NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 240 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 17:29
|
|
เอาเรื่องนี้ดีกว่า จารย์ดมศรีของผมเขียนเกี่ยวกับสิ่งลึกลับไว้ด้วย จะลงในกระทู้โน้นของคุณประกอบก็คงพอได้ แต่กั๊กไว้ลงที่นี่ดีกว่า เพราะเกี่ยวกับถนนสุขุมวิทด้วย คุณทวดเขียนเองไว้ดังนี้ครับ
เรื่องจริง “เรื่องผีผี”
เมื่อ 2-3 วันมานี้ผมได้ดูโทรทัศน์ช่อง 9 เวลาประมาณ 23.00 น. ได้ฟังเรื่อง“ทรงเจ้าเข้าผี” ซึ่ง“ร่างทรง”หลายคนตอบคำถามอย่างไรผมไม่ขอกล่าว แต่นึกถึงเรื่อง“ผีเข้า”ที่ผมประสบมาด้วยตัวเองสัก 2 เรื่อง
ผมเวลานี้อายุ 82 ปีแล้ว ขอเล่าเรื่องที่ผมพบมาจริงๆ ให้คุณฟังว่ามันเป็นอะไร? เมื่อ พ.ศ. 2495 ผมอยู่กับคุณแม่ อยู่บ้านคนละหลังในบริเวณเดียวกัน (บ้านเลขที่ 16 ถนนสุขุมวิท ซอย 12) บ้านคุณแม่ปลูกในสระบัวทั้งหลัง หน้าบ้านมีร้านไม้เลื้อยร่มเย็นดี รอบๆ สระบัวและรอบๆ บ้านปลูกต้นไม้ใบสีต่างๆ กัน แต่จัดให้น่าเอ็นดู คนในบ้านทั้งสองหลังจึงชอบมานั่งเล่นที่เรือนต้นไม้นี้เสมอ แต่บ้านผมไม่ได้ตั้งศาลพระภูมิ
อยู่มาวันหนี่งราวๆบ่ายโมง คนที่เสร็จจากอาหารกลางวันก็มานั่งคุยกันที่นี่ ผมก็ยืนคุยอยู่ด้วย อยู่ๆก็มีเด็กผู้หญิงแถวบ้านอายุราวๆ 12-13 ปี ที่นั่งฟังผู้ใหญ่คุยกัน ก็กระโจนลงในสระบัว ลักษณะนอนหงายมือกางเท้ากางลอยอยู่ในสระ แต่ไม่ลอยอย่างคนธรรมดาลอย เช่น “แม่ชีลอยน้ำ”(ลอยปริ่มๆ ตัว) แต่เด็กคนนี้ลอยอย่างตุ๊กตาที่เด็กเล่นตกน้ำ คือลอยบนน้ำ คนสวนรีบเอาไม้ที่ใช้ช้อนใบไม้เขี่ยเข้ามา ก็ลอยมาเบาๆ เหมือนเขี่ยตุ๊กตา เมื่อเอาขึ้นมาจากน้ำ เด็กคนนั้นก็มองดูพวกเราทุกคนไม่พูดอะไร เมื่อเขามองตัวเองก็พูดขึ้นว่า “ใครเอาผ้าถุงมาให้กูนุ่ง” แต่เสียงนั้นเป็นเสียงผู้ชาย(เพราะเด็กผู้หญิงคนนั้นนุ่งผ้าซิ่น) ก็ไม่มีใครตอบ แต่มีคนหนึ่งถามขึ้นว่า “คุณเป็นใคร มาทำไม” “กูผ่านมาก็แวะเข้ามาเที่ยว” ต่อมาสักครู่หนึ่งก็มีคนพูดขึ้นมาว่า “มาเที่ยวแล้วก็กลับไปซิ” เด็กคนนั้นก็ตอบทันทีว่า “กูยังไม่กลับ” ต่อมาก็ไม่มีใครพูดด้วยอีกเลย สักครู่หนึ่งเขาก็พูดขึ้นว่า “กลับก็กลับวะ” แล้วเด็กคนนั้นก็ล้มหงายลงไป พอเด็กลุกขึ้นมาก็ถามขึ้นว่า “ทำไมตัวหนูเปียก” “ก็แกโดน้ำลงไปนี่” “หนูไม่ได้โดด หนูว่ายน้ำไม่เป็น” พวกเราซักอย่างไรๆ เด็กก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เป็นอะไรกันแน่ครับ เรื่องจริงเรื่องนี้ เวลานี้บ้านหลังนี้และสระบัวก็ยังอยู่ที่เดิมครับ ใครอยากมาดูก็เชิญเลยครับ แต่จะมีคนโดดน้ำให้ดูหรือเปล่า ผมตอบไม่ได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 241 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 17:34
