เรือนไทย

ข้อมูลจากคอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกของคุณ นิติภูมิ  นวรัตน์
 โคตรแห่งความเหี้ยมและหฤโหด

จากห้องนอนของผมในที่พักซึ่งชื่อว่าบาบิโลน ทอดสายตาตรงลงไปนั่นไงคือแม่นํ้าไทกริส ซึ่งมีต้นกำเนิดไหลมาจากตุรกี

ผู้อ่านท่านที่เคารพ ไทกริสยามคํ่าคืนนี่สวยจริงๆ ผมเกริ่นไว้ในเปิดฟ้าภาษาโลกวันนี้ว่า คืนเดือนหงายจันทร์ฉายสาดแสง แลเห็นดาวแฝงส่องแสงพร่างพร้อย กรุงแบกแดดราตรีนี้ งามประทับใจจริงๆ ครับ สายลมจากทะเลทรายพลิ้วผ่าน สายธารแห่งแม่นํ้าไทกริสพลิ้วไหว...

ชื่นชมบรรยากาศงดงามได้ไม่นาน เมื่อใจนึกถึงเครื่องบิน (อเมริกัน?) ฝูงใหญ่ ยิงใส่รถยนต์ ที่มีคนโดยสารเต็มเมื่อคืนวานแล้วก็จิตใจห่อเหี่ยว นิติภูมิของท่านผู้อ่านได้เห็น เป็นพยานด้วยตา ทั้งสองข้างเป็นกลุ่มแรก ว่ารถยนต์ยี่ห้อเกียของเกาหลีโดนกราดยิงลงที่ตรงไหน? ภายหลังที่เกิดเหตุการณ์นี้เพียงไม่กี่ชั่วโมง

เช้าวันนี้ผมมีกำหนดการจะไปสวนลอยแห่งเมืองบาบิโลน อันเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่สร้างไว้เมื่อหลายพันปีมาแล้ว และนอกจากนั้นก็ยังตั้งใจจะไปเคารพกุโบรฺ (สุสานฝังศพ) ของท่านอลี อิบบิ อบีตอเล็บ ซึ่งเป็นคอลีฟะหฺ (ผู้ปกครอง) ท่านที่ 4 ท่านเป็นเด็กหนุ่มคนแรก ในประวัติของศาสนาที่รับอิสลาม

ระหว่างทางที่ไกลออกไปในชนบท ก็มีรถเบนซ์ตำรวจ 3 คัน แซงวิ่งนำหน้ารถของเรา สังเกตว่าบนถนน กลางทะเลทรายแห่งนี้น่าจะมีไว้ใช้ทำกิจกรรมลับอะไรซักอย่าง

จนถึงเนินทรายเตี้ยๆ เริ่มมีแอ่งนํ้าเล็กๆ ลักษณะเป็นโอเอซีส ย่อมๆกลางทะเลทราย ตำรวจอิรักเชื้อเชิญ ให้นิติภูมิและคณะลงไปดู อนิจจาผู้อ่านท่านเอ๋ย กลิ่นเลือดคาวฟุ้ง ทั้งรถมีรอยกระสุนขนาดใหญ่ คงจะยิงใส่เป็นชุดๆ ลงมาจากฟากฟ้า ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูในรถ เลือดสดๆ สาดเต็มไปหมดทุกที่นั่ง เศษนิ้วมือกระจัดพลัดพราย จากร่างตกอยู่หลายแห่งบนเบาะหลัง

หันไปสั่งพี่น้อย ซึ่งเป็นช่างภาพผู้ติดตามนิติภูมิไปทุกแห่งในโลก บอกพี่ช่วยถ่ายวีดิโอ เก็บภาพทั้งหมดนี้ ไว้หน่อย ทั้งเศษรถเศษเนื้อมนุษย์นี่แหละ ผมจะเอาไปออกประจานใน ไอทีวีสถานีโทรทัศน์บ้านเรา ให้ชาวโลกหูตาสว่างซักทีว่ามีไอ้อันธพาลเอาเครื่องบินรบ ออกลาดตระเวนทีละเป็นฝูงใหญ่ เที่ยวไล่ยิงผู้คนที่ไม่มีทางสู้

ไอ้นักบินพวกนี้ประสาทหลอนหรือเช่นไร? เห็นรถยนต์กลางทะเลทรายเป็นไม่ได้ พ่อยิงใส่เป็นชุดทุกที ตายกันเป็นเบือเกือบทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ไม่เคยเห็นเป็นข่าวให้พวกเรารู้ถึงความหฤโหด คงจะเป็นเพราะสำนักข่าวทั้งหลายเป็นของฝ่ายตะวันตกทั้งหมดนั่นเอง

ชาวนาผู้เลี้ยงแพะและอูฐครอบครัวนี้ คงเป็นมุสลิมนิกายซีอะห์ เพราะว่าพวกผู้หญิงคลุมกาย ในชุดสีดำ วิญญาณตำรวจเก่าเข้าสิง นิติภูมิดิ่งเข้าไปสอบถามตามหาข้อเท็จจริง จากคุณแม่วัยชรา ผู้เสียบุตรชายไปในเกมโหดครั้งนี้ทันที

