อย    ราชบัลลังก็เลยผ่านลงไปถึงพระโอรสองค์ใหญ่ของท่าน   ผู้มีพระชันษาแค่ 10 ขวบ   ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าริชาร์ดที่ 2
    เจ้าชายจอห์นออฟก๊อนต์  ดยุคออฟแลงคาสเตอร์ เสด็จอาของพระเจ้าริชาร์ดผู้เยาว์วัย  มีโอรสองค์โตชื่อเจ้าชายเฮนรี่ โบลิงโบรค    ในรัชสมัยของพระเจ้าริชาร์ดซึ่งเจริญวัยขึ้นจนเป็นหนุ่ม    เจ้าชายเฮนรี่พระญาติลูกพี่ลูกน้ององค์นี้เกิดขัดแย้งกับรุนแรงกับพระเจ้าแผ่นดิน     พระเจ้าริชาร์ดก็เลยตั้งข้อหาว่าเจ้าชายเฮนรี่เป็นผู้ทรยศ(เรียกง่ายๆว่ากบฏ)  แล้วเนรเทศออกนอกประเทศไปให้พ้นหูพ้นตา   ส่วนมรดกทรัพย์สินมหาศาลที่ตกทอดมาจากพ่อคือเจ้าชายจอห์นออฟก๊อนต์ ก็ถูกริบตกเป็นของหลวงหมด
    แต่เจ้าชายเฮนรี่นั้นเก่งเอาการ    นอกจากไม่ยอมแพ้แล้ว ยังหวนกลับมาทวงสมบัติคืน  จับพระเจ้าริชาร์ดถอดจากราชบัลลังก์ได้สำเร็จ   แล้วเจ้าชายเองก็ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน  เฉลิมพระนามว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 4  
 


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 12:10
ซ้าย  พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3
ขวาบน  เจ้าชายจอห์นออฟก๊อนต์   ดยุคออฟแลงคาสเตอร์
ขวาล่าง  เจ้าชายเอ็ดมันด์   ดยุคออฟยอร์ค


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 15:37
พระเจ้าริชาร์ดที่ 2  ครองราชย์แต่ยังเยาว์


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 16:19
          พระเจ้าเฮนรี่หลังจากชิงบัลลังก์มาได้ ก็ครอบครองอังกฤษอยู่จนสิ้นรัชกาล    พระโอรสขึ้นครองราชย์ต่อ ทรงพระนามว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 ก็ครองราชย์มาจนสิ้นรัชกาลอีกเหมือนกัน
        ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อพระองค์สวรรคตเร็วไปหน่อย   พระโอรสผู้เป็นรัชทายาทอายุแค่ 9 เดือนยังอุแว้อยู่บนเบาะ     ทรงพระนามว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6  ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระเยาว์ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ   จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครมาทำลายสถิติ
        รัชสมัยของพระเจ้าเฮนรี่อยู่ในยุคที่อังกฤษตกอยู่ในสงครามร้อยปีกับฝรั่งเศส    พระเจ้าเฮนรี่เองก็ไม่มีชีวิตที่ปกติสุขนัก  แม้ว่าทรงรอดปากเหยี่ยวปากกามาจากพระญาติผู้ใหญ่ที่สำเร็จราชการแทน  พวกนี้คอยจ้องฮุบอำนาจกันอยู่เรื่อยมา    ยังดีที่ไม่มีใครเอาพระองค์ไปกำจัดเสีย  อาจจะเป็นเพราะว่ากันว่าทรงมีพระสติไม่ค่อยปกตินัก      ทรงเติบโตขึ้นจนได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมากาเร็ตแห่งอองฌู ของฝรั่งเศส  การอภิเษกนี่ก็มีจุดประสงค์ว่าเพื่อจะไกล่เกลี่ยให้สงครามร้อยปีสงบลง     แต่เอาเข้าจริงก็ไม่สำเร็จ ทำให้พระเจ้าเฮนรี่ทรงตึงเครียดหนัก    ถึงกับล้มป่วยเป็นโรคประสาท
       ในช่วงนี้เอง   พระญาติของพระองค์ก็เห็นโอกาสที่ราชบัลลังก์กำลังง่อนแง่น   ก็ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการ และก้าวต่อไป คืออ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์  เขาผู้นี้คือริชาร์ด ดยุคออฟยอร์ค ผู้สืบเชื้อสายมาจากเจ้าชายเอ็ดมันด์ แห่งยอร์ค  ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3  ต้นราชสกุลเดียวกับพระเจ้าเฮนรี่นั่นเอง


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 16:23
ภาพซ้าย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6  ภาพขวา ริชาร์ด ดยุคออฟยอร์ค


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 11 ส.ค. 16, 16:37
มาสาย ขอจองที่ฟังค่ะ สงครามดอกกุหลาบ ชื่อหวานจน...แต่ท่าทางหนามคมๆจะเยอะนะคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ส.ค. 16, 17:34
รูปประกอบสำหรับการสืบสายวงศา ครับ
(publish.illinois.edu)


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 18:19
 :D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: แพรวพิม ที่ 11 ส.ค. 16, 18:31
เข้ามาลงชื่อเข้าเรียนค่ะ

ชอบประวัติศาสตร์อังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเห็นกระทู้นี้ก็ตาลุกวาว รีบเข้ามาโดยพลัน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 11 ส.ค. 16, 19:31
ตัวช่วยจากคุณ sila มาทันเวลาพอดี  ขอบคุณมากค่ะ

เพราะท่าน อจ. เริ่มเลคเชอร์  ดิฉันก็ตาปริบๆ กับบรรดาพระนามซ้ำๆ ทั้งหลายแล้ว


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 11 ส.ค. 16, 19:36
ชื่อซ้ำซากจริง ๆ ด้วย เป็นกระทู้ที่ต้องใช้สมาธิสุงเป็นพิเศษ ขอบคุณครับ ^^


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 11 ส.ค. 16, 20:52
เข้ามาเสริมหน่อยตามที่พอรู้

สงครามนี้ที่เรียกว่าสงครามดอกกุหลาบ ก็เพราะฝ่ายแลงคาสเตอร์ ใช้สัญลักษณ์กุหลาบแดงเป็นเครื่องหมาย ส่วนฝ่ายยอร์คใช้กุหลาบขาว ทั้งสองฝ่ายล้วนมีบรรพบุรุษเดียวกันตามผังที่ท่านอาจารย์ใหญ่ว่ามา ปัจจุบันมหาวิทยาลัยยอร์คกับมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ยังมีประเพณีแข่งกีฬาร่วมกันทุกปี


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ปวันดา ที่ 12 ส.ค. 16, 05:15
ไม่ได้แวะมานาน ลูกศิษย์ผิดไปแล้วค่ะ มาบังเอิญเจอกระทู้ถูกใจ วันนี้เลยขอแอบแจมกระทู้นะคะ เพราะส่วนตัวชอบประวัติศาสตร์อังกฤษช่วงนี้มาก สีสันมากมายดั่งละครน้ำเน่า
หลังจากที่ เฮนรี่ที่ 7 แห่งทิวดอร์ ( และแลงคาสเตอร์ ) ได้รวมสองตระกูลคือ ยอร์คและแลงคาสเตอรเข้าไว้ด้วยกัน โดยผ่านการแต่งงานกับเจ้าหญิงอลิซาเบธ แห่งตระกูลยอร์ค เฮนรี่ที่ 7 เมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์จึงสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้ราชวงศ์ทิวดอร์ โดยรวมเอากุหลาบแดงของแลงคาสเตอร์ และกุหลาบขาวของยอร์ค เป็นดอกกุหลาบแดงขาวที่เรียกว่า กุหลาบทิวดอร์

ปล แปะรูปไม่ได้อ่ะค่ะ ขอโทษด้วยค่า   ::)


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 12 ส.ค. 16, 08:18
เฮนรี่ที่ 7 เมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์จึงสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้ราชวงศ์ทิวดอร์ โดยรวมเอากุหลาบแดงของแลงคาสเตอร์ และกุหลาบขาวของยอร์ค เป็นดอกกุหลาบแดงขาวที่เรียกว่า กุหลาบทิวดอร์

ปล แปะรูปไม่ได้อ่ะค่ะ ขอโทษด้วยค่า   ::)

แปะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 16, 08:37
หมดกัน  ไขตอนจบซะแล้ว  สงครามยังไม่ได้เริ่มเลย :'( :'( :'( :'(


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ปวันดา ที่ 12 ส.ค. 16, 12:07
ว้าย งั้นเดี๋ยวแก้ไขลบข้อความนะค้า :'( :'( แปร้บนึงค่า
ลบเองไม่ได้ค่ะ รบกวนท่านอาจารย์เทาชมพูลบให้ทีนะคะ ขอโทษสำหรับสปอยเลอร์ค่า :-[


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 16, 18:20
ไม่เป็นไรค่า   รู้แล้วก็ไม่เป็นไร  ยังมีเกร็ดมีฝอยให้อ่านได้อีกแยะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 12 ส.ค. 16, 19:06
ต่อได้เรื่อย ๆ ครับ ผมชินกับการอ่านย้อนไปย้อนมาได้อย่างสบาย  :D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 16, 19:42
     อาการประชวรทางประสาทของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 นับว่าหนักเอาการ     เพราะพระองค์กลายสภาพไปเหมือนหุ่น  ไม่พูดไม่จา  ไม่รับรู้อะไรเรื่องราชการงานเมือง    จะไปไหนก็ต้องมีคนจูงไป ไม่งั้นออกประตูไม่ถูก     แต่ถึงกระนั้นก็ยังอุตส่าห์มีทายาทจนได้ในระยะนี้ คือพระนางมาร์กาเร็ตเกิดทรงพระครรภ์ คลอดพระโอรสออกมา  ได้รับพระนามว่าเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์     ก่อให้เกิดเสียงซุบซิบครหานินทากันอื้ออิงว่าเด็กคนนี้เป็นผลผลิตระหว่างพระนางกับชู้   ไม่ใช่พระโอรสแท้จริง   แต่อย่างไรก็ตาม พระเจ้าเฮนรี่ก็มิได้มีท่าทีระแวงแคลงใจ  ทรงรับทารกน้อยว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์อย่างเต็มพระทัย
     ในเมื่อพระเจ้าแผ่นดินมีอันเป็นไปเสียอย่างนี้  พระญาติสนิทที่มีอำนาจที่สุดในราชสำนักในขณะนั้น คือเจ้าชายริชาร์ด ดยุคออฟยอร์ค  ก็มองเห็นโอกาสทองที่จะขึ้นสู่อำนาจเบ็ดเสร็จแทน     แต่จะพูดออกมาดื้อๆว่า ข้าจะเอาบัลลังก์ซะอย่าง ใครจะทำไม ก็ออกจะน่าเกลียด    คนฟังกล้ำกลืนลงคอยากสักหน่อย แม้แต่กับพรรคพวกบริวาร     ริชาร์ดแห่งยอร์คก็เลยเลี่ยงไปให้สวยงามขึ้น คืออ้างสิทธิ์ทางสายเลือดว่าเขาต่างหากสมควรจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ผู้นั่งอยู่โทนโท่บนราชบัลลังก์


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 16, 20:06
      ริชาร์ดสืบเชื้อสายทางพ่อ มาจากเจ้าชายเอ็ดมันด์ โอรสองค์ที่สี่ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3  ผู้เป็นจุดสตาร์ทของกระทู้     ส่วนทางแม่เขา เธอก็สืบเชื้อสายมาจากเจ้าชายไลออนเนล  โอรสองค์ที่สองของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 เช่นกัน    เรียกว่าจะนับทางไหนก็เป็นเชื้อสายของกษัตริย์เมื่อสามรัชกาลก่อนทั้งสิ้น    เขาก็เลยทำเนียนๆ นับสายเลือดเป็นหลัก ว่าตัวเขาควรอยู่บนบัลลังก์มากกว่าพระราชาผู้สืบสายมาโดยตรงจากพ่อจากปู่เสียอีก
      ประกอบกับตอนนั้น   เขามีตำแหน่งลอร์ดโปรเทคเตอร์ของอังกฤษหนุนนำอยู่ด้วย  ตำแหน่งนี้ถ้าจะเทียบกับสยาม ก็น่าจะเรียกว่าสมุหนายกก็พอจะได้
     วิธีจะก้าวขึ้นบัลลังก์  ไม่ได้สะดวกง่ายดายชนิดเดินลอยชายขึ้นไปก็ได้       เพราะว่าพระเจ้าเฮนรี่ก็ยังมีขุนนางที่จงรักภักดีต่อพระองค์เป็นก้างขวางคอเขาอยู่เช่นกัน       ริชาร์ดจึงต้องกวาดล้างพวกนี้ให้สิ้นเสี้ยนหนามเสียก่อน    อังกฤษก็เลยเกิดศึกย่อยๆขึ้นภายในระหว่างขุนนางสำคัญ  ยังไม่ทันแพ้ทันชนะกันให้เด็ดขาด  พระเจ้าเฮนรี่ก็เกิดทุเลาจากพระโรคประสาท กลับฟื้นคืนพระสติขึ้นมาตามเดิม


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 16, 11:01
    วิธีนับการสืบสายตระกูลหรือสายพระราชวงศ์ ของอังกฤษ เป็นไปตามกฎหมายที่เรียกว่า primogeniture   ซึ่งถ้าไม่อธิบายให้ง่ายแล้วจะเวียนหัวพอใช้ ว่าทำไมริชาร์ดจึงอ้างได้ว่าเขามีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ยิ่งกว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6
    พริโมเจนนิเชอร์ นี้สืบจากพ่อไปลูกก่อน  หมดลูก  แล้วค่อยย้อนกลับไปนับพี่กับน้อง    ยกตัวอย่างง่ายๆจากราชวงศ์อังกฤษปัจจุบันก็แล้วกันนะคะ    ตอนนี้เราก็รู้กันว่า ราชบัลลังก์สืบจากพระราชินีนาถเอลิซาเบธไปถึงเจ้าชายชาร์ลส์พระโอรสองค์ใหญ่     เมื่อเจ้าชายขึ้นครองราชย์ บัลลังก์จะสืบทอดต่อไปถึงเจ้าชายวิลเลียมพระโอรสองค์ใหญ่อีกเช่นกัน
     ทีนี้ สมมุติว่าเจ้าชายวิลเลียมไม่ได้อภิเษกสมรส  หรือสมรสแต่ไม่มีลูก    ราชบัลลังก์ถึงจะสืบทอดไปที่เจ้าชายแฮรี่  พระอนุชา
     สมมุติใหม่ ว่าเจ้าชายแฮรี่ไม่ได้เกิดมา  มีเจ้าชายวิลเลียมอยู่องค์เดียว  และไม่มีลูกมีเต้า พอหมดรัชกาล   การสืบราชบัลลังก์ก็จะย้อนกลับไปที่บรรดาน้องๆของเจ้าชายชาร์ลส์  คือเจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดองค์สุดท้อง 
     ถ้าเป็นสมัยก่อน  บัลลังก์จะตกกับผู้ชายก่อน หมดสายผู้ชายแล้วจึงจะถึงผู้หญิง   ดังนั้นแอนดรูว์จึงมาก่อนแอนน์ ทั้งๆเป็นน้องชาย  แต่ได้ข่าวว่ามีการแก้กฎหมายแล้วว่าลำดับตามอายุ ไม่เลือกหญิงชาย   แต่ถ้าเป็นกฎหมายเดิม  แอนดรูว์จะได้บัลลังก์ก่อน จากนั้น  ต่อจากแอนดรูว์  บัลลังก์ไม่ได้สืบทอดต่อยังเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดน้องชาย  แต่จะไปตกที่เจ้าหญิงพระธิดาของแอนดรูว์ที่เกิดจากเฟอร์กี้ก่อน  เพราะลูกมาก่อนอา
    หลังจากอ่านกันจนเวียนหัวแล้ว  ก็ขอย้อนกลับมาที่ริชาร์ด   ถ้านับทางพ่อซึ่งเป็นน้องชายของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 ปู่ของพระเจ้าเฮนรี่ที่6 องค์ที่สติฟั่นเฟือนนี่แหละ  เขาก็มาทีหลังพระเจ้าเฮนรี่   แต่เขาถือว่าเขาสืบเชื้อสายทางฝ่ายแม่  มาจากเจ้าชายไลออนเนลซึ่งเป็นพี่ชายของพระเจ้าปู่เฮนรี่ที่ 4  ย่อมมีสิทธิ์ก่อนกษัตริย์องค์นี้


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 16, 13:05
    ย้อนกลับไปที่สงครามดอกกุหลาบ
    ความทะเยอทะยานของริชาร์ด (ต่อไปจะเรียกดยุคแห่งยอร์คก็แล้วกัน ชื่อจะได้ไม่ซ้ำ)มาเจอตอขนาดใหญ่แปดคนโอบไม่รอบ  เมื่อพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 เกิดทรงหายจากพระโรค  กลับมาปกติได้อย่างน่าอัศจรรย์   อย่างแรกที่ทรงทำคือเข้าช่วยขุนนางฝ่ายจงรักภักดีให้กลับคืนสู่อำนาจ    ตัดปีกตัดหางดยุคแห่งยอร์ค ด้วยการถอดออกจากตำแหน่งสมุหนายก รวมทั้งพรรคพวกของเขาด้วยก็โดนหางเลขไปตามๆกัน
    แต่ดยุคแห่งยอร์คเป็นประเภทชาติเสือไว้ลาย     เรื่องอะไรจะยอมพ่ายแพ้ง่ายๆ ให้เสียเชิง   ในเมื่อตัวเองก็มีพรรคมีพวก มีอิทธิพลสูงสุดอยู่ในประเทศ   ถึงถูกถอดจากตำแหน่ง  เขาก็ถือว่ามวยแพ้คนไม่แพ้ซะอย่าง     จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกที่มีเขี้ยวเล็บไม่น้อยกว่ากัน ฮึดสู้พระราชาชนิดตายเป็นตาย  
     ต้องอธิบายบริบททางสังคมหน่อยว่า   สมัยนั้นถือกันว่าใครชนะ  คนนั้นถูกต้อง  ไม่ใช่ "คนดีมีชัย" แต่ "ใครมีชัย คนนั้นดี" 
     แม้จะมีกฎหมงกฎหมายอะไรกำกับอยู่เช่นกฎการสืบตระกูล primogeniture อย่างที่อธิบายมาแล้ว  แต่การละเมิดหรือเรียกเพราะๆว่าข้อยกเว้น ก็มีให้เห็นอยู่เสมอ  เป็นของไม่แปลกอะไร  

