เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์โลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 12, 14:33



กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 12, 14:33
ถ้าหากว่าใครคนหนึ่งถามอีกคนว่า  "ต้องมีเงินมากเท่าไหร่  ถึงจะใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด"
แล้วอีกคนตอบว่า "มีสักหมื่นล้านก็สบายแล้ว  ต่อให้ถลุงยังไง ก็ยังเหลือกินไปจนตาย"
แสดงว่าสองคนนี้ ไม่รู้จักบาร์บารา ฮัตตัน   ควรจะไปหาชีวประวัติเธอมาอ่านโดยด่วนค่ะ

บาร์บารา ฮัตตันคาบช้อนเงินช้อนทองออกมาจากครรภ์ของแม่ เอ็ดน่า วูลเวิร์ธ  กับพ่อ แฟรงกลิน ลอส์ ฮัตตัน    พ่อแม่เธอรวยมหาศาลกันทั้งสองฝ่าย   พ่อเป็นนายธนาคารและนักธุรกิจ  ส่วนแม่เป็นลูกสาวมหาเศรษฐีแฟรงค์ ดับเบิ้ลยู  วูลเวิร์ธ  เจ้าของห้างสรรพสินค้าวูลเวิร์ธที่มีสาขาทั่วอเมริกา


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: sirinawadee ที่ 03 ก.ย. 12, 15:13
เห็นท่านอาจารย์เงียบไป จึงลอคอินเข้ามารายงานตัวค่ะ

คลาสนี้จะนั่งหน้าสุดค่ะ  ;D


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 12, 16:49
ก่อนจะเล่าถึงชีวิตบาร์บาร่า  ต้องเล่าที่มาของช้อนเงินช้อนทองของเธอเสียก่อนว่ามีมาได้ยังไงแบบไหน   คำตอบคือมาจากคุณตา  ของเธอ   มหาเศรษฐีแฟรงค์ วินด์ฟิลด์ วูลเวิร์ธ (1852-1919)

แฟรงค์ วูลเวิร์ธมีกำเนิดคล้ายๆเจ้าสัวในตำนานบ้านเรา ที่มักจะหอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีน  แล้วสร้างฐานะขึ้นมาได้    เขาเป็นลูกชาวนาจนๆทางเหนือของนิวยอร์ค  พอโตเป็นหนุ่มก็มาสมัครงานเป็นเสมียนในร้านขายของที่ตลาดในเมือง      แต่ว่าแฟรงค์ วูลเวิร์ธเป็นคนหัวดีกว่าเสมียนด้วยกันที่ทำงานหน้าที่เดิมไปจนแก่ตาย     เขาจึงเริ่มสังเกตว่า เวลาทางร้านโละของค้างสต๊อคมาขายในราคาเหมา ๕ เซ็นต์หมดไม่ว่าอะไร   มักขายดิบขายดี   เสมียนหนุ่มก็ได้ไอเดียขึ้นมาว่า ถ้าจะเปิดร้านขายสินค้าราคา ๕ สตางค์ หมดทั้งร้าน  ก็น่าจะขายดีเหมือนกัน

คิดแล้วเจ้าหนุ่มก็ยืมเงินนายจ้างมา ๓๐๐ ดอลลาร์ เปิดร้านขายของถูก   ตอนแรกก็ล้มลุกคลุกคลานไปไม่รอด    แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ  กัดฟันเปิดร้านอีกในเพนซิลเวเนีย ปรากฎว่าไปได้   เขาก็เลยเพิ่มราคาสินค้าจาก ๕ เซ็นต์เข้าไปเป็น ๑๐ เซ็นต์  ขยายประเภทสินค้าให้มากขึ้น   ทุกอย่างในร้านล้วนไม่เกิน ๑๐ เซ็นต์หมด    ผลก็คือขายดิบขายดี ชาวบ้านชอบ   ทำกำไรให้เจ้าของมั่งคั่งขึ้นมา


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 12, 10:04
ในสมัยที่แฟรงค์ วูลเวิร์ธก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาในหัวเลี้ยวหัวต่อของต้นศตวรรษที่ 20   คนอเมริกันทั่วไปยังยากจนอยู่    แต่เป็นกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่สุดเหมือนฐานปิรามิด     พวกนี้ไม่ได้ต้องการสินค้ามียี่ห้อหรือแม้แต่คุณภาพดีเลิศประเสริฐศรี  ขอเพียงอะไรที่ซื้อได้ด้วยเงินน้อยนิดที่สุดก็พอ     ร้านวูลเวิร์ธที่อะไรๆก็ไม่เกิน 10 เซ็นต์จึงตอบสนองดีมานด์ซัพพลายได้เหมาะเจาะ  
ตัวร้านไม่ได้ตกแต่งให้สวย   สินค้าก็วางๆเอาไว้ในกระบะบ้างชั้นบ้าง เป็นหมวดหมู่พอให้หาง่าย     ไม่ห่วงเรื่องดีไซน์    เห็นตัวอย่างได้ในรูปข้างล่างนี้   เป็นรูปในยุคที่ห้างวูลเวิร์ธขยายสาขาไปทั่วประเทศแล้ว

สมัยดิฉันไปเรียน ในเมืองเล็กๆก็ยังมีวูลเวิร์ธอยู่ร้านหนึ่ง แต่ไม่ใช่ของขายราคาเดียวทั้งร้านเหมือนในอดีตอีกแล้ว ก็เป็นร้านขายสินค้าทั่วๆไป  ไม่ใหญ่โต   ดูเงียบเหงาไม่ค่อยจะมีใครเข้ากัน  เพราะว่าในยุคนั้นห้างสรรพสินค้าดีๆ สินค้าราคาไม่แพงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด    เบียดแซงหน้าวูลเวิร์ธไปได้ง่ายดาย


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 04 ก.ย. 12, 13:52
ขอเข้าเรียนด้วยคนครับ
คลาสนี้ต้องขอเขยิบมานั่งกลางห้องเพราะมีรูปเยอะดี


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 12, 18:31
คุณ Sujittra มานั่งแถวหน้าก็ได้นะคะ

ที่เขาเรียกว่าเงินย่อมต่อเงินเป็นของจริงในกรณีของวูลเวิร์ธ   พอได้เงินเป็นกอบเป็นกำเขาก็ทุ่มเทพัฒนาร้าน และขยายสาขาออกไปอีกไม่หยุดยั้ง      วูลเวิร์ธระดมทุนแบบแฟรนไชส์ คือคนที่จะมาเป็นผู้จัดการในสาขาประจำเมืองต่างๆ ต้องลงทุนในฐานะหุ้นส่วนของเขาด้วย   แล้วไปบริหารจัดการร้านตัวเอง โดยมีเขาเป็นผู้ส่งสินค้าให้วาง  กำหนดการจัดหน้าร้านและวางของเอง   
พอจับทางได้แบบนี้   วูลเวิร์ธก็ราวกับพยัคฆ์ติดปีก   กิจการเขาไปโลดชนิดยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่   พออายุ 52 ปีเขาก็เป็นเจ้าของสาขาห้างค้าปลีกถึง 120 แห่งใน 21 รัฐ  ขยายตั้งแต่นิวยอร์คมาถึงโคโลราโดทางตะวันตก เรีบกว่าเป็นปรากฏการณ์ของวงการธุรกิจเลยทีเดียวในยุคนั้น 

บริษัทของเขาทำธุรกิจปีละหกสิบกว่าล้านดอลล่าร์   ต่อมาเมื่อรวมกิจการกับบริษัทคู่แข่งอีกห้าแห่งตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาได้  เงินก็เพิ่มขึ้นเป็นหกสิบห้าล้านดอลล่าร์      ชื่อเสียงของวูลเวิร์ธผงาดขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ของประเทศเมื่อเขาสร้าง Woolworth Building ตึกระฟ้าสูงที่สุดในนิวยอร์คในสมัยนั้นขึ้นมาได้ ด้วยมูลค่าสิบสามล้านกว่าดอลล่าร์ ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง   
( ไม่รู้ว่าสมัยนี้จะเป็นเงินเท่าใด  เดาว่าประมาณ 100 เท่าของค่าเงินสมัยนั้น)

ข้างล่างคือตีกระฟ้าวูลเวิร์ธ ในอดีตและปัจจุบัน
 
เมื่อเข้าวัยชรา   วูลเวิร์ธไปพำนักอยู่ในยุโรปมากกว่าอเมริกา   แต่กิจการเขาก็ยิ่งรุดหน้าไม่หยุดยั้ง  จนเมื่อเขาถึงแก่กรรมเมื่อค.ศ. 1919   บริษัทวูลเวิร์ธที่มีสาขากว่า 1000 แห่งถือว่าเป็นธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 12, 18:46
นี่คือคฤหาสน์ที่แฟรงค์ วูลเวิร์ธสร้างไว้ที่ฟิฟว์ อเวนิวใจกลางนิวยอร์ค  ซึ่งที่ดินแพงเหมือนโรยด้วยเพชร     สำหรับภรรยาและลูกๆของเขา


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 12, 18:49
วูลเวิร์ธไม่มีลูกชาย  มีแต่ลูกสาว 3 คน  คนโตชื่อเฮเลน่า ม้อด  คนกลางชื่อเอ๊ดน่า  คนสุดท้องชื่อเจสซี่ เมย์
คนที่เป็นแม่ของบาร์บาร่า ฮัตตันคือเอ๊ดน่า ลูกสาวคนกลาง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 12, 21:33
    มหาเศรษฐีวูลเวิร์ธรักลูกสาวสามคนเป็นแก้วตาดวงใจ    วางแผนอนาคตให้อย่างสวยหรู     แต่ต้องขออธิบายว่าเมื่อต้นศตวรรษที่ 20  อนาคตผู้หญิงทั้งหลาย ต่อให้เป็นลูกสาวมหาเศรษฐีก็ไม่ต่างจากลูกสาวชาวบ้านจนๆ     คืออย่าหวังว่าเธอจะทะเยอทะยานเป็นนักวิทยาศาสตร์บันลือโลก  เป็นแพทย์  สถาปนิก วิศวกรหญิง หรือศิลปินเอก    อนาคตผู้หญิงมีอย่างเดียวคือได้แต่งงานไปกับผู้ชายร่ำรวยมีหน้ามีตา   แล้วไปเป็นคุณหญิงคุณนายอยู่บนกองเงินกองทองต่อไป ดังที่เคยอยู่บนกองเงินกองทองมาแต่เกิด  
   แฟรงค์ วูลเวิร์ธตั้งเป้าหมายว่าลูกสาวเขาทุกคนต้องมี "สามีดีๆ"    คำว่าดีในที่นี้ไม่ใช่แค่รวยเท่านั้น   แต่เขาหวังถึงขั้นจะให้ลูกสาวแต่งงานไปกับเจ้าชายในราชตระกูลต่างๆในยุโรป     ในยุคต้นศตวรรษที่ 20  แม้ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ล่มจักรวรรดิออสเตรียและเยอรมนีมาแล้ว  เจ้านายต่างๆทั้งที่มีบัลลังก์และไม่มีบัลลังก์ก็ยังเดินกันอยู่สลอนในสังคมไฮโซยุโรป    พอจะสานฝันให้แฟรงค์ วูลเวิร์ธที่มีกำเนิดมาจากชาวนาจนๆ คิดทะเยอทะยานถึงขั้นที่จะได้อะไรที่ตัวเขาไม่เคยมีโอกาสได้ แม้ว่ามีเงินมากมายขนาดไหนก็ตาม
   คุณหนูวูลเวิร์ธทั้งสามนางได้แต่งไปกับเศรษฐีทั้งหมด  ไม่มีใครแหกคอกไปแต่งกับยาจก      แต่ไม่มีใครสนองความฝันของพ่อได้ถึงขั้นแต่งกับเจ้าชาย   ฝันของวูลเวิร์ธเป็นจริงในชั้นหลาน   คือบาร์บาร่า ฮัตตัน  แต่คุณตาก็ถึงแก่กรรมไปเสียก่อนจะมีโอกาสรู้ว่าได้หลานเขยเป็นถึงเจ้าชายตัวจริงทีเดียวเชียว

    รูปข้างล่างคือเอ๊ดน่ากับแฟรงค์ ลอส์ ฮัตตัน  ผู้สามี     เป็นภาพหายากมากค่ะ เจอในเน็ตแค่นี้เอง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 12, 14:13
พี่สาวและน้องสาวของเอ๊ดน่าแต่งงานแล้วก็ดำเนินชีวิตอย่างคุณนายเศรษฐีด้วยกันทั้งคู่     ไม่ค่อยมีอะไรให้เอ่ยถึงนัก ก็จะข้ามไปก่อนค่ะ     
ส่วนเอ๊ดน่าแต่งงานกับแฟรงค์ ฮัตตัน ที่ปรึกษาทางการเงินของพ่อเธอ  ทั้งที่พ่อไม่ได้เห็นด้วยเลย    แต่ลูกสาวก็ดึงดันจะแต่งงานให้ได้   พ่อเพิ่งจะมาใจอ่อนก็เมื่อหลานสาวถือกำเนิดมาในค.ศ. 1912     
วิวาห์ของเอ๊ดน่าเรียกได้ว่าล่มตั้งแต่เริ่ม    เพราะสามีเธอแม้ว่าเป็นคนเก่งเรื่องธุรกิจ แต่ก็เป็นสามีที่เลวได้ครบถ้วนกระบวนความ     ทั้งเจ้าชู้ฟันผู้หญิงไปเรื่อยไม่เคยขาดมือ    ทั้งละเลยลูกเมีย   แม้แต่ลูกน้อยตาดำๆเขาก็ไม่แยแส   ยังพูดให้เข้าหูลูกสาวเสียอีกว่าเขาไม่เคยต้องการมีลูก   ส่วนไอ้ที่มีเมีย  เขาก็บอกใครต่อใครเต็มปากว่า"...ก็เพราะเหล้ามันพาไปนี่หว่า"   คือเมาแล้วก็เลยถลำตัวเกินเลยไป  จนกระทั่งต้องตกบันไดพลอยโจนแต่งงาน   

แฟรงค์ ฮัตตันพูดจริงหรือเล่นไม่มีใครรู้   แต่ที่รู้คือเอ๊ดน่าระทมขมขื่นกับสามีจนทนไม่ไหว   ตั้งแต่แต่งงานมาเธอได้รับความบีบคั้นจิตใจมาตลอด   เงินทองมหาศาลไม่ได้ช่วยให้ชุ่มชื่นใจขึ้นมาได้    ด้วยเหตุนี้เองเมื่อบาร์บาร่าอายุได้ 6 ขวบ ในคืนหนึ่งที่ทางบ้านจัดงานปาร์ตี้สุดหรูขึ้นอย่างที่สมัยนั้นเขานิยมจัดกันตามบ้านเศรษฐี     หนูน้อยก็เดินเปะปะไปพบร่างของแม่แขวนคอตายอยู่ในห้องหนึ่งของบ้าน
เอ๊ดน่าฆ่าตัวตายเมื่อค.ศ. 1918  อายุเพียง 34 ปี


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 12, 20:52
   คุณตาแฟรงค์ วูลเวิร์ธโอบอุ้มหลานกำพร้าไว้ด้วยความเมตตา    พาหนูน้อยออกจากนิวยอร์คไปอยู่คฤหาสน์ของเขาที่ลองไอส์แลนด์ตลอดหนึ่งปีนับจากเหตุสะเทือนใจ      ชีวิตบาร์บาร่าอาจจะโชคดีมากกว่านี้ถ้าหากว่าชายชราอยู่ให้ความรักความอบอุ่นแก่เธออีกนาน     แต่เขาก็อายุสั้นกว่าที่ควร    ถึงแก่กรรมไปเพียง 1 ปีหลังจากนั้น คือเมื่อหลานน้อยอายุ 7 ขวบเท่านั้นเอง    จากนั้นหนูน้อยก็ต้องอยู่กับญาติและครูพี่เลี้ยง  จนโตพอจะถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ
   พร้อมกับความเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย มีพ่อก็เหมือนไม่มี  แม่ก็ไม่มี ตาก็ไม่มี  ป้ากับน้าก็มีครอบครัวของตัวเอง    โชคชะตาก็ชดเชยให้บาร์บาร่าเหลือล้น เกินกว่าคนทั่วไป     มรณกรรมของแฟรงค์ วูลเวิร์ธทำให้เธอได้รับมรดกส่วนที่มีสิทธิ์ในฐานะหลานไปเต็มๆ  นอกจากนั้นยังได้มรดกส่วนของแม่มาเป็นของตัวเอง    ส่วนพ่อของเธอแม้ว่าเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน  แต่เป็นนักลงทุนธุรกิจที่เก่งกาจ    ความมั่งคั่งของเขาจึงตกทอดมาถึงเธอในฐานะทายาทเพียงผู้เดียว   
    สาวน้อยบาร์บาร่าจึงเติบโตขึ้นมาเป็นทายาทเศรษฐี  ได้สมบัติตา สมบัติแม่และสมบัติพ่อประดังประเดมาที่ตัวเธอ โดยไม่ต้องกระดิกตัวหาเงินสักเซ็นต์เดียว
   


