naitang
|
ความคิดเห็นที่ 480 เมื่อ 06 ม.ค. 18, 18:33
|
|
ณ วันนี้ผมก็ยังเห็นประเพณีนี้อยู่ แต่มีพัฒนาการไปอีก คือ เป็นเพียงการกรอกข้าวใส่กระบอกข้าวหลาม เอาใบตองอุดปลายกระบอก แล้วนำไปถวายพระที่วัดในงานวันบุญ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 481 เมื่อ 06 ม.ค. 18, 18:50
|
|
จากลำต้นไม้ไผ่ก็คงจะต้องลงมาถึงที่โคนกอไผ่
หลังฝนตกชุกๆไม่นานก็จะเห็นหน่อไม้เริ่มโผล่ยอดออกมา พอได้ที่ก็มีทั้งเก็บสดๆมาต้ม มาเผา มาดอง นำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารอร่อยอีกหลายชนิด ซึ่งหน่อไม้แต่ละชนิด แต่ละพันธุ์ ต่างก็เป็นตัวช่วยชูความอร่อยที่ตางกันของอาหารแต่ละอย่าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 482 เมื่อ 07 ม.ค. 18, 19:27
|
|
หน่อไม้เป็นของชอบของผม นิยมเอาทานกับน้ำพริก เอามาทำผัด และทำแกงหน่อไม้ดอง รวมทั้งแบบยัดใส้ทอดและต้มกับใบย่านาง หน่อไม้น่าจะจัดเป็นส่วนประกอบที่ใช้ในอาหารของไทยหลากหลายที่สุดอย่างหนึ่ง ไม่นับรวมอาหารที่มีต้นตอมาจากจีน
หน่อไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำอาหารของเรานั้นได้มาจากต้นไผ่ไม่กี่พันธุ์ ที่หาซื้อกันได้ในตลาดตามปรกติก็จะเป็นหน่อไม้ของไผ่รวก ซึ่งนิยมเอามาจิ้มน้ำพริก เอามาใส่แกงเผ็ด เอามาผัดกับเนื้อสัตว์ และทำซุปหน่อไม้แบบอิสาน ซึ่งก็มีทั้งแบบอัดปี๊บและแบบที่เรียกว่าหน่อต้มหรือลวก
หน่อจากไผ่อีกพันธุ์หนึ่งก็คือหน่อไผ่ตง ซึ่งก็มีทั้งแบบสดและแบบอัดปี๊บ ซึ่งหากเป็นสดก็จะนิยมเอามาทำเป็นแกงจืดต้มกับกระดูกหมู และหากเป็นแบบอัดปี๊บก็จะนิยมเอามาใช้ในการทำอาหารที่มีพื้นฐานมาจากอาหารจีน เช่น ข้าวหน้าไก่ ...