    สงครามดอกกุหลาบ ระหว่างสองฝ่าย คือยอร์คกับฝ่ายพระเจ้าเฮนรี่ที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่าฝ่ายแลงคาสเตอร์ จึงอุบัติขึ้นครั้งแรกที่เมืองเซนต์อัลบานส์  เป็นเมืองเล็กๆอยู่ห่างลอนดอนไป 22 ไมล์ ทางเหนือ  
    สงครามนี้เกิดในปี 1455 ปีที่พระเจ้าเฮนรี่หายป่วยเป็นปกตินั่นละค่ะ
    ฝ่ายพระเจ้าเฮนรี่มีพระราชินีเหล็ก คือพระนางมาร์การเร็ตแห่งอองฌู และดยุคแห่งซอมเมอร์เซท ผู้นำฝ่ายจงรักภักดีเป็นแม่ทัพ  ระดมฝ่ายขุนนางที่จงรักภักดีกับกษัตริย์ ออกทำศึกกับฝ่ายยอร์ค


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 14 ส.ค. 16, 17:21

เป็นกระทู้ที่ต้องใช้สมาธิในการลำดับเหตุการณ์มากจริงๆ

ตอนนี้เราอยู่ ณ จุดนี้ใช่ไหมคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 14 ส.ค. 16, 17:31
พยายามลำดับญาติ

King Edward III of England + Philippa of Hainault
1. Edward the Black Prince
2. Isabella, Lady of Coucy
3. Joan of England

4. Lionel of Antwerp, 1st Duke of Clarence + Elizabeth de Burgh, 4th Countess of Ulster.
    -  Philippa of Clarence, 5th Countess of Ulster + Edmund Mortimer, 3rd Earl of March
       -  Roger Mortimer, 4th Earl of March + Eleanor Holland
          -  Anne Mortimer + Richard, 3rd Earl of Cambridge
             -  Richard Plantagenet, 3rd Duke of York

5. John of Gaunt, Duke of Lancaster + Blanche of Lancaster
    -  Henry IV of England + Mary de Bohun
       -  Henry V + Catherine of Valois
          -  Henry VI

6. Edmund, Duke of York + Isabella of Castile
    -  Richard, 3rd Earl of Cambridge + Anne Mortimer
       -  Richard Plantagenet, 3rd Duke of York

7. Mary, Duchess of Brittany
8. Margaret, Countess of Pembroke
9. Thomas, Duke of Gloucester


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 14 ส.ค. 16, 17:42

ดูแล้วท่าน Duke of York ไปอ้างสิทธิทางแม่คือ Anne Mortimer ก็ไม่น่าจะได้  เพราะ Anne Mortimer เป็นญาติชั้นเดียวกับ Henry VI  นั่นคือ Duke of York จะเป็นชั้นถัดมาใช่ไหมคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 16, 17:52
ดิฉันพยายามรวบรัดการลำดับญาติให้ง่ายหน่อย เพื่อจะได้ไม่มัวหลงทางนับญาติจนลืมเนื้อเรื่องค่ะ
เลยบอกคุณ tita ได้เพียงว่า บรรพชนฝ่ายแม่และฝ่ายพ่อของริชาร์ด ดยุคแห่งยอร์คนั้น เขย่งกันอยู่เมื่อมาถึงพ่อและแม่ของเขา  กล่าวคือพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ในเจนเนอเรชั่นเดียวกัน  พ่อเป็นเหลนทวด ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สาม  แม่เป็นลื่อของพระเจ้าเทียดเอ็ดเวิร์ด


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 16, 20:03
ริชาร์ดเขานับแบบนี้ค่ะ
เริ่มจุดสตาร์ทที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3  มีพระโอรส 4 องค์  (องค์อื่นสิ้นพระชนม์แต่เยาว์มั่ง เป็นผู้หญิงมั่ง ไม่ต้องไปสนใจ)
พระเจ้าเฮนรี่สืบสายเลือดทางพ่อมาจากเจ้าชายองค์ที่ 3
ริชาร์ดสืบสายเลือดทางพ่อมาจากเจ้าชายองค์ที่ 4 
ข้อนี้ทำให้เขาต้องตามหลังพระเจ้าเฮนรี่อยู่แล้ว

แต่เขาถือว่าแม่เขาสืบสายเลือดมาจากเจ้าชายองค์ที่ 2 
เพราะฉะนั้นถ้านับทางแม่   บรรพบุรุษเขาก็อาวุโสกว่า เพราะเกิดก่อนบรรพบุรุษของพระเจ้าเฮนรี่
เขาก็เลยถือสิทธิ์ทางแม่   ว่าเหนือกว่า

แต่จะนับจากพ่อมาลูกหรือพี่มาน้อง    ดิฉันแจกแจงไปไม่ถึง เพราะมึนไปก่อน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 14 ส.ค. 16, 20:49
ใช่ค่ะ  พอไปลงรายละเอียดลำดับญาติจะมึนทันที  เพราะอาจจะไม่คุ้นเคยกับยุคนี้เท่ายุคทิวดอร์ (พระเจ้าเฮนรี่ที่แปด)  คงต้องฟังเนื้อเรื่องให้เพลินๆ จนคุ้นเคยแล้วค่อยไปตามเก็บรายละเอียดกันทีหลัง

อจ. กรุณาเล่าต่อเลยค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ส.ค. 16, 09:39
     ถ้าถามว่าสงครามดอกกุหลาบมีนางเอกไหม    ก็ขอตอบว่ามีค่ะ
   นางเอกคนนี้ชื่อพระนางมาร์กาเร็ตแห่งอองฌู  เป็นมเหสีของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ผู้ที่พระสติแตกนั่นละค่ะ     พระนางเป็นเจ้าหญิงฝรั่งเศสผู้ข้ามมาเป็นควีนของอังกฤษตั้งแต่อายุ 15  ด้วยเหตุผลทางการเมือง  ซึ่งเป็นธรรมเนียมการอภิเษกสมรสในสมัยนั้น   
    ประวัติศาสตร์เล่าว่าพระนางเป็นหญิงสาวสวย แต่มีอุปนิสัยเสียคือเอาแต่ใจตัวเอง เจ้ายศเจ้าอย่าง  และหัวแข็งไม่ประนีประนอมกับใคร ตรงกันข้ามกับพระสวามีที่เป็นคนสุภาพนุ่มนวลกว่า    ในเมื่อเป็นชาวฝรั่งเศส คนอังกฤษก็ถือว่าเป็นคนละพวกกันอยู่แล้ว ยังมาเจอผู้หญิงหัวแข็งเข้าอีก   ในราชสำนักก็เลยรวมหัวกันแอนตี้   ไม่ค่อยจะลงให้พระนาง ทำให้พระนางอยู่ในฐานะหัวเดียวกระเทียมลีบ  ไหนจะเข้ากับใครเขาไม่ได้  ไหนจะไม่มีรัชทายาทให้พระสวามีอีกด้วย
     ต่อมา ในขณะที่พระสวามีมีพระสติไม่ปกติ พระนางก็ทรงพระครรภ์ คลอดเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ปรินซ์ออฟเวลส์ออกมา  ทำให้สิทธิ์และเสียงในราชสำนักเพิ่มพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะไทเฮา   ถ้าหากว่าพระเจ้าเฮนรี่เป็นอะไรไปปุบปับ พระนางก็คือแม่ของพระเจ้าแผ่นดินน้อยองค์ใหม่นั่นเอง 


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ส.ค. 16, 10:18
   พระนางผูกมิตรกับขุนนางสำคัญๆบางคนเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังให้พระสวามี     เช่น ดยุคแห่งซอมเมอเซท    นายคนนี้จงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดินมาก    ยอมฝ่าฟันอันตรายทุกอย่างเพื่อราชบัลลังก์    แต่ก็เคราะห์ร้ายคือนอกจากจะกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของบุรุษผู้มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดินอันได้แก่ดยุคแห่งยอร์คแล้ว    เขายังตกเป็นเป้าครหาด้วยว่า เป็นพ่อตัวจริงของเจ้าชายน้อยผู้ประสูติจากพระนางมาร์กาเร็ต 
   สมัยนั้นไม่มีดีเอ็นเอ หรือแม้แต่การตรวจกรุ๊ปเลือดเพื่อพิสูจน์ความเป็นสายโลหิตเสียด้วย      เรื่องนี้จึงยังอึมครึมอยู่ในประวัติศาสตร์  แต่ในยุคนั้นเมื่อพระเจ้าเฮนรี่ไม่ได้มีท่าทีระแวงว่าทารกเป็นลูกใคร นอกจากลูกของพระองค์ท่าน    เจ้าชายน้อยจึงเป็นรัชทายาทโดยสมบูรณ์
    เหตุการณ์ในตอนนั้นตึงเครียดจัด    เมื่อยอร์คไม่ยอมถูกถอดจากตำแหน่งสมุหนายกง่ายๆ กลับยกพลมาโจมตีจะชิงราชบัลลังก์  พระนางมาร์กาเร็ตก็สำแดงความเป็นนางสิงห์   รวบรวมไพร่พลที่จงรักภักดีออกสู้  มีดยุคแห่งซอมเมอเซทเป็นแม่ทัพ
    เคราะห์ร้ายตกอยู่กับฝ่ายนางเอก      ในการปะทะกันที่เซนต์อัลบันส์นอกกรุงลอนดอน   ดยุคแห่งซอมเมอเซทถูกฆ่าตายในศึกครั้งนี้


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 16 ส.ค. 16, 12:00
เพิ่งมีโอกาสเข้าถึงไอทีวันนี้เอง พอเห็นวิชานี้ก็รีบลงทะเบียนทันทีเลยค่ะ ถึแม้เป็นเด็กด้อยโอกาสทางเทคโนโลยี แต่นักเรียนคนนี้ก็ตั้งใจเรียนนะคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 16 ส.ค. 16, 15:08
ส่วนผม แอบฟังอยู่ใต้ถุนเรือนครับ  ;D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ส.ค. 16, 15:59
ระหว่างมารอท่านอาจารย์ใหญ่มาต่อ ก็ต้องวกมาถึงเรื่องคาวๆ ตามถนัด :)


จากการพบกระดูกพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ใต้ลานจอดรถเมื่อปี 2012 (ตอนนี้กระทู้นี้ยังเรียนไปไม่ถึงริชาร์ดที่ 3) มีการตรวจ DNA  Y โครโมโซมฝั่งผู้ชาย จากกระดูกพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 และมีการเปรียบเทียบกับทายาทหลายๆ สาย


และเนื่องจากที่ท่านอาจารย์ใหญ่ได้เล่ามาแบบอ่านแล้วคนหัวทึบแบบผมงงงัน เรื่องการอ้างสิทธิการสืบราชสมบัติกัน และตามกระทู้ตอนนี้พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 เป็นกษัตริย์ที่ถูกต้องตามสายการสืบสันตติวงศ์ สืบเชื้อสายมาจากจอห์นแห่งก๊อนท์ โอรสองค์ที่ 3 ของเอ็ดเวิร์ดที่ 3 โดยมีริชาร์ดแห่งยอร์คอ้างสิทธิจากสายมารดาที่สืบเชื้อสายมาจากโอรสองค์ที่ 2 ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ทั้งที่ตัวริชาร์ดฝั่งพ่อสืบเชื้อสายมาจากโอรสองค์ที่ 4 ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3


ปรากฏว่าผลการตรวจ DNA Y โครโมโซมของริชาร์ดที่ 3 ที่เป็นโอรสของริชาร์ดแห่งยอร์คตัวร้ายในขณะนี้ ดันไม่ตรงกับสายเลือดของราชวงศ์อังกฤษปัจจุบัน ที่สืบสายมาจากฝั่งของเฮนรี่ที่ 4 ที่เป็นโอรสของจอห์นแห่งก๊อนท์ โอรสองค์ที่ 3 ของเอ็ดเวิร์ดที่ 3


สรุปง่ายๆ คือ ตั้งแต่จอห์นแห่งก็อนท์มาตามสายนี้ มีใครซักคนที่สืบเชื้อสายกษัตริย์มา ไม่ใช่โอรสแท้ๆ ของกษัตริย์องค์ก่อนหน้า ซึ่งอาจจะเป็นได้ตั้งแต่ตัวจอห์นแห่งก๊อนท์เองที่อาจจะไม่ใช่โอรสแท้ๆ ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 หรือไม่ก็พระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 เป็นลูกชู้ ไม่ใช่ลูกแท้ๆของจอห์น และทำให้เชื้อสายหลังจากนั้นหมดสิทธิสืบราชสมบัติต่อมาเป็นทอดๆ จนถึงรัชสมัยปัจจุบันไปด้วย


แต่ถ้าจะค้นหาอย่างแน่ชัดว่าผู้ใดเป็นลูกไม่แท้ คงต้องมีการขุดพระศพบุรพกษัตริย์มาตรวจ DNA กัน ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้  แต่ถ้าสมัยนั้นรู้จักตรวจ DNA กัน ริชาร์ดแห่งยอร์คจะมีความชอบธรรมในการเป็นกษัตริย์จริงๆ


ภาพผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 ฟิลิปป้าแห่งเอโนลต์ พระมเหสีของเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ซึ่งเจ้ากรมข่าวลือลือว่า ช่วงที่ทรงพระครรภ์และคลอดจอห์นนั้น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ไปทำสงครามอยู่ที่อื่น ไม่ได้อยู่ด้วยกัน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 ส.ค. 16, 22:03
^ เรื่องราวลึกลับซับซ้อน

ปล. 1 ดิฉันนึกว่าสายสกุลจากสงครามดอกกุหลาบจะสิ้นสุดไปกับราชวงศ์ทิวดอร์หรือสจ๊วตเสียอีก  เพิ่งทราบว่าสืบต่อมาจนราชวงศ์ปัจจุบัน  นึกว่าราชวงศ์วินเซอร์มาจากราชสกุลทางเยอรมนี

ปล. 2 Queen Philippa สวยมาก


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 16, 07:53
ต้องย้อนกลับไปอ่านกระทู้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2   อีกทีค่ะ  ดิฉันก็ชักจะเลือนๆ
จำได้แต่ว่าราชวงศ์สจ๊วตของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8  สิ้นสุดลงที่พระเจ้าเจมส์ที่ 2  น้องชายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 17 ส.ค. 16, 08:45
ต้องย้อนกลับไปอ่านกระทู้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2   อีกทีค่ะ  ดิฉันก็ชักจะเลือนๆ
จำได้แต่ว่าราชวงศ์สจ๊วตของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8  สิ้นสุดลงที่พระเจ้าเจมส์ที่ 2  น้องชายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1


ราชวงส์ต่อมาคือราชวงศ์แฮนโนเวอร์ เป็นรุ่นโหลนของพระเจ้าเจมส์ที่ 1 กษัตริย์ต้นราชวงศ์สจ๊วตครับ และเพราะเป็นโปรแตสแตนท์เลยได้สิทธิสืบราชสมบัติ พระเจ้าเจมส์ที่ 1 ก็มีเชื้อสายสืบมาจากเฮนรี่ที่ 7 ที่สืบมาจากจอห์นแห่งก็อทอีกที เลยทำให้สายเลือดไม่บริสุทธิที่ช่วงใดช่วงหนึ่งที่ไม่รู้แน่ชัดในประวัติศาสตร์ครับ

เอาสายการสืบสันตติวงส์มาฝากครับ ว่าใครมาจากใคร  ยาวมากหน่อย


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 16, 19:29
      ผลจากศึกที่เซนต์อัลบันส์  นอกจากดยุคแห่งซอมเมอเซท หัวเรือใหญ่ทางฝ่ายพระเจ้าแผ่นดินจะต้องพลีชีพแล้ว   พระเจ้าเฮนรี่ผู้ออกศึกด้วย  ก็ได้รับบาดเจ็บ   ฝ่ายดยุคแห่งยอร์คจึงเป็นฝ่ายชนะ จับพระราชาได้   ยกพลเข้าลอนดอนอย่างฮึกเหิม    เรียกอำนาจของเขาคืนมาได้อีกครั้ง
      จริงๆแล้วยอร์คก็อยากจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน   แต่ว่าพรรคพวกของเขาในสภาค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับเสียงทางฝ่ายพระเจ้าเฮนรี่ที่นำโดยพระนางมาร์กาเร็ต      ก็เลยยังผลีผลามขึ้นเป็นกษัตริย์ไม่ได้  ทำได้แต่เลื่อนตำแหน่งตัวเองขึ้นไปสูงกว่าเดิม   เป็น Lord Protector  ของอังกฤษ    ตำแหน่งนี้เทียบได้กับผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน    คือมีอำนาจสูงสุดเหนือกว่าพระเจ้าแผ่นดินเสียอีก  หากว่าพระเจ้าแผ่นดินยังมีพระชนม์อยู่ก็ไม่ค่อยจะมีปากมีเสียงได้เท่ากับ Lord Protector  เพียงแต่ LP  ไม่ได้สวมมงกุฎและไม่ได้อยู่ในพระราชวังเท่านั้น
     ยอร์คจับพระเจ้าเฮนรี่เป็นนักโทษ ถูกคุมขังอยู่ในปราสาทเฮิร์ทฟอร์ด หรือไม่ก็ในลอนดอนเอง       เมื่อสภาเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง  ก็พบว่าบัลลังก์ว่างเปล่า พระราชาล่องหนไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่ทราบ  มีแต่ข่าวปล่อยออกมาว่าพระองค์ประชวร พระสติฟั่นเฟือนอีกแล้ว