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 12, 10:04
   ในยุคของบาร์บาร่า   ลูกสาวเศรษฐีและผู้ลากมากดีในยุโรปและอเมริกาต้องจัดงานใหญ่ออกสังคมเมื่ออายุ 18 ปี   ในฐานะที่เป็นเดบูตอง (Debutante)  เพื่อประกาศให้สังคมรู้ว่าลูกสาวบ้านนี้เป็นสาวเต็มตัวแล้ว  พร้อมจะมีคู่ได้      ยิ่งบ้านไหนรวยมาก การจัดงานของเดบูตองก็ต้องใหญ่มากเป็นเงาตามตัว
   ในปี 1930  งานวันเกิดของบาร์บาร่าเมื่ออายุ 18 จัดขึ้นที่โรงแรมริทซ์ คาร์ลตันในนิวยอร์ด     โรงแรมนี้ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมโอ่อ่าโก้หรูที่สุดในประเทศ สำหรับจัดงานบอลล์และปาร์ตี้ส่วนตัวของมหาเศรษฐี      งานวันเกิดของบาร์บาร่าได้ชื่อว่าเป็น "งานใหญ่ที่สุดของปี"  จ้างดารานักร้องชื่อดังที่สุดของฮอลลีวู้ดสองคนคือมอริส เชอร์วาลิเยร์ และรูดี้ แวลลี มาเอนเทอร์เทนในงาน
    แขกรับเชิญล้วนแต่เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีของนิวยอร์ค เช่นตระกูลแวนเดอร์บิลท์  แอสเตอร์และร็อคกี้เฟลเลอร์      ว่ากันว่าแค่ค่าดอกไม้ในงานก็ปาเข้าไป $50,000 แล้ว  ถ้าคิดเป็นราคาปัจจุบันก็หลายแสนดอลล่าร์   คิดเป็นเงินไทยก็เอา 33 คูณเข้าไป    เราก็คงเดาได้ว่าแค่ค่าดอกไม้เข้าไปหลายล้านบาท    ราคาจัดงานทั้งหมดจะกี่สิบล้าน?
    
ภาพล่าง บาร์บาร่าในชุดอลังการงานวันเกิด  เมื่ออายุ 18 ปี    สีหน้าเธอสะท้อนถึงความรู้สึกที่ตรงกันข้ามกับความเบิกบานโดยสิ้นเชิง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 12, 10:20
      ผลกระทบจากการจัดงานหรูหราฟู่ฟ่างานนี้ไม่ได้อยู่ที่ไม่มีกะตังค์จะจ่าย    เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของบาร์บาร่า    แต่เป็นเพราะตอนนั้น เป็นตลาดหุ้นตกวูบลงมาในปีก่อน  คือปี 1929 พอดี    เศรษฐกิจดิ่งลงเหวชนิดบริษัททั้งหลายล้มระเนนระนาด  คนงานตกงานกันแทบไม่รู้ตัว  ผู้คนในนิวยอร์คก็ยังไม่รู้ตัวว่านี่มันคือจุดเริ่มต้นของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่จะกระทบกระเทือนโลกในเวลาต่อมา ( รวมทั้งกระเทือนมาถึงประเทศไทยจนเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 (ค.ศ. 1932)ด้วย
  แต่ในช่วงที่กำลังผันผวนวูบขึ้นวูบลงในปี 1930 นี้  ข่าวหนังสือพิมพ์ก็ลงกันเกรียวกราวถึงการจัดงานอลังการวันเกิดมหาเศรษฐินีสาวน้อย  ค่าดอกไม้อย่างเดียวเข้าไปห้าหมื่นกว่าเหรียญ ทั้งๆชาวบ้านหาใส่ปากใส่ท้องไม่ได้แม้แต่ห้าสิบเซ็นต์ในแต่ละวัน   
   
   ไม่มีอะไรกระพือไฟโมโหโทโสให้มหาชนที่กำลังหิวโหยแทบอดตาย ได้มากเท่ากับข่าวใครอีกคนใช้เงินแบบใช้ทิ้งใช้ขว้าง เหมือนเงินไม่มีราคา      คำก่นด่าทุกสารทิศพรั่งพรูกันเข้ามาที่สาวน้อยบาร์บาร่า   ขนาดขนานนามเธอแสบสันต์ว่า "Rich bitch" จะแปลเป็นไทยให้ถึงใจก็เกรงว่าจะผิดต่อนโยบายเรือนไทย   บอกอ้อมๆว่า bitch ในที่นี้เป็นคำด่าผู้หญิงสำส่อนก็แล้วกัน
    ความจริงบาร์บาร่าไม่ได้ประสีประสาต่อความผิดที่เธอไม่ได้เป็นผู้ก่อนี้เลย    เธอไม่รู้เรื่องตลาดหุ้น ไม่รู้จักชีวิตตกงาน  ไม่รู้ว่าความยากจนคืออะไร     แต่กระแสต่อต้านเธอสะท้อนก้องไปทั่วมหานคร ทำให้ผู้ใหญ่ของเธอต้องรีบส่งตัวสาวน้อยเดินทางไปอยู่ในยุโรปชั่วคราว เพื่อลดกระแสกดดัน


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 12, 12:36
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1  มาจนถึงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2  ยุโรปตะวันตกเป็นที่ชุมนุมของเศรษฐีและผู้ดีไฮโซ  มีทั้งพวกรวยจริงและรวยแต่เปลือก     ลูกสาวเศรษฐีอเมริกันเป็นพวกรวยจริง  จึงได้รับการต้อนรับอย่างดีเวลาย่างเข้าวงสังคม    
วันๆพวกนี้ไม่ต้องทำงานทำการอะไร แม้แต่เข้าออฟฟิศ    ก็เพียงแต่ลอยละล่องเข้าสังคมกันสลับกับไปท่องเที่ยวพักอยู่ตามโรงแรมหรูๆ   พบปะเจอะเจอพวกหนุ่มสาวไฮโซด้วยกัน
ถ้าหากว่าชีวิตคือละครทีวี   สาวๆก็จะเจอท่านชายพจน์และคุณชายกลางได้ไม่ยากนัก    พอๆกับหนุ่มๆจะเจอปริศนาและวนิดา  แต่ในเมื่อชีวิตไม่เคยเหมือนละคร แม้ว่าบางครั้งทำท่าว่าคล้ายๆ     พระเอกในชีวิตจึงอาจจะกลายเป็นผู้ร้ายได้โดยง่ายอีกเช่นกัน

บาร์บาร่าใช้ชีวิตวัยสาวอยู่ในแวดวงดังกล่าว 2 ปี    จนอายุ 20 เธอก็ได้พบชายในฝันคนแรก   เขาเป็นหนุ่มสูงศักดิ์เชื้อสายรัสเซียวัย 27 ปี   หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกสง่างามสมกับกำเนิดมาสูง  คือมาจากราชตระกูลแห่งแคว้นจอร์เจียในรัสเซีย   ตัวเขามียศนำหน้าเป็นเจ้าชาย ชื่อเจ้าชายอเล็กซิส  
ส่วนนามสกุลที่สะกดเป็นภาษาอังกฤษว่า Mdivani  ดิฉันเอาไปเข้าโปรแกรมอ่านภาษารัสเซียทางอินทรเนตร   ฟังอยู่สิบกว่าหน ก็ยังถอดเป็นไทยไม่ถูก  มันดังคล้ายๆ  "มะจิวีนเญอะ"  เสียง เย่อะ ตัวท้ายขึ้นจมูกแบบ gn ของฝรั่งเศส    เอาเป็นว่าเรียกเจ้าชายอเล็กซิสก็แล้วกัน


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 12, 13:33
    ฐานันดรศักดิ์เจ้าชายของอเล็กซิสถูกซุบซิบกันดังๆว่า เป็นเจ้าเก๊กำมะลอ    เพราะไม่มีใครรู้ที่มากันแน่ชัด  หนึ่งในเสียงนินทาคือเดิมเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูอยู่ในแคว้นจอร์เจียของรัสเซีย   แต่ที่เจ้าตัวยืนกรานคือเสด็จพ่อเคยเป็นราชองครักษ์ของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียมาก่อน   ในยุคนั้น ราชสำนักรัสเซียหรูหราถึงขีดสุด   ใครเป็นราชองครักษ์ก็ต้องลูกผู้ดีมีสกุล หรือมีเชื้อมีสาย
 
    สมเด็จฯเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถแห่งสยามก็เคยเป็นราชองครักษ์ของพระเจ้าซาร์นิโคลัสมาแล้ว
     การปฏิวัติใหญ่ในรัสเซียคว่ำบัลลังก์ของจักรพรรดิลงในพริบตา   เหล่าเจ้านายและผู้ดีมีตระกูลทั้งหลายก็ต้องซอกซอนหลบหนีเงื้อมมือพวกกบฏบอลเชวิค  เพราะพวกนี้เจอหน้าเป็นฆ่าหมด  เงินทองก็ถูกริบ   เป็นเหตุให้เจ้าไร้บัลลังก์และขุนนางมีแต่ยศทั้งหลายกระจัดกระจายไปทั่วยุโรป     อเลกซิสบอกใครต่อใครว่า พระบิดาพาลูกๆลี้ภัยมาอยู่ปารีสได้ทันเวลา   แล้วก็ดำเนินชีวิตไฮโซตามความเคยชินดั้งเดิม      
     เป็นที่ปิดกันให้แซดว่า ครอบครัวนี้มุ่งตกถังข้าวสาลี(ฝรั่งไม่กินข้าวสาร)      ลูกๆขวนขวายหาคู่ที่เอารวยเข้าว่า    เจ้าชายอเล็กซิสทำได้สำเร็จ  เขาจับลูกสาวมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่งของอเมริกาไว้ได้   เธอคือสาววัย 21 ปีชื่อหลุยส์ แอสเตอร์ แวน อเลน  พ่อเธอเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทขายเฟอร์ขนสัตว์ระดับยักษ์ของประเทศ     แต่พอแต่งงานไม่ทันไร  เจ้าชายก็มาพบเข้ากับบาร์บารา ฮัตตัน  หลังตัวเองมีภรรยาไปแล้ว
       ในช่วงปีที่เศรษฐกิจอเมริกาดิ่งลงต่ำสุดถึงก้นเหว   บาร์บารายังเป็นเจ้าของทรัพย์สินมูลค่าถึง 50,000,000 ดอลล่าร์   ซึ่งมีคนเทียบว่าปัจจุบันเท่ากับ 1000,000,000 ดอลล่าร์    เงินพันล้านดอลล่าเอา 33 คูณเข้าไปก็สามหมื่นสามพันล้านบาท    
      ถ้าสมาชิกเรือนไทยมีเงินสามหมื่นสามพันล้านบาทในกระเป๋า  คิดว่าชาตินี้จะใช้หมดไหมคะ
      รูปนี้ เจ้าชายถ่ายกับบาร์บาร่า


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 12, 14:44
  ผู้ชายอื่นที่มาพบหญิงที่ถูกใจกว่าหลังตัวเองมีเมียไปแล้ว อาจจะรำพึงว่า "พบไม้งามเมื่อขวานบิ่น" แล้วก็สร้างรักสามเส้าเป็นปัญหาสามคนอลเวงกันต่อไป   แต่เจ้าชายอเลกซิสไม่ทำแบบนั้น       เขาตัดสินใจหย่าขาดจากภรรยาเพื่อมาแต่งงานกับมหาเศรษฐีสาววัย 20 ปี
   แต่จะเรียกว่าสูญเสียเศรษฐินีคนก่อนไปก็ไม่เชิง   เดาว่าน่าจะมีการคำนวณกันรอบคอบไว้แล้วล่วงหน้า     เพราะภรรยาม่ายของอเลกซิสก็ไปแต่งงานพี่ชายของอเลกซิสหลังจากนั้น 
  สรุปว่าสมบัติของเศรษฐินีสาวทั้งสองคนก็ยังอยู่ครบในมือของชายตระกูลภาษารัสเซียที่อ่านออกเสียงยากครอบครัวนี้อยู่ดี

   หกเดือนหลังหย่าจากเศรษฐินีคนแรก   เจ้าชายอเลกซิสก็เข้าพิธีสมรสอย่างหรูหรากับบาร์บาร่า ฮัตตัน ในโบสถ์รัสเซียนออโธดอกซ์ ในปารีส


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 12, 19:52
    เมื่อบาร์บาร่าตกลงจะแต่งงานกับอเลกซิส     ข่าวสะพัดไปถึงหูของพ่อที่อยู่ในอเมริกา  แม้ว่าแฟรงค์ ฮัตตันไม่ได้รักใคร่ไยดีลูกสาวคนนี้นักก็จริง แต่เขาก็รับผิดชอบในทรัพย์สินของเธอพอจะไม่ปล่อยให้ใครมาชุบมือเปิบง่ายๆ    เขาจึงบินด่วนมาปารีสด้วยอาการโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ   เพื่อขัดขวางสมรสของลูกสาว   เขาถือว่าเขาทำได้เพราะบาร์บาร่ายังอายุไม่ครบ 21 ปี
   ผลจากการเจรจากันระหว่างพ่อลูกและว่าที่ลูกเขย   บาร์บาร่าระงับไฟโกรธของพ่อด้วยการสั่งรถโรลสรอยซ์ประกอบพิเศษตามสั่ง 3 คันรวด   แล้วยกคันหนึ่งให้พ่อเป็นของขวัญ เพื่อการเอาน้ำเย็นเข้าลูบให้อารมณ์เย็นลง   หลังการเจรจากันหลายยก  ก็ตกลงกันได้ว่า เมื่อแต่งงานกันแล้ว อเลกซิสจะเอาแค่ส่วนแบ่งในทรัพย์สินของคู่สมรสเป็นเงินก้อน 1 ล้านดอลล่าร์  และเงินค่าใช้จ่ายรายปีอย่างงามอีกจำนวนหนึ่ง    
     คู่บ่าวสาวจึงได้จดทะเบียนสมรสและเข้าสู่พิธีวิวาห์กันอย่างเอิกเกริก  จากนั้น บาร์บาร่า ฮัตตันก็กลายเป็นเจ้าหญิง Mdivani  อย่างภาคภูมิสมกับความฝันของคุณตาที่มีมาตั้งแต่ก่อนเธอเกิด

    ภาพล่าง รถโรลสรอยซ์รุ่นปี 1932


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 12, 19:57
     บาร์บาร่าแต่งงานในช่วงเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำถึงก้นเหว   ผู้คนทั่วโลกแทบอดตายกันเพราะไม่มีงานทำ     แต่เธอก็ไม่สะท้านสะเทือนอะไร ในเมื่อเงินทองยังกองท่วมหัวอยู่ดี     ต่อจากพิธีวิวาห์  เธอใช้จ่ายเงินไปอีกฟ่อนใหญ่เมื่อเดินทางไปฮันนีมูนในอิตาลี     คู่บ่าวสาวหมาดๆไปพำนักในโฮเต็ลหรูหราที่ทะเลสาบโคโมทางตอนเหนือของมิลาน    จากนั้นก็ไปพักที่เวนิส ในฐานะเจ้าชายและเจ้าหญิง Mdivani    
     ทั้งสองวางตัวหรูเริ่ดเพียงใดเราคงวาดภาพได้จาก "ทรูโซ"หรือเสื้อผ้าเจ้าสาวที่ติดตัวไปด้วยตอนฮันนีมูน    บาร์บาราขนหีบเสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทางติดตัวไปด้วยถึง 70 ใบ   การขนส่งจะเอิกเกริกอลังการขนาดไหนดิฉันก็ยังนึกภาพไม่ออก   รู้แต่ว่าหนังสือพิมพ์เอาไปจิกตีเสียไม่มีดี ในความหรูหราฟุ่มเฟือยเกินเหตุนี้
     เท่านั้นยังไม่พอ   ในเวนิส   บาร์บาร่าไปเจอคฤหาสน์หลังงาม เก่าแก่ย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 12  ชื่อ Abbazia da san Gregorio  อยู่ริมคลองใหญ่ Grand Canal   เธอถูกใจถึงกับเซ็นเช็คตกลงซื้อ ทั้งๆไม่ได้สนใจจะอยู่ที่นั่น    ส่วนอเลกซิสหัวใสพอจะให้ลงชื่อเขาเป็นเจ้าของโฉนดบ้านและที่ดิน  แทนที่จะเป็นชื่อภรรยา

