เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: pipat ที่ 13 มี.ค. 08, 18:48



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 13 มี.ค. 08, 18:48
สหายต่างชาติ ส่งข้อมูลใหม่มาให้ศึกษา
พระบรมฉายาสาทิศลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เป็นพระรูปซึ่งไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 13 มี.ค. 08, 18:49
.


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 13 มี.ค. 08, 18:54
.


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: cannavaro ที่ 14 มี.ค. 08, 13:10
ขอบคุณครับ เป็นบุญตาที่ได้ชม

พระรูปนี้ ดูเหมือนพระชนมายุยังไม่มากเท่าไหร่
น่าจะยังไม่ถึง 30 พรรษาหรือป่าวครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 14 มี.ค. 08, 13:21
กำลังทำการบ้านให้เพื่อนอยู่ครับ
มีให้เลือก 2 ครั้งคือ เมื่อบรมราชาภิเษกครั้งแรก 2411
หรือครั้งที่ 2 เมื่อ 2416

ส่วนตัวมีความมั่นใจที่จะระบุ แต่ยังไม่มั่นใจที่จะแสดงความเห็น
ส่วนพระรูปนี้ ซึ่งคนทั้งหลายมักจะบอกว่าเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 2416 นั้น
ผมขอยืนยันว่า มิใช่ครับ เป็นการฉายพระบรมรูปเพื่อฉลองพระนครครบ 100 ปี
พ.ศ. 2425


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 15 มี.ค. 08, 01:44
ดูจากพระบรมฉายาลักษณ์แล้ว  ผมคิดว่าพระชนมายุไม่น่าจะเกิน 20  หรือจะเป็น พ.ศ.2414  ครั้งเมื่อขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ...... :)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 15 มี.ค. 08, 02:13
นี่ไปเอาปี 2414 มาจากใหนอีกล่ะท่าน
ข้าพเจ้างง


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 15 มี.ค. 08, 11:19
พระบรมฉายาลักษณ์องค์นี้ยังไม่ได้ทรงไว้พระมัสสุ (หนวด)  น่าจะทรงฉายตอนต้นรัชกาล
ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย คือ ทรงฉายคราวบรมราชาภิเษกครั้งแรกหรือครั้งที่สอง 

ข้อที่จะพิสูจน์ว่าทรงฉาย พ.ศ. ๒๔๑๖ นั้น  เห็นจะต้องดูที่ลักษณะเส้นพระเจ้า  เพราะในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ เสด็จออกทรงผนวช  เมือทรงลาผนวชแล้ว  จึงโปรดให้มีการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่สอง  เมื่อวันที่  ๑๖  พฤศจิกายน  ๒๕๑๖  ซึ่งห่างจากลาเวลาที่ทรงลาผยวชไม่นานนัก  และหากพระบรมฉายาลักษณ์นี้ทรงฉายเนื่องในการบรมราชาภิเษกครั้งที่สอง  น่าจะสังเกตเส้นพระเจ้าได้ว่า จะค่อนข้างสั้น 

แต่หากทรงฉายคราวบรมราชาภิเษกครั้งแรก  เมื่อวันที่  ๑๑  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๔๑๑  เวลานั้นเพิ่งจะทรงหายจากพระประชวรไข้ป่า  ซึ่งว่กันว่าพระอาการเจียนอยู่เจียนไปเลยทีเดียว  กรณีนี้คงต้องสังเกตจากพระพักตร์และพรอิริยาบถ

นอกจากนั้นในบันทึกเรื่องการพระราชพิธีโสกันต์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๓  ก็กล่าวไว้ว่า ทรงพระเครื่องต้นและทรงฉายพระบรมฮายาลักษณ์ไว้  แต่คงไม่ใช่องค์ที่ชิญมาให้ชมกันนี้  เพราะเวลานั้นดูเหมือนจะทรงไว้พระมัสสุแล้ว


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 15 มี.ค. 08, 23:25
ขออำภัยครับ  2511  คราวบรมราชาภิเษกครั้งแรกครับ(ผิดอย่างแรง)  คือจากพระบรมฉายาลักษณ์น่าจะประมาณ 15-16 พระชันษา......... ;D


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 16 มี.ค. 08, 04:44
น่าสนใจมากครับ ยังหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ แต่มีพระบรมฉายาลักษณ์มาเพิ่มอีกหนึ่งองค์ โปรดดูตามลิ้งก์นี้
http://www.thaisamkok.com/forum/lofiversion/index.php/t7469.html

ดูเผินๆ อาจคิดว่าเป็นองค์เดียวกับที่คุณพพ.เชิญมาในความเห็นที่ ๔ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ สังเกตเครื่องราชูปโภคที่เชิญมาทอดถวายไว้ที่ม้าเคียงทั้งซ้ายและขวาตลอดจนพระสุพรรณราชที่ทอดไว้บนพื้นนั้น เป็นคนละสำรับกัน พระสุจหนี่ที่ลาดรับพระที่นั่งกง ก็คนละลวดลายกัน



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 16 มี.ค. 08, 11:31
พระพรมรูปชุดนี้ ตามพระอารามหลวงชั้นเอก มีแขวนประดับไว้
เป็นรูปใส่กรอบขนาดใหญ่มาก เห็นจะเกือบเท่าพระองค์จริง
พิมพ์สอดสี บนวัสดุคล้ายกระดาษ อาจจะเป็นแผ่นหนังหรืออะไรไม่อาจบอกได้
แต่มีรอยแตกระแหง เป็นเกล็ดไปทั้งชิ้น

ผมไม่สามารถพิจารณาไกล้ได้
เดาว่าจะสร้างพระราชทานในปีฉลองพระนครครบร้อยปี
ทั้งหมด เดาล้วนๆ ครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 16 มี.ค. 08, 23:48
จากรูปใน คห.1  กับรูปในคห.สุดท้าย  พระมหาพิชัยมงกุฏ  ผมว่าไม่เหมือนกันครับ  ส่วนพานพระศรีดุแล้วคล้ายกันมากครับ..... ::)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 17 มี.ค. 08, 02:41
พระบรมฉายาลักษณ์องค์แรก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระชฎากลีบครับ สององค์หลังทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ

ส่วนเครื่องราชูปโภคในพระบรมฉายาลักษณ์องค์แรก
ม้าเคียงขวาพระหัตถ์ทอด
๑. พานพระขันหมาก (สำรับเล็ก สร้างในรัชกาลที่ ๔ ชาววังชอบเรียกว่า "ชุดสมเด็จพระเทพ (ศิรินทรฯ)" เพราะเชื่อกันว่าทรงสร้างพระราชทานสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี แต่..ผมไม่ใคร่จะเชื่อครับ)
๒. พระสุพรรณศรี (สร้างในรัชกาลที่ ๔)
ที่พื้นทอด พระสุพรรณราช (มองไม่ถนัดว่าลวดลายเป็นอย่างไร เข้าใจว่าเป็นองค์ที่สร้างในรัชกาลที่ ๔ พร้อมกับพานพระขันหมากสำรับเล็ก)
ม้าเคียงซ้ายพระหัตถ์ทอด
๑. พระมณฑปรัตนกรัณฑ์ (เล็ก สร้างในรัชกาลที่ ๔)
๒. พระสุวรรณภิงคาร (ของนอกสำรับพานพระขันหมากเล็ก)

เครื่องราชูปโภคในพระบรมฉายาลักษณ์องค์ที่ ๒
ทอดเครื่องราชูปโภคสำรับพานพระขันหมากเล็ก (รัชกาลที่ ๔) เหมือนในพระบรมฉายาลักษณ์องค์แรก แต่ไม่ได้ทอดพระสุวรรณภิงคาร
ส่วนพระสุพรรณราชทอดไว้ที่พื้นเบื้องซ้ายแทน

เครื่องราชูปโภคในพระบรมฉายาลักษณ์องค์ที่ ๓
ม้าเคียงขวาพระหัตถ์ทอด
๑. หีบพระศรีพร้อมพานรอง
๒. พระสุวรรณภิงคาร
พื้นเบื้องขวาทอดพระสุพรรณราช (ทรงเฟือง สร้างในรัชกาลที่ ๑)
ม้าเคียงซ้ายพระหัตถ์ทอด
๑. พระมณฑปรัตนกรัณฑ์ (สำรับใหญ่ สร้างในรัชกาลที่ ๑)
๒. พานพระขันหมาก (เล็ก สร้างในรัชกาลที่ ๔)
๓. พระสุพรรณศรี (สร้างในรัชกาลที่ ๔)

จากพระบรมฉายาลักษณ์ทั้ง ๓ องค์จะเห็นความแตกต่างของการเชิญเครื่องราชูปโภคมาทอดถวายในอดีตกับในปัจจุบัน กล่าวคือ ในอดีต จะเชิญอย่างแยกสำรับก็ได้ เช่น อาจเชิญเครื่องราชูปโภคในสำรับใหญ่ของรัชกาลที่ ๑ มาปะปนกับเครื่องราชูปโภคสำรับเล็กของรัชกาลที่ ๔ หรือเชิญตามแต่จะทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย ส่วนในปัจจุบัน การทอดเครื่องราชูปโภคจะจัดคุมสำรับอย่างชัดเจน ไม่มีการเชิญของแตกสำรับมาปะปน


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 17 มี.ค. 08, 12:47
ในเมื่อพระฉายาลักษณ์องค์แรกทรงพระมหากฐินซึ่งมียี่ก่าหรือขนนกการเวกประดับที่พระมหามงกุฎ  จึงพอจะตัดประเด็นเรื่องทรงฉายในคราวบรมราชาภิเษกครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๑๑ ออกไปได้  เพราะเหตุผลที่ต้องสร้างพระมหากฐินนั้น  เพราะน้ำหนักของพระมหาพิชัยมงกุฎที่หนักเอามากๆ  อีกทั้งขนาดไม่พอดีกับพระเจ้า  ดังที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยทรงเล่าไว้ในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ ว่า เวลาทรงพระมหาพิชัยมงกุฎแล้ว  จะต้องทรงระวังมิให้พระมหาพิชัยมงกุฎโค่นลงมาเป็นที่เสื่อมเสียพระเกียรติยศ  ดังนั้นสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าเมื่อเสด็จเสวยราชย์จึงมักจะทรงสร้างพระมหากฐินซึ่งมีน้ำหนักเบาและมีขนาดเหมาะกับพระเจ้าไว้ทรงแทนพระมหาพิชัยมงกุฎในเวลาทรงพระเครื่องต้น  ดังนั้นจึงน่าจะตัดประเด็นเรื่องทรงฉายเมื่อคราวบรมราชาภิเษกครั้งแรกใน พ.ศ. ๒๔๑๑ ออกไปได้ 

ประเด็นที่จะต้องสืบค้นต่อไปคือ โปรดให้สร้างพระมหากฐินนั้นเมื่อไร  ในประเด็นนี้มีข้อที่น่าจะหยิบยกขึ้นพิจารณาประกอบ คือ การเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานผ้าพระกฐินในสมัยก่อนมักจะเสด็จฯ โดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค  หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นกระบวนราบ  ซึ่งเวลาเสด็จฯ จะต้องทรงเครื่องบรมราชถูษิตาภรณ์ประทับพระราชยานไปดทียบที่เกยหน้าพระอาราม  แล้วจึงทรงเปลื้องพระมหากฐินเปลี่ยนไปทรงพระมาลาเส้าะเทิ้นเสด็จเข้าส๔พระอาราม  และเวลาเสด็จฯ กลัยก็จะทรงเปลี่ยนมาทรงพระมหากฐินยาตรากระบวนเสด็จกลับ  ดังนั้นพระมหากฐินองค์นี้น่าจะสร้างและเริ่มทรงใช้งานครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๑๒ 

นอกจากนั้นการถ่ายในตอนต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นยังเป็นการใหญ่อยู่  ธรรมเนียมการฉายพระบรมฉายาลักษณ์ในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาจึงยังคงจะไม่มี  แต่คงจะฉายพระบรมฉายาลักษณ์เฉพาะในการพระราชพิธีสำคัญซึ่งเป็นการนานๆ ครั้ง  และถ้าพระบรมฉายาลักษณ์องค์ที่ว่า พระราชทานไว้ตามพระอารามต่างๆ นั้นเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงฉายคราวฉลองพระนครครบ ๑๐๐ ปีแล้ว  พระบรมฉายาลักษณ์ในความเห็นแรกจึงน่าจะทรงฉายเมื่อคราวบรมราชาภิเษกครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๖ เป็นแน่


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 17 มี.ค. 08, 15:33
ด้วยความเคารพ ผมขออนุญาตแสดงความเห็นเรื่องพระชฎาต่างไปจากคุณ V_Mee นะครับ

ผมว่าพระชฎาในพระบรมฉายาลักษณ์ตามความเห็นที่ ๑ นั้นคือ "พระชฎากลีบ" สร้างในรัชกาลที่ ๑ ครับ ไม่ใช่พระชฎามหากฐิน

พระชฎากลีบสร้างด้วยทองคำลงยาประดับเพชรมีส่วนประกอบคือ มาลาไม่มีเกี้ยว ส่วนยอดค่อนข้างแบนจำหลักเป็นกลีบ ปลายสะบัดไปข้างหลัง เป็นยอดเดี่ยวปลายมนช้อยขึ้น ส่วนพระชฎา ๕ ยอด หรือพระชฎามหากฐิน ปัจจุบันมี ๔ องค์ คือของรัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗ พระชฎามหากฐิน ๔ องค์นี้ทำด้วยทองคำลงยาประดับเพชร ลักษณะคล้ายกัน มีส่วนประกอบ คือ มาลา เกี้ยว ส่วนยอดเป็น ๕ แฉก ยอดกลางสูง อีก ๔ ยอดเล็กและต่ำกว่า ปลายสะบัดไปข้างหลังแต่ปัดลงไม่ช้อยขึ้น ตรงกระหม่อมติดกระจังโดยรอบเป็นชั้น มีกรรเจียกจร ตอนล่างส่วนยอดพระชฎาปักใบสนหรือขนนกการเวก

พระชฎามหากฐินรัชกาลที่ ๑ และพระชฎามหากฐินรัชกาลที่ ๕ ทรวดทรงต่างจากที่เห็นในพระบรมฉายาลักษณ์แน่นอนครับ พระชฎามหากฐินจะมีทรงค่อนข้างป้อมเตี้ยกว่า และถ้าจะสันนิษฐานว่าพระชฎาองค์นี้เป็นพระชฎามหากฐินรัชกาลที่ ๑ ก็ต้องขอยืนยันอีกว่าไม่ใช่แน่ เพราะพระชฎามหากฐินรัชกาลที่ ๑ มีเกี้ยว ๓ ชั้นและดอกไม้ไหวแซม ส่วนพระชฎาในพระบรมฉายาลักษณ์นั้นไม่มีเกี้ยว ทรงเพรียวสูง และมียอดกลีบปลายปัดซึ่งเป็นลักษณะของพระชฎากลีบครับ

อย่างไรก็ดี พระชฎากลีบและพระชฎามหากฐินรัชกาลที่ ๑ มีส่วนที่คล้ายกันส่วนหนึ่งคือยี่กาเป็นแบบ "ใบสน" ส่วนพระชฎามหากฐินรัชกาลที่ ๕ ยี่กาเป็นแบบ "ขนนกการเวก" ครับ มีลักษณะไม่เหมือนกัน

ฉะนั้น พระบรมฉายาลักษณ์องค์ที่พวกเรากำลังสืบที่มากันอยู่นี้ จึงอาจฉายในตอนต้นรัชกาลที่ ๕ ช่วงใดๆ ก็ได้ ยังไม่อาจชี้ชัด เพราะพระชฎากลีบเป็นของที่สร้างมาแต่ครั้งรัชกาลที่ ๑ ครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 17 มี.ค. 08, 17:45
เรื่องชฎานี้ เป็นปมที่ต้องขบให้แตกครับ
ตามที่ผมเข้าใจนั้น พระมหาพิชัยมงกุฎ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เป็นราชูปโภค
มิได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน

องค์ที่ใช้จริง คือพระชฏามหากฐิน ซึ่งเบา กระทัดรัด เหมาะแก่การเสด็จเลียบพระนคร
(เป็นพระราชภารกิจแรกๆ ที่ทรงกระทำในฐานะจักรพรรดิราชเจ้าจักรวาล ไม่เสด็จไม่ได้)

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ทรงเปลี่ยนราชประเพณีตรงนี้ เพื่อให้ฝรั่งเข้าใจ
ตามธรรมเนียมฝรั่งนั้น จุดสำคัญแห่งการราชาภิเษก คือการสวมมงกุฏ ในขณะที่ทางฮินดู ถือการรดน้ำ
เป็นรายละเอียดเชิงคติ ที่ต่างกันอย่างสำคัญ
ดังนั้น เมื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นอกจากจะเชิญฝรั่งเข้าร่วมแล้ว
ยังทรงเปลี่ยนพิธีรับมงกุฏ ที่เดิมเพียงแต่แตะ แล้วพนักงานรับไปเทียบเข้าในสำรับ
ก็ทรงรับ แล้วยกสวมด้วยพระองค์เอง

พระมหาพิไชยมงกุฏ ซึ่งสร้างไว้เพื่อชม จึงหนักถึง 7. 2 กิโลกรัม
(หนักเท่าข้าวถุงมาบุญครอง หนึ่งถุงครึ่งนะครับ)

ก็ได้มาใช้สวมพระองค์เป็นครั้งแรก


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 มี.ค. 08, 19:21
มาช่วยเพิ่มเรตติ้งค่ะ

มาแกะรอยจากพระรูป
- ดูจากพระพักตร์ ที่ยังใสมาก   เกลี้ยงเกลา  พระปราง(แก้ม) ยังอิ่ม ไม่ตอบ   ไม่มีพระมัสสุ(หนวด) 
กะว่าพระชนม์ประมาณ ๑๖ พรรษา ค่ะ 
เคยเห็นพระรูปเมื่อพระชนม์ยี่สิบกว่า ๆมีพระมัสสุแล้ว  พระปรางผอมตอบกว่านี้ 

- ฉลองพระองค์ใหม่เอี่ยม เรี่ยมทีเดียว เหมือนตัดใหม่เพิ่งทรงสวมครั้งแรก

- สังเกตว่าพรมปูพื้นแบบฝรั่งนั้น  ปลายทั้งสองข้างยกขึ้นมา แบบเดียวกับเวลาเราปูพรมบนพื้นที่แคบ  ไม่พอกับพรม  ปลายพรมจะไปนูนอยู่ตรงขอบห้อง
ทำให้สงสัยว่าสองข้างนี้เป็นผนังกั้นหรืออะไร

- จากพระอิริยาบถ พระกรขวาอยู่ในท่าเกร็ง  พระชงฆ์ และพระบาทก็วางเกร็งอย่างมีระเบียบ   
แสดงว่าต้องทรงพระองค์ให้ตรงมีสง่า    อยู่ยาวนานหลายนาที กว่าช่างภาพจะถ่ายพระรูปเสร็จ    เพราะสมัยโน้นกินเวลานานมาก ไม่ได้กดกริ๊กเดียวได้อย่างสมัยนี้
ถ้าพระมหามงกุฎหนัก คงจะทรมานพระองค์ไม่น้อยกว่าจะทรงฉายเสร็จ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 17 มี.ค. 08, 20:09
ตามล่าหาทันตแพทย์ในบอร์ดครับ
ไม่ทราบมีท่านไหนต่อเฉพาะด้านเรื่องจัดฟันมาบ้าง
น่าจะเป็นคนที่ใหคำตอบได้ดีมาก.....


ในความคิดของผม การเล่นกับรูปถ่ายขาวดำ
คือการเล่นกับแสงและเงาเป็นหลัก
ภาพตัวเอง ถ่ายวันเดียวกัน มุมกล้องคนละมุม แสงคนละแบบ
หน้าตาก็อิ่มขึ้นหรือหมองลงได้ไม่ยากนัก
ของที่น่าจะช่วยเราได้ดีกว่า คือการสังเกตการเจริญของปุ่มกระดูกครับ
เพราะปุ่มกระดูกแต่ละปุ่มในร่างกาย เจริญขึ้นตามวัยของเจ้าของ
และมีรูปแบบเฉพาะตัวของเจ้าของเอง....

เหมือนเด็กที่เกิดมาหน้ากลมบ้าง หน้ารูปไข่บ้าง.....
พอโตขึ้นมาทำไมบางคนหน้าเหลี่ยม บางคนคางแหลม ?
ที่เหลี่ยมมุมของใบหน้าเพิ่มมากขึ้น
เพราะการเจริญของปุ่มกระดูกต่างๆ ฟันและขากรรไกรเป็นไปตามวัยครับ
แต่พอถึงวัยหนึ่ง ความเจริญก็เริ่มชะลอลง
และปรับเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ






ถ้าสังเกตดีๆ พระบรมฉายาลักษณ์แรกที่คุณพิพัฒน์ยกมายังทรงพระเยาว์อยู่มากครับ
พระหนุก็ยังเจริญไม่เท่ากับภาพล่าง

ถ้าเอาพระบรมฉายาลักษณ์ล่างเป็นตัวตั้ง ว่าเป็นลักษณะของพระหนุเมื่อมีพระชนมายุ 23 - 24 พรรษา
(ประเมินตามอายุที่เจริญสูงสุดของคาง และขากรรไกรของคนปรกตินะครับ)
เทียบกับพระบรมรูปที่ฉายหน้าหมู่พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อยังทรงพระเยาว์อยู่
หมอจัดฟันซักคนก็น่าจะตอบเราได้แล้ว ว่าพระบรมรูปแรกฉายเมื่อพระชนมายุเท่าไหร่
แล้วในปีใกล้เคียงนั้นมีเหตุการณ์สำคัญอะไรพอที่จะฉายพระบรมฉายาลักษณ์บ้าง ???


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 18 มี.ค. 08, 00:39
นี่ใช่ไม๊ครับพระชฎากลีบ  ดูลักษณะแล้วเหมือนมากครับ  กับที่ทรงใน คห.1 .......... :)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 18 มี.ค. 08, 00:50
ท่านพี่ติบอมาแนว นิติทันตวิทยา  ซึ่งถ้ามีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้รับรองได้เลยว่าสมมติฐานใกล้เคียงแน่ๆ  สมเป็นช่างภาพจริงๆ.... ;)

มีรูปเสด็จพระราชดำเนินทอดผ้าพระกฐินที่วัดราชบพิธ  พ.ศ.2513  ในภาพทรงชฎามหากฐินใช่ไม๊ครับ  ประทับที่พระราชยานไกลมากดูไม่ถนัดครับ.. ::)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 18 มี.ค. 08, 00:53
นี่ใช่ไม๊ครับ  พระชฎามหากฐิน  .... 8)

จากเวปนี้ครับ
http://www.kingdom-siam.org/head.html


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 01:08
ต้องจับคุณบานาไปตัดแว่นซะแระ
ผิดสองหนแล้วนา

เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ในรัชก่าลที่ 5 นี่ครับ
รึว่าผมเองที่ตาถั่ว


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 18 มี.ค. 08, 01:50
http://www.kingdom-siam.org/head.html

ง่ะเป็นรูปพระชฎาจริงๆครับท่านพิพัฒน์ .... 8)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 18 มี.ค. 08, 05:50
ดูจากทรวดทรงแล้ว ผมว่าพระชฎาที่ทรงในพระบรมฉายาลักษณ์ในความเห็นที่ ๑๙ ของคุณบานาก็เป็นพระชฎากลีบอยู่ดีแหละครับ ถ้าเป็นพระกฐินวัดราชบพิธฯ ในพุทธศักราช ๒๔๑๓ พระมหากฐินรัชกาลที่ ๕ หรือพระมหาชมพูนั้นอาจจะยังไม่ได้สร้างหรือสร้างไม่แล้วเสร็จก็ได้ เดี๋ยวผมจะลองสืบค้นดูครับว่า พระชฎามหากฐินรัชกาลที่ ๕ สร้างเมื่อใด ขอเวลาสักแป๊บครับ

พระมหากฐินรัชกาลที่ ๑ นั้นถ้าจำไม่ผิด ผมเข้าใจว่าจะมีพระบรมฉายาลักษณ์ในรัชกาลที่ ๔ เคยทรงนะครับ องค์ที่ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับบนพระที่นั่ง แวดล้อมด้วยราชูปโภค ผมเชื่อว่าคุณ พพ.ต้องมี คุ้นๆ ว่าในพระบรมฉายาลักษณ์องค์นั้น พระจอมเกล้าทรงพระชฎามหากฐินรัชกาลที่ ๑

ผมว่าการทรงพระมหาพิชัยมงกุฎฉายพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นเรื่องหนักหนาเอาการอยู่ครับ เมื่อไม่นานมานี้ เคยเห็นพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ ๔ ทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ ดูสีพระพักตร์ไม่ทรงพระสำราญสักเท่าไรเลย แถมยอดพระมหามงกุฎก็ดูไหวๆ อาจเป็นเพราะต้องประทับนิ่งเกร็ง เทินพระมหามงกุฎหนักกว่าข้าวสารถุงอย่างที่คุณ พพ.เปรียบ อยู่เป็นนานสองนาน ในช่วงต้นรัชกาลที่ ๕ หากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ยังมีพระอนามัยไม่ใคร่สมบูรณ์ ผมว่าการทรงพระมหาพิชัยมงกุฎประทับอยู่นานๆ คงเป็นเรื่องไม่เหมาะนัก

ขออนุญาตเรียนถามคุณ พพ.ว่าการถ่ายรูป portrait สมัยนั้นต้องเซตฉากถ่ายกันนอกอาคารรึเปล่าครับ? มีบ้างหรือไม่ที่ไปถ่ายกันในอาคาร?

ตอนนี้สายตาผมลงมาจับอยู่ที่สังวาลเฉวียงพระอังสาซ้ายไปขวา ยังสงสัยว่าเป็นสังวาลองค์ใด ถ้าเป็นดอกฝังพลอยทั้งองค์แบบนี้น่าจะเป็น "พระมหาสังวาลนพรัตน์" แต่ก็แปลกใจอีกว่าทำไมถึงเฉวียงพระอังสาข้างนั้น ในเมื่อตามปรกติ พระมหาสังวาลนพรัตน์จะเฉวียงจากพระอังสาขวาลงทางบั้นพระองค์ซ้าย


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 06:59
เชิญพระบรมฉายาลักษณ์ในรัชกาลที่ 4 มาให้วินิจฉัยครับ
เรามีพระรูปรัชกาลที่ 4 ทรงพระมหาพิชัยมงกุฏ 2 พระองค์ คือ
1 เมื่อต้นรัชกาล ส่งถวายพระราชินีนาถวิคตอเรีย ทรงฉายเมื่อประมาณ 2399 ด้วยเทคนิคแผ่นเงิน (ดาแกโรไทป์)
2 เมื่อทรงซายิด พระราชทานชาวต่างชาติ ในต่างประเทศ พศ. 2407


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 07:03
พระรูปทรงพระชฏามหากฐิน มีพระองค์เดียว
ฉายเพื่อพระราชทานประดิษฐานณ ศาลาไทย คราวมหานิทรรศการ 2410 ปารีส
นายเกรอัง กงศุลไทยเชิญไปจำลองเป็นลายเส้นงลในหนังสือแนะนำประเทศไทย ประกอบนิทรรศการนี้


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 มี.ค. 08, 07:03
ภาพวัดราชบพิธในรัชกาลที่ ๕ งามจริงๆ
ภาพรัชกาลที่๔ และ ๕ ไม่ว่าจะทรงพระชฎาไหน ก็งามเหมือนสมมุติเทพ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 07:11
เปรียบเทียบพระรูปเดียวกัน เมื่อฝรั่งทำเป็นลายเส้น
ย่อมมีความผิดเพี้ยนเป็นธรรมดา
อย่างแรกคือกลับซ้ายเป็นขวา แต่ดันเปลี่ยนดอกไม้ไหวสลับด้าน
และเน้นพระพักตร์จนจะกลายเป็นคนอื่นไปเสียนั่น


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 07:17
เมื่อเสด็จถวายผ้าพระกฐิน วัดโพธิ์ 2409 ทรงพระชฏามหากฐิน
จะให้ทรงองค์อื่นได้อย่างไร ชือพระชฎาก็ย้ำอยู่แล้ว


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 07:17
.


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 07:21
รูปนี้ฝากคุณอั้พครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 07:32
พระมหามงกุฏหนักเพียงใด พระรูปนี้คงบอกได้
ตั้งแต่มีกล้องเข้ามาในประเทศไทย ต้องถ่ายกลางแจ้งตลอด
ถ้าต้องการรูปที่คมชัด

ราว 2410 เริ่มถ่ายรูปในร่มได้แล้ว แต่ต้องเปิดหน้ากล้องนานร่วมครึ่งชั่วโมงครับ
นานจนกล้องจับการเคลื่อนไหวของแสงระยิบระยับในที่มืดได้

ในช่วงเวลานั้น พระบรมรูปอย่างที่เชิญมาให้ชม
ต้องฉายแสง 10 นาทีเป็นอย่างเร็วครับ
ไม่เว้นแม้แต่พระบรมรูปที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้ ซึ่งฉายคราวบรมราชาภิเษกครั้ง 2411 แน่ๆ


ปล. ผมค้านคุณบานาเรื่องพระบรมรูปเสด็จวัดราชบพิธน่ะครับ
คุณลงพ.ศ 2513 นั่นรัชกาลที่ 9 แล้วครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 18 มี.ค. 08, 08:07
ขอบพระคุณคุณ พพ.ครับ รูปในความเห็นที่ ๓๐ ทำให้ทราบว่าธรรมเนียมการรับพระมหาสังวาลนพรัตน์เฉวียงพระอังสาขวาไปซ้ายนั้น เป็นธรรมเนียมเฉพาะการรับพระบรมราชาภิเษกขณะประทับบนพระที่นั่งภัทรบิฐ แต่ครั้นทรงในเวลาอื่น จะทรงเฉวียงพระอังสาซ้ายไปขวา และอาจเป็นไปได้ว่า ธรรมเนียมการทรงพระมหาสังวาลนพรัตน์จากพระอังสาขวาไปซ้ายจะเคร่งครัดขึ้นเฉพาะเมื่อทรงสถาปนาเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ขึ้นแล้วในรัชกาลที่ ๕ และทรงกำหนดให้ทรงสายสะพายนพรัตนฯ เฉวียงจากพระอังสาขวาไปซ้าย เมื่อทรงพระมหาสังวาลทับสายสะพาย จึงต้องเฉวียงไปทางนั้นเท่านั้น ต่างจากในอดีตที่ไม่มีสายสะพายนพรัตนฯ มาเป็นเครื่องกำกับที่ชัดเจน

พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ ๔ องค์บน ในความเห็นที่ ๒๔ น่าสนใจมากครับ เห็นแล้วนึกถึงพระป้ายที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ที่มีพระบรมรูปรัชกาลที่ ๔ ทรงยืนในพระอิริยาบถอย่างพระสยามเทวาธิราช ทรงเครื่องอย่างในพระบรมฉายาลักษณ์องค์นี้ งามดีแท้ ผมเห็นว่างามกว่าพระบรมฉายาลักษณ์องค์ล่างที่ดูแล้วเหมือนประทับไม่ค่อยจะทรงสบายนัก


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 18 มี.ค. 08, 20:27
คุณ Pipat กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสวมพระมหาพิชัยมงกุฎตามแบบวัฒนธรรมตะวันตกแล้ว  ชวนให้นึกถึงการสถาปนาเจ้าอุปราชสุริยะ  เป็นเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ เจ้านครเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔  ซึ่งเป็นช่วงหลังจากเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกแล้ว  ครั้งนั้นโปรดสวมมาลายอดเกี้ยวพระราชทานดูแล้วเหมือนพิธีสวมมงกุฎของฝรั่ง  และอีกครั้งเมื่อโปรดสถาปนาเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช เจ้านครน่านเป็นพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช พระเจ้านครน่านนั้น  เมื่ออาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาจบแล้ว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานสวมเสื้อครุยพระราชทาน  แล้วทรงสวมชฎาพระราชทานพระเจ้านครน่าน 


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 18 มี.ค. 08, 21:32
แหะๆ เข้ามาสารภาพว่างงกับพระบรมรูปในความคิดเห็นที่ 24 25 และ 27
ของคุณพิพัฒน์ครับ


ผมเคยทราบ (จากคุณ pipat น่ะแหละ)
ว่าพระจอมเกล้าท่านประชวรด้วยพระโรค facial pulsy
(ไม่ทราบว่าจะมีราชาศัพท์มั้ย - แต่ถึงมีนายติบอก็จำไม่ได้อยู่ดี ขนาดขากรรไกรเรียกว่าอะไรก็ยังจำไมได้ แหะๆ)
ผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ถ้าเป็นที่แขนงประสาทเดียวกับที่ทรงประชวร
จะยิ้มไม่ขึ้น ในภาพถึงมุมพระโปษฐ์ตก......