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 16, 17:43
   แม้ว่ายอร์คกุมอำนาจเอาไว้ได้ แต่อำนาจนั้นก็ยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดพอที่เขาจะเลื่อนฐานะตัวเองขึ้นเป็นพระราชา    ขุนนางส่วนหนึ่งก็ยังจงรักภักดีต่อพระเจ้าเฮนรี่  โดยมีพระนางมาร์กาเร็ตเป็นหญิงเหล็กผู้นำ  แม้ว่าพระนางเองถูกลิดรอนอำนาจ  ให้จำกัดองค์เองอยู่ในฐานะผู้ดูแลพระสวามีเป็นส่วนใหญ่   แต่พระเจ้าเฮนรี่กับพระนางก็ยังปลอดภัยดี       ขุนนางอีกส่วนก็ยังลังเล ไม่ลงความเห็นลงไปให้เด็ดขาดว่ายอร์คมีสิทธิ์ในราชบัลลังก์เหนือว่าเจ้าชายน้อยรัชทายาทของพระเจ้าเฮนรี่
    ถ้ายอร์คแกรู้จักสุนทรภู่   แกก็คงได้รับคำเตือนว่า
    ประเพณีตีงูให้หลังหัก                    มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง
    จรเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง                เหมือนเสือขังเข้าถึงดงก็คงร้าย
    อันแม่ทัพจับได้แล้วไม่ฆ่า               ไปข้างหน้าศึกจะใหญ่ขึ้นใจหาย

   ในเมื่อยอร์คยังปล่อยเสือเอาไว้    การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายก็เริ่มชัดเจนขึ้นทุกที   กำลังของทางฝ่ายพระเจ้าเฮนรี่นำโดยพระมเหสีก็กล้าแข็งขึ้น พอจะรวบรวมขุนนางได้เป็นปึกแผ่นพอดู     ตั้งกองกำลังแข็งข้ออยู่ทางเหนือ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 11:20
   สถานการณ์ในลอนดอนชักไม่สู้ดีหนักขึ้น เพราะนอกจากฝ่ายจงรักภักดีต่อพระเจ้าเฮนรี่ ซึ่งเรียกว่าแลงคาสเตรียน หรือพวกแลงคาสเตอร์จะรวบรวมกำลังกันได้เป็นปึกแผ่นแล้ว  พระนางมาร์กาเร็ตหญิงเหล็กยังลอบส่งสารไปแสวงหาพันธมิตรจากสก๊อตแลนด์ อีกส่วนหนึ่งด้วย     ยอร์คจะทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่ก็ไม่ได้ จึงเรียกกองทัพยกจากลอนดอนขึ้นไปทางเหนือ    ไปถึงก็พบว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คิด  คือพวกนั้นยึดเมืองยอร์คไว้ได้แล้ว  ศึกครั้งที่สองที่เรียกว่า Battle of Wakefield หรือศึกที่เวคฟิลด์ ก็ปะทุขึ้น รบพุ่งกันดุเดือดอยู่ 5 วัน ละเลงเลือดกันทั้งสองฝ่าย
    โบราณเขาว่าคนบุญไม่ถึงนี่ยังไงก็บุญไม่ถึง     ดยุคแห่งยอร์คมีโอกาสจะสร้างชื่อตัวเองในฐานะพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษได้มากกว่าพระราชาอีกมากมายหลายองค์ในอาณาจักรนี้ ที่ไม่ได้เหนื่อยยากอะไร แต่บุญหล่นทับ ได้เป็นพระราชาขึ้นมาเพราะรัชทายาทตายบ้าง  หารัชทายาทอื่นไม่ได้บ้าง ตัวเองเลยได้เป็น ก็มี    
     ส่วนยอร์ค ไหนจะมีเชื้อสายทางพ่อทางแม่ให้อ้างได้ครบถ้วน   ไหนจะทำศึกเหนื่อยยากตรากตรำมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่    ขนาดขึ้นมายึดอำนาจได้จนเป็นผู้สำเร็จราชการ    พอวันร้ายคืนร้าย  ไปปราบกบฎที่ตัวเองเห็นว่าเล็กๆอยู่ทางเหนือ    ปะทะกันเข้าจริงๆ  ฝ่ายแลงคาสเตอร์หรือฝ่ายกุหลาบแดง ที่กุหลาบขาวอย่างยอร์คนึกว่าหมูๆ  กลับกลายเป็นหมูป่าเขี้ยวตันขึ้นมา
     ใช่ค่ะ ในการปะทะกันครั้งนี้ ยอร์คต้องสังเวยชีวิตให้ฝ่ายแลงคาสเตอร์   ลูกชายคนที่สองที่ไปร่วมรบด้วยก็ถูกจับได้และประหารชีวิตไป   แถมศพของยอร์คยังถูกประจาน  ตัวถูกฝังไปตามประเพณี แต่หัวถูกตัดเสียบประจานแยกไปต่างหาก  สวมมงกุฎกระดาษให้บนซากหัว เพื่อเยาะหยันความพยายามของเขาที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์   แต่พ่ายแพ้ชะตากรรม


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 11:23
 :-\


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 19 ส.ค. 16, 12:08
แข่งเรือแข่งพายแข่งได้แต่แข่งวาสนาแข่งไม่ได้จริงๆค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 13:02
  ขอแยกซอยคุยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหน่อยค่ะ
  เห็นรูปการรบสมัยสงครามดอกกุหลาบ  ซึ่งก็คือยุคกลางน่ะละค่ะ   อัศวินทั้งหลายสวมเกราะกันตั้งแต่หัวจดเท้า
  เกราะพวกนี้ดิฉันเคยเห็นของจริงมาแล้ว พอหมดยุคกลาง ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อีก ก็เก็บไว้เป็นวัตถุโบราณ ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆในยุโรป ไม่ใช่เฉพาะในอังกฤษ    มันไม่ใช่เหล็กรีดบางเหมือนกระดาษ อย่างสมัยนี้   แต่เป็นแผ่นเหล็กหนาหนัก ยังกะเอาตัวถังรถยนต์มาย่อส่วน สวมเข้าบนร่าง   จะใส่จะถอดแต่ละชิ้น  น่าจะโกลาหล   ดูแล้วเหนื่อยแทน   
  ยังนึกสงสัยว่า ตอนสวมเข้าไป คงถอดไม่ได้ง่ายๆ   ทีนี้ถ้าเกิดปวดท้องทั้งหนักทั้งเบาขึ้นมา จะหาทางออกยังไง 
   เคยไปดูพิพิธภัณฑ์อาวุธในออสเตรีย เมืองอะไรจำชื่อไม่ได้แล้ว    แค่เห็นเครื่องอานและเครื่องป้องกันอาวุธที่ใส่บนตัวม้าก็รู้สึกว่าม้าแทบจะยืนไม่ขึ้น อย่าว่าแต่วิ่งเลย     ยิ่งเจอนายม้าใส่เกราะเข้าไปทั้งตัวอีก  สงสารม้าว่าคงอายุสั้น ไม่ได้ถูกฆ่าตาย แต่หมดแรงตาย
 


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 19 ส.ค. 16, 14:17
พูดเรื่องเกราะแล้วต้องขอนอกเรื่องนิดตามประสาคนเรียบร้อยที่ทะลึ่งเป็นบางครั้ง  ;D  ;D  ;D ไม่รู้จะโดนไม้เรียวหรือเปล่า  :'(  :'(


ชุดเกราะแม้จะหนังอึ้ง แต่หลายๆ ชุดนี่เน้นการปกป้องแบบอลังการงานสร้างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มากจนต้องขวยเขิลลลลลลลลลลกันเลยทีเดียวเชียว แบบว่ามันอาไรก๊านนนนนนนนน ทำไมเน้นการปกป้องตรงนั้นจัง  :-[  :-[  :-[  :-[


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 14:23
สงครามนี้ที่เรียกว่าสงครามดอกกุหลาบ ก็เพราะฝ่ายแลงคาสเตอร์ ใช้สัญลักษณ์กุหลาบแดงเป็นเครื่องหมาย ส่วนฝ่ายยอร์คใช้กุหลาบขาว ทั้งสองฝ่ายล้วนมีบรรพบุรุษเดียวกันตามผังที่ท่านอาจารย์ใหญ่ว่ามา ปัจจุบันมหาวิทยาลัยยอร์คกับมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ยังมีประเพณีแข่งกีฬาร่วมกันทุกปี

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6572.0;attach=62561;image)

กุหลาบในอังกฤษสมัยนั้นคงเป็นพวกกุหลาบลา ไม่ใช่กุหลาบกลีบซ้อนแบบที่เห็นในปัจจุบัน ถามท่านอาจารย์ใหญ่หรือดอกเตอร์ประกอบว่า ทำไมฝ่ายหนึ่งใช้สีแดง อีกฝ่ายหนึ่งใช้สีขาว มีเบื้องหลังเหมือนกีฬาสี แดง-เหลือง ในเมืองไทยไหม


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 19 ส.ค. 16, 14:31
ภาพของ อ. ประกอบ นี่ ผมมีเพื่อนที่ไปอังกฤษมา ก็ถ่ายภาพสิ่งนี้มาให้ชมเหมือนกันครับ แสดงว่า สะดุดตาจริงๆ  :D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 19 ส.ค. 16, 14:36
ดูไปดูมา ตราดอกไม้นี่มันคล้ายๆดอกซึบากิของญี่ปุ่นมากกว่าดอกกุหลาบนะคะ ดอกซึบากิอยู่ในตระกูลดอกคามิเลีย มีหลายสี สีขาวก็มี แดงก็มี

แต่เขาบอกกุหลาบก็กุหลาบเอ้า


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 14:41
ท่านลอร์ดประกอบเทพน่าจะตอบคำถามโปรเฟสเซอร์เพ็ญได้ค่ะ   แต่ท่านมัวเพลินสวมชุดเกราะ   เลยยังไม่เข้ามาตอบ  ดิฉันตอบให้แทนก็แล้วกัน
เอากุหลาบแดงก่อนนะคะ  กุหลาบขาวทิ้งไว้ให้ท่านลอร์ดทำงานมั่ง
กุหลาบแดงเป็นดอกไม้ประจำแคว้นแลงคาเชอร์( Lancashire)ค่ะ  ถิ่นของแลงคาสเตอร์ค่ะ   เอิร์ลแห่งแลงคาสเตอร์คนแรกต้นราชสกุลแลงคาสเตอร์ นำกุหลาบแดงที่เป็นดอกไม้ประจำแคว้นมาเป็นตราตระกูล  ประดับอยู่บนโล่เวลาออกศึก   กุหลาบแดงที่ว่าก็เลยมาเป็นสัญลักษณ์ของแลงคาเชอร์
ส่วนเป็นพันธุ์ไหนยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ชัด  สันนิษฐานว่าเป็นกุหลาบพันธุ์ที่เรียกว่า Rosa gallica officinalis   ส่วนกุหลาบลาคืออะไร  ข้าเจ้าบ่ฮู้   รู้จักแต่กุหลาบมอญ เพราะเมื่อก่อนขนมไทยหลายอย่างมีกลีบกุหลาบมอญประดับหน้าขนม  เดี๋ยวนี้ไม่เห็นแล้ว


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 14:52
ส่วนกุหลาบลาคืออะไร  ข้าเจ้าบ่ฮู้   รู้จักแต่กุหลาบมอญ
รอยอินท่านว่า ลา  ว. มีกลีบชั้นเดียว, ไม่ซ้อน (ใช้แก่ดอกไม้) เช่น มะลิลา พุดลา รักลา.

กุหลาบลาซึ่งใช้เป็นสัญลักษณ์ของทั้ง ๒ ฝ่ายอาจจะมีหน้าตาเป็นอย่างนี้

ภาพจาก http://www.087087.net/bara_gensyu.html (http://www.087087.net/bara_gensyu.html)


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 14:58
ดูจากรูปวาด   กุหลาบแดงและขาวน่าจะซ้อน 2 ชั้นนะคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 19 ส.ค. 16, 14:59
คำถามตอบยากต้องใหเท่านอาจารย์ใหญ่มาตอบ  ;D

ย้อนมาเพิ่มเติมรายละเอียดศึกที่เวคฟิลด์

ในเดือนตุลา 1460 เมื่อดยุคแห่งยอร์คอ้างสิทธิในการเป็นพระราชา  ราชินีนางเอกของเราก็เรียกระดมพลจากผู้สนับสนุนฝ่ายแลงคาสเตอร์ทันที ฝ่ายยอร์คมีรี้พลประมาณ 5-6000 คนตั้งมั่นอยู่ที่ปราสาทแซนดาล (Sandal castle) ใกล้เวคฟิลด์อยู่ทางตอนใต้เมืองลีดส์ (Leeds)ในปัจจุบัน ฝ่ายแลงคาสเตอร์มีรี้พลมากกว่าประมาณ 2 เท่าตั้งมั่นอยู่ห่างไปประมาณ 9 ไมล์

ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ(เดา) วันที่ 30 ธันวา 1460 ฝ่ายแลงคาสเตอร์ก็เริ่มเคลื่อนพลเข้าหาฝ่ายยอร์ค ฝ่ายยอร์คเองก็มีความผิดพลาด มีการบุกจู่โจมกองกำลังฝ่ายเดียวกันอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดการระส่ำระสาย ฝ่ายแลงคาสเตอร์แบ่งกองกำลังเป็นสามกองเข้าโจมตี ฝ่ายยอร์คเมื่อกำลังตกเป็นรอง ดยุคแห่งยอร์คพยายามจะถอยแต่ไม่ทัน ถูกสังหารในสนามรบไม่ไกลจากปราสาทแซนดาล  กองกำลังที่เหลือแตกกระจายกันหลบหนี แม่ทัพขุลพลฝ่ายยอร์คหลายคนถูกสังหาร  ฝ่ายยอร์คตายไปมากกว่าสองพันคนในขณะที่ฝ่ายแลงคาสเตอร์เสียคนไปแค่ราวสองร้อยคนเท่านั้น  ขุลพลสำคัญของฝ่ายยอร์คเช่นเอิร์ลแห่งซอลส์เบอรี่ถูกจับและถูกตัดศรีษะในวันถัดมา

มากาเร็ตนางเอกของเรา สั่งให้เอาหัวของดยุคแห่งยอร์ค เอิร์ลแห่งรัทแลนด์ และเอิร์ลแห่งซอลส์เบอรี่เสียบไม้ประจานไว้ที่ประตูเมืองยอร์คด้านตะวันตก บนหัวของท่านดยุคมีมงกุฏกระดาษสวมหัวไว้

ภาพแรกผังการโจมตี  ภาพที่สองถาพพื้นที่สนามรบในปัจจุบันบริเวณที่ดยุคแห่งยอร์คถูกสังหาร และภาพสุดท้ายปราสาทแซนดาลในปัจจุบัน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 15:10
ไปค้นคำว่า Rosa gallica officinalis คือกุหลาบอะไร   ได้คำตอบมาว่า มันมีอีกชื่อว่า red rose of Lancaster
เป็นกุหลาบป่า (wild rose) ชนิดหนึ่งค่ะ

ในศตวรรษที่ 15  อยู่ในยุคมืด ศิลปวิทยาการทั้งหลายชะงักงันอยู่เป็นนานหลายศตวรรษ  เพิ่งจะมาฟื้นตื่นขึ้นในยุคเรอเนสซองส์  เพราะฉะนั้นก็เดาว่าวิชาผสมกุหลาบน่าจะยังไม่เกิดในศตวรรษที่ 15    ดอกไม้ที่มีอยู่ในอังกฤษก็มีอยู่ตามธรรมชาติ เกิดเองในป่าเขาลำเนาไพร   กุหลาบป่าในแคว้นแลงคาเชอร์ก็อยู่ในข่ายนี้


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 15:37
 ส่วนคำถามว่าทำไมฝ่ายยอร์คใช้กุหลาบขาว  อ่านหลายเว็บแล้ว ยังอึมครึมเหมือนฝรั่งคนเขียนเองก็ไม่รู้ว่าทำไม    เลยพยายามจะโยงมั่วกันไปหมด    รอท่านลอร์ดประกอบเทพ หรือท่านเอิร์ลท่านดยุคอื่นๆในเรือนไทยมาตอบก็แล้วกันค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ส.ค. 16, 16:00
เคยซื้อ Jigsaw ของอังกฤษเอามาต่อเล่น เป็นการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อังกฤษอย่างง่ายๆ ผ่านรูปวาดในแต่ละสมัย ซึ่งดูแล้วเข้าใจดีครับว่าในแต่ละสมัยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

เลยจับภาพเฉพาะในส่วนของสงครามดอกกุหลาบมาให้ชม เห็นภาพวาดก็เข้าใจว่า เกิดการแย่งชิงมงกุฏกัน ระหว่างกุหลาบขาวและแดง ในยุคนี้ก็เกิดระบบแม่พิมพ์เกิดขึ้นด้วย


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 16:39
^


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 19 ส.ค. 16, 16:46
เมื่อท่านเลดี้เทาชมพูสั่งการมา จะไม่ทำก็คงไม่ได้

อย่างแรกคือทำไมบอร์คใช้กุหลาบขาว เจ้ากรมข่าวลืออ้างว่าเรื่องนี้ต้องต้นไปตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 14 เมื่อเอ็ดมัน แลงลีย์ ดยุคแห่งยอร์คคนที่ 1 (1341 - 1401) ได้รับบรรดาศักดิ์นี้เลือกใช้กุหลาบขาวเป็นสัญลักษณ์น่าจะมาจากพื้นฐานทางด้านศาสนาเป็นหลัก เพื่อเป็นการระลึกถึงพระแม่มารีที่เปรียบเสมือนกุหลาบขาวแห่งสวงสวรรค์ นอกจากนี้สีขาวยังเป็นสัญลักษณ์ของความสว่าง ความบริสุทธิ์ ความสุข และเกียรติศักดิ์

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามดอกกุหลาบนี้ กุหลาบขาวเป็นเพียงหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ฝ่ายยอร์คใช้เท่านั้น ส่วนกุหลาบแดงของแลงคาสเตอร์นี่น่าจะใช้กันจริงๆ ก็ช่วงปี 1480 ที่เป็นปลายยุคสงครามดอกกุหลาบแล้ว คำว่าสงครามดอกกุหลาบก็น่าจะเริ่มใช้กันเมื่อศตวรรษที่ 19 นี่เอง ก่อนหน้านี้คนร่วมสมัยจะพูดถึงสงครามนี้เป็นสงครามระหว่างลูกพี่ลูกน้อง(Cousins’ Wars)