“พวกมันบินกันมาเป็นฝูงใหญ่หลายครั้ง บินมาสำรวจตรวจตรามาหลายสัปดาห์แล้วละ ก็ไม่เคยมีอะไรจนกระทั่งเมื่อคืนเป็นงานการฉลองวันเกิดท่านผู้นำ ลูกชายของฉันได้มีวันหยุด ก็จึงให้เพื่อนขับรถยนต์พามาเยี่ยมฉันที่นี่”

“รถของลูกเพื่อนยังไม่ทันเคลื่อนมาถึงบ้าน ก็ถูกเครื่องบินยิงลงมา ลูกชายของฉันตาย ส่วนเพื่อนอีก สามคนบาดเจ็บสาหัส” ประโยคหนึ่งซึ่งทำให้ผู้ที่ไปด้วยกับผมซึมไปตามๆ กัน

“วินาทีแรกที่รู้ว่าลูกชายของฉันตาย ฉันเสียใจร้องไห้ แต่เมื่อมีคุณได้มาดูศพของลูกชายฉัน ฉันก็ดีใจ....

..มีคนบอกว่าคุณเป็นผู้สื่อข่าว คุณจะได้บอกเรื่องราวกับคนอื่นต่อๆ ไปว่า คนเหล่านั้นก่อความโหดร้าย ให้มนุษย์ด้วยกันอย่างพวกฉันยังไงบ้าง...

บัดนี้ฉันมีความรู้สึกใหม่ ฉันดีใจที่ลูกชายจะได้เป็นผู้ประจานความโหดโฉดชั่วของอเมริกา”

ผู้อ่านท่านคอยชมทั้งเศษเนื้อลูกชายและชมคุณแม่ชราใจเด็ดผู้นี้ได้ ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี รายการ “เปิดเลนส์ส่องโลก” ครับ.

อ่านแล้วคิดอย่างไรกันบ้างคะ

สัญชาตญาณดิบ ของ คนผิวขาว ไม่มีวันตายไปจากโลกนี้ เพียงแต่พวกเขาสร้างวัฒนธรรม ผู้ดี ของเขา ขึ้นมาลวงโลก เพื่อปิดบัง อำพรางความป่าเถื่อนของพวกเขาเท่านั้น

อ่านจากตรงนี้ก็มองได้ว่า เหี้ยมโหดครับ แต่นี่เป็นมุมมองจากฝ่ายเดียวเท่านั้น
เครื่องบินรบอเมริกันทำไม่ถูกแน่นอนที่ไปยิงพลเรือนตาย แต่ผมก็ยังนึกถึงว่าที่อิรักเคยไปบุกยึดคูเวต เมื่อหลายปีก่อน มีคนคูเวตตายไปเท่าไหร่ แล้วก็ที่คนอิรักต้องตายเพราะคำสั่งของ ซัดดัม ไปแล้วเท่าไหร่ ทำไมคนอิรักถึงไม่คิดจะทำอะไรให้ประเทศตัวเองดีขึ้นบ้าง หรือคิดว่าถ้ายังมี ซัดดัมอยู่แล้วประเทศจะดีขึ้น
ผมคิดว่าสงครามเป็นสิ่งโหดร้ายครับ การฆ่าและทำลายชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่นอน

ด้านเดียวครับ แต่ ทั้งนี้ก็มาจากการที่เราบริโภคข่าวที่มาจากสำนักข่าวตะวันตกมากเกินไป

  ผมได้ติดตามคอลัมน์ของคุณนิติภูมิ มาโดยตลอดทำให้เข้าใจถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับประเทศในโลกที่ 3 ในความเป็นจริง มิใช่ถูกเติมความเข้าไปก่อนหน้าที่จะมาถึงเรา ในกรณีที่ว่า ท่านซัดดัม ฆ่าคนอิรักตายไปเท่าไหร่นั้นก็จริง แต่ ถ้าไปอ่านคอลัมน์ เปิดฟ้าส่องโลก ในนสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2544 ( เมื่อวานนี้ ) ก็จะเข้าใจอะไรๆมากยิ่งขึ้นครับ แล้ว เรื่องที่ ทำไมคนอิรักไม่ทำอะไรให้ประเทศของตน ดีขึ้นบ้างนั้น ก็ขอเรียนว่า ในเวลานี้ ประเทศอิรัก ยังคงถูกควํ่าบาตรจาก UN (ภายใต้การสนับสนุนจาก USA และ ประเทศตะวันตกทั้งหลาย) ดังนั้นการพัฒนาประเทศจึงดำเนินไปในลักษณะที่ไม่ใคร่จะคล่องนัก ด้วยว่า ประเทศอิรักจะไปทำธุรกิจ ธุรกรรม กับประเทศใดก็มิได้ นั่นก็หมายความว่าทรัพยากรต่างๆในอันที่จะนำมาพัฒนาประเทศนั้นไม่สามารถจัดหามาได้

