ก่อนจะไปต่อ อาจจะต้องแจงให้ชัดก่อนว่าเราคุยกันเรื่องอะไรกันอยู่นะครับ
ประเด็นแรก ประเด็นการใช้ประวัติศาสตร์เพื่อรับใช้การเดินเกมทางการเมืองในปัจจุบันของคนบางกลุ่ม เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม เรื่องราวจะสั้นอย่างที่ได้ปรากฏอยู่ในตอนต้นของกระทู้นี้ ซึ่งผมถือว่าน่าจะจบไปแล้วครับ เพราะเป็นการบอกเล่ากันอย่างล่องลอยมาก
ประเด็นที่สอง ที่เราคุยกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากไม่นับแนวโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองอย่างในประเด็นแรกแล้ว ผมเห็นว่าแนวคิดจากงานศึกษาของอ.นิธิเป็นแนวคิดที่โดดเด่นและแพร่หลายอยู่ในขณะนี้ ผมขอถือว่าคุณเพ็ญชมพูกำลังสวมบทบาท defend แนวคิดของอ.นิธิเพื่อให้เราวิพากษ์กันอยู่นะครับ
เรื่องใบปลิวหรือหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ก็คงจะต้องละมุมมองอย่างคนปัจจุบันลงเช่นกัน ในสมัยนั้นการโฆษณาโดยคำพูด คำบอกเล่าน่าจะได้ผลที่สุด
ข้อนี้ฟังดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ เรื่องไหนเป็นเรื่องที่เป็นความคิดเห็นจากประสบการณ์ตรงของผู้บันทึก โดยเฉพาะบาทหลวงฝรั่งเศสที่บอกเล่าเรื่องราวจากการที่ได้สนทนากับพระเจ้าตากโดยตรง ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่ออย่างแน่นอน
ผมจึงเห็นว่า การระบุว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ ข้อสนับสนุนเป็นเรื่อง speculation ล้วนๆ ในขณะที่ข้อแย้งนั้นเป็นหลักเป็นฐานให้เห็นครับ