|
|
เรื่องจริงเรื่องที่ 2 (เรื่องผีผี) เรื่องจริงเรื่องที่ 2 นี้เกิดขึ้นในบริเวณบ้านหลังนั้น 16 สุขุมวิท ซอย 12) เวลาผ่านมาจากเรื่องแรกประมาณ10 ปี(ราว พ.ศ. 2505) ผมเลี้ยงน้ำชาให้มิสเตอร์จิมมี่ โกว์ และภรรยา ที่มาจากปีนังที่ลานใต้ต้นประดู่ ริมสระว่ายน้ำของลูกๆ 5 คนของผม ผู้ที่มาวันนั้นมี 4 คน คือ มิสเตอร์ จิมมี่ โกว์ ภรรยา เพื่อนของจิมมี่ที่เป็นหมอ และ พล.ร.ต. แชน ปัจจุสานนท์ ซึ่งสนิทกับผมและจิมมี่ด้วย
ราวๆ 6 โมงเย็นแขกก็กลับ เดินมาขึ้นรถ ภรรยาของจิมมี่ก็ล้มลงที่ถนนคอนกรีตในบ้าน พวกเราก็รีบอุ้มขึ้นมา คุณจิมมี่ก็บอกทันที่ว่า “ผีเข้าแล้ว” เราก็พาเธอไปนั่งเก้าอี้ยาวที่ห้องอาหาร คุณจิมมี่ก็โทรศัพท์ถึงพระที่วัดมหาธาตุให้เอาหวายมาด้วย (แสดงว่าผีเข้าเธอที่กรุงเทพฯ หลายครั้งแล้ว) คุณจิตต์ภรรยาของผมก็ไปเอาน้ำมนต์มาให้เธอดื่ม เมื่อดื่มเข้าไปเล็กน้อยก็ร้องไห้และปัดขวดน้ำมนต์ คุณพิจิตต์เลยเอาน้ำมนต์ราดศรีษะเธอและถามว่า เธอเป็นใคร มาทำไม? เธอก็ตอบว่าเป็นทวดของผู้หญิงคนนี้ เวลานี้ลำบากมาก ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่กิน มาบอกลูกหลานทีไร ก็ถูกไล่ ถูกทุบตีทุกครั้ง คุณพิจิตต์ก็ตอบว่าจะส่งส่วนบุญไปให้ตามที่เธอต้องการ ตกลงไหม? เท่านั้นเองเธอก็ลืมตาเป็นปกติทันที ทุกๆคนดีใจแต่คุณจิมมี่แปลกใจมากที่ “ผีออก” เร็วเช่นนี้ ส่วนภรรยาคุณจิมมี่เมื่อได้สติแล้วเธอไม่รู้อะไรเลยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็เอาข้าวเหลืองถาดหนึ่ง ผ้าขาวพับหนึ่ง พระพุทธรูปองค์หนึ่ง และศาลพระภูมิไม้ไปถวายท่านเจ้าคุณวัดธาตุทอง และเล่าให้ท่านทราบ ท่านก็บอกให้จิมมี่เอาพระไปไว้ที่บ้านปีนัง และเอาศาลพระภูมิไปไว้ที่บ้านหรือวัดก็ได้ คุณจิมมี่รีบบอกทันทีว่าเอาศาลพระภูมิไว้ที่วัดดีกว่า (คงจะกลัวมาก)
เมื่อเราเดินออกจากวัด เราก็คุยกันว่าเรื่องคงเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจิมมี่บอกว่า ไม่อยากเชื่อเพราะเรื่องก็เกิดขึ้นอย่างนี้ทุกที คุณจิมมี่ไปปีนังก็เอาพระพุทธรูปไปไว้ที่บ้าน แต่เอาศาลพระภูมิไปไว้ที่วัด
จนบัดนี้ก็ไม่มีข่าวว่า“ผีเข้า”ภรรยาคุณจิมมี่อีก เรื่องนี้ทำให้ผมคิดว่า ผีมีจริง แต่ไม่น่ากลัวอะไรเลย พูดกันเข้าใจได้ การทำบุญ ผีก็รับได้จริง ผีก็มีสัจจะเหมือนกัน ได้รับบุญได้ที่อยู่ที่กินและได้บารมีของพระพุทธรูปแล้วก็ไม่มาขออะไรอีก เรื่องจริงเรื่องนี้ท่านเห็นอย่างไรครับ?