แล้วก็หน่อไม้ดองที่ทำด้วยหน่อไผ่หลายพันธุ์ ก็มีไผ่บง ไผ่ตง ไผ่หก เป็นอาทิ หน่อไม้ดองนิยมเอามาทำอาหารที่มีรสเผ็ดทั้งแบบผัดและแกงเผ็ด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
heha
|
ความคิดเห็นที่ 483 เมื่อ 07 ม.ค. 18, 19:45
|
|
ผมไป Bac Ha Sunday market ทางเหนือของเวียดนาม ชาวเขาจะนำของป่ามาขาย มีหน่อไม้ดาษดื่น จนผมไม่มอง แต่ชาวเหงียนเอาหน่อไม้รวกมายัดไส้ แล้วไปนึ่ง ลองชิมดูหน่อไม้เขานิ่มนวลมาก ไม่ทราบว่าพันธุ์อะไร แต่ texture นิ่มมาก อร่อยกว่าบ้านเราหลายช่วงตัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 484 เมื่อ 07 ม.ค. 18, 20:00
|
|
หน่อไม้มีการใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหลายอย่าง ก็เลยทำให้ตัวมันเองกลายเป็นพระรองหรือตัวประกอบในอาหารจานต่างๆ
ก็มีอาหารอยู่อย่างหนึ่งที่ได้กล่าวถึงชื่อมาแล้ว คือ หน่อไม่ยัดใส้ทอด ของอร่อยมากๆที่ตัวหน่อไม้เองได้แสดงตัวตนของตนเองออกมา อร่อยทั้งนั้นไม่ว่าจะใช้หน่อไม้สดต้มสุกแล้วเช่นที่เรียกว่าหน่อไม้รวก หน่อไม้ไร่ หน่อไม้หวาน หรือใช้หน่อไม้รวกอัดปี๊บ ยัดใส้หมูสับปรุงรสแล้วชุบแป้งกรอบแล้วทอดให้สุกและผิวกรอบ ทานร้อนๆ จะจิ้มกับน้ำจิ้มไก่ทอดหรือไม่ต้องก็ได้ เป็นของอร่อยที่อาจจะต้องทำกินเอง แต่ก็อาจจะหาซื้อได้ในตลาดบางตลาดในตัวจังหวัดในภาคเหนือ
ของโปรดของผมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
superboy
|
ความคิดเห็นที่ 485 เมื่อ 07 ม.ค. 18, 20:05
|
|
ตอนเด็กสวนหลังบ้านมีไผ่ตงเยอะมาก ย่าให้คนงานขุดมาทำกินหวานอร่อยดีแท้ (โดยเฉพาะแกงไก่ใส่เลือดก้อน ๆ ด้วย) แต่ข้อเสียของไผ่คือใบร่วงมหาศาล เมื่อเมืองขยายเข้ามาล้อมกรอบป่าไผ่จึงต้องหายไป เดี๋ยวนี้แทบหากินไม่ได้กินแล้ว ร้านข้าวแกงแถวบ้านไม่มีเมนูหน่อไม้เลย (จะทำเองก็นะ สีพันยาก็ยังหาผู้โชดร้ายไม่ได้ ถึงหาได้ก็คงทำกับข้าวไม่เก่ง) ส่วนหน่อไม้ดองผมนี่กินแล้วคันคะเยอ ยอมแพ้ครับ แต่ข้าวหลามยังได้อยู่เรื่อยๆนะครับ อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้างก็ว่ากันไป ข้าวหลามอินโดน่าลิ้มลองมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 486 เมื่อ 07 ม.ค. 18, 21:29
|
|
ตอนเด็กๆกินหน่อไม้ได้ไม่มีปัญหา แต่พอโตขึ้น วันหนึ่งก็พบว่าแพ้หน่อไม้ขึ้นมาเฉยๆค่ะ ที่รู้เพราะกินเข้าไปแล้วเป็นปื้นนูนๆ หนาๆขึ้นมาทั่วตัว ราวกับลมพิษ คันคะเยอไปหมด เลยต้องงดแกงทุกชนิดที่ใส่หน่อไม้ ตอนไปเมืองจีน อาการนั้นกลับมาทั้งๆแน่ใจว่าไม่ได้กินหน่อไม้ มาพบทีหลังว่าเขาบดหน่อไม้จนละเอียดใส่ลงในซุป กินเข้าไปโดยไม่รู้ เลยแพ้หนัก