ก็ขอเรียนเท่านี้นะครับ ตามกำลังความรู้ที่เด็กอย่างผมจะมีได้

ด้านเดียวครับ แต่ ทั้งนี้ก็มาจาการที่      

                                                                           
             ผมมิได้      
                                             
      บริโภคข่าวที่มาจากสำนักข่าวตะวันตกมากเกินไป

  ผมได้ติดตามคอลัมน์ของคุณนิติภูมิ มาโดยตลอดทำให้เข้าใจถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับประเทศในโลกที่ 3 ในความเป็นจริง มิใช่ถูกเติมความเข้าไปก่อนหน้าที่จะมาถึงเรา ในกรณีที่ว่า ท่านซัดดัม ฆ่าคนอิรักตายไปเท่าไหร่นั้นก็จริง แต่ ถ้าไปอ่านคอลัมน์ เปิดฟ้าส่องโลก ในนสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2544 ( เมื่อวานนี้ ) ก็จะเข้าใจอะไรๆมากยิ่งขึ้นครับ แล้ว เรื่องที่ ทำไมคนอิรักไม่ทำอะไรให้ประเทศของตน ดีขึ้นบ้างนั้น ก็ขอเรียนว่า ในเวลานี้ ประเทศอิรัก ยังคงถูกควํ่าบาตรจาก UN (ภายใต้การสนับสนุนจาก USA และ ประเทศตะวันตกทั้งหลาย) ดังนั้นการพัฒนาประเทศจึงดำเนินไปในลักษณะที่ไม่ใคร่จะคล่องนัก ด้วยว่า ประเทศอิรักจะไปทำธุรกิจ ธุรกรรม กับประเทศใดก็มิได้ นั่นก็หมายความว่าทรัพยากรต่างๆในอันที่จะนำมาพัฒนาประเทศนั้นไม่สามารถจัดหามาได้

ก็ขอเรียนเท่านี้นะครับ ตามกำลังความรู้ที่เด็กอย่างผมจะมีได้
ป.ล.ขออภัยด้วยนะครับ ความคิดเห็นที่ 4  พิมพ์ผิดบางประการครับ

ผมไม่ต้องการเปิดประเด็นใหม่ แต่ขอเรียนว่า ผมเคยวิพากษ์คุณนิติภูมิไว้บ้างเหมือนกันที่พันธ์ทิพย์.คอม เมื่อพักหนึ่งมาแล้ว

การมองหลายๆ มุมนั้นดี แต่คุณนิติภูมิก็ไม่ใช่ศาสดาเช่นกัน ฟังแกได้ แต่ต้องฟังแกอ่านแกอย่างพินิจ เพราะที่แกเขียนผิดห้าแต้มออกไปเต็มที่แล้วก็เคยมีเหมือนกัน แกก็รู้อะไรมากอยู่ และแกสามารถเขียนทำให้สาธารณชนอย่างความเห็นข้างบนผมนี่ หันมาสนใจการต่างประเทศได้ (ซึ่งแต่ก่อนคนธรรมดาคงถือว่าเป็นเรื่องไกลตัวกัน) ก็เป็นเรื่องดี ผมนับถือแกตรงนี้ แต่ต้องย้ำอีกที ว่าแกไม่ใช่เทวดา

สมัยก่อนนี้ ที่แกชอบนึกชอบเขียนอยู่เรื่อย ก็คือ คนที่ไม่เห็นด้วยกับแก หรือบางทีทักท้วงแกมานั้น เป็นคนโง่ ผิด เป็นขี้ข้าอเมริกันสมุน รับใช้อเมริกามาแกล้งแก ซึ่งคุณนิติภูมิต้องเข้าใจว่า คนอื่นที่เขารู้อะไรๆ นอกจากคุณนิติภูมิเองก็มีเหมือนกัน เห็นอะไรไม่ตรงกับแกไม่หมายความว่าเขาจะไม่รักชาติ และตามก้นอเมริกันเสมอไป เขาอาจจะรักชาติไทยและเกลียดอเมริกา (เวลาที่อเมริกาทำตัวน่าเกลียด) พอๆ กับแกก็ได้

การไม่เชื่อตะวันตกเกินไปก็ดีแล้ว แต่ก็อย่าเชื่อข่าวแหล่งเดียวเกินไปด้วย ไม่ว่าจะแหล่งไหนก็ตาม ตะวันตกหรือตะวันออก ลูกศิษย์อเมริกันหรือลูกศิษย์รัสเซียพูด

ไม่ใช่ว่าลูกศิษย์อเมริกันพูดต้องถูกเสมอหรือผิดเสมอ และไม่ใช่ว่าลูกศิษย์รัสเซียพูดแล้วต้องถูกเสมอ หรือผิดเสมอเหมือนกัน เวลาลูกศิษย์รัสเซียอย่างคุณนิติภูมิแกไปซอกแซกที่แปลกๆ มาเล่า ผมซึ่งเป็นลูกศิษย์อเมริกันก็ยังชอบฟังเลย แต่ผมเชื่อว่าทั้งลูกศิษย์รัสเซียและลูกศิษย์อเมริกาสองคนนี้รักเมืองไทยด้วยกัน และมีปัญญา มีความคิดอิสระอยู่ในกะโหลกไทยๆ เท่าๆ กัน ไม่ได้ถูกครูอเมริกันหรือครูรัสเซียครอบเท่าไหร่หรอก