ผมขออุทิศส่วนกุศลให้ “ท่านที่อยู่ที่ใดก็ตาม” จงได้รับส่วนกุศลที่ท่านต้องการทุก ๆ อย่าง สมความปรารถนาตลอดไปเถิด
อุดมศรี บุรณศิริ พฤษภาคม 2547
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 242 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 17:36
|
|
แหม กระทู้นี้มีทุกเรื่องทุกรสจริงๆ แต่คุณเพ็ญไปไหน ทำไมยังไม่เข้ามา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 243 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 17:39
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลุงไก่
|
ความคิดเห็นที่ 244 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 17:51
|
|
ตามไม่ทันแล้ว มาติดน้ำท่วมถนนอยู่หน้าโรงพักพระโขนงนี้เอง
(เหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ พ.ศ. ๒๕๑๔)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลุงไก่
|
ความคิดเห็นที่ 245 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 17:56
|
|
เรียนถามคุณณล - ถนนบางนาตราดในภาพอยู่ในช่วง กม ที่เท่าไหร่ พอจะพิกัดให้แคบลงได้ไหม
ผมผ่านถนนบางนาตราดตั้งแต่กำลังก่อสร้าง จนก่อสร้างเสร็จเป็นถนน ๔ เลน แล้วขยายเป็น ๘ เลน จนกระทั่งมีทางยกระดับลอยฟ้าบูรพาวิถีที่ยาวที่สุดในประเทศ แต่ผมมั่นใจว่าผมไม่เคยเห็นถนนบางนาตราดช่วงหักโค้งขึ้นสะพานดังในภาพเลย และถนนบางนาตราดที่ก่อสร้างในช่วงแรกเป็นถนนลาดยางแอสฟัลท์ มีร่องน้ำอยู่ช่วงกลางถนนแยกผิวทางจราจรขาเข้าและขาออกจากกัน ไม่ใช่ผิวถนนคอนกรีตที่มีเกาะกลางถนนอย่างในภาพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 246 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 20:12
|
|
ระหว่างรอคุณหนุ่มสยามมาตอบคุณลุงไก่ ก็ขอชวนท่านอื่นๆที่หายขวัญหนีดีฝ่อเรียบร้อยแล้ว เดินกลับไปในอดีตเมื่อครั้งสุขุมวิทยังเป็นถนนกว้าง มีรถวิ่งฉิวผ่านไปมา ทางเท้าริมถนนสะอาดเรียบ สองข้างถนนมีตึกที่อยู่อาศัยหลังงามๆ อย่างในภาพนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
samun007
|
ความคิดเห็นที่ 247 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 20:39
|
|
รบกวนสอบถามครับ ไม่ทราบว่าท่านใดพอจะทราบตำแหน่งของสนามมวยของราชกรีฑาสโมสรบ้างไหมครับ ตอนเป็นนิสิตจุฬาตั้งแต่ปี๒๕๐๙ ผมก็เข้าไปที่นั่นบ่อยอยู่ จบแล้วเข้าเป็นสมาชิก จนถึงบัดนี้ ไม่เคยทราบ หรือได้ยินใครพูดถึงสนามมวยของราชกรีฑาสโมสรเลยครับ ขอบพระคุณครับ พอดี ผมอ่านจากหนังสือปริทัศน์มวยไทย ที่ครูเขตร์ ศรียาภัย ท่านแต่งไว้ครับ ท่านเล่าไว้ว่า ตอนสมัยครูสุนทร (กิมเส็ง) ทวีสิทธิ์ เริ่มชกมวยใหม่ ๆ ได้มาเปรียบมวยที่สนามมวยที่ปัจจุบันมีพื้นที่อยู่ในราชกรีฑาสโมสรครับ ถ้าเป็นอย่างที่คุณ NAVARAT บอกมา สงสัยถ้ามีสนามมวยนี้จริง คงจะยกเลิกไปนานแล้วก็เป็นได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 248 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 22:14
|
|
แหม กระทู้นี้มีทุกเรื่องทุกรสจริงๆ แต่คุณเพ็ญไปไหน ทำไมยังไม่เข้ามา