แต่ดูไปดูมา ไม่รู้ว่าภาพไหนอัดผิด วาดผิดบ้าง
มุมพระโอษฐ์ตกสลับไปสลับมา.... งงอีหลีอีหลอกะด้อกะเดี้ยครับ แหะๆ
เห็นทีคงต้องเรียนถามคุณ UP และคุณ V_mee เรื่องสังวาลย์
หรือเรียนถามคุณ pipat เรื่องบันทึกของหมอ บรัดเล
เพื่อหาคำตอบที่ช่วยคลายข้อสงสัยของนายติบอแล้วล่ะครับ แหะๆ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 มี.ค. 08, 22:18
หนุ่มติบอแกล้งงง
ผมบอกไว้แล้วว่าพระรูปลายเส้นกลับซ้ายเป็นขวา งเทียบให้ดูด้วยนา.....
คำให้การหมอปลัดเล ดูเหมือนจะอยู่ประชุมพงศาวดารภาค 31
เอ....หรือจะอยู่ในWilliam L. Bradley, Siam Then จำไม่ได้แล้ว
แต่ในมอฟเฝ็ต แผ่นดินพระจอมเกล้า มีแน่ๆ ครับ
--------------
ขยายพระรูปมาฝากคนชอบดู
สังเกตว่า แสงลามวัตถุที่อยู่นิ่ง จนเกิดประกายระยิบระยับ
เพราะเปิดหน้ากล้องนานมากๆๆๆๆ เหมือนถ่ายไฟท้ายรถยนตร์ตอนมืดน่ะครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 18 มี.ค. 08, 23:09
ความคิดเห็นที่ 24 ก็กลับ (หรือเปล่าครับ ???)
แหะๆ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 19 มี.ค. 08, 00:10
24 บน
เป็นพระบรมรูปบนแผ่นเงิน เทคนิคนี้ จะได้รูปเดี่ยวที่เป็นเนกะตีฟ/โพสะตีฟในตัวครับ
คือเอียงไปทางหนึ่ง จะเห็นเป็นเนกะตีฟ เอียงอีกทาง เป็นเนกะตีฟ

แต่ตัวรูปจริงๆ นั้น เหมือนเรายืนหน้ากระจกเงา คือกลับซ้ายเป็นขวา
ถ้าต้องการให้กลายเป็นรูปจริง ก็ถ่ายก๊อปปี้รูปแรกนี้ รูปที่ 2 ก็กลายเป็นกลับขวาเป็นซ้ายครับ

สรุปว่า พระบรมรูป 24 นั้น กลับซ้ายเป็นขวาครับท่าน


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 19 มี.ค. 08, 00:44
ปั่นกระทู้ได้ผล อย่ากระนั้นเลย
นำรูปอื่นๆ ที่น่าชมมารวมไว้ด้วยดีกว่า จากนักสะสมคนเดิมครับ
คุณวีมีและคุณอัพ คงยิ้มชอบใจ

ขอยกให้เป็นผู้บรรยายหลักนะครับ ผมเป็นพนักงานจัดรูปครับ
(ถ้ามีข้อมูลทางเทคนิค ก็จะเสริมให้เป็นเครื่องเคียง)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 20:57
เจ้านายพระองค์นี้   เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯ  หรือว่าเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีฯ คะ 
งามมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 19 มี.ค. 08, 21:43
เทียบพระรูปเจ้านายเมื่อทรงพระเยาว์หลายองค์
เห็นว่าน่าจะเป็นเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ครับ

ทรงมีสง่าราศรีและความผึ่งผาย  เกินกว่าเด็กในอายุเพียงนี้ จะแสดงออกได้
พระรูปมีขนาดใหญ่มากครับ เท่าสมุดเมนูอาหารทีเดียว

เดาว่าเป็นฝีมือช่างภาพหลวงคนใหม่ จี อาร์ แลมเบิร์ต
ซึ่งเข้ามาหากินในบางกอกราว 2420 และขุนสุนทรสาทิศลักษณ์คงไปเป็นหลวงอัคนีนฤมิตร เจ้ากรมแก้สหลวงแล้ว
แลมเบิร์ต เป็นช่างภาพชั้นนำ มีออฟิสทีเดียวสามแห่ง ทั้งปัตตาเวีย สิงค์โปร์ และกรุงเทพ
พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 หลังปี 2420 เป็นฝีมือเขาเกือบหมดครับ

ผมอาจจะเล่าเรื่องได้ไม่ครบถ้วน ชีวิตในรัชกาลที่ 5 ไม่มีความรู้เลยครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 มี.ค. 08, 21:50
ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ฯแน่นอนค่ะ พระรูปนี้หน้าตาละม้ายคล้ายสมเด็จพระปิตุฉาเจ้าสุขุมาลย์มารศรีฯ และทำให้รู้สึกว่า สองพระองค์งามทั้งพี่ทั้งน้อง
 


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 08, 23:00
พระรูปนี้ โสกันต์แล้ว พระชนม์เห็นจะประมาณ ๑๓ 
เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯ ประสูติเมื่อ  ๒๙ มิถุนายน  ๒๔๒๔
สันนิษฐานว่า พระรูปนี้ฉายประมาณ พ.ศ. ๒๔๓๗


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 19 มี.ค. 08, 23:04
ขยายได้อีกเล็กน้อยครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 20 มี.ค. 08, 08:28
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์ ทรงโสกันต์เมื่อวันที่ ๓  มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๗  และเมื่อคราวโสกันต์นั้น  เมื่อพระบรมวงศ์ทรงตัดพระเมาฬีแล้ว  ภูษามาลาจะเจริญเส้นพระเกศาจนเกลี้ยง  แต่ในพระรูปนี้เส้นพระเกศาเริ้มขึ้นแล้ว  จึงพอจะคะเนได้ว่า พระรูปนี้คงจะทรงฉายราวเดือนมีนาคม ๒๔๓๗ หรือเมษายน ๒๔๓๘ (สมัยนั้นเปลี่ยนปีในวันที่ ๑ เมษายน) ก่อนเสด็จออกไปทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษไม่นานนัก


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 08, 08:40
อยากทราบชื่อเครื่องราชอิสริยาภรณ์และสายสะพาย ในพระรูปนี้ด้วยค่ะ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 12:33
สายสะพายลักษณะนี้สันนิษฐานได้เป็น ๓ ตระกูลครับ ได้แก่ สายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์, สายสะพายมหาวราภรณ์ช้างเผือก ชั้นที่ ๑ (ประถมาภรณ์ช้างเผือก), และสายสะพายมหาสุราภรณ์มงกุฎสยาม ชั้นที่ ๑ (ประถมาภรณ์มงกุฎไทย) ...สมัยนั้นยังไม่มีสายสะพายดิเรกคุณาภรณ์ เป็นอันตัดไปได้ตระกูลหนึ่ง

สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงได้รับพระราชทานสายสะพายมงกุฎไทยชั้นที่ ๑ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖, สายสะพายนพรัตนฯ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๗ ครับ ส่วนสายสะพายช้างเผือกชั้นที่ ๑ ทรงได้รับพระราชทานเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๔ พระชนมายุ ๒๐ พรรษาแล้ว ต้องทรงพระเจริญกว่านี้มาก ฉะนั้น ไม่ใช่สายสะพายช้างเผือก

น่าเสียดายที่ไม่เห็นดาราอีกดวงซึ่งเข้าใจว่าซ่อนอยู่ใต้สายสะพาย ไม่อย่างนั้นก็คงตอบได้ทันทีว่าสายนี้เป็นนพรัตนฯ หรือมงกุฎไทย ส่วนดาราที่เห็น ๒ ดวงบนพระอุระนั้นคือดารามหาจักรี (ทรงได้รับพระราชทานเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๔) และดาราปฐมจุลจอมเกล้า (ทรงได้รับพระราชทานเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๔) ครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 13:41
ขยายได้มากสุดเพียงนี้ครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 14:04
ถ้าจะให้ผมสันนิษฐาน ผมขอสันนิษฐานว่าเป็นสายสะพายมหาสุราภรณ์มงกุฎสยาม เพราะสังเกตจากการประดับดาราที่พระอุระ ตามปรกติ การกลัดดารายักเยื้องสูงต่ำบนอกเสื้อนั้น จะเรียงลำดับตามเกียรติยศของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ลำดับเกียรติของมหาจักรีฯ อยู่สูงสุดอยู่แล้ว ดาราจักรีก็ประดับอยู่สูงสุด ไม่แปลกอะไร แต่ถ้าหากว่าสายสะพายนี้เป็นสายสะพายนพรัตนฯ ก็จะต้องทรงประดับดารานพรัตนฯ ด้วย

ทีนี้ ลำดับเกียรติยศของเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์นั้น มีลำดับรองจากมหาจักรีฯ แต่สูงกว่าจุลจอมเกล้า และมงกุฎไทย ฉะนั้น หากจะทรงกลัดดารานพรัตนฯ (เพื่อคู่กับสายสะพาย) ก็ต้องกลัดอยู่สูงกว่าดาราจุลจอมเกล้า

ในเมื่อในพระรูปนี้ ทรงกลัดดาราจักรีไว้สูงสุดเป็นลำดับแรก รองลงมาเป็นดาราจุลจอมเกล้าเป็นลำดับสอง ดาราดวงที่ (ผมคิดว่า) ซ่อนอยู่ใต้สายสะพายนั้นจึงน่าจะเป็นดารามงกุฎสยาม ซึ่งมีเกียรติยศเป็นรองที่สุดในหมู่ดาราที่ทรงประดับบนพระอุระครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 14:19
ข้อเหตุผลหนึ่งสำหรับสันนิษฐานหนึ่งเรื่องสายสะพาย ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นสายสะพายมงกุฎสยาม ก็เพราะความแก่และอ่อนของสีสันของสายสะพายในพระรูป ซึ่งจริงๆ แล้วก็ดูได้ไม่ค่อยถนัดนัก ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัย

สีของสายสะพายนพรัตนฯ ไล่จากริมขอบนอกเข้าใน คือขอบเขียว ริ้วแดง ริ้วน้ำเงิน และแถบเหลือง
สีของสายสะพายมงกุฎสยาม ไล่จากขอบนอกเข้าใน คือขอบเขียว ริ้วเหลือง ริ้วแดง และแถบน้ำเงิน

เมื่อเพ่งดูพระรูปแล้ว เห็นว่าริ้วสีอ่อนสุด (ที่ดูเหมือนริ้วขาวในภาพขาวดำ) นั้นอยู่ติดกับริมขอบ และมีริ้วสีเข้มกว่า (ที่ดูเหมือนริ้วดำในภาพขาวดำ) นั้นอยู่ติดกับแถบกลางสายสะพาย ไล่เป็นลำดับความเข้มของสีได้คือ อ่อน อ่อนมาก เข้มมาก เข้ม ...ผมจึงคิดว่าน่าจะเป็นสายสะพายมงกุฎสยาม ซึ่งมีความเข้มของสีเรียงลำดับ อ่อน (เขียว) อ่อนมาก (เหลือง) เข้มมาก (แดง) และเข้ม (น้ำเงิน)

แต่ถ้าหากจะพูดตามความรู้สึกของการถ่ายรูปสมัยก่อนนั้น ผมก็เห็นว่าการถ่ายรูปพอร์เทรตอย่างนี้ นานๆ ทีจะถ่ายกันสักที น่าจะแต่งให้เต็มยศเต็มเกียรติ ถ้าทรงได้รับพระราชทานสายสะพายนพรัตนฯ แล้ว ก็น่าจะทรง หรืออาจจะเป็นการฉาย เพื่อประเดิมฉลองเมื่อทรงได้รับสายสะพายนพรัตนฯ ในปี ๒๔๓๗ ก็ได้ ก็ไม่ทราบจะตัดสินใจไปทางไหนอย่างไรดีเหมือนกันครับ รอท่านอื่นๆ มาช่วยเสริมหรือค้านต่อไป


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 20 มี.ค. 08, 14:22
พิจารณาเปรียบเทียบภาพถ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นพรัตน์ราชวราภรณ์กับมงกุฎสยาม ที่ตีพิมพ์ในหนังสือตำนานเครื่องราชอิศริยาภรณ์สยาม พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ  ประกอบกับฉลองพระองค์ที่ทรงนั้นเป็นเยียรบับ  ซึ่งเป็นเครื่องทรงในงานเต็มยศใหญ่และเป็นงานมงคล  และดาราที่ทรงประดับ คือ มหาจักรีบรมราชวงศ์ และปฐมจุลจอมเกล้า  สายสะพายในพระรูปองค์ดังกล่าวจึงน่าจะเป็นสายสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลยิ่งนพรัตน์ราชวราภรณ์  ซึ่งเพิ่งได้รับพระราชทานในวันมงคลโสกันต์  ๓  มกราคม  ๒๔๓๗  มากกว่าจะเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎสยาม ชั้นที่ ๑ มหาสุราภรณ์มงกุฎสยามที่ได้รับพระราชทานเมื่อวันที่  ๒  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๔๓๖  เพราะสามารถอธิบายความหมายของดาราและสายสะพายได้ดังนี้
ดารามหาจักรีบรมราชวงศ์  หมายถึง  ทรงเป็นพระบรมวงศ์ในพระบรมราชจักรีวงศ์
ดาราจุลจอมเกล้า          หมายถึง  ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สายสะพายนพรัตน์ฯ      หมายถึง  ทรงเป็นพุทธมามกะ
หรือพระรูปองค์นี้จะทรงฉายเมื่อคราวทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธมามกะก่อนเสด็จออกไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ
เพราะเมื่อครั้งที่โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเทพทวาราวดี (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)  เสด็จออกไปทรงศึกษามที่ประเทศอังกฤษ  ก็โปรดเกล้าฯ ให้โสกันต์เมื่อวันที่  ๒๙  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๔๓๕  พอถึงเดือนสิงหาคม  ๒๔๓๖  โปรดให้ประกาศพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ  เสร็จแล้วกราบถวายบังคมลา  เสด็จจากบางปะอินออกไปสิงคโปร์เพื่อประทับเรือเดินทะเลไปอังกฤษเลย



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 08, 14:23
มาเพิ่มเติมเรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ทรงได้รับเมื่อทรงพระเยาว์  ค่ะ

ปฐมจุลจอมเกล้า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2434
ภารดรมหาจักรีบรมราชวงศ์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2434
มหาสุราภรณ์มงกุฎสยาม ชั้นที่ 1 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2436
นพรัตนราชวราภรณ์ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2437

เครื่องราชฯ จากนี้ไป ไม่ใช่ในพระรูปแล้ว  เพราะทรงได้รับในภายหลัง  เมื่อพระชันษา 20 ขึ้นไป

