กระทู้: ที่มาของ "ข้าวแช่" เริ่มกระทู้โดย: เที่ยงครึ่ง ที่ 31 ก.ค. 01, 23:10 ขอความรู้ด้วยครับ ข้าวแช่ชาววัง มีมาตั้งแต่เมื่อไหร หนังสือบางเล่มบอกว่า รัชกาลที่ 4 ทรงนำไปเผยแพร่ที่เพชรบุรี บางเล่มบอกว่า รัชกาลที่ 5 ทรงได้มาจากเกาะเกร็ด
กระทู้: ที่มาของ "ข้าวแช่" เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 27 ก.ค. 01, 22:50 ข้าวแช่ชาววัง คงได้แบบมาจาก ข้าวแช่ชาวบ้าน น่ะค่ะ ไม่ใช่ชาวบ้านได้ไอเดียมาจากชาววัง
ส่วนข้าวแช่ชาวบ้านนี่ไม่ทราบมาจากของมอญรึเปล่านะคะ กระทู้: ที่มาของ "ข้าวแช่" เริ่มกระทู้โดย: ส้มหวาน ที่ 28 ก.ค. 01, 01:48 เคยดูสารคดีหนึ่ง เขาบอกว่าข้าวแช่สมัยก่อนจะมีแค่ในวัง เพราะ น้ำแข็งเป็นของexoticสมัยนั้นนะคะ
ดิฉันก็ไม่ทราบว่าข้าวแช่ชาวบ้านใส่น้ำแข็งหรือปล่าว กระทู้: ที่มาของ "ข้าวแช่" เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 28 ก.ค. 01, 04:39 Sorry about using English ka.
It could be that the current recipe was invented by the courtesans. However, I guess it probably modified from preexisting way to eat ข้าวแช่ like that. I used to live near Mon community a long time ago. It's very common summer snack among Mon people ka. Terra cotta pot = 'moh din' can keep water pretty cool na ka. Nowadays it's very easy to get ice, so I think once you tried putting ice in ข้าวแช่, you'd keep doing it because it can make ข้าวแช่ much colder. Anyway, I just speculate na ka. Most Thai dishes seem to have pretty long history or adapted from other cuisine. So I deduced that it could be that we adopted and adapted ข้าวแช่ and improved it with ice and could have even improved the recipe itself. กระทู้: ที่มาของ "ข้าวแช่" เริ่มกระทู้โดย: ส้มหวาน ที่ 29 ก.ค. 01, 00:01 สงสัยที่คุณพวงร้อยพูดจะมีเค้านะคะ
ดิฉันไปได้ขอ้มูลจาก http://www.naichef.com/khaochae.html มา อ่านแล้วจึงทราบว่าข้าวแช่ในสมัยสุนทรภู่กํมีคะ จึงขอคัดลอกจากโฮมเพจนั้นมาให้อ่านกัน "...ฤดูร้อนก่อนเก่าทำข้าวแช่ น่าชมแต่เครื่องกับสำรับฉัน ช่างทำเป็นดอกจอกและดอกจันทน์ งามจนชั้นกระชายทำเหมือนจำปา มะม่วงดิบหยิบดูจึ่งรู้จัก ช่างน่ารักทำเป็นเช่นมัจฉา..." จาก "รำพันพิลาป" ของรัตนกวีสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ได้รจนาไว้ถึง "ข้าวแช่" ว่าเป็นของกินในฤดูร้อนที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กระชายและมะม่วงที่สลักเสลาจนสวยงามตามที่ท่านสุนทรภู่กล่าวถึงนั้น น่าจะเป็นช้าวแช่ตำรับชาววัง ด้วยข้าวแช่ตำรับชาวบ้านนั้นไม่ได้พิถีพิถันในการปรุงแต่งเท่าใดนัก เพียงหุงข้าวให้สวยแล้วเติมน้ำลงไปก็เรียบร้อย กับข้าวแช่ก็มีกะปิชุบไข่ทอด หัวไชโป๊วผัดหวาน ปลาแห้ง เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน เป็นต้น กระทู้: ที่มาของ "ข้าวแช่" เริ่มกระทู้โดย: ส้มหวาน ที่ 29 ก.ค. 01, 00:19 จาก www.thaiday.com ค่ะ(ขอโทษค่ะที่ต้องcopy มาให้อ่าน เพราะดิฉันพิมพ์ไทยไม่ค่อยถนัด ถ้ามานั่งพิมพ์เองคงเสียเวลาเป็นชั่วโมงแน่ค่ะ)
สำหรับประวัติของข้าวแช่นั้น มีการกล่าวกันไว้ว่า "ข้าวแช่" เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากชาติมอญ ในปลายรัชกาลที่ 3 และแพร่หลายอย่างมากในพระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นต้นตำรับที่แท้จริง แล้วก็ถูกลืมกลืนหายไป แต่กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ในสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จแปรพระราชฐานมาพระนครคีรี พนักงานเครื่องต้นได้นำข้าวแช่ขึ้นถวาย อันเป็นที่พอพระราชหฤทัยยิ่งนัก จึงได้ทรงฟื้นฟูและปรับปรุงสูตรข้าวแช่ขึ้นใหม่ ซึ่งมีการเล่าขานกันว่า ข้าวแช่ฝีมือเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ตำหนักของพระวิมาดาเธอกรมพระสุทธาสินีนาถ นั้นอร่อยและสวยงามมาก จนกลายเป็นต้นแบบของข้าวแช่ในปัจจุบัน กระทู้: ที่มาของ "ข้าวแช่" เริ่มกระทู้โดย: อ้อยขวั้น ที่ 01 ส.ค. 01, 11:10 เคยอ่านเจอว่าสมัยก่อนใช้พิมเสนโรยแทนน้ำแข็งนะคะ พิมเสนแท้ๆ คงกินได้ เพราะตอนเด็กๆ คุณยายเคยมีพิมเสนใส่หลอดเงินไว้ดมและกินแก้ลมขึ้น แต่เดี๋ยวนี้พิมเสนคงเป็นแบบสังเคราะห์ กินได้หรือเปล่าไม่ทราบนะคะ
|