    ภาพล่าง   คฤหาสน์ในเวนิส


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 07 ก.ย. 12, 07:22
คุณครูอย่าเพิ่งหยุดสอนนะครับ นักเรียนกำลังเรียนอย่างตั้งใจ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 12, 11:58
ตั้งใจสอนถี่ยิบเลยละค่ะ   ;)

สมัยนี้ เศรษฐีถึงรวยแค่ไหนก็ต้องทำงาน  ส่วนใหญ่ก็ดูแลกิจการของตัวเองไม่ให้รั่วไหล  และขยายงานออกไปให้กว้างยิ่งขึ้น     แต่เศรษฐีสมัยบาร์บาร่าไม่ต้องทำงานเพราะมีคณะกรรมการดูแลมรดกของเธอให้เสร็จสรรพ     เศรษฐีไฮโซสมัยนั้นจึงท่องเที่ยวกันเป็นหลัก   เดินทางรอบโลกกันเป็นของธรรมดา   พักแต่ละที่นานเป็นเดือน     ไม่ใช่ทัวร์สามวันเจ็ดประเทศเหมือนเดี๋ยวนี้   
ปีต่อมาทั้งปี  เจ้าชายและเจ้าหญิงนามสกุลเรียกยากคู่นี้ก็เดินทางมาตะวันออก พักอยู่ในจีนและญี่ปุ่น    ตลอดเวลาบาร์บาร่าก็เป็นเจ้าหญิงบุญทุ่ม  ประดังเงินทอง ของขวัญ และเช็คเงินสดจำนวนมากๆ ให้สามีตามแต่เขาจะปะเหลาะเอาจากเธอ

เงินทองของบาร์บาร่า เหมือนน้ำตกไนแอการาไหลพลั่งๆไม่รู้จบ  เมื่ออายุครบ 21 เธอได้มรดกจากย่าเป็นมูลค่า 42 ล้านดอลล่าร์ คือเท่ากับ 2-2.5 พันล้านในยุคนี้ บวกขึ้นไปจากเงิน 50 ล้านดอลล่าร์ของเดิมที่พ่อเอาไปลงทุนไว้เป็นอย่างดี จนงอกเงยขึ้นมาอีก 
ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจตกต่ำเป็นประวัติการณ์ของโลก   กิจการของพ่อและห้างวูลเวิร์ธก็ยังประคองตัวเองให้รอดไปได้ ไม่ล้ม    ออกดอกผลให้เธอมีรายได้เงินสดไหลเข้ากระเป๋าสบายๆปีละ 1.7 ล้านดอลล่าร์โดยไม่ต้องกระดิกตัวทำอะไร    :'( :'( :'(
ในยุคที่บ้านใหม่ๆขายราคาหลังละสามพันถึงห้าพันดอลล่าร์  รถยนต์ใหม่ราคาคันละหกร้อยกว่าเหรียญ และน้ำมันราคาแกลลอนละ 10 เซ็นต์    ถ้าหากว่าเป็นทุกวันนี้ รายได้เฉพาะดอกเบี้ยแต่ละปีของเธอก็น่าจะซื้อศูนย์การค้าดีๆ เอาไว้มาดูเล่นได้ปีละแห่ง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 07 ก.ย. 12, 13:06
คุณครูน่ารักและใจดีจังครับ
ว่าแต่ว่า "สอนถี่ยิบ" หมายถึง "ตั้งใจสอน" ใช่ไหมครับ?


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 12, 18:44
แปลว่า ถ้ามีคนแวะเข้ามาแจมก็จะขยันเล่าเรื่องถี่หน่อย   ถ้าไม่มีใครก็โพสต์เรื่องช้าหน่อยตามสบาย  เรื่อยๆมาเรียงๆ ค่ะ

กลับมาเล่าถึงมหาเศรษฐินีของเราต่อนะคะ
ในเมื่อมีเวลาว่างอย่างมหาศาลอยู่ในมือ   ไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆ    บาร์บาราจึงใช้เวลาฮันนีมูนยาวนานถึง 1 ปี ด้วยการท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ  ตามประเทศโน้นประเทศนี้   สลับกับงานเลี้ยงรื่นเริงไม่เว้นแต่ละคืน     เธอฉลองวันเกิดปีที่ 22 ด้วยงานปาร์ตี้เชิญแขกถึง 2000 คนที่โรงแรมหรูระยับชื่อโฮเต็ลริทซ์ในปารีส   หมดเงินไปกี่ล้านไม่ต้องคำนึงถึง  

แต่ชีวิตวิวาห์ของบาร์บาร่ายาวมาได้ 1 ปี 7 เดือนก็ถึงกาลอวสาน      เธอเข้าโรงพยาบาลด้วยสาเหตุอะไรไม่แน่ชัด  ส่วนสามีก็ไม่ได้ไปเยี่ยม  แต่กลับไปสนามโปโลเพื่อเล่นกีฬาโปโลที่เขาโปรดปราน  ขี่ม้าราคาแพงที่ภรรยาเป็นคนซื้อให้       เหตุการณ์ตอนนี้ค่อนข้างคลุมเครือ   ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกันแน่น้ำผึ้งจึงขมขึ้นมา  รู้แต่ว่าหลังจากนั้น บาร์บาร่าฟ้องหย่าสามีที่เมืองรีโน รัฐเนวาดา  แล้วศาลตัดสินให้หย่าขาดจากกันได้เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม  ค.ศ. 1935
วันรุ่งขึ้น คือ  14 พฤษภาคม  เศรษฐินีสาวก็แต่งงานใหม่กับขุนนางชาวเดนมาร์ค ชื่อเคานต์ฟอน เฮกวิตซ์ -เร้นท์โลว์   รวดเร็วทันใจ  เอากะเธอซี

ส่วนเจ้าชายกำมะลอเจ้าแรกนั้น   ยังไม่ทันจะใช้เงินได้สมกับที่กอบโกยมาให้สมอยากเลย แค่สามเดือนต่อมา ควบโรลซรอยซ์ด้วยความเร็วสูงเกินไปหน่อยก็เลยพลิกคว่ำ รถตกลงไปในคูข้างถนน    ตายคาที่

ภาพล่างนี้คือท่านเคานท์ชื่อเรียกยาก  สามีคนที่สอง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 12, 22:23
คุณสิริณาวดี ยังอยู่หรือเปล่าคะ    เงียบไปเลยค่ะ
ถ้าเริ่มง่วง มีของมาปลุกให้ตาสว่างนะคะ

ภาพข้างล่างนี้อาจจะดูคล้ายๆอะไรที่ไชยา มิตรชัยเคยสวมอยู่บนเวที    แต่ว่ามันต่างกันตรงที่สร้อยคอเพชรเส้นนี้นอกจากเป็นของแท้ทุกเม็ดแล้ว  ยังเป็นสร้อยคอของเก่าชิ้นงามในประวัติศาสตร์  ซึ่งเพิ่มมูลค่าของมันอีกไม่รู้ว่าเท่าไหร่
มันเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นเพชรของบาร์บาร่า ฮัตตัน    สำหรับเธอแล้ว  อะไรที่เงินซื้อได้ เธอก็ย่อมได้มาเสมอ ไม่ว่าราคามหาศาลขนาดไหน


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 07 ก.ย. 12, 23:15
คุณครูครับขอกลับไปถูบ้านก่อนนะครับ พรุ่งนี้จะมาเรียนใหม่ครับ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: awork ที่ 08 ก.ย. 12, 03:38
มาแสดงตัว ขอตามติดชีวิตของเศรษฐินีผู้แสนอาภัพคนนี้ด้วยอีกคนครับ อาจารย์เทาชมพู ตามอ่านมาตั้งแต่แรก และรอคอยต่อไปว่า ตกลงเป็นโชคชะตาที่กลั่นแกล้ง หรือเป็นการกระทำจากปมในชีวิตของหล่อนกันแน่ ที่พาหล่อนไปพบจุดจบที่ไม่สวยงามอย่างที่คาดไม่ถึง อาจารย์เทาชมพูเล่าเรื่องได้สนุกมากเลยครับ  ;D


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: giggsmay ที่ 08 ก.ย. 12, 08:20
 :-Xเค้าอาภัพหรือว่าทำตัวเองคะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: sirinawadee ที่ 08 ก.ย. 12, 10:48
กำลังฟังอย่างตั้งใจ อาจารย์เรียกหานักเรียนสะดุ้งเลยค่ะ

น่าสงสารเธอนะคะ ชีวิตอาจจะดูพรั่งพร้อมด้วยเงินทอง แต่เด็กที่โตมาอย่างอ้างว้าง พี่เลี้ยงนางนมเลี้ยงตามหน้าที่ ไม่มีใครดูแลสั่งสอนด้วยความรักความห่วงใยจริงๆ พอมีใครเข้ามาก็พร้อมจะรักจะทุ่มเทให้.. เธอเติบโตมาด้วยเงิน ก็คงคิดว่าเงินซื้อความรักจากคนรอบข้างได้

นึกภาพเด็กน้อยไปพบแม่ในสภาพอย่างนั้นแล้วน้ำตาจะไหลค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 12, 18:27
นักเรียนรายงานตัวกันสลอน   ;D

ก่อนหน้านี้  ไม่ว่าไปไหน  ใครๆก็เรียกบาร์บาร่าว่า เจ้าหญิงบาร์บาร่า ชายาของเจ้าชายอเลกซิส    แต่เธอก็ตัดสินใจครองตำแหน่งเจ้าหญิงอยู่แค่ 1 ปี 7 เดือนก่อนสละออกไป     แต่จะว่าเธอตกชั้นกลับมาเป็นนางบาร์บาร่า ฮัตตันนั้นไม่ใช่แน่นอน   ตำแหน่งใหม่รออยู่แล้ว  ให้ใครๆเรียกว่า "คุณหญิง" หรือเคานเตสบาร์บาร่า ฟอน  เฮกวิตซ์ -เร้นท์โลว์
สามีคนใหม่ของเธอขุนนางชาวเดนมาร์ค   แม้ว่าไม่ได้เป็นเจ้าอย่างคนแรก เขาก็เป็นผู้ดีมีตระกูลของแท้   ไม่น่าเคลือบแคลงอย่างอเลกซิส
แต่ไม่รู้ว่าจะโทษดวงของบาร์บาร่า หรือโทษนิสัยใจคอกันแน่   ทั้งๆบาร์บาร่าเกิดมาท่ามกลางความหรูเลิศทุกกระเบียดนิ้ว   ทุกอย่างที่ถูกนำมาวางแทบเท้าเธอล้วนแต่เกรด A ไร้เทียมทาน ตั้งแต่จานชามไปจนเครื่องเพชร      แต่พอมาถึงความรักและคู่ครอง  เธอก็ดันไปเลือกเกรด F เข้าจนได้    ซ้ำร้าย ยังเป็น F ตามด้วยเครื่องหมายลบ   เพราะสามีคนที่สองนี้เลวหนักข้อยิ่งกว่าคนแรกเสียอีก


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 08 ก.ย. 12, 18:37
ตอนนี้นักเรียนโข่งทั้งเนื้อทั้งตัวมีไม่กี่หมื่น เลยใช้ยังไงก็ใช้ไม่หมด เพราะใช้วิธีไถตังค์พ่อแม่เอา  แต่ถ้ามีเป็นหมื่นๆ ล้าน  อย่างผมน่าจะพลาญให้เหลือเป็นไม่กี่หมื่นบาทได้ไม่ยาก แต่อาจจะใช้เวลาหลายปีหน่อยครับ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 12, 19:18
เคานต์เร้นท์โลว์เป็นผู้ชายถ่อยทั้งวาจาและการกระทำ จนไม่น่าเชื่อว่าอยู่ในตระกูลผู้ดี      นับเป็นความซวยของบาร์บาร่าที่แต่งงานกันไม่ทันไร สามีก็เลี้ยงเธอด้วยลำแข้งและลำเข่า   บวกด้วยวาจาหยาบคายด่าว่าสารพัด     เขามีพฤติกรรมไม่ผิดอะไรกับแมงดาปีกทองที่วางอำนาจเหนือผู้หญิงไม่ให้เธอโงหัวขึ้นมาได้    เพื่อจะได้เกาะกินเงินทองอย่างหน้าเฉยตาเฉย โดยเธอหือไม่ขึ้น

เขาบงการให้บาร์บาร่าสละสัญชาติอเมริกันไปถือสัญชาติเดนมาร์คตามเขา   โดยบอกว่าจะได้ไม่ต้องเสียภาษีแพงๆให้อเมริกา   เธอก็จำต้องยอม  อย่างลูกไก่ในกำมือ

ความเลวร้ายของเร้นท์โลว์มีถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้งกันในครั้งหนึ่ง  เขาทุบตีภรรยาหนักมือ จนเธอต้องไปนอนให้น้ำเกลือในโรงพยาบาล  ส่วนเขาเข้าตะรางไปพักหนึ่งด้วยข้อหาทำร้ายร่างกาย     แต่สามีภรรยาคู่นี้ก็ยังทู่ซี้อยู่ด้วยกันมาจนกระทั่งมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน  เป็นทายาทคนเดียวของบาร์บาร่า ชื่อแลนซ์  เร้นท์โลว์ เกิดเมื่อค.ศ. 1936 เมื่อแม่อายุ 24 ปี


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 12, 10:48
ทายาทมหาเศรษฐีมักจะเกิดยาก   ในกรณีนี้ กว่าพ่อหนูจะคาบช้อนเพชรออกมาชมโลก  แม่ก็แทบเอาชีวิตไม่รอดจากการผ่าตัดหน้าท้อง ซึ่งสมัยนั้นไม่ได้สะดวกง่ายดายอย่างสมัยนี้   เคราะห์ดีที่เธอมีเงินมหาศาลพอจะจ้างสูติแพทย์ชั้นเยี่ยมและทีมงานให้ประคบประหงมจนรอดมาได้ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

มีลูกน้อยได้ไม่นาน   บาร์บาร่าเกิดความกลัวที่ถูกข่มขู่ว่าจะจับลูกเธอไปเรียกค่าไถ่    บ้านที่อยู่แถวมาร์เบิล อาชก็เริ่มร้อน  ไม่อยากอยู่อีกต่อไป  เธออยากจะไปอยู่ที่อื่นที่ใหญ่โต และมั่นคงปลอดภัยกว่าเดิม   ก็เลยเที่ยวหาทำเลใหม่จนกระทั่งเจอที่ดินผืนงามเข้าผืนหนึ่งเนื้อที่ 12.5  เอเคอร์ใจกลางกรุงลอนดอน ติดกับรีเจนท์สปาร์ค   มีบ้านเก่าแก่แบบรีเจนซีที่ถูกไฟไหม้ครึ่งๆ ทิ้งร้างอยู่     ไม่ต้องสงสัยอีกว่าราคาที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้ใจกลางมหานครจะแพงมหาโหดขนาดไหน   


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 12, 10:51
สำหรับบาร์บาร่า  คำว่าแพงไม่เคยมีในสมองเธอ มาแต่ไหนแต่ไร    เธอก็เลยดำเนินเรื่องกับเทศบาลขอรื้อบ้านเก่าทิ้งแล้วสร้างคฤหาสน์ขึ้นใหม่เป็นแบบจอร์เจียน ก่ออย่างอลังการด้วยอิฐสีแดง   เรียกสถาปนิกและมัณฑนากรเจ้าเดิมจากนิวยอร์คที่เคยออกแบบตกแต่งบ้านของเธอที่นั่น    ให้บินข้ามมหาสมุทรมาออกแบบตกแต่งบ้านใหม่ที่เธอให้ชื่อว่า Winfield House    ซึ่งก็ออกมาโก้หรูสมใจ
Winfield House ยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ในสภาพหรูหราเช่นเดิม       ปัจจุบันทางการของสหรัฐอเมริกาได้รับมอบจากเจ้าของ  จึงกลายมาเป็นบ้านพักของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหราชอาณาจักร


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 09 ก.ย. 12, 10:55
 .... มีบ้านเก่าแก่แบบรีเจนซีที่ถูกไฟไหม้ครึ่งๆ ทิ้งร้างอยู่     ไม่ต้องสงสัยอีกว่าราคาที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้ใจกลางมหานครจะแพงมหาโหดขนาดไหน   

"คุณครูคั๊าบ" นักเรียน 'Sujittra' ยกมือถามกลางคัน "บ้านแบบรีเจนซี เป็นยังไงค๊าบ และทำไมเรียกว่า บ้านรีเจนซีค๊าบ"


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 12, 13:03
บ้านแบบรีเจนซี  (Regency)ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบรั่นดีไทย  แต่หมายถึงสไตล์ของบ้านที่สร้างสมัยช่วงต้นศตวรรษที่ 19  ตรงกับสมัยที่เจ้าฟ้าชายจอร์ช พระโอรสของพระเจ้าจอร์ชที่ 3 ทรงสำเร็จราชการ (regent)แทนพระบิดา ซึ่งวิกลจริตไม่สามารถว่าราชการเองได้    จึงเรียกว่าสไตล์รีเจนซี่ค่ะ 
เจ้าฟ้าชายจอร์ชต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจอร์ชที่ 4  เป็นลุงของสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย

บ้านแบบรีเจนซีมีลักษณะเฉพาะตัวเช่นขนาดสูง 2หรือ 3  ชั้น   หลังคาแบบปั้นหยา (hip roof) มีปล่องไฟอยู่ด้านข้างแทนที่จะอยู่ตรงกลางหลังคา  นิยมสร้างหน้าต่างแปดเหลี่ยมเหนือประตู   มีหน้าต่างกระจกสองชั้นชนิดเลื่อนขึ้นลงได้ ฯลฯ  แบบนี้ละค่ะ
ถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ต้องเรียนถามท่านสถาปนิกใหญ่ในเรือนไทย


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 09 ก.ย. 12, 16:15
"คุณครูน่ารักจังคับที่ช่วยอธิบาย ผมเข้าจายแล้วฮับ"


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 12, 21:09
ขอบรรยายถึงบ้านของบาร์บาร่าอีกนิดค่ะ
ตั้งแต่เด็ก  บาร์บาร่าเป็นเด็กขี้อายและช่างฝัน  ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเอง  เธอจึงมักวาดฝันตัวเองเป็นเจ้าหญิงน้อยๆเหมือนในเทพนิยายที่เคยอ่าน    เมื่อมีเงินเป็นตะเกียงวิเศษ   โตขึ้นเป็นสาวเธอก็ 'เนรมิต' ชีวิตเหมือนฝันให้ตัวเอง  ไม่ว่าจะเป็นคู่ครอง หรือว่าบ้านช่องห้องหอ
Winfield House เป็นปราสาทหลังที่สองของเธอนอกเหนือจากบ้านคุณตาที่ลองไอส์แลนด์ชื่อ Winfield  Hall   บาร์บาร่ามีรสนิยมดีในการสะสมของแพง เพราะเธออยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด  ภายในบ้านจึงเลอเลิศไปด้วยเครื่องเรือนหลุยส์ของแท้สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16   พื้นปูพรมเปอร์เชียราคาแพงลิบลิ่ว   และเครื่องลายครามกับศิลปวัตถุชิ้นงาม     ส่วนตัวบ้านก็ตกแต่งเลือกสรรคแล้วด้วยเพดานแบบฝรั่งเศสศตวรรษที่ 18   พื้นปาเก้ต์ไม้โอ๊ค และห้องน้ำหินอ่อนหรูหรา
ส่วนนอกของตัวบ้าน    บาร์บาร่าสั่งต้นไม้มาปลูกนับพันๆต้น ทั้งไม้พุ่มและไม้ดอกล้วนเนรมิตมาเร็วทันใจ    กำแพงรอบบ้านสูงสิบฟุต ติดระบบสัญญาณกันภัยแข็งแรงรอบบ้าน     
นอกจากนี้ เธอเป็นคนชอบจัดงานปาร์ตี้  บริเวณบ้านของเธอจึงมีสวนดอกไม้ที่สุดเป็นที่สองรองลงมาจากพระราชวังบัคกิ้งแฮม  เอาไว้จัดงานกลางแจ้ง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 10 ก.ย. 12, 08:17
คุณครูครับ แปดโมงเช้าแล้ว โรงเรียนเข้าแล้วครับ นักเรียนเต็มห้องแล้วครับ
คุณครูหายไปไหนครับ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: sirinawadee ที่ 10 ก.ย. 12, 14:35
อยากได้ A กะเค้าบ้าง อาจารย์ยังไม่มา นักเรียนก็รอค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 12, 17:58
   ไม่มีใครรู้ว่าความหรูเริ่ดอลังการที่รายล้อมตัวเธออยู่เป็นสิ่งที่พระพรหมชดเชยให้ความขาดแคลนในใจบาร์บาร่าหรือเปล่า   เพราะเธอรวยในทุกเรื่องยกเว้นความสุขส่วนตัว    ความสุขใจกลายเป็นสิ่งยากไร้หาเท่าไรก็ไม่ได้   เธอตกเป็นลูกไก่ในกำมือสามี ผู้ชักนำให้เธอสละสัญชาติอเมริกันไปถือสัญชาติเดนมาร์ค เพื่อเลี่ยงภาษีจากสรรพากรอเมริกัน      ยังผลให้หนังสือพิมพ์ในอเมริกาก่นด่าเธอเสียไม่นับ    ธุรกิจของเธอเพิ่มพูนขึ้นมาจากผู้บริโภคชาวอเมริกันแท้ๆ     แต่พอจะต้องเสียภาษีบุคคลกลับคืนไปให้รัฐ กลับเลี่ยงไปว่าเป็นคนชาติอื่น แล้วไปเสียภาษี(ซึ่งถูกกว่า) ให้เดนมาร์คแทน
 
    นอกจากเรื่องนี้  เคานต์เร้นโลว์ยังเป็นสาเหตุชักนำให้บาร์บาร่าติดยาจนถอนตัวไม่ขึ้น   ความกดดันอย่างหนักทำให้เธอป่วยเป็นโรค  Anorexia Nervosa    โรคนี้แปลง่ายๆว่าโรคกลัวอ้วน   คนป่วยแม้ว่าตัวเองไม่ได้อ้วน บางคนอาจจะผอมด้วยซ้ำไป    แต่ก็เชื่อฝังใจว่าตัวเองตุ้ยนุ้ยกว่าที่ควร  บางคนก็ไม่ยอมกินอะไรจนหนังหุ้มกระดูก   บางคนก็ไปติดยาลดความอ้วน   
    โรคอานอเร็คเซียเป็นโรคเรื้อรังติดตัวบาร์บาร่าไปจนตาย     ดูจากรูปเธอ  จะเห็นว่าไม่มีวัยไหนเลยที่ผู้หญิงคนนี้อ้วน หรือแม้แต่มีเนื้อหนังอวบอิ่มเมื่ออายุมากขึ้น  เธอผอมตลอด


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 10 ก.ย. 12, 18:03
เมื่อเช้าก็เพิ่งได้ข่าวว่า มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าของ หลุยส์ วิตตอง ได้ขอโอนสัญชาติไปเป็นเบลเยี่ยม ข่าวว่าเพื่อเลี่ยงภาษีแต่เจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ใช่
พูดถึง anorexia nervosa ก็อดนึกถึง Karen Carpenter ไม่ได้ เธอก็เสียชีวิตเพราะโรคนี้


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 12, 09:39
ตัวอย่างผู้ป่วยเป็นอานอเร็คเซีย  น่ากลัวมากค่ะ  ถ้าเจอเข้าจังๆในที่มืด   อาจจะต้องวิ่งหนีเพราะนึกว่าเจอผี
เคราะห์ดีบาร์บาร่ายังไม่ป่วยมากถึงขั้นนี้   ดูจากรูปเธอก็เพรียวค่อนข้างผอมอย่างผู้หญิงสาวที่รักษาหุ่นไว้อย่างดี


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 12, 09:56
   บาร์บาร่าทนทุกข์ทรมานอยู่กับสามีคนที่สองได้ 3 ปี   ก็หมดความอดทน  
   เธอตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลแยกทาง  เพื่อจะกลับไปทำเรื่องหย่าขาดในอเมริกา      ไม่รู้ว่าเธอต้องจ่ายเงินไปมากมายมหาศาลเท่าใดจึงได้ตัวแลนซ์ ลูกชายคนเดียวมาอยู่ในความดูแลของแม่ โดยพ่อไม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย      
   ในค.ศ. 1939 จู่ๆเยอรมันก็บุกโปแลนด์แบบสายฟ้าแลบ    ทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศคู่สงครามไปโดยอัตโนมัติ เพราะเคยทำสัญญาเอาไว้ว่าถ้าหากว่าโปแลนด์ถูกรุกรานจะให้การช่วยเหลือ    
   บาร์บาร่าหวาดกลัวภัยสงครามที่ทอดเงามาถึงลอนดอน    เธอก็เลยตัดสินใจละทิ้งคฤหาสน์หลังงามในอังกฤษ   พาลูกชายตัวน้อยเดินทางกลับไปลี้ภัยสงครามในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเธอแน่ใจว่าสงครามข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคไปไม่ถึง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 12, 10:36
  เมื่อไปถึงนิวยอร์ค   ก้าวแรกบาร์บาร่า ผู้ยังมีตำแหน่งนำหน้าว่าเคานเตสโฮกวิตซ์-รีเวนท์โลว์ เพราะยังไม่ได้หย่าขาดจากสามี  ก็ปะทะเข้ากับกลุ่มคนงานสหภาพแรงงานของร้านวูลเวิร์ดทั่วประเทศ  ยกโขยงกันมาถือป้ายเขียนข้อความว่า
  " นี่แม่แบ๊บส์   เราหาเลี้ยงปากท้องด้วยเงินแค่อาทิตย์ละ $15.60    หล่อนทำได้ไหม?"
  นับเป็นการตบหน้าเศรษฐินีเข้าฉาดใหญ่ต่อหน้าสาธารณชนอย่างไม่มีอะไรเท่า   บาร์บาร่าดำเนินนโยบายแก้ภาพลักษณ์ของเธอด้วยการบำเพ็ญสาธารณกุศลเป็นการใหญ่   เธอบริจาคเงินช่วยเหลือกองกำลังอิสระของฝรั่งเศสที่ต่อต้านเยอรมัน   บริจาคเรือยอทส่วนตัวให้รัฐบาลสหรัฐ   ตัวเธอเองก็อาศัยความกว้างขวางในสังคมไฮโซ ช่วยรณรงค์ขายพันธบัตรของรัฐบาล    ผลก็คือบาร์บาร่าได้เสียงสะท้อนในทางดีกลับมาจากสื่อ  พอจะทำให้หนังสือพิมพ์เลิกแคะไค้เรื่องสมรสอื้อฉาวทั้งสองครั้งได้
   ในเมื่อรณรงค์ทำงานสาธารณกุศลให้สังคมอย่างแข็งขัน     บาร์บาร่าก็ต้องเข้าไปคลุกคลีกับสังคมคนดังในอเมริกาหลายสังคมด้วยกัน  รวมทั้งสังคมฮอลลีวู้ด   เธอก็เลยย้ายไปอยู่คาลิฟอร์เนีย     ที่นี่เองเธอก็มีโอกาสได้พบชายในดวงใจคนใหม่ ซึ่งสาวๆอเมริกันคลั่งไคล้กันทั่วประเทศ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ก.ย. 12, 11:43
คั่นรายการรออาจารย์เล่าเรื่องสามีดาราลำดับที่สาม ครับ

          เคยดูซีรีส์ Poor Little Rich Girl: The Barbara Hutton Story (1987)
 ทางช่องสาม  Farrah Fawcett  รับบทเป็น  Barbara Hutton 


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ก.ย. 12, 11:44
          Nicholas Clay(นักแสดงหนุ่มจากเรื่อง Excalibur และ Lady Chatterlley's Lover)
เป็น  Prince Alexis Mdivani


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ก.ย. 12, 11:52
       และ สามีคนที่สามที่เป็นถึงราชาแห่งฮอลลีวู้ด - Hollywood's king of romantic comedy
            Cary Grant รับบทโดย James Read


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 12, 14:11
    ใช่ค่ะ  แครี่ แกรนท์เป็นดาราชายแถวหน้าของฮอลลีวู้ด  รูปหล่อ สูงใหญ่มีสง่า  เล่นหนังประเภทรักหวานๆ สนุกๆได้เก่งเป็นพิเศษ จนมีแฟนคลับสาวๆคลั่งไคล้กันทั่วประเทศ     เขาพบบาร์บาร่าหลังจากหย่าขาดจากภรรยานักแสดงมาไม่นานเท่าไหร่  ใช้ชีวิตอย่างชายโสดเจ้าสำราญอยู่สักพักก็มาปิ๊งกันเข้ากับเศรษฐีนีอเมริกันจากยุโรป  ผู้มีตำแหน่งนำหน้าว่า "เคานเตส"
    เมื่อเริ่มต้นคบหากัน แครี่เข้ากับลูกเลี้ยงได้สนิทสนมกลมเกลียวกันดีมาก  จนเด็กน้อยเรียกตัวเองว่า แลนซ์ แกรนท์  เหมือนอีกฝ่ายเป็นพ่อบังเกิดเกล้า     เขาเป็นผู้ชายใจดีและจริงใจ แตกต่างไปจากสามีสองคนก่อนอย่างตรงข้าม

    ชีวิตสมรสครั้งที่สามของบาร์บาร่าเป็นไปอย่างเงียบเชียบและเรียบง่ายที่สุด      ผู้จัดการของแครี่ แกรนท์ให้ยืมบ้านสวยนอกเมืองของเขาเป็นที่ประกอบพิธี     พระผู้ประกอบพิธียังไม่รู้เสียด้วยซ้ำเมื่อมีผู้มาเชิญไปทำพิธีแต่งงาน ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นใครกันแน่     มารู้เอาตอนเดินทางไปเกือบถึงงานแล้ว
    บาร์บาร่าไม่ได้แต่งชุดเจ้าสาว แต่สวมสูทสีน้ำเงินกรมท่า    เช่นเดียวกับแครี่ ก็ไม่ได้แต่งทักซีโดเจ้าบ่าว แต่สวมสูทเหมือนนักธุรกิจแบบเดียวกัน    เป็นพิธีแต่งงานที่เรียบง่ายรู้กันไม่กี่คนเฉพาะเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าว    ก่อนจะกลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วอเมริกาในวันรุ่งขึ้น


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 12 ก.ย. 12, 15:16
เรื่องนี้ติดตามไปด้วยความสนุกสนาน ขณะเดียวก็ด้วยความห่อเหี่ยว เพราะทราบว่าจุดจบนั้นแสนเศร้า... :'(