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 16, 11:42
  ถึงแม้ว่ายอร์คถูกประหารไปแล้ว   แต่สงครามก็ยังไม่สงบ  หากแต่เพิ่มความดุเดือดหนักขึ้น   เพราะฝ่ายแลงคาสเตอร์ทำได้แต่ฆ่าพ่อ แต่ยังเหลือหน่อที่กลายมาเป็นเสี้ยนหนามสำคัญ    หน่อนั้นก็คือลูกชายคนโตของยอร์คชื่อเอ็ดเวิร์ด     เขาคนนี้ชิงยกทัพเข้าลอนดอนก่อนที่ฝ่ายแลงคาสเตอร์จะยกพลมาถึง   
  เมื่อเข้าลอนดอนได้  เอ็ดเวิร์ดก็ไม่ได้อิหลักอิเหลื่อยอมแพ้แก่เสียงส่วนใหญ่ในสภาอย่างพ่อเขา   ตำแหน่งผู้สำเร็จราชการอะไรก็ไม่เอาทั้งนั้น    เขาประกาศตัวเองเป็นกษัตริย์ทันที ทรงพระนามว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4   ทั้งๆพระเจ้าเฮนรี่กษัตริย์ตัวจริงก็ยังมีพระชนม์ชีพอยู่โทนโท่ 
   เราก็คงเดาได้ว่า เมื่อเกิดมีสองกษัตริย์ในหนึ่งบัลลังก์ขึ้นมาแบบนี้     มันก็ต้องรบกันท่าเดียว ระหว่างแลงคาสเตอร์กับยอร์ค    สมรภูมิคราวนี้อยู่ใกล้เมืองโทว์ทันในยอร์คเชอร์   เรียกกันว่า "ศึกโทว์ทัน"   
    ศึกครั้งนี้ได้ชื่อว่าเป็นศึกละเลงเลือดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การรบของอังกฤษ   ทั้งหฤโหดด้วยอากาศไม่เป็นใจ คือรบกันท่ามกลางพายุหิมะกระหน่ำหนัก อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์   (ลองนึกถึงเกราะเหล็กกลางหิมะดูบ้างว่ามันจะเย็นเจี๊ยบขนาดไหน)      และฆ่าฟันกันไม่คิดชีวิต   ผลคือทั้งแลงคาสเตอร์และยอร์คเอาชีวิตมาทิ้งเสียประมาณ 28,000 คน จากจำนวนทั้งหมดราว 50,000 คน 
   ทั้งหมดนี้ก็เพื่อผลดีของคนคนเดียว คือผู้นำฝ่ายยอร์ค 


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ส.ค. 16, 12:23
จากการขุดค้นหลุมศพของเหล่าทหารหารที่ตายในสมรภูมินี้ นักโบราณคดีพบหลุมศพหมู่หลายหลุมบริเวณโทว์ทันเมื่อปี 1996 อายุของผู้ตายมีตั้งแต่ 16 - 50 ปี พบร่องรอยความน่าสยดสยองมากมายที่ปรากฏอยู่ครับ บางหัวกะโหลกมีบาดแผลต่างๆ มากถึง 22 แผล ภาพที่นำมาให้ดูคือร่องรอยความรุนแรงบางส่วน และพื้นที่ที่เคยเป็นสมรภูมิรบในปัจจุบัน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 23 ส.ค. 16, 16:24
ชุดเกราะหนักขนาดนั้น คนใส่(รวมถึงม้าที่ต้องใส่เกราะด้วย)คงต้องฟิตร่างกายประจำแน่เลยนะคะ ไม่อย่างนั้นคงแบกน้ำหนักเหล็กหลายกิโลไม่ไหวเอา

ว่าแต่การสวมเกราะแบบเต็มยศนั้นมีกำหนดลำดับชั้นคนสวมไหมคะ หรือว่าใครเป็นทหารก็มีเกราะแบบนี้กันหมด


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 16, 17:07
ข้อนี้ยังหาคำตอบไม่เจอค่ะ  รอท่านลอร์ดประกอบเทพ
แต่คิดว่า ถ้าเป็นชั้นแม่ทัพนายกองก็แต่งคล้ายๆกัน   ดูออกว่าใครเป็นใครก็ตรงโล่หรือตราประจำตัวที่สวมตัว    แต่ถ้าเป็นทหารเดินเท้า น่าจะใส่เกราะเท่าที่จำเป็น   ขืนแบกทั้งหมดเหมือนอัศวิน คงเดินไม่ไหว
น้ำหนักของเกราะ มีตั้งแต่ 15-25 กิโล ค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ส.ค. 16, 20:12
เลดี้เทาชมพูจ่ายการบ้านอีกแล้ว ไหงหนูโดนอยู่คนเดียว T__T


เอาเรื่องน้ำหนักเกราะก่อน


ตอนผมไปรบที่เวคฟิลด์เนี่ย สวมเกราะชั้นแม่ทัพ เกราะหนักประมาณ 20-25 กิโลกรัม บวกน้ำหนักหมวกด้วยก็อีกราว 4 กิโล ดีที่ว่าอากาศเย็น เลยไม่รู้สึกร้อน อุ่นสบายครับ  บางคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ ชุดเกราะหนักตั้งเกือบ 30 กิโล จะรบไหวเหรอ ต้องบอกว่าสบายมากครับ ลองเปรียบเทียบกับชุดทหารสมัยต่อๆ มาดูก็ได้  ตอนผมไปโดดร่มวัน D-day ที่นอร์มังดี อุปกรณ์ทั้งหลายที่พวกพลทหารแบกไป หนักประมาณ 30 กิโล ระดับนายทหารอย่างผมแบกเยอะกว่าหน่อยราว 40 กิโล นี่ยังไม่รวมน้ำหนักร่ม!!!  หรือตอนผมไปฝึกดับเพลิง ชุดอุปกรณ์ดับเพลิงรวมถังออกซิเจ่นหนักมากกว่า 30 กิโลแล้ว  นี่ยังไม่รวมตอนผมไปกู้ระเบิดในอิรัคอีก ชุดนี่หนักอึ้งจนขี้เกียจคิด  ชุดทหารรวมอุปกรณ์สมัยนี้ หนักกว่าชุดเกราะที่ผมสวมตอนไปรบในสงครามดอกกุหลาบอีก


นอกจากจะหนักกว่าแล้ว อุปกรณ์สนามที่แบกไปรบวัน D-day หรือที่อิรักเนี่ย ต้องสะพายหลังบ้าง ห้อยไว้ตามเอวบ้าง ถ่วงเป็นจุดๆ ไป แต่ชุดเกราะที่สวมที่เวคฟิลด์นี่น้ำหนักเกราะมันกระจายทั้งตัวครับ เคลื่อนไหวสะดวกกว่ามาก แถมตอนขึ้นม้ายังมีอัศวินฝึกหัดช่วยดันตัวอีก ถ้าตกจากหลังม้าก็ขึ้นม้าเองลำบากนิดหน่อยเท่านั้น เวลารบก็คล่องแคล่วว่องไว เพราะชุดเกราะชั้นดีแบบที่ผมสวม ผลิตตามสัดส่วนมัดกล้าม ชุดเดียวราคาแพงพอกับค่าแรงของช่างฝีมือทำงาน 3 ปีเลย ชุดเกราะอัศวินมาเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 เพราะต้องให้ป้องกันกระสุนปืนที่เริ่มมีใช้กันในยุคนี้แล้ว


เอาชุดตอนไปโดดร่มที่นอร์มังดีมาให้ดูเปรียบเทียบครับ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ส.ค. 16, 20:47
ส่วนเรื่องชุดเกราะต่างกันตามลำดับชั้นไหม ก็ต้องบอกว่าต่างกันครับ เพราะทหารแต่ละหน่วยมีชุดเกราะหรือการปกป้องไม่เท่ากัน ส่วนชุดเกราะเองก็มีหลายชั้น ที่เป็นเพราะก็จะเริ่มจากเกราะอ่อนที่เป็นชุดห่วง คือเอาห่วงหรือโซ่เล็กๆ มาร้อยกันเป็นเกราะ เกราะแบบนี้จะป้องกันคมดาบคมหอกได้ครับ   อัศวันชั้นต่ำๆ หรือพวกทุนทรัพย์น้อยอาจสวมแค่เกราะชั้นนี้ ชั้นถัดมาก็เป็นเกราะหนัง แล้วถึงจะเป็นเกราะเหล็กชั้นนอก  ซึ่งพวกทุนน้อยก็อาจมีแค่เกราะลำตัว ส่วนพวกนายๆ ทุนหนาก็มีเกราะหุ้มทั้งตัวครับ ส่วนพวกหมวกเหล็กนี่มีกันทุกคน

เอาภาพเครื่องแบบทหารแต่ละหน่วยมาให้ดู กับชั้นการสวมเกราะครับ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 16, 21:32
ท่านลอร์ดออกสงครามบ่อยค่ะ   เลยขอตัวมาช่วยออกโรงบ่อย
แบกอาวุธยุทโธปกรณ์ไปด้วย 40 กิโล ไม่ว่าจะเดินไปไหน   เท่ากับแบกคุณนางมารน้อย  หรือแม่บัว ขึ้นบ่าไปด้วยคนหนึ่งเต็มๆเลยนะคะ    วางก็ไม่ได้


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ส.ค. 16, 21:47
แบกอาวุธยุทโธปกรณ์ไปด้วย 40 กิโล ไม่ว่าจะเดินไปไหน   เท่ากับแบกคุณนางมารน้อย  หรือแม่บัว ขึ้นบ่าไปด้วยคนหนึ่งเต็มๆเลยนะคะ    วางก็ไม่ได้

อันนี้นี่คุณนางมารน้อยหรือแม่บัวครับนี่ มิน่า ไปไหนมาไหนหน่วงๆ ตัวพิกล  :-\


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 16, 21:53
ได้ยินเสียงกรี๊ดดดแว่วเข้ามาในเรือน แต่ยังบอกไม่ถูกว่าเสียงสาวคนไหนค่ะ
ตัวใครตัวมันนะท่านลอร์ด


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 23 ส.ค. 16, 22:52

ท่านลอร์ดติดละครเจ้าบ้านเจ้าเรือนมากไปหน่อยครับ
 8)


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 16, 09:36
 ;D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 16, 10:17
   ผลจากสงครามละเลงเลือดที่แลงคาสเตอร์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้   นางเอกของเรา พระนางมาร์กาเร็ตกับพระโอรสก็ต้องหลบหนีเอาชีวิตรอดไป   ส่วนพระเจ้าเฮนรีพระสวามีผู้เป็นราชาที่ถูกต้องของอังกฤษก็ถูกถอด  ส่งไปจำคุกที่หอคอยแห่งลอนดอน  เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ผู้นำฝ่ายยอร์คที่ชนะก็ขึ้นเป็นกษัตริย์
   ที่จริง เขาก็ขึ้นมาพักหนึ่งแล้วละค่ะ  แต่พอเสร็จศึก ทีนี้ก็ขึ้นนั่งบัลลังก์แบบเป็นทางการเต็มตัว   โดยขุนน้ำขุนนางทั้งหลายที่ไม่ค่อยจะสนับสนุนฝ่ายยอร์คมาก่อน    ตอนนี้หัวหดกันหมด     เพราะเอ็ดเวิร์ดมีขุนนางใหญ่  คุมกำลังคนเยอะ  เป็นผู้สนับสนุนออกหน้าออกตา ชื่อริขาร์ด เนวิลล์ มีตำแหน่งเป็นเอิร์ลแห่งวอริค( Richard Neville, Earl of Warwick)
   พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดแห่งราชสกุลยอร์คที่ว่านี้  ทรงพระนามตามประวัติศาสตร์อังกฤษว่า เอ็ดเวิร์ดที่ 4    ในประวัติศาสตร์บอกว่าเป็นหนุ่มสูงใหญ่ถึงหกฟุตสี่กว่าๆ   หล่อเหลา รบเก่ง  มีฝีมือแถมเจ้าชู้อีกต่างหาก  ตอนรบชนะนั้นอายุ 19 เท่านั้นเอง เป็นหนุ่มเต็มตัว
    งั้นเราก็เลื่อนตำแหน่งพระเอกขึ้นมาให้พระราชาองค์ใหม่นี้ละกัน   เพราะชีวิตพระองค์ก็สีสันเหมาะกับบทนี้เสียด้วย


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 16, 10:43
     เมื่อขึ้นครองบัลลังก์  เอ็ดเวิร์ดยังไม่ได้อภิเษกสมรส  แต่ความเป็นหนุ่มโสดไม่ได้หมายความว่าทรงอยู่เปล่าเปลี่ยวตัวคนเดียว    ตรงกันข้าม  ถ้าชอบซะอย่างก็ไม่เลือก ไม่ว่าลูกเมียใคร  สาวโสดหรือมีผัวแล้ว ไม่คำนึงทั้งนั้น     ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ต้องตาต้องใจใครเป็นพิเศษ ทรงสนุกอยู่กับชีวิตแบบขุนแผนมานานหลายปี   จนกระทั่งศรกามเทพปักอกเข้าให้อย่างจัง กับหญิงที่ไม่คู่ควรกันเลย
     หญิงคนนั้นเป็นหญิงงามมากก็จริง แต่ไม่ใช่สาวแส้      นางมีชื่อว่าเอลิซาเบธ วู้ดวิลล์   เป็นภรรยาม่ายของขุนนางเล็กๆฝ่ายแลงคาสเตอร์คนหนึ่งที่เอาชีวิตไปทิ้งเสียในสงครามดอกกุหลาบ     เหลือทิ้งไว้แต่ลูกชายสองคนให้ดูต่างหน้า   เอลิซาเบธมีเหตุจำต้องเข้าเฝ้าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็เพื่อยื่นคำร้องแทนบุตรชาย อ้างสิทธิ์ในมรดกทรัพย์สินและที่ดินของสามีที่จะตกทอดไปถึงลูก    
     เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเห็นแม่ม่ายสาวรูปโฉมสวยสุดหนึ่งไม่มีสอง   ก็ถูกพระทัยทันที   เนื้อเต้น อยากได้มาเป็นพระสนมลับคนใหม่   แต่เอลิซาเบธไม่เหมือนหญิงอื่นๆที่ทรงผ่านมาอย่างง่ายดาย     นางยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว  ถ้าจะให้ตกลงปลงใจก็ต้องแต่งงานกันให้ถูกต้องเสียก่อน
     เมื่อมาเจอหญิงใจเพชรเข้า    พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็กลายสภาพจากเสือเป็นแมว    ยอมตกลงทำพิธีแต่งงานด้วยอย่างลับๆแต่ถูกต้องตามกฎหมาย  เป็นผลให้เอลิซาเบธ วู้ดวิลล์กลายเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษ     ทั้งๆยุคนั้นไม่มีกษัตริย์หรือเจ้านายองค์ไหนเขาทำกัน  การอภิเษกสมรส ล้วนเป็นเหตุผลเพื่อความมั่นคงทางการเมืองและบัลลังก์ทั้งสิ้น


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 25 ส.ค. 16, 15:17
ขออภัยที่เข้าห้องเรียนสายค่ะ  ลูกชิ้นปิ้งที่โรงอาหารน่ารับประทานเลยเพลินไปหน่อย


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 25 ส.ค. 16, 15:25
สภาพศพทหารที่มาตายในสงครามน่าสงสารมาก  ถ้าเป็นชั้นอัศวิน ท่านลอร์ด ท่านดยุค ชนะสงครามคงพลอยมีความดีความชอบ  เจริญก้าวหน้ากับเขาด้วย  แต่ชั้นผู้น้อยนี่คงเหมือนเอาชีวิตมาทิ้งเปล่าๆ  ถึงจะอยู่ฝ่ายชนะรอดชีวิตมาได้ก็คงไม่ได้ลาภยศอะไรมากมายนัก


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 25 ส.ค. 16, 16:18
สาเหตุหนึ่งของความพ่ายแพ้ของฝ่ายแลงคาสเตอร์ที่โทว์ทันก็คือ หลังจากแลงคาสเตอร์เอาชนะยอร์คเด็ดหัวดยุคแห่งยอร์คที่สมรภูมิเวคฟิลด์แล้ว ฝ่ายแลงคาสเตอร์ก็ฮึกเหิมมุ่งลงใต้เดินทัพสู่ลอนดอนกัน แต่การเดินทัพของฝ่ายแลงคาสเตอร์ไม่ได้เดินกันเปล่าๆ แต่ไปกันแบบโจร เพราะตอนที่มากาเร็ตนางเอกของเราเรียกระดมสรรพกำลังเข้าร่วมฝ่ายแลงคาสเตอร์นั้น ได้สัญญาว่าเผาเลยค่าาาาพี่น้อง อ๊ะ ไม่ใช่ ผิดเรื่องแล้ว :P  แต่สัญญาว่าจะอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมปล้นสะดมได้ตามความพอใจ ดังนั้นทัพแลงคาสเตอร์ที่ลงใต้สู่ลอนดอนเลยเดินทัพแบบโจร ผ่านที่ไหนก็ปล้นสะดมมาตลอดทาง จนมาถึงลอนดอน อ้างว่าจะมาปล่อยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6

ชาวลอนดอนต่างรู้ถึงกิตติศัพท์โจรของแลงคาสเตอร์ กลัวการปล้นสะดมจนตัวสั่น จึงไม่เปิดประตูเมืองให้ทัพแลงคาสเตอร์เข้าเมืองลอนดอน ฝ่ายแลงคาสเตอร์เองเดินทัพมาไกลการส่งกำลังบำรุงไม่เพียงพอที่จะตีลอนดอนได้ แถมมาการเร็ตได้ข่าวว่าริชาร์ดแห่งยอร์ค ลูกชายคนโตของดยุคแห่งยอร์คที่เพิ่งโดนตัดหัวไปกำลังระดมพลโต้กลับ แถมได้แรงสนับสนุนจากขุนนางจำนวนไม่น้อย  กำลังเดินทัพมุ่งหน้าสู่ลอนดอนเช่นกัน ฝ่ายแลงคาสเตอร์จึงรีบยพทัพกลับขึ้นเหนือไปตั้งมั่นที่เมืองยอร์คอีกครั้ง จนสุดท้ายทั้งสองฝ่ายไปรบกันที่โทว์ทันจนกลายเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดบนผืนแผ่นดินเกาะอังกฤษ