ตอนนี้ได้แต่อ่านคำบรรยายของคุณตั้งอย่างเดียว ไปหามาชิมไม่ได้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
heha
|
ความคิดเห็นที่ 487 เมื่อ 07 ม.ค. 18, 21:37
|
|
ข้าวหลามอินโด สวยแต่รูป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 488 เมื่อ 08 ม.ค. 18, 19:07
|
|
ไม่แปลกใจหรอกครับในเรื่องของการแพ้หน่อไม้ ผมคิดว่ามีหลายครั้งที่เราต่างก็แพ้กัน เพียงแต่มันมีอาการแสดงออกมาน้อยมากมาจนไม่เป็นที่สังเกตุได้เด่นชัด ก็เลยไม่รู้
พืชผักหลายอย่างต้องทำให้สุกก่อนที่จะกิน หลายอย่างก็เพียงแต่ลวกสุกๆดิบๆก็พอ แต่หลายอย่างก็ต้องทำให้สุกอย่างทั่วถึงจริงๆ แม้จะดูเหมือนเป็นการทำเพื่อเพิ่มหรือกำจัดรสและกลิ่นก็ตาม แต่มันมีนัยที่สำคัญของภูมิปัญญาของคนโบราณแฝงอยู่ หน่อไม้ที่เราตัดมาสดๆ จะต้องนำมาต้มในน้ำเดือดๆสักพักใหญ่ๆ ไม่ว่ามันจะถูกเผาก่อนลอกกาบมาแล้วก็ตาม ต้มแล้วเทน้ำทิ้งไป เมื่อจะนำมาทานก็ควรจะต้องต้มใหม่อีกครั้ง ทั้งหมดเขาก็ว่าเพื่อขจัดรสเฝื่อน แต่ในความเป็นจริงก็คือการกำจัดสารอันไม่พึงปรารถนาที่มีผลต่อร่างกายของเรา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 489 เมื่อ 08 ม.ค. 18, 19:27
|
|
ข้าวหลามอินโด สวยแต่รูป
ีข้างในเป็นข้าวเหนียวอินโด หรืออะไรคะ รสชาติเป็นยังไง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 490 เมื่อ 08 ม.ค. 18, 19:55
|
|
สำหรับหน่อไม้ดองนั้น ทานแล้วท้องเสียดูจะเป็นเรื่องปรกติ ก็จึงไม่น่าจะแปลกใจนักหากจะมีเรื่องของการแพ้ด้วย
เท่าที่พอจะรู้ หน่อไม้ดองจะทำมาจากหน้อไม้สดโดยไม่ผ่านการต้ม โดยหลักก็เป็นการทำเพียงหั่นหน่อไม้แล้วหมักในน้ำเกลือ (brine) ที่มีความเข้มข้นประมาณ 2% เช่นเดียวกันกับการทำกล่ำปลีดอง sauerkraut ของนิยมของคนเยอรมัน แต่ในกระบวนการทำของแต่ละคนนั้นต่างก็มีขั้นตอนของตนที่จะทำให้ได้มาซึ่ง brine ที่ความเข้มข้นดังกล่าว ซึ่งเป็นความเข้มที่เหมาะสมกับแบคทีเรียชนิดดีในกลุ่ม lactobacillus ที่มีประโยขน์ต่อร่างกาย หากได้ความเข้มข้มที่ไม่เหมาะก็จะได้แบคทีเรียชนิดที่ไม่ดีผนวกเข้ามา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 491 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 19:04
|
|
ลืมบอกไปว่า การดองทั้งหลายนั้น ไม่ว่าจะเป็นของชาติใดก็ตามเขาจะใช้เกลือที่ไม่มีการผสมไอโอดีน ตามตำราของฝรั่งเขาจะไช้เกลือที่เรียกว่า kosher salt ง่ายๆก็คือเกลือเม็ดใหญ่นั่นเอง ของไทยก็คือใช้เกลือทะเลเม็ด แต่หากไม่มีก็ใช้เกลือทะเลป่นหยาบแทนก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 492 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 19:29
|
|