เรื่องที่คุณนิติภูมิเล่านั้น หลายเรื่องก็เป็นประโยชน์มาก (เช่นเวลาแกซอกแซกไปไหนแปลกๆ ) บางเรื่องก็มั่ว และยังมีบางเรื่องที่แกเล่าเสียสลักสำคัญใหญ่โต "ต้องเข้าใจนะว่า ...."  ยังโง้นยังงี้ แต่เปล่า ไม่ใช่ความจริงที่ค้นพบใหม่โดยนิติภูมิหรอก เป็นเรื่องที่คนที่เขาเรียนเขารู้ทางนี้วงการนี้เขาก็รู้เท่าๆ กับแกนั่นแหละ เขารู้กันมาตั้งนานแล้วล่ะลุ้ง แต่คงสร้างความประทับใจให้สาธารณชนทั่วไปได้ แกจึงมีแฟนติดกลุ่มหนึ่ง กลุ่มไม่เล็กเลย ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ ดีใจ ช่วยๆ กันเล่าเรื่องต่างประเทศให้พ่อแม่พี่น้องฟังกัน แต่ผมขออย่างเดียว พ่อแม่พี่น้องต้องมีวิจารณญาณครับ อย่าหลับตาเชื่อฝรั่ง (ตามที่คุณนิติภูมิชอบพูด) และอย่าหลับตาเชื่อจีน เชื่อรัสเซีย เชื่อไทย ฯลฯ เหมือนกัน แล้วก็ทำนองกลับกัน อย่าหลับตาปิดหูไม่ฟังฝรั่งเพียงเพราะว่ามันเป็นฝรั่ง ฝรั่งต้องผิดเสมอ น่าจะเปิดหูฟังหลายๆ ด้านครับ

เลยกลายเป็นเปิดประเด็นเรื่องนิติภูมิอีกจนได้ ขอโทษครับ

กลับมาเรื่องของความโหดของคนผิวขาว ผมขอสะกิดนิดเดียวว่า ยั้งๆ ไว้นิดครับ คนผิวขาวบางตัวโหดจริง ไม่เถียง ที่ว่าโลกเดี๋ยวนี้ถูกอเมริกาครอบอยู่ เพราะแกเป็นอภิมหาอำนาจที่หลงเหลืออยู่ชาติเดียวในโลก ก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่าจริง สื่อมวลชนตะวันตกมีอิทธิพลสูง ก็จริงอีก (จนกลุ่มโลกที่สามเคยโวยวายและพยายามผลักดันให้มี NIIO - New International Information Order แต่ไม่รู้ผลักไปได้แค่ไหนแล้ว) แต่การบอกว่า ถ้าผิวเอ็งขาวแปลว่าเอ็งต้องโหด นี่ เหมารวมตีขลุมไปหน่อยครับ ฟังคล้าย racism ไปหน่อย

ผมรับทราบตามที่ท่านจมื่นบอกว่าคนอิรักพัฒนาประเทศไม่ได้เพราะถูกคว่ำบาตรจากสหประชาชาติอยู่ ใช่ครับถูกต้อง แต่ผมคิดว่าคุณพระนายไม่ได้หมายความอย่างนั้นว่าให้หันมาพัฒนาประเทศทางเศรษฐกิจ

ผมเข้าใจนัยยะ หรือประเด็นของคุณพระนายว่าทำไมคนอิรักไม่ทำอะไรให้มันดีขึ้น เมื่อปัญหาอยู่ที่ไหนก็แก้ปัญหาเสีย เหมือนอย่างที่คนยูโกฯ ทำกับพ่อสโลโบดาน ก็ทำอย่างนั้นมั่งกับซัดดัมสิ ใช่ไหมครับ

มันยากอยู่นะครับคุณพระนาย ผมว่าตะวันตกคงเคยนึก (ฝัน...) เหมือนกันว่า อิรักแพ้สงครามแล้วพลังประชาชนอิรักจะลุกฮือขึ้นทำลายล้างผู้นำเผด็จการ แต่เราก็เห็นแล้วว่าสิบปีผ่านไป ซัดดัมเขาก็ยังอยู่ได้ในสังคมอิรัก เขาควบคุมสถานการณ์ในบ้านเขาได้ ความ(เพ้อ) ฝันของตะวันตกตอนเสร็จศึกอิรักใหม่ๆ ก็ยังเป็นความฝันต่อไป

ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยเห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรจะใช้ได้ผล เพราะเวลาต่างประเทศคว่ำบาตรโดยมุ่งเป้าที่ผู้มีอำนาจในประเทศนั้นทีไร มันไม่กระทบผู้มีอำนาจที่ตั้งใจจะให้เป็นเป้าเท่าไหร่หรอกครับ เขาไม่เดือดร้อน ผลที่สุดใครเดือดร้อน ก็ประชาชนตาดำๆ ตาสีตาสา ยายมายายมี ตายูซุฟ ตายะโกบ ตาคิมยายปัก ชาวบ้านอิรัก ชาวบ้านเกาหลีเหนือนั่นแหละ ซึ่งน่าสงสาร เสร็จแล้วพวกฝรั่งที่คว่ำบาตรเขาก็กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวบ้านไปอีก เขายิ่งผูกพันตัวเองกับระบบปกครองร่วมใจกันฟันสู้ฝรั่งอันธพาล ตามที่เขามอง เข้าไปใหญ่ ที่จะไปหวังให้เขาลุกฮือก่อกบฏจับซัดดัมมาแขวนคอเหมือนมุสโสลินี ก็ไม่ต้องหวังกัน