มหาวราภรณ์ ช้างเผือก ชั้นที่ 1 เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2444
เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2446
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ม.ป.ร.2 เมื่อปี พ.ศ. 2446
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 จ.ป.ร.1 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2451
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ว.ป.ร.1
อัลเบร็คต์ ประเทศแซ็กซันนี เมื่อปี พ.ศ. 2440
เซ็นโอลัฟ ประเทศนอรเวย์ ชั้น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2440
เฮาส์ออร์เดน แดร์ทรอยเอ ประเทศบาเดน ชั้น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2446
อินทรีย์แดง ประเทศปรัสเซีย ชั้น 1 เอก เมื่อปี พ.ศ. 2448
เซนต์ มอรส ประเทศอิตาลี ชั้น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2448
ดันแนบร็อค ประเทศเดนมาร์ก ชั้น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2450
เลย็อง คอร์เนอร์ ประเทศฝรั่งเศส ชั้น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2450
ปอโลว์เนีย ประเทศญี่ปุ่น ชั้น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2451
ไฮน์ริค แดร์ เลอเว ประเทศปรันสวิก ชั้น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2452
เลโอโปลด์ ประเทศออสเตรียฮังการี ชั้น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2454
มหาปรมาภรณ์ ช้างเผือก ชั้นสูงสุด เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456
เหรียญจักรมาลา เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2458
รามาธิบดีชั้นที่ 1 เสนางคบดี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2461
มหาวชิระมงกุฎ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2463
เหรียญบรมราชาภิเศกทอง รัชกาลที่ 7 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468
เหรียญรัตนาภรณชั้นที่ 1 รัชกาลที่ 7 ป.ป.ร. เมื่อวันที่ 1 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469
 


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 14:31
ความคิดเห็นของคุณ V_Mee ก็น่าสนใจครับ ผมคิดว่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง

ถ้าสันนิษฐานจากการกลัดดารา และภาพขาวดำ ผมก็คงเห็นได้ดังนั้น แต่อย่างที่เรียนไปแล้วว่าอีกใจหนึ่ง เห็นว่าการฉายพระรูปอย่างเป็นทางการเช่นนี้ น่าจะทรงสายสะพายชั้นสูงที่ทรงได้รับพระราชทาน มากกว่าจะทรงเลือกสายสะพายเส้นที่มีลำดับเกียรติต่ำที่สุด หาไม่แล้วก็น่าจะทรงสายสะพายจักรีไปเสียเลย ...และถ้าหากว่าเป็นสายสะพายนพรัตนฯ จริง ผมเห็นว่า เป็นการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีลำดับเกียรติยศสูงสุด ๓ ตระกูล ที่ทรงได้รับพระราชทาน โดยที่สายสะพายนพรัตนฯ เป็นสายสะพายเส้นล่าสุดที่ทรงได้รับ และคงยังไม่เคยทรงเพื่อฉายพระรูปมาก่อนครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 14:47
ลำดับต่อไปที่น่ามอง คือพระปั้นเหน่งและรัดพระองค์

พระปั้นเหน่งลักษณะคล้ายอย่างนี้มีหลายองค์ในสมัยรัชกาลที่ ๕ คือเป็นเพชรเม็ดเขื่อง ๙ เม็ด มีเม็ดเขื่องที่สุดฝังอยู่เบื้องกลางเป็นประธาน ล้อมด้วยอีก ๘ เม็ด เคยเห็นพระบรมฉายาลักษณ์และพระรูป ทั้งพระมหากษัตริย์ พระมเหสีเทวี ตลอดจนเจ้านายเวลาโสกันต์ทรง แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียวนะครับ พระปั้นเหน่งลักษณะเช่นนี้ที่ผมเคยเห็นองค์จริงมีอยู่ ๒ องค์ เป็นพระราชมรดกสู่พระทายาทในสายสมเด็จพระพันปีหลวง คล้ายองค์นี้ แต่ไม่เหมือน และฝีมือการทำไม่ใช่ฝีมือช่างไทย คิดว่าคงจะเป็นฝีมือช่างยุโรป เพชรแต่ละเม็ดสามารถถอดแยกออกจากตัวเรือนได้ ได้ทราบมาว่าพระปั้นเหน่งองค์ใหญ่เช่นนี้ มีตกทอดอยู่ในพระกุลทายาทราชสกุลมหาสาขารัชกาลที่ ๕ สายที่สืบเนื่องมาจากสมเด็จพระอัครมเหสี และพระราชเทวี หลายองค์ครับ

พระปั้นเหน่งองค์นี้อาจจะตกทอดในราชสกุลบริพัตร ณ อยุธยา หรืออย่างไร ผมไม่อาจทราบได้ครับ ท่านใดมีข้อมูล หรือข้อวิเคราะห์ใดๆ ..รอฟังอยู่ครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 14:50
เสริมข้อมูลนิดหน่อย ปฐมจุลจอมเกล้าได้รับพระราชทานพร้อมกันสี่พระองค์
น่าจะมีพระรูปของพระองค์อื่นมาเทียบเคียงได้บ้างกระมัง
--------------
คัดจากตำนานเครื่องราชอิศริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
ฉบับ 2467 หน้า66

ปีเถาะตรีศก พ.ศ. ๒๔๓๔
พระราชทานในที่ประชุมครั้งที่ ๑๙ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๐

ขั้นที่ ๑ ปฐมจุลจอมเกล้า
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุม
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าสมมติวงศวโรทัย
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงศภูวนาถ
พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 15:10
คุณพพ.ช่างสรรหารูปน่าชมมาชวนเพ่งเสียจริง สนุกดีครับ

พระบรมสาทิสลักษณ์องค์ข้างบนนี้ก็น่าสนใจ ทรงเครื่องต้นอย่างจักรพรรดิราช ประทับบนพระราชยานพุดตานทอง ห้อยผ้าทิพย์ ปักเป็นรูปอะไรก็ไม่ทราบ ผูกมาลัยหน้าฆ้องประดับสองข้างห้อยพระบาท พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระมหาพิชัยมงกุฎด้วย ผมรู้สึกว่าในรัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงพระมหาพิชัยมงกุฎอยู่บ่อยครั้ง แม้เวลาประทับพระราชยาน ซึ่งคงจะต้องทรงประคองพระองค์ให้ตรงและสมดุลอยู่เสมอ

ซ้ายขวามีพระกลดมีระใบ ๓ ชั้น ไค่ทองแผ่ลวดทั้ง ๓ ชั้น และบังพระสูรย์ (หักทองขวางแน่ๆ) และทวยรับพระสุพรรณศรี น่าสนใจตรงคันพระกลด สมัยนั้นยังอุตส่าห์ผูกมาลัยรัดประดับไว้ด้วย ผมยังสงสัยอยู่ว่าทำไมคันพระกลดท่อนกลางลงมาถึงล่าง เป็นลายจุดๆ จะเป็นการพันผ้าไว้หรือเปล่าผมก็ไม่ทราบ ที่พาดอยู่ซ้ายพระหัตถ์น่าจะเป็นพระแสงขรรค์ชัยศรี ขวาพระหัตถ์น่าจะเป็นธารพระกร ดูไม่ถนัดนัก เห็นแต่ปลาย ถ้าเห็นยอดก็จะพอระบุได้ว่าเป็นธารพระกรองค์ใด ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นธารพระกรเทวรูป ทรงฉลองพระบาทเชิงงอน เบื้องขวาพระราชยานทอดพระแสงง้าว

ประตูด้านหลังนั่นวัดอะไรครับ? เข้าใจว่าเป็นวัดพระเชตุพนฯ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 15:18
เพิ่งมาเห็นว่า ได้เชิญพระบรมรูปแนบท้ายโดยไม่ได้อธิบาย
ต้องขอประทานโทครับ จะให้ชมเพื่อเทียบกับพระบรมรูปที่ผมค้านว่า
มิใช่ฉายคราวบรมราชาภิเษกครั้งที่สอง 2416
แต่เป็นการฉายคราวฉลองพระนครครบหนึ่งร้อยปี

ในพระบรมรูปข้างบน เป็นการเสด็จเลียบพระนคร ซึ่งทรงพระมหาพิไชยมงกุฏ
(อาจจะเป็นครั้งแรกกระมัง)

เทียบให้เห็นอีกครั้งตามพระบรมรูปด้านล่างครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 15:19
.


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 08, 15:20
คำบรรยายใต้ภาพคือ The Krateen Festival:the king carried in state.
เสด็จในงานพระราชพิธีอะไรคะ     พระมหากฐิน?
(ขอโทษ ชนกลางอากาศกับค.ห.คุณพิพัฒน์   ฝรั่งไปบรรยายว่า เสด็จไปทอดกฐินเสียแล้ว  ไม่ใช่เลียบพระนคร
ภาพพิมพ์นี้อยู่ในชุดเดียวกับภาพถ่ายโบราณที่นำมาแสดงที่โรงแรมถนนวิทยุหรือเปล่า จำได้ว่ามีภาพขบวนเสด็จเหมือนกัน)

คำว่า กฐิน  ถอดเป็นภาษาอังกฤษว่า kateen ไม่ยักใช่ katin   สมัยก่อนสะกดว่า กฐีน หรือออกเสียงเป็นสระเสียงยาว กันแน่?

สังเกตว่าลายจุดๆบนคันพระกลด นั้น  คล้ายลายผ้าหมวกคนหามพระราชยานเลยค่ะ จุดๆเหมือนกัน


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 15:28
คุณ พพ.ครับ ขออนุญาตเรียนถามด้วยความสงสัยว่า พระบรมรูปในความเห็นที่ ๕๗ กับความเห็นที่ ๑๐ นั้นเป็นการฉายในโอกาสเดียวกันหรือไม่ครับ

สังเกตดูแล้วพระบรมรูปในความเห็นที ๑๐ ทั้งซ้ายและขวา รวมทั้งพระบรมรูปในความเห็นที่ ๕๗ เป็นคนละองค์กัน ฉากหลังไม่เหมือนกัน การทอดเครื่องราชูปโภคไม่เหมือนกัน และที่สังเกตได้ชัดคือ สองข้างพระราชบัลลังก์ตรงห้อยพระบาทในความเห็นที่ ๑๐ ไม่มีมาลัยประดับ ส่วนในพระบรมรูปความเห็นที่ ๕๗ มีมาลัยประดับไว้ทั้งสองข้าง คุณ พพ.ครับ ขออนุญาตเรียนถามด้วยความสงสัยว่า พระบรมรูปในความเห็นที่ ๕๗ กับความเห็นที่ ๑๐ นั้นเป็นการฉายในโอกาสเดียวกันหรือไม่ครับ

แต่ที่แน่ๆ คือประทับพระที่นั่งคนละองค์กันครับ พระบรมรูปในความเห็นที่ ๑๐ ทั้งสององค์ ประทับพระที่นั่งกง ส่วนพระบรมรูปในความเห็นที่ ๕๗ ประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ซึ่งก็คือองค์เดียวกับพระราชยานพุดตานทอง ในความเห็นที่ ๕๔

พระบรมรูปในความเห็นที่ ๕๗ องค์ซ้าย ผมจำได้ว่าเหมือนกับที่แขวนอยู่ในหอประชุมจุฬาฯ บานใหญ่โตมาก ดูราวกับเป็นพระบรมรูปเขียนครับ ไม่ทราบจะใช่ชุดเดียวกับที่พระราชทานตามพระอารามต่างๆ หรือไม่


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 15:32
พระบรมรูปเลียบพระนครนั้น พบในหนังสือของคารล บ๊อค carl bock
แต่รูปนี้ ได้รับอภินันทนาการจากคุณเอลวิส เพราะผมเองไม่สามารถค้นเจอจากโกดังรูปของตัวเอง

บ๊อคเข้ามาคราวกรุงเทพร้อยปีพอดี จึงได้รูปถ่ายคราวงานสำคัญนั้นไปมาก
แต่รูปพวกนี้ ก็แจกจ่ายให้คนอื่นๆ เหมือนกัน ต่างคนก็ต่างอธิบายความ

ผมเชื่อว่าเป็นการเลียบพระนครก็เพราะทรงพระมหาพิไชยมงกุฏนี่ละครับ
ถ้าทรงทอดพระกฐิน ไฉนไม่ทรงพระชฏามหากฐินให้เป็นไปตามธรรมเนียม

รูปเก่า ถ้าอยู่ในสายตาคนมีความรู้ ย่อมจะมีชีวิตชีวาอย่างนี้ละครับ
อยู่กับผมอีกสิบปี ก็ยังเป็นรูปใบ้ แสดงแต่ความเงียบ

ในกรุของผม ยังมีรูปที่ไม่เคยเผยแพร่อีกจำนวนหนึ่ง
ท่านที่มีความรู้อย่าถอยหนีไปใหนนะครับ นึกว่าช่วยอาจารย์กระตุ้นไฟของความเป็นไทยขึ้นมา
ใหนๆ ท่านก็ทนรบกับคนบ้า เพื่อรักษาพื้นที่น้อยๆ บนอินเตอร์เนตให้ปลอดเชื้องัวบ้าอย่างเหน็ดเหนื่อย

ถือว่าอวดรูปเป็นกำลังใจละกัน
-------------------------------
พระรูปนี้ อาจจะเคยเห็นคล้ายๆ กันมาบ้าง แต่ที่จะชัดเจนงดงามอย่างนี้ เห็นจะยาก



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 15:38
มีข้อสงสัย ช่างเทคนิค จับเทียบให้เห็นไปเลย
ผู้เชี่ยวชาญจะได้วินิจฉัย


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 15:44
ดังได้เคยบอกว่าพระบรมรูปองค์ขวา ล่าง
ที่มีฉากหลังอลังการณ์นั้น พบในพระอารามหลวงชั้นเอกหลายแห่ง
ผมเคยปืนขึ้นไปชม ก็พบว่าแตกเป็นเกล็ด ลักษณะคล้ายภาพพิมพ์สีน้ำมัน
จึงเดาว่า คงจะทรงสั่งให้ทำมาพระราชทาน

ฉากหลังนั้น ลบง่ายมากครับ เอาหมึกระบายที่กระจกเนกะตีฟ แป๊ปเดียวก็เสร็จ
จึงจะเห็นว่า บางพระรูป ฉากหลังมืดสนิทจนเกินไป ภาษาช่างเขียนเรียกว่า ตัน ไม่มีอากาศ

ถ้าทิ้งฉากหลังเป็นผ้าดำแล้วไซร้ ด้วยแสงสว่างขนาดนี้ ยังไงก็เห็นรอยยับของฉากครับ
และในสมัยร้อยปีก่อน ไม่มีใครผลิตฉากหลังที่เป็นสีทึบออกขาย
อยากให้ทึบ ทำที่เนกะตีฟ ง่ายกว่าครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 15:53
ขยายรายละเอียด
เห็นจะฉายราว 2417 ครับ ผมเทียบจากพระบรมรูปที่ทรงตราจุลจอมเกล้า
และที่ทรงลิลิตนิทราชาคริต ทรงเจริญพระมัสสุ ประมาณนี้ทุกพระองค์


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 08, 15:55
พระบรมฉายาลักษณ์ในค.ห. 60 งามยิ่งยวด
มีคำถามเรื่องเครื่องราชฯ และสายสะพาย  มาถามคุณ V_Mee และคุณ UP ให้ไม่ได้หยุดพักอีกแล้ว
สร้อยที่พาดทับบนสายสะพาย คือสังวาลนพรัตน์  หรือเปล่าคะ

พระบรมฉายาลักษณ์นี้ ถ้าทรงฉายเมื่อปี 2417  ก็พระชนม์  22 พรรษา


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 15:57
ขยายรายละเอียดเครื่องราชให้เลยครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 16:28
โอย..โอ้..ต้องขออุทานไม่เป็นศัพท์ ตะลึง...