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.ย. 12, 16:42
    ในตอนต้นทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี    สามีคนที่สามของบาร์บาร่ามีชื่อเสียงด้วยตัวเองมากพอที่จะไม่ต้อง "เกาะ" ความดังของภรรยา   เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกดีที่มีคนเรียกเธอว่า "คุณนายแครี่ แกรนท์"  มากกว่าจะมีคนเรียกฝ่ายชายว่า "สามีของบาร์บารา ฮัตตัน" อย่างสองคนแรก
      อย่างไรก็ตาม  พื้นฐานของทั้งคู่ห่างไกลกันลิบลับ
      แม้ว่าแครี่ แกรนท์ เป็นดาราขวัญใจสาวอเมริกันทั่วประเทศ  แต่เขาไม่ใช่คนอเมริกัน หากเป็นคนอังกฤษโดยกำเนิด   เกิดมาในครอบครัวคนยากจนระดับล่างในเมืองบริสตอล     พออายุ 14 ก็ออกจากโรงเรียน ทิ้งบ้านติดตามคณะละครเร่ไปแสดงทั่วอังกฤษ    จากนั้นพออายุ 16  ก็ได้ติดตามมาแสดงกับคณะนี้ที่บรอดเวย์ นิวยอร์ค  ซึ่งเผอิญประสบผลสำเร็จดี  ได้เล่นถึง 456 รอบ เป็นเหตุให้หนุ่มน้อยชาวอังกฤษได้พัฒนาตัวเองในละครบรอดเวย์จนกลายเป็นหนุ่มเต็มตัว    
     พรสวรรค์เริ่มฉายแสงในบทบาทหนุ่มรูปหล่อ มาดหนุ่มลูกกรุง ขี้เล่นแต่ก็สง่างาม   มีเสน่ห์ชวนใจให้สาวน้อยสาวใหญ่หลงใหล    เขาจึงได้ก้าวเข้าสู่วงการหนังฮอลลีวู้ดในเวลาต่อมา    แล้วกลายเป็นดาราแถวหน้าในยุคนั้น  
     แต่ในด้านส่วนตัวเขาก็ยังเป็นหนุ่มติดดิน  มีการศึกษาน้อย แต่พยายามเรียนรู้ด้วยการอ่านหนังสือ          ส่วนบาร์บาร่าก็อย่างที่รู้กันมาคือเป็นเจ้าหญิงเราดีๆนี่เอง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.ย. 12, 16:52
      ชีวิตสมรสของบาร์บาร่าครั้งที่สามน่าจะไปได้ด้วยดี   เพราะแครี่ แกรนท์รักเธอด้วยน้ำใสใจจริง  ไม่ได้หวังผลประโยชน์    ความจริงถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไป  มีสามีทั้งหล่อ รวย  เก่ง  มีชื่อเสียง  แถมรักภรรยาจริง  แค่นี้ก็มากพอแล้วที่ภรรยาจะขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น   มีอะไรขาดตกบกพร่องเล็กๆน้อยๆก็พอจะหยวนๆกันได้    เพราะที่มีเยอะๆให้กันนั้น  มันก็มากมายพอจะชดเชยกันได้ชนิดเหลือกินเหลือใช้อยู่แล้ว
    แต่บังเอิญบาร์บาร่าไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปเสียด้วยซีคะ
    อย่างแรกคือภูมิหลังที่แตกต่างกัน ทำให้ยากจะผสมกลมกลืนกันได้       บาร์บาร่ายังติดนิสัยหรูเริ่ดตามแบบที่เคยอยู่มาตลอดชีวิต   ยังติดยศติดตำแหน่งสูงศักดิ์อย่างที่เคยมีมา   ขณะที่แครี่ แกรนท์ไม่มีนิสัยเห่อยศเห่อศักดิ์เอาเลย
    อย่างที่สองคือเมื่อเธอรักใคร เธอก็ติดเขาแจ   เรียกร้องให้เขาอยู่ใกล้ๆแทบกระดิกไปไหนไม่ได้     เหมือนเด็กติดพี่เลี้ยง    ส่วนแครี่เหมือนผู้ชายทั่วไปที่อยู่ในวัยทำงาน   เขามีอาชีพที่ต้องทุ่มเทเวลาให้เต็มที่เพื่อรักษาสถานภาพดาราเอาไว้    ไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆเป็นคุณชาย ปีๆเอาแต่ไปท่องเที่ยวกับภรรยาอย่างสามีสองคนแรกของบาร์บาร่า   บางครั้งเขาก็ต้องไปถ่ายหนังต่างรัฐ หรือต่างประเทศครั้งละนานๆเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน     

      ในเมื่อปรับตัวเข้าหากันไม่ได้   ชีวิตสมรสก็จบลงด้วยการหย่าขาดจากกันเมื่อค.ศ. 1945  คืออีก 3 ปีต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงพอดี


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.ย. 12, 16:55
    เมื่อหย่ากัน  แครี่ แกรนท์พิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายของแท้ โดยไม่แตะต้องส่วนแบ่งสินสมรสจากทรัพย์สินภรรยาเลยแม้แต่สตางค์เดียว    ทั้งสองจากกันฉันมิตร ไม่มีการทะเลาะวิวาททุบตีแตกร้าวกันให้เป็นข่าวอื้อฉาว     นอกจากนี้แครี่ แกรนท์ก็ยังดำรงมิตรภาพกับลูกเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ  ทั้งสองยังคงติดต่อกันต่อมาเหมือนญาติสนิทจนกระทั่งแลนซ์ตายจากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่ออายุ 36 ปี   พอรู้ข่าว เขาเศร้าโศกเสียใจมาก   เดินทางไปช่วยอดีตภรรยาจัดงานศพให้ลูกเลี้ยงเหมือนเป็นลูกแท้ๆของเขา

     เมื่อจบชีวิตคู่กับสามีคนที่สาม    เจ้าหญิงของเราก็ลอยละล่องกลับไปสู่ความเป็นเจ้าอีกครั้ง   สามีคนที่สี่ของเธอผู้เป็นเจ้าชาย (อีกแระ!)  เข้าคิวรออยู่แล้ว


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Ratananuch ที่ 12 ก.ย. 12, 17:14
โธ่เอ๊ย บาร์บารา ตอนแรกนึกว่าในชีวิตเธอ ไม่เคยพบผู้ชายดีๆสักคน ที่ไหนได้พบแล้ว กลับทำหลุดมือเสียอีก
ถ้าเธอปรับตัวได้ และได้อยู่กลับสามีคนที่ 3 นี้ไปตลอดชีวิต ชีวิตคงพลิกผันไปอีกแบบ เป็น บาร์บาร่าผู้ที่มีความสุขที่สุดในโลก


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ย. 12, 08:49
     เมื่อหย่าจากแครี่ แกรนท์   บาร์บาร่าก็พาลูกชายย้ายออกจากคาลิฟอร์เนียไป  กลับไปอยู่บ้านของเธอทางรัฐตะวันออก    เพื่อแวดล้อมด้วยเพื่อนฝูงไฮโซที่เรียกว่าพวกเจ๊ทเซ็ทเหมือนเดิม   
      ในปีเดียวกันนั้นเอง  ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ย่างก้าวเข้ามาสร้างสัมพันธ์ด้วย
      หนุ่มคนนี้ชื่อเฟรดเดอริค แมคอีวอย หรือ"เฟรดดี้"   เขาเป็นคนดังในสังคมไฮโซ  มีชื่อเสียงในฐานะนักกีฬาแข่งรถระดับโลก   เป็นหนุ่มสังคมมาดโก้  เป็นเพลย์บอย  เป็นอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างรวมทั้งเป็นแมงดาปีกทองฝังเพชร    ชอบไล่จับผู้หญิงรวยๆ เพื่ออะไรไม่ต้องอธิบายให้มากความ
     พอเป็นหนุ่ม  เฟรดดี้ก็แต่งงานกับภรรยาคนแรกที่แก่กว่าเขา 2 เท่า   สังคมนินทากันกระหึ่มว่าเขาแต่งงานด้วยเพื่อเอาทรัพย์สินมาเพิ่มในกระเป๋าก่อนจะหย่ากันไป   คนล่าสุดที่เขาเพิ่งหย่าเป็นลูกสาวเศรษฐีอายุแค่ 18 ปี  เธอหนีตามเขามา เพราะพ่อขัดขวางไม่ยอมให้แต่ง     ต่อมาพ่อตาใจเด็ดตัดลูกสาวออกจากกองมรดกจริงๆ จนเธอเหลือแต่ตัว    เขาก็ทิ้งเมียสาวคนนี้ใน 2 ปีต่อมา
     ระหว่างกำลังรอขั้นตอนหย่าขาดให้เบ็ดเสร็จ  เขาพบม่ายทรงเครื่องพันล้านอย่างบาร์บาร่าเข้า      มีหรือที่คนอย่างเฟรดดี้จะปล่อยให้โอกาสงามนี้ผ่านไปเฉยๆ     เขาก็โผเข้าเกาะทันที
     รูปข้างล่าง   เฟรดดี้ แม็คอีวอย


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ย. 12, 09:43
เพื่อนฝูงไฮโซของบาร์บาร่าพากันเตือนปากเปียกปากแฉะให้เธออยู่ห่างๆสิบแปดมงกุฎรายนี้      แต่ไม่ได้ผล   นางเอกของเราเกิดถูกตาต้องใจในตัวเฟรดดี้เสียแล้ว  เพื่อนๆก็เลยรั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่
ถ้าถามว่าทำไมบาร์บาร่าถึงอยากเป็นแมงเม่าอยากบินเข้ากองไฟ   คำตอบคือมิใช่ว่าเธออยากได้แมงดามาบงการชีวิต     แต่เป็นเพราะสเป๊คผู้ชายที่เธอต้องการ เกิดตรงกับคุณสมบัติของเฟรดดี้   เขาเป็นคนอ่อนหวาน เอาใจเก่ง    รู้ใจผู้หญิงอย่างเธอ ชนิดพูดอะไรทำอะไร ก็เข้าอกเข้าใจกันดีไปเสียทุกเรื่อง
และอย่างที่สองคือสิบแปดมงกุฎรายนี้เป็นนักรักที่ช่ำชองพอจะทำให้บาร์บาร่าละลายเหมือนต้องมนตร์     

บาร์บาร่าอาจจะรู้ว่าคุณสมบัติสองอย่างนี้หาได้ง่ายมากในหมู่แมงดาปีกทอง     แต่ถึงรู้ก็ไม่แคร์อยู่ดี    สำหรับเธอ  เงินไม่สลักสำคัญมาแต่ไหนแต่ไร    ผู้ชายที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นได้เป็นสิ่งสำคัญกว่า  ดังนั้นมีปีกทองจึงเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไม่ต้องเอามาคำนึงถึง 

รูปนี้คือแวดวงเจ๊ทเซ็ทของบาร์บาร่า   


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ย. 12, 11:33
    บาร์บาร่าใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเฟรดดี้ตั้งแต่ปี 1945 คือหลังจากหย่าจากแครี่ แกรนท์     เธอซื้อสกีชาเลต์โก้หรูในเมืองแฟรนโคเนีย  รัฐนิวแฮมป์เชอร์ให้เป็นสมบัติของเขา(ตามเคย)    แต่ก็ค่อยยังชั่วหน่อย ที่เธอไม่ได้แต่งงานด้วย   อาจจะเป็นเพราะฉลาดขึ้นนิดหน่อย   หรือว่าเฟรดดี้ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์นำหน้าอย่างที่เธอชอบ    เมื่อแยกทางกันไปแต่งงานกับคนอื่น   ต่างคนจึงยังคงรักษามิตรภาพเอาไว้ได้
    เฟรดดี้อายุสั้น    ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อปี 1951 

    หน้าตาชาเล่ต์ที่แฟรนโคเนียเป็นแบบนี้ค่ะ   เห็นหลังย่อมๆแบบนี้เถอะ แพงลิบลิ่วทีเดียวเพราะตั้งอยู่ในเมืองตากอากาศ



กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ก.ย. 12, 15:06
      เมื่ออำลาจากเฟรดดี้  บาร์บาร่าย้ายจากอเมริกาไปอยู่ในปารีส   แม้สงครามโลกทำให้เมืองใหญ่ๆในยุโรปเหลือแต่ซาก  ปารีสก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองสุดหรูอยู่ดี      ส่วนบ้านวิลฟิลด์ในลอนดอนถูกระเบิดเสียหายอย่างหนัก   เธอไม่อยากสร้างใหม่อีก  ก็เลยบริจาคบ้านพร้อมที่ดิน 12.5 เอเคอร์กลางมหานครให้รัฐบาลอเมริกันไปฟรีๆ   แต่ทั้งนี้ขนหน้าแข้งของเศรษฐินีก็มิได้ร่วงไปแต่อย่างใด   
      ความรวยเหลือล้นของบาร์บาร่ายังมีอยู่อย่างไรก็อย่างนั้น      เธอมีที่พักสุดหรูอยู่ทั้งในยุโรปและอเมริกา  ตัวเธอก็บินไปมาเป็นว่าเล่น   ถ้าไม่พำนักอยู่ที่ห้องชุดหมายเลข 35 ในโรงแรมริทซ์ ที่หรูเริ่ดที่สุดในปารีส    ก็เป็นห้องชุดที่ฟิฟอะเวนิวในนิวยอร์ค  นอกจากนี้เธอยังไปซื้อคฤหาสน์อีกแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองทันเจียร์ ในมอร็อคโค    หน้าตาน่าจะเรียกว่าวังมากกว่าบ้าน  ชื่อ  Sidi Hosni


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ก.ย. 12, 21:10
ในปารีสปี 1947 นี่เอง ผู้ชายไฮโซคนใหม่ย่างเข้ามาในชีวิตของบาร์บาร่า     เขามีอะไรคล้ายๆเฟรดดี้อยู่บ้างคือเป็นนักกีฬาระดับโลกเหมือนกัน  รายนี้ชอบเล่นสกีและชอบรถแข่งเป็นชีวิตจิตใจ     แต่ที่ไม่เหมือน คือเขามีบรรดาศักดิ์ชั้นเจ้าชายติดตัวมาด้วย   
เจ้าชายอิเกอร์  ไนโกลยะวิช ตราบุซกี (Prince Igor Nikolayevich Troubetzkoy) เป็นเจ้าชายไร้บัลลังก์ผู้มีกำเนิดในปารีส แต่ว่าสืบเชื้อสายมาจากประเทศลิธัวเนีย   ไม่รวย แต่ว่าเป็นคนดังจากชื่อเสียงทางด้านกีฬา    เมื่อรู้จักเศรษฐีนีสาวชาวอเมริกันเจ้าชายก็เข้าจีบทันที   ทั้งสองออกเดทกันไม่นาน  พอช่วงต้นปี 1948  เธอก็สมรสกับเขาที่ซูริค  สวิตเซอร์แลนด์

เรื่องของเจ้าชายไอเกอร์ไม่ค่อยมีอะไรให้กล่าวถึงนักค่ะ   เขาเป็นนักแข่งรถ  ก็หนักไปทางด้านฝึกซ้อมและลงสนามแข่ง โดยมีภรรยาสนับสนุนเรื่องการเงินอย่างเต็มที่    ปัญหากลับเกิดจากฝ่ายบาร์บาร่าเอง      เราคงจำได้ว่าเธอเริ่มติดยามาตั้งแต่อยู่กับสามีคนที่สอง   จนบัดนี้ก็ยังเลิกไม่ได้    แม้ว่าเจ้าชายจะพยายามให้กำลังใจ แต่อารมณ์แปรปรวนขึ้นๆลงๆของคนติดยาทำให้ไปกันไม่รอด 
หลังจากประคับประคองกันมา 4 ปี  ถึงค.ศ. 1951  เจ้าชายก็เป็นฝ่ายยื่นฟ้องขอหย่าขาดจากบาร์บาร่า    ติดตามมาด้วยข่าวกระฉ่อนไปทั่วโลกว่าเธอพยายามกินยาตาย
ทั้งคู่หย่ากันในค.ศ. 1951


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.ย. 12, 10:37
บาร์บาร่าไม่ได้โศกเศร้าเหงาหงอยอยู่กี่วันนัก    เงินทองมหาศาลเป็นกองไฟชักนำแมลงหนุ่มตัวใหม่โผบินเข้ามา     และ...ก็ตามเคย คุณ ratananuch อาจจะบ่นว่า "อีกแล้ว อะไรกันนักหนา"  คือผู้ชายที่เข้าตาเศรษฐินีสาวเป็นแมงดาปีกทองอีกจนได้

ปีกทองรายนี้ไม่ใช่คนหลักลอยอย่างเฟรดดี้   แต่มีเปลือกทองเคเคลือบไว้อย่างดีสำหรับเข้าสังคมไฮโซ  คือเป็นหนุ่มนักการเมืองและนักการทูตจากสาธารณรัฐโดมินิกัน ชื่อยาวเฟื้อยว่า  พอร์ฟิริโอ  รูบิโรซ่า (Porfirio Rubirosa)   เพื่อนๆเรียกกันสั้นๆว่า "รูบี้"
นายคนนี้ไม่ได้มีตระกูลสูงส่งมาแต่กำเนิด  พ่อแม่เป็นคนชั้นกลางธรรมดา แต่สามารถถีบตัวขึ้นมาสู่สังคมไฮโซได้ด้วยรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา  กิริยาพาทีมีเสน่ห์ต้องใจหญิงสาว  ราวกับนรกประทานพรมาให้โดยเฉพาะ   