คุณ นกข ตอบได้ตรงกับที่ผมสงสัยและใกล้เคียงกับที่ผมคิด ยูโก พอผู้นำเค้าพาประเทศไปเดือดร้อน คนในประเทศก็จัดการคว่ำบาตรกำจัดเค้าออกไปทันที มุสโสลินี ก็ถูกแขวนคอไป แต่ซัดดัม ยังอยู่ในอำนาจเป็นสิบปี ผู้นำเกาหลีเหนือ ก็ยังอยู่แต่พยายามจะทำอะไรให้ดีขึ้น ก็แปลกดีที่ประชาชนในประเทศนั้น ไม่คิดจะจัดการกับคนที่ผิดในประเทศเค้า ผมยอมรับว่า อเมริกันไม่ได้ทำถูกเสมอไปทุกเรื่อง แต่ในหลายเหตุการณ์ที่เกิด อเมริกัน หรือ UN ก็ เข้าไปแก้ปัญหาที่ค่อนข้างจะดูแล้วไม่น่าเกลียด ถึงแม้จุดใหญ่มันจะอยู่ที่ผลประโยชน์เป็นหลัก ก็ตาม แต่ทุกอย่างในโลกไม่มีอะไรสมบูรณ์ครับ จีนเองนั้นก็มีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน รัสเซียเองก็ไปถล่มกบฎแคว้นเชชเนีย อยู่เรื่อย ๆ มันยากครับว่าจะตีความว่า ฝ่ายนี้ เลวโหดเหี้ยม อีกฝ่ายถูกต้อง

เพราะอิตาลีหลังสงคราม กับยูโกฯ ตอนนี้ สภาพเงื่อนไขไม่เหมือนเกาหลีเหนือและอิรักครับ กำปั้นทุบดินไปหน่อย

อย่างนี้ต้องสงสัยต่อไปอีกที่ว่าไม่เหมือน
ไม่เหมือนในด้านไหนบ้างครับ คนอิรักไม่มีทางเลือก หรือว่ายังหลงคารมซัดดัม ยังคิดว่าที่ตัวเองไปยึดคูเวตนั้นตัวเองไม่ผิด ซัดดัมเป็นผู้นำที่ดีสุดแล้ว คนที่เลว คือ อเมริกา ที่มาไล่ยิงชาวบ้านอยู่ตอนนี้ ก็คงจริง เพราะมันเห็นชัดว่า อเมริกามาทำให้เค้าเดือดร้อน อดข้าวแล้วก็มีคนมาบอมบ์ใส่อยู่นั่นแหละ

ผมมองว่า  การกระทำของกองทัพ มาจากการตัดสินของผู้มีอำนาจสั่งการในกองทัพมากกว่า   ถ้าหากนักบิน  (สหรัฐ)  กระทำการดังกล่าวจริง  หนึ่งอาจเป็นคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาหรือ ผู้อำนาจสั่งการคนอื่น ๆ   สอง ความคึกคะนองของนักบินเอง  แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรเหมารวมว่ามาจากเจตนาของคนในชาตินั้น ๆ  ทั้งหมด  จะเป็นการสร้างอคติกับชาตินิยมที่ไม่เข้าท่าซะมากกว่า

เรียนความเห็นที่ 11 ได้ว่า ก็คงเป็นคำสั่งการแหละครับ รัฐบาลอิรักถึงได้ด่าว่ารัฐบาลอเมริกันไงครับว่าสั่งการทหารอเมริกันยังงี้โหดร้าย ทำให้พลเรือนอิรักต้องตายไปด้วย

แต่รัฐบาลอเมริกันก็ไม่ใช่ประชาชนอเมริกันทั้งหมด อันนี้ผมเห็นด้วย และอยากขยายความต่อไปด้วยว่า รัฐบาลอังกฤษรวมหัวกับรัฐบาลอเมริกันไปทำอะไรน่าเกลียด ก็ไม่ได้แปลว่าคนผิวขาวหมดทั้งโลกทุกคนเลวหมด สัญชาติญาณดิบมันก็มีด้วยกันในคนทุกสีผิวน่ะแหละ ที่คนดำฆ่าคนดำด้วยกันเองอย่างป่าเถื่อนในแอฟริกา ระหว่างเผ่าฮูตูกับทุ้ตซี่ ก็ดิบเหมือนกัน และคนที่พยายามจะควบคุมสัญชาติญาณดิบของตน พยายามข่มใจ ยกใจตัวให้เป็นมนุษย์ที่เจริญแล้ว ก็มีอยู่ในทุกชาติภาษาสีผิวเหมือนกัน