พระบรมฉายาลักษณ์องค์บนนี้ งามเหลือเกินครับ เห็นแล้วขนลุก สีพระพักตร์และแววพระเนตรแลดูละมุนละไม เปี่ยมด้วยพระการุณยธรรม

พระบรมรูปองค์นี้ พระพุทธเจ้าหลวงทรงสายสะพายแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ พร้อมพระมหาสังวาลนพรัตนฯ เฉวียงพระอังสาขวาไปบั้นพระองค์ซ้าย ดาราองค์บนสุดคือดารานพรัตนฯ ถัดมาเบื้องซ้ายเป็นดารามหาสุราภรณ์มงกุฎสยาม ขวาเป็นดารามหาวราภรณ์ช้างเผือก ล่างสุดคือดาราปฐมจุลจอมเกล้า ทรงเครื่องแบบนายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ปักอักษรพระปรมาภิไธย ส.พ.ป.ม.จ. (สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์) ที่ปลายพระกรฉลองพระองค์ พระดุม ๗ เม็ด ฉลองพระองค์น่าจะเป็นสีแดง คาดพระแสงกระบี่ยาว


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 20 มี.ค. 08, 16:39
จากความเห็นที่ ๖๑

พระบรมรูปองค์ซ้ายบน นอกจากเครื่องทรงแล้ว องค์ประกอบอื่นนอกนั้นไม่เหมือนกับพระบรมรูปองค์อื่นๆ เลย

ส่วนพระบรมรูปองค์บนขวาและล่างขวา อาจจะฉายในคราวเดียวกันครับ เพราะการทอดเครื่องราชูปโภคบนม้าเคียงทั้งสอง ดูคล้ายกันมาก (เสียดาย องค์ขวาล่างเห็นเครื่องราชูปโภคไม่ชัดเลย มืดตื๋อ) ส่วนที่ดูแปลกๆ ไปคือฉลองพระองค์ทำไมสีและลวดลายหายไปในองค์ล่างขวา แต่รับรองว่าพระที่นั่งที่ประทับเป็นคนละองค์กันแน่นอน องค์ขวาบนและซ้ายบนคือพระที่นั่งกง องค์ขวาล่างและองค์ซ้ายล่างคือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์=พระราชยานพุดตานทอง (สังเกตการห้อยมาลัยที่หน้าพระที่นั่ง=พระราชยาน ดูคล้ายกันมาก แต่จะฉายวาระเดียวกันหรือไม่ ผมไม่ทราบครับ)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 08, 16:55
กระทู้นี้วิ่งฉิวปลิวลม

ยังติดใจรองพระบาทในพระรูปสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯ    ลองขยายภาพดู   
คิดว่าเป็นรองเท้าที่เรียกว่า Victorian slippers 
เทียบกับคู่ขวา  นี่คือ Victorian slippers  สำหรับผู้หญิง
จะเห็นว่าลักษณะคล้ายคลึงกัน คือปิดหัวและส้น ส้นแบนราบ   ต่างกันแต่คู่หนึ่งหัวแหลม อีกคู่หัวแบนทู่


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 20 มี.ค. 08, 19:20
พระบรมรูปในความเห็นที่ ๖๐  เป็นพระบรมรูปทรงเครื่องเต็มยศ นายพันเอก ผู้บังคับการกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ปัจจุบัน คือ กรมทหาราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ จ.ป.ร.) 

ฉลองพระองค์มีรายละเอียดตามที่ปรากฏในหนังสือตำนานกรมทหารบกราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระนิพนธ์ในสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ดังนี้

ปี ๒๔๑๔ เมื่อกรมทหารมหาดเล็กจัดเป็น ๖ กองร้อย ชั้นแรกบรรดานายทหารสัญญาบัตรแต่งดังนี้
     เครื่องเต็มยศ  หมวกรูปแฮลเม็ตทรงเตี้ยพื้นแพรขนสีดำมีของทอง  ตราหน้าหมวกเป็นอักษรพระบรมนามาภิธัยย่อ  มีรัศมีเช่นเดิมแต่ใหญ่กว่า  และมีสายรัดคางเป็นโซ่ตะขาบ  ยอดหมวกเป็นกลีบมีจานรองรับ  จำปาปักพู่คลุมขนนกยางขาว  เครื่องแต่งหมวกนี้ล้วนเป็นเครื่องกะไหล่ทอง  แต่พระมาลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นเครื่องทองคำและใช้พู่ขนนกการะเวก  หมวกเช่นนี้ใช้แต่เฉพาะในคราวจะเสด็จอินเดียเท่านั้น  เมื่อเสด็จกลับจากอนเดียแล้วก็เลิก  เสื้อรูปทูนิกยาวตัดเป็น ๔ ปีก (คือผ่าเอวผ่าหลัง)  อพรสีน้ำเงินแก่  มีลายปักดิ้นทองเส้นเดียวที่ข้อมือเป็นอักษรพระบรมนามาภิธัยย่อ ส.พ.ป.ม.จ. และอุณาโลม  อักษร พ. ปักดิ้นเงิน  รอบข้อมือเป็นลายยันต์  มีลวดคู่หมายยศ ๑ คู่  ๒ คู่  ๓ คู่  ชั้นนายพันมีเส้นลวดเงินเพิ่ม  คอเสื้อมีลวดเป็นขอบรอบ  ที่กลางเป็นลายยันต์  ร้อยจักรที่ข้างหน้าเป็นเครื่องหมายยศอีกอย่างหนึ่งข้างละ ๑ จักร  ๒ จักร  ๓ จักร  ตามลำดับชั้นผู้ใหญ่ผู้น้อย  และมีอินทรธนู้นแพรสีเดียวกับเสื้อ  ปักดิ้นเลื่อมทองเป็นลายยันต์ไม่มีเครื่องหมายยศ  กระดุมเสื้ออย่างเดิม (คือ ดุมอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ ส.พ.ป.ม.จ. ไม่มีรัศมีแต่เปลี่ยนเป็นมีใบไชยพฤกษ์วงโอบรัดครึ่งตัว) แต่เป็นกะไหล่ทอง  มีที่อก ๗ เม็ด  หลัง ๒ เม็ด  อินทรธนู ๒ เม็ด  และมีแพรดำผูกเป็นหูกระต่ายที่คอเสื้อด้วย  นุ่งแพรสีน้ำเงินแก่  สวมถุงเท้ายาวผ้าสีขาว  รองเท้าหนังดำ  บรรดานายทหารเวลาแต่งเต็มยศแห่เสด็จพยุหยาตราสวมเสื้อครุยทุกชั้น  แต่เมื่อตั้งกรมยุทธนาธิการแล้วจึงได้เลิก

เครื่องศัสตราวุธ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระแสงกระบี่ฝักนากก้ามทำด้วยกรามช้าง  มีสายรัดพระองค์ไหมถักสีดำ  หัวเป็นทองคำรูปสี่เหลี่ยมมีลายเป็นพระบรมนามาภิธัยย่อไขว้กัน 

ต่อมาบรรดานายทหารเพิ่มให้มีสายสะพายไหมแดงถัก  สะพายบ่าซ้ายไปขวา  ภายหลังเปลี่ยนเป็นนายทหารใช้ไหมแดงริ้วทองสลับเงิน  ส่วนสายสะพายแดงนั้นเลื่อนไปให้นายสิบเอกสะพาย                                                                                                                                                                                                                                   
เครื่องแบบตามที่บรรยายมานี้ใช้ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๑๔ - ๒๔๑๘ เท่านั้น
ฉะนั้น จะวินิจฉัยได้ว่า พระบรมรูในความเห็นที่ ๖๐ นั้น ทรงฉายเมื่อคราวเสด็จประพาสอินเดีย พ.ศ. ๒๔๑๕ ได้หรือไม่?


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 21:44
เครื่องกำลังร้อน เติมรูปก่อนครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 21:53
แทรกด้วยโคสะนาครับ......
พระรูปจากหนังสือเล่มที่มีจำหน่ายทั่วไป
เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เมื่อปี 2410 ฉายพร้อมพระแสงสั้น(พระแสงกระเบา)
ที่ฝรั่งเศสถวาย จากมกุฏราชกุมารถึงมกุฏราชกุมาร
พระแสงนี้ จึงเป็นข้ออ้างหนึ่งในการถวายพระเศวตรฉัตรแด่เจ้าฟ้ารัชทายาท

ให้พินิจพระพักตร์ ของเด็กหนุ่มวัยเพียงสิบห้า เพื่อเทียบกับพระบรมรูปต้นกระทู้ครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 21:58
.


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 มี.ค. 08, 22:04
_เอาละ....ตัดกลับเข้ารายการหลักของเราต่อไป
พระรูปนี้ มีงามกว่านี้ แต่ต้องค้น ขอเสนอเป็นเครื่องเทียบก่อนนะครับ
เป็นพระรูปที่ฉายก่อนเสด็จอินเดีย อาจจะหลังบรมราชาภิเษกไม่นาน
พระสรีระยังเป็นเด็กหนุ่ม ภาษาชาวบ้านก็คือยังเก้งก้าง แขนขายาว
และยังเห็นวี่แววว่าทรงอิดโรยจากพระโรค ไม่เจริญพระพลานามัยสมบูรณ์ดี


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 21 มี.ค. 08, 12:17
รูปทหารในความเห็นที่ ๗๐ มีคำตอบจากตำนานกรมหารบกราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ ดังนี้

ปี ๒๔๑๓ เมื่อกองทหารมหาดเล็กชั้นพวกมหาดเล็กหลวงครั้งแรก ๗๒ ตน  ตัวนายและพลทหารแต่งคล้ายคลึงกันคือ
     เครื่องเต็มยศหมวกรูปทรงถังสูงหุ้มแพรสีม่วงแก่ (ซึ่งเป็สีเสื้อยศข้าราชการฝ่ายทหารในสมัยนั้น)  ขลิบลูกไม้ทองเทศ (คือแถบทองมีลวดลายอย่างแขก)  พันหน้าหมวกเยื้องขึ้นไปทางเบื้องขวา  มีตราเงินหน้าหมวกเป็นอักษรพระบรมนามาภิธียย่อคือ ส.พ.ป.ม.จ.  และเลข ๕ ไว้กัน (หมายความว่าสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์รัชกาลที่ ๕)  รอบอักษรย่อนั้นมีรัศมีเป็นแฉก  และมีแพรสีทับทิมห้อยจากข้างบนทาบลงมาทางข้างขวาด้วย  เสื้อรูปทูนิกยาวตัดเป็น ๔ ปีก (คือผ่าเอวและผ่าหลัง) แพรสีเหล็ก (ซึงเป็นสีเสื้อยศของมหาดเล็กในสมัยนั้น)  มีแถบทองอย่างเล็กขลิบที่คอและขดเป็นลายยันต์  ที่มุมที่คอและข้อมือติดแถบทองเล็กวงรอบและขดเป็นลายยันค์ขัดสมาธิ  ดุมเงินมีอักษรพระบรมนามาภิธัยย่อเช่นกล่าวแล้ว  แต่ไม่มีรัศมีเปลี่ยนเป็นมีใบชัยพฤกษ์วงโอบรัดครึ่งตัว  นุ่งแพรสีเหล็ก  คาดประคตแพรสีทับทิมชายครุยข้างในเสื้อ  ให้ชายห้อยพ้นปีกเสื้อออกมาอยู่ข้างซ้าย  คาดเข็มขัดหนังดำหัวเงิน  มีอักษรพระบรมนามาภิยย่อเช่นตราหน้าหมวกทับนอกเสื้อ  ถุงเท้าขาวอย่างยาว  รองเท้าหนังดำ (รูปคอตชูมีเข็มเงิน)  นายทหารชั้นผู้ใหญ่พิ่มลายยันต์ทองที่คอและข้อมือเสื้อเป็น ๓ ชั้น  นายดาบและนายสิบเอกเป็นยันต์ ๒ ชั้น  และมีเครื่องหมายยศอีกอย่างหนึ่ง คือ มีบั้งแถบทองติดที่แขนเสื้อข้างซ้ายอย่างนายสิบเป็น ๓ ชั้น คือ นายดาบ ๓ บั้ง  นายสิบเอก ๒ บั้ง  นายสิบโท ๑ บั้ง  นายสิบตรีไม่มี  บรรดานายทหารชั้นที่หมวกเพิ่มพู่ขนนกฝรั่งสีเขียว (ใบไม้)  มำเป็นฝอยติดข้างเบื้องซ้ายอีกด้วย  แพระมาลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นใช้พู่ขนนกการะเวกแทนขนนกฝรั่ง
     เครื่องสัตราวุธ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระแสงกระบี่ฝักทองมีสายรัดพระองค์อย่างแถบทองเป็นพิเศษ  นายทหารผู้ใหญ่และนายดาบใช้กระบี่ฝักหนังสีดำเครื่องทอง  สายกระบี่หนังสีดำ  นายสิบ พลทหารใช้ปืนอย่าง "กรีน"  มีเข็มขัดหัวทองเหลือง  คันชีพและซองดาบปลายปืนหนังสีดำ

เครื่องแบบนี้ใช้อยู่ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๑๓ - ๒๔๑๔  ภาพนี้จึงน่าจะถ่ายในปี พ.ศ. ๒๔๑๓ - ๑๔ แต่จะในโอกาสใดไม่แจ้ง
จากภาพ  นายทหารคนซ้ายสุดมียศเป็นนายดาบ  เพราะติดบั้ง ๓ บั้งที่แขนเสื้อซ้ายและขัดกระบี่  นายทหารคนที่ ๒ ยศนายสิบเอก  เป็นพลแตร (ถือแตร)  ส่วนที่เหลือเป็นพลทหาร


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มี.ค. 08, 12:59
ยอดเยี่ยมค่ะคุณ V_Mee กำลังจะเข้ามาถามว่าเป็นทหารหน่วยไหน ก็เจอคำตอบละเอียดแจ่มแจ้ง ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้
ว่าแต่แพรสีเหล็ก หมายถึงแพรสีอะไรคะ?

ยังติดใจพระรูปเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์  เห็นแล้วนึกถึงสียะตรา
แต่กุมารยังงามถึงเพียงนี้              ถ้าบุตรีจะงามสักเพียงไหน
                                                         (พระราชนิพนธ์อิเหนา ในรัชกาลที่ ๒)

พระรูปสมเด็จเจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ ฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์   พระเชษฐภคินีของเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ค่ะ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 21 มี.ค. 08, 14:01
คำตอบคุณวี ทำให้อดไม่ได้
ขอขยายใบหน้าให้ผ่านข้ามกาลเวลา มาปรากฏแก่การรู้เห็นของเราในปัจจุบัน


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 21 มี.ค. 08, 17:24
      พระรูปกรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ที่อาจารย์โพสท์ พระเก้าอี้เอียง ในขณะที่จากพระรูปนี้
พระเก้าอี้ตั้งตรงดี ครับ 


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 24 มี.ค. 08, 09:13
ท่านอาจารย์ถามไว้ว่า "สีเหล็ก" คือสีอะไร
สอบถามท่านผู้รู้ที่ช่างสิบหมู่ได้ความว่า เป็นสีเทาดำ ครับ  ท่านว่า สีเข้มกว่าสีนกพิราบสักนิดครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 24 มี.ค. 08, 10:13
ขอนอกเรื่องครับ เห็นคุยกันเรื่อง ศัพท์ที่ใช้นิยาม สีต่างๆ ของไทยโบราณ

ไม่รู้ว่ามีใครทำหนังสือแล้วหรือยัง น่าสนุกดีนะครับ ทำเฉดสี แล้วถ่ายรูปสิ่งที่นำมาเปรียบเทียบสี  ;D

แต่เรื่องการนิยามเรียกสีให้เป็นมาตรฐานนี้ เป็นเรื่องยุ่งยากอย่างหนึ่ง เพราะแต่ละคนก็จะมีความรู้สึกในเฉดสีแตกต่างกัน

ในงานที่ผมทำอยู่นี้ มีส่วนหนึ่งที่ต้องจำแนกสีของชั้นดินเพื่อดูความแตกต่างว่า สีที่ต่างกันมันบอกอะไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในดินได้บ้าง

ในทางธรณีวิทยา-ปฐพีวิทยา เค้ามีสมุดเทียบสีดินที่ทำเฉดสีไว้เป็นมาตรฐานครับ เรียกว่า "Munsell Soil Color Charts" ซึ่งจะมีเฉดสีต่างๆ ให้เทียบกับตัวอย่างๆ ประมาณเกือบๆ ร้อยสีได้มั้งครับ (เฉพาะเฉดสีของดิน)

==============================================

http://en.wikipedia.org/wiki/Munsell_color_system

==============================================

(http://www.eijkelkamp.com/Portals/2/Eijkelkamp/Images/normal/p1.07-2a.jpg)

Munsell Soil Color Charts


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 24 มี.ค. 08, 12:07
เรื่องนิยามสีตามคำเรียกขานของคนโบราณที่คุณHotacunus กล่าวถึงว่ามีการทำเป็นหนังสือหรือเปล่านั้น
เข้าใจว่ายังไม่มีใครคิดทำครับ
สีโบราณที่ได้ยินบ่อย คือ สีกรมท่า เพราะเป็นสีประจำกรมท่า  หมายถึงสีน้ำเงินแก่





กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 24 มี.ค. 08, 13:47
เห็นที่ภาคอุตสาหกรรมเกษตร...คือพวกทำอาหาร เขาจะมีสมุดไว้เทียบสีเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเวอร์ชันเดียวกับการศึกษาทางด้านธรณีวิทยาหรือเปล่า


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 24 มี.ค. 08, 13:56
ฝากคุณโฮครับ
http://www.color-tec.com/1gloss.htm


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 มี.ค. 08, 16:06
ขอคลิคตามคุณโฮไป เห็นแล้วจะสลบ...