ในการรบอันนองเลือดนั้น อีกสาเหตุของความพ่ายแพ้คือตอนที่รบกันเป็นวันที่อากาศหนาวเหน็บมีพายุหิมะลมรุนแรง  ฝ่ายยอร์คตั้งกองธนูในตำแหน่งที่ดีกว่าคือต้นลม ทำให้ธนูของฝ่ายยอร์คไปถึงฝ่ายแลงคาสเตอร์ แต่ธนูแลงคาสเตอร์สวนลมไปไม่ถึงฝ่ายยอร์ค แลงคาสเตอร์เลยเอวังด้วยประการฉะนี้


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 26 ส.ค. 16, 13:53
(http://www.towton.org.uk/wp-content/uploads/mapUpdate_01.jpg)
ที่มา : http://www.towton.org.uk
เจอภาพนี้เข้าครับ ดูจากภาพแล้ว ฝ่ายแลงคาสเตอร์ น่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะอยู่บนที่สูง แม้จะเสียเปรียบเรื่องทิศทางลม แต่การยิงลงจากที่สูงก็น่าจะมีผลมากกว่า แต่ที่ฝ่ายแลงคาสเตอร์ตัดสินใจลงไปเผชิญหน้า คงเพราะเห็นว่าฝ่ายตนมีจำนวนมากกว่านั่นเอง ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น เพราะแม้เสียเปรียบเรื่องระยะลูกธนู แต่ก็ยังคงรับอยู่ได้ตั้งครึ่งค่อนวัน ความพ่ายแพ้ที่แท้จริงกลับเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายยอร์คได้กำลังหนุนมาช่วย

แก้ไขครับ ความสูงสองฝ่ายพอกัน แต่ฝ่ายยอร์คได้เปรียบเรื่องทางลมครับ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 26 ส.ค. 16, 14:08
(http://meanderingthroughtime.weebly.com/uploads/3/7/6/3/37634413/2147653_orig.jpg)
ที่มา : http://meanderingthroughtime.weebly.com


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 16, 10:40
       การอภิเษกสมรสครั้งนี้ถ้าดูจากสายตาคนโลกสวยในปัจจุบัน ก็ถือว่าเป็นเทพนิยายรักโรแมนติคแห่งยุคกลาง  ราวกับถอดซินเดอเรลลาออกมายังไงยังงั้น    แต่ในสายตาคนร่วมสมัยโดยเฉพาะขุนพลคู่บัลลังก์อย่างเอิร์ลแห่งวอริค  มันคือความวิบัติฉ.ห. กระเทือนความมั่นคงของราชอาณาจักรไม่มีอะไรเท่า
       ท่านเอิร์ลกำลังขะมักเขม้นแสวงหาพันธมิตรให้อังกฤษ ด้วยการเล็งไปที่พระธิดาองค์ใดองค์หนึ่งของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 กษัตริย์ฝรั่งเศส   ว่าถ้าได้มาเป็นทองแผ่นเดียวกันกับอังกฤษ  ราชบัลลังก์จะมั่นคง ไม่มีสงครามกระทบกระแทกกันให้บอบช้ำอย่างที่เป็นมาในอดีต  
        อยู่ๆทุกอย่างก็พังโครมถล่มทลายลงมา   เมื่อพบว่าพระราชาหนุ่มแอบไปสมรสลับๆแต่ถูกต้องตามกฎหมาย กับแม่ม่ายไร้สกุล ไร้อำนาจ ไร้ทุกอย่างยกเว้นความสวย  
       วอริคก็หนวดกระดิก ตัวสั่นด้วยความโกรธ    หมดความเชื่อถือ หมดน้ำใจไมตรีกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดนับแต่นั้น


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 16, 11:07
    เป็นเวลา 3 ปี ที่วอริคนั่งนอนก่ายหน้าผากอยู่      ตรงกันข้ามกับอาการกระดี๊กระด๊าของคนกลุ่มใหม่ที่ออร่าเจิดจ้าขึ้นมาในราชสำนัก   พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดรักพระมเหสีมาก  จึงเอาใจพระนางด้วยการปูนบำเหน็จเครือญาติทางฝ่ายพระนางให้ได้ดิบได้ดีไปตามๆกัน
   น้องสาวหลายคนของพระนางเอลิซาเบธต่างก็ได้แต่งงานไปกับขุนนางสูงศักดิ์ ระดับท่านดยุคท่านเอิร์ลกันเป็นแถว  กลายเป็นดัชเชสเป็นเคานเตส  เรียกว่าเกินฐานะทางฝ่ายนางๆเหล่านี้มาก    ถ้าไม่มีพี่สาวคนโต พวกนี้มีสามีได้อย่างมากก็คหบดีชนบทระดับ"เซอร์" เท่านั้นเอง
   ส้มยังหล่นทับพ่อของเอลิซาเบธ  บารอนริเวอส์  ซึ่งแต่เดิมก็เป็นขุนนางเล็กๆ ชั้นบารอนซึ่งเป็นชั้นต่ำสุดของขุนนางสืบตระกูล  เขาเป็นฝ่ายจงรักภักดีต่อแลงคาสเตอร์อย่างมากมาก่อน   แต่ริเวอส์ก็เต็มอกเต็มใจจะย้ายข้างมาสวามิภักดิ์ต่อลูกเขยฝ่ายยอร์ค
   พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทรงแต่งตั้งพ่อตาเป็นเสนาบดีคลัง ถ้าเป็นไทยสมัยอยุธยาคือเจ้าพระยาโกษาธิบดี  สมัยรัตนโกสินทร์คือเจ้าพระยาพระคลัง    คิดดูก็แล้วกันว่าใหญ่ขนาดไหน  เป็นได้แป๊บเดียวก็เลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นเอิร์ล    ข้ามหัวใครต่อใครไปอย่างลอยลำ     ลูกชายเขาชื่อจอห์นก็พลอยใหญ่โตมีหน้ามีตาตามพ่อ
   เรียกได้ว่าสามปีหลังพระราชามีพระราชินีเอลิซาเบธ  พวกวู้ดวิลล์มีอำนาจมากที่สุดในราชสำนัก  เบียดขุนนางเก่าๆที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนให้ถอยกรูดตกเวทีไปตามๆกัน
   ในเมื่ออำนาจเป็นของหวาน ใครๆก็อยากกิน   ขุนนางทั้งหลายที่อดอยาก ก็พากันเขม่นจนถึงขั้นจงเกลียดจงชัง  พร้อมจะชิงอำนาจกลับคืน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 16, 11:09
Richard Woodville, 1st Earl Rivers


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 16, 13:15
      รอยแตกระหว่างวอริคกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ ในรอบ 3 ปีนับแต่พวกวู้ดวิลล์ขึ้นสู่อำนาจ
      วอริคตกกระป๋องนี่ก็ข้อหนึ่ง  ข้อสอง วอริคอยากยกอิซาเบล ลูกสาวคนโตให้สมรสกับพระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด คือเจ้าชายจอร์ช ดยุคแห่งคลาเรนซ์ แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไม่พระราชทานพระราชานุญาต  ทรงอ้างเอาดื้อๆว่าจะสงวนพระอนุชาไว้สำหรับสมรสกับเจ้าหญิงต่างแดนเพื่อความมั่นคงของอังกฤษ(ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ไม่ยักทำ)  ข้อสาม อำนาจของลอร์ดริเวอส์พ่อตาพระราชาก็นับวันยิ่งแผ่กว้าง   ถึงขนาดที่ว่าหักล้างอำนาจของวอริคได้
      ข้อสามนี้มีหลักฐานชัดๆคือ วอริคพยายามจะดำเนินสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสต่อไป เพื่อความมั่นคงของอังกฤษ  แต่ลอร์ดริเวอส์กลับไปผูกมิตรกับแคว้นเบอร์กันดี  จนเกลี้ยกล่อมให้ลูกเขยเซ็นสัญญาพันธมิตรกับเบอร์กันดีได้สำเร็จ  เป็นผลให้วอริคหน้าแตกยับเยิน
      วันหนึ่ง วอริคก็สุดจะอดทนอีกต่อไป  บัดนี้เขาได้ขุนนางส่วนหนึ่งเป็นพวก   และที่สำคัญได้เจ้าชายจอร์ชดยุคแห่งคลาเรนซ์มาเป็นลูกเขย  เขาเปลี่ยนข้างไปเป็นแลงคาสเตอร์อย่างเงียบๆ ด้วยการลอบติดต่อกับพระนางมาร์กาเร็ตที่บัดนี้ลี้ภัยอยู่ต่างแดน  เพื่อจะหาทางให้พระเจ้าเฮนรี่กษัตริย์องค์เดิมกลับมานั่งบัลลังก์อีกครั้ง   


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 29 ส.ค. 16, 13:59
ท่านลอร์ดประกอบเทพอาจจะติดนิยายนิมิตมารนะคะ มีผีสองตนเกาะไหล่อยู่

ขอบคุณสำหรับคำตอบเรื่องชุดเกราะค่ะ ว่าแต่ สงครามดอกกุหลาบนี่ซับซ้อนจริงๆ แย่งกันไปแย่งกันมา


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 16, 10:37
   ในเมื่อวอริคแปรพักตร์จากเจ้านายตัวเอง  กลายเป็นฝ่ายแลงคาสเตอร์   ก็ไม่ลืมที่จะแก้แค้นคู่แข่งให้สาแก่ใจ     คฤหาสน์ของเอิร์ลริเวอส์ ถูกผู้คนของเขาบุกเข้าโจมตีปล้นสะดมเป็นอันดับแรก    หลังจากนั้น กบฏในประเทศก็ลุกฮือขึ้นทางเหนือของอังกฤษ    แต่ว่าวอริคไม่ได้นำทัพเอง  เขาตั้งนอมินีขึ้นมาคนหนึ่ง ใช้ชื่อว่ารอบินแห่งรี้ดสเดล   นำทัพพวกกบฏเข้าสู้กับทัพหลวงของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด
   ครั้งแรกกบฏแพ้  แต่ในเมื่อแบ๊คดีซะอย่าง   พวกนี้ก็รวบรวมไพร่พลขึ้นฮึดสู้อีกหน    ปะทะกับทัพหลวงที่ยกมาปราบอีกโดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเอง   สงครามดอกกุหลาบก็รบกันนองเลือดอีกครั้ง ที่ทุ่งเอดจ์โค้ต   เรียกชื่อสงครามครั้งนี้ ว่า Battle of Edgecote Moor
    การรบครั้งนี้  ฝ่ายแลงคาสเตอร์หรือฝ่ายกบฏเป็นผู้ชนะ  ฝ่ายยอร์คแพ้    พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดหนี แต่หนีไม่พ้น  ถูกจับตัวได้แล้วนำไปเป็นเชลยที่ปราสาทวอริค      ส่วนเอิร์ลริเวอส์และจอห์นลูกชายคนที่สองถูกฝ่ายกบฏจับได้เช่นกัน แล้วประหารทันทีโดยไม่มีการไต่สวนความผิด  แม่ทัพทางฝ่ายพระราชาก็เช่นกัน ถูกประหารเรียบร้อยโรงเรียนแลงคาสเตอร์  ทั้งหมดนี้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดได้แต่มองเห็นด้วยความขมขื่นพระทัย   เพราะไม่อาจช่วยอะไรได้เลยสักคน   


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 16, 14:48
ทุ่งเอดจ์โค้ต ในปัจจุบัน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 16, 08:24
    เมื่อได้พระราชามาอยู่ในกำมือแล้ว   แผนขั้นต่อไปของวอริคก็คือกลับคืนสู่อำนาจ  โดยมีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเป็นลูกไก่ในกำมือ  หรือไม่ก็จับพระองค์ถอดจากบัลลังก์ซะ แล้วตัวเองขึ้นมาแทน      แต่วอริคคะเนตัวเองผิดไปมาก      อังกฤษมีตำแหน่งพระเจ้าแผ่นดินก็จริง  แต่ก็มีสภาขุนนางซึ่งประกอบด้วยขุนนางใหญ่น้อยอีกมาก คอยคานอำนาจอยู่ด้วย     และเราต้องไม่ลืมว่า ในขณะนั้นพระเจ้าแผ่นดินไม่ได้มีองค์เดียว แต่มี 2 องค์คือพระเจ้าเฮนรี่ที่หก(องค์ที่ป่วยเป็นโรคประสาทนั่นแหละค่ะ) กับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สี่ผู้ชิงบัลลังก์มาเอง   
     แค่มี 2 องค์ องค์หนึ่งกุหลาบแดงแลงคาสเตอร์   กับอีกองค์กุหลาบขาวยอร์ค ชิงอำนาจกันไม่รู้จบ    ประชาชนและขุนนางต่างก็เดือดร้อนสู้รบ  ล้มตายกันไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว   นี่จะมีคนที่สามคือวอริคขึ้นมากุมอำนาจให้ตายกันอีกเป็นสามเท่า    สภาขุนนางทนไม่ไหว ก็เลยแอนตี้วอริคขึ้นมา
     เกิดกบฏขึ้นมาในประเทศ กดดันวอริคอย่างหนัก     ทำให้เขารู้ตัวว่าฝันหวานที่วางไว้ กลายเป็นฝันสลาย    วอริคก็เลยจำใจต้องคายอ้อยออกจากปากช้าง คือปล่อยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเป็นไทแก่ตัว


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 16, 08:36
   พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกลับคืนสู่บัลลังก์ได้อีกครั้ง  แต่แทนที่พระองค์จะถือโอกาสนี้กวาดล้างวอริคและพระอนุชาดยุคแห่งกลอสเตอร์เสียให้สิ้นซาก     พระองค์ก็กลับทำอย่างที่สุนทรภู่ห้ามไว้อีกนั่นแหละ คือ  
    ประเพณีตีงูให้หลังหัก             มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง
    คือทรงประนีประนอมไม่เอาผิดทั้งวอริคและเจ้าชายพระอนุชา   นึกว่าสองคนนี้จะสำนึกในพระกรุณา   แล้วก็อยู่กันสงบๆต่อไป ได้ไม่มีไพร่พลต้องล้มตาย  ประเทศเสียหายกันอีก  
    เปล๊า   สัญชาติงูยังไงจะให้กลายเป็นไส้เดือนนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้      วอริคคอยจังหวะอยู่  พอได้ที ก็รวบรวมพลกบฏต่อพระราชาขึ้นมาอีก    คราวนี้พระเจ้าไม่เข้าข้าง วอริคเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต้องเผ่นหนีออกนอกอังกฤษไปพึ่งฝรั่งเศสศัตรูเก่า     พระนางมาร์กาเร็ตนางเอกหญิงเหล็กของเราคอยทีอยู่แล้ว  วอริคกับพระนางก็เลยจับมือกัน พร้อมจะเอาฝรั่งเศสมาช่วยโค่นบัลลังก์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด     เพื่อจะส่งบัลลังก์คืนให้กษัตริย์เชื้อสายแลงคาสเตอร์ คือพระเจ้าเฮนรี่ที่หก  
    ตัวพระเจ้าเฮนรี่น่ะไม่เท่าไหร่หรอก   พระนางมาร์กาเร็ตทรงทำเพื่อโอรสของพระนาง จะได้สืบทอดบัลลังก์อังกฤษต่อไปต่างหาก

    วอริคคุมทัพเรือจากฝรั่งเศส  มุ่งหน้ากลับไปอังกฤษ     สงครามดอกกุหลาบ ระหว่างแลงคาสเตอร์ นำโดยพระนางมาร์กาเร็ตและวอริค   กับยอร์ค ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สี่แห่งอังกฤษ ก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 16, 10:37
        สงครามดอกกุหลาบครั้งนี้ แลงคาสเตอร์นำโดยวอริค เป็นฝ่ายชนะ    พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดฝ่ายยอร์คแพ้ ต้องหนีตายออกจากอังกฤษไปเมืองฟลานเดอร์ในแคว้นเบอร์กันดี
        เมื่อแลงคาสเตอร์ชนะ  วอริคก็ยาตราทัพเข้าลอนดอน   แต่คราวนี้ไม่ตั้งตัวเป็นใหญ่อีกอย่างคราวก่อน   หากแต่กลับไปยกพระเจ้าเฮนรี่แห่งแลงคาสเตอร์กลับขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทน      การคืนกลับสู่บัลลังก์ครั้งนี้เรียกกันในประวัติศาสตร์ว่า the Readeption of Henry VI
        เรื่องมันควรจะจบ  เพราะพระราชาองค์เดิมก็กลับคืนสู่บัลลังก์ได้แล้ว   องค์ที่มาชิงราชสมบัติก็พ่ายแพ้ไปแล้ว      แต่เอาเข้าจริงก็ไม่จบ   เพราะพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดท่านก็ชาติเสือไว้ลายเหมือนบรรพบุรุษของท่าน     จึงไม่ได้หนีไปอยู่ฟลานเดอร์เฉยๆ นั่งๆนอนๆจนกว่าจะแก่ตายไปเอง     แต่รวบรวมกำลังพลจากเบอร์กันดี กลับมาชิงบัลลังก์คืนจากพระเจ้าเฮนรี่และวอริคให้จงได้  โดยมีผู้ร่วมรบเป็นขุนพลคู่พระทัยคือพระอนุชาอีกองค์หนึ่งชื่อเจ้าชายริชาร์ด     
       ส่วนพระอนุชาอีกองค์คือเจ้าชายจอร์ชนั้น แปรพักตร์ไปเป็นฝ่ายแลงคาสเตอร์เรียบร้อย เพราะเป็นลูกเขยของวอริคไปแล้ว

       ที่จำต้องเอ่ยย้ำชื่อพระอนุชาทั้งสองของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดขึ้นมา ให้เปลืองหน่วยความจำในสมองของคนอ่านกระทู้  ก็เพราะเจ้าชายริชาร์ดองค์นี้ต่อไปจะมีบทบาทสำคัญในสงครามดอกกุหลาบค่ะ   ทนจำเอาหน่อย