นี่เป็นอีกข้อที่ผมรำคาญคุณนิติภูมิ ฝรั่งมันพยายามครอบโลกอยู่ จริง แต่เรื่องราวอะไรต่างๆ มันไม่ได้ง่ายๆ ขาวเป็นดำอย่างนั้นนะครับ โลกที่แท้จริงมันซับซ้อน ฝรั่งด้วยกันก็ไม่ได้ว่าจะต้องเป็นพวกเดียวกันสมคบกันแกล้งคนที่ไม่ใช่ฝรั่งเสมอไป ฝรั่งต่อฝรั่งทะเลาะกันก็มี คนโลกที่สามด้วยกันทะเลาะกันเองโดยไม่ได้เกี่ยวไปถึงฝรั่งก็มี

อ่านดูความเห็นของท่านต่างๆแล้วก็ได้แง่คิดขึ้นมาอีกมากมาย ว่าเราไม่ควรมองอะไรเพียงแง่เดียว

มาลงชื่อยอมรับซื่อๆ ว่าผมก็เป็นแฟนคอลัมน์ของคุณนิติภูมิเหมือนกัน
แม้ว่าพักหลังไม่ค่อยได้ติดตามอ่านเท่าไหร่นัก ผมเห็นด้วยกับคุณ นกข. ว่าบางที (อาจจะทุกที)
คุณนิติภูมิแกจะแอนตี้อเมริกามากไปหน่อย จนบางครั้งผมอ่านแล้วก็รู้สึกไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก
แต่ผมก็ยังชอบอยู่ .... แหะๆๆๆๆ

ส่วนตัวแล้วผมว่าสื่อมวลชนไม่ว่าชาติใหนๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้น จะหาที่รายงานซื่อตรงไม่บิดเบือน
ไม่มีอคติคงจะไม่มี  หนังสือพิมพ์จะไห้เป็นหนังสือเรียนก็คงจะไม่ได้
ยิ่งสื่อมวลชนของฝรั่งด้วยนะครับ...อย่าให้บรรยายเลย เป็นประเภทที่ว่า
ความชั่วตัวเองซุกเอาไว้ใต้พรม ขุดความไม่ดีของประเทศอื่นมาวิจารณ์กันสนุกปาก
( โดยเฉพาะของอังกฤษ ขึ้นชื่อมากเรื่องหาจรรยาบรรณไม่ค่อยจะได้ )
เห็นพวกสำนักข่าวของอเมริกัน อังกฤษ ลงข่าวขุดแต่ของแย่ๆ ของชาติอื่นแล้ว
ผมว่ามีคนขุดของแย่ๆ ของฝรั่งมาให้ดูบ้างก็ดีเหมือนกัน

แต่ก็เห็นด้วยกับหลายๆ ท่านที่กล่าวมาแล้วครับว่าควรจะอ่านแล้วเปรียบเทียบ
ข้อมูลหลายๆ ฝ่าย ฝรั่งดีก็มีฝรั่งชั่วก็มี เหมือนกับคนไทยนะแหล่ะมีทั้งดีทั้งเลวคละกันไป
ควรจะรู้ทั้งเรื่องที่เขาดี และ เรื่องที่เขาเลว จะได้รู้ว่าเราควรจะทำอย่างไร

แล้วมีใครเคยเป็นแฟนคอลัมน์ของคุณแสงชัย
สุนทรวัฒน์ บ้างคะเค้าเคยเป็นนักเขียนคอลัมน์
ใต้ฟ้าเดียวกันและที่เดียวกันตรงที่คุณนิติภูมิเขียนปัจจุบันนี้แต่เสียดายที่เค้าเสียชีวิตเร็วไปหน่อย

ดิฉันเป็นแฟนคอลัมน์คุณแสงชัย    ชอบความรู้เกี่ยวกับอเมริกา และภาษาที่เขาใช้
คุณแสงชัยเป็นคนเขียนแบบให้เหตุผลประกอบความคิดเห็น  มีตัวอย่างให้เข้าใจ ไม่กล่าวลอยๆ
เหมือนฟังผู้ใหญ่ฉลาดๆและคุยสนุกมาเล่าเรื่อง  ให้เราเห็นมุมมองกว้างขึ้น ได้ความรู้เพิ่มด้วย
ส่วนคุณนิติภูมิ   ดิฉันอ่านแต่ไม่นิยม   รู้สึกว่าสำนวนเธอใส่อารมณ์มากไปหน่อย   และโน้มน้าวคนอ่านให้เกิดอารมณ์ไปด้วย มากกว่าจะให้คนอ่านคิดเอง
สำนวนแบบนี้ ถ้าย้อนไป ๓๐ ปีก่อน อาจจะถูกเรียกว่าสำนวนปลุกระดมก็ได้ค่ะ

ผมเป็นลูกศิษย์เมืองอเมริกา แต่ผมไม่ได้ชอบการทูตของรัฐบาลอเมริกันเท่าไหร่นัก หลายเรื่องที่อเมริกาทำน่าเกลียดมาก ที่เห็นชัดก็เรื่องอนุสัญญาเกียวโตว่าด้วยภูมิอากาศของโลก ที่อเมริกาเซ็นแล้วก็เบี้ยวเสียเฉยๆ