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 25 มี.ค. 08, 01:31
ผมเคยได้ยินคำว่า "สีลำลาน"   ไม่ทราบว่าเป็นสีอะไรครับ ........... ???


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 25 มี.ค. 08, 04:07
เห็นในตำราช้าง ฉบับรัชกาลที่ ๑    ๒๕๔๕    หน้า ๑๐๐  ว่าสีสำลาน

เท่าที่ตรวสสอบกับพจนานุกรม   คือ   สีเหลืองอ่อน หรือสีใบลาน

สีต่างๆในหนังสือเล่มนี้ มี

สีเงินยวง
สีจักษุวิฬาร์
สีเขาไกรลาศ
สีนิลอัญชัญ
สีอัญชัญ
สีไม้กฤษณา         
สีปีกกา
สีอุทกวารี 
สีเถ้าไม้หลัว
สีสุวรรณมาศ
สีหงสบาท
สีหญ้าแพรก


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 25 มี.ค. 08, 04:19
อ่านแล้วเพลิดเพลินเจริญใจ  ไม่เข้าใจทั้งหมดทีเดียว

สีสลาสุก
สีเมฆ
สีคล้า
สีปากนกแขกเต้า
สีบัวโรย
สีตองอ่อน
สีสัตตบุษย์
สีก้านสัตตบุษย์
สีสังข์


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 มี.ค. 08, 08:53
กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์  มีการบรรยายลักษณะและสีสันเสื้อผ้าของนางในไว้ละเอียดลออ   
เจ้าฟ้ากุ้งท่านเป็นผู้ชายที่เก่งเรื่องสีมาก  แยกแยะออก  แค่เฉดสีแดงอย่างเดียวก็ปาเข้าไปหลายแดงแล้วค่ะ   ถ้าท่านวาดภาพผนังโบสถ์เป็นนี่จะไม่แปลกใจเลย

มีโคลงบทหนึ่งในนั้น ก่อความงุนงงมาหลายปีแล้ว ว่าผ้าสไบของนางในคนนี้ คือเฉดสีอะไร
ขอนำมาลงให้งงทั่วกัน

      เห็นห่านในชลธี                  ถวิลผ้าสีลูกห่านสาย-
สมรพี่ติดขลิบพราย                   ทองช่องไหมในริ้วเรือง
      เห็นห่านลงท่องท้อง            ชลหลาย
สีลูกห่านผ้าสาย                        สวาทข้า
นึกนางห่มกรุยกราย                   โนนาด
ขลิบทองช่องไหมหน้า                อร่ามล้วนทองทราย

      ลักษณะผ้า คุณติบอคงมาช่วยอธิบายได้   ท่านบอกว่าเป็นผ้าที่ขลิบทองช่องไหม
ไม่ทราบว่าแยกเป็น ๒ คำ คือขลิบทอง แล้วมีช่องไหม  หรือว่าเป็นคำเดียวคือทองช่องไหม
มีริ้วทองด้วย  หรูหรามากทีเดียว

     ขอแยกซอยคุยหน่อยว่า เมื่อเขียน เรือนมยุรา   เครื่องแต่งกายของแม่นกยูงได้มาจากนิราศธารโศกนี้เป็นหลัก   เพราะเธอเป็นลูกสาวขุนนางอยุธยาตอนปลาย มีอาเป็นเจ้าจอมหม่อมห้ามในเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์   ก่อนกรุงแตก รู้ว่าตัวจะไม่รอดก็ยกสไบผ้านุ่งดีๆ ให้หลานสาวใช้



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 มี.ค. 08, 09:11
แม่นกยูงจึงแต่งกายงามโอ่อ่าเหมือนนางใน เวลาออกงานในยุคปัจจุบัน  มีผ้าสไบลูกไม้ด้วย
บรรดาแฟชั่นดีไซเนอร์และนักวิจารณ์ท้วงคุณไก่ วรายุฑ กันว่า แม่นกยูงห่มสไบลูกไม้ได้ไง  ผิดความจริง   
ตอนนั้นอินเทอร์เน็ตยังไม่มี   ไม่งั้นดิฉันจะยกมาให้อ่านกันจะจะทั้งบท  แต่ก็จำว่าเคยให้สัมภาษณ์ไปหนหนึ่งค่ะ ว่าผ้าลูกไม้สมัยปลายอยุธยา มีให้นางในห่มกันแน่ๆ
บทนี้ไง

       ผึ้งร้างพี่นึกปอง                  ผ้าขาวกรองลายดอกงาม
ย่อมห่มเข้าอาราม                      หน้าเจียรบาดประหลาดตา
       ผึ้งหลวงรวงร้างเก่า             เรียมปอง
ผ้าห่มขาวผูกกรอง                     ลูกไม้
สำหรับพับเฉียงทอง                   ลอยดอก
หน้าเจียรบาดประหลาดให้           แซ่ซ้องชมโฉม

คำอธิบายถึงผ้าลูกไม้ข้างบนนี้ทำให้รู้ว่าเป็นลูกไม้ดอก   ผืนกว้างพอจะใช้ห่มเป็นสไบได้ ไม่ใช่ลูกไม้ขลิบริมผ้า 
มีลวดลายเป็นดอก บนพื้นโปร่งเหมือนรวงผึ้ง   สีขาว   
น่าจะเป็นลูกไม้คล้ายๆอย่างนี้


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 มี.ค. 08, 09:14
ถามตัวเองเมื่ออ่านนิราศธารโศกบทนี้ ว่าผ้าลูกไม้มาจากไหน
สมัยปลายอยุธยา มีทางเดียวคือเป็นของอิมพอร์ต  ว่าแต่จากประเทศไหน
ไม่น่าจะเป็นเปอร์เชีย หรืออินเดีย  แต่เป็นยุโรปเสียละมาก
ก็นึกถึงผ้าลูกไม้โปรตุเกสขึ้นมาทันที

ภาพนี้ค่ะ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 มี.ค. 08, 10:05
สมัยอยุธยา เราค้าขายกับฝรั่ง เสื้อผ้าพองๆของสาวๆหนุ่มๆยุคโบราณเขามีลูกไม้ประดับทั้งนั้น คนมีฐานะอยู่ในรั้วในวังอย่างอาสาวของแม่นกยูงจะไม่มีสไบผ้าลูกไม้ก็เกินไปหละ
พวกละครนี่ลืมประวัติศาสตร์ เห็นลูกไม้เป็นของคอนเท็มป์ไปได้ :'( :'(


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 25 มี.ค. 08, 10:35
เคยได้ยินจากรุ่นพี่ที่เคารพท่านหนึ่ง
ว่าทุกวันนี้ในพระคลังในยังหลงเหลือผ้าสมัยรัชกาลที่ 1 อยู่หลายพับ
บางพับเป็นผ้าสมปักปูมแบบมลายู ที่เรียกว่าผ้าลีมา ซึ่งไม่พบว่ามีการใช้ในสมัยหลังๆ
บางพับเป็นผ้ามัสลินเนื้อดี แบบที่เรียกกันว่าผ้าขาวเนื้อเทศ
หลายพับเป็นลูกไม้เนื้อดี มีทั้งชนิดที่ถักด้วยมือ และฉลุด้วยมือลงในผ้าเนื้อบาง
แต่ละพับยังใหม่กริก สภาพสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นยังไง ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ต่างไปมากนัก

ฟังแล้วหูผึ่ง..... เสียดาย นายติบอเกิดมาบุญน้อย... อดดูครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 มี.ค. 08, 10:55
รูปเจ้ารูปนายท่านจะต้องมีผ้าฟูๆ บานๆสีขาวชายเป็นลูกไม้ คลาสสิค
ดิฉันชอบผ้าลูกไม้ เคยได้ติดมือมาจากเมืองบรูช เบลเยี่ยม เล็งแล้วเล็งอีกว่ามาจากจีนหรือเปล่า
เก็บอย่างดีจนหาไม่เจอค่ะ คุณติบอสะสมหรือเปล่าคะ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 25 มี.ค. 08, 23:20
ผมเคยคิดอยากสะสมผ้าโบราณครับ.... พี่กุ้งแห้ง
เพราะของใหม่ซื้อมาก็คงไม่ได้ใช้
แต่พอมองย้อนไปถึงอดีตของผ้าแต่ละผืน....
ความรู้สึกอยากสะสมของผมก็ถดถอยลงไป
เท่าที่ทำอยู่ตอนนี้คือต้องดูแลของที่เผลอหลวมตัวซื้อไปบ้างแล้ว
หรือของตกทอดจากรุ่นก่อนๆในครอบครัวที่มีอยู่ไว้ให้ไม่เสื่อมสลายไปไวนัก.....



ก่อนผมจะเผลอลากกระทู้ไปไกลกว่านี้
ผมขออนุญาตพักยกเรื่องผ้าไว้ก่อนดีกว่าครับ แหะๆ :)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 26 มี.ค. 08, 23:28
     ขอนำเสนอครับ  ผ้ากาบบัว  เป็นผ้าโบราณของเมืองอุบลฯ  ที่เห็นนี้เป็นผ้ากาบบัวคำ  เป็นผ้าทอยกด้วยดิ้นทอง  เป็นผ้าที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์  ข้าหลวงต่างพระองค์ผู้สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว(เมืองอุบลและจำปาสักในปัจจุบัน)  ได้เคยทูลเกล้าฯถวายพระพุทธเจ้าหลวง  ปัจจุบันนี้ยังมีการสืบสานอยู่ครับ........... ;D


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 26 มี.ค. 08, 23:35
อิอิ...เดี๋ยวพลาดอีก  ผ้าที่เคยทูลเกล้าฯถวายนั้นไม่ใช่ผืนที่นำมาโชว์นะครับ  เป็นผ้าที่คนพื้นบ้านผมเรียกผ้ากาบบัว  แต่คนทางบางกอกจะนิยมเรียกว่าผ้าลาว  เป็นลายเฉพาะครับ  ทุกบ้านต้องมีไว้เป็นมรดกตกทอด  ท่านพี่ติบอสนใจมาเลียบๆเคียงๆบ้านสาวชาวอุบลดูได้ครับ  รับรองแต่ละผืนอาจมีถึง 50 ปีขึ้นไป  แต่ถ้ายอมมาเป็นเขยอาจได้ฟรีเป็นของขวัญวันกินดอง...........อิอิ   8)


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 29 มี.ค. 08, 15:49
ลืมอวดด้านหลัง
เชิญทัศนาครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 19 พ.ค. 08, 19:50
ข่าวล่า
พระราชหัตถ์เลขาภาษาอังกฤษในพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นำออกประมูล
--------------------
THAILAND. Somdelat Phra-Paramendr Maha Mongkut, KING OF SIAM (d.1868). Autograph letter signed ('S P P M Mongkut RS on 4140th day of reign) to [William] Adamson, 'the manager of the Branch of Borneo Company limited at Singapore', Royal residence, Grand Palace Bangkok, 13 September 1862, in English, 3½ pages, 4to, with stamp on opening page, royal chop at end and green margins (opening page with hole cut at top, presumably monogram excised, affecting text on verso, upper corner dampstained, some wear at folds).
ESTIMATE(Set Currency) £300 - £500 ($584 - $974)

THAILAND. Somdelat Phra-Paramendr Maha Mongkut, KING OF SIAM (d.1868).
Autograph letter signed ('S P P M Mongkut RS on 4140th day of reign) to [William] Adamson,
'the manager of the Branch of Borneo Company limited at Singapore', Royal residence, Grand Palace Bangkok, 13 September 1862,
in English, 3½ pages, 4to, with stamp on opening page, royal chop at end and green margins
(opening page with hole cut at top, presumably monogram excised, affecting text on verso, upper corner dampstained, some wear at folds).

The King thanks Adamson for his order of 2000 cartridges of a Needham's patent fowling piece; he understands that an 'Armstrong gun'
cannot be purchased, speculating that perhaps this is due to the British Government's fears that powerful European nations may
'follow the way of Siamese ruler'. The King puts in a request for Needham's to make him a similar gun to his own specifications,
for ease of use against enemies along the river; he also places an order for a sewing machine and a quantity of pills, and pursues
the possibility of selling Siamese tobacco in London and Manila.
-------------------
สหายรักส่งข่าวมาให้ทราบ ขอฝากที่กระทู็นี้ละกัน
นายอดัมสันนี้ คนที่ชอบอ่านเอกสารรัชกาลที่ 4 คงคุ้นชื่อกันดีอยู่
เสียายที่เวบคริสตี้ส์ ไม่ยอมลงรูป อยากเห็นต้องซื้อแคตตะลอกครับ
http://www.christies.com/LotFinder/lot_details.aspx?intObjectID=5080171


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 20 พ.ค. 08, 11:43
ขอบคุณเรื่องของฝากค่ะ  น่าอ่านมาก
เลยไปอ่านเรื่อง  fowling piece 
ราคา แคตตาล็อค สูงขึ้น
ตอนที่ คริสตี้ไทยยังอยู่  เคยได้แผ่นพับงานต่างๆจากฮ่องกง แต่เป็นเรื่องของแสตมป์
ตอนนั้นก็พอทันสมัยอยู่บ้าง


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 พ.ค. 08, 14:29
ราคาตั้งต้น ต่ำกว่าความคาดหมายไปพอสมควร
เพราะสภาพไม่สมบูรณ์ และเป็นฉบับปลีก แต่เนื้อหาก็น่ารู้จริงๆ
ได้แคตตะลอกมาเมื่อไร อาจจะมีเรื่องมาเล่าสู่กันมากกว่านี้ครับ

คุณวันดีหายไปหลายเพลา คงจะงานยุ่ง
ใหนๆ ก็แวะมาแล้ว ขอเชิญชมพระรูปที่เพิ่งได้มาใหม่ ....อันนี้สหายฝรั่ง งัดออกมาให้ชมจากก้นกรุ
สภาพดีเยี่ยม และไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน อย่างน้อยก็ตามที่ผมมีความรู้

อ้อ ฝากสมาชิกเรือนไทยทุกท่านด้วย
โดยเฉพาะคุณวี และคุณอั๊พ ซึ่งคงจะเล่าอะไรที่น่ารู้ออกจากพระรูปนี้ให้ฟังอีกเช่นเคย


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 20 พ.ค. 08, 18:54
ไม่เคยเห็นเลยค่ะรูปนี้