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 10:52
       กองทัพของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมีจำนวนไม่มากนัก  แต่พระองค์ก็ฉลาดพอจะยกทัพผ่านยอร์คเชอร์ไปได้อย่างสะดวกโยธิน ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายยอร์ค   เพื่อรุดหน้าต่อไปยังลอนดอน     สถานการณ์พลิกกลับมาเป็นผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ   เมื่อพระอนุชา เจ้าชายจอร์ช ดยุคแห่งคลาเรนซ์ซึ่งแสดงตัวออกหน้าออกตาว่าสนับสนุนวอริคผู้เป็นพ่อตา เต็มประตูมาแต่ไหนแต่ไร   เกิดเปลี่ยนใจกลับข้างมาเป็นฝ่ายพระเชษฐา  
      เหตุผลของเจ้าชายจอร์ชพอจะมองเห็นกันได้ไม่ยาก     ก่อนหน้านี้ เจ้าชายหวังว่าพ่อตากำจัดพระเชษฐาออกไปจากบัลลังก์แล้ว  ตัวเองผู้เป็นน้องชายถัดมาก็จะได้ลอยลำขึ้นเป็นกษัตริย์อังกฤษ     ในเมื่อมีบัลลังก์ทั้งอันเป็นเดิมพัน   พี่เพ่ออะไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไป  ของพรรค์นี้ใครดีใครได้ ก็รู้ๆกัน
       แต่ที่ไหนได้   เจ้าชายจอร์ชอกหักอย่างแรง  เมื่อวอริคชนะพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดแล้ว แต่ไม่ยักเห็นหัวเจ้าชาย  กลับไปยกพระราชาองค์เก่าที่สติสตังไม่สู้ดี อำนาจราชศักดิ์อะไรก็ไม่มี  มีแต่ยี่ห้อแลงคาสเตอร์แปะเอาไว้หน่อยนึง   ขึ้นมาครองบัลลังก์อังกฤษเฉยเลย          แม้วอริคพยายามเอาใจเจ้าชายจอร์ช  โดยสัญญาว่าเจ้าชายจะได้ขึ้นครองบัลลังก์หากว่าหมดเชื้อสายพระเจ้าเฮนรี่ทางฝ่ายแลงคาสเตอร์แล้ว    เจ้าชายก็รู้ดีว่าเป็นสัญญาลมๆแล้งๆไปงั้นเอง   เพราะพระเจ้าเฮนรี่เองก็มีรัชทายาท ที่สมัยนั้นเรียกว่าปรินซ์ออฟเวลส์   สัญญานี้ก็ไม่ต่างจากสัญญาว่าจะให้ถูกลอตเตอรี่ ทั้งๆไม่มีลอตเตอรี่อยู่ในมือ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 11:27
         ในเมื่ออยู่ต่อไปกับฝ่ายแลงคาสเตอร์ ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมา  เจ้าชายจอร์ชก็ตัดสินใจอีกเป็นครั้งสุดท้าย ว่ากลับไปอยู่กับพี่ดีกว่า   อย่างน้อย ก็ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว   แพ้ก็เสมอตัว     เผื่อพี่ชายชนะศึก ตัวเองอาจจะได้รับอภัยโทษ ปูนบำเหน็จมีความดีความชอบขึ้นมามั่งก็ได้
     ดังนั้น ในสงครามดอกกุหลาบที่ระเบิดขึ้นอีกครั้งในคราวนี้ จึงเป็นสงครามที่ตัดสินชะตากรรมของแต่ละฝ่าย    มีชื่อว่าThe Battle of Barnet   สมรภูมิอยู่ที่ทุ่งกว้างทางเหนือของเมืองบาร์เน็ต    ทัพของฝ่ายแลงคาสเตอร์นำโดยวอริคปะทะกับฝ่ายยอร์คของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด   ส่วนทัพที่แอบไปสมทบช่วยพระราชาก็คือไพร่พลทางฝ่ายเจ้าชายจอร์ช
     รบกันครั้งนี้  ยอร์คเป็นฝ่ายกล้าแข็งขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ  แลงคาสเตอร์ที่มีกำลังพลจากเมืองหลวงกลับระส่ำระสายควบคุมกันไม่อยู่    ที่สำคัญก็คือผู้นำฝ่ายแลงคาสเตอร์ คือวอริคนั้น พลาดพลั้งถูกทหารฝ่ายยอร์คฆ่าตายในสมรภูมิ
     เมื่อสิ้นแม่ทัพฝ่ายกุหลาบแดง   ยอร์คกุหลาบขาวก็ชนะ   ยาตราทัพเข้าลอนดอน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 11:29
วาระสุดท้ายของวอริค


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 11:31
เสาหินนี้คืออนุสรณ์ สร้างขึ้นตรงที่ที่เชื่อว่าเป็นวาระสุดท้ายของวอริค ค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 12:33
     มีดราม่าย่อยๆแทรกอยู่ในสงครามดอกกุหลาบช่วงนี้     ที่จริงจะไม่อ่าน ข้ามไปก็ได้  แต่ใครชอบนิยายรักระหว่างรบ จะอ่านแก้ง่วงก็ไม่ว่ากันค่ะ
     ใครที่อ่านมาแต่ต้นคงจำได้ว่า พระเจ้าเฮนรี่แห่งแลงคาสเตอร์ผู้สติสตังไม่ค่อยดี มีพระโอรสรัชทายาทเกิดจากพระนางมาร์กาเร็ตหญิงเหล็ก   พระนางกับวอริคเป็นพันธมิตรกัน    ถึงขนาดที่ว่าวอริคยกลูกสาวคนเล็กชื่อแอนน์ ให้เป็นเจ้าสาวของเจ้าชายพระโอรสองค์นั้น เรียกไม่ให้ซ้ำคนอื่นว่าปรินซ์ออฟเวลส์ก็แล้วกัน   เลดี้แอนน์ก็เลยกลายเป็นเจ้าหญิงตามบรรดาศักดิ์สามี
     คู่ของแอนน์กับเจ้าชายปรินซ์ออฟเวลส์เป็นคู่น่าสงสาร  ไม่ได้อยู่กันเป็นปกติสุขอย่างคู่สมรสอื่นๆ    ทั้งที่อายุยังน้อยมาก  อยู่กันยังไม่ทันจะมีลูก    เจ้าชายก็ต้องออกศึกเพื่อรักษาสิทธิ์ในบัลลังก์ของตัวเองและพระบิดา
     หลังจากวอริคถูกฆ่าตายในศึกที่บาร์เน็ต   พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดฝ่ายยอร์คกลับสู่บัลลังก์   พระเจ้าเฮนรี่ฝ่ายแลงคาสเตอร์ยังถูกคุมขังที่หอคอยแห่งลอนดอน ตามที่ถูกขังมาหลายปีแล้ว     เจ้าชายหนุ่มน้อยวัย 17  ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากจะรวบรวมกองทัพขึ้นมา เพื่อต่อต้านพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด    เป็นการปกป้องสิทธิ์ในราชบัลลังก์ของเจ้าชาย   และเพื่อจะช่วยพ่อออกจากที่คุมขังเป็นโอกาสสุดท้าย
     สงครามดอกกุหลาบก็เกิดขึ้นมาอีก  ครั้งที่เท่าไหร่ไม่ได้นับ  ศึกครั้งนี้เรียกชื่อว่า  the Battle of Tewkesbury


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 05 ก.ย. 16, 19:38
ปรินซ์ออฟเวลส์คนที่ท่านอาจารย์ใหญ่ว่ามาคือเอ็ดเวิร์ดปรินซ์ออฟเวลส์ หรืออาจจะเรียกว่าเอ็ดเวิร์ดแห่งแลงคาสเตอร์ หรือเอ็ดเวิร์ดแห่งเวสมินสเตอร์ก็ได้  เอ็ดเวิร์ดเป็นอีกคนที่น่าสนใจ ถ้าใครที่ดูลิเกฝรั่งเรื่อง Game of throne คงจำเจ้าชายจอฟฟรี่ ที่ต่อมาเป็นกษัตริย์จอฟฟรีได้ดี นี่เป็นตัวละครโปรดที่หลายๆ คนคงหมั่นไส้ คิดในใจอยากให้มันตายเร็วๆ จริงๆ ตัวละครจอฟฟรีน่าจะได้รับอิทธิพลมาไม่น้อยจากชีวิตจริงของเอ็ดเวิร์ด

เอ็ดเวิร์ดเป็นเจ้าชายที่เกิดหลังจากมาร์กาเร็ตกับกษัตริย์เฮนที่ที่ 6 อภิเษกกันแล้วถึง 8 ปี แถมช่วงที่เกิด ตั้งแต่ช่วงที่คาดว่านางจะตั้งครรภ์เป็นช่วงที่เฮนรี่กำลังวิปลาสซะอีก เจ้ากรมข่าวลือทั้งหลายจึงเชื่อว่าเอ็ดเวิร์ดน่าจะเป็นลูกชู้ที่เกิดจากดยุคแห่งซอมเมอร์เซ็ต หรือไม่ก็เอิร์ลแห่งวิลเชียร์มากกว่า แต่ไม่ว่าจะลือกันขนาดไหน พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ก็ยอมรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดเป็นบุตรที่ชอบธรรมถูกต้องตามกฏหมาย

บันทึกจากทูตของราชสำนักมิลานที่อยู่ในราชสำนักฝรั่งเศสช่วงที่มาร์กาเร็ตกับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดลี้ภัยไปอาศัยอยู่เขียนไว้ว่า ตอนนั้นแม้เอ็ดเวิร์ดอายุเพิ่ง 13 ปีเท่านั้น เด็กชายก็ไม่พูดเรื่องอะไรเลยนอกจากการตัดหัวคน หรือก่อสงคราม ทำเหมือนตัวมีอำนาจมากมายหรือเป็นเจ้าแห่งสงครามหรือไม่ก็ครองบังลังก์แล้ว ยังมีบันทึกอื่นๆ อีกเขียนไว้ว่า เจ้าชายทุ่มเทให้กับการสงคราม มากกว่าจะเอาใจใส่เล่าเรียน มีความสุขกับการใช้หอก หาบ หรืออาวุธอื่นๆ จู่โจมเหล่าคนรับใช้รอบตัว

เอ็ดเวิร์ดของเราแต่งงานเมื่ออายุ 17 กับแอนน์ ลูกสาวของวอริควัย 14 ไม่มีบันทึกว่าชีวิตสมรสของทั้งคู่เป็นอย่างไร แต่สิ่งที่อาจจะแตกต่างระหว่างเอ็ดเวิร์ดกับจอฟฟรี่คือ เอ็ดเวิร์ดแม้จะกระหายเลือดแต่ไม่ขี้ขลาด เพราะเจ้าตัวนำทัพเข้าสู้รบเมื่ออายุ 17 ปีที่ the Battle of Tewkesbury

ไม่มีใครรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่คาดว่าน่าจะเป็นหนุ่มน้อยผมทอง แค่คงจะไม่ได้มีหุ่นอรชรอ้อนแอ้นแต่แข็งแกร่งมีมัดกล้ามตามประสานักรบมากกว่า



กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 16, 10:27
      สงครามดอกกุหลาบครั้งนี้มีชื่อว่า  the Battle of Tewkesbury  เพราะรบกันที่เมืองทีคเบอรี่ ในกลอสเตอร์เชอร์    
      สถานการณ์ไม่สู้ดีสำหรับฝ่ายแลงคาสเตอร์แต่แรกแล้ว   ทัพของเจ้าชายหนุ่มวัย 17  ยกมาจากฝรั่งเศส พอขึ้นบกได้ก็ได้ข่าวถึงความพ่ายแพ้ของทัพวอริค  แม่ทัพเองก็เสียชีวิตในสนามรบ     พระนางมาร์กาเร็ตผู้มากับพระโอรสจึงให้เดินทัพขึ้นไปสมทบกับกำลังทางฝ่ายแลงคาสเตอร์ทางเหนือ   แทนที่จะบุกเข้ารบเดี่ยวๆ  เพราะโอกาสจะชนะพญาสิงโตอย่างพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สี่นั้นเป็นไปไม่ได้เลย
      แต่ทางฝ่ายพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด เมื่อได้ข่าวว่าข้าศึกยกมาอีกทัพ ก็ไม่ยอมให้ทางฝ่ายแลงคาสเตอร์ตั้งตัวติด   ระดมพลจากลอนดอนไปสะกัดทันที    เจอกันที่ทีคเบอรี่  สมรภูมิละเลงเลือดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
      ปะทะกันครั้งนี้ทัพเจ้าชายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ยับเยิน     ตัวเจ้าชายเองก็ถูกจับได้ในละเมาะไม้ใกล้สมรภูมิ   โดยทหารฝ่ายดยุคแห่งคลาเรนซ์    แม้ว่าเจ้าชายจะขอชีวิตไว้   ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ     เจ้าชายถูกประหารตรงนั้นเองโดยคำสั่งของคลาเรนซ์ พระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด  ผู้เคยให้สัตย์สาบานเป็นพันธมิตรฝ่ายแลงคาสเตอร์มาเมื่อปีก่อนหน้านี้เอง     


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 16, 10:30
     อย่างไรก็ดี  เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทรงทราบว่าศัตรูถูกสังหารไปแล้ว  พระองค์ก็ยังมีเมตตาโปรดให้ฝังพระศพเจ้าชายไว้ที่วิหารเมืองทีคเบอรี่   ถือเป็นการให้เกียรติกันเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะเป็นปรปักษ์กันก็ตาม
     ส่วนพระนางมาร์กาเร็ตหญิงเหล็กของเรารอดตาย  กลับฝรั่งเศสไปได้   แต่ก็มีชีวิตอยู่อย่างอับเฉาเหมือนพระญาติจนๆองค์หนึ่งของพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศส    ไร้ความหมายไร้ความสลักสำคัญ  จนสิ้นพระชนม์เมื่ออายุแค่ 52 ปี
     หลังจากนั้นไม่กี่วัน   พระเจ้าเฮนรี่ที่หก  พระบิดาของเจ้าชายซึ่งถูกคุมขังในหอคอยแห่งลอนดอนมานานหลายปี ก็สิ้นพระชนม์   รายงานข่าวอย่างเป็นทางการแถลงว่าทรงโศกเศร้าตรอมพระทัยตายตามพระโอรส      แต่เจ้ากรมข่าวลือบอกในทางตรงข้ามว่า ถูกปลงพระชนม์โดยพระบัญชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ให้หมดเรื่องหมดราวหมดเสี้ยนหนามทางแลงคาสเตอร์อีก
     ก็เป็นอันว่าผลจากศึกครั้งนี้  กุหลาบแดงก็ถูกกุหลาบขาวขุดรากถอนโคน   กุหลาบขาวก็ขึ้นนั่งบัลลังก์อย่างมั่นคงไปยาวนานถึง 14 ปี
     มันก็น่าจะจบสงครามดอกกุหลาบ    แต่ก็ไม่ยักจบจนได้


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 06 ก.ย. 16, 12:17
เอาภาพบริวเณที่ฝังศพของเอ็ดเวิร์ดหนุ่มในวิหารที่ทีคเบอรี่มาให้ชม คำจารึกเขียนเป็นภาษาลาติน แปลคร่าวๆ ได้ประมาณว่า "ที่ทอดร่างของเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ ผู้ถูกสังหารของโหดร้ายในขณะที่ยังเยาว์วัย 4 พฤษภาคม 1471 อนิจจาแสนป่าเถื่อน แสงสว่างสุดท้ายของมารดาท่าน ความหวังสุดท้ายที่สิ้นสุด"

 อีกภาพคือบริเวณที่เชื่อว่าเฮนรี่ที่ 6 ถูกสังหารในหอคอยแห่งลอนดอน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 16, 09:52
    จากค.ห.ก่อนๆ เราคงจำกันได้ถึงตัวละครสำคัญคนหนึ่ง คือเจ้าชายจอร์ช ดยุคแห่งคลาเรนซ์   พระอนุชาคนรองของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด
    คลาเรนซ์เป็นคนที่ใครได้ไปเป็นพี่เป็นน้องก็คงปวดหัว  เพราะดูจากพฤติกรรมแล้ว เป็นคนที่ทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อสนองความมักใหญ่ใฝ่สูงของตัวเอง   คิดคดทรยศ กลับไปกลับมาไว้ใจไม่ได้เลย เดี๋ยวก็อยู่ฝ่ายแลงคาสเตอร์  เดี๋ยวก็กลับมาเป็นฝ่ายยอร์ค      แต่ในยามที่อังกฤษเผชิญสงครามแย่งชิงบัลลังก์กันอยู่ตลอดเวลา  พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็จำต้องพึ่งน้องชายคนนี้บ้างตามกาลเทศะ เอาไว้ทำศึกกับศัตรู
    จนกระทั่งพระองค์กวาดล้างศัตรูฝ่ายกุหลาบขาวได้เหี้ยนเตียนไปหมด  ขึ้นนั่งบัลลังก์ได้อย่างโล่งอกเสียที   ทีนี้ก็มาถึงปัญหาเรื่องพี่ๆน้องๆที่จะต้องสงบศึกกันเป็นการภายใน
    คลาเรนซ์เป็นไม้เบื่อไม้เมากับน้องชายคนเล็กคือเจ้าชายริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์      องค์เล็กนี่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่ชายคนโต แต่ไม่ถูกกับพี่ชายคนรอง   เพราะแบ่งทรัพย์สินกันไม่ลงตัว      ทรัพย์สินที่ว่านั้นคือมรดกเจ้าคุณปู่  เพราะวอริคที่ถูกฆ่าตายไปแล้วในสมรภูมิบาร์เน็ตเป็นขุนนางที่มั่งคั่งที่สุดในอังกฤษ     คลาเรนซ์อ้างสิทธิ์ในฐานะลูกเขยของวอริค ขอฮุบมรดกทั้งหมด
      ปัญหาคือเราคงจำได้ว่าวอริคมีลูกสาวคนเล็กชื่อแอนน์ ซึ่งสมรสไปกับเจ้าชายปรินซ์ออฟเวลส์ผู้ถูกสังหารไปแล้วที่การรบครั้งล่าสุดที่ทีคเบอรี่      แอนน์แม่ม่ายสาวน้อยเป็นที่ต้องตาต้องใจของเจ้าชายริชาร์ดดยุคแห่งกลอสเตอร์น้องชายของคลาเรนซ์      เมื่อกลอสเตอร์พยายามจะแต่งงานกับแอนน์ให้ได้   คลาเรนซ์ก็โกรธจนตัวสั่น หาว่าน้องชายจะมาฉกมรดกพ่อตาเอาไปกินซะหน้าด้านๆ      


