ใครทราบภาษาที่สามก็จะได้เปรียบในข้อมูลของผู้ใช้ภาษาครับ แต่จะเป็นข้อมูลเชิงลึกมากกว่า เพราะถ้าเป็นข้อมูลพื้นฐานทั่วๆไปแล้ว ภาษาอังกฤษก็ยังคงมีข้อมูลที่ใช้ได้ครับ
และถ้าเลือกคำค้นได้เหมาะสมก็จะไม่เสียเวลา จะได้ข้อมูลนั่นๆ อย่างรวดเร็ว คราวนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราอ่านภาษาอังกฤษรู้เรื่องแค่ไหนต่างหาก อิอิ
เรื่องข้อมูลทางวิชาการที่เป็นภาษาไทยนั้น พูดยากครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับหน่วยงานการศึกษาของบ้านเราด้วย ลำพังคนสนใจทั่วๆไป บางที่ก็ลอกๆ เค้ามาอีกที ข้อมูลผิดๆ ถูกๆ ก็มีมาก คนที่ซวยคือคนที่เอาไปใช้โดยไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องครับ
อีกประการหนึ่ง คนไทย "ไม่ชอบให้เครดิต" คือ ส่วนใหญ่ ลอกมาแต่ข้อความ ไม่มีการใส่อ้างอิงว่าเอามาจากไหน อันนี้ เสียหายครับ เพราะไม่สามารถค้นได้เลยว่า เอาข้อมูลมาจากไหน ใครเขียน
ถ้าค้นข้อมูลต่างประเทศ โดยเฉพาะเว็บของทางอเมริกา ข้อมูลที่น่าเชื่อถือส่วนใหญ่จะทำโดยอาจารย์ หรือ นักศึกษา มหาวิทยาลัยครับ พวก .edu หรือ เว็บของมหาวิทยาลัย สถาบันทางการศึกษา พิพิธภัณฑ์ หรือ แม้กระทั่งสารานุกรมบนอินเตอร์ืเน็ต
พูดถึงสารานุกรม ที่เว็บกาญจนภิเษก
www.kanchanapisek.or.thก็มีความรู้หลายๆ ด้านให้ค้นคว้าครับ
"ความรู้กับคนไทย"
http://www.kanchanapisek.or.th/knowledge/index.th.htmlก็เป็นบทความที่ดึงมาจาก "สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน"
http://kanchanapisek.or.th/kp6/GENERAL/encyclopedia/saranugrom.htmสำหรับประเทศไทยเรา ไม่ได้มีความใส่ใจที่จะลงข้อมูลครับ พวกมหาวิทยาลัยต่างๆ ของบ้านเรา ก็ควรจะมีข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับวิชาที่สอนลงไว้ให้อ่านในเว็บด้วย บางแห่งก็ทำ บางแห่งก็ไม่ทำ
ก็มีงานอาสาสมัครครับ ว่างๆ ก็ไปช่วย "สารานุกรมฉบับภาษาไทย" ของ
http://th.wikipedia.org/wiki ลงข้อมูลภาษาไทยดูก็ได้นะครับ ช่วยๆ กันลงข้อมูลไปเรื่อย ซักวันหนึ่งความฝันของคุณภูมิ และน้อง Karine!! ก็จะเป็นจริงครับ
ปล. ช่วงนี้ไม่ว่างเลยครับ คิดไว้เหมือนกันครับว่าถ้ามีเวลาจะไปช่วยเค้าทำข้อมูล