ไม่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพเลยจนนิดเดียว  รู้จักบารอนสติลเฟรดนิดหน่อบ
เห็นผลงานของเขาในญี่่ปุุ่้นแล้วก็ตลึง
คุณเอนก นาวิกมูลก็ช่างเล่าเสียจริง
ก็เลยไปหาอ่านเพิ่มเติม
พอสรุปเท่าที่เห็นจากอินเตอร์เนต  รูปสมัยโน้นไหม้หมดไปแล้วค่ะเพราะกิจการที่ขายไปเกิดไฟไหม้ขึ้น


คอยคนมาเล่าดีกว่า

เคยไปงานประมูลคริสตี้ที่ราชประสงค์
ไม่รู้จักนักสะสมสักคน
เห็นตัวแทนซื้อที่ดูเป็นจีนนอก รับโทรศัพท์แล้วก็ประมูลเอ๊า...ประมูลเอา

จำชื่อจันดเลได้  ดีอกดีใจว่าเราก็รู้จักคนหนึ่งล่ะน่า

อีกครั้งหนึ่งในงานของคริสตี้ได้เห็นรูปดอกบัวแของจานทวี  ชะงักเลยค่ะี
อีกครั้งหนึ่งก็มีรูปศาลพระภูมิ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 ก.ค. 08, 11:05
พอจะคุ้นเคยกับการประมูลปรส. ที่มีรูปศาลพระภูมิของครูวี
ถ้าเป็นรูปที่ลงหน้าปก ซึ่งข้างในมีรูปบึงบัวที่ทำลายสถิคิราคา ณ ขณะนั้น
คนประมูลได้ไป เป็นข่าวเสียหลายวัน

ในวันนั้น นักสะสมไทยเพิ่งได้ลิ้มรสชาติของการประมูลแบบมืออาชีพกันจะๆ
คนที่แพ้ราคานั้นทุกคนต่างมีเงินพอสู้ และให้ได้มากกว่าราคาชนะอีกมากเสียด้วยซ้ำ
แต่ที่น้อยกว่าคือประสบการณ์
คุณลุงคนนั้น แกเป็นนักประมูลมาทั้งชีวิต (แต่ไม่ใช่ทางศิลปะ)....หึหึ

แกกำหนดเพดานไว้ แล้วแกก็เดินตามนั้น ถ้าแพ้ก็ไม่เสียใจ ถ้าชนะก็กำไร
คนอื่นที่ไม่กล้าสู้ราคา เพราะกลัวว่าจะบานปลาย ...ความจริงนั่นคือราคาสุดท้ายของคุณลุงแล้ว
เกิดมีอีกสักคนยกมือต่อ คนนั้นก็จะได้บึงบัวไปครอบครองทันที
(มีคนมาเล่าหลังฉากกันในภายหลัง รวมทั้งคุณลุงด้วย)

มีเรื่องสนุกอีกก็คือ เศรษฐีคนหนึ่ง(แห่งตระกูลศูนย์การด้าและโรงแรม) มาค้านว่ารูปของหม่อมหลวงปุ่ม เป็นของปลอม
อ้างโน่นนี่สารพัดรวมทั้งลูกสาวของท่านด้วย
ห่างออกไปไม่กี่ก้าว ลูกสาวท่านคุยกับเพื่อนว่า หมอนี่ใครไม่รู้จัก อ้างหม่อมหลวงปุ่มคนใหนก็ไม่รู้
คุณพ่อมีดิฉัน เป็นลูกสาวคนเดียว......(ฮา)

คุณ wandee น่าจะลองประมูลหนังสือเก่าดู
น่าตื่นเต้น และกระตุ้นกิเลสได้ชงัดนัก....55555


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 ก.ค. 08, 11:11
มีพระบรมรูปองค์ใหม่มาอวดผู้สนใจในรัชกาลที่ 6 ครับ

เพื่อนส่งมา และบรรยายว่า
....an original photo of HRH King Rama VI and his new Queen (at that time) HM Queen Indrasakdi Sachi.
She married HRH King Rama VI on 12 January 1922, and this photo is made at that time.
This original was given to my relative.


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ก.ค. 08, 12:21
คุณพิพัฒน์จำเรื่อง  Siamese dancer ที่ Sir Oswald Birley  วาดได้ไหมคะ
คุณที่ประมูลได้ ยอมขายให้ คุณหญิงคนที่เป็น the dancer โดยไม่คิดเงินเพิ่มเลย


ได้เห็นรูป สมเด็จพระศรีนครินทร์   ชีวิตนี้ในการดูรูปก็คงไม่ขาดอะไรอีกแล้ว


เห็นรูปของครูเหมมากมาย

ตามไปดูเพราะเพื่อนฝรั่งตัวหนึ่งบูชาพี่อังคารมาก(เพื่อนรุ่นเดอะ เค้าเรียกพี่อังคารกันทั้งนั้น เลยเรียกตาม)

เห็นหนังสือเก่าของไทยที่ฝรั่งเก็บ   อยากให้ฝรั่งเก็บต่อไปค่ะ  เพราะเก็บดีเหลือเกิน  ปก สัน อยู่ครบ

อันที่จริงราคาเริ่มประมูลที่แจ้งไว้ไม่แพงมากประมาณ สี่หมื่น - หกหมื่นบาท
ได้ข่าวว่าเหลือตกค้างอยู่หลายเล่มเหมือนกัน


รูปของหม่อมหลวงปุ่ม   สถานทูตแห่งหนึ่งมีอยู่สิบกว่ารูป  แสดงไว้ที่คาเฟเทเรีย   ต่อมามีการซ่อมแซม ก็ปลดรูบไปเก็บ
นานมารูปก็ไปอยู่ตามห้องทำงานต่างๆ  ไปติดตามบ้านบ้าง
ต่อมา รูปก็หายไปเกือบหมด  ตามไม่เจอ
ได้เห็นมาเหมือนกันค่ะ

ชอบรูป  Walk way in Chiang Mai   ราคาเริ่มประมูลติดไว้ สามแสน - สามแสนห้า  แปดปีมาแล้วนะคะ

ไม่ทราบว่ารูป Nude ของอาจารย์ทวี ที่ติดราคาเริ่มประมูลไว้ที่ ล้านสอง - ล้านห้า   ท่านผู้ใดอัญเชิญไปได้คะ
ไม่ได้อยู่ดูประมูลรูป  และไม่ได้ตามเก็บเอกสารหลังการประมูล
เห็น สามก๊ก ก็ แฮบปี้สุด ๆ แล้วค่ะ   


ขอบคุณที่มีรูป original ให้ดู  สมเด็จท่านถือช่อดอกส้มด้วยใช่ไหมคะ  ถ้าจำไม่ผิด


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 ก.ค. 08, 14:12
ผมเก็บสามก๊กฉบับโรงพิมพ์หน้าป้อมปากคลองบางกอกใหญ่ได้ชุดหนึ่ง 5 เล่ม
ไม่กล้าเปิดอ่าน เพราะกลัวโทรม
ถือว่าผิดหลักนักเลงหนังสือ มีสรรพะ วจะนะะ พาสาไท ก็ถูกปลวกกิน
นิราศลอนดอนเล่มบางๆ ก็ไม่รู้ไปเสียบไว้ที่ใหน....และอื่นๆ อีกมากมาย

ของเหล่านี้ เก็บก็เสียเปล่าครับ มีค่าเท่ากับเป็นวัตถุแพงๆ ไม่ได้เป็นทรัพย์อันใดทั้งสิ้น
ค่าของสามก๊กอยู่ที่การอ่าน ไม่ได้อยู่ที่การเก็บ
ความจริงเรื่องเหล่านี้ จะเอาไปคุยเล่นในกระทู้ตัวหนอนในสมุด อย่ามาจืดเสียที่นี่เลย

มีอีกพระรูป ที่ได้เห็นก็เป็นบุญตาเหมือนกัน
โปรดรอครับ พระพุทธเจ้าหลวงพร้อมลายพระหัตถ์ทรงเซนต์


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 ก.ค. 08, 14:38
พระรูปด้านบน อีกไม่นานคุณวีมี หรือคุณอั้พ คงจะมาช่วยไขความกระจ่าง
ขอเรียญเชิญนะครับ

ส่วนพระรูปต่อไปนี้มีค่าตรงที่เราทราบเรื่องประกอบ
Another photo is of a signed print of HRH King Chulalongkorn.
This was given by HRH King Chulalongkorn to Col. David B. Sickels,
who was the United States Minister to Siam in the late 1870's and early 1880's.
He was a good friend to King Rama V.

เห็นชัดว่าเป็นพระรูปในเทคนิคพิมพ์หิน สังเกตที่พื้นเบื้องหลัง มีเกร็นของลายหินเป็นสีเทาเข้ม
คนที่คุ้นกับภาพพิมพ์จะนึกออก
แต่ลายพระหัตถ์นั้นมีน้ำหนักอ่อนแก่ โดยเฉพาะตรงปลายลายเส้น
ไม่แข็งเหมือนงานพิมพ์ อย่างที่เคยเห็นในเอกสารต่างๆ  อันมักจะมาจากการแกะบล๊อกตีพิมพ์ขึ้น

ผมเคยมีวาสนาได้ชมพระราชหัตถ์เลขาส่วนพระองค์ชุดหนึ่ง มีร่วมร้อยฉบับ
มีเพียงฉบับเดียว แผ่นเล็กๆ ลายมือหวัดจนอ่านไม่ออก
ครูของผมบอกว่า คือองค์เดียวที่เป็นลายพระหัตถ์จริง นอกนั้นเป็นลายมือของเจ้าหน้าที่
ลักษณะเหมือนในพระรูปนี้ครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 ก.ค. 08, 14:46
ค้นต่อไปก็เจอว่า ผู้การ Sickels นี้ ไม่ใช่คนไม่ดังนะครับ ดังทีเดียว
เป็นคนแรกที่ส่งแมวสยามไปสหปาลีรัฐอะเมริกา

เป็นของขวัญประธานาธิบดี จึงเป็นผู้เปิดศักราชแมวไทยเป็นแมวโลก
ยาวนานมาถึงปรัตยุบัน.........
จบข่าว

http://www.blackandtansiamese.com/historicsiamese/historic_before_1940s.htm


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 03 ก.ค. 08, 16:30
ห่างหายไปจากกระทู้นี้เสียนาน  เพิ่งได้มาชมพระบรมฉายาลักษณ์งามๆ ที่คุณPipat กรุณานำมาให้ชมเป็นบุญตาจริงๆ ครับ  และก็ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

เมื่อมาแล้วก็ต้องรับหน้าที่บรรยายความตามที่คุณPipat ได้บอกกล่าวไว้ครับ

พระบรมฉายาลักษณ์ในความเห็นที่ ๙๙ 
สามเณรสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงฉายร่วมกับล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖  เมื่อทรงดำรงพระอิสริยยศที่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวาราวดี 

ตามพระราชประวัตินั้น  สมเด็จพระบรมฯ พระองค์ใหญ่เสด็จออกทรงผนวชสามเณรเมื่อวันที่  ๑๐  กันยายน  ร.ซ. ๑๑๐ (พ.ศ. ๒๔๓๔)  และทรงลาผนวชเมื่อวันที่  ๒๑  มกราคม ปีเดียวกัน

ในระหว่างที่ทรงผนวชนั้นมีพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรฉายร่วมกับสมเด็จพระอนุชา คือ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเทพทวาราวดีอยู่ ๒ องค์  องค์หนึ่งทรงฉายที่พระแท่นหน้าพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร  ส่วนพระบรมฉายาลักษณ์องค์ที่คุณPipat เชิญมาให้ชมกันนั้น  ดูเหมือนว่าจะทรงฉายที่พระปฐมเจดีย์  (เพราะประทับยินอยู่หน้าเขามอ  ซึ่งไม่มีที่วัดบวรนิเวศวิหาร)  เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่วัดพระปฐมเจดีย์เมื่อวันที่ ๔ หรือ ๕  พฤศจิกายน  ปีเดียวกันนั้น-


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 03 ก.ค. 08, 16:50
ต่อด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ในความเห็นที่ ๑๐๒

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฉายร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชอนี (พระอิสริยยศในขณะนั้น)
พระบรมฉายาลักษณ์องค์นี้ล้นเกล้าฯ ทรงเครื่องเต็มยศ จอมพล ผู้บังคับการพิเศษ กรมทหารบกราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงสายสะพายมหาจักรีบรมราชวงศ์  ทรงประดีบพระตรา (เรียงจากซ้ายไปขวาและบนลงล่าง) นพรัตนราชวราภรณ์  มหาจักรีบรมราชวงศ์  และรามาธิบดีชั้นที่ ๑ "เสนางคบดี"  ระหว่างพระตรา ๒ องค์บน  ทรงประดับเข็มเครื่องหมายกรมหารราบเบาเดอรัม (Duhram Light Infantry) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่เคยเสด็จไปประจำการเมื่อทรงเป็นสมเด็จพระยุพราช  และต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ สมเด็จพระเจ้ายอร์ชที่ ๕ ได้มีพระราชโทรเลขเชิญให้ทรงรับพระยศเป็นนายพลเอก นายทหารพิเศษของกองทัพบกอังกฤษ และกรมทหารราบเบาเดอรัม  ที่ต้นพระกรซ้ายทรงประดับปลอกพระกรสำหรับตำแหน่งผู้บังคับการพิเศษกรมทหารบกราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ จ.ป.ร.  ส่วนสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ทรงสายสะพายมหาจักรีบรมราชวงศ์  ซึ่งได้รับพระราชทานเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๔๖๕  พระบรมฉายาลักษณ์องค์นี้จึงน่าจะทรงฉายเนื่องในการเฉลิมพระชนม์พรรษา ๑  มกราคม  พ.ศ. ๒๔๖๕ ตามพระราชประเพณี "ฉายรูปในวันเกิด"  ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงได้ทรงเริ่มไว้


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 03 ก.ค. 08, 18:15
ขออนุญาตเพิ่มเติมคำบรรยายเกี่ยวกับ พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายคู่กับสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ครับ

เหรียญที่สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีฯ ทรงประดับที่พระอุระเบื้องซ้ายคือ เหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ ๖ ชั้นที่ ๑ และตราวัลลภาภรณ์ ครับ

จะสังเกตได้ว่าพระราชอาสน์และโต๊ะเคียงในสมัยนั้น เริ่มเข้ารูปเป็นแบบแผนอันสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน พระราชอาสน์ตราแผ่นดิน (กองพระราชพิธีสมัยหลังๆ เรียกว่า พระราชอาสน์/พระเก้าอี้เหลืองจักรี) และโต๊ะเคียงลักษณะนี้เข้าใจว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้สั่งทำและริเริ่มกำหนดธรรมเนียมการใช้ แต่ผ้าบุพระราชอาสน์อาจจะยังไม่มีแบบเคร่งครัดนัก เพราะพบว่าบางครั้งก็บุด้วยผ้ากำมะหยี่ลายดอกไม้ (ดูตัวอย่างได้ในมุขกระสันตะวันออกและตะวันตก พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท) คงจะเริ่มมีธรรมเนียมใช้ผ้าบุสีเหลืองทองในปลายรัชกาลที่ ๕ จนมาเป็นแบบแผนชัดเจนในรัชกาลที่ ๖ ส่วนโต๊ะเคียง สมัยหลังๆ นี้นิยมปูผ้าเยียรบับทับอีกชั้นหนึ่ง แต่สมัยก่อน แม้ในช่วงต้นรัชกาลปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าโต๊ะเคียงพระราชอาสน์/พระเก้าอี้ จะไม่ปูผ้าเยียรบับอย่างเช่นในพระบรมฉายาลักษณ์องค์ดังกล่าวครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 03 ก.ค. 08, 18:21
ส่วนพระบรมฉายาลักษณ์ในความคิดเห็นที ๑๐๕ นั้นงามมากครับ ขอบพระคุณคุณ pipat ที่เชิญมาให้ชมกัน เห็นแล้วน่าใช้เป็นแบบทำล็อกเก็ตพระบรมรูปหรือไม่ก็คามิโอ