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 16, 11:18
     ไม่ว่าคลาเรนซ์ขัดขวางอย่างไรก็ตาม    กลอสเตอร์ก็แต่งงานกับแอนน์จนได้   พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดยื่นมือเข้ามาชี้ขาดกรณีพิพาทระหว่างน้องชายทั้งสองด้วยการแบ่งทรัพย์สินของวอริคให้คนละครึ่ง    ข้อนี้ทำความแค้นเคืองให้คลาเรนซ์เอามากๆที่ไม่สามารถจะรวบได้ทั้งหมด
   เหตุผลต่อมาคือเมื่ออิซาเบลภรรยาของคลาเรนซ์เสียชีวิตหลังคลอดบุตร     คลาเรนซ์ก็พยายามจะแต่งงานใหม่กับเจ้าหญิงแห่งเบอร์กันดี เพื่อจะสร้างอำนาจให้ตัวเอง โดยอาศัยฐานกำลังทางแคว้นฝ่ายภรรยา    แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเล็งเห็นเสียก่อนว่าน้องชายคนนี้ชักกำเริบขึ้นทุกที   ปล่อยเอาไว้จะเป็นภัยกับพระองค์  ก็เลยไม่ประทานพระอนุญาตให้แต่ง
     ความไม่พอใจที่คุกรุ่นต่อพี่ชายนำคลาเรนซ์ไปสู่การตัดสินใจโค่นอำนาจ  หรือเรียกง่ายๆว่ากบฏ    แต่แผนแตกเสียก่อน   พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็เลยจับน้องชายที่เป็นหอกข้างแคร่มานาน  เข้าขังเป็นนักโทษที่หอคอยแห่งลอนดอน   
     คลาเรนซ์ประสบวาระสุดท้าย  ถูกประหารอย่างเงียบๆ ด้วยคำสั่งของพี่ชาย      เจ้ากรมข่าวลือแถลงว่า การประหารนั้นไม่ได้ถุกตัดหัวหรือแขวนคออย่างนักโทษอื่นๆ   แต่ถ้าเป็นหัวข้อข่าวไทยรัฐเดลินิวส์ข่าวสดสมัยนี้ก็คงใช้คำว่า "ฆ่ายัดถัง"   
     ค่ะ   เจ้าชายถูกถ่วงน้ำในถังเหล้าไวน์  เรียกกันว่า  malmsey wine        เป็นไวน์ชนิดไหนดิฉันไม่ทราบเหมือนกัน ต้องถามคุณตั้ง   


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 16, 11:24
     วิธีประหารคลาเรนซ์นั้นไม่มีใครเห็นด้วยตาตัวเองยกเว้นเพชฌฆาต ซึ่งก็คงไม่เปิดเผยตัวตนอยู่ดี   คนรุ่นหลังจึงได้แต่วาดภาพวาระสุดท้ายของคลาเรนซ์ไปตามจินตนาการ   ไม่รู้ว่าถูกหย่อนลงไปหรือกดลงไปแบบไหน  เป็นๆ หรือว่าทุบให้สลบก่อนแล้วค่อยกด
     แต่จะอย่างไหนก็ตาม ก็สยดสยองอยู่ดีละค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 12:03
       เมื่อหมดเรื่องหมดราวไปกับน้องชายตัวแสบแล้ว  สงครามดอกกุหลาบก็ถูกถอนรากถอนโคนไปแล้วก่อนหน้า     พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็ครองราชย์ต่อมาด้วยความสุขกายสบายใจอีก 5 ปี   จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพระชนม์ได้ 41  เสด็จออกจากพระราชวังวินด์เซอร์  นั่งเรือไปตกปลาตามลำน้ำเทมส์
       ว่ากันว่า วันนั้น  อากาศหนาวมาก   พอกลับเข้าวังก็เลยประชวรหวัด      เอาเข้าจริงแทนที่จะหายในไม่กี่วัน   อาการก็ทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วจนน่าสงสัยว่าไม่ใช่หวัดธรรมดา  แต่เป็นนิวมอเนียหรือปอดบวม  แล้วก็ปุบปับสิ้นพระชนม์ไปโดยไม่มีใครคาดคิด หลังจากประชวรอยู่ 3 สัปดาห์
       พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกับพระนางเอลิซาเบธ วู้ดวิลล์มีโอรสเล็กๆด้วยกันสององค์  อายุ 12 และ 10 ตามลำดับเมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์    ดังนั้นเจ้าชายองค์โตก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ตามราชประเพณี ทางพระนามว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5    แต่ความที่ยังอายุน้อยมาก   ก็ต้องมีผู้สำเร็จราชการคือเจ้าชายริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ พระเจ้าอาที่เหลืออยู่เพียงองค์เดียว
     กลอสเตอร์องค์นี้ เราคงจำได้ว่าเป็นนักรบที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่มากับพี่ชาย     พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไว้วางพระทัยมาก    ถึงกับสั่งเสียไว้ในพินัยกรรมว่าหากพระองค์เป็นอะไรไปเมื่อพระโอรสยังเยาว์ ก็ให้พระเจ้าอาองค์นี้ช่วยสำเร็จราชการดูแลแผ่นดินให้ด้วย    แต่เหตุการณ์ก็พิสูจน์ว่า นอกจากช้างสารงูเห่า ข้าเก่าเมียรัก อย่าได้ไว้ใจแล้ว   น้องรักก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน  


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 12:16
       กลอสเตอร์จัดการประกาศว่า การสมรสระหว่างพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดและพระนางเอลิซาเบธไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นโมฆะ  ยังผลให้เจ้าชายน้อยพระโอรสกลายเป็นลูกนอกกฎหมาย  จึงไม่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์   จากนั้นพระองค์ก็จัดการเล่นงานญาติทางฝ่ายพระราชินีที่ยังเหลืออยู่ จับกุมคุมขังกวาดล้างซะเรียบราบ   ไม่ให้เป็นเสี้ยนหนาม
       ส่วนพระราชาน้อยผู้ยังไม่ได้เข้าพิธีราชาภิเษกสวมมงกุฎ   ก็ถูกเชิญไปพำนักที่หอคอยแห่งลอนดอน   พร้อมกับเจ้าชายน้อยพระอนุชา    พูดง่ายๆคือถูกจับกุมคุมขังไว้ที่นั่นมีทหารยามอารักขาอย่างเข้มงวด    พระบิดาสิ้นพระชนม์เมื่อเดือนเมษายน   พอล่วงถึงเดือนมิถุนายน ในรัชกาลที่สั้นแสนสั้นเพียง 69 วัน    พระราชาน้อยและเจ้าชายน้อยก็หายสาบสูญไปจากหอคอยแห่งลอนดอน     ไม่มีใครรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
      ก่อนหน้าที่จะทรงหายตัวไปไม่กี่วัน   รัฐสภาซึ่งอยู่ในอุ้งมือของกลอสเตอร์ก็ประกาศว่าการสมรสระหว่างพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกับพระนางเอลิซาเบธเป็นโมฆะ  ยังผลให้ไม่มีสิทธิ์ในราชสมบัติ      เมื่อหายองค์กันไปทั้งพี่ทั้งน้องโดยก็ไม่มีใครในราชสำนักหรือในรัฐสภา ลุกขึ้นมาเรียกร้องซักถามเอาความจริงว่าทรงหายไปไหน   ก็เหลือแต่พระเจ้าอาองค์เดียว   เดินขึ้นนั่งบัลลังก์อย่างสะดวกโยธินทุกประการ
      กลอสเตอร์ขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่าพระเจ้าริชาร์ดที่สาม      องค์ที่คุณชายประกอบเทพ เมื่อครั้งไปเป็นท่านลอร์ดอยู่ในอังกฤษ  รายการว่ามีการขุดพบกระดูกในลานจอดรถนั่นแหละค่ะ
     http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5564.0



กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 12:23
   เกือบสองร้อยปีต่อมา ในค.ศ. 1674   คนงานที่ไปทำงานในหอคอยแห่งลอนดอน ขุดพบโลงไม้ที่ภายในมีโครงกระดูกเด็ก 2 โครงฝังรวมกัน อยู่ใต้พื้นดินใกล้ส่วนที่เรียกว่า White Tower เป็นที่เชื่อกันแพร่หลายแม้ว่าไม่มีการพิสูจน์ ว่าเป็นโครงกระดูกของพระราชาน้อยและพระอนุชาที่หายไปนั่นเอง
   เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นดราม่าสูงสุดเรื่องหนึ่งของประวัติศาสตร์อังกฤษ    มีหนัง ละคร ภาพวาด เกี่ยวกับวาระสุดท้ายของเด็กน้อยมากมาย  รวมทั้งรูปจำลองหุ่นขี้ผึ้งในพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซด์ด้วยค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 12:24
เด็กน้อยน่าสงสาร


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 18:19
ชะตากรรมบั้นปลายของกษัตริย์น้อยและพระอนุชา  นำมาแสดงเป็นหุ่นขี้ผึ้งของมาดามทุสโซด์   รู้จักกันขึ้นชื่อในนาม The Princes in the Tower
มีทั้งหุ่นเก่าหุ่นใหม่ 
คือปั้นหุ่นรุ่นเก่าก่อน  ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นหุ่นรุ่นใหม่    ใครไปชมหุ่นขึ้ผึ้งจะต้องเห็นกัน เพราะเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของที่นั่นค่ะ

หุ่นเก่าเป็นภาพที่ฆาตกรกำลังคืบคลานเข้าไปจัดการกับเด็กน้อยสองคนที่หลับไหลอย่างไร้เดียงสา
หุ่นใหม่จำลองจากภาพวาด เป็นเด็กชายที่กำลังหวาดผวากับชะตากรรม


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 18:22
หุ่นใหม่


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 09:42
   รัชสมัยของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3  เริ่มต้นอย่างอึมครึม  แม้ว่ากำจัดเสี้ยนหนามเล็กๆ 2 ชิ้นไปได้โดยไม่มีใครกล้าปริปากถาม   พระองค์ก้าวขึ้นครองบัลลังก์อย่างสะดวกในตอนแรกก็จริง   แต่พอลงนั่งแค่ 3 เดือนจากนั้นก็เจอดาบขนาดใหญ่พุ่งเข้าแทง  จนนั่งไม่ติด
   ดาบที่ว่านี้มาจากขุนนางใหญ่ชื่อดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรใหญ่ช่วยถากถางทางให้ก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์      มีเสียงเล่าลือในประวัติศาสตร์ว่านายคนนี้เองเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง ในการเข้าไปที่หอคอยแห่งลอนดอนและลงมือสังหารเจ้าชายน้อยทั้งสอง       ดูๆจากความสัมพันธ์  พระเจ้าริชาร์ดก็เอาอกเอาใจบัคกิ้งแฮมด้วยดี ปูนบำเหน็จทั้งตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก คือตำแห่งลอร์ดแชมเบอร์เลน หรือสมุหราชมณเฑียร     เหตุใดบัคกิ้งแฮมจึงก่อกบฎขึ้นมาก็ยังเป็นเหตุผลที่คลุมเครืออยู่
   ในบทละครของเชกสเปียร์เรื่อง Richrd III  เป็นละครอิงประวัติศาสตร์ที่คนไทยอาจไม่รู้จักเพราะไม่ได้แปลเป็นไทย   แม้แต่คนเรียนวรรณคดีก็ไม่ค่อยจะได้เรียนกัน  เพราะถือว่าไม่ใช่งานชิ้นเอกเท่ากับอีก 4 เรื่องคือ Hamlet Macbeth King Lear และ Othello   เชคสเปียร์ให้เหตุผลของการก่อการกบฏว่า บัคกิ้งแฮมนั้นเคยจงรักภักดีสนับสนุนต่อพระเจ้าริชาร์ดเสมอมา  แต่มาหมดความศรัทธาก็เมื่อได้รับพระบัญชาให้ไปสังหารเจ้าชายน้อยทั้งสอง     จากนั้นก็เลยตีตัวออกห่างและก่อกบฎในที่่สุด
   เหตุผลอื่นที่สันนิษฐานกันก็คือ เขาก่อกบฏเพราะได้คืบจะเอาศอก   อยากจะขึ้นเป็นใหญ่เสียเอง    อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเกิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมาก็เลยไม่เอาด้วย   ก็เลยไปรวบรวมพลจากคนที่ยังจงรักภักดีต่อกษัตริย์องค์ก่อนคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4    มาโค่นบัลลังก็อันไม่ชอบธรรมลงไป


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 09:44
ดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 19:01
       ดวงของบัคกิ้งแฮมสู้ดวงพระเจ้าริชาร์ดไม่ได้      กบฎครั้งนี้จึงพ่ายแพ้ทัพหลวงไปตามระเบียบ    ตัวบัคกิ่งแฮมเองก็ถูกประหารชีวิต    เป็นอันจบบทบาทของเขาไปตลอดกาล
      เมื่อชนะกบฎ  พระเจ้าริชาร์ดก็นั่งบนบัลลังก์ไปได้อีกเฮือกใหญ่ๆ  จนกระทั่งดาบเล่มสำคัญพุ่งเข้ามาทะลุทะลวงบัลลังก์อีกครั้ง
     ก่อนหน้าจะถึงบทบาทของเจ้าของดาบเล่มนั้น    ขอย้อนกลับไปถึงบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งในราชสำนัก    เธอผู้นั้นคือพระราชินีม่ายของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4    หรืออีกนัยหนึ่งพี่สะใภ้ของพระเจ้าริชาร์ด  แม่ของเจ้าชายน้อยนั่นเอง
     เราคงจำได้ว่าพระราชินีเอลิซาเบธ วู้ดวิลล์สมรสกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดด้วยความไม่สมศักดิ์ศรีกันมาแต่แรก  เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ในความต่ำต้อยด้อยตระกูลมาตลอด     พระเจ้าริชาร์ดกำจัดหลานชายเล็กๆสองคนออกไปให้พ้นเส้นทางด้วยการบีบบังคับให้มีการประกาศว่าการสมรสของพี่ชายกับพี่สะใภ้เป็นโมฆะ  ลูกชายจึงไม่มีสิทธิ์สืบราชบัลลังก์     แต่ถึงกระนั้นริชาร์ดก็รู้ดีว่าประชาชนทั้งประเทศจะเห็นด้วยก็หาไม่     กบฎที่เพิ่งปราบเสร็จไปหยกๆ ส่วนหนึ่งก็รวบรวมกำลังกันมาได้จากราษฎรที่ยังจงรักภักดีต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด   ดังนั้น ริชาร์ดก็วางแผนขั้นต่อไป ด้วยการบีบบังคับพี่สะใภ้ให้จำยอม  เป็นลูกไก่ในกำมือแล้วแต่น้องสามีจะว่ายังไง   ก็ต้องว่ากันยังงั้น
    เรื่องเอออวยว่ายังไงยังงั้น ก็คือริชาร์ดจะได้ลูกไก่อีกตัวจากพระนางเอลิซาเบธมาไว้ในกำมือ       นั่นก็คือเจ้าหญิงพระธิดาองค์ใหญ่ชื่อเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค   พี่สาวของเจ้าชายน้อยสององค์นั่นเอง
    ริชาร์ดวางแผนว่าจะเสกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค เพราะพระราชินีแอนน์ พระมเหสีของพระองค์ สุขภาพไม่ดีเลย ป้อแป้ทำท่าจะไปไม่รอด   โดยไม่ได้คำนึงสักนิดเดียวว่านั่นน่ะหลานสาวแท้ๆของเขานะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 19:09
เจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 09 ก.ย. 16, 19:15
ขอแสดงตัวว่ายังนั่งฟังเลคเชอร์อย่างตั้งใจอย่างยิ่งนะคะ

สงครามครั้งนี้ซับซ้อนจริงๆ  ถ้าไม่ตั้งใจเรียนคงเข้ารกเข้าพงสอบตกแน่นอน

แต่มีใครรู้สึกอย่างดิฉันไหมคะว่าเรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกห่อเหี่ยวอยู่ลึกๆ  เหมือนทุกคนพยายามทำอะไรได้ทั้งสิ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์และอำนาจวาสนา


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 19:24
     ค่ะ  ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องยากจะมีผู้ผิดผู้ถูก  มีก็แต่ผู้แพ้ผู้ชนะ
     นานๆเราจะเจอคนที่พูดได้เต็มปากว่าบริสุทธิ์ น่าเห็นใจ  น่าเข้าข้าง   เช่นเจ้าชายน้อยสององค์นั่นไงคะ      อังกฤษก็เลยจำพระนามได้ยาวนาน เอามาทำละคร ทำหนัง ทำนิยาย ทำหุ่นขี้ผึ้ง ฯลฯ สารพัด  เพราะมันโดนใจจริงๆ 
     นอกนั้นแล้วบุคคลสำคัญเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่สีเทาๆทั้งนั้น  เทาอ่อนเทาแก่ ว่ากันอีกเรื่อง
 
     พยายามเล่าให้อ่านเข้าใจง่ายที่สุดค่ะ     ถ้าเล่าแบบเลกเชอร์ประวัติศาสตร์ ก็คงง่วงหลับกันไปทั้งชั้น   นี่ขนาดพยายามแล้ว ยังเหลือคุณ tita คนเดียวชูมือขึ้นมา
     นอกนั้นเงียบกริบ

     จวนจะจบคลาสนี้แล้วนะยูว์!