มีข่าวน่าสะใจอันหนึ่งมาเล่าครับ สหรัฐฯ เป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชของสหประชาชาติมาตั้งแต่ตั้งคณะกรรมการนี้เมื่อปี 1947 ปัจจุบันมีสมาชิกในคณะกรรมการนี้ 53 ประเทศ
ประเทศอื่นเขาได้รับเลือกหมุนเวียนผลัดกันเข้ามาวาระละ 3 ปี (ไทยเราก็เพิ่งแสดงความสนใจและได้เข้ามานั่งในนี้ปีนี้เป็นปีแรก) แต่ทุกประเทศทั้งที่นั่งเป็นกรรมการและไม่ได้เป็น สามารถเข้ามารับรู้การทำงานของคณะกรรมการนี้ได้อยู่แล้ว มีอีก 2 ประเทศที่อยู่กับกรรมการนี้มาตั้งแต่ต้น คือรัสเซียกับอินเดีย
 
ปีนี้เป็นปีแรกตั้งแต่ 1947 ที่ เพิ่งมีข่าวออกมาว่า สหรัฐไม่ได้รับเลือกให้อยู่ในกรรมการนี้อีกต่อไปครับ หลุดรอบนี้ ถูกเชิญออกครับ หลายๆ ประเทศแม้แต่เพื่อนของอเมริกัน เขาเหลืออดเหลือทนกับการที่สหรัฐฯ ดึงเรื่องสิทธิมนุษยชนมาใช้เป็นเครื่องมือแกล้งคนอื่นในทางการเมืองเต็มที

... สะใจครับผม

นสพ. International Herald Tribune บอกว่าเป็นการตบหน้าสหรัฐฉาดใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐชอบตั้งตัวเป็นครูใหญ่คอยตรวจสอบสิทธิมนุษยชนของคนอื่นทั่วโลก (แต่ตัวเองก็ไม่ได้กวาดบ้านตัวเองเท่าไหร่หรอก- อันนี้ผมว่าเอง)

อย่างนี้ผมเรียกว่า double standard ครับ ตัวอยากให้คนอื่นเขาทำอะไร ตัวเองก็ต้องทำอย่างนั้นด้วย ไม่ใช่ใช้มาตรฐานสองอย่าง กับคนอื่นอันหนึ่ง ทีกับตัวเองอีกอันหนึ่ง ซึ่งสหรัฐชอบเป็นในหลายเรื่องไม่เฉพาะแต่เรื่องสิทธิมนุษยชนหรอก จนผมเคยเล่าโจ๊กให้เพื่อนต่างชาติที่นี่ฟังว่า ยูรู้ไหม ในเอเชียเรามีสินค้าอย่างหนึ่งยี่ห้อ American Standard รู้ไหมว่าผลิตภัณฑ์อะไร
- หัวส้วมครับ นั่นแหละมาตรฐานอเมริกันละ..

อีก 3 ปีทำตัวดีๆ เลิกกร่างแล้ว ค่อยมาว่ากันใหม่นะลุงแซมนะ

ลิตเติลชอบอ่านมากค่ะคอลัมน์ของคุณแสงชัย
อ่านแล้วได้ความรู้หลายอย่างโดยเฉพาะเกี่ยวกับอเมริกา แต่ทำไมมีหลายคนไม่ค่อยจะชอบอเมริกาล่ะคะ เพราะว่าเค้าชอบทำตัวเป็นตำรวจโลกรึเปล่าคะ

รัฐบาลอเมริกาทำตัวน่าเกลียดหลายอย่างครับ ลิตเติ้ลซันลองถามคุณนิติภูมิดูก็ได้ - แฮ่ะๆ อดแซวไม่ได้...

ผมเรียนอีกหนว่า ผมไม่ได้ว่าอะไรเลยนะครับที่คุณนิติภูมิแอนตี้อเมริกา (เหมือนท่านถนัด คอมันตร์ ซึ่งเมื่อหนุ่มๆ ท่านสนิทจี๋จ๋ากับอเมริกาเหลือเกิน แก่ตัวลงแล้วโกรธอเมริกาจนไม่มองหน้า-) เพราะอเมริกามีบางเวลาที่ทำตัวน่าเกลียดจริงๆ แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบคือคุณนิติภูมิ "แอนตี้ไทย"  คนอื่น ถ้าคิดไม่ตรงกับเขาแล้วก็จะถูกหาว่าเป็นลูกสมุนตะวันตก คำไทยเดิมว่า ยกตนข่มท่านครับ

อย่างวันนี้ คุณจ้อเล่าว่าคุณนิติภูมิเล่าเรื่องประวัติความสัมพันธ์อิรักอิหร่าน - อิรักคูเวต ในบทความแก ผมก็ไปตามอ่าน ปรากกฏว่า ก็จะเล่าก็เล่าไปสิ แต่แกจะต้องแขวะเอาเสียหน่อยก่อนว่า "ที่จะเล่านี้ ก็ไม่ทราบว่าจะตรงกับที่สอนๆ กันในมหาวิทยาลัยตามที่ฝ่ายตะวันตกเขาสอนหรือเปล่านะครับ..."  ทำนองนั้น พอดีคนที่เขาจะรักแกได้ก็เลยเลิกรักกัน หมั่นไส้แกแทน แล้วเท่าที่ตามอ่านของแกมานานหลายปี แกก็เขียนรวนๆ ยังงี้ของแกมาหลายปีแล้วนะครับ

ผมเลยออกจะไม่แปลกใจ ว่า ทำไมคนที่ชื่นชมคุณนิติภูมิบางคน จึงมีมารยาทเป็นไปได้เช่นนั้น คงได้แบบมาหรืออย่างไรไม่รู้...