ติดตามอยู่เสมอ ยังไม่เจอที่คุ้นเคย หากทราบไม่ทำเฉย มาตอบแน่แม้ไม่เชิญ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 249 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 22:21
|
|
สุขุมวิทเป็นถนนสายแรกที่มี KFC ขาย ตั้งแต่สมัยใช้ชื่อว่า Kentucky Fried Chicken มีป้ายเล็กๆรูปถังไก่ทอดสีแดงสลับขาวและหน้าของผู้พันแซนเดอส์ประทับอยู่ ในร้านแถวๆซอยวัฒนา ประมาณพ.ศ. 2510 ปลายๆ ใครจำได้บ้างคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 250 เมื่อ 10 ก.ย. 13, 23:09
|
|
จำได้ครับอาจารย์ ตอนที่ใช้ชื่อเต็มยศจำได้แม่นขึ้นใจ แต่พอเปลี่ยนเป็นชื่อย่อ มักจะสับๆสนๆกับ JFK
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลุงไก่
|
ความคิดเห็นที่ 251 เมื่อ 11 ก.ย. 13, 05:49
|
|
จำได้ครับอาจารย์ ตอนที่ใช้ชื่อเต็มยศจำได้แม่นขึ้นใจ แต่พอเปลี่ยนเป็นชื่อย่อ มักจะสับๆสนๆกับ JFK
แล้วคำย่อ JPS นี่มีที่มาอย่างไรครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 252 เมื่อ 11 ก.ย. 13, 06:36
|
|
โฆษณาแฝงหน่อย
ร้านนี้หรือเปล่าครับ บรรยายภาพว่าถ่ายปี ๒๕๑๓ อีตานายพันยังไม่ลงพุงเท่าไหร่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 253 เมื่อ 11 ก.ย. 13, 06:44
|
|
[quote]" หัวมุมถนนเพลินจิตฝั่งเดียวกับสถานทูตนั้น ปัจจุบันเป็นโรงแรม และติดกันคืออาคารสำนักงานมี HomePro เป็นที่สังเกต ส่วนเพลินจิตอาเขตกลายเป็นที่ว่างติดกับบ้านของคุณบุญชิต เกตุรายนาค ใช่ไหมคะ ฝั่งตรงข้ามหัวมุมคือ มหาทุนพลาซ่า เจ้าของที่ดินคือ ท่านผู้หญิงสุประภาดา ที่นักเรียนเตรียมรุ่นพี่สาวคนรอง(ห่างกัน 4 ปี)เรียกว่า "อาจารย์หญิง"....เพลินจิตอาเขตเดิ้นมากสมัยนั้นเพราะมี Foodland Supermarket ที่ทุกคนชอบมาซื้อของ"[/quote]
ย้อนไปเก็บตก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 254 เมื่อ 11 ก.ย. 13, 07:00
|
|
แล้วก็ไปกันต่อ
เมื่อผ่าน”ศรีราชา” ก็ทำให้เกิดที่ตากอากาศชายทะเลขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่มาทางรถยนต์ได้สะดวก เมื่อก่อนมีเกาะเล็กๆ หน้าอ่าว แต่เดี๋ยวนี้ทำถนนเชื่อมกับถนนริมฝั่งแล้ว ในสมัยนั้นมีเหตุน่าเสียใจอย่างมากคือ ฝรั่งคู่หนึ่งเพิ่งแต่งงานใหม่มาเล่นน้ำทะเลที่ “แหลมแท่น” ถูกฉลามกัด และกัดนายแฉล้ม (ชาวบ้าน)ที่หาดใกล้ที่ว่าการอำเภอ (เมื่อก่อนนี้อยู่ติดถนนเลียบชายหาด) ทำให้คนไม่กล้าลงเล่นน้ำกันพักหนึ่ง
คุณเพ็ญมีอะไรจะเล่าเรื่องฉลามในเมืองไทยไหมครับ ส่วนมากเป็นพันธุ์ไหน
เมื่อก่อนผมเคยอ่านในหนังสือพิมพ์ ขนาดเดินข้ามสะพานไปเกาะลอยยังมีคนเห็นฉลาม สยามรัฐสัปดาห์วิจารย์เคยลงปกเป็นรูปฉลามว่ายอยู่บนผิวๆน้ำ บอกว่าเป็นภาพฉลามเสือถ่ายที่ใต้ถุนร้านอาหารที่ยื่นออกไปในทะเลที่ศรีราชา มีข่าวคนถูกฉลามกัดที่นั่นบ่อยๆจนไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำ นัยว่าแถวนั้นเป็นทะเลน้ำลึก ในขณะที่แถวหัวหินไม่เคยมีข่าวเรื่องฉลามเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|