ผมมีความรู้สึกที่แย่มากๆกับการตอบสนองต่อเหตุการณ์ของสถาบัน หน่วยงานวิชาการ องค์กรทางวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเหตุการณ์ที่ไม่ปรกติ และสื่อต่างๆ ทั้งในเชิงของ action, knowledge, mitigation, preparedness, response, salvation ฯลฯ เห็นแต่แห่กันไปดู ไปดูใ้ห้เห็นเป็นขวัญตา ถ่ายภาพเอามาเผยแพร่ วุ่นอยู่กับตัวเลขและจำนวนอะไรต่อมิอะไรต่างๆ เป็นเรื่องของ materials ทั้งนั้น ไม่เห็นมีด้าน human touch บ้างเลย น่าสงสารชาวบ้านที่มีผู้รู้ต่างแห่กันไปดู ไปพบ ไปสอบถาม แต่ชาวบ้านก็ยังคงไม่รู้ว่าแล้วจะกลับเข้าไปนอนในบ้านได้หรือยัง ความเสียหายลักษณะใดอันตราย แบบใดไม่อันตราย แบบใดต้องซ่อมอย่างไร....ฯลฯ
แล้วแผ่นดินไหวมันก็ยังไม่หยุด ไม่เห็นมีใครว่าอะไรต่อไป ไม่มีแม้กระทั่งจะบอกว่าควรจะชะลอการซ่อมส่วนใหน ควรจะซ่อมเพื่อประทังส่วนใหนก่อน เห็นมีแต่รีบขอให้แจ้งความเสียหายโดยเร็ว เพื่อจะได้จัดเงิน จัดของมาให้ซ่อม ก็มารวดเร็วดีเหมือนกัน แต่ปัญหามันไปอยู่ที่ว่า มันถูกเขย่าทุกวันๆละหลายครั้ง สิ่งก่อสร้างทั้งหลายมันก็ทนไม่ไหว คลอนกันทั้งนั้นแหละ ช่วงแรกๆก็อาจจะยังดูแข็งแรงดี เขย่าไปทุกวันที่ว่าดูไม่มีปัญหาหรือมีอยู่นิดเดียว มันก็ขยายออกไป ไอ้ที่ซ่อมแล้วแต่แรกจะอยู่หรือจะไปอีกก็ไม่รู้
อึมม์...ทุกการกระทำของมนุษย์ล้วนมีฐานมาจากความไม่รู้ ลองผิดลองถูก จนกระทั่งได้มาซึ่งองค์ความรู้ ซึ่งก็ไม่จำเป็นด้วยว่าจะต้องจริงแท้แน่นอน ถ้าไม่ใช่ ก็ลองผิดลองถูกกันต่อ
ขออภัยที่บ่นมากไปหน่อยครับ
ท่านคุณตั้ง คงได้บ่นอีกนาน
อย่างน้อยผมก็ได้ทำหน้าที่อันพึงทำตามอาชีพและความรู้ที่มี ช่วยชาวบ้านในเชิงของ human touch ทำให้คนในหมู่บ้านของพื้นที่ๆผมอยู่ กลับเข้าบ้าน รู้สึกสบายใจ เข้าใจอะไรในบางเรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างบ้านแปงเฮือน สามารถดูความเสียหายที่เป็นอันตรายได้ และพร้อมที่จะผจญเหตุการณ์และอยู่กับมัน
อนุโมทนาสาธุด้วยครับ
อะไรก็ไม่สำคัญเท่าใจ คนเรานั้นถ้าใจไม่เสีย ชีวิตก็เริ่มต้นต่อได้ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เราอยู่ร่วมกับมันไป
สัจธรรมนี้ผมทราบว่าท่านคุณตั้งตระหนักดีอยู่ อะไรที่ร้ายๆกว่านี้ ท่านก็ผ่านมากับใจตนเองแล้ว