เอ - เลี้ยวอีกแล้ว...

สิ่งที่อเมริกาทำและทำให้ถูกด่าเอาเรื่อย อย่างหนึ่ง คือการที่แกชอบปฏิบัติ unilateralism ไม่แคร์ multilateralism แปลว่าชอบทำอะไรตามใจแกฝ่ายเดียว ไม่สนใจโลก ไม่แคร์คนอื่น ไม่เห็นหัวระเบียบหรือกลไกต่างๆ ทางพหุภาคีหรือทางสากล

ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบ ถ้าวันหลังสงสัยจะมาถามอีกนะคะ
      จริงๆแล้วสนใจเรื่องยิวด้วยค่ะ

เคยอ่านการ์ตูนเรื่องหนึ่ง
CHINMOKU NO KANTAI (silence service เรื่องที่เกี่ยวกับ เรือดํานํ้าปรมณู)
มีคําพูดในเรื่องนั้นตอนหนึ่งที่ผมเห็นว่าอธิบายอเมริกาได้ชัดเจนมากคือ
ประธานาธิบดีอเมริกาทําทุกอย่างเพื่ออเมริกา

ในเรื่องการคว่ำบาตรอิรักนั้นมีข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติรองรับอยู่ ตอนนั้นสหรัฐเป็นพี่เบิ้มในคณะมนตรีความมั่นคงฯ ทำให้พี่เบิ้มรายอื่นๆ ไม่ค่อยอยากขัด อีกอย่างก็คงเห็นด้วยส่าอิรักก็เกินไปต้องตีมือเสียบ้าง ก็จึงออกมาเป็นข้อมติได้ ยังมีผลบังคับอยู่

แต่ข้อมตินี้เป็นข้อมติคณะมนตรีความมั่นคง สมาชิก 15 ชาติ ในนั้นมีสมาชิกถาวร 5 ชาติ ซึ่งรวมทั้งรัสเซียและจีนด้วย รัสเซียของคุณนิติภูมินั่นแหละครับ รับรองร่วมกัน ดังนั้นจะว่าสหประชาชาติเป็นหุ่นเชิดของสหรัฐฯ คนเดียว(คุณนิติภูมิพยายามจะเก๋ โดยใช้คำเรียกว่า United Nations of America ฮั่นแน่...) 100% ก็อาจจะเป็นการมองภาพที่ง่ายๆ เกินไปหน่อย

นอกจากนั้น สหประชาชาติก็ทะเลาะกับสหรัฐฯ อยู่เรื่อยๆ ถ้าคุณนิติภูมิมองว่าสหประชาชาติเป็นลูกไล่ เป็นเด็กในคาถาสหรัฐฯ ตามก้นสหรัฐฯตลอดแล้ว คนสหรัฐฯ จำนวนมากทีเดียวไม่ได้เห็นอย่างนั้น กลับมองว่าสหประชาชาติเป็นตัวน่ารำคาญที่ไม่ยอมตามใจลุงแซมมากพอมากกว่า ทะเลาะกันหลายเรื่องครับจนสหรัฐฯ จะไม่ยอมให้เงินชำระหนี้ค่าบำรุงของสหรัฐฯ แน่ะ ซึ่งถ้าเป็น United Nations of America จริงแล้ว ป่านนี้สหรัฐฯ คงโอ๋บำรุงองค์การนี้เป็นอย่างดีไปแล้ว จะได้เอาไว้เป็นเครื่องมือแกล้งคนอื่นได้ต่อไป นี่ก็ไม่ใช่ มันมีอะไรสลับซับซ้อนกว่านั้น

แม้เมื่อเร็วๆ นี้เองที่สหรัฐฯ ถูกตะเพิดออกมาจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และไม่ได้รับเลือกเข้าไปนั่งในคณะกรรมการปราบปัญหายาเสพติดของสหประชาชาติ ก็แสดงอยู่แล้วว่า UN ไม่ใช่ UNA และไม่ใช่ลูกไล่ USA เสมอไปด้วย
 
คงเป็นไปได้ว่าตอนเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นคุณนิติภูมิยังท่องเที่ยวอยู่ในลุ่มน้ำไทกริส ยังไม่ทันได้อ่านข่าวหรือดูทีวีครับ (ผมว่าทีวีอิรักก็ต้องมีข่าวนี้ แต่อาจจะเป็นภาษาอารบิก เผลอๆ อิรักจะฉลองการที่สหรัฐฯ ถูกตบหน้าใน UN ไปแล้วด้วยก็ได้)