และขอยืนยันว่าลายพระราชหัตถ์ในรัชกาลที่ ๕ นั้นอ่านยากมากถึงมากที่สุด ทรงเขียนหวัดมาก หากว่าเป็นลายมืออาลักษณ์ก็อ่านสะดวก แต่พระราชหัตถเลขาองค์ไหนที่ทรงเอง ต้องเพ่งแล้วเพ่งอีกและใช้ความคุ้นชินในการอ่านครับ ผมเคยได้รับหน้าที่อ่านและประมวลพระราชหัตถเลขาที่พระราชทานไปยังสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์หนึ่ง ทั้งหมดนั้นทรงเอง เพราะหลายเรื่องเป็นพระราชปรารภภายในเกี่ยวกับเจ้านายพระองค์ต่างๆ กว่าจะคุ้นตาก็ต้องใช้เวลานาน และที่น่าแปลกคือสำนวนพระราชโวหารในรัชกาลที่ ๕ หากว่าง่ายก็เข้าใจง่ายจริงๆ หากว่ายากก็ยากเหลือใจ อ่านไม่เข้าใจเลยว่าทรงสื่อความว่ากระไร น่าแปลกใจมากครับ เวลามีพระบรมราชาธิบายต่างๆ อย่างเช่นในพระราชนิพนธ์เรื่องพระราชพิธีสิบสองเดือน หรือพระราชหัตถเลขาทรงเล่าเรื่องราวต่างๆ จากยุโรป อย่างนั้นเข้าใจง่ายมาก แต่พอไปอ่านพระราชหัตถเลขาหรือพระบรมราชาธิบายเรื่องอื่นๆ บางเรื่อง กลับต้องคิดแล้วคิดอีก เดาแล้วเดาอีก ว่าทรงหมายถึงอะไร


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 05 ก.ค. 08, 09:24
ได้รับความรู้เต็มอิ่มจากทั้งสองท่าน ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ

เรื่องเขามอนั้น น่าสนใจมาก ในรูปรุ่นรัชกาลที่ 4 ได้เคยพบหลายครั้ง
เข้าใจว่าในพระบรมมหาราชวังจะมีสร้างไว้ด้วย แต่น่าจะเป็นพระราชฐานชั้นนอก เพราะในรูปมีชายหนุ่มยืนอยู่
และมีพนักงานห่มแพรสียืนอยู่ด้วย

อีกแห่งที่นึกว่าน่าจะมีก็คือที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ก่อนถูกรื้อ
ถ้าเจอรูปที่เหมาะๆ จะนำมาอวดอีกครับ


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 09 ก.ค. 08, 21:35
ท่องเนต เจอสิ่งสำคัญ ขออวดท่านที่สนใจ
พระราชหัตถเลขาภาษาอังกฤษ บอกขายที่ราคา สองพันปอนด์
ให้รายละเอียดว่า
-------------------------
MONGKUT‚ Rama IV‚ King of Siam.   

Autograph Letter Signed ‘Mongkut RS on 6671st day of reign’‚
to ‘His Excellency Sir Henry Saint George Ord KCB the colonial governor
commander-in-chief at the British Strait Settlement’‚
announcing the return of “my dutiful faithful consul” with Ord’s letter from Singapore‚
and explaining in great detail the family background of a new ambassador he has appointed to visit Orde
“with Mr.Tom Kim Ching my consul at Port of Singapore”.   
3 pp. 6½ x 4 inches‚ with two blue seals‚ letter complete‚ but worn‚ creased‚ dust soiled and torn at folds‚
marginal defects‚ black borders.   Royal Residence‚ Grand Palace‚ Bangkok‚ Siam‚ 27 December 1867.   

King Maha Mongkut‚ also known as Rama IV‚ ruled Siam (now Thailand) from 1851 to 1868‚
during which time he successfully negotiated with Western powers and modernized his nation.
Mongkut ascended the throne upon the death of his half-brother‚ Jetta (Rama III)‚ after spending 27 years
as a Buddhist monk. Educated and multi-lingual‚ Mongkut negotiated with the United States and European
powers to open Siam to international trade. Sir Harry St George Ord (1819–1885)‚
army officer and colonial governor‚ was appointed on 5 February 1867 to be the first colonial governor
of the Straits Settlements‚ these possessions having previously been administered by the government of India.
He remained at Singapore until November 1873.
Mongkut says of Ord’s letter: “...the whole content thereof was perused by me & verbally
translated to my dear wives the Ladies whose names have been known to you before.”
The new ambassador to the Strait Settlements is to be “Phya Debiaprajun the second officer secretary of the
Presidency of Southern provinces of Malayan States‚ dependants to Siam”.

Price : £2,000.00


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 09 ก.ค. 08, 21:46
ฉบับนี้แพงขึ้นเป็นสามพันปอนด์ครับ
ก็สมควรอยู่

MONGKUT‚ Rama IV‚ King of Siam.

Autograph Letter Signed as ‘Mongkut Rex Siamensium’‚ ‘To His Excellency Sir John Bowring Knight’‚
announcing “the death our esteemed uncle His Excellency Somditch Chun Phya Pasam Maha Payurawonse
the greatest regent of Siamese Kingdom”‚ giving details of his uncle’s birth and death‚ announcing the funeral‚
and stating that his uncle’s name should remain on “the new treaty”.
3 pp. 6 x 3¾ inches‚ three black seals‚ black border to first page‚ in very good clean condition (traces of one
hinge only where formerly mounted). Numbered in Mongkut’s hand: No.64.   
Grand Palace‚ Bangkok‚ Siam‚ 7 May 1855.   
King Maha Mongkut‚ also known as Rama IV‚ ruled Siam (now Thailand) from 1851 to 1868‚ during which time
he successfully negotiated with Western powers and modernized his nation. Mongkut ascended the throne upon
the death of his half-brother‚ Jetta (Rama III)‚ after spending 27 years as a Buddhist monk. Educated and multi-lingual‚
Mongkut negotiated with the United States and European powers to open Siam to international trade. Mongkut writes:
“Yet we wish his E-ys name remained in the treaty as he has sealed thereon with his official Seal as it appeared in all
quadruplicates of the new treaty.” Sir John Bowring (1792–1872)‚ politician‚ diplomatist‚ and writer‚visited Siam in 1855
and successfully negotiated a commercial treaty with King Mongkut.

Price : £3,000.00


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 09 ก.ค. 08, 21:55
ความสำคัญประการหนึ่ง อย่างน้อยตามความเซอะของผมก็คือ
ทรงพระราชทานเกณฑ์เทียบปฏิทินไทย-ตะวันตก ให้เราได้ใช้

คือทรงระบุวันเดือนปีเกิดของสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ๋ไว้
ทำให้เราสามารถเทียบกลับ และสร้างปฏิทินที่เที่ยงตรงขึ้นมาได้

การเทียบวันเดือนปีในห้วงเวลา 100 ปีย้อนหลังนั้นค่อนข้างยุ่งยาก
เพราะเราเริ่มปีที่เดือนเมษา แถมจอมพลป. ยังมาลบศักราชเสียอีกหน ในปี 2484
ให้เริ่มปีที่วันที่ 1 มกราคม


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 10 ก.ค. 08, 12:22
คราวนี้มาขอความช่วยเหลือครับ
เพื่อนส่งพระรูปนี้มาและยืนยันว่า เป็นการฉายพระรูปในวันปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475
ผมไคิดว่าจะเป็ฯเช่นนั้น แต่ไม่มีความรู้พอจะไปเถียงเขา

ท่านผู้ใดจะเมตตาติดอาวุธปัญญาให้ผมไปโต้แย้งเขาได้ใหมครับ
ขอบพระคุณมาล่วงหน้าอย่างกระวนกระวายใจ



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 11 ก.ค. 08, 01:31
ไม่ต้องเดาเลยว่าทั้งคุณวี และคุณอั้ฟ จะปลื้มเพียงใดที่ได้ชมพระรูปนี้
ผมเองเป็นคนนอก ไม่ได้ทราบและซึ้งในพระราชกรณียกิจของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 สักเท่าใด
เมื่อได้รับสำเนาพระบรมรูปนี้ ยังรู้สึกว่าเป็นบุญตาโดยแท้



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 11 ก.ค. 08, 02:48
พระบรมรูปอีกพระองค์ครับ



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 11 ก.ค. 08, 07:16
ขอบพระคุณคุณ Pipat ที่กรุณาหาพระบรมฉายาลักษณ์งามๆ มาให้ชื่นชมพระบารมี

องค์แรก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี  ดูเหมือนจะทรงฉายเมื่อคราวเสด็จฯ สหรัฐอเมริกา  แต่พอดีตอนนี้ไม่มีคู่มืออ้างอิงเลยยังไม่สามารถยืนยันได้  ที่ยืนยันได้คือวันที่  ๒๔  มิถุนายน  ๒๔๗๕ นั้น  ประทับที่หัวหิน  และเท่าที่ทราบจากพระมหาเทพกษัตรสมุห (เนื่อง  สาคริก)  วันนั้นสถานการณ์ที่วังไกลกังวลทั้งกังวลและสับสนมาก  ทุกคนต่างพากันรอฟังข่าวจากกรุงเทพฯ  ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการฉายพระบรมฉายาลักษณ์ครับ

พระบรมฉายาลักษณ์ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ สององค์ต่อมา

องค์แรกทรงฉายที่อังกฤษขณะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร  ทรงเครื่องเต็มยศ นายร้อยโททหารมหาดเล็ก (กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์) พระบรมฉายาลักษณ์องค์นี้คาดว่า ทรงฉายก่อนที่จะเสด็จไปทรงศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สต์ไม่นาน

เมื่อกล่าวถึงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชแล้ว  มีข้อที่น่าสังเกตที่ยังหาคำตอบไม่ได้ คือ ธรรมเนียมไทยเราแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบันนั้น  หากยังไม่มีการพระราชทานเพลิงศพผู้ที่ดำรงตำแหน่งเดิมแล้ว  จะยังไม่แต่งตั้งคนใหม่ขึ้นแทน  ตัวอย่างเช่นในกรณีที่สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์  หรือพระราชาคณะถึงมรณภาพ  หากยังไม่มีการพระชทานเพลิงพระศพหรือศพแล้ว  ก็จะยังไม่โปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระสังฆราชหรือพระราชาคณะในราชทินนามนั้น  แต่เมื่อครั้งที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร สวรรคตในวันที่  ๔  มกราคม  ๒๔๓๗  ถัดมาอีกเพียง ๑๓ วัน ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวาราวดี ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชแทน  ถ้าจะอ้างถึงความในประกาศสถาปนาว่า พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการผู้ใหญ่กราบบังคมทูลพระกรุณาขออย่าให้แผ่นดินว่างพระรัชทายาทแล้ว  ก็น่าคิดว่า เวลานั้นล้นเกล้าฯ ก็ยังประทับทรงศึกษาอยู่ที่อังกฤษ  และถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันดังที่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการผู้ใหญ่กังวลกันนั้น  สมเด็จพระบรมฯ ซึ่งประทับอยู่ต่างประเทศจะทรงแก้ไขสถานการณ์ได้ทันหรือ?  เพราะกว่าจะเสด็จกลับจากอังกฤษก็ต้องใช้เวลาราว ๓ สัปดาห์เข้าไปแล้ว 

พระบรมฉายาลักษณ์องค์ถัดมา  ทรงเครื่องจอมพลเรือ  ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดเครื่องแต่งตัวทหารเรือ ร.ศ. ๑๒๔  เครื่องแบบทหารเรือแบบเยอรมันนี้ใช้มาตั้งแต่ตอนปลายรัชกาลที่ ๕  มาจนถึงสิ้นปี พ.ศ. ๒๔๕๔  พอวันที่  ๑  เมษายน  ๒๔๕๕  ก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้ทหารเรือเปลี่ยนมาใช้เครื่องแบบแบบทหารเรืออังกฤษดังที่ใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้
พระบรมฉายาลักษณ์องค์นี้น่าจะทรงฉายเมื่อคราวเฉลิมพระชนม์พรรษา  ๑  มกราคม  พ.ศ. ๒๔๕๔  เพราะเมื่อเสด็จนิวัติพระนครในตอนปลายปี ๒๔๔๕ นั้น  ทรงได้รับพระราชทานพระยศเป็นนายพลเอก จเรทัพบก  และทรงรับราชการทหารบกมาโดยตลอดตราบจนเสด็จเสวยราชย์สมบัติเมื่อวันที่ ๒๓  ตุลาคม  พ.ศ. ๒๔๕๓  ต่อมาวัที่  ๔  พฤศจิกายน  ปีเดียวกันนั้น  นายพลเรือโท สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนครสวรรค์วรพินิต ทรงเป็นผู้แทนกรมทหารเรือทูลเกล้าฯ ถวายอินทรธนูจอมพลเรือ  นับเป็นครั้งแรกที่ทรงดำรงพระยศทหารเรือ  และในวันนั้นได้พระราชทานพระราชดำรัสตอบว่า  เมื่อแรกเสด็จออกไปทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษนั้น  มีพระราชประสงค์ที่จะเรียนวิชาทหารเรือ  แต่เมื่อทรงรับสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชแล้ว  ต้องทรงเปลี่ยนมาเรียนวิชาทหารบกและวิชาพลเรือนแทน

ฉลองพระองค์นี้เป็นเครื่องแบบทหารเรือตาม


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 13 ก.ค. 08, 01:14
สังเกตว่าที่พระกรของพระนางรำไพฯ นั้น มีช่อดอกไม้ เข้าใจว่าเป็นดอกไม้ต้อนรับ
ผมเองก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นพระรูปฉายที่สหรัฐอเมริกา

ไม่ทราบว่ามีใครแวะพิพิธภัณฑ์พระปกเกล้า อาจจะมีพระรูปนี้


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 18 ก.ค. 08, 04:22
ค้นหามานาน
ตอนนี้พบพระบรมรูปเปรียบเทียบแล้วครับ
รัชกาลที่ 5 ในปีฉลองกรุงเทพ 100 ปี จากหนังสือของคาร์ล บ๊อค
เทียบกับพระบรมรูปที่มักจะบอกว่า ฉายเมื่อบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 2416

เชิญพิจารณาครับ



กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 21 ก.ค. 08, 18:23
มิใช่พระบรมรูป แต่ก็น่าชมไม่น้อยครับ
คำบรรยายเป็นภาษาเยอรมัน จนปัญญาที่ผมจะรู้เรื่อง เชิญชมดีกว่า
----------------------------------
Weltausstellung Paris 1900. Ausstellungspalast des Königreichs Siam, im Hintergrund fünfgeschossige Pagode des japanischen Ausstellungspavillons, aus: Die Pariser Weltausstellung in Wort und Bild, 1900. S.176.


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: pornpan Vaddhanayon ที่ 06 ก.ย. 09, 16:26
 :)เป็นบุญตาที่เผอิญเปิดเข้ามาพบสุดยอดจริงๆค่ะขอบพระคุณที่นำภาพหาได้ยากมาให้ชมรวมทั้งหลายๆท่านที่ให้ความรู้ กรุณาหาภาพรัชการที่ 8 มาให้ชมบ้างนะคะเคยเห็นภาพสองพระองค์( ร.8 - ร.9)เมื่อทรงพระเยาว์ โปรดนำภาพมาเผยแพร่ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
พรพรรณ วัฑฒนายน


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: sugar ที่ 08 ก.ย. 09, 18:57
ได้ดูพระบรมฉายาลักษณ์ในความคิดเห็นที่116 แล้ว น้ำตาซึมเอาเลยค่ะ นึกไปถึงวันที่พระองค์ทรงพระประชวรจนสวรรคตหลังพระราชธิดาประสูติได้ 2 วัน


กระทู้: พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 26 ก.ย. 09, 19:39
ยอมรับว่าเป็นหนี้บุญคุณคุณpipatมากที่ช่วยทำเรื่องยากให้ง่ายเท่าปลายนิ้วคลิ๊ก