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 10 ก.ย. 16, 04:26
อ้าว! จะจบแล้วหรือคะท่านอาจารย์ Mollyกำลังอ่านเพลินๆ กับสำนวนของท่านอาจารย์เทาชมพู ก็มาสะเทือนใจกับชะตากรรมของสองเจ้าชายน้อย แล้วก็มาปะติดปะต่อกับเรื่องพระเจ้าริชาร์ดที่สามที่อ่านมาก่อนหน้านี้ เมื่อวันก่อนอ่านแล้วก็สงสัยในใจว่าถ้าได้ไปอ่านประวัติศาสตร์ของอังกฤษจะสนุกเหมือนอ่านจากเรือนไทยหรือเปล่าเน้อ วันนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่าไม่ได้ เพราะท่านอาจารย์รวบรวมมาเล่าอย่างดี ไม่มีเบื่อเลยค่ะ ภาพยุทธภูมิการรบก็ช่วยให้เข้าใจยิ่งขึ้น ขอบพระคุณอาจารย์ท่านอื่นๆ ที่เข้ามาเพิ่มเติมเรื่องราวด้วยค่ะ ไม่ได้ออกเสียงแต่ติดตามตลอดนะคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 16, 17:16
ขอบคุณค่ะ
ยกขนมกับน้ำชามาเสิฟแบบอังกฤษนะคะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 16, 17:38
    เรื่องนี้ถ้าเป็นละครทีวี  คนดูคงนั่งรอกันแทบหลับ   กว่าพระเอกจะโผล่มาตอนจบ
    พระนางเอลิซาเบธเป็นผู้หญิงที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ    ก็คงใช้ประสบการณ์สร้างสมความเชี่ยวชาญทางการเมืองติดตัวเอาไว้ไม่น้อย   พระนางได้ผูกมิตรกับสตรีบรรดาศักดิ์คนหนึ่งชื่อว่าเลดี้มาร์กาเร็ต โบเฟิร์ด   ที่เป็นมิตรกันไม่ใช่ว่ารักชอบอัธยาศัยกันเป็นพิเศษ  แต่เป็นเพราะเลดี้คนนี้มีบุตรชายคนหนึ่งชื่อเฮนรี่ ทูเดอร์ ( Henry Tudor) หนุ่มคนนี้สืบสายเลือดมาจากราชสกุลแลงคาสเตอร์  แม้ว่าเป็นสายเลือดห่างๆแต่ก็พอจะอนุโลมได้ว่าใกล้ชิดที่สุดเท่าที่จะหาได้ในอังกฤษ    เนื่องจากสายเลือดแลงคาสเตอร์ที่ใกล้ชิดราชบัลลังก์มากกว่านี้ล้มหายตายจากกันไปหมดสิ้นแล้ว ในสงครามดอกกุหลาบที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ
   สตรีทั้งสองได้ตกลงผูกข้อมือ(ตามสำนวนไทย)เอาไว้ ระหว่างเฮนรี่กับเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค  ทั้งนี้เพื่อจะหากำลังสนับสนุนทั้งทางฝ่ายยอร์คและฝ่ายแลงคาสเตอร์ที่เหลืออยู่ในราชอาณาจักร    แต่ฝ่ายชายเองก็หาได้อยู่สบายๆในอังกฤษไม่  เขาต้องลี้ภัยไปอยู่ที่บริตตานี่ แต่ก็อาศัยทุนให้ยืมจากพระเจ้าแผ่นดินบริตตานี ยกทัพมาอังกฤษ โดยสมคบกับดยุคแห่งบัคกิ้งแฮมก่อกบฎต่อพระเจ้าริชาร์ด อย่างที่เล่ามาแล้วในค.ห.ก่อน
   แผนกบฏล้มเหลว   บัคกิ้งแฮมพ่ายแพ้ถูกประหารไปก่อน    เฮนรี่ต้องหนีเอาตัวรอดไปฝรั่งเศส


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 10:00
  อย่างไรก็ตาม เฮนรี่ไม่ยอมแพ้   เมื่อหนีไปอยู่ฝรั่งเศสเขาก็เกลี้ยกล่อมพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสให้สนับสนุนเงินทองและกองทัพ  ยกมาชิงบัลลังก์อังกฤษจนได้ อีกครั้งหนึ่ง
   เฮนรี่เป็นคนฉลาดในการใช้สิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์    ในยุคกลาง เชื้อสายชาติกำเนิดสำคัญที่สุดในการเรียกความศรัทธานับถือจากชาวบ้านราษฎรทั้งหลาย      เมื่อต้องการกำลังพลจากที่ไหน เขาก็อ้างเชื้อสายตัวเองว่าสืบมาจากผู้นำหรือวีรบุรุษของถิ่นนั้น เช่นไปที่เวลส์ก็บอกว่าตัวเองสืบเชื้อสายมาจากอดีตพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ของเวลส์       ก็ได้ผลดี คือชาวบ้านไม่คิดจะต่อต้าน  กองทัพของเฮนรี่ก็ผ่านได้ลอยลำ เผลอๆจะได้ชาวบ้านมาสมทบด้วยเสียอีก
   เฮนรี่ฉลาดพอจะอ้างตัวเองเป็นเชื้อสายแลงคาสเตอร์ที่เหลืออยู่คนเดียวในอังกฤษ  เพื่อเรียกความจงรักภักดีจากขุนนางฝ่ายกุหลาบแดงทั้งหลายที่ยังเหลืออยู่พอสมควร  เพียงแต่ขาดผู้นำ     ทั้งๆที่การอ้างของเขา   ดูจากสมัยนี้มันก็ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่  คืออ้างจากทางแม่  ไม่ใช่ทางพ่อ      เขาอ้างว่าแม่ของเขาเป็นเหลนของเสด็จทวดจอห์นแห่งก๊อนท์ ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์   ชื่อนี้ถ้าใครจำไม่ได้โปรดย้อนกลับไปอ่านกระทู้ต้นๆนะคะ
   ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์ผู้เป็นต้นตระกูลกุหลาบแดงผู้นี้ สมรส 3 หน   ทั้งๆมีเมียอยู่แล้วก็ไปได้เมียลับๆชื่อแคทเธอรีน (ซึ่งเป็นนิยายนางเอกเรื่อง"แคทเธอรีน" ที่ "สุคนธรส" แปลเป็นไทยแล้ว)  มีลูกออกมาหลายคน    แน่นอนว่าลูกเหล่านี้เป็นลูกนอกสมรส   แต่ว่าในบั้นปลายท่านดยุคสมรสกับแคทเธอรีนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ยังผลให้เธอกลายเป็นภรรยาตามกฎหมาย ไม่ใช่เมียเก็บอย่างเมื่อก่อน   และลูกที่มีกันก่อนหน้านี้ รัฐสภาก็ออกกฎหมายย้อนหลังให้มีผลเป็นลูกตามกฎหมายกันหมด     หนึ่งในจำนวนนี้ละค่ะเป็นบรรพบุรุษของแม่ของเฮนรี่  


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 10:32
    เวลานั้นพระเจ้าริชาร์ดครองราชย์ได้ 2 ปี   เป็น 2 ปีที่พระองค์กำจัดถากถางเสี้ยนหนามไปได้หมด   รวมทั้งหอกข้างแคร่ล่าสุดคือบัคกิ้งแฮม     ราษฎรไม่ชอบพระราชาองค์นี้เลย แต่ยังสงบอยู่เพราะหาใครมาต่อต้านไม่ได้    เฮนรี่จึงมองออกว่า ถ้าจะชิงบัลลังก์ให้ได้ก็ต้องจบชีวิตพระเจ้าริชาร์ดให้ได้โดยเร็วที่สุด    จะเป็นอันหมดปัญหา ไม่ต้องกลัวเสี้ยนหนามอื่น  นอกจากนี้  พระเจ้าริชาร์ดยังกุมอำนาจไว้ได้เบ็ดเสร็จ  พระองค์ไม่ต้องทำอะไร แค่รักษาชีวิตไว้ให้รอดอยู่บนบัลลังก์ก็ชนะแล้ว
    เขาก็เลยตัดสินใจทำศึกแบบแตกหัก เรียกว่าใครดีใครอยู่  ศึกครั้งนี้มีชื่อว่า the   Battle of Bosworth Field  รบกันที่ทุ่งบอสเวิร์ธในมณฑลเลสเตอร์เชอร์   ศึกครั้งนี้เป็นศึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของอังกฤษ เพราะเป็นศึกที่จบสงครามดอกกุหลาบลงโดยสิ้นเชิง
    พูดไปๆ  เรื่องนี้ก็เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตนะคะ    กองกำลังทางฝ่ายเฮนรี่มีน้อยกว่าทัพหลวง  มีคนประมาณ 5000 คน  น่าจะเสียเปรียบตั้งแต่ต้นมือแล้ว   แต่ของพรรค์นี้มันบ่แน่ดอกนาย   ทัพหลวงที่ยกมาเกิดแปรพักตร์    ขุนนางบางส่วนยกไพร่พลมาแล้ว เกิดลังเลว่าเราจะสู้เพื่อพระราชาต่อไปหาอะไร  เราก็ไม่ได้ชอบพระองค์เลยสักนิด พระองค์เองจะปูนบำเหน็จคุ้มไหมก็ไม่รู้    สู้เอากำลังไปช่วยฝ่ายโน้น หรือเฉยๆซะก่อน ดูว่าฝ่ายไหนเพลี่ยงพล้ำค่อยร่วมกับฝ่ายชนะ เอาชิ้นปลามันมากินมิดีกว่าหรือ  
    พอคิดอย่างนี้   ขุนนางพวกนี้ก็เลยถอยทัพกลับ ไม่ร่วมรบด้วยซะดื้อๆ   เหลือแต่ทัพขุนนางมือซ้ายมือขวาของพระเจ้าริชาร์ดเข้ารบกับฝ่ายเฮนรี่   พวกนี้ใจฝ่อที่พรรคพวกแตกแยกออกไปอยู่แล้ว    ก็เริ่มระส่ำระสายเมื่อเจอแม่ทัพฝ่ายเฮนรี่ที่มือเหนือกว่า   ทหารบางส่วนแตกระจัดกระจายหนีเอาตัวรอดไปดื้อๆ    ส่วนขุนนางฝ่ายแปรพักตร์เห็นท่าว่าฝ่ายพระราชาเห็นทีจะไม่ไหว   ก็ระดมพลฝ่ายตัวเองพุ่งเข้าสนามรบเข้าช่วยฝ่ายเฮนรี่    อัศวินทั้งหลายช่วยกันล้อมกรอบพระเจ้าริชาร์ด  กลุ้มรุมสังหารพระองค์ดับสนิทอยู่ในสนามรบนั่นเอง
    สงครามดอกกุหลาบก็จบลงเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนับแต่ครั้งนั้น


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 10:34
อีกรูปหนึ่งค่ะ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 10:38
วาระสุดท้ายของพระเจ้าริชาร์ด  วาดโดยจิตรกรยุคปัจจุบัน


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 16:23
       ว่ากันว่า คำพูดสุดท้ายของพระเจ้าริชาร์ดก่อนพบจุดจบด้วยน้ำมือข้าศึก คือทรงตะโกนว่า "ทรยศ"    คำนี้น่าจะหมายถึงขุนนางฝ่ายแปรพักตร์  หนึ่งในจำนวนนั้นคือเซอร์วิลเลียม สแตนลีย์ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น เป็นสามีของมาร์กาเร็ต โบเฟิร์ด แม่ของเฮนรี่ หรืออีกนัยหนึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเฮนรี่  ทูเดอร์นั่นเอง
       สแตนลีย์แสดงตัวเป็นฝ่ายยอร์คมาตลอด  เป็นหนึ่งในข้าราชบริพารที่พระเจ้าริชาร์ดไว้ใจให้เป็นหนึ่งในขุนพลฝ่ายพระองค์ ยกทัพออกไปปราบกบฎในครั้งนี้   ในเมื่อสแตนลีย์เป็นเพียงพ่อเลี้ยง ไม่ใช่พ่อแท้   ก็เป็นไปได้ว่าเขาจะจงรักภักดีต่อเจ้านายมากกว่าลูกเลี้ยง   แต่พอถึงสนามรบเข้าจริง สแตนลีย์ดันรวนเร ถอยพลของตัวเองออกไปไม่เข้ารบเสียเฉยๆ   พระเจ้าริชาร์ดก็ไม่มีทางอื่นนอกจากตะลุยเข้าไปกลางสมรภูมิ เพื่อจะเด็ดชีพเฮนรี่เสียให้เร็วที่สุด   จบศึกคราวนี้ลงได้เสียที
       รูปการณ์กลายเป็นว่า   พระเจ้าริชาร์ดเลยถลำเข้าไปท่ามกลางวงล้อมของศัตรู    เป็นเสือในฝูงสิงห์ที่โจนเข้ามาทุกทิศทุกทาง   แต่ประวัติศาสตร์ก็ยอมรับว่าพระองค์สู้อย่างนักรบผู้กล้า  เด็ดชีพขุนศึกฝ่ายเฮนรี่ไปได้สองหรือสามคนด้วยมือพระองค์เอง ก่อนม้าจะถลำลงไปในหล่ม  ไปไหนไม่ได้ พระองค์ก็เลยถูกจ้วงฟันด้วยฝีมือข้าศึก บาดแผลผ่าลึกเข้าไปถึงกระโหลก จากนั้นก็ถูกกลุ้มรุมฟันอย่างไม่นับ  บาดแผลที่ค้นพบจากโครงกระดูกในระยะหลังมีถึง 11 แผล   เฉพาะกระโหลกศีรษะมีถึง 8    ก็คงจะสิ้นพระชนม์ลงไปทันที  ไม่ทันเจ็บปวดทรมานยาวนาน
      พระศพของริชาร์ดถูกถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่ร่างเปล่าๆ   ผูกติดหลังม้าแห่ไปให้ฝายชนะดู  เป็นการประจาน   แต่ก็ยังดี พระเจ้าเฮนรี่ก็ฝังพระศพให้เรียบร้อยในโบสถ์ของมณฑลนั้นเอง


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 18:24
      เมื่อแม่ทัพใหญ่สิ้นชีวิตในการรบ   ก็ถือว่าทัพฝ่ายนั้นพ่ายแพ้ไปอย่างเด็ดขาด    เฮนรี่ผู้ชนะก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอังกฤษ   ทรงยุติสงครามดอกกุหลาบที่ยืดเยื้อมาหลายสิบปีด้วยการเสกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค   พระธิดาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4   เพื่อรวมแลงคาสเตอร์ทางฝ่ายเจ้าบ่าวและยอร์คทางฝ่ายเจ้าสาวเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน     
      ตราของราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์ทูเดอร์   จึงมีรูปกุหลาบขาวซ้อนอยู่บนกุหลาบแดง    หมายถึงการรวมกันระหว่างสองราชสกุล ไม่แตกแยกกันอีกต่อไป  มีเฮนรี่ ทูเดอร์ขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7  ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ทูเดอร์

      หมายเหตุ คำว่า Tudor นี้   นักแปลออกเสียงว่า ทิวดอร์ บ้าง ทิวเดอร์บ้าง ทูดอร์บ้าง ทูเดอร์บ้าง     เจ้าของกระทู้นี้ไปถามเว็บออกเสียง ก็ออกเสียงกันไปคนละแบบ  อังกฤษอย่าง อเมริกันอย่าง   แม้แต่อังกฤษด้วยกันก็ออกเสียงไม่เหมือนกัน
      แต่เสียงส่วนใหญ่ออกเสียงว่า ทูเดอร์   ก็เลยขอทูเดอร์ตามนั้นค่ะ

       ขอจบกระทู้แต่เพียงนี้

     
 


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 12 ก.ย. 16, 11:21
นั่งฟังเลคเชอร์อย่างเพลิดเพลิน  จนจบคลาสอย่างไม่รู้ตัว

ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะที่กรุณาสละเวลาเรียบเรียงข้อมูล  บรรยายทั้งครอบคลุมข้อมูลสำคัญ  และสนุกสนานชวนติดตาม

ถ้าอ่านเองคงเข้ารกเข้าพงสับสนชีวิตไปแล้ว  เพราะไม่รู้เลยว่าในสงครามครั้งนี้ยังมีศึกสำคัญซ้อนอยู่มากมาย  ผลัดกันแพ้ชนะหลายชั่วคน

ส่วนใหญ่แล้วประวัติศาสตร์อังกฤษเราจะคุ้นเคยตั้งแต่ช่วงราชวงศ์ทูเดอร์ลงมา  อาจเป็นเพราะมีเรื่องราวดราม่ามากมายในสมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 พระนางแมรี่ ที่ 1 พระนางอลิซาเบธที่ 1 ลงมาจนราชวงศ์ต่อๆ มา  ในขณะที่ข้อมูลเรื่องราวของราชวงศ์ในยุคกลางอย่าง plantagenet ค่อนข้างกระจัดกระจายปะติดปะต่อข้อมูลลำบาก   ได้กรอบใหญ่จากกระทู้นี้ช่วยทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ช่วงนี้มากขึ้น  การค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมก็จะสะดวกและเข้าใจง่ายขึ้น

ขอบพระคุณมากนะคะ



กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 12 ก.ย. 16, 11:35
ผมก็ยังอยู่นะครับ


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 12 ก.ย. 16, 12:35
ผมก็ยังอยู่ครับ
มึนๆกับ เอ็ดเวิร์ด  ริชาร์ด  เฮนรี่  จนหลุดออกจากเรือนไม่รู้ตัว


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: ศุศศิ ที่ 12 ก.ย. 16, 14:42
มารายงานตัวครับ สงครามกุหลาบผมได้ยินครั้งแรกไม่ได้มาจากประวัติการสู้รบตามกระทู้นี้
แต่ได้ยินจากการแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ของอังกฤษ แน่นอนคู่รักคู่แค้นคือ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ทีมลิเวอร์พูล
ที่คนไทยรู้จักในนาม ศึกแดงเดือด 
  แต่ยังมีอีกคู่เรียกว่าสงครามดอกกุหลาบ คือทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(แคว้นเชสเชียร์ โลโก้เก่าจะมีกุหลาบแดงอยู่ด้วย) กับ ทีมลีดส์ ยูไนเต็ด
แคว้นยอร์คเชียร์ โลโก้จะมีกุหลาบขาว) สองทีมนี้เป็นทีมคู่รักคู่แค้นกันมาเหมือนกัน  แต่ปัจจุบัน ลีดส์ตกไปอยู่ในลีกรองแล้ว เลยไม่ค่อยเจอกันอีก


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 13 ก.ย. 16, 09:50
มาตามอ่านจนจบค่ะ  ;D ;D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 25 เม.ย. 21, 03:26
มาตามเรียนหลังจากคลาสเลิกไปแล้ว 5-6 ปี ยังได้ความรู้เต็มที่อยู่ครับ

ขอบคุณครับคุณครู


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 เม.ย. 21, 16:43
 :D


กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 25 เม.ย. 21, 22:08
บังเอิญจริงที่คืนนี้มีสงครามดอกกุหลาบในยุคใหม่  ลีดส์ยูไนเต็ด รับการมาเยือนของ แมนเชสเจอร์ยูไนเต็ด
ผลสดๆร้อนๆคือเสมอกันไป 0-0 พึ่งจะสังเกตว่าตราสัญลักษณ์ของสโมสร มีดอกกุหลาบขวาของยอร์กอยู่ด้วย