เก่งขนาดไหน ขอให้ดูที่ผลงานจนจับลูกสาวประธานาธิบดีเผด็จการของโดมินิกันได้สำเร็จ ก่อนจะหย่ากันเพราะเธอจับได้ว่าเขามีสัมพันธ์สวาทกับผู้หญิงอื่นอีกนับไม่ถ้วน   แต่เธอก็ยังต้องมนตร์เขาจนโงหัวไม่ขึ้น  หลังหย่ากันแล้วรูบี้จะเรียกอดีตภรรยาให้มาบำเรอเขาเมื่อใดก็ได้    เธอก็ศิโรราบทุกครั้ง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.ย. 12, 10:47
รูบี้เป็นผู้ชายที่เล็งผู้หญิงคนไหน แล้วรู้วิธีจับได้ไม่มีพลาด    จนได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอยผู้อื้อฉาวของยุโรป     เขาพร้อมจะโผจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งที่รวยหรือสวยกว่า     หรือแม้แต่คบพร้อมกันหลายคนก็ทำได้อย่างไม่แคร์ว่าใครจะคิดอย่างไร     ก่อนหน้าเจอบาร์บาร่า เขาจับเศรษฐินีสาวรวยสุดๆของอเมริกาได้อีกคนหนึ่งคือดอริส ดุ๊ค    โดยทิ้งเมียเก่าที่เป็นดาราและจงรักภักดีต่อเขา อย่างไม่ไยดี
ทนายความของดอริสรักษาผลประโยชน์นายจ้างอย่างดี    จึงเรียกรูบี้มาตกลงทำสัญญากันก่อนจดทะเบียน ว่ามีสิทธิ์แค่แตะต้องทรัพย์สินภรรยาได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่าหย่ากัน   ข้อตกลงนี้ทำให้รูบี้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  แต่ก็ไม่มีทางเลือก  จะเอาแค่นี้หรือว่าจะอด   เขาก็ต้องเอา   แต่มันก็เป็นรอยร้าวระหว่างเขากับดอริส ดุ๊คตั้งแต่เริ่มชีวิตคู่กัน

ดอริสมีนิสัยคล้ายๆบาร์บาร่าอย่างหนึ่งคือ ลุ่มหลงผู้ชายเลวจนโงหัวไม่ขึ้น   ทั้งๆรู้ว่าสามีไม่ได้รัก นอกใจ ทอดทิ้ง สารพัด แทนที่จะเฉดหัวส่งไปเลย  ก็พยายามชนะใจด้วยวิธีบุญทุ่ม  ซื้อทาวน์เฮาส์หรูในปารีสใส่ชื่อเขา บวกกับเงินค่าใช้จ่ายอย่างงาม   แต่ก็ไม่ได้ทำให้พ่อเจ้าประคุณเปลี่ยนนิสัย   เขายังนอกใจภรรยาไปคบกับดาราสาวๆฮอลลีวู้ด  คนที่เป็นเมียเก็บอย่างออกหน้าออกตาคือดาราสาวสวยซาซา กาบอร์
ในเมื่อไม่ได้ผล   ดอริสก็ช้ำอกช้ำใจ จนเธอกรีดข้อมือพยายามฆ่าตัวตาย   นำไปสู่จุดจบของชีวิตสมรสของคนทั้งสอง

รูปข้างล่างนี้คือรูบี้ กับดอริส ดุ๊ค



กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.ย. 12, 10:56
ส่วนภาพนี้คือซาซา กาบอร์ (Zsa zsa Gabor) ดาราสาวคนสวยของฮอลลีวู้ด  เมียเก็บอย่างเปิดเผยออกหน้าออกตาของรูบี้


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 16 ก.ย. 12, 20:08
เคยอ่านประวัติของซาซา กาบอร์ เธอเองก็หลงรักรูบี้อย่างโงหัวไม่ขึ้นเช่นกัน ตอนที่เขาบอกกับเธอว่าจะแต่งงานกับบาร์บาร่า เธอแทบจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 18 ก.ย. 12, 07:23
เพิงเป็นสมาชิกใหม่เมื่อคืนหมาด ที่ตามมาเรือนไทยเพราะ search ไปมาเจอเรื่องพระพันวสา ฯ ที่คุณเทาชมพูเล่า เลยตามมาที่เรือนไทยนี่ นับถือคุณเทาชมพูมากๆค่ะ คงจะเป็นแฟนคุณเทาชมพูตลอดไปแน่นอนค่ะ...


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 18 ก.ย. 12, 08:11
รออ่านตอนต่อไป ด้วยอาการใจจดใจจ่อค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 12, 15:53
สวัสดีค่ะคุณจ๊อดดี้

ขอต่อเรื่องนายรูบี้ สามีอันดับ 5 นะคะ
ชีวิตรักของรูบี้กับซาซ่ายังไม่ได้จบ   ข่าวเม้าท์ตลอดจนประวัติที่ซาซ่าเขียนระบุว่าเป็นความรักที่ถึงพริกถึงขิง ลงไม้ลงมือกันเมื่อหึงหวง   ฝ่ายลงมือคือฝ่ายชาย ชกผู้หญิงเสียตาเป็นเบ้าขนมครก    แต่ก็หาทำให้ซาซ่าถอนตัวจากเขาได้ไม่    แสดงว่าน่าจะเป็นขนมผสมน้ำยาพอกัน

หลังสมรสกับบาร์บาร่าแล้ว  รูบี้ก็มิได้เลิกร้างกับดาราสาวอยู่ดีละค่ะ  เมื่อเศรษฐินีผู้ภรรยาโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของสามีใหม่หมาดๆ 250,000 ดอลล่าร์ เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้เขา   รูบี้ก็ถอนออกมาสองแสนดอลล่าร์เพื่อซื้อเครื่องบินส่วนตัว   บินจากปารีสไปเมืองฟีนิกซ์ อริโซน่า เพื่อไปหาซาซ่า  
แม้รูบี้แต่งงานแล้ว  เขากับซาซ่าก็ยังไปไหนมาไหนกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น       ผลก็คือชีวิตคู่ของเขากับบาร์บาร่าจบสิ้นลงหลังแต่งงานกันได้เพียง 53 วัน คือตั้งแต่ 30 ธันวาคม ปี 1953 ถึง 20 กุมภาพันธ์  1954

ทั้งสองแยกกันไปแบบทางใครทางมัน      รูบี้มีชีวิตต่อมาจนถึงค.ศ. 1965   ระหว่างควบรถสปอร์ตคันโปรดอยู่ในปารีส  เขาเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ในบัวส์เดอบูโลญ  เสียชีวิตทันที  เมื่ออายุได้ 56 ปี  เป็นสามีคนที่สองของบาร์บาร่าที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ  
คนแรกคือสามีอันดับหนึ่ง เจ้าชายอเลกซิส


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 18 ก.ย. 12, 18:33
บาร์บาร่า. .เติบโตมาโดยอาศัยเงินซื้อทุกอย่าง..แต่ก้อไม่ใช่ความผิดของเธอ เพราะชีวิตเธออยู่ท่ามกลางเงินทองมาตั้งแต่เกิด. .เสียอย่างเดียวที่เธอไม่สามารถซื้อได้ คือ ความจริงใจของคนที่เข้ามาในชีวิต. .รวยไปก้อใช่ว่าดีนะค่ะ. .เอาแบบสบายๆ แต่ได้ความรัก ความจริงใจจากคนรอบข้างดีกว่า. 
รออ่านตอนต่อไปค่ะ.  .ขอบคุณ คุณเทาชมพูที่หาเรื่องราวต่างๆทั้งของไทยและเทศมาเล่าสู่กันฟัง.  .ดีใจมากค่ะที่ได้เจอเรือนไทย
และคุณเทาชมพู.  .


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 12, 19:05
บาร์บาร่าอยู่ว่างหลังหย่าจากสามีคนที่ 5 ได้ไม่กี่วัน เธอก็ออกงานสังคมพร้อมกับคู่ควงคนใหม่ 
ขอเท้าความว่า ในบรรดาเพื่อนไฮโซที่มีอยู่มากมาย  บาร์บาร่ามีเพื่อนผู้ชายอยู่คนหนึ่ง รู้จักกันตั้งแต่ค.ศ. 1937  เมื่อเธออายุได้ 25 ปี   เขาเป็นหนุ่มเยอรมันมีเชื้อสายผู้ดีเก่า มีบรรดาศักดิ์ บารอน นำหน้า  ชื่อบารอนก๊อตต์ฟรีด ฟอน ครามม์    โดดเด่นขึ้นมาในฐานะนักเทนนิสระดับเข้ารอบสุดท้ายวิมเบิลดัน     
บารอนฟอน ครามม์เป็นหนุ่มหล่อ มาดคุณชายทุกกระเบียดนิ้ว    ลีลาศได้งาม   กิริยาพาทีมีเสน่ห์ เป็นที่ชอบพอของเพื่อนฝูง  บาร์บาร่าปลื้มเขามานานแล้ว แต่ฝ่ายชายต่างหากไม่ได้คิดอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อน
เมื่อเลิกกับสามีชาวโดมินิกันมาหมาดๆ   บาร์บาร่าก็หันมาควงเพื่อนเก่าแก้เหงา   ตอนนั้นเธอมีปัญหาประจำตัวที่ยืดเยื้อเรื้อรังมานานแล้ว ยิ่งวันก็ยิ่งมากขึ้น  คือติดยาที่เริ่มมาจากโรคกลัวอ้วน    และติดเหล้า  ซึ่งเธอหันเข้าหาเป็นสิ่งปลอบใจเวลากลัดกลุ้มผิดหวัง        บารอนฟอนครามม์รู้ปัญหาข้อนี้ดี  แต่เขาไม่ได้รังเกียจ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 12, 20:41
บาร์บาร่าแต่งงานครั้งที่ 6  เมื่อเธออยู่ในวัยกลางคน อายุถึง 43 ปี   ผ่านโลกและผู้คนมามากมายพอสมควร  แต่ก็ดูเหมือนว่ายิ่งอายุมากเท่าไร เธอก็ยิ่งเปราะบางลงมากเท่านั้น      เธอมองบารอนฟอนครามม์เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวที่จะเข้ามาช่วยให้ฝันเธอเป็นจริง   ในเมื่อเขาเคยเป็นเพื่อนที่ดีมาหลายปี   เธอก็หวังว่าเขาจะเป็นสามีที่อบอุ่นแสนดีได้เช่นกัน
แต่เอาเข้าจริง บาร์บาร่าก็ผิดหวังอีกจนได้  ทั้งๆฟอนครามม์ก็พยายามดีกับเธอ      สาเหตุมาจากทั้งฝ่ายเธอและฝ่ายเขา   ฝ่ายเธอคือเหล้าและยาที่ทำให้อารมณ์แปรปรวนขึ้นๆลงๆ  ใครอยู่ด้วยลำบาก      ส่วนสาเหตุฝ่ายเขาคือบารอนฟอนครามม์เป็นเกย์   อันเป็นเรื่องปกปิดกันในสมัยนั้น    
หลังจากลากชีวิตคู่ลุ่มๆดอนๆกันมาพักใหญ่    สมรสครั้งที่ 6 ของบาร์บาร่าก็จบลงด้วยการหย่าร้างในต้นปี 1960  โดยจ่ายให้ไป $600,000 เป็นของขวัญก่อนอำลา


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 19 ก.ย. 12, 18:55
ไม่สบายไปเรียบร้อยแล้วค่ะ. .แต่ก้อยัวรออ่านตอนต่อไปของบาร์บาร่ากับสามีคนสุดท้ายอยู่นะค่ะ. .คุณเทาชมพูคงไม่ใจร้ายกับคนป่วยนะ. .นะ . .นะ . .นะค่ะ. .


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 12, 20:44
    ยิ่งอายุมากขึ้น บาร์บาร่าก็เริ่มพัวพันกับหนุ่มอายุน้อยกว่าเธออีกหลายคน   บางคนอายุเพียง 23 ปี พอจะเป็นลูกเธอได้   แต่จะเล่าถึงหญ้าอ่อนพวกนี้ก็ไม่มีอะไรให้สนใจเท่าไหร่  
    พวกนี้มีบทบาทซ้ำๆกันคือเป็นคู่ควงของเศรษฐินีใหญ่ระหว่างเธอพำนักอยู่ที่ใดที่หนึ่งในยุโรป     จากนั้นก็ใช้ชีวิตร่วมกันระยะหนึ่ง
พวกเขาทำหน้าที่เอสคอร์ทติดตามเธอไปเที่ยวทุกหนทุกแห่ง   เธอก็ปรนเปรอด้วยเงินทอง ข้าวของแพงๆ   สักปีก็เลิกร้างจากกันไปโดยได้เงินติดมือไปเป็นของปลอบใจ  ก่อนเธอจะไปหาหญ้าอ่อนต้นใหม่ต่อไปอีก
 
   หนุ่มหล่อข้างล่างนี้ก็คือหญ้าอ่อนต้นหนึ่งของเธอ   เป็นเกย์อีกเหมือนกัน


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 12, 09:36
    ทั้งๆที่บาร์บาร่าใช้ชีวิตเหมือนนางพญาในเทพนิยาย  อยากซื้ออะไรก็ใช้เงินเนรมิตได้หมด   มีคฤหาสน์อยู่ในหลายประเทศในยุโรป   อยากทำอะไรก็ทำ  อยากแต่งงานก็แต่ง อยากหย่าก็หย่า    อยากเที่ยวก็เที่ยว  เรียกว่าไม่มีความสุขทางวัตถุใดๆ ที่เธออยากได้แล้วไม่ได้
    หลังจากใช้ชีวิตเริงร่า หรูหราฟุ่มเฟือยมาจนสุดขีดในวัยสาว    เมื่อถึงวัยสี่สิบกว่าจวนห้าสิบ  โลกก็สอนให้รู้ว่าไม่มีมนุษย์คนใดหนีพ้นปัญหาไปได้   ถ้าตัวเองไม่ก่อ คนรอบตัวก็ก่อให้เอง
    ปัญหาที่สร้างไว้แต่หนหลังเริ่มไล่กวดตามมาเช็คบิล    เรื่องสำคัญที่สุดคือแลนซ์ ลูกชายคนเดียวที่เกิดจากสามีคนที่สอง  บัดนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว

   


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 12, 09:53
    ทั้งๆบาร์บาร่ารักลูกมาก    เป็นแม่ที่ใจดีและตามใจลูก  ไม่เคยกราดเกรี้ยวหรือเข้มงวดด้วย   นอกจากนี้เธอตระหนักดีถึงชีวิตอ้างว้างว้าเหว่ในวัยเด็กของตัวเองที่ขาดทั้งพ่อและแม่   แต่ก็แปลก ที่พอมีลูกของตัวเองเข้าจริงๆ  บาร์บาร่าก็กลับเลี้ยงลูกชายแบบเดียวกับพ่อแม่ทำกับเธอ แทนที่จะเอาไว้ใกล้ชิดกับตัวเอง
    เธอส่งแลนซ์ให้พี่เลี้ยงและโรงเรียนประจำอบรมดูแลไปตั้งแต่เล็กจนโต     ส่วนแม่ไปอยู่กับสามี คนแล้วคนเล่า  ถ้าไม่ท่องเที่ยวก็มีชีวิตไฮโซกับเพื่อนฝูง      จนแลนซ์โตขึ้นเป็นหนุ่ม  เราก็คงพอจะเดาได้ว่าเขาคงไม่เติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มนิสัยเรียบร้อย สำรวม ประหยัด ขยันและเอางานเอาการแน่นอน
    ใช่ค่ะ  แลนซ์โตอย่างลูกเศรษฐี  ก็มีนิสัยค่อนข้างระห่ำอย่างลูกเศรษฐี   เข้าสังคม ควงสาวดังๆ อย่างดาราและสาวไฮโซเป็นว่าเล่น   ไม่คิดจะทำงานเพราะแม่ทุ่มเทเงินให้เหลือเฟือ  ทำให้ลูกชายใช้ชีวิตอย่างเพลย์บอย จนได้แต่งงานกับดาราสาวสวยของฮอลลีวู้ดถึงสองคน
    คนแรกคือจิลล์ เซนต์จอห์น  แต่งเมื่อ 1960 อยู่กันได้ 3 ปีก็หย่า
    คนที่สองคือเชอริล โฮลริดจ์  คนนี้แต่งเมื่อ 1964  แล้วอยู่กันมา 8 ปี จนแลนซ์เสียชีวิต


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 12, 09:56
แลนซ์ได้นิสัยรักรถแข่งมาจากพ่อเลี้ยง  เจ้าชายอิกอร์  โตขึ้นก็กลายเป็นนักแข่งรถ  ออกแบบรถแข่งและมีทีมแข่งรถของตัวเอง
ถ้าใครยังไม่ทราบโปรดทราบว่า อาชีพนี้ เปลืองเงินทองมหาศาล