ผมเป็นคนชอบกินของดอง ไม่ว่าจะเป็นผักดองหรือผลไม้ดอง แต่ไม่สันทัดในการทำเอง ดูก็น่าจะทำง่ายๆ ซึ่งมันก็ง่ายจริงๆหากเห็นว่าก็เป็นเพียงทำน้ำเกลือแล้วใส่พืชผักผลไม้ลงไปดอง แต่เอาเข้าจริงๆไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย ปรุงรวของอร่อยนั้นเขามีวิธีการทำของเขา เช่น คลุกเกลือก่อน พักไว้หนึ่งคืน ล้างเกลืออกแล้วจึงค่อยใส่น้ำและเกลือดอง หรือผึ่งแดดไว้หนึ่งวันแล้วจึงเอามาดอง...ฯลฯ ไม่นับรวมว่าจะต้องดองไว้กี่วัน ไม่น้อยกว่าเท่านั้นวัน หรือดองไว้เท่านั้นวันแล้วจึงเอามาออกมาทาน ไม่เหมาะที่จะดองเกินกว่าเท่านั้นวัน เหล่านี้เป็นต้น แล้วก็ยังมีอีกด้วยว่า ดองแบบปรุงรสน้ำก่อนดอง หรือดองแล้วจึงเอามาปรุงรส ขิงดองที่กินแนมกับอาหารญี่ปุ่นเป็นแบบดองก่อนแล้วเอาไปปรุงรสทีหลัง ขิงดองสีชมพูสวยๆของเราเป็นแบบดองในน้ำดองที่ปรุงรสแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 493 เมื่อ 09 ม.ค. 18, 20:15
|
|
พริกดองน้ำส้มเป็นของที่เราคุ้นเคย หลายคนเอาแต่ตัวพริก หลายคนเอาแต่ตัวน้ำส้ม น้ำส้มพริกดองตามร้านก๋วยเตี๋ยวเกือบทั้งหมด(น่าจะทั้งหมด)เป็นแบบดองด่วน คือหั่นพริกใส่ลงในน้ำส้มสายชูกลั่น บางเจ้าก็ใส่เกลือลงไปช่วยปรับรส แต่ส่วนมากน่าจะไม่มีการใส่เกลือ หากจะให้พริกดูสดและกรอบก็ทำใหม่ทุกๆวัน
ลองมาทำพริกดองกินกันเอง กรอบอร่อยแบบไม่ต้องใช้น้ำส้มสายชูเลย จะกินเป็นของแนมกับอาหารใดๆก็พอได้อยู่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 494 เมื่อ 10 ม.ค. 18, 19:18
|
|
ทำพริกดองแบบทันใจนั้น ความเปรี้ยวจะได้มาจากตัวน้ำส้ม ส่วนกลิ่นจะได้มาจากตัวน้ำส้มเอง(น้ำส้มหมักจากพืชผลชนิดต่างๆ) หรือได้มาจากการแต่งกลิ่นด้วยการใส่เครื่องกลิ่นลงไป(เครื่องเทศ) ทำแล้วแช่ทิ้งไว้ให้เข้าเนื้อในตู้เย็นสักสองสามชั่วโมงก็ใช้ได้แล้ว สำหรับรสนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนที่จะปรุงแต่งออกมา
ส่วนผสมที่ใช้เป็นหลักพื้นฐาน คือ น้ำส้ม 1 แก้ว น้ำ 2 แก้ว เกลือทะเลเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ภาชนะตั้งไฟให้ละลายเข้ากัน เมื่อคลายร้อนจนรู้สึกอุ่นๆแล้วก็เทใสในขวดปากกว้างที่ใส่พริกรอไว้แล้ว จะหั่นพริกหรือไม่หั่นก็ได้ ทิ้งให้เย็นพอที่จะเอาเข้าตู้เย็นแล้วก็แช่เย็นไว้ แบ่งออกมาทานตามใจชอบ ลองทำครั้งแรกแล้วก็คงพอจะทราบว่า ควรจะการปรับรสไปทางใหน จะเติมน้ำตาลก็ได้ จะดองพืชผักอย่างอื่นร่วมไปก็ได้เช่นกัน เช่น แตงกวา หอมแดง กระเทียมกลีบที่ปอกเปลือกแล้ว
ผมใส่ใบมะกอกอ่อนลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความกรอบของพริกดอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|