อย่างไรก็ดี ในคณะรัฐบาลชุดแรกตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่มี พระยามโนปกรณ์นิติธาดา(ก้อน หุตะสิงห์) เป็นประธานคณะกรรมการราษฎร(นายกรัฐมนตรีที่เรียกตามศัพท์ของหลวงประดิษฐ์) คณะสี่เสือซึ่งเดิมตกลงกันว่าจะยุติบทบาทของตนหลังปฏิวัติสำเร็จก็ทนการอ้อนวอนร้องขอจากหลายฝ่ายไม่ไหว ยอมได้รับเลือกให้เป็นกรรมการราษฎรหรือรัฐมนตรีพร้อมๆกับผู้ก่อการคนสำคัญอื่นๆ รวมกันแล้วประมาณสองในสามของคณะกรรมการราษฎร นอกนั้นเป็นบุคคลภายนอกผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อประชุมสภาครั้งแรก ในวาระ2นั้น พระยาพหลได้แถลงต่อที่ประชุมดังนี้ “…บัดนี้มีรัฐธรรมนูญและสภาผู้แทนราษฎรขึ้นสำเร็จแล้ว ข้าพเจ้าขอมอบอำนาจผู้รักษาการพระนครฝ่ายทหารให้แก่สภาฯแต่บัดนี้…”
ขอเลี้ยวแยกออกซอยไปเล็กน้อย จากที่คุณนวรัตนกล่าวไว้
ในบทบัญญัติ ๓๙ มาตรา ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนี้ ได้ให้อำนาจคณะกรรมการราษฎรไว้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด คือ
- มีอำนาจออกกฎหมายใดๆก็ได้เอง ในกรณีฉุกเฉินเรียกประชุมสภาไม่ทัน
- มีอำนาจให้อภัยโทษ
- มีอำนาจกำหนดนโยบายต่างประเทศ
- มีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์ในการตั้ง และถอดถอนเสนาบดี
- มีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์ในการประกาศสงคราม
- มีสิทธิ์กระทำการได้แทนพระมหากษัตริย์ ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มีเหตุจำเป็นที่จะทำหน้าที่ไม่ได้ หรือไม่อยู่ในพระนคร
คำถามที่อาจจะอยู่ในใจบางคนก็คือ อุดมการณ์ของคณะราษฎร์ที่จะให้ "
อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย" มันสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือเปล่า
"คณะกรรมการราษฎร" เป็นใคร เหตุใดจึงไม่มีตัวตนอยู่ในประกาศ ๖ ข้อของคณะราษฎร์ ที่หลวงประดิษฐ์มนูธรรมเป็นคนร่าง
ประกาศ ๖ ข้อ ที่คณะราษฎรวางไว้ มีอยู่ว่า
๑.จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่นเอกราชในทางการเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มั่นคง
๒.จะต้องรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก
๓.ต้องบำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะจัดหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก
๔.จะต้องให้ราษฎรมีสิทธิเสมอภาคกัน (ไม่ใช่พวกเจ้ามีสิทธิยิ่งกว่าราษฎรเช่นที่เป็นอยู่ในเวลานี้)
๕.จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสระ เมื่อเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลัก ๔ ประการดังกล่าวข้างต้น
๖.จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร
และคำถามสุดท้ายคือ คณะกรรมการราษฎร มีชาวบ้านรวมอยู่ด้วยสักคนหรือเปล่า?