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 12, 17:36
เอารูปของแลนซ์มาลงคั่นเวลา ก่อนถึงสามีหมายเลข 7 ของคุณนายบาร์บาร่า นะคะ

รูปนี้แลนซ์ไปเป็นพยานในพิธีสมรสของแม่กับพ่อเลี้ยงหมายเลข 5  นักการทูตชาวโดมินิกัน  รูปขวาลูกชายดูพ่อเลี้ยงคนใหม่จุ๊บแม่อยู่  สีหน้าก็พอบอกได้ว่ารู้สึกอย่างไร


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 12, 17:50
    คุณแม่และคุณลูกชายต่างแยกกันใช้ชีวิตแบบของใครของมัน  แต่วันหนึ่ง แลนซ์มาพบแม่ในยุโรป  เกิดเป็นปากเป็นเสียงกัน  เขาต่อว่าต่อขานแม่ในเรื่องละเลยไม่ให้ความอบอุ่นแก่เขามาตั้งแต่เด็ก   ข้อนี้ทำให้บาร์บาร่าเจ็บช้ำน้ำใจมาก เพราะใจจริงเธอรักลูกมาก  เพียงแต่เธอไม่รู้จะแสดงวิธีใกล้ชิดกับเขาเท่านั้น     
   ผลจากความสะเทือนใจเธอก็หันกลับไปหายาและเหล้าเป็นทางออกอีกครั้ง     แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอผละจากชีวิตแบบที่เป็นอยู่   เธอก็ยังแสวงหาความรักในชีวิตคู่อยู่นั่นเอง
   สิ่งนี้นำไปสู่สามีคนที่เจ็ด 

   ในค.ศ. 1963  ระหว่างพำนักอยู่ที่เมืองทานเจียร์ในมอร็อคโค     บาร์บาร่าพบศิลปินหนุ่มนักวาดรูปเข้าคนหนึ่งในงานนิทรรศการภาพของเขา    นอกจากเป็นศิลปินแล้ว ยังเป็นนักเคมีทำงานให้บริษัทน้ำมันอีกด้วย      เขาเป็นลูกครึ่งพ่อเวียตนามกับแม่ฝรั่งเศส  ชื่อเรย์มอนด์  โดน  (หรือจะอ่าน ดวน  หรือ เดียน ก็ไม่แน่ เพราะหาโปรแกรมอ่านภาษาเวียตนามไม่เจอค่ะ)  แต่งงานมีภรรยาแล้ว 
แต่เรมอนด์ก็เลิกกับภรรยามารับตำแหน่งสามีคนที่ 7 ของบาร์บาร่าในปีถัดมา  ค.ศ.1964


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 20 ก.ย. 12, 17:54
นางดูแก่มากเลยเมื่อเจอสามีคนที่ 7. .ดูห่อเหี่ยวยังงัยชอบกล ท่าทางไม่มีความสุขในชีวิตเลย. .
สงสารนางนะค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 12, 20:50
    เรื่องสามีคนที่เจ็ด  มีอะไรตลกฝืดๆให้หัวเราะกันได้ฝืดๆอยู่เรื่องหนึ่ง  คือแต่เดิมเขาก็เป็นสามัญชนอย่างเราๆนี่แหละค่ะ   แต่ว่าพอจะได้รับตำแหน่งสามี  บาร์บาร่าก็จัดการจ่ายเงินไปห้าหมื่นดอลลาร์  ขอให้เจ้าชายลาวองค์หนึ่งรับเรย์มอนด์เป็นบุตรบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย     เพื่อเขาจะได้มีคำนำหน้าว่า "เจ้า"    ถ้าเป็นฝรั่งเรียกก็คือ "เจ้าชาย" เมื่อเป็นคู่สมรสของเธอ
   ด้วยวิธีนี้ หนุ่มลูกครึ่งเวียตนามก็กลายมาเป็นเจ้าเรมอนด์ โดน ณ จำปาศักดิ์       ทำให้บาร์บาร่ากลายเป็น "เจ้าหญิง" แห่งตะวันออกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง     ก็ไม่รู้ว่าเป็นความคิดริเริ่มของทางฝ่ายไหน   หรือว่าเธออยากจะทำสถิติตำแหน่งเจ้าหญิงไว้ให้กินเนสบุ๊คนำลงก็ไม่แน่     คือถ้านับจากสามีคนแรกถึงคนที่หก  เธอเป็นเจ้าหญิงมา 2 ครั้งแล้ว    รวมคนนี้ด้วยเธอก็กลายเป็นเจ้าหญิงถึง 3 ครั้ง  ในชีวิต   

   อย่างไรก็ตาม  คุณผู้อ่านก็เตรียมพยักหน้าได้อีกครั้งว่าฉันทายไม่พลาด ไม่ต้องดูไพ่ยิปซีก็ได้
   ชีวิตวิวาห์ของเจ้าลาวสัญชาติเวียตนามกับเศรษฐินีอเมริกันอายุแก่กว่าเกือบเท่าตัว   ก็จบลงในปีกว่าๆต่อมา คือในค.ศ. 1966  แต่ว่าหนุ่มรายนี้คงจะทำตัวให้น่าเมตตาพอสมควร   เขาจึงได้เงินติดกระเป๋ากลับไปสู่อิสรภาพถึง 2 ล้านดอลล่าร์   บาร์บาร่าเผื่อแผ่ไปถึงน้องชายเขา ให้ได้ครอบครองอพาตเม้นท์ชั้นดีในปารีสอีกแห่งหนึ่ง และของขวัญแพงๆอีกหลายชิ้นด้วย
   
   เมื่อจบคนที่เจ็ดแล้ว   ขณะนี้บาร์บาร่าอายุ 54 ปี    อาจจะมากเกินกว่าอยากแต่งงานใหม่เป็นครั้งที่ 8  เธอจึงไม่สมรสกับชายใดอีกเลย


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: พวงแก้ว ที่ 20 ก.ย. 12, 22:45
บาบาร่าโหยหาความรักซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เธอไม่มีโอกาสได้สัมผัสมากนักในวัยเด็ก
เธอจึงหวังว่าจะมีคนที่จริงใจเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตเธอ ...แต่เงินของเธอนั่นเองที่มันหอมหวาน
จนทำให้ผู้ชายเหล่านี้บินเข้ามาในชีวิตเธอ อย่างน้อยก็ได้เสวยสุขสักระยะ แต่ถ้าต้องจากไป
ก็ไม่ได้ไปมือเปล่าเรียกว่า มีแต่ได้กับได้...มากหรือน้อยเท่านั้น

อีกนัยหนึ่งผู้หญิงที่มีความพรั่งพร้อมด้วยวัตถุทุกอย่างในชีวิต ก็คงเอาใจยากอยู่เหมือนกัน
อีกทั้งยังมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ก็คงทำให้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นไม่ราบรื่นเท่าไหร่

นี่คงเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ความร่ำรวยก็ไม่ได้เป็นหลักประกันสำหรับความสุขในชีวิต
ถ้าคนๆนั้นไม่เข้าใจชีวิตอย่างแท้จริง 

เข้ามาส่งเสียงว่าตามอ่านอยู่นะคะ สนุกมากคะ




กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.ย. 12, 10:33
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ

ถ้าประมวลทรัพย์สินที่บาร์บาร่าหมดไปเพราะสามี 7 คน    อาจจะเรียกได้ว่านับไม่ถ้วน    เพราะทุกคนยกเว้นแครี่ แกรนท์ เข้ามาเพื่อหวังประโยชน์งามๆติดมือกลับไปทั้งสิ้น       ระหว่างอยู่กินกันเธอก็ปรนเปรอเขาด้วยบ้าน  รถยนต์  ของขวัญแพงๆ  การเดินทางท่องเที่ยวหรูๆ ปีละหลายหน    ตลอดจนต้องจ่ายอย่างอื่นแล้วแต่เขาใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยกับสิ่งไหน

เท่าที่มีตัวเลขให้เห็นจะจะ คือเมื่อหย่าจากสามีคนแรก  เจ้ากำมะลออเลกซิส   บาร์บาร่าซื้อทะเบียนหย่าด้วยเงิน 2.25 ล้านดอลล่าร์    คนที่สอง เคานต์เร้นโลว์พ่อของแลนซ์   เขาเรียกเงินจากเธอ 5 ล้านดอลล่าร์   เธอต่อรองลงมาเหลือ1 ล้านจึงตกลงกันได้  คนที่สามคือแครี่ แกรนท์เป็นคนเดียวที่ปฏิเสธไม่เอาเงินใดๆจากเธอ   คนที่ห้า เธอจ่ายไปในราคามิตรภาพแค่หกแสน  และคนสุดท้ายได้ไป 2 ล้านดอลล่าร์ 
ค่าของเงินในยุคนนั้นถ้าเป็นสมัยนี้ก็ต้องเอง 10 คูณเข้าไปกระมัง

สำหรับผู้หญิงในยุค 1960s  อายุ 54 หมายถึงวัยคุณย่าคุณยายเต็มตัว    มีหลานๆแล้ว  ภาระในบ้านก็เกือบจะหมด   อยู่กันแค่สองคนตายาย   เธอไม่คิดอะไรมากไปกว่านั่งเก้าอี้โยกถักไหมพรมฆ่าเวลา  หรือไปช่วยงานสังคมสงเคราะห์ที่โบสถ์ในวันอาทิตย์
แต่สำหรับบาร์บาร่า  วัย 54 หมายถึงปล่อยตัวไปอย่างไม่มีขอบเขตขีดคั่น  กับชายหนุ่มมากหน้าหลายตาโดยไม่ต้องพะวงกับเรื่องสมรสอีกต่อไป


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 21 ก.ย. 12, 14:26
ต้องขอบคุณ คุณเทาชมพูมากกว่าค่ะที่นำเรื่องดีๆมาเล่าให้พวกเราอ่านกัน. .ขอบคุณจากใจจริงค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ย. 12, 17:08
ใกล้จบแล้วค่ะ  :D

ขอขยายความเรื่องความขัดแย้งระหว่างแม่ลูก  ก่อนนำไปสู่ตอนจบในชีวิตของบาร์บาร่าค่ะ

ตอนพ่อแม่หย่ากัน แลนซ์อายุได้ 2 ขวบ    แม้ตามกฎหมาย  เขาได้อยู่ในความดูแลของแม่ แต่ก็ต้องไปอยู่กับพ่อชั่วระยะหนึ่งเมื่ออายุ 9 ขวบ   
แลนซ์โหยหาความใกล้ชิดจากแม่  พร้อมกันนั้นก็เกลียดพ่อเอามากๆ      ผู้ชายคนเดียวที่เขายึดถือเป็นพ่อคือแครี่ แกรนท์  แต่พ่อเลี้ยงอันดับสามก็ไม่มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดเด็กชายหลังจากหย่ากับแม่  มีแต่ติดต่อกันเป็นครั้งคราว
แลนซ์ถูกส่งไปเข้าโรงเรียนเอกชนสำหรับลูกเศรษฐี  เปลี่ยนจากโรงเรียนโน้นไปสู่โรงเรียนนี้หลายแห่ง   แทนที่จะได้อยู่บ้านกับแม่    ในเมื่อเขามีโรคหอบหืดประจำตัวอยู่ บาร์บาร่าก็เลยย้ายเขาไปเข้าร.ร.ประจำชายแห่งใหม่ที่เมืองทูซอน รัฐอริโซน่า ซึ่งมีอากาศร้อนและแห้งเหมาะกับสุขภาพของลูกชาย     
แลนซ์เรียนหนังสือได้ดี ไม่เป็นเด็กเกเร   แต่เขาก็เสียใจมากในวันเรียนจบ  ในพิธีรับประกาศนียบัตรซึ่งถือเป็นวันสำคัญที่สุดของชีวิตนักเรียน   แม่ไม่มาร่วมงาน เพราะไม่อยากถูกสื่อรุมหรือเป็นข่าวออกหนังสือพิมพ์    บาร์บาร่าชดเชยความผิดหวังของลูกชายด้วยการสั่งซื้อรถคาดิลแลคให้เป็นของปลอบใจ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ย. 12, 17:16
  พออายุ 21  แลนซ์ก็คืนสัญชาติเดนมาร์คอันเป็นสัญชาติของพ่อ   กลับมาถือสัญชาติอเมริกัน  ข้อนี้ทำให้เขาต้องสละบรรดาศักดิ์เคานต์ที่มีสิทธิ์สืบต่อจากพ่อ   แต่เขาก็ไม่ได้แยแสอะไรกับหัวโขนทั้งหลายพวกนี้     แลนซ์มีนิสัยตรงกันข้ามกับแม่ ซึ่งยึดติดอยู่กับตำแหน่งเจ้าหรือขุนนางในยุโรปจนถอนตัวไม่ขึ้น     เขาเกลียดแวดวงผู้ดีไฮโซของแม่ จนไม่ยอมจะเข้ามาร่วมวงด้วย  รวมทั้งเกลียดที่แม่แต่งงานใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าด้วย
   สิ่งที่แลนซ์ชอบคือรถแข่ง   เขาใช้เงิน 2 ล้านดอลล่าร์ที่เป็นทรัพย์สินสร้างธุรกิจรถแข่งขึ้นมาเอง  ชื่อยี่ห้อสคารับ เพื่อแข่งกับรถของยุโรป   แลนซ์เป็นเพื่อนสนิทของดาราดัง เจมส์ ดีนที่เสียชีวิตไปขณะรุ่งโรจน์ด้วยอุบัติเหตุรถชน     แต่ต่อมาแลนซ์ก็เลิกสนใจกับรถแข่ง  หันไปใช้ชีวิตอยู่กับกีฬาอย่างอื่น เช่นเล่นเรือใบในฮาไวอิ   เล่นสกีในโคโลราโด และขับเครื่องบินส่วนตัวไปโน่นมานี่    ตามประสาเศรษฐี
   แลนซ์แต่งงานครั้งแรกกับดาราสาวจิลล์ เซนต์จอห์น เมื่อปี 1960 แต่อยู่กัน 3 ปีก็หย่า  เขาแต่งงานใหม่กับดาราสาวอีกคน   ก็ตามเคย  วันวิวาห์ลูกชายคนเดียว  แม่ไม่มาร่วมงานด้วย
   แลนซ์ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในบ้านที่เมืองแอสเพนบนเทือกเขาร็อคกี้ส์ในโคโลราโด   ส่วนภรรยาอยู่ในคาลิฟอร์เนีย     ชีวิตเขาจบลงกะทันหันในค.ศ. 1972  ด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินที่นั่งมากับเพื่อนชนภูเขาระหว่างเจอพายุฝนฟ้าคะนอง ใกล้กับแอสเพนนั่นเอง     


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ย. 12, 17:34
   เมื่อรู้ข่าวว่าลูกชายจากไปกะทันหันเมื่ออายุเพียง 36 ปี  บาร์บาร่าก็เศร้าโศกเสียขวัญจนไม่มีกะจิตกะใจจะไปร่วมงานศพของเขา   ศพของแลนซ์ถูกฝังในสุสานตระกูลวูลเวิร์ธในนิวยอร์ค  (ตามรูปข้างล่างนี้ค่ะ) 
   บัดนี้บาร์บาร่าไม่มีสามี  ไม่มีลูก  ไม่มีอะไรนอกจากเงินที่เหลืออยู่      เธอจมดิ่งลงในอาการซึมเศร้าอย่างหนัก    แทนที่จะบำบัดให้หายขาด  เธอหันไปหาเหล้า ยา และผู้ชายหนักยิ่งกว่าเมื่อก่อน     จนสุขภาพเสื่อมโทรม  มีอยู่ครั้งหนึ่งน้ำหนักเธอลดลงไปต่ำกว่า 90 ปอนด์ เป็นผลจากไม่กินอาหารและโรคกลัวอ้วนที่จู่โจมหนักกว่าเก่า
    บาร์บาร่าสูบบุหรี่จัดแบบมวนต่อมวน   ไม่กินอาหารนอกจากกาแฟดำ เหล้า ยานอนหลับ  ยาลดน้ำหนัก  และยาแก้ปวด     ทำให้สุขภาพเลวร้ายลงทุกที    เธอกลายเป็นหญิงชราที่ติดยาและปล่อยตัวไปตามบุญตามกรรม    เงินทองก็ร่อยหรอลง นอกจากใช้จ่ายไม่อั้นแล้วยังถูกโกงจากผู้ดูแลผลประโยชน์  หรือถ้าไม่โกงก็ตัดสินใจผิดพลาดในการบริหารงาน   ทำให้เธอต้องขายสมบัติใหญ่ๆออกไปทีละชิ้นสองชั้น
    จนถึงค.ศ. 1975  บาร์บาร่าเหลือบ้านอยู่หลังเดียวในทานเจียร์   เธอเดินทางไปพักที่นั่นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลับมาอยู่ที่อเมริกาอย่างอับจนหนทาง   แต่ก็ยังใช้เงินเท่าที่มีอยู่อย่างไม่อั้นตามเคย
    ค.ศ. 1979  บาร์บาร่าอายุ 66 ปี  เธอเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน และสิ้นลมก่อนถึงโรงพยาบาล    จากทรัพย์สินหลายพันล้านดอลล่าร์ในฐานะมหาเศรษฐีติดอันดับของอเมริกา    เธอเหลือเงินติดบัญชีอยู่เพียง 3000 ดอลล่าร์เมื่อถึงแก่กรรม
   


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 22 ก.ย. 12, 18:41
ช่วงสุดท้ายของชีวิตเธอมีใครอยู่ด้วยมั้ยค่ะ หรือเธอตายอย่างโดดเดี่ยว. .น่าสงสารที่สุดเลย. .


