ดิฉันเข้าใจผิด เรียกคลองบางกะปิเป็นคลองแสนแสบ มีเพื่อนร.ร.เดียวกันอยู่คนหนึ่ง เคยไปส่งเธอตอนร.ร.เลิก เธอจะให้จอดรถที่เชิงสะพานเฉลิมโลกแล้วเดินลงไปทางใต้สะพาน ตรงนั้นเป็นทางคอนกรีตเล็กๆ บ้านเธอคงอยู่ริมคลองหลังตึกแถวนั่นเอง ในคลองมีเรือประทุนแบบนี้จอดอยู่ใต้สะพาน
ท่านอาจารย์เทาชมพูคงไม่มีโอกาสได้เดินลงไปดูเรือประทุนที่จอดบริเวณใต้สะพานเฉลิมโลกนั้นชัดๆ ที่นั่นมีตลาดน้ำพิเศษ เรือแต่ละลำจะมีผู้หญิงให้บริการนั่งอยู่หัวเรือ ตอนค่ำๆจะคึกคักหน่อย รุ่นพี่ถาปัดเคยพาน้องใหม่รุ่นผมไปทัศนศึกษาเป็นหมู่คณะที่นั่น จำได้ว่ามืดมาก มีแสงจากตะเกียงที่ตั้งไว้ข้างๆเธอเพียงวับๆแวมๆ พวกทั้งหนุ่มและแก่กลัดมันก็คอยไปก้มๆเงยๆลุ้นเอาว่ามีใครพอจะเข้าสะเป็กหรือไม่ เมื่อถูกใจก็ตกลงสนนราคา มีตั้งแต่๒๐-๓๐บาท ได้แล้วก็ลงเรือไป สาวเจ้าก็จะปิดม่าน คนแจวเรือ ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้หญิงเหล่านั้น ก็คัดท้ายแจวออกไปตามความมืดของสายน้ำ นึกๆดูก็น่าจะโมแรนติกดี ถ้ากลิ่นน้ำเน่าในคลองจะไม่โชยขึ้นมา แต่คงไม่มีใครถือกันนะ พี่เค้าบอกว่า เสร็จธุระแล้วก็ตักน้ำในคลองมาชำระอุปกรณ์ก่อนเก็บไปใช้ต่อ โฮ้ย..แค่ไปดูยังสยอง
แต่ผมยังคาใจอยู่นะ ไปกลางคืนมันมืดไม่ค่อยจะเห็นอะไร คนก็แน่นด้วย บ่ายวันหนึ่งผ่านที่นั่นเลยเดินลงไปแวะดู เห็นน้องหนูน้าป้าที่นั่งหัวเรือแต่ละลำกระจะๆ คราวนี้สยองเข้าเส้นจริงๆสิ้นสงสัย ไม่ไปอีกเลย ไม่รู้ว่าต่อมาตลาดเนื้อสดนี้วายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่เล่ามาก็จะถือโอกาสถาม เพราะพวกผมเรียกคลองตรงนั้นว่าคลองแสนแสบเหมือนกัน คลองบางกะปิเคยได้ยินอยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันเริ่มจากตรงไหนถึงตรงไหนกันน่ะครับ
พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์บันทึกไว้ว่า
“ครั้นถึง ณ เดือนยี่ขี้นสี่ค่ำ ในปีระกานพศกจุลศักราช ๑๑๙๙ ปี เป็นปีที่ ๑๔ในรััชกาลแผ่นดินที่ ๓กรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้ พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา(ชื่อทัด)เป็นแม่กองจ้างจีนขุดคลอง ตั้งแต่ตำบลหัวหมากต่อคลองบางกะปิไปทางตะวันออก ทะลุที่บางกะหนากฝั่งแม่น้ำเมืองฉะเชิงเทรา รางวัดทางยาว ๑,๓๓๗เส้น ๑๙ วา ๒ ศอก กว้าง ๖ วา ราคาค่าจ้างขุดเส้นละ เจ็ดสิบบาท รวมเงินทั้งค่าฟันตอไม้ ค่าแก้คลองพระโขนงข้างปลาย รวมเป็นเงินพันสองร้อยหกชั่งสิบสามตำลึง สองบาทสลึงเฟื้อง ขุดอยู่ถึงสีปีเศษจึงสำเร็จแล้วตลอด เป็นลำคลองเรื่อเดินได้ เมื่อปลายปีชวดโทศกจุลศักราช ๑๒๐๒ ปี เป็นปีที่ ๑๗ในรัฃกาลที่๓ กรุงเทพฯ ชนสามัญเรียกว่า "คลองแสนแสบ" เป็นอันว่า คลองที่เริ่มจากคลองโอ่งอ่าง มาตามแนวคลองมหานาค ผ่านทุ่งปทุมวัน ทุ่งบางกะปิ ไปถึงหัวหมาก คงมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่๓หรือรัชกาลก่อนๆ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯโปรดให้ขุดต่อไปจนสุดทางที่ฉะเชิงเทรา ด้วยพระราชประสงค์จะเป็นคลองยุทธศาสตร์สำหรับลำเลียงพลและส่งเสบียงบำรุงในสงครามระหว่างสยามกับญวนที่เขมร ในหลักฐานราชการแต่เดิมระบุไว้ว่าชื่ออะไรใครทราบบ้าง เพราะชื่อแสนแสบ(เขาว่า)มาจากพวกกุลีขุดคลองที่โดนยุงกัดจนแสบไปทั้งตัว เป็นคนตั้งชื่อเล่นไว้