นำเสนอเพลงโปรดของภรรยาคุณเอื้อ คุณเอื้อแต่งให้ อีกไม่นานก็แต่งงานกัน
ชีวิตของครูเอื้อไม่ได้เต็มไปด้วยสีสันท่วงทำนองเฉพาะบทเพลงที่ท่านแต่งเท่านั้น ชีวิตรักกับคุณอาภรณ์ กรรณสูต ก็เต็มไปด้วยท่วงทำนองรักโศก เหมือนนิยายรักแบบที่ "ยาขอบ" หรือ "อิงอร" นำมาเขียนให้คนอา่นยุคเกือบร้อยปีก่อนได้ร้องไห้ในตอนแรกแล้วหัวเราะทั้งน้ำตาในตอนหลัง
เมื่อครูเอื้อเป็นหนุ่ม มาเช่าบ้านอยู่ในกรุงเทพ กับเพื่อนนักดนตรีด้วยกัน เผอิญบ้านติดกันเป็นคฤหาสน์ของขุนนางใหญ่ชื่อพระยาสุนทรบุรี (อี้ กรรณสูต) ท่านผู้นี้ไม่ใช่คนเล็กน้อย เป็นถึงอดีตองคมนตรีในรัชกาลที่ 6 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี อดีตนายอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อดีตสมุหเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลนครชัยศรี และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย
ส่วนครูเอื้อเป็นเหนุ่มชาวบ้านจากตำบลอัมพวา ที่ร้ายกว่านี้คือมีสถานะเป็นพวก “เต้นกิน รำกิน” ซึ่งเป็นคำเรียกเชิงเหยียดหยามของผู้อยู่ในวงการบันเทิงสมัยโน้น นักแสดง นักร้อง นักดนตรี ถูกมองว่าต่ำต้อย เพราะมีรายได้น้อย และไม่มั่นคง ตกงานเมื่อใดก็อดตาย ตรงกันข้ามกับสมัยนี้ที่ใครๆก็อยากอยู่ในวงการบันเทิง เพราะมันหมายถึงเม็ดเงินมหาศาล
ลูกสาวของพระยาสุนทรบุรีเป็นเด็กสาวชื่ออาภรณ์ กรรณสูต เป็นนักเรียนโรงเรียน ขัตติยานีผดุง และต่อมาเข้าเป็นนักศึกษาเตรียมธรรมศาสตร์ เธอเป็นที่ต้องตาของนักดนตรีหนุ่ม จนเป็นที่มาของเพลง "บ้านเรือนเคียงกัน"