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ก.ย. 12, 09:35
ภาพจากมินิซีรีส์ ที่ฟาราห์ ฟอเซ็ทรับบทเป็นบาร์บาร่า ครับ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 12, 20:15
ตอบคุณจ๊อดดี้
ถ้าไม่นับหนุ่มๆที่เธอคบคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง ก็ต้องถือว่าเธอตายอย่างโดดเดี่ยว  ไม่มีสามี ไม่มีลูก ค่ะ

คุณศิลาคะ   ได้ข่าวว่าฟาร่าห์เล่นเรื่องนี้ได้หดหู่มาก

กระทู้เล่าเรื่องชีวิตจบแล้ว  แต่นึกได้ว่ามีเกร็ดอีกนิดหน่อยเกี่ยวกับการใช้เงินที่ยังไม่ได้เล่า ว่าเธอจ่ายเงินซื้ออะไรที่มีแต่มหาเศรษฐีเท่านั้นจะจ่ายได้   ก็เลยจะไปรวมรวมมาให้อ่านกัน
เพื่อจะแสดงว่า ถ้าคุณอยากถลุงเงินเล่น มีอะไรที่ถลุงได้บ้าง   เผื่อรวยขึ้นมาอย่างเธอจะได้ไม่ทำ...เอ  หรือว่าอยากจะลองทำ  :)


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 23 ก.ย. 12, 20:25
คุณเทาชมพูค่ะ ถ้าจ๊อดมีเงินอย่างบาร์บารา. คงไม่เอาเงินไปถลุงแบบไม่มีหัวคิดแบบนั้น. .แต่จะเอาไปทำห้องสมุดที่ใหญ่ๆ และจัดหาหนังสือที่มีคุณค่า มีประโยชน์ ทุกๆด้าน มารวบรวมไว้ เพื่อศึกษา ค้นคว้า หรือแม้แต่อ่านเพื่อความบันเทิง สำหรับตัวเองและคนอื่นๆที่สนใจค่ะ. .มันคือความฝันของตัวเองมานานมากแล้วค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 23 ก.ย. 12, 20:31
อยากทราบชื่อหนังที่ฟาร์ร่าเล่นเปนบาร์บาร่านะค่ะ. .จะไปหามาดูบ้าง. .รบกวนช่วยบอกด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: นายเขม ที่ 23 ก.ย. 12, 23:45
อยากทราบชื่อหนังที่ฟาร์ร่าเล่นเปนบาร์บาร่านะค่ะ. .จะไปหามาดูบ้าง. .รบกวนช่วยบอกด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
Poor Little Rich Girl: The Barbara Hutton Story (1987) ไม่แน่ใจว่าใช่ไหมนะครับ เพราะอันนี้น่าจะเป็นรายการทางทีวี
http://www.imdb.com/title/tt0093760/


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 ก.ย. 12, 09:31
^  เรื่องนี้แหละครับ

         เคยฉายทางช่องสาม ฟาราห์เธอรับบทเป็นบาร์บาร่าตั้งแต่สาวจนแก่ ทำให้คนดูได้เห็นว่า
เธอก็เป็นนักแสดงที่มีฝีมือ ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว
         (คาดว่า ผู้จัดไทยอาจจะได้บันดาลใจจากเรื่องนี้แล้วนำมาทำเป็นละครทีวีที่ต่อมาจับขึ้น
เวทีเป็นละครเพลง)

คลิปบางตอนจากยูทูบ ครับ  BARBARA กับ GOTTFRIED VON CRAMM

          http://www.youtube.com/watch?v=xjYqqY2mWtg


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 12, 09:51
ไปดูในยูทูบเหมือนกันค่ะ   เรื่องนี้ฟาร่าห์แต่งหน้าทำผมดูเริ่ดหรูสมเป็นเศรษฐินีในตอนต้นๆ   ตอนป่วยเธอก็โทรมสมสภาพคนติดยา

จบประวัติแล้วก็ถึงเวลาเล่าถึงสิ่งละอันพันละน้อยเกี่ยวกับบาร์บาร่า   
นิสัยอย่างหนึ่งที่ติดตัวคือชอบความมียศมีศักดิ์  สิ่งนี้อาจเป็นอย่างเดียวที่คุณตาแฟร้งค์ วูลเวิร์ธให้เธอไม่ได้    นอกจากบรรดาศักดิ์ที่เธอได้ครอบครองผ่านมาทางสามีคนแล้วคนเล่า  โดยต้องจ่ายเงินตอบแทนไปมหาศาล  เธอก็ครอบครองเครื่องเพชรดังๆในประวัติศาสตร์ไว้หลายชิ้น
ความแพงของเครื่องเพชรนอกจากอยู่ที่ขนาดและน้ำเพชร ตลอดจนฝีมือเจียระไนแล้ว    ยังอยู่ที่ประวัติของมันด้วย    ถ้าเพชรสองเม็ดขนาดและความงามเท่ากันเปี๊ยบ   แต่เม็ดหนึ่งเพิ่งขุดได้จากเหมืองมาไม่นาน  กับอีกเม็ดเคยเป็นสร้อยพระศอของควีนดังๆในประวัติศาสตร์ละก็  เม็ดหลังแพงกว่า
ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่บาร์บาร่าซื้อเพชรพลอยจากอดีตราชินีและเจ้านายที่ล่วงลับไปแล้วมาหลายชิ้นด้วยกัน    เมื่อจัดงานปาร์ตี้  เธอก็แต่งกายดุจนางพญา ประดับกระบังเพชรหรือรัดเกล้าเพชร  สร้อยระย้าเพชร  แหวนเพชร ฯลฯพรึ่บพรั่บ  ออกโชว์ในงานเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิง




กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 12, 09:55
กระบังมรกตประดับเพชรข้างบนนี้ เคยเป็นสมบัติของแกรนด์ดัชเชส วลาดีเมียร์ มาก่อนค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 12, 09:58
เช่นเดียวกับสร้อยไข่มุกเส้นนี้ เป็นของราชินีมารี อังตัวแนตต์ มาก่อน เป็นมุกน้ำงามเลิศขนาดเรียงกันจากเล็กไปใหญ่ ได้สัดส่วนพองาม  ราคาไม่ต้องพูดถึง


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 12, 17:29
รูปข้างล่างนี้คือตัวอย่างส่วนน้อยของเครื่องเพชรบันลือโลกในคอลเลคชั่นของบาร์บาร่า    ส่วนที่เหลือหาดูได้ในเว็บนี้ค่ะ
http://loveisspeed.blogspot.com/2012/02/diamonds-are-girls-best-friend-if-you.html


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 12, 21:08
ในเมื่อบาร์บาร่าชอบงานสังคมที่เธอสามารถโชว์บ้านงามๆ ซึ่งน่าจะเรียกว่าวังมากกว่าบ้าน   โชว์เครื่องเพชร  เครื่องแต่งบ้าน ภาพศิลปะแพงๆ  ให้เพื่อนฝูงมาร่วมชื่นชมกับเธอได้   จึงขอเล่าเรื่องงานปาร์ตี้ของเธอไว้เล็กน้อย   
ถ้าเป็นคนทั่วไป  ถ้าอยู่คอนโดอาจจะรับแขกได้สัก 3-4 คนก็แน่นห้อง  ถ้าอยู่ทาวน์เฮาส์อาจจะเต็มที่สัก 5 คน   ถ้าอยู่บ้านเดี่ยวจัดงานปาร์ตี้เชิญแขกสัก 10 คนก็แน่นบ้านแล้ว  มากกว่านี้ไปร้านอาหารกันดีกว่า
แต่บาร์บาร่าเชิญแขก 200 คนเป็นเรื่องธรรมดา   พอหลวมๆคฤหาสน์ของเธอ      เรื่องไวน์หรืออาหารชั้นเลิศมีไม่อั้นอยู่แล้ว   จัดงานทีไรกลายเป็นปรากฏการณ์ประจำปีของเมืองทานเจียร์ มอร็อคโค    พลอยเรียกนักท่องเที่ยวให้แห่กันมาเพื่ออยากดูบ้านของเธอด้วย
บางครั้งเธอก็มีอะไรพิเศษกำนัลแขก  เช่นบางปีเธอสั่งอูฐทั้งฝูงจากแอฟริกาเหนือมาเดินพาเหรดผ่านไปผ่านมาให้แขกเหรื่อดูในมอร็อคโค      เพื่อนฝูงที่เชิญมา อยู่ทุกมุมโลก   บาร์บาร่าออกค่าเครื่องบินและค่าโรงแรมที่พักให้ฟรีทั้งหมด    ถ้าไม่รวยจริงใครจะทำได้ล่ะคะ

ภาพข้างล่าง ตัวอย่างงานปาร์ตี้ค่ะ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 12, 12:53
ชีวิตของบาร์บาร่าเป็นอุทาหรณ์ได้หลายอย่าง แล้วแต่มุมมองของคนดู ว่าเราจะได้อะไรจากการอ่านชีวิตของเธอบ้าง นอกเหนือจากอ่านเล่นเพลินๆ
ฝรั่งเรียกเธอว่า Poor Little Rich Girl   คำว่า poor แปลว่าน่าสงสารก็ได้ ยากจนก็ได้    ถ้าดูตามความหมายหลังก็ตรงข้ามกับคำว่า rich     ถ้าถือหลักว่า ชีวิตคนมักจะได้อย่างเสียอย่าง    มองในแง่ความรวยเธอก็รวยเงินเกินกว่าใครจะมีได้ในหลายๆชาติรวมกัน  อย่าว่าแต่ชาติเดียวเลย   แต่พูดถึงจน เธอก็ยากจนความรักและความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็ก   นี่คือมุมมองของฝรั่ง   
พฤติกรรมเธอเหมือนแสวงหาบางอย่างเพื่อเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา  รวยขนาดนี้ยังไม่พอต้องมียศศักดิ์ด้วย    มีความรักครั้งเดียวไม่พอต้องมีหลายๆครั้ง บางทีก็กับหลายคนพร้อมกัน 

แต่ถ้ามองจากสายตาชาวพุทธ   มองชีวิตของบาร์บาร่าแล้วทำให้นึกถึงคำว่า "สติ" สิ่งนี้จะช่วยเตือนตนเองเมื่ออยากได้สิ่งใดเพิ่มขึ้นจากที่ตนมีอยู่  ว่าความอยากได้นั้นคือความโลภหรือว่าความจำเป็น    ถ้าไม่จำเป็น ก็ให้รู้จักพอ
 
สติเป็นสิ่งช่วยให้ชีวิตเรียบง่าย  เบาบางจากความยุ่งเหยิงและยุ่งยาก   เป็นกุศลธรรมที่คอยเตือนให้คนรู้ตัวก่อจะก้าวไปสู่ทางเสียหายแก่ชีวิตตัวเอง   
คนเรามักจะชอบทำตามกิเลสบงการอยู่แล้ว  ออกมาในรูปการตามใจอารมณ์ตัวเอง ด้วยความคิดทำนองว่า   "เกิดมาชาติหนึ่งขอทำอะไรที่อยากทำ" " ทำไมจะต้องแคร์สังคม" " ชีวิตของฉัน ชาวบ้านไม่เกี่ยว" ฯลฯ แต่ไม่ได้พิจารณาว่าที่ทำลงไปนั้นตัวเองจะเสียหายหรือเปล่า   คนแบบนี้จึงไม่เข้าใจว่าทำไมชีวิตถึงมีปัญหาซ้ำซากไม่รู้จบ
ปัญหาเหล่านี้ ถ้าใช้สติเหนี่ยวรั้งจิตใจไว้ให้ถอยห่าง ชีวิตก็จะไม่วุ่นวาย ไม่สับสน แต่ถ้าขาดสติเมื่อใด โอกาสที่ดำเนินชีวิตผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ 
การขาดสติเพียงวูบเดียว อาจทำสิ่งร้ายแรงได้อย่างที่เคยเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์บ่อยๆ    จึงไม่ต้องสงสัยว่าถ้าขาดสติอยู่ยาวนานในการดำเนินชีวิต  ใครคนนั้นจะโชคดีมีสุขไปได้จนตายละหรือ ต่อให้มีเงินทองมหาศาลมากแค่ไหนก็ตาม


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 25 ก.ย. 12, 22:10
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: joddy ที่ 26 ก.ย. 12, 07:51
เห็นด้วยกับคุณเทาชมพูเช่นกันค่ะ...


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 26 ก.ย. 12, 09:54
....แต่ถ้ามองจากสายตาชาวพุทธ   มองชีวิตของบาร์บาร่าแล้วทำให้นึกถึงคำว่า "สติ" สิ่งนี้จะช่วยเตือนตนเองเมื่ออยากได้สิ่งใดเพิ่มขึ้นจากที่ตนมีอยู่  ว่าความอยากได้นั้นคือความโลภหรือว่าความจำเป็น    ถ้าไม่จำเป็น ก็ให้รู้จักพอ.....

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ผมคิดว่านี่ก็สิ่งที่พระบาทสมเด็ยพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงพยายามสอนสั่งและสื่อสารกับพวกเราผสกนิกรคือเรื่องของ "เศรษฐกิจพอเพียง"
แต่เรื่องนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับเรื่อง"ธรรมะ" (ในความเป็นจริงก็คือเป็นเรื่องที่เกยวพันกันหรือ สาระของเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง" เป็น subset ของ "ธรรมะ") นั่นคือ เข้าใจโดยการสอนและการฟังไม่ได้ ผมคิดว่า (ความเห็นสวนตัวนะครบ) จะเข้าใจได้มีหนทางเดียวคือต้อง "คิด" และ "ปฏิบัติ" ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับกลุ่มคนมหาศาลหรือประชากรของประเทศด้วยเหตุที่หน้าตักของต่ละคนและต้นทุนของแต่ละท่านมีไม่เท่ากัน แต่ก็ต้องช่วยกันสื่อสารออกไป มิเช่นนั้นปัญหาของครอบครัว ปัญหาของสังคม แลปัญหาของโลกจะทับถมทวีมากขึ้นเรื่อยๆ


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: นิ่มนวล ที่ 25 ธ.ค. 21, 12:29
 :'( :'( :'( :'(
ขอบคุณท่านอาจารย์เทาชมพูที่ได้เรียบเรียงชีวิตของผู้หญิงอาภัพรักคนนึง

ที่จริงถ้าเธอสามารถมีชีวิตคู่ที่ยั่งยืนได้กับสามีสักคนคงดีมากนะคะ กับแครี่แกรนท์ก็ดูรักกันดี


กระทู้: บาร์บารา ฮัตตัน เศรษฐินีอาภัพ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ธ.ค. 21, 11:02
ขอบคุณคุณนิ่มนวลที่ดึงกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้งค่ะ  เกือบจะลืมไปแล้ว

ครั้งหนึ่ง บาร์บารา ฮัตตันเคยพูดว่า

“All the unhappiness in my life has been caused by men.I think I'm pretty timid about marriage but I'm also too timid to live alone, and life doesn't make sense without men.”

(ความทุกข์ทั้งหมดในชีวิตฉันเกิดจากผู้ชาย   ฉันคิดว่าฉันกลัวการแต่งงาน  แต่ฉันก็กลัวเกินกว่าจะอยู่เปล่าเปลี่ยวเพียงลำพัง       ชีวิตย่อมไม่มีความหมายถ้าปราศจากผู้ชาย)